คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ผู้พิทักษ์แห่งวารี
“ อือ... ”
เสียงครางต่ำของคนที่กำลังหลับสบายดังออกมาจากหลังประตูไม้ในห้องส่วนตัวของกัปตันเรือโพไซดอนทำให้บรรดาลูกน้องคนแล้วคนเล่าที่ต้องการจะเข้าไปปลุกเพราะเห็นว่าสายมากแล้วพากันชะงักและกลับออกไปเงียบๆ แต่กลับตามมาด้วยข่าวนินทาหนาหูที่รวดเร็วซะยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง... ไฟร้ายที่ไม่มอดดับลงง่ายๆ...
ในห้องนอนของสแปร์โรว์หากค่ำคืนนั้นไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียวที่เข้ามานอน บนเตียงที่ยับยู่ยี่ หมอนหนุนนุ่มที่เคยวางอยู่หัวเตียงกระเด็นไปตกอยู่หน้าตู้ ผ้าห่มนวมผืนหนาไหลลงมากองอยู่บนพื้นเสียครึ่ง หากอีกครึ่งคลุมทับผู้ที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียง
ท่อนขาขาวเรียวคู่หนึ่งถีบพ้นออกมาจากชายผ้า ถูกเกาะเกี่ยวไว้ด้วยขาอีกคู่ที่มีมัดกล้ามมากกว่าและสีออกคล้ำแดด เหนือขึ้นไปอีกนิดฝ่ามือแข็งแรงรวบกำฝ่ามือเล็กเรียวไว้แน่น... และสูงขึ้นไปอีก... ใบหน้าคมคายเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแซมขาวชื้นเหงื่อน้อยๆ ซวนซบอยู่บนไหล่บางของอีกร่างที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง นัยน์ตาที่หลับพริ้มยังมีหยดน้ำใสเกาะพราวอยู่บนขนตา ริมฝีปากบางเป็นสีแดงสดราวกับถูกย้อม
“ อือ... ”
ร่างที่เล็กกว่าครางเบาๆ พร้อมกับเผยอเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นช้าๆ หากเทียบไม่ได้เลยกับน้ำหน้าที่ทาบทับอยู่บนตัวที่ปวดระบมไปเสียทุกส่วน
“ น... หนัก... ”
“ หืม... ” เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแซมขาวปรือตาขึ้นช้าๆ เมื่อรับรู้ถึงการขยับของร่างใต้ตัว แต่แทนที่จะลุกเขากลับปล่อยมือที่กุมไว้ลากเลื่อนขึ้นลูบไล้มาตามลำแขนเนียนมาที่แผ่นหลัง วนเบาๆ แล้วสอดเข้าโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆ อีกมือหนึ่งเกลี่ยปอยผมสีน้ำตาลให้พ้นจากซอกคอขาวแล้วซุกไซ้ใบหน้าลงจุมพิตเบาๆ ก่อนจะลากขึ้นไปจนถึงแก้มนวล เมื่อถึงดวงตาที่มีน้ำเกาะพราวเขาก็ประทับริมฝีปากลงเบาๆ จูบซับน้ำตาให้จนหมด “ อรุณสวัสดิ์จ๊ะที่รัก ”
“ อือ... ”
เปลือกตากระพริบเปิดขึ้นช้าๆ เมื่อริมฝีปากนุ่มอุ่นเลื่อนตามลงไปนัวเนียที่แถวหลังใบหู ไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนเช่นเดียวกันกับฝ่ามือซุกซนที่กำลังคลึงเคล้าอยู่แถวสะโพกพยายามหารอยต่อของเนื้อผ้าเพื่อรุกเข้าสัมผัสผิวเนื้อนุ่มข้างใน
“ น... หนัก... ”
