คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เตรียมสอบวิชา ค.ถนัดแพทย์ by Kornkung (พี่กร)
และแล้วก็มาถึงวิชาค.ถนัดแพทย์ : D .. วิชาที่น้องจะได้ประเดิมเป็นอย่างแรกเพราะสอบเดือนตุลานี่แหละค่ะ !!
(สอบวันเสาร์ปลายเดือนตุลา)
และก็เป็นวิชาที่ช่วยได้มากกก เพราะมีถึง 30% ฟีลว่าถ้าน้องได้เกิน 20 โอกาสน้องติดหมอก็มากขึ้นเยอะ
(แต่ถ้าไม่ถึง 20 ก็อย่าเพิ่งแซดค่ะ =_= พี่นี่แหละที่ไม่ถึง 20.. ได้ 18 อะน้องเกินมีนมา 1 คะแนน 555 และรู้สึกตอนนั้นตัวเองร้องไห้งี่เง่ามากก ก่อนจะมานึกขึ้นได้ว่าเอ้อ ก็ทำวิชาสามัญให้ดี ๆ สิ
แล้วก็..ถึงได้น้อยกว่ามีนก็อย่าเพิ่งเสียใจไปค่ะน้อง =w= เพื่อนพี่ได้ 13 ติดมศว. ได้ 14 ติดเชียงใหม่ ด้วยนะ !! )
และจากที่บอกไป..เพราะพี่ได้ค.ถนัดแค่ 18 (. _ .) ...
บทความนี้พี่เลยยกให้เพื่อน ๆ พี่เขียนให้ : D
แอบเกริ่น ๆ ก่อน.. เพื่อนพี่ที่เขียนให้วันนี้คือ กร
เป็นเพื่อนเตรียมฯ อยู่ห้องเดียวกันตอนม.4-5 (ม.6 พี่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับมัน มันฉลาดเกิน ห้องคิงโรงเรียนอะน้อง !!)
และก็ตอนนี้อยู่ศิริราชเหมือนกันจ้า
พี่คนนี้เมพมาก ๆๆๆ =___= (พี่ละ อยากทั้งขยัน+ฉลาดให้ได้ครึ่งนึงของมัน 555) จบการเกริ่น ไปอ่านบทความกันเลยดีกว่าา : )
---------------------------------------------------------------------------------------------
วิชาความถนัดแพทย์ (วิชาเฉพาะแพทย์)
สวัสดีครับน้องๆ เรื่องที่พี่จะเขียนก็คือ บทความเกี่ยวกับการเตรียมตัวในการสอบความถนัดแพทย์นะครับ
น้องๆหลายคนอาจมีคำถามว่า การสอบวิชาความถนัดแพทย์นั้นมีความสำคัญมากขนาดไหนเมื่อเทียบกับการสอบสามัญ ในความคิดพี่ พี่คิดว่าวิชาความถนัดแพทย์นี้มีความสำคัญมากเลยทีเดียวสามารถเป็นตัวช่วยหรือตัวฉุดได้เลย เพราะในปีของพี่นั้นมีสัดส่วน ความถนัดแพทย์และวิชาสามัญดังนี้
ความถนัดแพทย์ : วิชาสามัญ = 30 : 70
น้องๆ ลองคิดดูสิครับว่า ถ้าน้องสอบความถนัดแพทย์ได้มากๆ การสอบวิชาสามัญของน้องๆจะรู้สึกอุ่นใจมากขนาดไหน ลองคิดดูง่ายๆนะครับ
Ex1 นาย A ตั้งใจไว้ว่าจะเข้าหมอจุฬาให้ได้ <จากสถิติปีพี่ คะแนนต่ำสุดของหมอจุฬาอยู่ประมาณ 67 % > และเมื่อผลวิชาความถนัดออกปรากฎว่านาย A สอบวิชาความถนัดได้ 24 %จาก 30% (240 / 300) ดังนั้น ถ้านาย A สอบวิชาสามัญได้เพียงแค่ 43% จาก 70% นายA ก็สามารถสอบติดหมอจุฬาได้ตามประสงค์แล้ว
