ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    mindmate

    ลำดับตอนที่ #33 : D-DAY 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 477
      5
      8 พ.ย. 58

    33

              “เฮ้ยยยยยยยย จะ8โมงล่ะนะ เคียวววว ยู้ฮูวววว”

              หนวกหูเว้ย!

              ผมพลิกหมอนมาปิดหูไว้ ง่วงนอนนน จะนอนนน

              “กูไปก่อนล่ะนะ” มันพูดแค่นั้น ก่อนที่เสียงมันจะเงียบไป เดี๋ยวๆจะทิ้งกันจริงดิ

              “เออๆตื่นแล้ว” ผมยอมลุกขึ้นมานั่งแต่โดยดี ก่อนที่จะพบว่าซีมันนั่งมองผมอยู่ ไหนมึงบอกจะไปไง

              “อ้าวๆ จะขยี้ตาไปถึง8โมงเลยป่ะ” มันติดเป็นนิสัยไปแล้วครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่พอผมตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นมานั่งไหว ผมก็จะขยี้ตาเลยครับ เป็นช่วงเมาขี้ตานั้นแหละ บางทีผมขยี้นานเป็นสิบๆนาทีจนตาแดงก็เคยครับ

              ครั้งนี้ผมก็คงจะนั่งขยี้แบบนั้นไปอีกนานเลย ถ้าซีมันไม่ดึงมือผมลง

              อย่าพึ่งงงครับ ผมจะอธิบายเดี๋ยวนี้แหละ

              เมื่อคืนผมก็แบกร่างตัวเองมาฝากท้องที่ห้องซีตามปกติ และไม่รู้อะไรดลใจครับ ผมเลยค้างห้องมันซะเลย อยู่ห้องซีก็ดีนะครับ ของกินก็มีกิน ข้าวก็กินฟรี แถมไม่เสียค่าไฟอีกต่างหาก

              ผมคงต้องแวะมาอาศัยห้องมันบ่อยๆแล้วแหละ

              “กี่โมงแล้ววะ”

              “6ครึ่ง” จะ8โมงอะไรของมึงครับซี... โกหกเหมือนแม่ผมที่บ้านเลย จะ8โมงๆล่ะแต่ปรากฏว่าจริงๆ6โมงครึ่ง เป็นต้น

              “กูต้องไปอาบน้ำใช่ป่ะ” รู้สึกว่ายังเมาอยู่เลยครับ

              “ใช่จ๊ะ” โอเคๆอาบน้ำ ผมส่ายหัวไล่ความง่วงอีกครั้ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน ผมก็สัมผัสได้ถึงสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากก่อน ถึงจะง่วงอยู่แต่ก็รู้นะว่าคืออะไร

              “มอนิ่งคิส” ผมมองยิ้มแป้นแล้นบนหน้าไอ้ซีแล้วหมั้นเขี้ยวครับ หลายต่อหลายครั้งที่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง ทั้งๆที่เราอายุเท่ากัน บางอย่างมันก็พึ่งมาแสดงหลังจากที่เราคบกันด้วยแหละ อย่างเช่น ความขี้อ้อนในจุดนี้ของมัน

              ผมกดริมฝีปากซ้ำเบาๆที่ริมฝีปากมัน ตอนแรกคิดว่าจะแค่จุ๊บคืนเฉยๆ แต่พอผมเห็นมันยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมไปอีก ก็อดที่จะกดริมฝีปากลงไปอีกครั้งไม่ได้ จูบมันก็ต้องจูบดิ จะมาจุ๊บๆไม่ได้หรอกระดับนี้ล่ะ

              ผมและซีต่างแย่งกันช่วงชิงความหวานจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น ตักตวงเท่าที่ใจต้องการ ผมชอบเวลาที่เราลืมไปว่าโลกแห่งความจริงเป็นยังไง เราต้องรีบร้อนขนาดไหน แย่งชิง เอาชนะ การแข่งขันอะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิตเราไม่รู้จบ ในเวลานี้ เราก็แค่พักมันเอาไว้ก่อน และหันมาตักตวงพลังให้กับตัวเองบ้าง

              สักนิดหนึ่งก็ยังดี

              เอาจริงนี้ว่านี้แมนกว่าซีอีกนะ

              ซีมันอาจจะนิ่งกว่านิดหนึ่ง เงียบกว่านิดหนึ่ง ใจเย็นกว่านิดหนึ่ง

              แต่ผมแมนกว่านะ

    เชื่อเถอะ

    “มอนิ่งคิส” เราปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักก่อนที่จะผละริมฝีปากออกจากกัน ผมก็ยีหัวมันไปหนึ่งทีและแยกไปอาบน้ำ เดี๋ยวจะไม่ได้อาบกันนะครับ

     

    เคียว!

