ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #52 : all i want is you

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 519
      5
      7 ก.พ. 59

    49

    เทียนเหมือนแผ่นดินไหวก่อนที่สึนามิจะมา

    เพราะหลังจากเรากินข้าวกันเสร็จ บอสก็มาถึงพอดี ซึ่งบอสก็คงสเตปเดียวกับเทียนครับ คือมองข้ามผมไปเลยและหันไปมองไอ้ซีแทน ไอ้คนถูกจ้องก็ร้อนๆหนาวๆจนต้องหันมาขอความช่วยเหลือจากผม แต่บอสนี้จะดรอปกว่าเทียนหน่อยเพราะมันไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่บอกว่าเอาของมาให้ผม (ซึ่งก็คือหนังสือและขนมอีกนิดหน่อย) ก่อนที่จะขอแยกออกไป ผมพยายามรั้งมันไว้ ก็ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรสักคำเลยนิครับ แต่บอสกลับปฏิเสธ พอเห็นมันปฏิเสธแบบจริงจังเบอร์นั้น ผมก็เลยยกเลิกที่จะคุยกับมัน

    ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ เทียนบอกว่าจะไปส่งบอสเอง ทั้งๆที่เธอจะกลับทีหลังก็ได้ พอผมตั้งท่าจะถาม เธอก็หันมามองผมนิดๆ จากที่รู้จักกันมา ผมก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่อยากให้ผมขัด สุดท้ายผมก็เลยปล่อยให้เทียนไปส่งบอสอย่างที่เธอต้องการ

     

    Special Part : Tianhom

    บอสยังคงเงียบแม้เราจะเดินออกมากันสักพักแล้ว ฉันไม่รู้ว่าหมอนี้กำลังช็อค กำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนพูดจนต้องอ้อนวอนให้หยุดแบบฉันนะ การที่ต้องมาเดินเงียบๆกับหมอนี้สองคนมันไม่เห็นจะโอเลยสักนิด

    นี้... โอเคเปล่าฉันหันไปทัก บอสปลายตามามองหน้าฉันนิดหน่อย ก่อนที่จะหันกลับไป

    แบบนี้ไงฉันถึงไม่ชอบหมอนี้

    ฉันชื่อบอสถึงกับกลอกตาออกมาเองโดยอัตโนมัติ โอ้ยยยยยพ่อคุณ ฉันรู้แล้วป่ะ

    แล้วแต่ล่ะกันฉันตอบกลับไปส่งๆ ไม่คิดจะยกเรื่องอะไรมาพูดกับหมอนี้อีกแล้ว

    เธอรู้นานแล้วเหรอแต่หลังจากที่เราเงียบกันไปอีกสักพัก บอสก็ยอมพูดออกมาอีกครั้ง

    พึ่งรู้เมื่อเช้า

    แล้วไม่เฮิร์ตหน่อยเหรอ

    ก็เฮิร์ตนะ แต่ฉันก้าวผ่านคำนั้นมาแล้วอ่ะพูดจบก็เผลอถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง

    เออนี้ ฉันสงสัยอ่ะฉันเลิกคิ้วใส่ประโยคนั้นของบอส

    เธอชอบเคียวใช่ป่ะ แต่เธอก็รู้ว่าเคียวกับซีคบกัน แล้วทำไมเธอยังโอเคอ่ะ

    จริงๆก็ไม่ได้โอเคนะ เราเฮิร์ตมากๆอยู่ช่วงหนึ่งเลยอ่ะ แต่ไม่รู้ดิ... เราแค่ไม่อยากเสียเคียวไป ถึงจะเป็นแค่เพื่อนก็ยังดีกว่าไม่ได้เป็นอะไรในชีวิตเขาเลยบอสยกมือขึ้นมาตบมือ ซึ่งมันดังเกินเบอร์จนฉันต้องหันไปจิกตาใส่เลยล่ะ

    แต่เธอก็ยังชอบมันอยู่ใช่ป่ะ

    อื้ม ชอบ... แต่ก็ไม่ได้หวังให้เขาชอบตอบหรอกนะ มันอาจจะมีบางครั้งที่เราทำตัวไม่น่ารักกับเคียวไปบ้าง แต่เคียวก็ไม่เคยว่า แถมยังโอเคอีก ทั้งๆที่เราโครตงี่เง่า เอาแต่ใจเลยนะรู้... ว่าทำตัวไม่น่ารักกับเคียวบ่อย แต่ถึงยังไงมันก็ห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่แรกฉันเข้าหาเคียวเพราะว่าชอบเคียว ถึงตอนนี้จะบอกว่าเป็นเพื่อน แต่ในใจมันก็เปลี่ยนไม่ได้สักหน่อย ถ้ามันเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ คงเปลี่ยนให้เคียวมาชอบฉันไปแล้ว

