เมียเหนือเมฆ (Re-up มี E-book)

ลำดับตอนที่ #2 : แผนของ (ว่าที่) แม่ผัว

คำถามของเคียงข้าว ทำเอาเหนือดวงชะงักงัน ชายหนุ่มหยุดหมุนเก้าอี้ ผุดลุกมานั่งตัวตรง ผิวขาวจัดของเขาขึ้นสีชมพูระเรื่อตรงสองข้างแก้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองหญิงสาวเขม็ง ขณะที่ปากบางได้รูปของเขากระตุกเล็กน้อย ราวกับคาดไม่ถึงว่าเคียงข้าวจะถามเขาแบบนี้

ที่สำคัญมากกว่านั้น เหนือดวงไม่คิดว่าแม่ของเขาจะบอกเรื่องนี้กับเธอ!

“เอ่อ…” เห็นสายตาของเหนือดวงแบบนั้น เคียงข้าวก็วางหน้าไม่ถูก “ทำไมคุณต้องจ้องมองฉันแบบนี้ด้วยคะ?”

“แล้วทำไมคุณต้องถามผมแบบนั้นด้วยล่ะ?”

“ก็แม่ของคุณบอก ฉันก็แค่นึกสงสัย” 

เคียงข้าวพยายามอธิบาย แต่ยิ่งอธิบายสองแก้มของเธอก็ยิ่งขึ้นสีระเรื่อไม่ต่างกัน เพิ่งนึกได้ว่าคำถามส่วนตัวแบบนี้ เธอควรจะเกริ่นนำสักหน่อย ไม่ใช่ทะลุถามโต้งๆ อย่างไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีชั้นเชิง…แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเหนือดวงมานั่งเหยียดขาทำท่าเหมือนอวดห่อหมกก้อนใหญ่ให้เธอดู เธอก็แค่พยายามจะเปลี่ยนเรื่องก็เท่านั้นเอง

“คือ…เอ่อ…คุณนวลบอกว่าคุณถือพรหมจรรย์ จะไม่มีอะไรกับใครจนกว่าจะแต่งงาน เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ที่คุณจะไปขืนใจพิมพิสา จนอีกฝ่ายแอบถ่ายคลิปเพื่อเอามาแบล็คเมล์คุณ”

‘พิมพิสา’ เป็นนางเอกละครของอีกช่อง เธอมีฝีมือในการแสดงอยู่พอตัว แต่กลับไม่โด่งดังพลุแตกเหมือนดาราคนอื่น หลังจากทางช่องผลักดันให้เป็นนางเอกอยู่สามสี่เรื่อง แต่ชื่อเสียงไม่กระเตื้องอย่างที่คิด พิมพิสาก็ถูกลดบทบาทไปเป็นตัวรอง ตอนนี้ดาราสาวใกล้หมดสัญญากับช่องเดิมแล้ว จึงมองหาสังกัดใหม่ เผื่อได้กลับมาเป็นนางเอกอีกครั้ง

และสังกัดใหม่ที่พิมพิสาต้องการ ก็คือค่ายละครของคุณนวลระวี!

ไม่กี่วันก่อน ‘นางพวงคราม’ แม่ของพิมพิสาได้ส่งคลิปสั้นๆ ของเหนือดวงตอนนอนเปลือยกายมาให้ชายหนุ่ม อ้างว่าเขาขืนใจพิมพิสาตอนไปร่วมงานการกุศลที่ต่างจังหวัด พร้อมยื่นเงื่อนไขให้เหนือดวงเปิดตัวเป็นแฟนกับพิมพิสา รวมทั้งให้คุณนวลระวีรับพิมพิสามาเป็นนางเอกคนใหม่ในสังกัด เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ

รับผิดชอบกับผีน่ะสิ!  เหนือดวงคิด

“ถ้าคุณเหนือไม่รับผิดชอบ แม่คงต้องพาลูกพิมไปแจ้งความเสียแล้ว”

นางพวงครามพูดมาตามสายด้วยเสียงเยือกเย็น ขณะที่เหนือดวงตอบไปสั้นๆ ว่า

“เรื่องของมึงครับ”

ใช่…เขาตอบแม่ของพิมพิสาว่า “เรื่องของมึงครับ”  จริงๆ

ต่อให้พิมพิสาไม่ได้ส่งมาแค่แม่ แต่ส่งปู่ย่าตายาย อาม่าอากง ส่งโคตรเหง้าบรรพบุรุษทุกรุ่นมาหา เหนือดวงก็ไม่สนใจ 