“ หรือเจ้าจะอยู่ข้างบนล่ะที่รักของข้า ”
เสียงของสแปร์โรว์ที่ดังแผ่วเบาขึ้นข้างหูตามด้วยปลายลิ้นสากนุ่มดุนเบาๆ ปลุกสติที่กำลังกระเจิงของเฟอร์โรเรนให้กลับมารวมกันได้ทัน เขาพลิกตัวกลับรวดเร็วทำเอาอีกร่างที่ไม่ทันตั้งตัวกระเด็นลงไปนอนหงายหลังกระแทกพื้น
“ โอ๊ย!... แหม... ถ้าอดใจไม่ไหวแล้วก็น่าจะบอกกันดีๆ ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลยนี่จ๊ะ ”
เฟอร์โรเรนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้พร้อมกันดันตัวไปนั่งพิงหัวเตียงสองมือกระชากผ้าห่มมาห่อหุ้มตัวไว้แน่น
“ อ้าว... แล้วจะหนีไปทำไมล่ะจ๊ะ... มามะยอดรักข้าจะพาเจ้าล่องเรือไปเที่ยวแดนสวรรค์ ”
“ ไปลงนรกซะเถอะแก! ”
สแปร์โรว์วิ่งรวดเดียวไปคู้ตัวหลบอยู่มุมห้องเมื่อห่าลูกธนูไฟพุ่งตรงมาที่เขา แต่ก็หนีไม่รอดเมื่อสองลูกปักเที่ขากางเกงตรึงให้อยู่กับที่ สี่ลูกล๊อกแขน อีกสองลูกคาอยู่ข้างคอและลูกสุดท้ายเฉียดแก้มขวาชนิดมีเลือดไหลซิบไปเป็นทาง
“ ทั้งที่ข้าอุตส่าห์หลงไว้ใจเจ้าแท้ๆ แต่ทำไม... ทำไมเจ้าถึงทับข้าแบบนี้ ”
“ อึ๊ย! ขอโทษนะจ๊ะเรนจ๋าข้าแค่... ”
“ ไม่ต้องมาเรนจ๊ะ เรนจ๋าเลย... เจ้า... เจ้ามัน... ”
“ ก็ได้จ๊ะ... แต่ฟังข้าก่อนสิที่รัก ข้าแค่จะแกล้งเจ้านิดหน่อยไม่ได้คิดจา... ”
“ ไม่คิดแต่ทำไปแล้วน่ะสิ! ”
“ อ๊าย! ทำอาราย... เค้าเป่านะ! ตัวเองใจเย็นๆ ก่อนจิ๊ ”
“ ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว ”
เฟอร์โรเรนเสกลูกไฟแบบเดียวกับที่ใช้จัดการปิศาจตาเดียวขึ้นในมือ “ เอามันร้อนๆ นี่ห... แหละ... ”
เป็นครั้งที่สามในรอบสองวันที่เขาไม่มีโอกาสพูดได้จนจบประโยค สแปร์โรว์ดิ้นหลุดจากลูกธนูโผขึ้นคร่อมร่างเขาไว้รวดเร็วและก่อนที่เขาจะทันตั้งตัวริมฝีปากบางก็ถูกประกบปิดอีกครั้ง
ลูกบอลไฟร่วงหลุดจากมือ มันกลิ้งช้าๆ ไปบนพื้นไม้ก่อนจะแตกสลายไปกับสายลมเมื่อเจ้าของคาถาไม่อาจร่ายเวทย์จนจบ อันที่จริงตอนนี้เขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงและสติพอจะร่ายด้วยซ้ำ
“ ปล่อยข้านะฮอร์ค ” ในที่สุดเฟอร์โรเรนก็ผลักอกร่างตรงหน้าออกห่างได้ในที่สุด
“ เจ้าก็สัญญามาก่อนสิว่าจะไม่พยศอีก... ”
“ ไม่ให้ดิ้นแล้วจะให้ยอมเจ้าง่ายๆ หรือไง! ไม่มีทาง! ”
“ ช่าย... เอ๊ย! ไม่ใช่... นี่ท่าทางเจ้าจะเข้าใจข้าผิดไปกันใหญ่แล้วนะ ”
“ ผิดอะไรล่ะ ก็หลักฐานมันเห็นอยู่ทนโท่ ”
“ โธ่!... สาวน้อย... ข้าไม่คิดรังแกคนหลับหรอกนะจ๊ะ... ”
“ ก็แล้ว... ”
...ห๊า! เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ ...สาวน้อยงั้นเหรอ ข้าเป็นผู้ชายนะ... แบบนี้ก็แสดงว่า...
