ตอนที่ 3 : ตอนที่ 2 ตอนปลาย
หลังจากเย่หนิงลาก...ไม่ใช่ซิ เชิญรองแม่ทัพฉินมาพักผ่อนยังพรรคของตน เธอก็เกิดอาการนอนไม่ค่อยหลับมักสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะฝันร้ายตลอด ทำให้ใต้ตาหมองคล้ำใบหน้างอง้ำเพราะนอนไม่พอ
เย่หนิงรู้สึกไม่สบายใจจากส่วนลึก มีหลายอย่างน่าสงสัยบ่งชี้ไปว่ามีบางสิ่งไม่ปกติ คิดอย่างไรก็หาความเชื่อมโยงไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวนัก
ระหว่างที่เย่หนิงนั่งหน้าเครียด ลูกน้องทั้งหลายพากันตื่นเต้นคิดกันไปเองมากมาย
ใบหน้าเช่นนี้คือยามประมุขคิดประหารคน ท่านประมุขคงกำลังวางแผนก่อความวุ่นวายให้ยุทธภพ หรือกำลังคิดเปิดศึกเลือดนองแผ่นดิน ทุกชีวิตใต้การปกครองของนางมารล้วนตื่นเต้นกับรังสีที่แผ่ออกมาจากเย่หนิง
“ท่านประมุขให้พวกเราระดมกำลังจากสามสาขาเพื่อเตรียมความพร้อมหรือไม่ขอรับ!” หวงจี๋ระงับความตื่นเต้นที่จะได้ยืดเส้นยืดสายไม่อยู่จึงโผล่งถามออกมา
“ระดม ระดมทำไม?” เย่หนิงหันไปมองหวงจี๋แบบงงๆ
“ท่านประมุขมิใช่กำลังคิดพากองกำลังออกจากหุบเขาไปลุยยุทธภพหรือขอรับ?” หวงจี๋กระพริบตาถี่ๆ มองประมุขของตน
“...” ใบหน้าของมารดาดูเหมือนจะไปฆ่าล้างโคตรใครขนาดนั้นเลยหรือ เย่หนิงรีบดึงคันฉ่องขึ้นมาส่องดูใบหน้าของตน
“ท่านประมุขท่านจงหวนให้มาแจ้งว่าชายผู้นั้นฟื้นแล้วขอรับ” ลูกน้องของจงหวนเดินออกมารายงานประมุขของตน
เย่หนิงไม่รอช้า รีบลุกขึ้นแล้วก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปยังทางที่คนส่งข่าวเดินมา ความเร็วในการย่างก้าวเมื่อบวกพลังยุทธ์เข้าไปก็ไม่มีใครสามารถวิ่งไล่ตามทัน
หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบกับรอยยิ้มของคุณชายรองฉิน รอยยิ้มเจิดจ้าแสบตาจนเธออดยกมือขึ้นมาบังความเจิดจ้านั้นไม่ได้
“คุณหนูคือ?” ฉินหลิงกระพริบตามองสตรีที่พึ่งเข้ามาใหม่
“จงหวน” เย่หนิงกระดิกนิ้วเรียกลูกน้อง
“ข้าน้อยบอกฉินหลิงว่าคุณหนูเป็นคนช่วยกลับมาจากในป่า” จงหวนกระซิบรายงานก่อนขยิบตาให้เย่หนิง
ในยุทธภพนอกจากคนในพรรคไม่มีผู้ใดเคยพบใบหน้าแท้จริงของหัวหน้าพรรคมารฟ้า ทุกครั้งที่นางมารเย่หนิงออกไปจากพรรค นางจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า การที่ไม่มีใครจำนางได้ย่อมไม่แปลก จงหวนคิดว่าเขาช่างเป็นลูกน้องที่ดีช่วยปิดบังเพื่อให้ประมุขเขมือบบุรุษตรงหน้าลงท้อง
อา จะมีใครรู้ใจประมุขดีเท่าเขาคิดว่าไม่มีอีกแล้ว จงหวนคิด
เย่หนิงแทบอยากบีบคอลูกน้องที่พยายามหาโอกาสให้ตนนัก แต่จะมาระบายอารมณ์ไม่ได้ในตอนนี้ต้องหาวิธีจัดการกับคนตรงหน้าก่อนเพื่อไม่ให้ความแตก
