คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : บทที่19 "ลูกเมียข้าใครอย่าแตะ!!" Part2 รีไรท์แก้คำผิดค่ะ ว่างๆอ่านใหม่นะคะ
บทที่19 "ลุกเมียข้า ใครอย่าแตะ!!" part2
************************************************************************
“ปัง” เสียงประตูปิดลง ห้องพักคนไข้เงียบสงัดชั่วอึดใจเมื่อลับร่างของชายหนุ่มที่ทำกิริยาไม่ต่างจากคนเถื่อน เธอรู้สึกโกรธเขาจริงๆ...อยากจะโกรธกับท่าทีหยาบคายที่เขาแสดงออกกับราล์ฟซึ่งเปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่งของเธอ แต่ไม่รู้เพราะอะไรหัวใจของเธอมันถึงได้เต้นแรงแถมอ่อนยวบยาบไปหมดเหมือนมีผีเสือนับพันตัวแข่งกันกระพือปีกอยู่ข้างใน
ไม่ต้องมีใครมาบอกพิมลดาก็รู้ว่าพี่วินหึงเธอจนลมออกหู และเหมือนคำพูดของเขายังวนเวียนอยู่ในหัวเธอไม่ไปไหน ‘ถ้าคิดจะเอาไอ้ฝรั่งหัวทองนี่มาเป็นกันชนล่ะก็...พี่ไม่ยอมแพ้แน่ พิมกับลูกไม่มีทางสลัดพี่ทิ้งได้ง่ายๆหรอก' มันคงไม่ผิดหรอกใช่ไหมหากเธอจะดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะคงมีแต่เพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบว่าเธอไม่เคยแม้แต่จะคิดสลัดเขาทิ้ง!!
หญิงสาวยิ้มกับตัวเองอย่างสุขใจกับความคิดที่ว่าอย่างน้อย ‘เขา’ ก็ไม่เคยคิดจะไปจากเธอ พิมลดากอดลูกน้อยในอ้อมแขนที่ยังคงสะอื้นฮักๆ อยู่อย่างน่าสงสารพลางปลอบโยนไปด้วยอย่างใจเย็น “ออกัส...หนูอย่างอแงสิลูก เดี๋ยวคุณพ่อก็มาหาเราอีก ไม่ใช่ว่าจากกันแล้วจะลาลับเสียเมื่อไหร่”
ศีรษะเล็กเลื่อนห่างจากใบหน้าของคนเป็นแม่ ริมฝีปากแดงปลั่งยื่นออกอย่างแสนงอนบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ “แต่ออกัสอยากให้พ่ออยู่ด้วยนี่...ทำไมพ่อไม่อยู่กับออกัสล่ะฮะ”
พิมลดาถอนใจบางทีออกัสก็เอาแต่ใจจนไม่ยอมฟังใครเหมือนกัน เธอไม่สงสัยเลยว่าลูกไปได้เชื้อเอาแต่ใจแบบนี้มาจากใคร...อย่างกับโคลนนิ่งกันออกมาเชียวนะ!
