ตอนที่ 8 : ✖ EP.6 ✖
“ยังไม่ตายอีกหรอ...หวางจื่อเถา?” แรงบีบแน่นบริเวณข้อมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มของผู้ที่ถามไถ่ ที่ผิดจากอีกคนที่ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไรด้วยที่เห็นอู๋อี้ฟานซักเท่าไหร่ กลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมจากคนตรงหน้า
“ฉันนึกว่าจะตายไปแล้วซะอีก”
“ปล่อย!!” เหมือนยิ่งห้ามก็เหมือนมันจะยิ่งตรงกันข้ามทุกอย่าง แรงบีบที่ข้อมือเริ่มมีมากขึ้นเป็นเท่าตัวผิเพียงแค่สีหน้าของผู้กระทำยังคงเรียบเฉยและปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่าหวางจื่อเถา” มืออีกข้างค่อยลูบใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของคนเด็กหน้าตาดื้อรั้นที่แสดงหน้าตาเรียบเฉยๆผิดกับดวงตาที่สั่นระริกเมื่อคิดว่าต่อให้ดิ้นไปก็เหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันตามหานายจนแทบพลิกแผ่นดิน.....เลิกเล่นเกมแมวจับหนูซักทีเถอะ”
เสียงต่ำกระซิบชิดริมหู
“ฉันเบื่อเต็มทนแล้ว”
เด็กหนุ่มก้มมองร่างหญิงสาวผู้โชคร้ายที่ร่างสูงรากติดมือมาด้วย ดวงตาสั่นเทาเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าของร่างสูง เขารู้ดีว่ายังไงคริสก็ต้องหาเขาเจอไม่วันใดก็วันหนึ่ง....แต่นี่มันเร็วเกินไป เร็วเกินไปสำหรับหวางจื่อเถา
แต่ถ้าสำหรับอีกคน....มันคงยาวนานที่ต้องตามหาอะไรซักอย่าง
เขาพยายามค้นหาเสียงของตัวเอง แต่ก็พบว่ามันช่างแหบแห้งเสียเหลือเกิน
“นายฆ่าผู้หญิงคนนั้น” เถาพยายามเบี่ยงเบนประโยคสนทนาของร่างสูงที่มือหนาข้างหนึ่งยังคงล็อคไว้ที่แขนของเขาแน่นหนา และจบประโยคนั้นมือหน้าอีกข้างที่ลูบไล้ใบหน้าได้เปลี่ยนมาบีบไหล่มนอย่างแรงจนเถาหลุด ‘อึ่ก’ออกมาเบาๆ
"ชั่งมัน!"
คริสเชยคางเด็กหน้าเหวี่ยงขึ้นให้เห็นรอยยิ้มอารมณ์ดีของเขาแต่ดวงตานั่นกลับไม่ใช่
“มนุษย์ย่อมเป็นเหยื่อของฉันและนายอยู่แล้ว ทำไมต้องสนใจมัน?”
“ต้องขอบคุณยูยองแจนะรู้ไหม เด็กนั่นอุส่าเรียกชื่อจริงของนายให้ฉันตามหานายเจอ” ร่างบางปลิวไปตามแรงเหวี่ยงของอู๋ฟานจนไปอัดกับต้นไม้ใหญ่อย่างแรงจนเขาต้องแอ่นตัวเพื่อบรรเทาความเจ็บแปลบจนลืมที่จะหลบหลีกการเข้าถึงของคนตรงหน้าที่รวดเร็วจนเกินจับตามองทัน
มือทั้งสองข้างพยายามจะแกะอุ้งมือแข็งแกร่งที่กำมิดอยู่รอบรำคอมือประชิดถึงตัวเด็กน้อยที่เท้าของเจ้าตัวนั้นเขย่งเพื่อไม่ให้น้ำหนักถ่วงลงพื้น
“อ่อก!คะ...!” แรงบีบเพิ่มขึ้นไปอีกจนหวางจื่อเถาต้องเชิดหน้าอ้าปากเพื่อกอบโกยอากาศ เขาสบตากับผู้ที่บีบคอยกเขาจนตัวเกือบลอยด้วยมือข้างเดียว ดวงตาสีนิลของผู้กระทำแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวลจับจ้องไปยังใบหน้าทุกข์ทรมานของคนที่ตัวเองตามหาราวแทบพลิกแผ่นดิน
แววตาของเขาดูไม่มีความสงสารหลงเหลือเลยสักนิด มันหลงเหลือไว้แค่ความว่างเปล่าที่ยากแก่การจะเข้าถึง ไม่มีใครรู้ว่า อู๋อี้ฟานกำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าที่ฉายรอยยิ้มเย็นยะเยือกตลอดระยะเวลาที่กำลังบีบลำคอของเถาไว้แน่นจนไม่สนใจว่าแขนของตัวเองจะมีรอยข่วนไปแล้วกี่แผล
“คิดว่าหนีมาอยู่กับมันแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้ใช่ไหม”
“คิดว่ามันจะคุ้มเงาหัวไปได้ตลอดชีวิตหรือไงหวางจื่อเถา!”