    เคียวว!

    เคียววว!

    แปบหนึ่งงงงงง

    ผมได้ยินคนเรียกชื่อผมเป็นครั้งที่สิบของวันได้แล้วครับ จากคนล่ะคนกันด้วยนะ พรุ่งนี้เป็นวันแรกของงานกีฬาสีโรงเรียนผม ทุกอย่างต้องพร้อมสำหรับใช้งานครับ แต่มันก็ยังมีอะไรบางอย่างที่ยังไม่พร้อมอยู่ ดังนั้นวันนี้ผมเลยโดนเรียกไปเคลียร์เรื่องนู้นทีเรื่องนี้ที เล่นเอาหอบเลยครับ

    มันไม่ใช่แค่เรื่องอุปกรณ์ แต่ขบวนพาเหรดเองก็ต้องพร้อมด้วย ในขณะนี้เรื่องพาเหรดผมไม่ค่อยเครียดเท่าไรครับ เพราะโยนเรื่องนี้ไปให้เฟรมกับยะจัดการ จะเหลือก็แต่เรื่องสแตน ที่ไม่ว่าจะใช้เวลาทำนานขนาดไหน ก็ไม่เสร็จสักที

    แต่ก็ใกล้แล้วแหละ

    หวังว่านะ

    กูหามึงนานมากครับเพื่อนผมละสายตาจากการระบายสีหันไปมองคนทัก

    ว่าไงไอ้พายนั้นเอง พายมันรับผิดชอบงานในส่วนของมันดีมากกกกก จนผมรู้สึกบกพร่องเบาๆ

    จี้ที่กูบอกมึงอ่ะ

    อ้อ เออๆเป็นไงบ้าง ดูดีป่ะจี้ที่พายพูดถึง คือจี้ที่จะให้เป็นของที่ระลึกสำหรับน้องที่ขึ้นสแตนนั้นแหละครับ เป็นจี้ที่มันออกแบบเองทั้งหมด ผมดูแล้วคิดว่าโอเลยตกลงให้มันสั่งทำได้เลย แต่จากวันนั้นจนวันนี้ผมก็ยังไม่ได้เห็นจี้นั้นของจริงสักทีเลยครับ

    นั้นแหละ ประเด็น มึงให้ใครไปทำนะ

    อ้าวกูนึกว่ามึงจะไปทำ

    เพื่อนเคียวครับ กูบอกมึงว่ากูจะทำ แล้วมึงบอกกูว่าไง เดี๋ยวมึงจัดการเองใช่ป่ะเคียวสัมผัสได้ถึงความผิดพลาดบางอย่าง

    กูบอกมึงเหรอบอกตอนไหนวะ

    เออดิ! ไอ้เคียวมึงลืมป่ะเนี่ย ของแจกน้องบนสแตนนะเดี๋ยวๆ ขอเวลากูนึกแปบ ผมนั่งทบทวนเวลาถึงเรื่องวันนั้น ผมนั่งคุยงานกับน้ำอยู่ (น้ำอยู่สีแดงครับ เราตกลงกันเรื่องสวัสดิการนิดหน่อย) ไอ้พายเปิดประตูเข้ามา เจอผมกับน้ำ มันก็ทักทายอย่างร่าเริงและเข้ามาร่วมวงคุยเรื่องสวัสดิกับผมและน้ำด้วย จากนั้นน้ำมันก็แยกไป และไอ้พายก็พูดเรื่องของที่ระลึก หยิบภาพที่มันออกแบบในโทรศัพท์มาให้ผมดู พอผมโอเค มันก็บอกว่าเดี๋ยวมันไปทำเลย แต่ผมรั้งไว้ บอกว่าเดี๋ยวผมทำเอง เพราะว่ามีคนสนิทกับร้านทำของพวกนี้ คนๆนั้นก็คือ...

