ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    coincident love เพราะรักไม่ใช่เรื่องบังเอิญ [snsd sj]

    ลำดับตอนที่ #5 : Coincident 4 : วุ่นวาย (100% แล้วค่ะ ^^)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 418
      3
      5 ก.ค. 55

    Coincident 4
    วุ่นวาย
          ขณะนี้ เจสสิก้ากำลังนั่งอยู่บนรถของซีวอนที่เร่งความเร็วเกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อที่จะรีบตรงไปไร่ แต่เนื่องจากความเร็วที่เร็วจนเกินไปทำให้เจสสิก้าได้แต่มองทางข้างหน้าไม่ขยับไปไหน และเพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงหน้าไร่ซึ่งเขียนเป็นตัวหนังสือตัวใหญ่ๆว่า 'Kim farm' เมื่อเจสสิก้ารู้ถึงเวลาที่จะต้องลงจากรถแล้ว เธอจึงถือเอกสารของซีวอนแต่โดนมือของซีวอนปัดกลับออกไปก่อน

    "อย่ามาแตะต้องเอกสารของฉัน ถ้าฉันไม่สั่งอะไรห้ามแตะเด็ดขาด!!!" ซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและเปิดประตูรถ แต่เมื่อเห็นเจสสิก้านั่งนิ่งอยู่ ทำให้ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสียอีกครั้ง

    "จะลงมามั้ย ถ้าไม่ลงฉันจะได้ขังเธอไว้ในรถ" เจสสิก้าเห็นวาจาที่ประชดประชันของชายหนุ่มทำให้เธอรีบก้าวออกมาจากรถและบ่นกับตัวเองในใจทันที

    //คนอะไร เรื่องมากจัง ฉันคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่จับได้หมอนี่//

    เมื่อทั้งสองเดินตามทางไร่มาเรื่อยๆก็มีคนยกมือขึ้นไหว้ซีวอนและไม่วายที่จะไหว้หญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขาด้วย เจสสิก้าที่เห็นท่าทางแบบนั้นจึงได้แต่ส่งยิ้มและก้มหัวลงเบาๆ แต่แล้วก็มีคนงานในไร่คนหนึ่งวิ่งมาหาซีวอนและบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

    "คุณซีวอนครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ  คนงานในไรของเราท้องเสียแล้วก็ไข้ขึ้นอย่างหนักเลยครับ" แต่ก่อนที่ซีวอนจะได้เอ่ยปากแก้ปัญหากลับมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาก่อนทันที

    "พาฉันไปดูหน่อยค่ะ ฉันเป็นหมอ"

            เมื่อมาถึงที่หมายเจสสิก้าก็จัดแจงตรวจร่างกายของคนไข้อย่างทะมัดทะแมงซึ่งสร้างความแปลกใจให้แกซีวอนไม่น้อยเลยทีเดียว

    //สรุปเธอคือใครกันแน่ เจสสิก้าจอง//

    เมื่อตรวจร่างกายเสร็จเจสสิก้าจึงหันไปจัดยาและเดินมาบอกซีวอนถึงอาการของคนงานในไร่ทันที

    "แค่อาหารเป็นพิษน่ะค่ะ ไม่มีอะไรร้ายแรงให้พักผ่อนมากๆแล้วก็ทานเกลือแร่และยาให้เป็นเวลาด้วยแค่นั้น" เจสสิก้าว่าและยิ้มให้กับซีวอนเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามเรื่องราวสุขภาพของคนในไร่ทุกคนพร้อมยิ้มและหัวเราะไปพร้อมๆกัน

    //มีเสน่ห์ น่ารัก//

    ซีวอนสะบัดไล่ความคิดอันน่ารังเกียจออกจากหัวของเขาในทันที เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันที่เขารู้สึกดีกับเจสสิก้าทั้งๆที่เพิ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาและเธอไม่เคยพบเคยเจอกันเลยด้วยซ้ำ อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญมากกว่ามั้งที่ทำให้ชายหนุ่มคิดเช่นนี้