    แต่มันเปลี่ยนไม่ได้ไง

    บางทีสถานะที่เราหวังดีกับเขา ห่วงเขา หวงเขา คอยดูเขาอยู่ห่างๆ มันก็ไม่ได้แย่มากหรอกมั้งอย่างน้อยๆก็ยังได้อยู่ข้างๆเขานี้นะ

    ฉันปล่อยให้ตัวเองเหม่อมองท้องฟ้าที่ไร้เมฆในวันนี้ และก็คงจะเหม่อไปอีกไกลเลย ถ้าคนข้างๆไม่วางมือบนหัวฉันซะก่อน

    ฉันนับถือเธอนะต้องรีบกลืนคำแว้ดลงคอไปเลยเมื่อบอสพูดแบบนั้น

    ถ้าเป็นฉันคงทำไม่ได้ว่ะ อยู่อย่างไร้ความหวังและเอาแต่เป็นห่วงเขาเนี่ย มันยากมากๆเลยนะ

    มันก็ยาก แต่เทียบกับการได้เป็นส่วนหนึ่งของเขา มันก็คุ้มนะหลายๆครั้งที่ฉันนั่งนึกกับตัวเองว่า ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เคียว ถ้าเป็นคนอื่น จะตวาดและต่อว่าฉันขนาดไหน แต่เคียวไม่เคยเป็นแบบนั้น เคียวโอเคและรับฟังความงี่เง่าของฉันเสมอ

    แล้วอย่างนี้จะทิ้งเคียวไปได้ไง

    แต่ก็เป็นรองคนของเขาป่ะวะฉันบุ้ยปากใส่บอส

    ก็เออสิว่ะ เขาก็ต้องเลือกคนรักเขาแหละ แต่คนๆนั้นมันก็ซีนะบอสเลิกคิ้วกลับมา จะว่าไปหมอนี้ยังไม่เอามือออกจากหัวฉันเลยอ่ะ

    ซีเป็นคนดีนะฉันพยายามไม่สนใจมือหนักๆบนหัวและพูดต่อประโยคจนจบ

    อ้าว สรุปว่าเธอชอบซีด้วยเหรอ

    ไม่ได้ชอบแบบนั้นนนน ก็แค่รู้สึกว่า... ถ้าจะปล่อยเคียวให้ใครสักคน ถ้าคนๆนั้นเป็นซีก็โอเคอยู่บอสยักไหล่และผลักหัวฉันเบาๆ เดี๋ยวนะ... นี้สนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ

    ก็รู้แหละว่าซีเป็นคนดี แต่ไม่อยากให้เคียวได้คนที่ดีไปอ่ะ อยากให้เคียวเลือกเราบอสพูดออกมา เจ้าตัวคงแค่พูดไปตามความรู้สึกเท่านั้น สายตาที่หม่นแสงลงทำให้ฉันเดินเข้าไปใกล้บอสและวางมือลงบนหัวบอสบ้าง

    ไม่เป็นไรนะ สักวันต้องมีคนชอบนายบ้างแหละบอสขำกับประโยคนั้นของฉัน

    แม้นายจะจู้จี้จุกจิก ปากร้าย เอาแต่ใจ โลกหมุนรอบตัวเอง แต่นายก็จริงใจดีนะบอสถึงกับกลอกตาเลยเมื่อฉันพูดจบ

    เกือบดีล่ะเจ้

    เจ้? ฉันเหรอ?” บอสพยักหน้าย้ำก่อนที่จะดึงมือฉันลง

    ฝากดูแลเคียวด้วยนะสายตาจริงจังกับน้ำเสียงที่แน่วแน่นั้นทำให้ฉันไม่กล้าที่จะพูดแซวอะไรออกไป ทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

    สักวันเจ้ก็ต้องเจอคนที่รักเจ้เหมือนกันฉันกำลังจะอ้าปากพูดตอบไปแต่บอสกลับพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

    แม้เจ้จะงี่เง่า เอาแต่ใจ จุ้นจ้าน ขี้หึง ขี้หวง ขี้บ่น น่ารำคาญถึงกับอ้าปากค้างเลยครับ

    แต่เธอก็เป็นคนที่จัดว่าคบได้แหละประโยคสุดท้ายพอจะกู้หน้ากลับมาได้หน่อยนะไอ้บ้า ฉันส่ายหัวหน่ายๆให้บอสและออกเดินอีกครั้ง

    เทียนหอม

    ว่าาา

    เราทีมเดียวกันล่ะนะ

    ทีมอะไร

    ทีมเคียวไม่เอาไงฉันตวัดสายตากลับไปมองหน้าบอส

    เออ! ตอนนี้ยอมอยู่ด้วยก็ได้ สักวันฉันจะลาออกบอสระเบิดเสียงหัวเราะออกมา อะไรล่ะเนี่ย อารมณ์แปรปรวนรึเกิน

    นี้บอส

    ห้ะบอสถามกลับทั้งๆที่ยังขำอยู่เลย

    ไปหาหมอไหม ฉันว่าแกเป็นไบโพลาร์นะบอสหยุดขำ ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่และเดินนำไปเลย