อู๋ฟานกระแทกเถาซ้ำเข้ากับต้นไม้ใหญ่อีกครั้งเมื่อเขาเห็นเด็กร่างบางคนนี้ไม่ยอมตอบคำถามของตัวเองแล้วค่อยๆปล่อยคลายมือที่บีบกุมลำคอของเถาไว้จนเจ้าตัวค่อยหล่นลงไปกองกับพื้น
ร่างบอบบางสูดอากาศหายใจเข้าไปเต็มปอดแล้วสำลักออกมาอย่างแรงก่อนจะสูดอากาศเข้าไปอีกครั้ง สายตาฉายแววโรทอย่างเห็นได้ชัดที่เงยหน้าไปสบตากับผู้ที่ยืนค้ำหัวตัวเองอยู่ ถึงแม้ข้างในจะแสดงอาการณ์หวาดกลัวร่างสูงอยู่บ้างก็ตามผิดกับอีกคนที่รับเปลี่ยนสีหน้าและแววตาให้เรียบเฉยได้อย่างไม่รู้สึกอะไร
“นะ..นาย กะ..กำลัง ทำ..ฮะ..ให้เกิดสงคราม” เสียงหอบที่กำลังกอบโกยอากาศหายใจเรียกให้คนตัวสูงกว่าย่อลงนั่งมองสภาพของตนเองอย่างไม่รีบร้อน นิ้วเรียวบรรจงเชยคางเด็กหน้าเหวี่ยงแต่ก็แต่โดนสะบัดหน้าหนี
“ในการศึกสงคราม....มันไม่มีจำกัดรูปแบบ”
อู๋ฟานเสยผมตัวเองลวกๆอย่างคนหัวเสียเมื่อเห็นเถาเริ่มจะดื้อกับตัวเองอีกครั้ง การกระชากลำตัวที่บอบบางกว่าตนเองให้มาประจันหน้ากับตัวเองมันดูจะสร้างความเจ็บให้กลับเถาอีกครั้งหนึ่ง
“จะบอกอะไรให้นะ”
“.....”
“สงครามมันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วโดยคนที่จุดชนวนตัวจริง...มันไม่ใช่ฉัน” รอยยิ้มร้ายเริ่มฉายซ้ำเข้ามาให้โสตประสาตตาของเถาอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจบสิ้น รอยยิ้มแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่สำหรับตัวเถาเอง รอยยิ้มนั้นมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อนานมาแล้ว รอยยิ้มร้ายที่มาพร้อมกับไอเย็นยะเยือกไปจนถึงขั้วหัวใจ
ก่อนที่คนรักของหวางจื่อเถาจะโดนสูบเลือดจนหมดตัวแล้วปล่อยให้ตายไปในกองไฟไปต่อหน้าต่อตา.......
“ฆ่าฉันสิ” น้ำเสียงสั่นเครือที่มันมีทุกอารมณ์ผสมปนเปไปหมดของร่างเล็กที่ยังอยู่ในพันธนาการของร่างคนที่เหนือกว่าจนอู๋ฟานต้องปล่อยเสียงหัวเราะจนเสียงขึ้นจมูกแล้วชะโงกหน้าของตัวเองให้เข้าไปใกล้กับเด็กที่ชอบท้าทายอำนาจของตัวเองยิ่งขึ้น
“ฆ่านายให้ตายมันก็ดูจะไม่คุ้มกันซักเท่าไหร่ สู้ฉันฆ่าคนที่นายรักแล้วดูนายเจ็บปวดจนอยากจะตายไปเองมันจะไม่ดีกว่าหรอคนดีของฉัน?”