Ex2 นางสาว B ตั้งใจไว้ว่าจะเข้าหมอจุฬาให้ได้ <จากสถิติปีพี่ ต่ำสุดของหมอจุฬาอยู่ประมาณ 67 % >และเมื่อผลวิชาความถนัดออกปรากฎว่านางสาว B สอบวิชาความถนัดได้ 17 %จาก 30% (170 / 300) ดังนั้น นางสาวB ต้องมีความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อพิชิตความหวังที่เธอได้หวังไว้ กล่าวคือเธอต้องทำคะแนนส่วนของวิชาสามัญให้ได้ถึง 50 % จาก 70%
จาก 2 ตัวอย่างดังกล่าวน้องๆ ก็คงได้ทราบความสำคัญของวิชาความถนัดแพทย์ พอสมควรนะครับและนี่แหละครับก็คือความสำคัญของวิชาเฉพาะแพทย์
เอาหละเรามาเริ่มพูดถึงเกี่ยวข้อสอบที่พวกพี่เจอกันมาดีกว่า
PART 1 มี 45 ข้อ 100 คะแนน เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
พาร์ทนี้จะเป็นพาร์ทที่เกี่ยวกับเชาว์ปัญญา มีchoice 5 choice จะมีอนุกรมตัวเลขประมาณ 3 4 ข้อ อนุกรมรูปภาพประมาณ 4 5 ข้อ แล้วก็มีโจทย์เลขง่ายๆแบบ 2 บรรทัดตอบ อีกทั้งยังมีโจทย์เลขแบบเสียเวลาด้วย ประมาณว่าต่อคิวอ่า มีเงื่อนไขมาให้มากมาย ซึ่งโจทย์แบบนี้บางข้อก็จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์บ้าง เช่น โจทย์จะให้ชื่อประเทศมาประมาณ 6 - 7 ประเทศ แล้วก็บอกว่าคนที่อยู่ทวีปเอเชียติดกับคนที่อยู่อเมริกา ซึ่งน้องๆต้องรู้ว่าประเทศที่โจทย์ให้มาอยู่ที่ทวีปอะไร ของปีพี่ก็ เช่น คูเวต ฮังการี บลาๆๆ แล้วก็มีโจทย์แนวที่ให้ข้อมูลมา 2 ข้อมูล คือ A และ B แล้วกำหนดโจทย์มา แล้วถามเราว่าต้องใช้ข้อมูลกี่ข้อมูลในการหาคำตอบ
choice ก็จะมี 1. ใช้ข้อมูล A เพียงข้อเดียวก็สามารถหาคำตอบได้
2. ใช้ข้อมูล B เพียงข้อเดียวก็สามารถหาคำตอบได้
3. ต้องใช้ 2 ข้อมูล ช่วยกันถึงจะสามารถหาคำตอบได้
4. ใช้ทั้งสองข้อมูลแล้วก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้
5. ใช้ข้อมูล A หรือ ข้อมูล B อย่างเดียว สามารถหาคำตอบได้ทั้งคู่
และส่วนสุดท้ายก็จะเป็นพวกภาษาไทย ถามประเภทว่า
1) หาข้อโต้แย้งกับโจทย์ที่ให้มา ซึ่งchoice แต่ละ choice จะใกล้เคียงกันมาก พี่แนะนำว่าตัดchoice ข้อที่ผิดแน่ๆ ทิ้งไปก่อน แล้วจะเหลือchoice ที่ใกล้เคียงกันประมาณ 2 ข้อ จากนั้นก็ลองอ่านโจทย์ดีๆอีกรอบ แล้วก็ใช้บุญเก่าของวิชาภาษาไทยช่วยต่อละกัน
2) หาข้อสรุปที่ดีที่สุด อันนี้พี่ว่าก็ยากนะ แต่ choice จะใกล้เคียงกันมาก อ่านแล้วมึนๆ พี่ให้คำแนะนำว่า คำตอบที่จะเลือกจะต้องคุมเนื้อหาทั้งหมด ไม่แคบไป ไม่กว้างไป พยายามหา key word ของคำถามให้ได้แล้วจะมีแนวโน้มตอบถูกสูง
ลักษณะของ key word
1) เป็นคำหรือประโยคที่โจทย์มักกล่าวซ้ำๆ
2) key word มักอยู่ หลังคำว่า แต่ ex แต่ key word. .