    จริงๆนะบอส! มันเป็นโรคนะเว้ย ต้องไปรักษานะแต่พอเดินตามไม่ทัน ฉันก็หยุดเดินและตะโกนออกไปใหม่

    ไหนว่าทีมเดียวกันไง! ไม่รอเจ้เลยนะทั้งๆที่ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่บอสกลับหยุดเดินและหันกลับมาทางฉัน

    รออยู่เนี่ย รีบเดินมาเลย

    เป็นเจ้หมอนี้บางทีอาจจะดีก็ได้แหะ

    Special Part : The End

     

    2-3 สัปดาห์ต่อมา

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมกับซีกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

    เทียนกับบอสดูสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีผมก็เห็นเธอไปช็อปปิ้งกับบอส2คนด้วย แต่พอผมแซวเข้าหน่อย เทียนก็จะสวดผมยาวถึงโลกหน้า และปิดท้ายด้วย เพื่อนกันเคียว เคลียร์นะ จบ! ก็ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนกันจริงรึเปล่า แต่ถ้าเทียนกับบอสคบกัน ผมก็คงดีใจแย่

    ส่วนซีอาจจะไม่ได้เอาเรื่องคนพวกนั้นแต่มันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมเห็นมันปรึกษาทนายและก็แจ้งเป็นบันทึกประจำวันเอาไว้บ้าง แต่ซีมันก็แค่ทำให้รู้ว่าถ้ามันจะสู้ มันก็สู้ได้มากกว่าที่จะหวังผล ก็รู้ๆกันครับว่าระยะเวลาคดีมันก็นานนับหลายปีมาแล้ว จะเอาอะไรกับกฎหมายบ้านเมืองเราล่ะจริงไหม และซีมันยังจ้างคนไปคอยเฝ้าที่บ้านมันแบบลับๆด้วย ผ่านมาสักสองสามอาทิตย์เรื่องทุกอย่างก็กลับมาเงียบเหมือนเดิม

    สำหรับซีมันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการรักษาสิ่งที่มันมีอยู่แล้วล่ะ

    แต่ถ้าเป็นผมแน่นอนว่าผมไม่หยุดแค่นี้

    ผมขอทำแทนซีแล้วนะครับ แต่ก็อย่างว่า ไอ้ซีมันอยากจบ มันไม่มีทางให้ผมทำแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อไม่มีอะไรที่ดูชอบมาพากลอีก ผมก็จะทำเป็นลืมๆให้ล่ะกัน

    นอกจากเรื่องนี้ชีวิตของพวกผมก็คัมแบคสู่ความปกติสุขอีกครั้ง

    อ้อ ยกเว้นเรื่องเรียนที่กดดันมากขึ้นไปอีก

    เป็นมนุษย์ม.6นี้มันต้องแบกรับอะไรมากขนาดนี้เลยสินะ

    ไหนๆก็ไหนๆ ผมเล่าย้อนเรื่องเมื่อไม่กี่วันนี้ก่อนล่ะกัน ซีได้คณะสถาปัตย์ตามที่มันหวังไว้ แถมมหาวิทยาลัยที่มันอยากเข้าซะด้วย เหลือแค่ไปสัมภาษณ์เท่านั้น ตอนนี้มันเลยง่วนกับการทำพอร์ตแบบจริงจังสุดๆ ส่วนผมนะเหรอ รอจนกว่าจะมีนานู้นถึงจะมีประกาศอะไรกับเขาบ้าง นี้ผมก็ปลงๆเอาไว้ล่ะว่าอาจจะต้องรอแอด ก็เอาเถอะ ขอให้ติดสักที่ล่ะกัน ไม่เกี่ยง

    เคียว เบาเสียงหน่อยได้ไหมวะเอาอีกล่ะ คำนี้อีกล่ะ ผมกลอกตาใส่อากาศและหันกลับไปมองไอ้คนรีเควสเมื่อกี้

    มึงก็แค่กลับไปทำที่ห้องครับซีซีเบ้ปากทันที ผมรู้เลยว่ามันจะพูดอะไรต่อ ตั้งแต่วันที่มันรู้ผล มันก็มักจะมานั่งทำพอร์ตที่ห้องผม อย่าถามว่าทำไมต้องห้องผม เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ไอ้การทำพอร์ตของคณะสถาปัตย์เนี่ยมันก็ไม่ได้หมูๆนะครับ นอกจากใส่กิจกรรมทั้งหมดที่เคยทำไป ก็ต้องใส่ผลงานที่ตัวเองทำออกมาด้วย เรื่องรูปผมไม่กลัวหรอกเพราะไอ้ซีมีเยอะมากจนไม่รู้ว่าจะเลือกใส่รูปไหนด้วยซ้ำ แต่เรื่องภาพวาดเนี่ยสิ