หญิงสูงวัยที่มองอยู่นานทนไม่ไหว จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วย "คุณพิมปล่อยคุณหนูออกัสให้ป้าเถอะคะ"
“ขอบคุณค่ะมิเชล เดี๋ยวช่วยจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วยนะคะ พิมจะกลับบ้านคืนนี้เลยดีกว่าค่ะ ไม่อยากนอนโรงพยาบาลนานๆ ยิ่ง ‘นายใหญ่’ บินตรงมาจากอังกฤษเองแบบนี้ ถ้าพิมอู้งานลาพักมีหวังพาดีพาร้ายได้ตกงานแน่ๆ”พิมลดาบอกกับพี่เลี้ยงสูงวัยพลางลุกขึ้นจากเตียงในอ้อมแขนยังมีร่างของลูกชายที่ยังคงซบหน้าอยู่กับซอกคอของเธอไม่ยอมห่าง
หญิงสาวส่งลูกชายให้มิเชลที่รอรับอยู่แล้ว เอ่ยสอนลูกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟัง "ถ้าหนูงอแงและทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ มันไม่น่ารักรู้ไหมลูก หนูเป็นลูกผู้ชายอนาคตข้างหน้าต้องดูแลพึ่งพาตัวเอง ต้องใช้เหตุและผลนำทางชีวิต ไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ความรู้สึกเป็นใหญ่"
พิมลดาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ตนพร่ำพูดกับเด็กสามขวบมาตลอดนั้นจะแทรกซึมเขาไปในหัวของลูกมากแค่ไหน หากเธอรู้ว่าในวันข้างหน้า เมื่อเขาเติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เขาจะนึกถึงน้ำคาที่แม่คนนี้พร่ำสอนปากเปียกปากแฉะมาตลอด
"บอกคุณแม่ไปสิคะ ว่าออกัสจะไม่งอแงแล้ว ออกัสจะเป็นเด็กดี"หญิงสูงวัยสอนเด็กชายเบาๆ จนร่างในอ้อมกอดของเธอหยุดร้องไห้
มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาปอยๆ ใบหน้าที่แม้ยังเยาว์วัยหากดูเข้มแข็งไม่น้อย "ออกัสเป็นลูกผู้ชาย เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่...ออกัสต้องมีเหตุผลไม่ขี้แง!"
พิมลดายิ้มกับลูก "เท่านั้นแหละจ๊ะที่แม่ต้องการ แค่ออกัสเป็นเด็กดีเป็นคนดี แม่กับ...พ่อก็ดีใจแล้ว"
'พ่อ' คำๆนี้หลุดออกมาจากปากเธออย่างภาคภูมิ ไม่ว่าความรู้สึกของเธอและเขาจะดำเนินไปแบบไหน หากความเป็น 'พ่อ' ที่พี่วินพยายามและตั้งใจทำอยู่นั้นส่งผลอย่างเห็นได้ชัด ลูกรักเขาและยอมรับเขาอย่างเต็มความหมายของคำว่า 'พ่อ'
"ออกัสออกไปกับป้านะจ๊ะ ให้คุณแม่เก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวกับบ้านไปก่อน"
หญิงสาวมองตามร่างของมิเชลที่อุ้มออกัสออกจากห้องไปเงียบๆ
พิมลดาหันกลับมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงของราล์ฟ แบรทเวลในชุดสูทหรูเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอรู้ดีว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนเตรียมจะขึ้นเวทีเมื่อต้องเดินทางนานๆ เวลาที่เธอไปต่างประเทศกับเขาแม้จะเป็นเรื่องงาน เธอก็ยังจะพบเขาในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์อาจจะสวมแจ็คเก็ตเก๋ๆทับเสื้อสักตัว ไม่ใช่ชุดสูทเต็มยศของอมานี่แบบที่เห็นอยู่นี่แน่ๆ
ร่างสูงยิ้มที่มุมปากนิดๆอย่างน่าดู "คุณมองผมแบบนั้นทำไม...มันเสียมารยาทนะ รู้ไหม"
พิมลดาแสร้งเลิกคิ้วใส่เขา “ฉันมีคำถามผุดขึ้นมาอยู่ในหัว เหมือนดอกเห็ดเลยล่ะคะ"