    ไอ้ภีม! กูบอกให้ภีมไปทำต่อให้อ่ะ เพราะมันสนิทกับร้านทำ

    เนิร์ดอ่ะนะผมพยักหน้า สาบานได้ว่าตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมา ผมแทบจะไม่เคยเห็นพายเรียกภีมว่าภีม มีแต่เนิร์ด บางครั้งก็แว่น แต่ภีมมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆนี้เนอะ

    มันอยู่ไหนอ่ะผมยักไหล่ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมมัวแต่นั่งระบายเพจอยู่ ใครเรียกทีก็ไปที

    โทรไปดิเราจะมีโทรศัพท์เอาไว้ทำไมล่ะถ้าไม่ใช้ พายมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาภีม คุยกันสั้นๆ และมันก็ไป มาแค่นี้อ่ะนะคนเรา

    ผมนั่งทำเพจไปเรื่อยๆ ทั้งหิว ง่วง ปวดหลัง แต่ก็กลัวว่างานจะไม่เสร็จด้วยครับ ผมเลยมัวแต่อิดออดไม่ได้ นั่งทำไปเรื่อยๆ จนเริ่มเย็นแล้ว เมื่อกี้น้องที่ช่วยผมทำพึ่งขอกลับบ้านไป ผมก็ไม่ได้มีปัญหานะ มันจะเสร็จแล้วด้วยแหละ

    มึงผมหันไปหาคนเรียก เป็นไอ้รูทนั้นเอง

    ว่า

    จะเสร็จแล้วนี้ว้าเป็นไงล่ะฝีมือผม เหลือลงพื้นหลังอีกนิดเดียวเองครับ เย่!

    แน่นอนระดับเคียว มึงมีไรทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่อง ผมรู้นะว่ามันมีเรื่องจะพูด รูทมันเกาจมูกนิดหน่อย จากที่รู้จักกันมา การเกาจมูกของมันไม่ใช่เรื่องดีหรอกครับ

    ผ้าคุมสแตนอ่ะผมพยักหน้า เป็นผ้าผืนโครตใหญ่ ผมแบ่งให้เพื่อนกลุ่มหนึ่งในห้องรับหน้าที่ไปทำ

    เพื่อนมันวาดรูปล่ะนะผมพยักหน้าต่อ มึงจะพูดขาดช่วงทำไมเนี่ย

    เป็นคำว่าVIOLETตัวใหญ่ตามที่มึงสั่งเลย แต่...แล้วมันก็เงียบ

    อะไรของมึงล่ะ พูดไม่จบสักที เมื่อไรจะได้แก้ปัญหาคราวนี้รูทมันหายใจเข้าไปลึกๆและเล่าให้ผมฟัง

    มันใช้ชอล์กลงตามที่มึงบอกเลย แต่พอจะลงสีอ่ะ ผ้ามันมาก สีมันเลยลงไม่ติด มันก็พยายามจะลง แต่ยิ่งพยายามมันก็ยิ่งแย่อ่ะ มึงเข้าใจป่ะผมไม่ได้ขัดอะไร เพียงแค่รอให้รูทมันเล่าต่อ

    มันลองใช้สเปรย์ฉีดแล้วด้วย แต่แม่ง...

    แย่กว่าเดิม

    อืม

    แล้วตอนนี้ผ้าอยู่ไหน

    โรงอาหาร ครูดาให้มาตามมึงครูดาเป็นครูประจำสีผมเองครับ ความพีคอีกอย่างหนึ่งของสีผมคือ มันเป็นสีที่อยู่ในการควบคุมของหมวดศิลปะ เรื่องความเริศเล่อคงไม่ต้องพูดถึง

    โอเค บอกครูดาอีก5นาที กูจะลงพื้นหลังให้เสร็จก่อนรูทมันพยักหน้ารับ เห็นผมนิ่งๆนี้ไม่ใช่ไม่เครียดนะครับ หาเรื่องตายชัดๆเลยเนี่ย แต่ว่าเราต้องตัดเรื่องผ้าคุมสแตนไปก่อน ผมต้องทำเพจให้เสร็จ จัดการไปทีล่ะอย่างล่ะกันนะ