“ฮึก!” หยดน้ำใสๆไหลออกมาช้าๆจากดวงตาคู่สวยของเถาอย่างไม่คิดจะห้ามเอาไว้ จนอู๋ฟานต้องค่อยๆใช้มือเรียวค่อยเกลี่ยน้ำตานั่นออกโดยที่ยังคงมีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า แล้วค่อยๆจุมพิตปากสวยอย่างแผ่วเบาโดยที่อีกคนยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาพร้อมกับแรงสะอื้นของตัวเอง
คริสค่อยๆผละริมฝีปากของตัวออกจากริมฝีปากเถาช้าๆ
“โกรธหรอ?” เสียงเข้มพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างบางสั่นเทาบนพื้นดินแล้วกำหมัดเอาไว้แน่น และสิ่งที่ได้มาเป็นคำตอบแรกคือดวงตาเรียวหวานที่จ้องมองอย่างอาฆาต
ผลัก!!!
หมัดหนักๆสวนไปที่หน้าหล่อเหล่าแทนคำตอบของเถาทันทีจนอู๋อี้ฟานต้องฟุบไปกับพื้น และเป็นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้นที่เถาต้องรีบลุกขึ้นยืนอย่างเต็มความสูง สายตาเลิกลักแสดงอาการณ์ตกใจกับผลงานของตัวเองอยู่บ้างที่ร่างสูงเงยหน้าขึ้นหมาแล้วจับบริเวณริมฝีปากที่มีเลือดของตัวเองไหลออกมาเพียงเล็กน้อย
.....เพราะหวางจื่อเถาไม่เคยทำร้ายอู๋อี้ฟานได้เลย.....
“ฉันไม่มีวันกลับไปกับนาย...ถ้าอยากจะเอากลับไปก็รอตอนที่ฉันตายอยู่ในสงครามก็แล้วกัน”
สายตาตื่นตระหนกเปลี่ยนเป็นสายตาที่เรียบเฉยโดยทันที เถาก้าวถอยหลังห่างจากตัวคริสอย่างช้าๆโดยที่อีกคนที่อยู่ใกล้เพียงเอามือคว้าเอาไว้แต่เจ้าตัวก็ปล่อยให้เถาค่อยๆเดินถอยหลังก่อนจะรีบหนีไปโดยที่ตัวเองไม่คิดจะตาม ดวงตาแข็งกร้าวฉายชัดทันทีที่คู่กรณีหนีไปไกลสุดตาจนกระแสความเยือกเย็นเข้าแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณผืนป่าสน
....หวางจื่อเถากำลังทำให้อู๋อี้ฟานโกรธเพราะคำที่อวดดีของตัวเอง .......
“งั้นฉันก็ฝากไปบอกบังยงกุกด้วยแล้วกัน”
“ว่าจะให้เวลานายอีกแค่สามวัน....แค่สามวันเท่านั้นที่นายจะได้อยู่บนโลกอันโสมมใบนี้หวางจื่อเถา”
“ตราบใดที่นายกับฉันยังมีพันธะกันอยู่ ตราบนั้นนายก็จะหนีไปจากฉันไม่ได้”
Painkiller......