พี่ขอเดานะว่าน่าจะมีน้องๆ บางคนกำลังอยากจะถามพี่ว่า
1 ) พี่(ครับ/ค่ะ)ควรเตรียมตัวอย่างไร สำหรับพาร์ทเชาว์ปัญญานี้
ตอบ พี่คิดว่าพาร์ทนี้เหมือนกินบุญเก่าอ่า ถ้าใครถูกฝึกมาดี ก็จะทำได้ดี แต่มันก็สามารถพัฒนาได้นะ อย่าเพิ่งท้อ: ] ลองหาซื้อหนังสือพวกความถนัดมาทำดู แล้วตอนซื้อหนังสือมาทำ อย่าทุ่มเวลาทำแค่ อนุกรมตัวเลข กับพวกมิติสัมพันธ์ นะ เพราะ พาร์ทนี้ไม่ได้มีแค่ 2 เรื่องนั้น แล้วก็ตอนที่ฝึกทำ พี่แนะนำให้จับเวลาไปด้วย เนื่องจากว่าวันที่น้องๆสอบจริง เวลาเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด (คนส่วนใหญ่จะทำได้ แต่ทำไม่ทัน)
2 ) พี่(ครับ/ค่ะ)ควรให้เวลาเท่าไรกับการอ่านหนังสือพาร์ทนี้
ตอบ พี่คิดว่าควรฝึกไปเรื่อยๆอ่า ว่างๆก็หยิบหนังสือขึ้นมาทำ แต่ถ้าระลึกรู้ช้าก็ สัก 1-3
พี่ขอเน้นนะ เวลาสอบจริง การบริหารเวลาสำคัญที่สุด ตอนเปิดข้อสอบมาพยายามหาข้อที่ทำได้ก่อนสัก 2-3 ข้อให้เป็นกำลังใจ (พี่ขอเดาต่อว่าน้องจะเลือกทำพวกมิติสัมพันธ์ก่อน) แล้วข้อไหนไม่ได้ต้องรู้จัก ข้าม นะ ถ้าจมปรักอยู่กับข้อใดข้อหนึ่งนานๆ ตอนเหลือ 5 นาทีก่อนหมดเวลานั่งเดากันสนุกแน่
ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะ ในระหว่างการสอบทุกๆพาร์ทจะมีการปั้มลายนิ้วมือ แล้วก็เซ็นชื่อ ซึ่งในระหว่างการทำข้อสอบพาร์ทแรกจะทำกิจกรรมพวกนี้นานมาก ขอให้น้องๆ เผื่อเวลาไว้ ประมาณ 5 นาทีด้วยนะ เพื่อจะได้ไม่ต้องรนเกินไป อ๋อแล้วก็ก่อนเข้าห้องสอบจะมีคณะกรรมการมาตรวจพวกอุปกรณ์หน้าห้อง ท่านจะให้ถอดแบตมือถือด้วย แล้วก็ พี่ว่านะถ้าเรามีถุงพลาสติกใสที่มันผนึกได้จะดีมาก เอาไว้ใส่พวกอุปกรณ์เครื่องเขียนของเราอ่า รู้สึกว่าจะห้ามเอากล่องดินสอเข้าไปนะ
PART 2 มี 79 ข้อ 100 คะแนน เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
สำหรับพาร์ทนี้ก่อนจะถึงเวลาสอบ น้องๆคงต้องนั่งรอสอบจนอาจเซ็งได้ เนื่องจากว่าช่วงรอยต่อระหว่างพาร์ทแรกกับพาร์ทสอง นี้ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ แต่ก็มีข้อดีตรงที่ได้มีเวลาคุยกับเพื่อนอย่างสนุกทีเดียว
ก่อนที่น้องๆจะเข้าสอบก็พยามยามทำใจให้สบาย สูดลมหายใจลึกๆ พยายามเรียกจริยธรรมให้เข้ามาในตัวให้มากที่สุด 55+ อ๋อก่อนเข้าก็จะมีการต่อแถวตรวจพวกบัตรและอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆอีกตามเคย (อย่าไปขอเพื่อนอยู่ข้างหน้าหละ นึกไว้ในใจ จริยธรรม จริยธรรม 55+)
ณ เวลาสอบ อ่านคำสั่งดีๆก่อนว่ามีกี่ตอน มีทั้งหมดกี่ข้อ เพราะบางคนทำไปแค่ตอนเดียว ไม่ได้สังเกตอีกตอน คะแนนเลยปลิวไปฟรีๆ 5 คะแนน ตอนทำพยายามรักษาเวลาให้ดีเพราะแต่ละข้อมีเวลาประมาณ 1 นาที เพื่อนพี่หลายคนก็อ่านไม่ทัน ช่วงกลางๆโจทย์ยาวมากๆ ยาวจนไม่อยากอ่านเลย เมื่อทำไปแล้วสักระยะหนึ่งจะเริ่มรู้สึกเมาๆ ก็พยายามหาทางแก้ให้ได้ละกัน พาร์ทนี้จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรมาก ขึ้นอยู่กับจริยธรรมในตัวเรา + ดวง นั่นแหละ
(สำหรับพาร์ทนี้น้องไม่ต้องอ่านอะไรมาก หาหนังสือที่คิดว่า เชื่อถือได้ เล่มเดียวพอ เพราะพาร์ทนี้ถ้าน้องอ่านหลายๆเล่ม จะพบความสับสนได้ เนื่องจากหนังสือแต่ละเล่มจะเฉลยไม่ค่อยเหมือนกันทั้งๆที่โจทย์ข้อเดียวกัน)