ราล์ฟหัวเราะ "ลองทีล่ะคำถามสิ เอาช้าๆนะ บอกตรงๆว่าสมองผมตอนนี้ไม่ต่างกับโดนหมอนั้นฮุคด้วยหมัดขวา...ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้ ปากคมยิ่งว่าใบมีดโกน"
“อย่างคุณไม่น่าไปว่าเขาเลยนะคะ ปากคอพอกัน”
“ผมขอยกธงขาวยอมแพ้เลยได้ไหม ใครจะไปสู้สุดที่รักของคุณไหวล่ะ”
พิมลดายิ้มหวาน “สู้กันจริงๆ ก็คงไหวค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มกว้างดวงตาพราวระยับ “แปลว่าผมมีหวังใช่ไหม”
“ไม่!!” พิมลดาตอบทันที “เลิกล้อเล่นได้แล้วคะราล์ฟ คุณมาที่นี่ได้ยังไง ฉันคิดว่าคุณอยู่ลอนดอนเสียอีก”
“...ทำไมผมมาไม่ได้หรือ คุณโกรธที่ผมมาเป็นกางขว้างคอคุณกับไอ้คนเถื่อนรูปหล่อนั้นใช่ไหม”
พิมลดาหน้าแดงเพราะลึกๆแม้เธอจะไม่ได้คิดแบบนั้น แต่หากเขาไม่มาวันนี้หัวใจเธอคงอ่อนไหวไปกับพี่วินแล้วแน่ๆ
“ตอบไม่ได้ใช่ไหม ผมพูดถูกล่ะสิ!”ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาอย่างระอา รำพึ่งเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังอ่อนอกอ่อนใจกับเด็กเล็กๆ “พิมนี่เจ็บไม่จำจริงๆ ผมคิดไว้ไม่มีผิดเลยใช่ไหม แค่ไม่ทันไรคุณก็ใจอ่อน”
“ฉันเปล่าใจอ่อน คุณก็รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานนี่คะ ไม่ว่าหัวใจพิมจะอ่อนจะแข็งมันก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาอยู่ดี”
เพียงสองก้าวร่างสูงใหญ่ของเขาก็มาหยุดประชิดร่างพิมลดา “มีสิ...สำหรับผมมันมี ทุกครั้งที่หัวใจพิมอ่อนไหวเพราะเขา ผมใจหายนะ มันเหมือนกับว่าพิมกำลังอยู่ห่างผมไปอีกก้าว โอกาสของผมยิ่งลดน้อยลงจนตอนนี้มันเลือนลางเต็มที”
พิมลดาหน้าเสีย “โธ่!ราล์ฟคะ...คุณพูดอะไรพิมไม่รู้เรื่องเลย”
“เพราะพิมมัวแต่ทำเป็นไม่รู้เรื่องไง พิมมัวแต่หลับหูหลับตาปิดรับความรัก ความห่วงใยจากผม พิมคิดแต่ว่าพิมรักมันคนเดียว พิมตอกมันลงไปในหัวใจพิมว่าไม่มีทางรักใครอีก...”ชายหนุ่มถอนใจยาว เขารู้สึกอึดอัดเหมือนจะระเปิด “ลืมตาเสียบ้างสิพิม มองมาที่ผมบ้าง เปิดหัวใจคุณให้ผมสักนิดก็ยังดี”
“ราล์ฟคะ คุณไม่เข้าใจ...”เธออยากจะแก้ตัวเหลือเกิน หากแต่ไม่มีส่วยไหนเลยในประโยคตัดพ้อของเขาที่มันไม่เป็นความจริง
ใบหน้าหล่อเหลาที่ไรหนวดเคราเริ่มครึ้มก้มต่ำลงเกือบชิดใบหน้างาม “ทำไมผมจะไม่เข้าใจ...ผมเข้าใจทุกอย่างดี เขาใจว่าคุณรักเขามากแค่ไหน แต่คุณรู้ไหมพิม...”ชายหนุ่มทิ้งช่วงประโยคให้ขาดหาย นิ้วมือเรียวเชยคางมนขึ้นเล็กน้อยเมื่อกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาไม่ต่างกับคนที่ทรมานแทบขาดใจ “แม้ว่าผมจะเหนื่อย จะท้อแท้แค่ไหน...แต่ผมก็เลิกรักคุณไม่ได้...ได้ยินไหมว่าผมเลิกรักคุณไม่ได้”
โปรดติดตามตอนต่อไป
*******************************
เดี๋ยวจะพยายามกลับมาต่อค่ะ
ตอนนี้กิจกรรมเยอะมากๆเลย งานเยอะด้วย
เดี๋ยวพุธนี้หยุดจะมาอัพให้นะคะ ตอนนี้คำผิดและไม่สมบูรณ์เลย
เลยแก้ไขตอนนี้ก่อนที่จะลงตอนต่อ รีไรท์ยกตอนเลย
แต่หากขี้เกรียจก็ไม่ต้องอ่านก็ได้จ๊ะ อิอิ...
ความคิดเห็น