ภาพเก่าๆในวันวานกำลังจำถูกฉายซ้ำในยามที่หลับใหล
ในห้วงแห่งความฝันนั้นมันมีความจริงทั้งหมดปรากฏอยู่เด่นชัด
เหมือนจริงราวกับว่าเคยเกิดขึ้นมาก่อน........แต่แค่จำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
“ไม่ฆ่ามันก็บุญเท่าไหร่แล้ว!!”ชายร่างสูงตวาดคนที่โวยวายร้องไห้จนตัวโยนโดยที่ขาทั้งสองข้างถูกกุญแจมือตรึงเอาไว้อย่างหนาแน่นโดนไม่คิดจะให้เดินไปไหนได้อย่างสะดวก
กลิ่นเหม็นอับที่ชวนคลื่นไส้และเสียงร้องโหยหวนของนักโทษที่ถูกจองจำอยู่ในนี่อย่างสุดลูกหูลูกตา มันคือคุกใต้ดินที่ใครได้เข้ามาแล้วจะไม่มีวันได้กลับขึ้นไปเห็นเดือนเห็นตะวันอีก
“รักมันมากใช่ไหมแบคฮยอน รักมันมากหวงมันมากเลยใช่ไหมห๊า!” ร่างสูงเขย่าตัวแบคฮยอนอย่างแรงด้วยอารมณ์โทสะโดยไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะเจ็บมากหรือไม่ ยิ่งเห็นน้ำตาของคนตรงหน้ามากเท่าไหร่ยิ่งสร้างความโมโหให้กลับอีกคนมากเท่านั้น
“อย่าทำเขานะ ขอร้องล่ะอย่าทำอะไรเขาเลยนะ” เสียงสั่นเครืออ้อนวอนคนที่พร้อมจะฆ่าตัวเขาเองได้ทุกเมื่อ รอยยิ้มตลกร้ายเผยขึ้นบนใบหน้าที่คมคายนั่น และดวงไฟลูกใหญ่ก็แผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ร่างเล็กเอ่ยร้องขอชีวิตนั่นมอดไหม้ภายในพริบตา
เฮือก!!
ร่างเพียวสะดุ้งตื่นจากห้วงนิทราที่เหมือนจริงราวกับว่าเคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา เม็ดเหงื่อผุดออกมาเต็มใบหน้าของคุณหมอหน้าสวยเต็มไปหมด เหมือนกับวิ่งหนีอะไรมาออกจากในความฝันอย่างไงอย่างงั้น
“ฝันร้ายหรอเรา” แบคฮยอนลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของตัวเองและวสะบัดหัวแรงๆเพื่อไล่ความง่วงออกไป เจ้าตัวเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องก่อนจะเบนสายตาไปที่หน้าต่าง
“ตีสามแล้วฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยหรอ?” แบคฮยอนเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเองอีกครั้งพร้อมกับทำหน้าเหยเกเมื่อรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิในร่างกายของตัวเองและอาการหนึบๆของศีรษะ
บยอนแพคฮยอนกำลังจะไม่สบาย......
คุณหมอฝืนร่างกายตัวเองให้ลุกจากที่นอนหนานุ่มอย่างยากลำบากเพื่อตรงดิ่งไปหยิบยาแก้หวัดมากินแล้วจะกลับไปนอนต่อ แต่ปลายเท้ากลับไปหยุดบริเวณหน้าต่างของห้องนอนแทนเมื่อปลายหางตายดันเหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติที่อยู่นอกหน้าต่าง ภายนอกหน้าต่างนั่นในขณะที่ฝนกำลังตกหนักและไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดง่ายๆ เขาคนสองคนกำลังเหมือนจะคุยอะไรกันอยู่ แต่คนบ้าอะไรมันจะมาคุยกันกลางสายฝนแล้วดึกๆดื่นแบบนั้นล่ะ และยิ่งไปกว่านั้นเวลาแบบนี้มันไม่ค่อยมีมนุษย์คนไหนกล้าออกมาหรอก เมืองนี้อันตรายจะตาย แล้วตาสวยของแบคฮยอนก็ต้องเบิกโพลงจริงๆเมื่อเจ้าตัวเห็นเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น
ปัง!!!
เสียงปืนดังไปทั่วละแวกนั้นและมันก็น่าจะดังพอที่จะทำให้คนแถวๆนั้นตื่นกันขึ้นมากลางดึกได้ แต่ต้องไม่ใช่ละแวกของเมืองนี้ ชายหนึ่งในนั้นล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นโดยที่อีกคนหนึ่งได้วิ่งหนีไปอย่างไม่รีบร้อน
แบคฮยอนช็อคไปชั่วขณะที่เห็นฉากยิงกันต่อหน้าต่อตาตัวเอง
ปึง ปึง ปึง!