    นี้เป็นความรู้ใหม่เกี่ยวกับซีที่ผมพึ่งรู้ มันวาดรูปสวยมากกกกก แต่เจ้าตัวบ้าการถ่ายรูปมากกว่า เลยหยิบกล้องมาถ่ายบ่อยกว่าหยิบดินสอมาวาด แต่การทำพอร์ตมันต้องมีหลายๆด้าน มันเลยต้องเริ่มนั่งวาดรูป และไอ้การวาดรูปของมันเนี่ย ก็อาศัยความเงียบสกิลเดียวกับวัดตอนเข้าพรรษานั้นแหละ ไอ้การจะให้ห้องผมเงียบขนาดนั้น

    มันก็ไม่ใช่ป่ะ

    จะว่าไปผมก็ไม่ได้รู้เรื่องของมันสักเท่าไหร่เลย แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยๆเรียนรู้กันไป

    ยังมีเวลาอีกเยอะต่อจากนี้

    มึงก็รู้ว่ากูไม่ไปเออรู้ แต่พูดบ่อยๆเผื่อมึงเคลิ้ม

    งั้นมึงก็ไม่ควรมาบ่นกูนะ เพราะมึงอาศัยห้องกูอยู่ซีเบ้ปากหนักเข้าไปอีก ผมไม่รู้ว่ามันไปเอาไอ้ท่าทางงอแงแบบนี้มาจากไหน ตอนเห็นตอนแรกผมก็อี๋ๆนะ แต่พอนานๆเข้า ก็ต้องยอมรับว่าไอ้หน้าลูกหมานี้มันทำให้ผมใจอ่อนไปหลายครั้งล่ะ

    แค่เบาเสียงเอง... นะนั้นไง มันมาล่ะไอ้คำว่า นะ ผมหันกลับมามองทีวี ไม่ได้สนใจจะลดเสียงตามที่ซีขอด้วยซ้ำ

    เคียวววว

    มึงกลับไปทำห้องมึงเลยผมตะโกนสู้มันกลับไปทั้งๆที่ยังไม่ได้หันไปมอง จนไอ้ซีมันเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผมและชกรีโมทไปเบาเสียง

    ซีรัสต้องให้กดเสียงใส่

    เอาน่า ไม่ได้เบาอะไรมากเลย

    กูก็ไม่เข้าใจว่าไอ้การอยู่ห้องมึงเงียบๆ มันมีปัญหาอะไรมากจนมึงต้องถ่อมานั่งทำในห้องกู

    ห้องกูไม่มีมึงไงกูไม่หลงกลครับบอกเลย

    กูกับมึงเป็นอินจันที่ยังไม่ได้ผ่าตัดรึไง กูก็ช่วยอะไรมึงไม่ได้อยู่ดี มีแต่จะรบกวนเนี่ยไม่ได้ตั้งใจจะตัดพ้อนะแต่ทำไมมันออกมาดูตัดพ้อยังไงไม่รู้

    ไม่ได้รบกวน แค่ขอเบานิดหนึ่งก็รบกวนไม่ใช่เหรอวะ ผมกดปิดทีวีและลุกขึ้น

    กูไปนอนในห้องนะยังไม่ทันได้เดินไปซีมันก็ดึงแขนผมไว้และฉุดให้นั่งดังเดิม แถมยังกดเปิดทีวีให้อีกตั้งหาก

    พูดอยู่ว่าห้องกูไม่มีมึง มึงจะหนีกูไปได้ไงผมจิ๊ปากใส่มัน

    ผมว่าจะไม่คิดล่ะนะ แต่ตั้งแต่ที่เราทะเลาะกัน ซีมันก็ติดผมมากขึ้น ไม่ได้มากถึงขนาดไม่มีเวลาของตัวเองเลย แต่ก็นับว่ามากขึ้นกว่าเก่าสุดๆ แต่ถ้าถามว่าผมอึดอัดไหม

    ก็ไม่นะ

    แค่บางทีก็เซ็งๆกับมันบ้าง

    แบบครั้งนี้

    กูเสียงดังไม่รู้ด้วยนะผมเป็นฝ่ายหลบสายตามันอีกล่ะ ผมไม่ชินไอ้สายตาจริงจังแบบนั้นของมันเลย มันทำให้ผมเขวๆยังไงไม่รู้

    โอเคซีตอบรับและกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง

    ผมกดเปลี่ยนช่องรายการไปเรื่อยๆ จะว่าไปตอนนี้own labelออกอากาศครบทุกอีพีล่ะนะ ถึงมันจะไม่ดังตูมตามแต่ก็มีกระแส #ซีเคียว ผุดขึ้นมาเยอะเหมือนกัน ด้วยความที่ตอนรายการฉายเป็นตอนที่ผมทะเลาะกับซี ผมเลยไม่ได้ติดตามข่าวสารหรือเล่นโซเชี่ยลเท่าไหร่ พอกลับมาเล่นก็ชะงักไปนิดหนึ่ง จะอัพอะไร จะทวีตอะไร ก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนกว่าเมื่อก่อน เดี๋ยวคนเขาเอาไปตีความผิดๆมันจะไม่ดีครับ