พิมพิสากับแม่อยากทำอะไรก็ทำไปสิ อยากขึ้นโรงพักก็ไปเจอกันที่โรงพัก ถ้าอยากขึ้นศาลก็ไปว่ากันที่ศาล ถึงคุณนวลระวีมารดาของเขาจะมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นดารามากฝีมือ เป็นผู้จัดละครที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่เหนือดวงถือว่าตัวเขาไม่ใช่ เขามีหน้าที่ในบริษัทเป็นแค่คนเบื้องหลัง ทำงานในตำแหน่งคนเขียนบทโทรทัศน์เท่านั้น

อาจด้วยเหตุผลข้อนี้เอง ที่ทำให้สองแม่ลูกคิดว่าเหนือดวงเป็นไก่อ่อน ไม่มีปากเสียง เหมือนที่ไม่มีชื่อเสียง น่าจะข่มขู่และจัดการได้ง่ายๆ เมื่อจัดการเหนือดวงได้สำเร็จ ก็คงจัดการคุณนวลระวีได้ไม่ยาก หารู้ไม่ว่าแค่โทรมาหาชายหนุ่มยกแรก ก็ถูกอีกฝ่ายถอนหงอก ให้เกียรติเรียกว่า “มึง” เสียแล้ว

“คุณข้าวสนิทกับพิมพิสา และแม่ของเธอไหมครับ?”

เหนือดวงถาม ขณะที่เคียงข้าวส่ายศีรษะ ไม่นึกแปลกใจที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอรู้จักกับนังสองแม่ลูกมหาประลัย นั่นแปลว่าก่อนที่คุณนวลระวีจะนัดเธอมาสัมภาษณ์งาน ได้เช็คประวัติของเธอมาแล้วเป็นอย่างดี รวมทั้งยังคุยเรื่องนี้กับเหนือดวงอีกด้วย

นอกจากเรื่อง “ดวงชะตาส่งเสริมหนุนนำ” ที่ทำให้คุณนวลระวีอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ เหตุผลอีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องของนางพวงครามกับพิมพิสานี่เอง

นางพวงครามเป็นเมียน้อยที่มาแย่งพ่อของเคียงข้าวเมื่อหลายปีก่อน จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลหย่าร้างกับ ‘คุณผจี’ แม่ของเธอ ส่วนคุณนวลระวีก็เกลียดยิ่งนักกับพวกเมียน้อยที่แย่งสามีชาวบ้าน เนื่องจากชีวิตคู่ของคุณนวลระวีต้องพังทลาย กลายเป็นแม่ม่ายเลี้ยงดูลูกชายสามคน ก็เพราะถูกดาราคนหนึ่งแย่งสามีมาก่อน

แต่เคียงข้าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?

พูดไปแล้วก็เป็นเพราะดวงชะตาอีกนั่นแหละ บังเอิญเคียงข้าวมีเพื่อนสนิทเป็นเลขานุการของคุณนวลระวี เลขาคนนี้ชื่อว่า ‘อ่อนช้อย’ สมัยมาทำงานแรกๆ อ่อนช้อยอยู่แผนกมูเตลู มีหน้าที่จัดซื้อธูปเทียนดอกไม้เปลี่ยนน้ำพระ ดูแลทำความสะอาดหิ้ง รวมทั้งนำพนักงานในบริษัทสวดมนต์แผ่เมตตา ทำพิธีกรรมต่างๆ นานาบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่รู้ดวงชะตาพลิกผันอย่างไร จู่ๆ อ่อนช้อยก็ก้าวขึ้นมาเป็นเลขาอันดับหนึ่งของคุณนวลระวี จะเรียกว่าเป็นมือขวาก็ไม่ผิดความจริงแต่อย่างใด 

อ่อนช้อยรู้ว่าเคียงข้าวมีภาระหนัก ไม่ว่าจะค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่ากินอยู่ และยังมีค่าใช้จ่ายของแม่ที่ประเทศอินเดีย ถึงแม้ว่าคุณผจีจะมีเงิน แต่ด้วยนิสัยของเคียงข้าวที่อยากช่วยแบ่งเบารับภาระค่าใช้จ่ายของแม่ หญิงสาวจึงพยายามมองหางานที่ตรงกับสายวิชาที่ตัวเองเรียนจบ