PART 2 นี้แบ่งออกเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 มี 75 ข้อ (ลักษณะข้อสอบ : เป็นแนวที่ฝึกทำทั่วไป มี 5 ตัวเลือก) 95 คะแนน
ตอนที่ 2 มี 4 ข้อ 5 คะแนน
ข้อสอบตอนที่ 2 นี้ พี่ขอยกตัวอย่างขำๆนะ
จงอ่านคำเรื่องราวต่อไปนี้แล้วอ่านคำชี้แจงต่อไป
นางสาว A (นามสมมติ) มีชีวิตลำเค็ญ ยากจน ข้นแค้น แสนสาหัส ฉกาจฉกัน แค่นั้นยังไม่พอ เธอยังโดนสามีที่ปกติหารายได้ส่วนใหญ่ในการจุนเจือเลี้ยงครอบครัวทิ้ง เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เธอโดนให้ออกจากงานเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนั้น แต่นั้นก็ยังไม่ใช่ประเด็น เธอมีลูก 1 คน เป็นทารกน้อย น่ารัก น่าเอ็นดู ลูกน้อยของเธอนี้ตอนนี้ไม่ได้กินนมมาหลายวันแล้ว และตัวเธอเองก็ไม่ได้กินข้าว มา 2 มื้อแล้ว แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ประเด็น 55+
เรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า ตอนนี้เธอกำลังตัดสินใจจะไปขโมยนมผง จากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อให้ลูกเธอได้กิน
.(มีประมาณ 3 ย่อหน้า)
คำชี้แจง จากบทความข้างต้น จงเลือก 4 ประเด็นสำคัญ จากข้อความต่อไปนี้ มาเรียงลำดับความสำคัญในการพิจารณาก่อน - หลัง กล่าวคือ เลือกประเด็นที่สำคัญที่สุด จากนั้นเลือกประเด็นที่สำคัญรองลงมาอีก 3 ประเด็นตามลำดับจากตัวเลือกต่อไปนี้
(จะไม่มีการพิจารณาตรวจคำตอบในตอนที่ 2 ถ้ามีการตอบซ้ำ)
A1แม่ของเด็กควรคำนึงถึงกฎหมายเป็นหลัก B1
..
A2นางสาวAควรมีความรู้สึกละอายใจ B2
..
A3........................................ B3
..
A4
B4
..
A5
B5
..
ข้อ 1 จงเลือกประเด็นที่ควรพิจารณามากที่สุดเป็นอันดับแรก (2 คะแนน)
(ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ A ให้ตอบลงในข้อที่ 76 แต่ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ B
ให้ตอบลงในข้อที่77 )
ข้อ 2 จงเลือกประเด็นที่ควรพิจารณามากที่สุดเป็นอันดับรองลงมา (1.5 คะแนน)
(ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ A ให้ตอบลงในข้อที่ 78 แต่ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ B
ให้ตอบลงในข้อที่79 )
ข้อ 3 จงเลือกประเด็นที่ควรพิจารณามากที่สุดเป็นอันดับรองลงมาจากข้อข้างต้น
(1 คะแนน)
(ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ A ให้ตอบลงในข้อที่ 80 แต่ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ B
ให้ตอบลงในข้อที่81 )
ข้อ 4 จงเลือกประเด็นที่ควรพิจารณามากที่สุดเป็นอันดับสุดท้าย (0.5 คะแนน)
(ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ A ให้ตอบลงในข้อที่ 82 แต่ถ้าคำตอบอยู่ในข้อ B
ให้ตอบลงในข้อที่83 )
PART 3 มี 2 ข้อ 100 คะแนน เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