     

    ทำอะไรไม่ปรึกษา มันถึงได้พังแบบนี้ไงผมฟังครูบ่นไปด้วย เช็คความเสียหายของผ้าไปด้วย แย่กว่าที่ผมคิดครับ เพราะมันลองวิธีต่างๆในการลงสีคนล่ะตัวอักษรเลย ดังนั้นพอสีมันลงไม่ติดไม่ว่าจะวิธีใด มันเลยเป็นสีขาวด่างๆเต็มไปหมด

    แล้วนี้เธอจะแก้ปัญหายังไงคิรากร ทำไมทำอะไรไม่คิด ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้นะครูกำลังถามคำถามเดียวกับที่ผมถามตัวเองตอนนี้อยู่ จะแก้ปัญหายังไง

    งานมันพรุ่งนี้แล้วนะ ของเสียหายขนาดนี้ถ้าต้องไปซื้อใหม่พวกเธอมีตังไหม เงินเกินไปเท่าไรแล้วล่ะ

    ครูเสียใจที่วางใจเธอจริงๆนะคิรากร

    ครูครับ.... จริงๆแล้วเคียวไม่ได้เป็นคนทำหรอกครับ พวกผม...

    ผมจะเอาสีพื้นทาทับผมพูดแทรกเพื่อนที่กำลังจะบอกอะไรครูดาก็ตาม มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าใครจะเป็นคนทำ มันอยู่ในความรับผิดชอบของผม ถ้าของมันจะเสียหายและครูมาด่าผม ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกแล้วแหละ

    แล้วยังไงต่อ

    ลองดูมั้งครับ ลองหาสีอะไรมาทา ถ้ามันไม่ติดเลย น่าจะวาดใส่ผ้าแบบอื่นก่อน

    แล้ว?”

    เย็บติดครับครูดาพยักหน้ารับ

    เธอจะทำทันได้ยังไง

    ทันดิครับ ถ้าเราเริ่มซื้อของตั้งแต่ตอนนี้และทำเลยก็น่าจะทันครูยังคงทำหน้าไม่เชื่อใจผม อย่าว่าแต่ครูเลยครับ ผมยังไม่เชื่อใจตัวเองเลย รู้แค่ว่ามันต้องทัน

    เธอคงไม่ลืม ว่าเธอมีขบวนพาเหรดที่ต้องรับผิดชอบอีก

    ไม่ลืมหรอกครับ แต่สแตนก็สำคัญ แล้วพาเหรดก็...ผมหันไปมองยะ เป็นเชิงให้มันตอบแทน มันรับผิดชอบเรื่องพาเหรดครับ

    เรียบร้อยดีครับเห็นไหม มันต้องมีอะไรดีสักอย่างแหละ

    เห็นไหมครู!ผมสนิทกับครูแทบจะทุกคนในโรงเรียนแล้วครับจากใจนะ ครูทำหน้าเบื่อใส่ผมนิดหน่อย

    แต่ครูก็ยังไม่คิดว่าเวลาไม่กี่ชั่วโมง มันจะทำให้เธอทำเสร็จทันหรอกนะ

    หลายชั่วโมงอยู่นะครูผมทำท่านับเวลา

    ยังไง?”

    คืนนี้ผมจะนอนที่นี้ครับ

     

    ลั่นไปแล้วก็ต้องทำให้ได้นะครับ สุดท้ายผมก็ค้างโรงเรียนจริงๆ พอผมพูดว่าจะค้างก็มีเพื่อนอีกหลายคนอยู่ค้างด้วย ผมไม่อยากให้มันอยู่กันเยอะๆหรอกนะ แต่พวกมันจะอยู่ก็แล้วแต่เลยครับ

    นี้ชุดมึง แม่กูบ่นจนหูแทบดับผมรับถุงผ้ามาจากยะ ด้วยความที่บ้านมันอยู่ใกล้โรงเรียนที่สุด เรื่องชุดเลยกลายเป็นความรับผิดชอบของมันโดยปริยาย ผมก็ไม่คิดจะกลับหอไปเอาชุดหรอกนะ ยืมไอ้ยะนี้แหละดีกว่า

