ตอนที่ 9 : ✖ EP.7 ✖
Rolling in the deep......
You had my heart inside of your hands......
And you played it to the beat...
มีบาทหลวงกำมะลอผู้หนึ่งได้บอกกับผมไว้ว่า คุณหมอน่าสวยคนนี้ความทรงจำได้หายไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
เขาจำอะไรไม่ได้เลยซักอย่างเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่แสนยาวนานเหล่านั้น มันถูกลบเลือนไปจนหมดสิ้น
ทุกสิ่งทุกอย่าง.....
จนในที่สุดเจ้าของชีวิตตัวจริงก็ต้องเชื่อกับคำพูดนั้นของบาทหลวงจอมปลอมเมื่อคุณหมอคนนั้นดูจะไม่ได้ตกใจหรือหวาดกลัวเลยซักนิดเมื่อได้เห็นหน้ากับคนที่ร้ายที่สุดในสายตาของตัวเองในช่วงเวลาที่สูญหายไป
แต่ใครจะสนว่าคุณหมอคนนี้ความจำเสื่อมหรือไม่?
เพียงแค่ยังมีลมหายใจไว้ให้ปาร์คชานยอลผู้เดียวก็พอ.....
คิ้วสวยที่เริ่มผูกกันเป็นปมแสดงออกได้ถึงความเคร่งเครียดที่พยอนแบคฮยอนมีอยู่กับการเอากระสุนออกจากบริเวณช่วงบริเวณเอวทางด้านซ้ายของหน้าท้องแบนราบของคนที่ตนเองแบกอย่างทุกลักทุเลมาจากด้านนอก จนผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยอย่างโดคยองซูต้องคอยพูดให้คุณหมอที่จรรยาบรรณสูงเสียเกินลดหย่อนความเครียดบ้าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตายนิ่งๆและจิ๊ปากใส่ตัวเองเสียอย่างนั้น พอบอกว่าจะทำแผลให้คนเจ็บแล้วให้แบคฮยอนไปพักผ่อน เจ้าตัวก็ปฏิเสธลูกเดียว
หาให้ตายยังไงก็ไม่เจอหรอกคุณหมอ ไอ้ลูกกระสุนอะไรนั่นน่ะ....
ถึงมีอยู่ชานยอลก็ไม่เป็นอะไรหรอก....
คยองซูอยากจะบอกแบบนั้นซะให้ได้ แต่ถ้าพูดออกไปนอกจากแบคฮยอนจะไม่เชื่อแล้วยังจะเหวี่ยงใส่เขาอีกแน่ๆ ถึงเจ้าตัวจะอ่อนโยนแค่ไหน แต่ไอ้นิสัยขี้วีนขี้เหวี่ยงมันก็ยังมีในตัวแบคฮยอนอยู่ดี
ผิดกับคนไข้ที่เล่นละครตบตาแบคฮยอนจริงๆ เจ้านั่นสำออยแกล้งไม่ได้สติแล้วปล่อยให้แพทย์นั่งคว้านยันล้างแผลที่ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาๆป่านนี้คงจะเจ็บแล้วร้องโวยวายลั่นคลินิกหรือไม่ก็สะดุ้งขึ้นมานิดหน่อยเพราะคุณหมอไม่ได้ฉีกมอร์ฟีนหรือยาชาให้เมื่อโดนทั้งแอลกอฮอล์ทั้งทิงเจอร์แล้วไหนจะคีมที่ควานหากระสุนอีก
“ไม่เจอกระสุนปืน” เหมือนว่าจะเป็นประโยคแรกที่แบคฮยอนให้มาพูดกับคยองซูตั้งแต่ทำง่วนอยู่กับการทำแผล และดูเหมือนไอ้ประโยคนี้จะทำให้คยองซูถึงกับกุมขมับให้กับความเป็นคุณหมอของแบคฮยอนจริงๆ ก็กระสุนมันไม่ได้อยู่ในตัวชานยอลตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จะไปมีได้ยังไงเล่าแบคฮยอน
“มันอาจจะไม่มีกระสุนอยู่ในร่างกายก็ได้แบคฮยอน ฉันว่านายไปนอนเถอะ” คยองซูที่ดูเหมือนจะพยายามไกล่เกลี่ยให้หมอที่เหมือนจะดื้อแพ่งที่ยืนยันจะทำแผลไอ้คนที่สำออยแกล้งใกล้จะตายเพราะโดนยิงให้สำเร็จ
“แต่เขาคนนี้โดนยะ...”