    "นี่เธอน่ะ ไปกับฉันได้แล้วฉันต้องเข้าไปดูงานในไร่ไอฮันมัน ไปสายเดี๋ยวมันจะด่า น่าเบื่อ" ซีวอนเอ่ยกับเจสสิก้าขณะที่เห็นว่าหญิงสาวนั่งคุยกับคนงานในไร่มากเกินไป

    "ค่ะๆ ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะทุกคน" เจสสิก้าเอ่ยลาทุกคนและโบกมือแสดงความเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย ทำให้ซีวอนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

    "ชักช้าเร็วๆเข้าสิ" ชายหนุ่มพูดขึ้นทำให้เจสสิก้าได้กลับมาทำหน้าฉบับเจ้าหญิงน้ำแข็งเช่นเดิม

    เมื่อมาถึงหน้าออฟฟิศในไร่องุ่นของตระกูลฮัน เจสสิก้าพบกับฮันคยองเจ้าของไร่องุ่นแห่งนี้และยูริเพื่อนตัวแสบของเธอที่ได้แต่เดินตามฮันคยองและถือเอกสารกองสูงเกือบมิดหัวพลางทำหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจขั้นรุนแรง

    "เฮ้ย ไอวอน ผู้หญิงคนนั้นน่ะใครว่ะ?" ฮันคยองถามเพื่อนรักของเขาทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของตนหอบหิ้วผู้หญิงที่เหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้ในเทพนิยายตามมาด้วย

    "ก็แค่คนใบ้พูดจาไม่รู้เรื่องแค่นั้นแหละไอฮัน สนใจรึไง" ซีวอนตอบอย่างไม่รู้ร้อน ทำให้เจสสิก้าถึงกับหน้าแดงด้วยความโมโห เธอไม่ใช่คนใบ้นะเรื่องอะไรเขาถึงได้มาพูดกับเธอแบบนี้ล่ะ!

    "ฉันชื่อ เจสสิก้าค่ะ เจสสิก้าจอง ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะคุณฮันคยอง" เจสสิก้าพูดแนะนำตัวให้ฮันคยองทราบพร้อมส่งยิ้มหวานให้ฮันคยองทันที ทำให้ชายหนุ่มยิ้มตอบรับกลับมาเช่นกัน เมื่อซีวอนเห็นเช่นนั้นอาหารหงุดหงิดใจเหมือนกับตอนที่เธอยิ้มให้กับคนงานก็แล่นเข้ามาเหมือนภาพฉายซ้ำ ทำให้เขากระชากแขนเจสสิก้าออกจากออฟฟิศและตรงไปยังรถเพื่อที่จะกลับเข้าบ้านโดยไม่ลืมที่จะหันไปถามหญิงสาวที่เขากระชากมาด้วย โดยที่หญิงสาวหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดที่แรงมือจากการกระทำของเขา

    "สรุปแล้วเธอคือใครกันแน่ เจสสิก้าจอง!!!"

          เวลานี้ยุนอานั่งกระฟัดกระเฟียดอารมณ์เสียเพราะฟังเรื่องที่แทยอนและซอฮยอนเล่าให้ฟังแล้วอยากที่จะชกหน้าของคิมคอบอมให้สาแก่ใจเสียเหลือเกิน แต่ก็โดนแทยอนทักท้วงก่อนเพราะเธอหวังดีกับบริษัทของเธอมากกว่าและเธอก็ยอมรับข้อตกลงของคิบอมไปเรียบร้อยแล้ว

    "แท แทน่าจะชกหน้านายคิบอมสักสองสามหมัดนะแล้วลงไปกระทืบซ้ำเลย เอาให้มันตายไปเลยยิ่งดี!" ยุนอากล่าวอย่างอารมณ์เสียและหันไปบอกแทยอนที่ตอนนี้หัวเราะออกมาเพราะเธอคิดสภาพของคิบอมตอนนั้นไม่ออกเลยจริงๆ