เฟอร์โรเรนค่อยลดสายตาก้มลงมองตัวเอง ตอนนี้ผ้าห่มถูกถีบร่นลงไปกองอยู่ปลายเท้าแล้วแต่บนตัวเขาก็ยังคงมีเสื้อผ้าปิดไว้ครบทั้งข้างบนและข้างล่างถึงมันออกจะหลุดลุ่ยเอามากๆ ก็เถอะ
“ ...เชื่อข้าเถอะเรน ...ไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลยนะนอกจาก ...ลูบๆ คลำนิดหน่อยเอง ”
“ คนลามก! ” เฟอร์โรเรนผลักอกสแปร์โรว์แล้วกระโดดลุกจากเตียงไปที่ประตูทิ้งให้ชายร่างเล็กพูดแก้ตัวกับอากาศก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกตัวกระแทกลงกับเตียงเมื่อประตูปิดตามหลังร่างบาง เขากรีดยิ้มว้างอย่างเอ็นดู
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
เช้าวันรุ่งขึ้นเรือโพไชดอนก็ต้องเผชิญกับศึกหนักเมื่อพายุลูกใหญ่พัดโหมขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อเรือแล่นเข้าสู่อาณาเขตป้องกันของวิหารแห่งลำน้ำศักดิ์สิทธิ์
ยิ่งเข้าใกล้พายุร้ายยิ่งไม่มีทีท่าว่าสงบลงง่ายๆ ซ้ำยังรุนแรงขึ้นทุกทีๆ มันหอบมาทั้งห่าฝนและคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าที่เกือบจะจมเรือลงหลายครั้งหลายครา
เสียงตะโกนสั่งของสแปร์โรว์ดังฝ่าเสียงครืนครางของฟ้าฝนที่ปรวนแปรไม่ได้หยุดเมื่อคลื่นลูกใหญ่ซัดเอาน้ำทะเลเข้ามาขังเต็มลำเรือและเสากระโดงก็ทำท่าว่าจะหักเมื่อโดนสายฟ้าฟาดลงมาเต็มๆ
“ วิดน้ำออก!! ทิ้งสมอ!! อีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะถึงที่หมายแล้วพายุลูกแค่เนี้ยพวกเจ้าจะยอมแพ้ง่ายๆ หรือไง!! ”
“ แย่แล้วกัปตัน!! ” ลูกเรือคนหนึ่งตะโกนเรียก “ ท้องเรือของเรารั่ว!! รูมันใหญ่เกินไปเราต้านไม่อยู่แล้ว!! ”
“ แล้วมันรั่วได้ยังไง! ” สแปร์โรว์ถามด้วยพิศวง เขาแน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีแนวหินโสโครกแล้วเรือจะไปกระแทกกับอะไรจนเกิดรูได้ยังไง!! จะว่าเป็นแรงน้ำมันก็ออกจะมหาศาลเกินไป!
“ ข้าไม่รู้! ” ลูกเรือตอบอย่างจนปัญญา แล้ววินาทีนั้นเองคำตอบตัวจริงก็ฟาดหางเข้าใส่กราบขวาจนเรือกระเด็นถลาไปตามสันคลื่น
มันยาวประมาณสามสิบเมตรมีหัวและลำตัวเป็นอาชาสีขาวปลอดในขณะที่ส่วนที่น่าจะเป็นขาหลังปรากฏเป็นหางปลาประกอบด้วยเกล็ดสีมรกตเข้มจนเกือบดำพราวระยับตัดกับครีบหางสีทับทิม
“ ฮิปโปแคมปัส!! ” สแปร์โรว์เครือลอดไรฟัน พยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นเรือที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำและต้องก้มหลบถังเบียร์ที่มีถังเปล่าและไม่เปล่าที่กระเด็นกระดอนมาไม่ขาดสาย
ปึก!