    มึงโทรสั่งข้าวยังไอ้เฟรม เดี๋ยวลุงเขาปิดร้านก่อนนะเว้ยเสียงพายจากอีกมุมหนึ่งดังขึ้นมา

    เออๆแปบ กูโทรหาพี่ก่อน เดี๋ยวโทรสั่งให้ จะแดกไรจดมาด้วยเฟรมอยู่บ้านนี้ครับ จะค้างโรงเรียนก็ต้องโทรบอกที่บ้าน และในบ้านมันเนี่ย พี่สาวมันดูจะใจดีสุดล่ะ มันเลยเลือกโทรบอกพี่ไง

    เออ! กูก็ลืมโทรบอกแม่ว่ะพอเฟรมมันพูดขึ้นมาก็ส่งผลให้เพื่อนๆโดยรอบคิดขึ้นมาได้ เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาที่บ้านกัน

    ผมนี้ไม่ต้องโทรบอกใครเลยเรอะ

    จริงๆก็มีอยู่คนหนึ่งนะ

    ไง

    วันนี้กูไม่กลับนะ

    อ้าว ทำไมอ่ะ

    มีงานด่วนนิดหน่อยว่ะ

    งานใหญ่เลยเหรอวะ

    ก็ใหญ่อยู่นะวัดจากขนาดผ้าอ่ะนะ

    ให้กูไปช่วยป่ะ

    เฮ้ยยยยไม่ต้อง มึงจะออกมาทำไมล่ะซี กูโทรบอกเพราะกลัวมึงรอเฉยๆ

    จริงนะ? กูไปช่วยได้นะ

    ไม่เป็นไรๆ ตอนนี้ก็อยู่กันเยอะจะแย่

    ถ้ามีอะไรบอกนะเว้ย เดี๋ยวกูไปช่วย

    รู้แล้วนาาา

    เค พรุ่งนี้เจอกัน

    พรุ่งนี้เจอกันนนน

    ผมกดวางสายจากซี ยังไม่ทันยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก็โดนทักแล้วครับ

    ต้องรายงานด้วยเหรอวะเป็นไอ้รูทนั้นเอง

    เปล่าเว้ย กูแค่กลัวมันรอ

    รอทำไมวะ

    ช่วงนี้กูนอนห้องมันรูทมันตวัดสายตามามองผมทันที

    ทุกวัน?”

    เปล่าาาา พึ่ง2วันเองมั้งมันหลิ่วตาใส่ผม

    คิดยังไงวะโดยปกติผมไม่ชอบไปนอนค้างที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านหรือหอครับ มันลำบากนะ ไม่คุ้นด้วย แต่ครั้งนี้ผมกลับเป็นคนถ่อไปค้างห้องซีเอง ถือว่าเป็นเรื่องแปลกนะ

    กินฟรี มีคนปลุก ไม่ต้องจ่ายค่าไฟด้วยรูทมันเบ้ปากใส่ผม มันก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลนะ ผมไม่ผิดสักหน่อย ผมยังคุยกับรูทไม่ถึงไหน โทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นมาซะก่อน ใครโทรมาอีกล่ะเนี่ย

    พ่อมึงโทรมาอีกแล้วเหรอผมก้มมองชื่อคนที่พึ่งโทรเข้ามา

    เปล่า แม่ว่ะผมตอบไอ้รูทไปและกดรับสาย

    เคียวววววว อยู่ไหนนนนเสียงใสๆของเธอดังขึ้นมาทันทีที่ผมกดรับ

    โรงเรียนอ่ะ

    ไม่กลับหอเหรอ เย็นแล้วนะ

    วันนี้คงค้างนี้อ่ะ มีงานต้องทำนิดหน่อย

    อ้าวเหรอ เราอุตสาห์นั่งรอเคียวนะผมพึ่งแวะไปร้านเบเกอรี่ของพี่สาวเทียนมาเมื่อไม่กี่วันเองครับ มันอยู่ระหว่างทางเข้าหอผมพอดีเป๊ะ ถ้าจะเข้าหอก็ต้องผ่านทางนี้แหละ ถึงร้านจะอยู่ระหว่างตกแต่ง แต่ผมว่ามันสวยมากๆแล้วนะ