    แม้ความจริงผมกับซีจะคบกันก็ตาม

    บางครั้งผมก็อดนึกไม่ได้ว่าถ้าพวกน้องๆที่จิ้นรู้ว่าผมกับซีคบกันจริงๆ เขาจะดีใจหรือเสียใจ

    มึงเตรียมชุดงานปัจฉิมยังซีทักขึ้นมา

    ยังอ่ะ รอพวกไอ้รูทอยู่อีกไม่ถึงเดือน พวกผมก็จะจบม.6กันแล้ว แน่นอนว่าสามโรงเรียนของเรา งานปัจฉิมก็ต้องจัดรวมกันอยู่แล้ว จัดที่หอประชุมโรงเรียนผมนี้แหละครับ เวียนวนมาถึงศ.ล.สักที

    ธีมสีเทามันไม่ยากไปหน่อยเหรอวะไอ้ซียังคงบ่นต่อไป

    เท่ดีออกสำหรับคนชอบสีดาร์กๆอย่างผมแม่งโครตเข้าทางอ่ะ

    งานปัจฉิมเป็นที่รู้กันว่าเป็นงานควงสาวมาอวด นี้เพื่อนๆในห้องผมก็เริ่มข่มๆกันบ้างแล้วว่าจะควงสาวสวยแอลลี่มา หรือบางคนก็ถึงขนาดจะพาแฟนที่คบกันตั้งแต่เด็กๆมาเปิดตัว หรือแม้แต่จะพาสาวสวยดีกรีดาราก็มีเหมือนกัน ผมคงเป็นหนึ่งในคนที่ขวานหาสาวสวยๆมาควงอวดเพื่อน ถ้าไอ้เวรนี้นั่งอยู่แถวนี้มันไม่พูดดักคอผมเอาไว้ตั้งแต่เริ่มมีข่าวเรื่องงานปัจฉิมแรกๆว่า มึงไม่ต้องหาคู่นะ กูชวนมึงไปเอง ผมเลยต้องยุติการหาสาวและเป็นคู่ควงให้ไอ้ซีแทน

    ไม่ได้ถึงกับควงกันไปงานหรอกครับ แค่ต่างคนไม่ควงคนอื่นไปก็เท่านั้น

    ผมตั้งใจจะควงเทียนไปสักหน่อยนะตอนแรก

    ชุดสูทเหรอวะ กูใส่แล้วต้องบวมแน่เลย

    หยุดแดกสิครับไอ้ซีพึ่งไปตัดผมทรงใหม่มา ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ดูดีแหละ แต่มันกินเยอะรึเกินช่วงนี้ ก็เลยออกแก้ม พอมาเข้ากับทรงผมใหม่ก็ยิ่งบวมเข้าไปใหญ่

    ก็อย่าชวนแดกสิว่ะคนแดกแล้วไม่ออกหน้าอย่างผมก็สบายไป

    ไม่บวมมากหรอกเทียนถึงกับทักเลยครับว่าให้ซีกินน้อยๆหน่อย เดี๋ยวงานปัจฉิมไม่หล่อ แต่ถึงเธอจะแซวแบบนั้นแต่ผมว่ามันก็ไม่ได้ดูพองอะไรมาก แค่มีน้ำมีนวลเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น ตอนดึงแก้มมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนดึงชีสสติ๊กออกจากกันดีนะ

    ลองมึงบอกว่ากูบวมดิ กูจะไปฉีดโบท็อกผมเบ้ปากใส่มัน ถึงจะรู้ว่ามันล้อเล่นแต่นึกภาพตามก็สยองเหมือนกันนะ

    เออ จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกใช่ไหม ว่าผมกลับมาอยู่หอแล้วนะครับ พ่อกับแม่พึ่งบินกลับไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คราวนี้ไปแลนดิ้งกันที่ปรากด้วยเหตุผลที่ใกล้เดือนแห่งความรักแล้วต้องไปสวีตกันหน่อย

    ก็แล้วแต่นะ อย่าเอาน้องมาฝากผมก็พอ

    แล้วเจ้กัสจะขึ้นมาเมื่อไหร่นึกถึงที่บ้านก็นึกขึ้นมาได้เลย

    วันพุธอ่ะผมพยักหน้ารับ เจ้กัสตัดสินใจจะทำร้านขนมจริงๆจังๆแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็จะขึ้นมาหาซื้อวัสดุอุปกรณ์เตรียมพร้อมที่กรุงเทพด้วยตัวเองเลย

    ชวนพี่แก้มไปด้วยดีป่ะจากการที่พี่แก้มก็บ้าขนม เจ้กัสก็บ้าขนม แถมยังอายุใกล้ๆกันด้วย