“เดี๋ยวฉันดูแลต่อจากคุณหมอเอง ไปพักผ่อนเถอะนะ ถ้านายป่วยหนักขึ้นมาพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องรักษาคนไข้กันพอดี” คนตาโตรีบพูดขัดคุณหมอทันทีเมื่อรู้ว่าเจ้าตัวคงจะไม่ยอมและยังคงจะเถียงกับไอ้แค่หากระสุนไม่เจอ จนโดคยองซูอยากจะบอกจริงๆนะว่า ไอ้คนที่นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงน่ะ มันไม่ใช่มนุษย์จริงๆ แต่สายตากระเง้ากระงอก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจอันแรงกล้าอีกคนต้องตั้งเงื่อนไขเล็กน้อยกับแบคฮยอน
“ถ้าเขาฟื้นแล้วฉันจะเรียกนายให้มาดูอาการแล้วก็ล้างแผลเอง” และเหมือนจะได้ผลเมื่อคยองซูทำสายตาออดอ้อนกลับคืนไปที่คุณหมอหน้าสวยพร้อมกับยื่นข้อแลกเปลี่ยนจนแบคฮยอนยอมลุกจากเก้าอี้ที่อยู่ข้างเตียงผีตายซากที่เจ้าตัวไปช่วยเอาไว้แล้วตรงไปสะกิดดายองที่หลับอยู่ตรงโซฟาสีแดงเลือดนกบริเวณมุมห้องให้ขึ้นไปนอนต่อข้างบน
เมื่อคนที่อาสาจะดูแลต่อแน่ใจแล้วว่าแบคฮยอนเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วจริงๆจึงหันไปมองบาดแผลที่ถูกจากการโดนยิงของชานยอลค่อยๆสมานกันจนดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของร่างสูง ดวงตาที่หลับสนิทๆค่อยๆลืมช้าๆพร้อมกับยันตัวของตัวเองมาพิงกับหัวเตียง
“บอกไปแล้วไม่ใช่หรอไงว่าอย่ามายุ่งกับแบคฮยอน” น้ำเสียงราบเรียบและสายตาที่เหมือนเด็กหวงของเล่นถูกส่งไปยังร่างสูงที่ตื่นขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียง ที่ความเป็นจริงแล้วตัวเขาเองไม่ได้หลับเลยแม้แต่นิดจึงดูจะไม่แปลกที่เขาจะได้การสนทนาที่เหมือนจะเป็นเรื่องของเขาทั้งหมด
“นิสัยมันแก้ไม่หายจริงๆเลยนะ” ดวงตาคมทอดมองไปจนสุดทางขึ้นบันไดชั้นสองโดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของอีกคนที่มาอยู่แทนแบคฮยอนซักนิด
“ต้องการอะไร” คนถูกถามหันมาสบตากับคยองซูช้าๆ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง
“มาเอาของเล่นของฉันคืน”
“งั้นฉันก็ขอแสดงความเสียใจกับนายด้วย”
“.....”