สองเดือนก่อน อ่อนช้อยถือวิสาสะนำวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟากของเคียงข้าวมาให้คุณนวลระวี ซึ่งกำลังมองหาเลขานุการอีกหนึ่งคน พร้อมดีกรีของเคียงข้าวที่จบปริญญาโททางด้านภาษาและวรรณคดีจากประเทศอินเดีย ด้วยหวังว่าดวงชะตาของเคียงข้าวอาจดีพอที่จะได้งานในตำแหน่งเลขานุการก็ได้

หลังผ่านการคัดประวัติและตรวจสอบพื้นดวงอย่างเข้มงวด ทั้งจากซินแส โหราจารย์ และหมอดูประจำบริษัท เคียงข้าวกลับได้คะแนนพื้นดวงดีเด่นแบบนำโด่ง เป็นดวงชะตาที่หาได้ยากอย่างยิ่ง หากเป็นสมัยจีนโบราณคงเรียกว่าดวงหงส์ ดวงฮองเฮา ไทเฮา สูงส่งขนาดนั้นเชียว

เพราะฉะนั้นตำแหน่งเลขานุการจึงดีไม่พอสำหรับเคียงข้าว เมื่อคุณนวลระวีเอาดวงชะตาของหญิงสาวไปเทียบพื้นดวงของลูกชายคนเล็ก ก็พบว่าดวงชะตาของทั้งคู่ช่างเหมาะสมกันราวกับสวรรค์สร้าง ยิ่งถ้าทั้งสองได้แต่งงานกัน ดวงชะตาของเคียงข้าวจะยิ่งช่วยส่งเสริมหนุนนำดวงชะตาของเหนือดวง และไม่ใช่หนุนเพียงแค่เหนือดวงเท่านั้น แต่ยังช่วยหนุนนำคุณนวลระวีและลูกชายอีกสองคนให้อยู่เย็นเป็นสุข เจริญก้าวหน้าไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกด้วย

เคียงข้าวจึงถูกนัดให้มาสัมภาษณ์งานกับคุณนวลระวีในวันนี้ ถ้าพูดตรงๆ ก็คือถูกนัดมาดูตัวนั่นแหละ

ประจวบเหมาะที่พิมพิสากับนางพวงคราม ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อข่มขูและแบล็คเมล์เหนือดวงพอดี คุณนวลระวีจึงแก้เกม โดยขอให้เคียงข้าวกับเหนือดวงจดทะเบียนสมรสกันเสียเลย

ถ้าหากดาราสาวรู้ว่าชายหนุ่มไม่ใช่คนโสด แต่จดทะเบียนสมรสแล้ว หนำซ้ำภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขายังเป็นเคียงข้าว ลูกสาวเมียหลวงที่แม่ของดาราสาวไปแย่งสามีมา ลองนึกดูว่าสองแม่ลูกจะทำหน้ายังไง จากฝ่ายแบล็คเมล์กลับโดนแบล็คเมล์เสียเอง ถือเป็นเอาคืนรอบที่หนึ่ง ที่คุณนวลระวีบอกแผนการแก่เคียงข้าวโดยไม่ปิดบัง

เคียงข้าวเองก็สนใจอย่างมาก ที่จะได้จัดการแม่ลูกคู่นี้

แน่ล่ะ…โอกาสดีๆ แบบนี้ใครจะพลาด นังแม่ลูกตัวแสบ ที่ทำครอบครัวของเธอแตกแยก ถ้าไม่เอาคืนให้หนักจนอีกฝ่ายร้องขอชีวิต ย่อมไม่ใช่นิสัยของเคียงข้าวแน่ หนำซ้ำเธอยังสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด เพราะมีแบ็คอัพยิ่งใหญ่อย่างคุณนวลระวีคอยหนุนหลัง นอกจากนี้เธอยังได้สามีพรหมจรรย์ ไหนจะสินสอดเงินทองของต้อนรับแบบจัดหนักจัดเต็ม ไหนจะอนาคตอันงดงามที่รออยู่ จะมีอะไรดีกว่านี้อีก!

ที่วิ่งตาเหลือกตาตั้งมาถามเหนือดวงนี่ ก็ไม่ใช่อะไรนะ แค่อยากยืนยันว่าเขาต้องการจะจดทะเบียนแต่งงานกับเธอจริงๆ ไม่ใช่ให้เธอฝันเติ่งอยู่ฝ่ายเดียวต่างหาก!