    เอาดิซีตอบรับ

    กูจะได้ไม่ต้องโดนงอนตอนตอบคำถามกัสไม่ได้ว่าจะเอาอันไหนผมขำ แค่คิดภาพพี่แก้มกับเจ้กัสอยู่ด้วยกัน ก็ฟังไม่ทันแล้วววว

    เอ้อเคียว

    หืมผมเลื่อนสายตาจากทีวีไปมองซี มันยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นผมหันไปมอง

    เสาร์นี้ไปดูหนังกันเปล่าเรื่องแค่นี้ต้องทำตาวาวแบบนั้นด้วยเหรอวะ

    เอาดิ เรื่องไรอ่ะ

    ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวไปดูเอาหน้าโรงล่ะกัน

    อ้าว ไม่มีเรื่องที่อยากดูแล้วจะชวนทำไมวะ

    ก็อยากไปดูหนัง ไปเที่ยว ไปซื้อของ ไปเดินเล่นกับมึงบ้างผมเลิกคิ้ว

    เพื่อ?”

    ไปเดทกันแบบคู่อื่นๆไงจบประโยคนั้นของซีผมก็เบือนหน้ากลับมาที่ทีวีทันที ไอ้ที่มึงชวนกูไปดูหนังนี้คือชวนกูไปเดทเหรอวะ

    ที่มึงนั่งอยู่ในห้องกูเนี่ย มันแอดวานส์กว่าเดทอีกป่ะ

    ใช่ แต่กูก็อยากไปเดทกับมึงบ้างไง

    แล้วมีใครที่ไหน เขาคบกันก่อนไปเดทบ้างผมหันกลับไปมองหน้ามัน

    ก็คู่เรานี้ไงพูดจบมันก็ส่งยิ้มกลับมาพร้อมกับลักยิ้มที่แก้มข้างซ้าย

    สนุกมากล่ะสิมึง

     

    ถึงจะเรียกว่าชวนมาเดทแต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างกับการมานั่งดูหนัง ซื้อของ และหาอะไรกินสักเท่าไหร่ ความพีคคือพวกผมพึ่งจ่ายค่าห้องของเดือนที่แล้วไป เดือนนี้เลยจนกันแบบสุดฤทธิ์ไอ้การจะหาของในห้างกินมันก็ดูจะลำบากไปหน่อย เราเลยออกมาเดินหาของกินที่ถนนคนเดินแถวนั้นแทน ในช่วงเวลา5โมงเย็นกว่าๆ คนมันก็เยอะจนผมรู้สึกว่าตัวเองไหลมากกว่าที่จะเดินแล้ว

    ผมยังคงไหลตามผู้คนไปเรื่อยๆจนมีคนๆหนึ่งคว้าข้อมือผมไปจับและลากไปอีกทาง

    จะไหลไปไหนเล่าพอลากพ้นผู้คนออกมาบ้าง ซีมันก็หันมาบ่นผม

    ก็คนมันเยอะผมตอบมันกลับไป เราไม่มีจุดมุ่งหมายชี้ชัดว่าจะไปร้านไหนด้วย ผมเลยไหลๆไปก่อน

    ซีไม่ได้ตอบอะไรกลับมา มันอาจจะคิดได้แล้วก็ได้ว่าอยากกินอะไร ถึงได้เปลี่ยนมาจูงมือผมและเดินนำไป แต่จูงมือ... ในที่ที่คนเป็นล้านขนาดนี้ก็...

    กูเดินได้ผมพยายามบิดข้อมือออกจากมือซี แต่เมื่อผมตั้งท่าจะดึงมือออก ซีมันก็เปลี่ยนจากจับข้อมือผมไว้เป็นจับมือผมไว้แทน แถมยังผสานมือเราไว้อีก

    อะไรของเมิงผมประชิดตัวมันได้ก็แว้ดใส่ทันที

    เดี๋ยวมึงหลง

    มึงเห็นกูกี่ขวบเนี่ยว่าแล้วผมก็พยายามจะแงะมือออกจากมือมันอีกครั้ง

    โอเค กูอยากจับ และกูก็จะจับด้วยซีดึงผมเข้าไปใกล้และก้มลงมากระซิบแบบนั้น ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะมากจนทุกคนอยู่ในสภาพจะสิงกันอยู่แล้ว ผมคงจะบ่นและเดินหนีมันไปไกลๆ แต่อย่าว่าแต่เดินหนีเลยครับ เดินออกจากตรงนี้ยังยากเลย

    เมื่อปฏิเสธไม่ได้ ผมเลยปล่อยเลยตามเลย คนเยอะขนาดนี้ คงไม่มีใครสังเกตหรอกมั้ง

    กว่าเราจะฝ่ามรสุมคนมาได้ก็เล่นเอาคนเหงื่อท่วมเลยครับ และเราก็มาจบที่ร้านไอติมโบราณร้านหนึ่ง ที่เป็นร้านไม้ทั้งร้านเลย ซีมันคงตั้งใจจะลากผมมาที่ร้านนี้แหละ เห็นแก่ไอติม ผมจะไม่บ่นมันล่ะกัน