พาร์ทนี้จะถือว่าชิวมากเวลาอยู่ในห้องสอบ บางคนนั่งร่าง map 2 map เสร็จ ตั้งแต่ 15 นาทีแรก เพราะพาร์ทนี้ออกคล้ายๆกับเชื่อมโยงGAT แต่มีข้อควรระวังคือลองอ่านคำสั่งดูด้วยเผื่อว่าโจทย์อาจกำหนดวิธีการตอบแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม เมื่อร่าง map เสร็จแล้วก็อย่าลืมฝนรหัสคำตอบหละ (เดี๋ยวจะเศร้า) เผื่อเวลาไว้ฝนรหัสประมาณ 25 นาทีก็ดีนะ เผื่อบางคนฝนช้า พาร์ทนี้ถือว่าภาพรวมแล้วได้นอนหลายตื่นทีเดียวหละ เนื่องจากใช้เวลาทำจริงๆแล้วไม่มาก อีกทั้งสอบหลังทานข้าวอิ่มๆอีก แต่ก่อนที่จะนอนควรตรวจทานดีๆก่อนนะ ท่องให้ขึ้นใจนะ 100 คะแนน พาร์ทนี้ควรจะทำให้ได้มากที่สุด พยายามทำให้ได้เหยียบๆ 90 นะ
เมื่อออกมาถึงนอกห้องสอบเพื่อนๆน้องก็จะถามคำตอบกันว่าได้ทั้งหมดกี่คำตอบ ซึ่งพวกเพื่อนๆก็จะไม่มีใครกล้าบอกจนกว่าจะมีคนแรกยอมบอกว่าได้ทั้งหมด.......คำตอบ ถ้าน้องได้คำตอบตรงกันก็จะหน้าบานกันทันที แต่ถ้าไม่ตรงกันก็อย่าเพิ่งเศร้าลองถามเพื่อนกลุ่มอื่นๆดู เผื่อเราอาจได้ตรงกับพวกเขาก็ได้ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่เราทำไปถูกหรือเปล่า ค่อยรอฟังผลกันก็รู้ : ] จากนั้นก็เป็นอันสิ้นสุดการสอบในวันนี้แยกย้ายกันกลับบ้าน หรืออาจไปฉลองกันต่อก็อีกเรื่องหนึ่ง เตรียมสอบวิชาสามัญต่อออ
เชื่อมโยงปีพี่มี 2 เรื่อง
เรื่องแรกเกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณ
เรื่องที่ 2 เกี่ยวกับข้อโต้แย้งเรื่องพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ป่วย
สำคัญมากทีเดียว โอ้ว จบซะที จะมีคนอ่านมาถึงตรงนี้กี่คนเนี่ย คำเตือนข้อสุดท้ายนะ ข้อสอบปีน้องๆ โครงสร้างข้อสอบอาจไม่เหมือนปีนี้เลยก็ได้ อ่านคำสั่งดีๆหละ
น้องๆควรฝึกทำพวกแนวข้อสอบความถนัดให้น้องๆ มีความรู้สึกว่า “พร้อม” นะ พี่เชื่อว่าถ้าน้องเตรียมตัวพร้อมแล้ว ไม่ว่าข้อสอบวิชาเฉพาะจะออกมาแนวไหน ดัดแปลงมากมายขนาดไหน น้องๆของพี่ก็ทำสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ก่อนจากกัน พวกพี่ๆ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆของพี่เสมอ จำไว้นะ ไม่ว่าคะแนนของวิชาเฉพาะจะออกมาเท่าไร ถ้าคะแนนออกมาดี พี่ดีใจด้วย แต่อย่าประมาทหละ แต่ถ้ายังไม่ค่อยดีก็อย่าท้อ หนทางการสอบเข้าเรียนแพทย์มันยังไม่สิ้นสุด วิชาเฉพาะมันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการสอบแพทย์เท่านั้น ยังเหลือการสอบวิชาสามัญอยู่อีก การสอบครั้งนี้แหละที่จะเป็นตัวตัดสินอนาคตที่แท้ของน้องว่าจะออกมาเป็น
ฝากไว้อีกนิด
“อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวยก็ควรเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่อาชีพแพทย์ อาชีพแพทย์นั้นจำต้องยึดมั่นในอุดมคติ เมตตากรุณาคุณ”
(พระราโชวาทของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชทานแก่แพทย์รุ่น ๒๔๗๒)
Fighting
By ║REAL┤No.5 : Kornkung
---------------------------------------------------------------------------------------------
ปอริ่ง. บทความนี้(อาจ)จะมีเพื่อนพี่อีกคนที่อยากเขียนมาเพิ่มเติมน้า : )
พี่เค้าได้คะแนนสูงเว่อร์ ๆ ก็เลยอยากมาแบ่งปันจ้า : )
โปโปริ่ง. ไอ้ชื่อลงท้ายแกมันคืออะไรห๊ะ ? แบ๊ววว 5555 : P
ความคิดเห็น