“ข้าน้อยมีนามฉินหลิงไม่ทราบว่าผู้มีพระคุณมีนามว่าอย่างไร” รองแม่ทัพหนุ่มยิ้มละมุน
กริยาท่าทางของชายหนุ่มสมกับเป็นบัณฑิตผู้ทรงภูมิ เย่หนิงเห็นแล้วแทบนึกภาพรองแม่ทัพโหดร้ายผู้สังหารนางมารเย่หนิงไม่ออก แต่นางไม่ยอมถูกหลอกด้วยท่าทางสุภาพของอีกฝ่ายแน่นอน
“ข้าชื่อหนิงหนิง ไม่ทราบว่าเหตุใดคุณชายจึงประสบภัยมานอนตรงทางเข้าหมู่บ้านของข้าได้” เย่หนิงส่งสายตาไล่จงหวนและคนในห้องออกไป
“เรียนแม่นาง ข้าไม่รู้ควรเล่าเรื่องนี้ให้แม่นางฟังดีหรือไม่” ฉินหลิงทำท่าหนักใจ
“คุณชายอย่าได้คิดมาก เมื่อไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่เป็นไร ข้าเพียงอยากรู้ที่มาที่ไปพิษในร่างกายของท่านเท่านั้น”
“ข้าไม่ขอปิดบัง เมื่อราวเดือนก่อนพี่ใหญ่และข้าร่วมพาคนเดินทางเพื่อตามหาศัตรูผู้หนึ่ง โชคไม่ดีนักที่ข้าเพลี่ยงพล้ำสมุนของศัตรูที่ตามล่าจึงโดนพิษแปลกประหลาดชนิดนี้เข้า หมอทั่วแคว้นไม่สามารถถอนพิษทำได้แต่เพียงชะลอความตาย
แต่ไม่นานมานี้พี่ใหญ่ของข้าได้ยินเรื่องของหมู่บ้านที่มีหมอเทวดาอาศัยจึงได้พาข้าเดินทางเพื่อตามหาหมอผู้นั้น ไม่นึกว่าจะเข้ามาเจอค่ายกลของพรรคมารฟ้า...สภาพจึงเป็นเช่นที่คุณหนูเห็น” คุณชายรองฉินทำหน้าอับจนหนทาง
เมื่อเดือนก่อน...เย่หนิงร้องไห้ไม่ออก ดูจากช่วงเวลาพิษครั้งนี้ก็คงไม่พ้นฝีมือลูกน้องของเธอ แผลตามตัวก็เป็นเพราะค่ายกลพรรคเธออีก หนี้แค้นครั้งนี้หากแม่ทัพฉินไม่ใช่ซิแค่คนตรงหน้ารู้เข้าว่าเป็นเพราะเธอ ไม่ช้าตระกูลฉินคงได้ยกทัพมาถล่มหุบเขาเป็นแน่ เย่หนิงรู้สึกเย็นวาบที่หนังหัว
“คุณชายรีบรักษาตัวให้ดี พวกเราเป็นชาวบ้านธรรมดา ชายที่อยู่กับท่านเมื่อครู่คือหมอเทวดาที่พวกท่านตามหาอยู่ ปกติไม่รักษาคนนอกหุบเขาถือว่าท่านโชคดีที่เขายอมรักษา รีบๆ หายนะ” รีบๆ หายแล้วไสหัวไปไม่ต้องกลับมาจะดีที่สุด ประโยคหลังเย่หนิงได้แต่คิดไม่ได้พูดออกมา
“ขอบคุณคุณหนูมาก บุญคุณครั้งนี้เมื่อข้าหายดีรับรองจะตอบแทนแน่นอน”ชายหนุ่มโค้งตัวขอบคุณ
เย่หนิงโบกมือเกรงใจอีกฝ่ายก่อนจะขอตัวออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายนอนพักรักษาตัว แท้จริงเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อวิ่งออกมาสั่งการลูกน้องในพรรคปรับสภาพพรรคให้กลายเป็นหมู่บ้านแสนสงบ
ผู้คุมกฎขวานั่งพรวนดินปลูกดอกไม้ตามคำสั่งประมุขของตน ในใจแอบก่นบ่น ไม่น่าช่วยชีวิตเจ้ากุนซือผู้นั้นจริงๆ อา ลานประหารของข้า และแล้วลานลงทัณฑ์ของจงหวนก็กลายเป็นทุ่งดอกไม้สีสวยงาม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

5555555555555555555 จงหวนนนน ขำลานดอกไม้
ฮาสิครับ รออะไร