    เราเข้าไปจับจองที่ในร้านและผมก็จัดการสั่งไอติมรสที่อยากกินทันที

    บรรยากาศดีจริงๆด้วยว่ะซีไม่ได้สนใจจะดูเมนูด้วยซ้ำ มันยังกวาดสายตาดูรอบๆร้าน ดูการตบแต่ง ดูบรรยากาศไปเรื่อยๆ

    มึงกินรสไรจนผมต้องออกปากถามมัน

    กินกับมึงมาแย่งกูแดกอีก ผมก้มลงไปเขียนเพิ่มอีกสองสคูปก่อนที่จะส่งใบรายการอาหารให้พี่พนักงาน

    ไม่ได้เอากล้องมาเหรอวะผมก็พึ่งสังเกตว่าซีไม่ได้แบกกล้องมาก็ตอนที่มันหยิบไอโฟนขึ้นมาถ่ายเนี่ยแหละ

    อื้ม ช่วงนี้ต้องอยู่ห่างกล้องหน่อย ต้องใช้มือให้มากๆหมายถึงวาดรูปสินะ

    วาดได้กี่รูปแล้วอ่ะผมไม่รู้รายละเอียดว่ามันต้องวาดกี่รูปหรอกครับ รู้แค่ต้องวาดประมาณหนึ่ง

    เรื่อยๆอ่ะ เดี๋ยววันนี้กลับไปวาดร้านนี้

    ที่มึงลากกูมาเนี่ย เพราะจะมาหาinspirationวาดรูปว่างั้นเถอะไอ้ซีหันมาพยักหน้ารัวๆใส่ผม ยอมใจมันจริงๆ

    ไม่บ่นหน่อยเหรอมันคงเห็นผมเงียบๆถึงได้ทักขึ้น ผมไม่ได้ตอบซีทันที เพราะพี่พนักงานเอาไอติมที่ผมสั่งมาเสิร์ฟซะก่อน ทำเร็วเหมือนกันแหะ

    ไม่บ่นหรอก พอร์ตนี้มันชีวิตมึงเลยนิผมตักไอติมเข้าปากและหันไปตอบซี

    ถ้าสมมติกูตกสัมภาษณ์ ปลอบกูด้วยนะตอนประกาศผลมีสิทธิ์สัมภาษณ์ไอ้ซีมันก็ไม่กล้าดูครับ ให้ผมเป็นคนดูให้ แล้วก็เอาแต่พูดว่า เคียวๆ เดี๋ยวๆ ขอทำใจแปบหนึ่ง อยู่นั้นแหละ

    อย่าคิดว่าจะตกดิว่ะ มึงต้องคิดภาพตัวเองในชุดนักศึกษา กำลังเรียนอยู่ในคณะนั้น มองภาพให้มันชัดๆ เดี๋ยวมันก็เป็นจริงเองแหละจากการโดยแม่บังคับอ่าน The Power มา ผมเลยได้ทริกนี้มาครับ ทุกวันนี้ก็นั่งนึกภาพตัวเองเรียนสัตวแพทย์อยู่เนี่ย ฮือออออ

    โอเคซีตอบและตักไอติมถ้วยเดียวกับผมเข้าปาก

    เฉยๆใช่ป่ะผมตักไอติมเข้าปากอีกคำและเงยหน้าไปมองหน้ามัน

    อร่อยดีไอติมโบราณรสชาติเจ้มจ้นมากเลยเหอะ ซีมันส่ายหัว

    ไม่ใช่ไอติม หมายถึงเดทผมเกือบปล่อยมือที่ถือช้อนอยู่แล้วเนี่ย ทำไมมึงพูดได้ธรรมดาอะไรขนาดนี้วะ แล้วทำไมกูเขินอ่ะ

    เหมือนไอติมผมดึงสติกลับมาและตอบกลับไป

    หมายถึงอร่อยเหรอกวนตีนสินะ ผมหรี่ตาใส่มันและยอมพูดออกไป

    หมายถึงดี

    จริงๆแล้ว นี้เหมือนตอนที่เราทำมิชชั่นในown labelเลยนะผมขมวดคิ้ว

    ตอนไหน

    ตอนที่เราต้องหาspyด้วยกัน ที่เราคู่กันแล้วก็ไปโกงคู่อื่นอ่ะ

    อ้ออออ ที่ป้าเจ้าของร้านจีบมึงให้ลูกเขาใช่ป่ะ

    เออ จะว่าไปกูควรแวะไปบอกเขานะว่าคงไม่ได้แล้วผมกับซีขำขึ้นมาพร้อมกัน มันผ่านมาสักพักแล้วสินะช่วงเวลานั้น