“แบคฮยอน!” เสียงเคาะประตูห้องนอนของตัวเองดังขึ้นเร็วและรัวพอที่จะเรียกสติที่หระเจิดกระเจิงกับฉากตรงหน้าต่างได้ดีจนแบคฮยอนรวบรวมสติได้ว่าต้องไปเปิดประตู
“ฉันได้ยินเสียงปืน นายได้ยืนหรือเปล่า” ไม่ใช่แค่ได้ยินแต่บยอนแบคฮยอนอยากจะบอกเหลือเกินว่าตัวเองดันไปเห็นฉากเด็ดพอดิบพอดี
“เสียงอะไรหรอพี่คยองซูมันดังมากๆเลย” เด็กน้อยอายุห้าขวบภายในชุดนอนสีชมพูที่อุ้มตุ๊กตาหมีเน่าๆพร้อมขยี้ตาที่บ่งบอกว่าเพิ่งตื่นนอนเพราะเสียงปืน เอ่ยถามคยองซูที่ก็ยืนเหรอหราไม่ต่างกับแบคฮยอน จนแบคฮยอนที่ตื่นจากอาการตกใจต้องจูงมือคยองซูให้ไปที่หน้าต่างห้องนอนของตัวเองพร้อมกับชี้ไปทีจุดเกิดเหตุโดยที่มีคนเจ็บนอนตากฝนโดยที่ร่างกายไม่ขยับไปไหน
“ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นโดนยิงต่อหน้าต่อตา” คยองซูนิ่งค้างไปทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้าแต่คงจะน้อยกว่าคุณหมอที่ดันตื่นมาเห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี
“คยองซู อยู่กับดายองแปบนึงนะเดี๋ยวฉันมา” คุณหมอรีบวิ่งลงจากชั้นสองที่เป็นห้องนอนของเขาอย่างรวดเร็วพี่รีบไปดูคนที่นอนอยู่ข้างนอกจนคยองซูต้องรีบวิ่งตามลงมาอีกแรง แล้วรีบคว้าแขนของแบคฮยอนอย่างรีบร้อน
“จะไปไหน นายจะไปไหน?” หน้าตาตื่นตลอดเวลาถามแบคฮยอนด้วยความเร่งรีบเมื่อเห็นว่าความที่มีจรรยาบรรณของความเป็นหมอในตัวแบคฮยอนเริ่มจะพลุ่งพล่านจนเกินความจำเป็นโดยลืมคิดถึงอะไรบางอย่าง
“ไปช่วยคนที่อยู่ข้างนอก” น้ำเสียงร้อนรนบวกกับการค้นหาร่มคันใหญ่ที่พอจะคลุมได้สองคนโดยไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างในคลินิกด้วยเลยว่าตอนนี้สีหน้าของคยองซูเป็นยังไง
“ฉันรู้ว่าจะไปช่วย แต่นายกำลังไม่สบายนะ” ไม่ใช่ว่าคยองซูจะเห็นแก่ตัวในเรื่องที่จะช่วยเหลือใครนะเพราะเจ้าตัวเองก็เข้าใจในความเป็นหมอของแบคฮยอนว่าจรรยาบรรณต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด แต่ตัวเองก็ป่วยไม่ใช่หรอไงเล่า ขืนออกไปทั้งที่ฝนตกด้วยแบบนี้ ได้ป่วยหนักกันพอดี คราวนี้ก็ไม่ต้องรักษามันหรอกคนไข้น่ะ รักษาตัวเองแทน
“แต่ถ้าเราไม่ช่วยเขา เขาอาจจะตายได้นะคยองซู!” แบคฮยอนย้อนคยองซูทันทีที่อีกคนเริ่มจะไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ของตนเอง แบคฮยอนต้องการจะช่วยคนที่บาดเจ็บอยู่ข้างนอก ถ้าไปช้ากว่านี้คนที่นอนตากฝนอยู่ตรงนั้นอาจจะต้องถูกนำไปทำพิธีทางศาสนาแน่ๆ