“ ฮึ่ม! ถ้ารอดไปได้ข้าจะสั่งอดเหล้าพวกเจ้าให้หมด!! ” เขาสบถเมื่อโดนถังเหล้าองุ่นใบหนึ่งฟาดเข้าให้ที่กลางตัวจุกจนร้องไม่ออก
เจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์กระโจนเข้าใส่อีกครั้งถึงจะพลาดเป้าไปแต่ก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลยเมื่อเกิดกำแพงคลื่นน้ำสูงสามเมตรซัดเข้าใส่ลำเรือ
เกิดเสียงดังเปรี๊ยะของไม้ดังขึ้นเบาๆ และเสากระโดงเรือเริ่มแกว่งเอียง
“ ไม่ต้องตกใจไป... ” สแปร์โรว์ตะโกนให้กำลังใจลูกเรือที่เริ่มเสียขวัญและกำลังวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่นเมื่อเจ้าฮิปโปแคมปัสผงาดเงื้อมขึ้นเหนือลำเรือ “ ก็แค่ลูกม้าพยศ... เดี๋ยวข้าจะจับเจี๋ยนทำซูชิให้พวกเจ้ากินเอง ”
...ชิ! พายุแรงแบบนี้ต่อให้กระสุนปืนใหญ่ก็คงเสียเปล่า... สงสัยงานนี้ต้องลุยเองซะแล้ว...
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซ..............................................!!!!!
มันคำรามลั่นราวกับตอบรับคำท้าพร้อมกับยกเท้าหน้าตะกุยอากาศก่อนจะพุ่งเข้าใส่ กีบหน้าข้างหนึ่งของมันพุ่งทะลุกลางลำเรือ สแปร์โรว์กรีดยิ้มกว้างพร้อมกับแลบลิ้นออกมากัดปลายไว้เมื่อโหนตัวขึ้นบนขาหน้าของมันแล้ววิ่งตะลุยขึ้นไปอย่างบ้าบิ่น
“ ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก..............................................!!!!! ”
เขาจิกปลายเท้าลงบนต้นขาของมันส่วนที่เป็นสะเก็ดแข็งนูนหนาแล้วกระโจนขึ้นกลางอากาศ เสี้ยววินาทีนั้นสแปร์โรว์คว้าด้ามดาบสั้นข้างเอวหากฉับพลันที่ชักออกมามันเกิดรัศมีเรืองรองก่อนจะขยายขนาดขึ้นราวสิบเท่า
“ โทษฐานที่ทำเรือข้าเป็นรอยน่ะมันจ่ายแพงนะเจ้าหนู!! ”
ฉัวะ!!
คมดาบฟันลงเต็มๆ ที่ตาขวา ของเหลวสีน้ำเงินข้นคลักพุ่งออกมาเป็นสาย มันกรีดร้องเสียงดังสนั่นด้วยความเจ็บปวดยังผลให้ท้องฟ้าแปรปรวนหนักขึ้นพร้อมกับส่งเสียงคำรามน่ากลัวก่อนจะผ่าเปรี้ยงลงมา
“ ชิ! พลาดไปเหรอเนี่ย ” เขาพึมพำทั้งหัวเสียทั้งตกใจเพราะอานุภาพของการโจมตีเมื่อครู่มากพอจะตัดเพชรขนาดเท่าภูเขาลูกย่อมๆ ขาดได้สบายๆ แต่มันกลับได้แค่แผลถาก
สแปร์โรว์เตรียมพุ่งซ้ำเมื่อหางยาวๆ กลมลื่นเป็นมันเมือกสีดำสนิทสะบัดวาดขึ้นเหนือหัวเรือและกวาดเอานายหัวเรือกระเด็นไปกระแทกราวดาดฟ้าก่อนจะไหลลงมากองที่พื้นเรือแน่นิ่งไป
เสี้ยววินาทีที่เขามัวแต่ตกใจนั้นเปิดช่องว่างให้ศัตรูเต็มไปหมดเจ้าฮิปโปแคมปัสม้วนหางของขึ้นแล้วฟาดเข้าใส่ สายไปแล้วที่จะหลบ!!
“ ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก.........................!!!! ”
ลำแสงสีทองสว่างวาบขึ้นกระแทกหางยาวๆ นั้นให้พ้นทางแต่ไม่ก่อให้เกิดบาดแผลเมื่อเกล็ดมรกตของมันสะท้อนอาคมซัดคืนเจ้าของที่ก้มหลบไปได้เฉียดเส้นยาแดง
“ ไหนเจ้าว่าแค่ปลาวาฬกับงูน้อยไฮดราไง แล้วเจ้าสองตัวนี่มาไงเนี่ย!! ”
“ เรน!! ” สแปร์โรว์เรียกเสียงดัง “ ข้าสั่งให้เจ้าหลบอยู่ในห้อง... ออกมาทำไม!! ”
“ มาช่วยเจ้าน่ะสิถามได้ ” เฟอร์โรเรนแยกเขี้ยวใส่พร้อมกับฉุดมือสแปร์โรว์ให้ลุกขึ้นยืน ก็พอดีกับที่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวที่สองซึ่งเพิ่งจะจัดการกับนายหัวเรือไปนั้นผงาดขึ้นด้านหลังอวดลำตัวยาวเรียวเหมือนพวงแส้ขนาดมหึมาเจ็ดเส้น แต่ละหัวของมันประกอบด้วยหนวดยาวๆ สี่ถึงห้าหนวดที่เมื่อแผ่ออกเต็มที่จะมองเห็นปากขนาดใหญ่อัดแน่นด้วยฟันซี่เล็กแหลมคมไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยซี่
“ ไปบังคับเรือ!! ” เฟอร์โรเรนว่า “ ข้าจะต้านมันไว้เอง!! ”
“ จะบ้าเหรอ!! ข้าไม่ปล่อยเด็กผู้หญิงให้... ”
สองหัวของเจ้าไฮดราฉกลงมาพร้อมกัน เฟอร์โรนเรนกางโล่ลมขึ้นรับทางขวาในขณะที่ทางซ้ายสแปร์โรว์เลือกจะฟันฉัวะเดียวขาดเป็นสองท่อนกระเด็นลงทะเลไป
ทั้งสองกระแทกหลังให้กัน ยามรบสำหรับนักสู้ดูอะไรๆ จะลงตัวไปหมด
“ ฝีมือไม่เลวนี่!! ” สแปร์โรว์กระซิบ “ ซิริอัสคงสอนมาดีล่ะซิ ”
“ ก็พอตัวอยู่ ” เขาตอบนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าระหว่างเจ้าสองตัวนี่กับหมาป่าวิญญาณของฮิวเมริจอะไรจะร้ายกาจกว่ากัน
“ งั้นข้าฝากด้วย ” สแปร์โรว์ว่าก่อนจะพุ่งพรวดไปที่พวงมาลัยซึ่งกำลังหมุนคว้างอย่างไร้ทิศเมื่อไร้คนบังคับ เขาคว้าเข้าที่คันบังคับแล้วจับหมุนรวดเดียวสามร้อยหกสิบองศาสามรอบเพื่อหันหัวเรือกลับเข้าสู่ใจกลางพายุพร้อมกับล้วงเอาลูกแก้วแผนที่ออกมา “ ช่วยหน่อยนะที่รัก... อย่าทำให้ข้าผิดหวังนะ ” เขากระซิบกับเรือโพไซดอนที่เสากระโดงเรือพร้อมจะหักลงมาทุกเมื่อ เรือเปล่งแสงเรืองน้อยๆ ให้แทนคำสัญญา
เฟอร์โรเรนกระโดดขึ้นบนหัวเรือเผชิญหน้ากับเจ้ายักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลทั้งสองแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะรับมือกับมันยังไงยิ่งมาจ้องตาเล่นกันอย่างงี้ด้วยแล้วสมองยิ่งตื้อไปกันใหญ่
...รู้งี้นอนแอบอยู่ในห้องเงียบๆ ก็สบายไปแล้ว...