    ตอนแรกกูนึกว่ามึงจะหยิ่งๆ ขี้เกียจ ไม่ค่อยทำอะไร ไม่เข้าสังคม เป็นintrovertนิดๆซะอีก” introvertคือพวกปลีกวิเวก ไม่ค่อยเข้าสังคม หรือพวกที่คิดแต่เรื่องของตัวเองนะครับ ผมหลุดขำพรืดออกมากับคำพูดนั้นของซี

    หน้ากูมันดูไม่รับแขกใช่ป่ะซีพยักหน้ารัวๆคืนมาให้

    แม่กูก็บอกเหมือนกันแม่ถึงกับบอกว่าหน้าผมไม่รับแขกอ่ะ ผมเฟลมากเลยตอนนั้น

    ตอนแรกกูคิดว่ามึงจะเป็นพวกติสท์ๆ พวกเข้าใจยาก แบบว่าพูดเหี้ยอะไรเข้าใจอยู่คนเดียวแบบนั้นเว้ยผมตอบกลับไปบ้าง

    แล้วจริงๆกูเป็นยังไงซีขำสักพักก่อนที่จะถามต่อ

    ก็เป็นแบบที่คิดตอนแรกนั้นแหละไอ้ซีตบหัวผมไปหนึ่งที

    กูหมายถึงมึงก็เป็นคนติสท์ๆ แต่ไม่ถึงกับเข้าถึงไม่ได้อะไรขนาดนั้นนนน เอาจริงๆนะ มึงเป็นคนมองเห็นคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ รักครอบครัว รักทุกคนที่รักมึง กูนึกว่าเป็นนางสาวไทย ไอ้สัสผมอดจะด่ามันส่งท้ายไม่ได้จริงๆ

    ถึงกูจะมองเห็นคนอื่นก่อนตัวเอง แต่กูมองเห็นมึงก่อนคนอื่นนะผมถึงกับโก่งคอทำท่าจะอ้วกทันที

    แต่มึงก็ผิดจากที่กูคาดเยอะเหมือนกันนะและซีก็พูดต่อ

    ยังไง

    มึงกวนตีนอ่ะ เป็นคนมีเสน่ห์ชิบหาย ใช้เสน่ห์ฟุ่มเฟือยโครตๆ เป็นคนเพื่อนเยอะ เฮไหนเฮนั้น กล้าได้กล้าเสีย แต่กลับเป็นคนที่ครอบครัวห่วงที่สุด

    ก็กูเป็นลูกคนเล็กนี้ว้าผมยักไหล่ตอบกลับไป

    กูก็ลูกคนเล็กเออลืมไป... ผมกำลังคิดจะหาอะไรมาเถียงไอ้ซีแต่เสียงใสๆเสียงหนึ่งก็ดังมาขัดไว้ก่อน

    พี่ซีใช่ไหมคะ ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ไหมผมกับซีหันไปตามต้นเสียงก่อนที่จะเจอกับน้องผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ที่ผมคาดว่าไม่น่าจะเกินม.ต้น

    มา พี่ถ่ายให้ผมยื่นมือไปรับไอโฟนมาจากน้องและถ่ายรูปน้องกับซีให้

    หนูชอบพี่มากเลยนะคะ พี่เป็นไอดอลหนูเลยไอ้ซีถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกเลยตอนนี้ ตลกแหะ ฮ่าๆ

    ไม่ขนาดนั้นหรอกครับมึงนั้นแหละที่ใช้เสน่ห์ฟุ่มเฟือยมาก

    ชอบพี่เคียวด้วยเหมือนกันนะคะ! พี่สองคนมาด้วยกันด้วยอ่ะ ฟินนนนพูดจบน้องก็บิดไปบิดมา เล่นเอาผมกับซีถึงกับสตั้นไปเลย

    ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะน้องคงจะเรียกสติกลับมาได้แล้วจึงหันมาถามผมกับซี แน่นอนว่าผมกับซีก็พยักหน้ารับ

    พี่สองคนมีแฟนรึยังอ่ะคะ

    มีแล้วครับผมกับซีตอบขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่จะต่อประโยคต่อไปในใจ

    นั่งอยู่ตรงข้ามนี้เอง

     

     

     

     

     

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มีเรื่องจะสารภาพ ตัดพลอตออกไปประมาณนึงเลยแหละ เหตุผลคือ ถ้าจะขึ้นพลอตใหม่มันจะเป็นการผูกปมใหม่ขึ้นมา แต่หลังจากที่เรานั่งคิดนอนคิดมายาวนานก็พบว่าปมที่มีตอนนี้มันก็ถูกแก้ออกอย่างสวยงามแล้ว ถ้ายัดปมใหม่เข้าไปอีก เรื่องมันอาจจะมีแต่น้ำก็ได้ ก็เลยตัดสินใจว่าตัดออกเลยล่ะกัน ดังนั้น! ตอนต่อไปจะเป็นบทสุดท้ายล่ะนะ

    ต่อจากตอนจบเขาก็จะมีตอนพิเศษกันใช่ไหมล่ะ อยากให้มีไหมอ่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×