ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียเหนือเมฆ (Re-up มี E-book)

    ลำดับตอนที่ #3 : สิ่งหนึ่ง ที่พี่เหนือสามารถอวดได้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33.21K
      104
      4 ก.พ. 64

    “แม่ลูกมหาภัยคู่นั้น ดิฉันเจอหลายครั้งเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่สมัยพิมพิสาเป็นเด็กวัยรุ่น ยังไม่เข้าวงการด้วยซ้ำ พวกเธอมีบ้านอยู่ในตัวเมือง แต่มักมาที่หมู่บ้านบ่อยๆ เพราะนางพวงครามมีเพื่อนสนิทอยู่ในหมู่บ้าน เป็นแม่เลี้ยงของอ่อนช้อย ทั้งคู่ติดเล่นการพนันเหมือนกัน หลังจากนั้นพอนางพวงครามมาเป็นเมียน้อยพ่อ ก็มักแวะเวียนมาขอเงินพ่อ หรือไม่ก็มาขโมยสร้อยแหวนของแม่เอาไปขาย สุดท้ายก็พากันย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ในบ้านของดิฉันดื้อๆ นางพวงครามไล่แม่ดิฉันไปนอนที่ห้องรับแขก ส่วนพิมพิสาก็ยึดห้องนอนของดิฉันไป” 

    เคียงข้าวตอบ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต หญิงสาวก็ห้ามความเจ็บปวดเจ็บแค้นของตัวเองไม่ได้ นึกเสียใจที่เวลานั้นเธอเป็นเพียงเด็กสาวแรกรุ่น แม้จะสู้จนยิบตา แต่ก็แลกมากับความสูญเสียไม่น้อย บวกกับพ่อของเธอก็หลงนางพวงครามหัวปักหัวปำ ถลำไปติดการพนันเหมือนอีกฝ่าย รักเอ็นดูพิมพิสาราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง เคียงข้าวกับแม่จึงทำอะไรไม่ได้ เธอเหลือทางเลือกเดียวคือเข้าปะทะกับพ่อตรงๆ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนต้องไปจบเรื่องทั้งหมดในศาล

    พูดตามจริง เรื่องนี้เคียงข้าวก็ไม่โทษนางพวงครามเพียงฝ่ายเดียว แต่โทษพ่อของเธอด้วยที่จู่ๆ ริเข้าบ่อน จึงได้พบกับนางพวงคราม กระทั่งหลงเสน่ห์อีกฝ่ายจนทิ้งลูกทิ้งเมีย พาสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน…ซึ่งเป็นบ้านของแม่ แล้วเธอจะทนได้อย่างไร

    “อีกเหตุผลที่แม่ยอมหย่า ก็เพราะว่านางพวงครามมีลูกอีกคน ชื่อพุธ เป็นพี่ชายแท้ๆ ของพิมพิสา ตอนนางพวงครามหย่ากับผัวเก่า ได้แบ่งลูกกัน นายพุธไปอยู่กับพ่อ ส่วนนังพิม เอ๊ย! พิมพิสาอยู่กับแม่ แต่ถึงอย่างนั้นนายพุธก็มักมาหานางพวงครามที่บ้านบ่อยๆ นายคนนี้ฝักใฝ่ในเรื่องชั่วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเหล้ายา การพนัน ดูเหมือนจะเคยเข้าคุกในข้อหายาเสพติดและลักทรัพย์ด้วย…แม่กลัวว่าเราสองคนจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจฟ้องหย่ากับพ่อค่ะ” 

    ความจริงก็คือเธอนี่แหละ ที่ขอให้แม่หย่ากับพ่อ!

     

    ตลอดเวลาที่เคียงข้าวพูดเรื่องตัวเองในอดีต เหนือดวงได้แต่นั่งตัวตรง รับฟังอยู่เงียบๆ บางครั้งชายหนุ่มก็หลุบตาลง มองเห็นแพขนตาหนาใต้คิ้วโก่งเข้ม สันจมูกโด่ง และปากบางได้รูป บางครั้งก็เงยหน้ามองดูเธอ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาดูล้ำลึกเหมือนอัดแน่นไปด้วยความคิด มือสองข้างประสานกันอยู่ตรงต้นขา ปิดบังห่อหมกก้อนใหญ่เอาไว้จนเธอมองไม่เห็นอีก

    เอิ่ม…แล้วจะมองทำไมยะ ฉันไม่ได้อยากเห็นอีกสักหน่อย! เคียงข้าวด่าตัวเอง

    เหนือดวงถอนหายใจเบาๆ ก่อนประสานสายตากับเธอ

    “ต่อไปคุณเรียกผมว่าพี่เหนือ แทนตัวเองว่าข้าวดีกว่า…ไม่ต้องเรียกคุณ เรียกดิฉันหรอก มันฟังดูห่างเหินกันเกินไป”

    น้ำเสียงของชายหนุ่มจริงจัง ขณะที่เคียงข้าวเผลอขมวดคิ้ว

    ฉันพูดถึงนังปีศาจแม่ลูกอยู่ตั้งนาน ใส่อารมณ์บีบคั้นไปตั้งเยอะ แต่ประโยคแรกหลังจากฟังจบ คือให้เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกชื่อเนี่ยนะ!