    "แล้วนี่งานแต่งของแทจะจัดขึ้นเมื่อไหร่งั้นหรอ" 

    "อาทิตย์หน้านะยุน น้องซอก็จะแต่งอาทิตย์หน้า" แทยอนพูดและหันไปมองหน้าของน้องสาวที่ตอนนี้ทำหน้ามุ่ยลงเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าน้องสาวของเธอคงจะรับมือกับคยูฮยอนไม่ไหวแน่

    "ซอไม่ได้แต่งนะค่ะพี่ยุน พี่แทมั่วแล้วค่ะ" ซอฮยอนหันไปบอกกับยุนอาก่อนจะทำปากจู๋ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรกิน

    "เอ่อ ยุน ยุนช่วยไปคุยกับบริษัทส่งออกเสื้อผ้าแทนแทได้ไหม คือแท..." ยุนอาพยักหน้ารับทันทีเพราะรู้ว่าแทยอนเครียดจากการตัดสินใจที่จะแต่งงานกับคิบอมเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงทันที

    "ได้เลยจ้ะแท ที่ไหน และเมื่อไหร่ล่ะ" ยุนอาพูดและยิ้มรับก่อนที่แทยอนจะยิ้มตอบกลับเช่นกัน เธอดีใจที่มีคนที่เข้าใจเธอได้มากอย่างเพื่อนทั้ง 4 คน และน้องสาวสุดที่รักอย่างซอฮยอน

    ตอนนี้ยุนอาอยู่หน้าบริษัทส่งออกเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่างบริษัทลีอินเตอร์เนชั่น ยุนอายิ้มให้ตัวเองอย่างมั่นใจก่อนจะพึมพำในใจกับตัวเอง

    //เหม่งยุน ไฟท์ติ้ง!~//

    เมื่อมาถึงประชาสัมพันธ์ยุนอาก็จัดแจงไปแจ้งประชาสัมพันธ์ทันทีและเธอก็ขึ้นไปพบกับประธานของบริษัทลีที่รอเธออยู่ชั้นบนสุดของบริษัทแล้ว เมื่อเธอขึ้นมาชั้นบนสุดก็เห็นว่ามีเพียงห้องๆเดียวเท่านั้น ไม่มีแม้แต่โต๊ะเลขา และข้างหน้าประตูบานใหญ่ก็สลักชื่อประธานบริษัทไว้ว่า ' ลี ดงเฮ '

    //ทำไมชื่อมันคุ้นๆหูแบบแปลกๆจัง - -//

    ยุนอาคิดในใจแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเธอจึงเคาะประตูและขานเรียกคนที่อยู่ในห้องอย่างเป็นมารยาททันที

    "ขอความกรุณาค่ะ ฉันมาจากบริษัทคิมมาคุยแทนท่านประธานน่ะค่ะ" ยุนอาพูดหน้าประตูก่อนจะได้ยินเสียงของคนข้างในตอบรับออกมา

    "อ่อ เชิญฮะ เปิดเข้ามาได้เลย ผมไม่ได้ล็อก" เสียงใสจากชายกนุ่มตอบกลับมาทำให้ยุนอาเปิดประตูเข้าไปแล้วพบกับบุคคลที่เธอไม่อยากพบมากที่สุด 'ลีดงเฮ' ผู้ชายเจ้าชู้กะล่อนเพลย์บอยที่เธอเจอที่บริษัทคิมคอเปอร์เรชั่นที่กำลังจูบกับผู้หญิงอย่างไม่อายฟ้าดินเลยแม้แต่นิด

    "โอ๊ะ สงสัยพรหมลิขิตคงดลบันดาลให้ผมได้มาเจอกับคุณแน่ๆเลยว่าไหมครับคุณคนสวย" ดงเฮพูดกับยุนอาก่อนจะยิ้มด้วยความเต็มใจ เขาไม่คิดว่าอะไรมันจะเหมาะเจาะแบบนี้ อย่างนี้'แผน'ที่เขาวางไว้ก็จะได้เสร็จเร็วขึ้นสินะ ช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน

    "ความซวยมากกว่าที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับคนเจ้าชู้ กะล่อนอย่างนาย"

    "แหมไม่พูด กลับกลอก ปลิ้นปล้อน ตอแหลให้ครบเลยล่ะครับ คุณ" ดงเฮต่อปากต่อคำกับยุนอานั่นยิ่งเพิ่มความเกลียดให้กับยุนอามากยิ่งขึ้น ซวย ซวย ซวยจริงๆเลยอิมยุนอา ทำไมเธอต้องมาเจอไอบ้านี่ด้วยก็ไม่รู้

    "ขอโทษทีนะค่ะ พอดีว่าฉันมาคุยเรื่องของบริษัทไม่มีเวลามาเล่นกับคุณ" ยุนอาพูดอย่างตัดบททำให้ดงเฮทำหน้าจ๋อยลงไปและกลับมาร่าเริงสดใสใหม่ทันที

    "แล้วคุณชื่ออะไรล่ะครับ คุณต้องบอกชื่อนะ"

    "ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณ" ใครบอกก็โง่น่ะสิ บอกไปถ้านายจำฉันได้ฉันไม่ตายรึไงกัน ยุนอาคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป

    "นี่คุณ คุณมาคุยธุรกิจกับผมนะ ถ้าผมไม่รู้จักคนที่ทำธุรกิจด้วยก็เหมือนกับคุณคิดไม่ซื่อกับบริษัทผมน่ะสิ" ดงเฮว่าด้วยเหตุผล ถ้าไม่ได้เชิงตรงก็ต้องเอาเชิงอ้อมเนี่ยแหละ ไม่มีอะไรที่ลีดงเฮคนนี้ทำไม่ได้หรอกนะ

    "ฉันชื่ออิมยุนอา เริ่มคุยกันได้แล้ว" ยุนอาตอบดงเฮด้วยสีหน้าไม่พอใจและคิดว่าคุยให้มันจบๆเลยจะดีกว่า เธอจึงเริ่มเข้าเรื่องธุรกิจแต่ดงเฮก็มักจะถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทสนทนาเลยแม้แต่น้อย ทำให้ยุนอาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และกว่าจะคุยธุรกิจกันเสร็จ ยุนอาก็รีบขอตัวลาดงเฮและลงลิฟต์มาชั้นล่างทันที แต่เมื่อถึงชั้นล่างดงเฮกลับวิ่งมาจับแขนยุนอาไว้ก่อน

    "กลับบ้านยังไงให้ผมไปส่งไหม" ดงเฮพูดก่อนจะยิ้มออกมา แต่สายตาของยุนอากลับมองมาที่มือของเขาที่จับแขนของหญิงสาวอยู่ทำให้เขารีบปล่อยมือออกจากยุนอาทันที

    "ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมที่จะจำทางกลับบ้านตัวเองไม่ได้ ขอบใจสำหรับความหวังดี!" ยุนอาพูดเสียงกระแทกกระทั้นก่อนจะเดินหันหลังให้ดงเฮและออกจากบริษัทลีไปอย่างรวดเร็ว

    //ไม่ว่ายังไง เธอก็หนีฉันไม่พ้นหรอกนะอิมยุนอา เพราะเธอคือเหยื่อของฉัน!//

          ทางด้านของยูริที่ตอนนี้เดินตามฮันคยองต้อยๆ ตั้งแต่เช้ามาเธอยังไม่ได้หาอะไรลงกระเพาะเลย ผิดกับคนอื่นที่ตอนนี้นั่งกินข้าวกันอย่างสบายใจแต่เธอกลับต้องมานั่งเคลียร์บัญชีบ้าบอคอแตกที่มีแต่ตัวเลขอะไรไม่รู้เต็มหัวไปหมด ถึงเธอจะจบบริหารมาแต่ก็ใช่ว่าเธอต้องเก่งเลขนี่!