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซ............................!!!!!!!!
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ..........................!!!!!!!!
...หนอย! ยังมีหน้ามาปรึกษากันอีกแน่ะว่าจะเอาเราไปทำอะไรกิน...
เฟอร์โรเรนสร้างลูกบอลไฟขึ้นในมือทั้งสอง... ถ้าจะล่อเสือให้ออกจากถ้ำคนล่อก็ต้องออกไปด้วยสินะ...
เขาวิ่งเหยียบหัวเรือแล้วกระโดดขึ้นซัดลูกบอลไฟใส่เจ้าไฮดรา และเมื่อเจ้าฮิปโปแคมปัสพุ่งเข้าใส่เฟอร์โรเรนก็คว้าแผงคอของมันไว้เต็มกำมือเหนี่ยวตัวเองขึ้นขี่และเกาะไว้แน่นเพื่อรักษาชีวิต หลังจากเบี่ยงเบนความสนใจจากเรือให้พวกมันหันมาสู้กันเองได้สำเร็จ
แต่แล้วพวกมันก็รู้ตัวว่าโดนหลอกเมื่อเจ้าไฮดราหันกลับไปสนใจเรือที่ตีลำออกห่างได้พอควรและฮิปโปแคมปัสก็เริ่มใช้ปากม้ายาวๆ ของมันหันมางับเขาราวกับเป็นเห็บหมัดพร้อมกับสะบัดหางควงเป็นวงฟาดลงมา เฟอร์โรเรนไม่รู้จะตอบโต้อะไรจึงได้แต่หมอบให้ต่ำที่สุดและยึดขนแผงคอมันแน่นขึ้น
ฮิปโปแคมปัสไม่ใช่สัตว์ประหลาดโง่ๆ มันมีสมองแถมยังฉลาดล้ำเสียด้วย!! เพราะในที่สุดมันก็หยุดหันมางับแล้วกระโจนลงดำดิ่งในห้วงมหาสมุทรแทน
“ เรน!! ” สแปร์โรว์ตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจเขากำลังจะหันหัวเรือกลับอยู่แล้วเมื่อเสียงเล็กๆ ขัดขึ้น
“ ปล่อยเจ้าหนูนั่นไป!! ” ภูตจิ๋วที่นั่งอยู่บนลูกแก้วใสขนาดเท่าลูกวอลนัตเอ่ยเสียงเรียบ “ ถ้าแค่นี้ยังรอดมาไม่ได้แล้วจะไปอัญเชิญคัมภีร์กลับมาได้ยังไง! ...แล้วเจ้าลองมองไปรอบๆ สิ เห็นลูกน้องของเจ้าไหมใจคอเจ้าจะเอาชีวิตพวกเขาไปทิ้งกับเด็กเพียงคนเดียว... ไม่สิ! เด็กต้องสาปด้วยซ้ำ!! ”
สายตานับสิบคู่ของร่างที่บ้างก็เกาะเสาหรือปีนป่ายไปรอบๆ เพื่อเตรียมหันใบเรือตามคำสั่งต่างมองมาที่เขาอย่างรอคอยความหวังและเชื่อมั่นว่าต้องได้รับกลับไป
“ เจ้า!! ” เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแต่ก็ทำได้แค่เร่งความเร็วเรือขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อไฮดรายักษ์ว่ายโถมเข้าใส่
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
ใต้ท้องทะเลลึกเฟอร์โรเรนที่อยู่บนหลังฮิปโปแคมปัสกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย ฟองอากาศที่เริ่มผุดพรายออกจากปากไม่ขาดสายทำให้เขาตกใจและปล่อยมือออกเพื่อยกขึ้นปิดปากและมันโง่มากที่ทำเช่นนั้น
ร่างของเขาหมุนคว้างไปกับคลื่นใต้น้ำเชี่ยวกรากอันเกิดจากการแหวกว่ายของเจ้าสัตว์ยักษ์และก่อนที่จะทันได้ตั้งสติหางของมันก็ฟาดเข้าให้ที่กลางลำตัว ร่างของเขาถูกพัดกระเด็นไปกับกระแสน้ำ มือทั้งสองถูกปล่อยออกจากปากเพื่อให้เลือดก้อนใหญ่พุ่งทะลักออกมา