    ทำไมไม่เห็นเหมือนในนิยายเลย 

    ในนิยายเวลาพระเอกได้ยินว่านางเอกถูกรังแก ต่อให้เป็นเรื่องราวในอดีต พระเอกก็จะต้องเจ็บปวดเจ็บแค้น แล่นไปทำร้ายนางอิจฉาไม่ใช่เหรอ? 

    ยิ่งในนิยายจีนโบราณด้วยแล้ว พระเอกจะต้องถือกระบี่ไปทำลายล้างทั้งตระกูลของนางอิจฉา ไม่ว่าจะลูกเด็กเล็กแดง ผู้เฒ่าผู้แก่ในตระกูลล้วนล้มตายเป็นเบือ ธารโลหิตไหลนองเจิ่งพื้น จากนั้นพระเอกก็จะหิ้วศีรษะของนางพวงครามกับนังพิมพิสา…เอ๊ย! หิ้วศีรษะของบรรดานางอิจฉามาให้เธอเพื่อเป็นของขวัญปลอบใจ

    ไม่ใช่เหรอ?

    แล้วนี่อะไร  อุตส่าห์พูดให้ฟังตั้งนานกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เสียแรงเสียเวลาเป็นที่สุด!

     

    ทางด้านเหนือดวง เขามองใบหน้าของเคียงข้าว ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวคลายออก เดี๋ยวกัดริมฝีปาก ชายหนุ่มก็พอเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มจึงหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างนึกขัน

    “เดี๋ยวผมช่วยจัดการให้เอาไหม?” 

    ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างเอาใจ ขณะที่เคียงข้าวเบิกตากลมกว้าง

    “จัดการนางพวงครามกับลูกใช่ไหมคะ?” เคียงข้าวถามทันที 

    “ใช่”

    “ดีๆ แต่คุณเหนือดวงต้องให้ดิฉันมีส่วนร่วมด้วยนะคะ ดิฉันอยากลงมือด้วยตัวเองด้วย จะได้หายแค้น”

    เหนือดวงพยักหน้า ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้ว

    “เอ…ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้แทนตัวเองว่าข้าว แล้วเรียกผมว่าพี่เหนือ ไม่ใช่เรียกคุณเรียกฉันอยู่แบบนี้”

    “อ้าว! ทีคุณยังแทนตัวเองว่าผมได้เลย แล้วทำไมฉันต้องเรียกตัวเองว่าข้าวอยู่คนเดียวด้วยล่ะ” 

    ได้ยินคำโต้แย้งจากเคียงข้าว เหนือดวงก็อึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะยอมพยักหน้า

    “โอเคน้องข้าว นี่พี่เหนือนะครับ” 

    เหนือดวงพูดก่อน เพิ่งรู้ในตอนนี้เองว่าการแทนชื่อตัวเองแบบนี้ กลับไม่ค่อยชินปากเท่าไหร่นัก แต่เดี๋ยวอีกสักพักก็คงจะชินกระมัง ชายหนุ่มปลอบตัวเอง

    “โอเคพี่เหนือ นี่ข้าวนะคะ” 

    หญิงสาวเลียนแบบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะค่อยๆ จางหาย เมื่อจู่ๆ เหนือดวงก็เลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ จากนั้นเอื้อมมือขวามากุมมือของเธอ

    “เอ่อ…คุณ…เอ๊ย! พี่เหนือ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” 

    เคียงข้าวถาม เมื่อมองเห็นประกายเจ้าเล่ห์จางๆ อยู่ในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่ม

    “ก่อนหน้านี้น้องข้าวถามพี่เหนือว่า ยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า…ใช่ไหมครับ?” 

    หือ? 

    แล้วยังไง? 

    คงไม่ใช่จะให้ฉันพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ในตอนนี้หรอกนะ

    เคียงข้าวคิดในใจอย่างหวาดผวา

    และดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็เดาความคิดของเธอได้ เขาจึงพูดขึ้นมายิ้มๆ

    “เรื่องเป็นหนุ่มบริสุทธิ์หรือเปล่า พี่เหนือไม่ขอตอบก็แล้วกัน เดี๋ยวน้องข้าวจะหาว่าคุย เอาไว้ค่อยไปพิสูจน์ด้วยกันวันหลัง” เหนือดวงพูดยิ้มๆ “แต่สิ่งหนึ่งที่พี่เหนือสามารถอวดน้องข้าวได้ในตอนนี้ ก็คือไอ้ช่อนของพี่เหนือใหญ่มาก น้องข้าวลองจับดูก็จะรู้เอง”

    เคียงข้าวไม่ทันได้ตั้งสติ เหนือดวงก็ดึงมือของเธอเอาไปวางไว้ตรงหว่างขา จากนั้นกดมือของเธอให้สัมผัสกับห่อหมกก้อนใหญ่ของเขาอย่างแนบแน่น!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×