    "โอ๊ย หิวๆๆๆๆๆ เมื่อไหร่ฉันจะทำงานเสร็จเนี่ย" ยูริตะโกนออกมาดังๆแต่เสียงเจ้ากรรมดังเกินไปจึงเล็ดลอดออกไปนอกห้องทำให้ฮันคยองเดินเข้ามาหาเธอ

    "ทำงานให้เสร็จ เคลียร์ตารางงานพรุ่งนี้ให้ฉันด้วย ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าเธอจะได้กลับบ้าน" ฮันคยองพูดจบก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของยูริและตรงไปกินข้าวที่โต๊ะทันที แต่ยูริก็ตะโกนให้หลังก่อนที่ฮันคยองจะปิดประตูสนิท

    "ไอเจ้านายเผด็จการ ฉันขอให้ข้าวติดคอนายตาย!!!" ยูริได้แต่ถอนหายใจกับงานของตัวเองก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อไป เมื่อยูริเคลียร์งานเสร็จเธอจึงบิดตัวสองสามทีและหันไปมองนาฬิกาสายตาก็เหลือบไปเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว เธอต้องกลับบ้าน เธอจึงเอางานที่เคลียร์ได้ไปไว้ที่ห้องของฮันคยองที่ตอนนี้ชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ที่ห้องของตนเอง

    "อ่ะ เอาไป ฉันทำให้เสร็จแล้ว แล้วนี่ก็ตารางงานของพรุ่งนี้ ฉันขอตัวไปก่อนนะค่ะคุณเจ้านาย โชคดี!" ยูริพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เพราะเกิดจากอารมณ์ง่วงนอนผสมโรงกับความหิว 

    "อื้ม เธอกลับไปได้แล้วล่ะ หมดหน้าที่แล้วเชิญ" ยูริที่กำลังจะก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องแต่แล้วความเหนื่อยอ่อนเกินที่ร่างกายจะรับได้ทำให้หญิงสาวเกิดอาการมึนหัวและยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่ความมึนออกจากสมองนั่นเอง

    "ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ เธออยากกลับบ้านมากไม่ใช่หรือไง" ฮันคยองพูดพร้อมกับก้มดูเอกสารแต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ ทำให้เขาละสายตาจากเอกสารและเห็นร่างของยูริที่นอนสลบอยู่ที่พื้นห้องทำงานของเขา

    "เฮ้ย" ชายหนุ่มร้องออกมาเสียงดังก่อนจะเข้าไปประคองยูริและจับหน้าผากของเธอก็พบว่ายูริตัวร้อนมาก เขาจึงอุ้มเธอไปยังบ้านพักที่อยู่ใกล้กับบริษัทของเขา เมื่อถึงบ้านพัก ฮันคยองถีบประตูออกไปอย่างไม่สนใจและพายูริเข้าไปพักที่เตียงทันที หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เข้าไปในห้องน้ำและเดินออกมาพร้อมกับอ่างน้ำและผ้าเช็ดหน้า ชายหนุ่มค่อยๆบรรจงเช็ดตัวให้กับยูริและมองหน้าของเธอไปด้วย

    //เธออยู่นิ่งๆก็น่ารักไปอีกแบบนะยัยลิง//

    แต่แล้วฮันคยองก็สะบัดความคิดนี้ออกจากหัว และมองหน้ายูริอีกครั้ง เขาไม่น่าคิดแบบนั้นเลยจริงๆ ยัยลิงก็ต้องเป็นยัยลิงอยู่วันยันค่ำ ไม่มีทางน่ารักได้หรอกน่า ไอฮัน แกเกิดบ้าอะไรขึ้นมาว่ะ

    "เฮ้อ ทำไมฉันต้องมาดูแลผู้หญิงแบบเธอด้วยเนี่ยยูริ" ฮันคยองพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะจัดเก็บอุปกรณ์ที่ใช้เช็ดตัวให้กับยูริพร้อมทั้งตัวเองที่ออกมาในสภาพชุดนอนสบายๆ ก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มและล้มตัวนอนลงข้างๆยูริ