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
“ มันนานเกินไปแล้วนะ!! ” สแปร์โรว์คำรามลอดไรฟันพร้อมกับล๊อกพวงมาลัย “ ฝากด้วยนะ ” เขาคว้านิมฟ์ที่ลอยไปมาอย่างไร้ประโยชน์กระแทกหน้าทิ่มลงบนคันบังคับก่อนจะวิ่งไปที่ท้ายเรือแล้วกระโดดพุ่งตัวหายลับไปในเกลียวคลื่น
นิมฟ์ยกมือลูบก้นด้วยความเจ็บและถึงจะดูเหี้ยมโหดยังไงแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี “ อย่าตายนะเฟ้ย! ” มันกระซิบก่อนจะใช้มือแตะลงบนพวงมาลัย เกิดแสงสว่างเรืองขึ้นน้อยๆ มันพึมพำเบาๆ สองสามคำแล้วเรือก็แล่นเร็วขึ้นอีก
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
“ เรน!!! ” สแปร์โรว์ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นเงาร่างหนึ่งลอยคว้างอยู่ในสายน้ำ กำลังจะว่ายไปหาเมื่อหัวหนึ่งของไฮดราพุ่งพันรัดแล้วสะบัดชูขึ้นในอากาศ “ นี่ข้าลืมเจ้าไปได้ยังไงนะ!! ”
เขาคำรามลอดไรฟันแล้วชักมีดสั้นข้างเอวที่ขยายขนาดขึ้นทันทีที่ออกจากฝักผ่ากลางหัวลงไปถึงง่ามคอของมัน
“ ทีนี้ก็เหลือแค่ห้าสินะ! ”
สแปร์โรว์กระโดดลอยตัวขึ้นอีกครั้งเมื่ออีกหัวพุ่งเข้าใส่ หัวยาวๆ ดำเป็นมันของมันพุ่งตามมาติดๆ หนวดทั้งห้าเส้นแผ่กางออกเต็มที่โชว์ฟันซี่เล็กแหลมคมกริบ
“ เสร็จข้าล่ะ!! ” เขากางดาบออกข้างตัวแล้วฟันเต็มเหนี่ยว หากพลันนัยน์ตาก็เบิกกว้างเมื่อฟันนับร้อยซี่ของมันนั้นรับคมดาบเขาได้ไม่สะทกสะท้านมันงับใบดาบของเขาไว้แน่นและเริ่มดึงเหวี่ยงไปรอบๆ โดยมีร่างของเขาติดไปด้วย และในวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเองอีกหัวของมันก็พุ่งเข้างับแขนอีกข้าง
“ อ้าก.................................กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! ”
ท่ามกลางความเงียบหัวที่สามผงาดขึ้นข้างหลังแล้วฉกลงพันรัดตัวเขาตรึงไว้กลางอากาศต่อหน้าหัวของมันอีกสองหัวที่ชูคอรอขม้ำเหยื่ออันโอชะอยู่แล้ว
สแปร์โรว์กำดาบแน่นพยายามจะดึงดาบออกจากปากองมันแต่แขนและมือนั้นถูกตัวที่เป็นมันเมือกของมันรัดเอาไว้แน่นพร้อมกับขยับรัดแน่นขึ้นทุกทีๆ จนเขาเกือบจะแน่ใจว่าได้ยินเสียงดังกรอบแกรบของกระดูกที่กำลังจะหักทั่วทั้งตัว
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
เฟอร์โรเรนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย สติทั้งมวลกำลังจะถูกพรากไปจากตัวเขาแต่ไม่!! เขาจะตายไม่ได้เขายังมีหน้าที่ที่ต้องทำให้บรรลุ! เขาต้องไปเชิญคัมภีร์กลับคืนมาและจนกว่าจะสำเร็จเขาจะตายไม่ได้!!