“นายจะไม่มีวันได้เขากลับไป” สายตาที่นิ่งจนไม่เหมือนคยองซูคนเดิมถูกส่งออกมายังร่างสูงที่ไม่มีใครเคยเห็นสายตาแบบนี้ของเขามาก่อน จนชานยอลถึงกับร้อง ‘หึ’ ออกมาจากลำคอ
“แบคฮยอนตายไปแล้วไม่ใช่หรอชานยอล นายเข้าใจว่าแบคฮยอนตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง”
“คนเรามันก็สามารถเข้าใจผิดกันได้” คีมหนีบที่คนตัวเล็กเคยใช้เพื่อจะหนีบลูกกระสุนที่อยู่ในตัวเขาถูกยกขึ้นมาพิจารณาดูคราบเลือดที่เกรอะกรังอยู่บริเวณปลายเหล็ก ก่อนจะนึกขำกับการกระทำของแบคฮยอนเมื่อครู่แต่ดันมาโดนอีกคนขัดจังหวะซะก่อน
“นายลงมือทำร้ายแบคฮยอนด้วยกับมือของตัวเองด้วยซ้ำ”
“แล้วไง”
“.....”คยองซูไม่คิดจะพูดอะไรต่อเพราะรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่ายังไงชานยอลก็ยังไม่รู้สึกอะไรหรอกกับการกระทำและคำพูดของตัวเอง ไปจนปากเปียกปากแฉะชานยอลก็จะคิดเสมอว่าตัวเองไม่ผิด
“อย่ามาขวางทางฉันโดคยองซู” สายตาที่ขี้เล่นของร่างสูงตระง่านเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชาทันที แล้วยื่นใบหน้าของตัวเองไปกระซิบข้างหูของคู่สนทนาที่อยู่ตรงหน้า จนดวงตาที่กลมโตเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของคยองซูต้องเบิกโพรงทันทีพร้อมกับกำหมัดไว้แน่นเมื่อคนที่เหมือนจะถือไพ่เหนือกว่างัดไม้ตายมาใช้กับเขา ชานยอลละออกจากกระกระซิบกับคยองซูแล้วมองหน้าคนตรงหน้านิ่งๆที่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับคำพูดของตนเองก่อนจะคลี่ยิ้มจนตาหยีของเขาออกมาให้คยองซูได้เห็น
“ เลือกเอาแล้วกันคยองซู”
“นายไม่กล้าหรอก” ดวงตาสั่นละริกเหมือนจะมีน้ำใสๆกลอกกลิ้งอยู่บริเวณรอบดวงตากลมโตที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ
“ฉันทำได้ทุกอย่าง” รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของชานยอลอีกครั้งที่มันดูขัดกับคำพูดของตัวเองที่พูดกับคยองซูแต่ผิดกับอีกคนที่เหมือนกับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกายหรือการกระทำ
“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้นายเอาแบคฮยอนไปหรอก”
ร่างสูงพยักหน้าอย่างเข้าใจถึงเจตจำนงของคยองซูที่ยังยืนยันคำเดิมที่จะขวางทางเขาอย่างจริงจัง แล้วจึงเอนตัวกลับไปนอนหลับตาทำเป็นคนเจ็บเหมือนเดิม สีหน้าที่อิ่มเอิบแปลเปลี่ยนเป็นหน้าที่ซีดเซียว ร่อยรอยของการโดนยิงกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเลือดที่ซึมออกมาจากผ้าพันแผลที่พันรอบลำตัวของเขาเอาไว้
“ตี5แล้วโดคยองซู เปลี่ยนไปทำหน้าที่คุณแม่บ้านแล้วทำโจ๊กหมูไว้ให้แบคฮยอนกับเด็กน้อยได้แล้ว” น้ำเสียงติดสบายๆผ่านมาจากปากอิ่มสั่งให้คนที่เริ่มจะดื้อด้านกลับไปทำหน้าที่ที่แท้จริงของคนตัวเล็ก จนเจ้าตัวที่ทำหน้ายุ่งเหยิงเดินลิ่วไปที่ครัวเพราะนึกได้ว่าต้องทำเช้าให้คนที่เริ่มจะป่วยอยู่บนห้องทั้งๆที่ในสมองก็ยังคิดหนักกับคำพูดที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำขู่ของปาร์คชานยอล