    โทษทีนะ รอเก้อเลย

    เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก แต่วันนี้ฟ้าทำขนมเต็มเลยอ่ะดิพี่สาวเจ้าของร้านเบเกอรี่ของเทียนชื่อเทียมฟ้าครับ ผมเจอพี่เขาตอนแวะไปที่ร้านกับเทียนนั้นแหละ

    เทียนก็กินเข้าไปให้หมดเลย จะได้อ้วนๆผมไม่เข้าใจทฤษฏียิ่งผอมยิ่งสวยจริงๆครับ ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย อย่างเทียนนี้ผอมจนจะเหลือแต่กระดูกแล้ว เธอยังบ่นอ้วนอยู่อีก เอาตรงไหนมาอ้วนเนี่ยยย ผมเลยสั่งให้เธอกินเข้าไปเยอะๆครับอย่าไปซีเรียสเรื่องผอมแล้วสวยมาก จะขาดสารอาหารเอานะ

    เทียนกินจนท้องจะแตกแล้วเคียว ฟ้าทำเผื่อเคียวด้วย มันเลยโครตเยอะอ่ะ

    เหรอ... ฝากขอโทษพี่ฟ้าด้วยนะ เดี๋ยวไว้เคียวจะแวะไปกิน

    แต่ขนมพวกเนี่ยมันต้องกินตอนอบเสร็จใหม่ๆนะถึงจะอร่อย

    ก็จริงนะ แต่ทำไงได้อ่ะ ไว้คราวหลังล่ะกัน

    เอางี้! เดี๋ยวเทียนเอาไปให้เคียวที่โรงเรียนนะ เจอกันนน

    เฮ้ย เดี๋ยวดิเทียน...เทียนเธอวางสายไปแล้วครับ เรื่องไม่ฟังใครนี้ขอให้บอกเลย

     

              เทียนแวะเอาขนมมาให้ผมจริงๆอย่างที่เธอบอก นั่งคุยอยู่สักพักจนผมเห็นว่ามันเย็นมากแล้วเลยบอกให้เธอกลับบ้าน เธอก็โอเค ไม่อิดออดอย่างที่ผมคิดไว้ ก่อนจะไปก็ไม่ลืมถามว่าพรุ่งนี้กี่โมงเธอจะมาช่วย เทียนเข้ามาช่วยซ้อมดรัมให้น้องสีผมครับ เธอเสนอตัวเองเต็มที่จนผมยอมให้เธอทำ ช่วงอาทิตย์ก่อนกีฬาสีนี้ เทียนเลยแวะมาซ้อมดรัมให้น้องๆทุกเย็นนนน จนทุกคนในโรงเรียนเข้าใจว่าผมกับเทียนมีซัมติงไปหมดล่ะ แน่นอนว่าเทียนเธอชอบมากครับ เธอไม่ว่าอะไรผมเลยปล่อยๆไป คนจะเข้าใจยังไงก็ช่างเขาเถอะครับ แค่เราโอเคก็พอ

              และยิ่งเทียนลงทุนซ้อมดรัมให้น้องๆเองแบบนี้มีเหรอที่พรุ่งนี้เธอจะพลาด เธอลงทุนแต่งหน้าทำผมให้น้องๆเองเลยนะ ผมล่ะยอมใจ

              หลังจากเดินไปส่งเทียนเสร็จ ผมก็กลับมาอาบน้ำ กินข้าว และนั่งทำผ้าต่อทันที ลงสีพื้นทับรอยที่ผิดพลาดเสร็จผมก็ลงมือเย็บผ้าสีขาวติดเป็นรูปตัวอักษรนั้นๆต่อเลย เพราะสีมันลงไม่ติดแล้วแน่ๆ

              ทั้งยืนเย็บ นั่งเย็บ นอนเย็บ จนปวดไปทั้งตัวก็ยังไม่เสร็จสักทีครับ มีเพื่อนหลายคนที่ยอมแพ้และขอไปนอนก่อน ผมก็อยากจะไปนอนบ้างนะ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ไง ฮือออออออออ

              “ตี2แล้วเหรอวะ” ไอ้เฟรมหาวรอบหนึ่งยาวๆก่อนที่จะทิ้งตัวนอนกางแขนกางขา ตี2แล้วเหรอเนี่ย