เฟอร์โรเรนปรือตาขึ้นรู้สึกแสบเล็กน้อยเมื่อสัมผัสความเค็มของน้ำทะเล ทั้งแขนและขาอ่อนแรงจนขยับแทบไม่ได้ เขาสำลักเอาน้ำไปอีกอึกใหญ่
...ต้องหาอากาศ... ต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ...
ฮิปโปแคมปัสม้วนตัวกลับมาลับมาอีกครั้ง
“ ล... ลม... ”
เขาเค้นพลังเท่าที่มีจุดพลังลมขึ้นในมือ เจ้าสัตว์ยักษ์กำลังใกล้เข้ามาทุกที
“ ไปเลย!! ” เฟอร์โรเรนปล่อยพายุลูกใหญ่ คาถานั้นพุ่งเข้าใส่เกล็ดหางของมันเต็มๆ และก็โดนปัดกลับคืนมาทั้งหมดโดยไม่สร้างความระคายเคืองให้ผิวมันแม้แต่น้อย
รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนเรียวปาก ลมพายุลูกใหญ่ที่สร้างขึ้นกระแทกเข้ากับร่างเขาเต็มๆ และพัดพาเอาร่างของเขาพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ
“ สำเร็จ!! ” เฟอร์โรเรนร้องด้วยความดีใจหลังจากสำลักเอาน้ำทะเลออกมาโดยที่ลืมไปว่าตนเองยังลอยคว้างอยู่กลางอากาศและยังเร็วเกินไปที่จะฉลองเมื่อฮิปโปแคมปัสพุ่งพรวดตามขึ้นมาติดๆ
...จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย... โธ่เว้ย!! หนาวๆ แบบนี้คิดอะไรไม่ออกเลย!!...
ฉับพลันนั้นความคิดก็แล่นปราด
“ น้ำแข็งไง!! ”
ไวเท่าความคิดทันทีที่ร่ายคาถาจบไอเย็นมหาศาลก็แผ่พุ่งออกจากปลายนิ้วและแช่แข็งทุกสรรพสิ่งที่มันสัมผัสในพริบตา
ไกลออกไป ภูตจิ๋วที่นั่งกอดอกเกตการณ์อยู่บนพวงมาลัยเรือพยักหน้าอย่างนึกทึ่ง
...ทีแรกนึกว่าจะใช้ธาตุตรงข้ามอย่างไฟเข้าลุยตรงๆ ซะอีก ที่ไหนได้!... จับแช่แข็งงั้นเรอะ! ความคิดไม่เลวนี่นา...
“ หนีเร็วฮอร์ค ” เฟอร์โรเรนกระโดดลงจากหัวของเจ้าฮิปโปแคมปัสแล้ววิ่งไปหาชายหนุ่มที่เพิ่งรอดชีวิตจากความตายมาได้ฉิวเฉียด “ คาถาข้าแช่แข็งพวกมันได้ไม่นานหรอกนะ ”
“ ขอบใจนะจ๊ะสาวน้อย ” สแปร์โรว์ว่าพร้อมกับดันตัวหลุดจากไอติมไฮดราลงมายืนเคียงข้าง “ ว่าแต่... ต้องให้เจ้ามาช่วยเนี่ยเสียฟอร์มชะมัด ”
“ งั้น... ข้าละลายน้ำแข็งให้ แล้วเจ้าไปสู้กับมันใหม่เอามะ ”
“ ขอบใจนะน้องสาวแต่เก็บความหวังดีของเจ้าไว้ดีกว่านะ ”
“ อะโด่นึกว่าแน่! ”
สงครามน้ำลายขนาดย่อมกำลังจะเกิดขึ้นถ้าทั้งสองไม่หันไปเห็นซะก่อนว่าน้ำแข็งกำลังกะเทาะ ทั้งคู่จึงหันมาจับมือกันเผ่นให้เร็วที่สุด
~Ж Ж=== ===Ж Ж~
ความคิดเห็น