เขาไม่เคยขู่ให้ใครกลัว....แต่เขาจะทำให้กลัวจริงๆ
ด้วยความที่เป็นห่วงคนไข้จนตัวเองหลับไม่เต็มตื่นหรือว่าจะข่มตาให้หลับสนิทไม่ได้ก็ไม่รู้ที่ทำให้คุณหมอตื่นมาเร็วกว่าปกติเท่าที่ควรจะเป็น และมันคงจะเป็นช่วงที่เหมาะเจาะกับพายุฝนด้วยที่ทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มถึงแม้ว่าเวลานี้มันจะต้องเห็นแสงอรุณที่อบอุ่นของพระอาทิตย์ ไปแล้ว แบคฮยอนพยุงร่างตัวเองที่ไข้หวัดเริ่มจะมารุมเร้าเหตุเพราะวิ่งตากฝนไปช่วยคนเจ็บที่นอนอยู่ข้างล่างโดยไม่รู้ถึงอาการว่าเป็นยังไงบ้างลงมาชั้นร่างของคลินิกของตัวเอง
“คุณคนนั้นเขาฟื้นหรือยังอ่ะคยองซู” แบคฮยอนเห็นคนตาโตเดินถือหม้อใส่ข้างในมีโจ๊กหมูของโปรดของตัวเองเดินผ่านมาพอดีกับทางลงบันไดที่ตัวเองยืนมึนๆก็ถามออกไปทันทีโดยที่ได้การตอบรับที่ดีเยี่ยมจากคยองซูคือทำหน้าเบ้ใส่ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปทางห้องพักคนไข้ชั่วคราว
“ไปดูเองแล้วกัน ป่านนี้คงจะฟื้นแล้วแหละ”
คุณหมอพยักหน้าอย่างเข้าใจกับการตอบรับของคยองซูก่อนจะรีบเดินดุ่มๆไปดูคนไข้แต่ก็ชักงักไว้แค่หน้าประตูห้องพักชั่วคราวก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านจำเป็น
“เอิ่ม คยองซูตักโจ๊กหมูเผื่อคนคุณคนนี้นอนอยู่ในห้องนี้ด้วยนะ เผื่ออาจจะต้องกินยาหลังอาหาร” รอยยิ้มบางๆถูกฉายออกมาเมื่อตัวเองสั่งการเรื่องอาหารให้คนไข้ของตัวเองอย่างเสร็จสรรพแต่ก็ต้องทำหน้าบู้ทู่ใส่พ่อครัวจนได้
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ หน้าตามันฟ้องว่านายกำลังเป็นไข้หวัด”
ชานยอลไม่ได้หลับตั้งแต่ที่เขาได้คุยกับคยองซูเสร็จแล้วก็ออกไปยังอาณาเขตของตัวเองเพราะว่ามันเหมือนจะเลยเวลาพักผ่อนของเขาไปแล้ว สายตาว่างเปล่าจับจ้องไปยังนอกหน้าต่างที่ข้างนอกนั้นฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่คิดว่าจะยอมหยุดตกเลยซักนิด
แกร๊ก
ชานยอลหันไปตามเสียงของลูกบิดประตูที่ดังขึ้นที่คนข้างนอกได้เปิดเข้ามายังห้องพักคนไข้ชั่วคราวที่มีตัวเขานอนเหยียดขาอยู่หรือจะเรียกให้ถูกคือห้องทำแผลคงจะเหมาะสมกว่า คนตัวเล็กที่มาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่ขัดกับใบหน้าที่เริ่มจะซีดเล็กน้อยเพราะผลจากการตากฝนเมื่อคืนจนทำให้เริ่มจะกลายเป็นคนไข้เสียเอง
“ฟื้นแล้วหรอครับ?”
ชานยอลไม่ได้พูดหรือตอบคำถามอะไรเลยกับแบคฮยอนซักคำ เขาเอาแต่มองคุณหมอคนนี้ที่กำลังเดิมตรงมาทางเตียงที่ตัวเขานอนเหยียดตัวตรงอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ความจำยังดีอยู่ พนันกันได้เลยว่าพยอนแบคฮยอนไม่มีวันมอบยิ้มอ่อนโยนให้กับชานยอลแน่นอน อาจจะเคยแต่ก็คงจะนานมาแล้ว
“คุณเอิ่ม...คุณ?”