              “ลุกขึ้นมาเลยสัสเฟรม ตัวLเมื่อไหร่จะเสร็จ” ตัวLแล้วครับ เหลือแค่EกับTเท่านั้น

              “เชี่ย... พลาสเตอร์หน่อยดิ” ผมโดนเข็มจิ้มเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเนี่ย ผมเช็ดเลือดที่ไหลออกมาออกและรับพลาสเตอร์ยาจากไอ้รูทมาแปะ

              “ไว้ไหมเนี่ย มึงไปนอนก่อนป่าว” นิ้วที่4ล่ะครับที่ติดพลาสเตอร์ยา ผมไม่ได้เย็บผ้าเก่งอะไรนี้นะ แล้วยิ่งต้องมาเย็บตอนง่วงๆนี้มือยิ่งไม่ทำตามคำสั่งครับ

              “ไหวดิ อีก2ตัวเอง รีบทำจะได้รีบนอน” ทุกคนพยักหน้า ส่ายหัวไล่ความง่วงกันนิดหน่อย และหันมาลงมือทำต่อ ยังไงก็ต้องทำให้เสร็จครับ

     

              “พี่!! เห็นเข็มขัดผมป่ะ!

              “เฮ้ยแล้วหมวกของชุดนี้อ่ะ!

              “มีใครเห็นกำไลกูป่ะ!

              โอเคคคคค กูไม่นอนก็ได้

              โดนปลุกด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายนี้มันจะทำให้เป็นเช้าที่แย่นะ

              ผมกดหน้าจอโทรศัพท์ให้สว่างขึ้นเพื่อดูว่ากี่โมงแล้ว ตี5นิดๆ... พวกมึงเสียงดังกันทำไมเนี่ย กูพึ่งได้นอนตอนตี4กว่าๆเองนะ

              ง่วงโว้ยยยยยยยยยยยย

              ผมเกือบจะทิ้งตังลงนอนอีกรอบแล้ว ถ้าไม่คิดขึ้นมาได้ว่า นี้มันวันกีฬาสีนี้นา

              D-DAY…

              ผมสะบัดหัวไล่ความง่วงอีกครั้ง ก่อนที่จะขยี้ตายาวๆ

              “เคียว.... ขอโทษนะ แต่ว่าตื่นยังอ่ะ” ผมเลิกขยี้ตาและหันไปมองคนที่แง้มประตูเข้ามาแทน

              “อื้ม” ไม่ตื่นก็ต้องตื่นแหละ

              “ครูดาเรียกหาเคียวอ่ะ”

              “โอเค เดี๋ยวเราอาบน้ำแปบ ขอบคุณนะภีม” ภีมมันยิ้มส่งท้ายก่อนที่จะปิดประตูให้ ภีมเองมันได้นอนกี่ชั่วโมงกัน เมื่อคืนมันก็อยู่ช่วยนะ

              สู้นะพวกเรา เดี๋ยวจบงานนี้ก็นอนยาวๆเลย

     

              “หวัดดีครับครู” ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงไปหาครูดาทันที

              “ได้นอนกี่ชั่วโมง”

              “อย่าใช้คำว่าชั่วโมงเลยครับ แล้วครูมีไรเปล่า” ผมหาวโชว์ครูดาไปหนึ่งที

              “ช่างกล้องมาถึงยัง”

              “ใครนะครับ”

              “ช่างกล้องไง ที่ครูบอกให้จ้างไว้นะ” ครูบอก... ตอนไหนวะ

              “อ้อ”

              “เธอไม่ได้ลืมใช่ไหม” ไม่ได้ลืมครับ ไม่เคยจำเลยเอางี้

              “โหยยย ไม่ลืมหรอกครู เนี่ยกำลังมาเลย”

              “อย่าโกหกนะ...”