          แสงแดดในยามเช้าปลุกให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงปรับม่านตาให้เข้ากับแสงแดด เมื่อปรับได้แล้วหญิงสาวก็มองไปรอบๆห้องก็พบเพียงว่าห้องนี้เป็นห้องสีโทนเทา-ขาวสะอาดตา ไม่ใช่โทนสีขาว-ฟ้าของเธอ และเมื่อหญิงสาวรู้สึกถึงความหนักอึ้งที่แขนทำให้เธอหันไปมองคนที่เอาแขนมากอดเอวของเธอเอาไว้ และพบว่าคนๆนั้นคือ ' ไอเจ้านายจอมเด็จการ ' นั่นเอง สิ้นความคิดยูริก็ร้องออกมาดังๆทันที

    "ไอเจ้านายบ้า ออกไปเลยนะออกไป นายมากอดฉันอย่างงี้ได้ยังไงเนี่ย ไอสารเลว" ยูริฟาดฝ่ามือลงบนตัวของฮันคยองทำให้ชายหนุ่มร้องโอดครวญและหันมามองคนที่ใช้ฝ่ามือเล็กๆตีเขาทันที

    "ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย อยู่ๆเธอก็สลบไปเนี่ย จะให้ฉันพาเธอกลับบ้านฉันก็ไม่รู้บ้านเธอหรอกนะ เลิกตีฉันสักที" ฮันคยองพูดจบก็ล้มตัวนอนลงทันที แต่ยูริกลับดันตัวฮันคยองขึ้นมาเพื่อที่จะคุยกันให้รู้เรื่อง 

    "นายไม่ได้ทำอะไรฉันแน่งั้นหรอ"

    "แน่สิ เธอลองยืนดูเลยนะ ถ้าเจ็บตรงหว่างขาแสดงว่าฉันกับเธอมีอะไรกันแล้ว เสร็จแล้วห้ามรบกวนฉัน ฉันจะนอน ลิงแบบเธอนี่มันวุ่นวายน่ารำคาญจริงๆ" ฮันคยองพูดจบจึงปิดผ้าห่มคลุมทันที ยูริก็ได้แต่ทดลองและผลคือเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย แสดงว่านายฮันไม่ได้ทำอะไรเรา ยูริแอบอมยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม

    //ขอบใจนะ นายฮัน ^^//

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    โอ้วเย่ๆๆ จบไปแล้วกับอีก 1 ตอน จุใจมั้ยค่ะ ^^ อ่า ตอนนี้เน้นวอนเจส ด๊องยุน แล้วก็ฮันริค่ะ วอนกับเจสคืออะไรไม่รู้ไรเตอร์ยังงงๆเองอยู่(?) 55555 ส่วนด๊องกับยุนคู่นี้ดุเดือดค่ะ ทางฮันรินี่ก็กวนประสาทกันทุกทีงานนี้ไรเตอร์ไม่รู้จะสงสารฮันหรือยูลน้อยดี - - เอาเป็นว่ายังไงตอนนี้ก็เสร็จแล้วค่ะ เหนื่อยมากเลย 5555 ตอนต่อไปแทกำลังจะแต่งงานแล้วนะค่ะ อย่าลืมอ่านกันด้วยเน้อ อ่า แล้วไรเตอร์อยากให้รีดเดอร์ช่วยนิดนึงค่ะ ไรเตอร์อยากถามรีดเดอร์ว่าอยากอ่าน NC กันมั้ยค่ะ ถ้าอยากอ่านไรเตอร์จะแต่ง NC ให้นะค่ะ ^^ แต่ถ้าไม่ก็ไม่แต่งค่ะ เม้นบอกด้วยนะค่ะเดี๋ยวไรเตอร์จะเข้ามาดูค่ะ พบกันตอนหน้านะค่ะ อย่าลืมเม้นให้กำลังไรเตอร์นะ สงสารไรเตอร์ผู้ต่ำต้อยคนนี้ด้วยนะค่าา TT'

    :)  Shalunla


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×