“ชานยอล....ปาร์คชานยอล” เจ้าของเสียงทุ้มๆบอกชื่อของตัวเองอย่างปัดๆเมื่อเห็นอาการเก้ๆกังๆของคนตรงหน้าที่เหมือนจะเรียกชื่อของเขาแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไงในเมื่อจำชื่อไม่ได้.....ก็คนมันความจำเสื่อม ถ้าเรียกชื่อถูกเนี่ยสิแปลก
“อ่อปาร์คชานยอล ผมชื่อแบ..”
“แบคฮยอน...พยอนแบคฮยอน” แบคฮยอนเริ่มทำสีหน้างงเล็กน้อยที่ได้ยินชานยอลเรียกชื่อของตัวเองโดยที่ตัวเขายังไม่ได้แนะนำอะไรเลยซักนิด จนคนที่นอนอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมาเพียงเดียวก่อนจะกลับไปทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม
“คุณรู้จักชื่อของผมด้วย?”
“......” คุณหมอตัวเล็กทำหน้าบู้เล็กน้อยเพราะว่าสิ่งที่เขาถามมันกลับไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากคนเจ็บ
“ผมขอดูแผลหน่อยนะ คุณคงจะจำได้ว่าเมื่อคืนคุณโดนยิง” เมื่อไม่ได้คำตอบเจ้าตัวจึงเปลี่ยนเป็นดูบาดแผลของชานยอลแทน แบคฮยอนต้องค่อยๆช่วยพยุงร่างที่นอนอยู่ที่ทำเป็นพยายามจะลุกขึ้นนั่งเพราะกลัวว่าแผลที่ฝากคยองซูเย็บอาจการฉีกของบาดแผล
สีหน้าที่แกล้งทำเป็นเจ็บปวดเพราะผิดบาดแผลที่ชานยอลสร้างขึ้นมาเป็นฉากละครชั้นดีเยี่ยมที่ทำให้แบคฮยอนทีตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงเดียวกับเขาเชื่ออย่างสนิทใจ
“คุณพอจะจำได้ไหมว่าใครเป็นคนยิง”
“ฝนตกหนักขนาดนั้นฉันมองไม่ชัดหรอกว่าใครยิง”
คนที่กำลังใช้แขนอ้อมไปข้างหลังของคนเจ็บเพื่อจะเอาผ้าก็อตที่พันเอวของร่างกายที่เปลือยเพียงท่อนบนออกพยักหน้าทำเป็นรับดูโดยที่ไม่คิดจะเอะใจอะไรเพราะตัวเองกำลังใช้สมาธิในการทำแผลให้ชานยอล
“ถ้าเจ็บก็บอกนะ”
ชานยอลนั่งมองการกระทำของคุณหมอที่กำลังนั่งวุ่นวายกับการทำแผลหลอกๆของเขาอย่างเงียบๆอย่างไม่ละสายตา กลิ่นหอมอ่อนๆที่มาจากคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากำลังปะทะจมูกของชานยอลเรื่อยๆโดยทำมันสามารถเป็นสัญญาณบอกเลยว่าเขากับแบคฮยอนกำลังใกล้กันขนาดไหนจนเจ้าตัวยังเผลอเขยิบร่างกายไปใกล้คนตัวเล็กเสียเอง
ใกล้เกินไป.....บยอนแบคฮยอนอยู่ใกล้เขาเกินไป
การกระทำของแบคฮยอนที่เหมือนกับจะกอดเขาไว้ถ้าใครคนอื่นเข้ามาเห็นก็อาจจะเข้าใจแบบนั้นแต่มันกลายเป็นว่าเขากำลังเปลี่ยนผ้าก็อตผืนใหม่แล้วพันไว้รอบเอวของชานยอลเผื่อปิดแผลชะกันที่เกิดจากการโดนยิง
“เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ...ครับ” เจ้าของรอยยิ้มที่เหมือนนางฟ้าที่มักจะยิ้มแจกจ่ายให้กับคนไข้ของเขาทุกคนถึงกับชะงักทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่าใบหน้าของเขากับชานยอลห่างกันแค่ไม่กี่เซน ชานยอลที่ไม่ได้รู้สึกตกใจไปกับแบคฮยอนแต่กลับเป็นว่าเขากำลังเผยรอยยิ้มน้อยๆแต่สายตาเจ้าเล่ห์ออกมาแทน
“บยอนแบคฮยอน..นายจำฉันได้หรือเปล่า?”
หมดประโยคของชานยอล ภาพเก่าๆจากไหนก็ไม่รู้กำลังฉายซ้ำเข้ามาในโสตประสาทของแบคฮยอนทันที ราวกับว่าเขากับคนที่อยู่ตรงหน้าเคยรู้จักกันมาก่อน อาการปวดหนึบๆบริเวณศีรษะเริ่มจะรุ่มเร้าแบคฮยอนขึ้นเรื่อยๆเมื่อตนเองเริ่มจะคิดตามไปกับภาพที่อยู่ในหัวสมอง มือทั้งสองข้างกุมขมับของตัวเองแน่น ฝ่ามือเย็นยะเยือกจับข้อแขนทั้งสองข้างจนเจ้าของร่างกายนั้นถึงกับสะดุ้งโหยง ผิดกับชานยอลที่รับรู้ถึงอุณหภูมิในร่างกายของแบคฮยอนแต่กลับไม่แสดงกิริยาอะไรออกมา ไอเย็นกำลังแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณห้องจนสามารถสร้างหมอกควันมากมายได้ในพริบตา ร้อยยิ้มร้ายกาจเข้ามาแทนที่กับรอยยิ้มที่เป็นของเดิมจนเผยให้เห็นคมเขี้ยวทั้งสองข้างชานยอล ดวงตาสีนิลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวลทันทีที่แบคฮยอนสบตาของคนตัวสูง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะชานยอล!!” ร่างสูงจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสียเมื่อคยองซูกำลังจะขัดขวางเขาอย่างที่ตัวเองได้บอกเอาไว้ ดวงตาคมเปลี่ยนการโฟกัสไปยังคนที่ยืนขวางทางประตูอยู่
“นายจะเอาแบคฮยอนไปไหนไม่ทั้งนั้น!!”
“ฉันเตือนนายแล้วนะโดคยองซู” การสนทนาของเขาทั้งสองดูจะไม่ได้ลดละคารมลงไปเลย จนสร้างความมึนงงกับคนที่ยังอยู่ในเกาะกุมของชายร่างสูงที่เหมือนกับว่าสองคนนี้ได้รู้จักกันมาก่อน
“แบคฮยอนจำอะไรไม่ได้แล้ว” คยองซูกำลังแสดงอาการดื้อรั้นอย่างที่ตัวแบคฮยอนเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนจนชานยอลเริ่มจะทำหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับคนที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ตรงหน้า
“อย่ามองตานะแบคฮยอน!!!” ดูเหมือนว่าคำเตือนคยองจะช้าไปแล้วเมื่อดวงตาของคุณหมอพร่ามัวลงเรื่อยๆจนบนหน้าสวยนั้นฟุบลงไปบนไหล่ของชานยอลเพราะหมดสติ
“จัดการเจ้าเด็กดื้อด้านคนนี้ด้วย คยองซูกำลังทำนิสัยไม่น่ารัก”ชานยอลหันมายิ้มราวกับได้รับชัยชนะกับคยองซูแต่คำพูดมันบอกได้ชัดว่าชานยอลไม่ได้พูดกับคนที่กำลังขวางทางอยู่เลย
“ทำไมแกคนต้องมารบกวนเวลาพักผ่อนของฉันด้วยวะ” เสียงปริศนาที่บอกว่ามันมาจากข้างหลังของคยองซูตอบรับคำพูดของชานยอลเหมือนกับคนกำลังเบื่อหน่ายอย่างเต็มที่