บยอนแบคฮยอนน่ะมีจิตใจที่อ่อนโยน อ่อนโยนเกินไป จนกลายจะเป็นคนที่บอบบางไปด้วยเมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจที่แสนจะโอบอ้อมกับทุกคน แบคฮยอนอ่อนโยนมาอย่างไงก็ยังคงเป็นอย่างนั้น จนโดคยองซูยังต้องยอมแพ้ในความเป็นคนดีของคุณหมอคนนี้เหลือเกิน
แบคฮยอนรีบวิ่งฝ่าพายุฝนเพื่อไปตรงที่เกิดเหตุโดยที่ในมือก็ยังคงกางร่มคันใหญ่อยู่ พอไปถึงที่เกิดเหตุคุณหมอก็ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ เพราะเลือดที่ดูจะไหลออกมาจากตัวคนที่นอนหมดสติอยู่กลางสายฝนมันมากผิดปกติ ร่างเล็กทิ้งร่มทันทีแล้วรีบเรียกสติคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนน
“คุณครับ คุณ!” ร่างเล็กเขย่าคนที่ไม่มีทีถ้าว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ และสุดกำลังของตัวเองแล้วแบคฮยอนจึงต้องรีบพลิกกายคนที่บาดเจ็บที่ไม่รู้ว่าตายหรือยังไม่ให้นอนคว่ำหน้าทิ่มไปกับพื้นถนน ความตกใจของแบคอยอนเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าตาที่ขาวซีดของคนที่ถูกยิง
....คนที่เขาเจอที่วิหารบูคาเรส.....
ร่างกายของคนตัวสูงเริ่มขยับเล็กน้อยเมื่อได้รับการเขย่าตัวจากคุณหมออย่างแรง น้ำฝนที่หยดใส่ไปทั่วใบหน้าเป็นเหตุทำให้ร่างสูงที่หัวกำลังอยู่บนหน้าตักของคุณหมอต้องกระพริบตาเล็กน้อย เหมือนพยายามจะลืมตา รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแพคฮยอนที่แสดงออกมาว่าตัวเองดีใจที่ยังไม่เห็นคนต้องหน้าตายไปซะก่อน
“อัก..ฮะ” คนเจ็บพยายามจะพูดบางอย่างกับแบคฮยอนแต่คุณหมอต้องหยุดเอาไว้ก่อนเพราะถ้าไม่รีบเอาตัวเข้าไปในคลินิกมีหวังทั้งเขาและคนเจ็บอาจจะต้องเป็นปอดบวมตายแน่ๆ
“คุณไม่ต้องพูดอะไรตอนนี้นะ ผมจะพาคุณเข้าไปทำแผลข้างใน คุณ..โดนยิง” แบคฮยอนพยายามแบกคนที่ตัวสูงกว่าเข้าไปในคลินิกของตัวเองอย่างทุลักทุเลเพราะคนเจ็บที่ดูจะสูงกว่าตัวเองมากแถมดูอาการเจ็บแล้วมันสามารถถ่วงน้ำหนักตัวเองให้เขาทั้งสองล้มลงไปเลยก็ได้ จนไม่ได้สังเกตสักนิดว่าคนตัวสูงที่หลับตาเพราะว่าโดนยิงนั้นกำลังลอบยิ้มออกมาให้เห็น
“คยองซูช่วยฉันหน่อย” เมื่อมาถึงคลินิกคุณหมอก็ตะโกนเรียกเพื่อนของตัวเองให้มาช่วยทันทีโดยที่คนทีถูกเรียกก็รีบวิ่งมาดูคนที่แบคฮยอนลงทุนวิ่งฝ่าฝนไปช่วยชีวิต
โดคยองซูชะงักไปทันทีเมื่อเห็นคนที่แบคฮยอนแบกมาด้วยความทุลักทุเล
‘บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าอย่ามายุ่งกับบยอนแบคฮยอน...’
อดีตที่แสนสาหัสจนเกินจะเยียวยา.....ของบยอนแบคฮยอน
ปาร์คชานยอล.......
คนที่นายช่วยอาจจะปลอดภัย...แต่จะเป็นตัวนายเองที่จะไม่ปลอดภัย...บยอนแบคฮยอน
TBC....