              “ไม่โกหกกกก เดี๋ยวมาถึงแล้วให้ไปหาครูเลย โอเคป่ะ”

              “โอเคคค งั้นครูไปช่วยเพื่อนเธอแต่งตัวก่อนนะ ช่างกล้องมาแล้วให้ไปหาครูด้วยล่ะ”

              “คร้าบบบบครู” ผมมองส่งครูดาจนครูเขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวและหันมาทึ้งหัวตัวเองแทน ช่างกล้องๆ ทำไมไม่เห็นจำได้เลยวะ

              ถ้าพูดถึงช่างกล้อง ผมก็คิดออกอยู่คนเดียวอ่ะนะ

              ว่าแล้วก็กดโทรออกหามันเลยล่ะกัน

              ผมถือสายรอนานจนสายตัดไป จนโทรออกไปใหม่อีกครั้ง รับหน่อยเถอะซีรัสสส

              อื้มมมนี้ผมโทรไปปลุกมันสินะ... ความรู้สึกผิดวิ่งขึ้นมาที่คอ จนผมพูดอะไรไม่ออกไปสักัพกหนึ่ง แต่ยังไงผมก็ปลุกมันแล้วอ่ะ ต้องพูดแล้วแหละ

              กูโทรมาปลุกมึงใช่ป่ะ ขอโทษนะขอโทษจริงๆ

              ไม่เป็นไรหรอก จะได้เวลาตื่นอยู่ล่ะทำไมผมจะไม่รู้ว่าปกติมันตื่น6โมง...

              มึงโกหกโครตไม่เนียน

              เอาน่า นี้กูก็ตื่นแล้วไง มีไรเปล่า

              เออ อยากให้มาช่วยถ่ายรูปให้หน่อยวะ

              เดี๋ยวกูก็ไปถ่ายให้อยู่แล้วนะ

              ไม่ใช่แบบนั้นดิ กูหมายถึงตอนนี้เลยอ่ะ

              ห๊ะ...

              นะซีนะ กูจ้างมึงเลยเนี่ย ขอโทษที่พึ่งบอก กูก็พึ่งรู้ว่ะหรือรู้นานแล้วแต่จำไม่ได้ก็ไม่รู้แหละ

              ได้อยู่แล้วมึง อีก15นาทีถึง

              ขอบคุณจริงๆนะมึงงงง กูจะตอบแทนมึงอย่างดีเลย

              มึงพูดแล้วนะ!’ ถอนคำพูดทันไหม

              เอออออ คนระดับเคียวล่ะแต่ไม่ถอนหรอกครับ เดี๋ยวไม่หล่อ

              กูไปอาบน้ำล่ะ

              เออซี!’ ผมชิ่งพูดขัดขึ้นมาก่อน ลืมไปเลย

              ว่า?

              พาไอ้เป้มาด้วยนะแม้ผมจะไม่อยากจ้างมันแต่ในกรณีฉุกเฉินจะยอมๆล่ะกันนะ

     

     

     

     

     

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    เรากลับมาแล้วววว จากที่เคยได้ยินมาว่ากีฬาสีม.6เนี่ยชิลๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย คอยสั่งน้องอย่างเดียว แต่พอมาอยู่ม.6แล้วรู้เลย ว่ามันไม่จริงเลยจ้าาาาาา นี้ทำตั้งแต่กระป๋อง พู่ เพจ ผ้าคุมสแตน บริการ แล้วไหนจะเรื่องชุดอีก โอ้โหหหหหเหนื่อย แต่ด้วยความเป็นคนชอบกีฬาสีเลยเหนื่อยบนความสนุกแหละ และยิ่งกีฬาสีจบนี้ไปสอบมาอีก ยิ่งหนักหนาไปใหญ่ ความล้าทั้งหมดทั้งมวล... ที่เกริ่นมาทั้งหมดไม่ใช่อะไรนะ จะเกริ่นว่าเพราะเหตุนี้เลยอัพช้า 55555

    มีเรื่องนึงที่อยากบอกคือ เปลี่ยนชื่อตัวละครใหม่นะะะะ จากเจมส์ (ห้อง14ที่เป็นเพื่อนรูท คุมสแตน คนนั้นแหละๆ) เปลี่ยนเป็น พาย และก็บอล (ที่เป็นหัวหน้าห้อง ห้องเดียวกับเคียว เนิร์ดๆ คุมเพื่อนไม่ค่อยได้) เปลี่ยนเป็นภีม หวังว่าจะไม่งงกันนะ

    สุดท้ายก็เหมือนเดิมมมม คอมเม้นต์หน่อยนาาาา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×