ชายผิวสีแทนกำลังขยี้ผมตัวเองแรงๆราวกับหงุดหงิดที่ไม่ได้นอนอย่างเต็มอิ่มเพราะชานยอลเรียกให้มาในขณะที่ตัวเองกำลังหลับอยู่แท้ๆ ส่งสายตาไปยังคนที่นั่งกอดคนที่ฟุบลงกับบ่าของตัวเองอยู่แต่สายตาที่ปลื้มปรีติของคนที่เรียกเขามากลับไม่ได้อยู่กับคู่สนทนาเลย
“แรกกับตัวคยองซูก็คงจะคุ้มค่าเวลาพักผ่อนของคิมจงอินแล้วมั้ง”
“หึ”
ร่างของชานยอลหายไปพร้อมกับแบคฮยอนทันทีแต่หลงเหลือไว้แค่ประโยคที่เป็นระเบิดลูกใหญ่ให้กับคยองซูที่กำลังกำหมัดไว้แน่น
'รู้อะไรไหมดีโอ คนที่ยิงฉันเมื่อคืนคือจงอิน คิมจงอินจะมาเอาตัวนายไปแน่ถ้านายขวางทางฉันต่อให้พี่คริสก็พี่คริสเหอะแถมพี่ฮิมชานให้ด้วย ก็ช่วยนายไม่ได้อยู่ดีน้องรัก'
“Good morning my destiny โดคยองซู”
TBC..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วนี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย??????
อิปาร์คเป็นอะไรกับโด้เค้าล่ะ เป็นพี่น้องกันเลยเหรอ???
แล้วมาอะไรกับแบคล่ะ แต่กรี๊ดดดดด ไก่เค้าออกโรงแว้วววววว
อิหย๊อย!!! เอาน้องแบคไปจนได้อ่ะ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆ T^T
อิน้องโด้นี่มันพวกเดียวกับอิหยอยสินะ
แล้วแบบน้องโด้ัมันชอบแบคฮยอนเหรอ?
ทำไมถึงได้ตามมาอยู่ด้วยมาดูแลแบบนี้?
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก จงอินนนนนนนนน
แกอย่าทำอัลไลน้องโด้ของฉันนะ!!!!!!!
แอร๊ยยย เห้ยเเล้วเล่นพาสองคนนั้นไปเเล้ว เด็กดายองจะอยู่กะใครละเนี่ย ?
แล้วแบคเป็นใครนะ?
จัดเลยไค จัดแม่ง ง ง ง ง ง ง !!
ยอลกับโด้อ้ะ ป้าดดดดดดดดด ผิดคาด!
ยอลเริ่มรุกแล้วจ้า 5555555555
จะทำไรแบควะ ? แล้วเมื่อก่อนไปทำไรไว้ ?
กัมจงมาแว้ววววว มาถึงก็ "กู๊ดมอร์นิ่งมายเดสทินี่"
แกมาเอาฮาป้ะเสี่ย ? 5555555555555
ต้องดาร์กเส่ะ จะได้สนุก 555555
หนุกมาก หักมุมอ่ะ ที่แท้น้องโด้ก็เป็นน้องยอลนี่เอง แต่โด้ แกคิดไรกะแบคป่าวฟร้า
อั้ยย่าห์ >< เสี่ยออกแล้ว
ปล. ยอลเอ้ย อย่าทำไรแบคนะเอ้ย
ที่แท้เป็นพี่น้องกันเหรอ?
แล้วกัมจง
ว๊ากกกกก คู่ฟิน
คึคึคึ
นายจะเล่นละครเก่งไปแล้วน่ะ!!
ว่าแต่เมื่อก่อนยอลไปทำอะไรแบคมาาาาาา
โด้หวงแบคอ่ะ แอบคิดอะไรกับแบคอ่ะเด้ อ้ากกกกกก
รีบมาต่อน้าาาาาาาาาาาา เนื้อเรื่องสนุกมากกกกกก
ค้างมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก TOT!!!