เล็กจะบอกแล้วนะ:: รู้สึกนะว่าคาแรคเตอร์ของน้องโด้กับแบคฮยอนทำไมเหมือนมันจะสลับกันว๊ะ!!
คยองซู คยองซู๊ ฮูอายู๊ววววว ชานยอลบุกบ้านแบคกี้!!!
คงจะไม่ได้อัพอีกนานโข เพราะงานมันล้นมือ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อิหยอยแกเล่นไม้นี้เลยเหรอ =[]=
ยิงก้ไม่ตายหรอก ไม่ต้องไปช่วยมันแบคกี้
แล้วอดีตแบคนอกใจชานหรอ ชานถึงได้โกรธแบบนั้น
แล้วนี่เทาจะเป็นไงอ่ะ พี่คริสจะไม่ปล่อยไปแล้วใช่มั้ย
คงได้เกิดสงครามล้างผลาญกันจริงๆ
อิตอนลากผู้หญิงมาด้วยเนี่ยน่ากลัวโคด
แล้วแม่งรุนแรงกับน้องเทามากอ่ะ
อิพี่คริสมันฆ่าคนรักเทาเทาเหรอ? -0-
แล้วอิหยอยนี่แผนสูงเนอะ -*-
ดู๊ดูมัน ถึงขั้นจัดฉากโดนยิงให้น้องแบคมาช่วยกันเลยทีเดียว
เอาไงดีละน้องโด้ น้องแบคพามันเข้าบ้านแล้ว่อะ T^T
เฝ้าแบคฮยอนไว้ดีดีเลยนะน้องโด้ อย่าให้คลาดสายตาเชียว
ความหลังของน้องแบคมันคงเจ็บเกินเยียวยาจริงๆ
แล้วน้องโด้ก็คงรู้ดีด้วยใช่มั๊ย?
เมื่อก่อนมันคืออะไร? อิหยอยมันทำอะไรกับน้องแบค?
มันฆ่าใคร? ฆ่าคนรักแบคเหรอ? TT______TT
มันไม่อยากอธิบายเป็นคำพูดเเล้วอะ
มันระเบิดระเบ้ออาปาดีโก้อาปาดิเก้มาก- -' #อะไรของแกฟ่ะ
โอ้ยอดีตของเเบคฮยอน อดีตของเถาเถา อดีตของเเต่ละคน
น่าติดตาม น่าค้นหา ไม่ไหวเเล้ว สงสัยสงสัย -..-
เเละที่สงสัยมากทีสุดเด็กดายองลูกใครเเว้ 555+
แกอย่าทำอะไรแบคยอลของเค้าน้าาา
เฮียคริส สงสารอาเถาบ้างเต๊อะ รุนแรงเกินไปล่ะ
ชานยอล แกจะทำอะไรแบคของเค้า >< ไม่เอาน้าาาา
ปล. จริงๆค่ะไรเตอร์ บุคลิกของโด้กะแบคมันสลับกันจริงๆ ก๊ากกๆๆๆๆๆ
ปล2. เมะของไรเตอร์นี่ร้ายๆกันทุกคนเลยอ่ะ (แต่ชอบอ่ะ เหอๆๆๆๆๆๆๆ)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 สิงหาคม 2555 / 23:14
ชานเอ้ย!! ถึงตอนนี้ยังจะแก้แค้นอีกเร้อ-.- เค้าจำไม่ได้ก็ปล่อยไปเหอะ สงสารTT'
อดีตของแบคท่าจะเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก T^T
เรากำลังงกับความคิดของโด้มากๆตอนนี้
ทำไมโด้ถึงรู้ได้ล่ะ
ทำไมถึงรู้ล่ะ
รีบๆมาต่อนะไรเตอร์
ส่วนเถา....;__;
ทำไมถึงรุนแรงกับอาเถาได้ถึงขนาดนี้?
นิครับไม่ได้ วิ่งไปซบชานยอล กรี๊ดดดดดดดดดดด ♥
ยอลอย่าทำอะไรแบคเลยนะพลีสสสสสสสสสสสสส
เฮียโหดไปนะ ใจเยนๆกันไว้
หนุกอ่าาา รู้สึกมีอารมร่วมไปดว้ยย
รีบมาต่อน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา