คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : FRIEND LOVE| 25 #อสแฟนหก (100 per.) End. Season1
‘ความสุขของการจบการศึกษาคือการที่คนที่เรารักเขามายืนมอบดอกไม้ให้พร้อมกล่าวแสดงคำยินดีให้แก่เรา….’
“เอาล่ะนักศึกษาทุกคน
พวกเธอคงจะรู้ดีนะว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้เจอหน้ากัน
เพราะหลังจากนี้เธอทุกคนจะต้องแยกย้ายกันออกไปทำงานและสร้างครอบครัวของตัวเอง
ครูดีใจที่พวกเธอมาไกลถึงขั้นนี้ได้…หวังว่าสอบครั้งนี้พวกเธอจะจบการศึกษากันครบทุกคนนะ”เสียงของอาจารย์สาวประจำห้องที่ตนสอนพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มหลังจากพูดกล่าวกับนักศึกษาของตนจบแล้วค่อยๆเก็บของเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
ทุกคนต่างหันไปยกยิ้มดีใจที่ตัวจะได้เรียนจบเสียทียกเว้นก็เพียงแต่…..
“เป็นไรมึง?”เจบีหันไปถามคนตัวเล็กที่นั่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วด้วยความสงสัย
“….เปล่า…”แจ็คสันตอบเสียงแผ่วก้มหน้าคางชิดอกไม่เงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย
“เอาดีๆมึงเป็นไร เงยหน้าขึ้นมาคุยกับกูให้มันรู้เรื่องดิ”เจบีเริ่มทำเสียงแข็งดุคนตัวเล็กมือหนาสากทำท่าจะจับเข้าที่คางแจ็คสันแต่เจ้าตัวกลับสะบัดหน้าหนียกมือขึ้นปัดออกเสียก่อน
“อย่ามาจับ!”แจ็คสันขึ้นเสียงใส่แต่ยังคงก้มหน้าอยู่
“มึงเป็นเหี้ยไรเนี้ย?!
โกรธไรกูอีกล่ะอย่าทำตัวไม่มีเหตุผลได้ปะ”เจบีเริ่มโมโหเมื่ออีกคนทำตัวหงุดหงิดใส่ตนทั้งๆที่มันไม่ควรจะทำ
“เออกูมันไม่มีเหตุผล อย่ามายุ่งกับกูก็แล้วกันไม่ชอบก็ไปไกลๆเลย….กูจะกลับละ”แจ็คสันหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายเดินหน้าบึ้งออกไป
เซฮุนรั้งจับแขนไว้ก็ไม่ตอบ แม้แต่จีมินยังโดนเดินชนไหล่จนเกือบล้มลงไปกองกับพื้น
เหตุการณ์นั่นสร้างความสงสัยและความงุนงงให้กับเจบีเป็นอย่างมาก
….เขาทำอะไรผิดอีก?....
“มึงไปทำไรมันล่ะ”จีมินเดินมาถามพลางล้มลงนั่งข้างเซฮุนพร้อมยกมือขึ้นขยี้ผมอีกฝ่ายเล่นเป็นการแกล้ง
“กูเปล่านะ
ก็แค่เห็นมันเงียบๆเลยถามมันก็ขึ้นเสียงใส่กูก็เลยบอกว่ามันอ่ะไม่มีเหตุผลแค่นั้นเอง”เจบีพูดไปตามความจริง พอพูดจบเขาก็โดนจีมินโบกเข้าที่หัวเข้าให้เต็มๆ
“ควาย…มันงอนมึงแล้วครับ
รีบไปง้อเดี๋ยวแม่งจะเป็นเรื่องใหญ่พวกเมียอ่ะบางครั้งแม่งก็งี่เง่าโดยไม่มีเหตุผล”จีมินพูดบอกแต่คำพูดนั้นก็แอบกระแทกใจใครบางคนด้วยเหมือนกัน ดวงตาคมเหลือบมองไปยังเซฮุนที่ทำท่าจะลุกหนีเขาแต่ทว่าเจ้าตัวกลับจับคอเสื้ออีกฝ่ายไว้ไม่ให้หนีไปไหน…คิดเหรอว่าจีมินจะปล่อยมัน?....
“กูไม่ถนัดง้อวะ…จับปล้ำแล้วค่อยปรับความเข้าใจกันบนเตียงได้ปะวะ”เจบีกล่าวพูดจบก็ระเบิดเสียงหัวเราะทั้งของตนและจีมินออกมาดังลั่นห้องทันทีเพราะประโยคของเขามันเด็ดใช้ได้
“กูว่าวิธีนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน รีบไปตามเมียมึงเหอะ….แล้วนั่นมึงคิดจะไปไหนไอ้ขาวนั่งลง!”จีมินบอกเจบีก่อนหันไปส่งเสียงเข้มสั่งเซฮุนที่ทำท่าเนียนจะเดินตามแจ็คสันออกไปอีกคน
พอเห็นว่าชายหนุ่มดุหน่อยใบหน้านั่นก็งอแล้วเดินเอามือล้วงเข้ากระเป๋ากลับมาอย่างเซ็งๆทันที
“เออ มึงก็อย่าเผด็จการกับไอ้นั่นมันมากก็แล้วกันเดี๋ยวแม่งจะทนไม่ไหวเอา”เจบีบอก ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปหลังจากเตือนเพื่อนตัวเองจบ
Rrrr Rrrr
-Youngjae Call You-
[“เจบีมึงทำไรแจ็คสันวะทำไมมันร้องไห้อ่ะ?”] เสียงยองแจเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“มันร้องไห้เหรอ?”เจบีถามกลับ
แอบร้อนใจนิดๆที่ตนทำให้อีกฝ่ายร้องไห้อีกแล้ว
[“เออ กูถามก็ไม่ตอบว่าเป็นไร
ห่ามึงปล่อยให้มันไปเดินข้างถนนทำไมวะรถจะเฉียวตายดีนะกูขับไปเจอก่อนไม่งั้น…”] ยองแจเงียบไปแต่เปลี่ยนเป็นเสียงร้องสะอื้นของคนตัวเล็กแทน
[“มึงไม่ต้องมาเลยนะจะไปไหนก็ไปเลยไอ้เวร อึก!..”]
สิ้นเสียงอีกฝ่ายแจ็คสันก็กดวางสายไปทิ้งให้เจบีใบ้กินอยู่คนเดียวอย่างนั้น
…พูดมาแบบนี้แล้วกูจะทำยังไงต่อล่ะวะไอ้เตี้ย….
“แม่งเอ้ย!
มึงนี่นับวันชักเหมือนผู้หญิงมีเมนส์เข้าไปใหญ่แล้วนะไอ้เตี้ย”เจบีบ่นยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองอย่างแรง
จะจบแล้วแท้ๆยังทำตัวเป็นเด็กประถมงอนรักไปได้ แต่ยังไง….สุดท้ายเขาก็ง้อมันอยู่ดีนั่นแหล่ะ
ด้านแจ็คสัน
“เลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวพาไปกินไอติม”ยองแจบอกพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาให้คนตัวเล็กที่นั่งสะอื้นร้องไห้เป็นเด็กน้อยข้างๆ
แขนข้างหนึ่งก็ยกขึ้นโอบไหล่อีกฝ่ายไว้แน่นพร้อมดึงตัวแจ็คสันเข้ามาซบกอดแน่น
….เคยบอกแล้วไงว่าไหล่เขากว้างพอที่จะให้อีกฝ่ายซุกเวลาอ่อนแอได้….
“กูไม่ใช่เด็ก ฮึก! นะเว้ยไอ้บ้า”ยองแจถูกแจ็คสันยกมือขึ้นทุบเข้าที่อกแรงๆด้วยความหมั่นไส้
“ไม่เด็กแล้วทำไมชอบงอแง”ยองแจถาม
“ใช่สิกูมันขี้แงนี่หว่า เออกูแม่งไม่แมนเองแหล่ะขอโทษนะที่กูชอบร้องไห้มึงคงไม่ชอบใช่ไหมล่ะที่ผู้ชายตัวถึกๆแบบกูมานั่งร้องไห้ซบอกมึงแบบนี้อ่ะ
งั้นกูไปก็ได้!”แจ็คสันลุกเตรียมเดินหนีแต่ยองแจฉุดจับไว้ออกแรงกระชากให้อีกฝ่ายล้มลงนั่งข้างตนเหมือนเดิมโดยไม่พูดอะไร
“กูไม่ได้บอกว่ากูไม่ชอบคนขี้แง…อย่าคิดเองเออเองว่ากูไม่ชอบมึงดิ”
“ก็มึงบะ-”
“ชู่วววว…..พอเลิกพูด”
“…….”
“หิวไหมไปหาไรกินกัน หรือว่าจะไปร้านกู?”
“ไปก็ได้….”
“งั้นก็ลุกจะได้ไปกัน”
“อืม”
ยองแจลากแจ็คสันให้เดินกลับไปที่รถของตนที่จอดอยู่ข้างถนน
คนตัวเล็กเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับเอี้ยวตัวหยิบเอาเข็มขัดนิรภัยมารัดเอวตนไว้เพื่อป้องกันภัยอุบัติเหตุที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหากประมาท
ยองแจเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนค่อยๆออกรถจากที่ตรงนั้นเพื่อตรงไปยังร้านของตน
ยองแจพาแจ็คสันมาที่ร้านของตนเมื่อถึงร้านแล้วพวกเขาก็จัดการเดินลงจากรถ
แจ็คสันตรงเข้าไปในร้านโดยปล่อยให้ยองแจเดินตามหลังตนมาเงียบๆ
ภายในร้านเต็มไปด้วยลูกค้ามากมายที่เป็นทั้งนักธุรกิจและนักศึกษารวมถึงพนักงานบริษัทแถวๆนี้ก็มี
คนตัวเตี้ยก้าวขาตรงไปที่ๆตนคุ้นเคยแต่ก็ถูกมือของใครบางคนยกขึ้นกันไว้ไม่ให้เขาเข้าไปเสียก่อน
“ตรงนี้ห้ามเข้าครับคุณลูกค้า”เสียงแหลมแต่ก็ทุ้มแปลกๆของคนตรงหน้าทำเอาแจ็คสันถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
“ไอ้โย่งถ้าไม่หลบระวังโดนตบไม่รู้ตัว”แจ็คสันพูดบอกเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาขวางทางตนด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
เขาจะทำงานนะเว้ย!
“พี่อ่ะผมก็แค่แกล้งเองทำไมต้องรุนแรงกับน้องด้วยไม่เข้าใจ”ยูคยอมทำหน้าบูดใส่ แต่มันไม่ได้ช่วยให้แจ็คสันเอ็นดูมันขึ้นมาเลยสักนิด
หน้าแบบนั้นอย่างกับตูดลิงเขาไม่สนใจมันหรอกเว้ย!
“หลบดิเกะกะวะ”แจ็คสันทำท่าจับตัวยูคยอมให้ถอยหลบ
“ไม่เอา…ขอเชิญคุณลูกค้าไปนั่งตรงโซนนั้นนะครับเดี๋ยวผมจะจัดนมช็อกโกแลตกับชีสเค้กไปเสิร์ฟให้”ยูคยอมยกยิ้มกวนประสาทใส่แจ็คสันก่อนเดินจับแขนลากคนตัวเล็กไปนั่งที่โซนในมุมเงียบๆมุมหนึ่งแล้วดันให้อีกคนนั่งรอตนเอาพวกน้ำและของกินเล่นมาเสิร์ฟโดยที่ยองแจที่เดินตามเข้ามาทีหลังนั้นได้แค่ยกยิ้มส่ายหน้าให้กับเด็กขี้แกล้งนั่น
แจ็คสันเบะปากใส่ยกแขนขึ้นเท้าคางแล้วมองออกไปด้านนอกร้านเพื่อชมวิวภายนอกทันที
ร้านยองแจอยู่ติดกับถนนแค่มองออกไปก็พบกับรถที่วิ่งกันให้ว่อนเต็มไปหมดแล้ว
เดินเลยร้านไปอีกนิดก็เป็นมหาลัยและห้างชื่อดัง
สาขาของยองแจยังไปเปิดในห้างใกล้ๆกันนั่นอีกด้วยและก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไม่แพ้ร้านประจำร้านนี้ที่ตนเป็นคนขายเองเลยสักนิด
“เป็นไรโดนยูคยอมแกล้งเหรอ?”
“ก็กูจะช่วยมึงทำงานไหมล่ะ
แต่ไอ้โย่งอ่ะมันให้กูมานั่งรอกินเนี้ยแล้วนี่ทำไมมันมาทำงานอยู่ร้านมึงได้วะ?”
“ไม่รู้ดิจู่ๆมันก็อยากมาเหมือนรู้ล่วงหน้าว่ามึงจะมานี่”
“ไอ้ห่านี่มันเป็นลูกเทพปะวะ”
“ลูกเทพอะไรของมึง?”
“อย่ารู้เลยศัพท์วัยรุ่น”
“ครับกูมันคนแก่ไง”
“ฮ่าๆ รู้ตัวดีนิมึงอ่ะ”
ยองแจผลักหัวคนตัวเล็กไปไกลๆตนเล็กน้อยก่อนปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งมองวิวต่อเพราะตนต้องไปดูลูกค้าและพนักงานในร้านต่อแล้วแม้ว่าความเป็นจริงยองแจจะยังอยากนั่งคุยกับแจ็คสันต่ออยู่ก็ตาม
10 นาทีต่อมา
“นมช็อกโกแลตกับชีสเค้กได้แล้วครับคุณลูกค้า แถมฟรีหัวใจไม่ใส่น้ำตาลเพราะความหวานในความรักของผมที่มีให้คุณลูกค้ามันหวานกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าด้วยอีกหนึ่งดวงครับ~~”ยูคยอมยกถาดใส่นมช็อกโกแลตกับชีสเค้กมาเสิร์ฟให้กับแจ็คสันพร้อมเล่นมุขให้อีกฝ่ายฟังเสร็จสรรพ
“เอากองไว้ตรงนั้นเถอะหัวใจมึงอ่ะ”แจ็คสันตอบอย่างไม่ใยดี
แกล้งทำหน้าหันหนีแล้วหยิบเอาแก้วนมช็อกโกแลตร้อนๆขึ้นจิบเล็กน้อยพองาม
“โอ้ยยยย ปวดใจอ่ะคนแถวนี้ไม่ยอมรับหัวใจของผมไป…เดี๋ยวก็ยกให้คนอื่นซะเลย”ยูคยอมทำท่าปวดใจยกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเองแผ่วเบาแล้วหน้างอนิดๆ
“เรื่องของมึง ถ้าไปให้คนอื่นไอ้แบมก็ได้ใจกูไปคนเดียวก็แค่นั้น”แจ็คสันยักไหล่ไม่แคร์ มีคนรักเยอะเสียไปคนเดียวจะเป็นไรไป
แต่นั่นทำให้ยูคยอมเบะปากใส่นิดๆ
“ไรอ่าใจร้าย! นี่น้องนะพี่!!”
“ตกลงจะเป็นน้อง?”
“ก็อยากเป็นทั้งน้องทั้งคนรักปะวะ”
“อยากเป็นคนรักก็อย่านอกใจ
แต่ถ้าเป็นน้องอ่ะนอกใจได้แต่ไม่รับประกันว่ากูจะโอเค”
“ขี้แกล้ง”
“เฉพาะกับพวกมึงฮ่าๆ”
แจ็คสันนั่งหัวเราะอย่างสะใจที่แกล้งยูคยอมจนอีกฝ่ายหน้างอได้
ถามว่าเอ็นดูมันไหม? เขาบอกเลยว่าม๊ากกกก!
ก็มันเป็นน้องจะไม่ให้เอ็นดูได้ไงแถมอีกอย่างยูคยอมกับแบมแบมนี่แหล่ะแกล้งแล้วสนุกที่สุด
เพราะปกติแล้วส่วนใหญ่จะมีเขาที่ถูกแกล้งไม่ว่าจะเป็นตอนอยู่กับมาร์ค เจบี จินยอง
หรือว่าจะเป็นยองแจก็ตาม
เพราะงั้นเวลาอยู่กับคนที่มันอ่อนแอกว่าอย่างเช่นไอ้เด็กพวกนี้เขาก็จะขอระบายอารมณ์ความแค้นของตัวเองที่มีต่อสี่หน่อนั่นกับไอ้แสบทั้งสองนี่เสียหน่อย
“แล้วนี่มึงไม่ได้ทำงานที่ร้านไอติมนั่นแล้วเหรอวะ?”แจ็คสันเอ่ยถามหลังจากหัวเราะเสร็จจนพอใจแล้ว
“เลิกแล้วผมเบื่อพวกลูกค้าชอบมาหยอดมุขจีบโดยเฉพาะป้าแก่ๆนะชอบผมเป็นพิเศษ”ยูคยอมเล่าประสบการณ์ขวัญผวาของตนให้แจ็คสันฟัง
“ก็มึงเนื้อหอมไง”แจ็คสันอธิบายแต่พูดไปก็ยกมือขึ้นปิดปากไปด้วยเพราะขำกับความโชคร้ายของอีกฝ่าย
“แล้วทำไมต้องคนแก่ด้วยวะ!?”ยูคยอมโวยวายไม่พอใจ
นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ที่แจ็คสันอุตส่าห์สะกดกลั้นเอาไว้ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งใจ
“ฮ่าฮ่าๆๆๆ โอ้ยตายๆกูจะตายแล้ว…ฮ่าๆๆ”แจ็คสันล้มตัวลงนอนกับโซฟายาวของร้านยองแจ
ยิ่งมองหน้ายูคยอมแล้วนึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเล่าให้ตนฟังเมื่อกี้ก็ยิ่งขำและทำให้เขาหัวเราะจนเกือบตาย
“พี่ใจเย็นมันตลกขนาดนั้นเลย?”ยูคยอมช่วยประคองแจ็คสันขึ้นนั่งดังเดิม
“เออดิทำไมไม่พอใจ?”แจ็คสันตอบทั้งน้ำตาที่ติดอยู่ตรงขนตาทั้งสองข้างของตน
“โอโห้หัวเราะจนน้ำตาเล็ดอ่ะคนเรา”ยูคยอมมองไปที่หางตาอีกฝ่ายก่อนยกมือขึ้นเช็ดมันออกให้แจ็คสันอย่างไม่นึกรังเกียจอีกฝ่าย
เพราะแต่ก่อนแจ็คสันทำให้เขายิ่งกว่านี้อีก….
“แล้วทำไมไอ้คู่หูนรกมึงไม่มาด้วยล่ะ ปกติตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ไม่ใช่เหรอ?”
“มัน…เอ่อ….มันไม่ว่างพอดีมีธุระก็เลยมาไม่ได้อ่ะ
พี่นี่ทำถามถึงมันจังผมยังอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะเว้ย!”
“ใครจะสนมึงกันวะเหอะไอ้เด็กยักษ์”
“มีแฟนเด็กแถมสูงแบบผมนี่หายากนะครับพี่ชาย”
“สูงเป็นเปรตแบบมึงกูก็ไม่เอาอ่ะ
เวลาคุยทีนี่ต้องเงยหน้าขึ้นรู้ไหมมันเมื่อยคอสัส!”
“โอ้ยตัวเล็ก~~”
มือหนาวางลงบนเส้นผมของคนพี่พร้อมออกแรงลูบด้วยความเอ็นดูประหนึ่งว่าแจ็คสันไม่ใช่คนแต่เป็นลูกหมาแทน
ทั้งสายตาทั้งการกระทำของน้องเล็กมันยิ่งบอกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไรกับตน…นี่กูพี่มึงนะ!...
“เยอะละมึงไอ้โย่งพอเลิก!”แจ็คสันปัดมือที่ขยี้ผมตัวเองอยู่ออกทันที
ผู้ชายไม่ชอบให้ใครเล่นหัวตัวเองทั้งนั้น
“กำลังเพลิน”ยูคยอมยิ้ม
“ไปทำงานไป๊!”แจ็คสันเอ่ยไล่อีกฝ่าย
“ไม่เอา~~”ยูคยอมส่ายหน้าทำเสียงสองใส่แจ็คสันเพื่อต้องการที่จะอ้อนอีกฝ่าย
นี่ถ้าลงไปนอนหนุนตักได้เขาทำไปนานแล้ว
แต่ยูคยอมยังอยากรักษาภาพพจน์ของตัวเองอยู่ไงก็เลยทำได้แค่กัดปากทำตาโตใส่อีกฝ่าย
“อย่ามาปัญญาอ่อนไปทำงานไม่งั้นกูเรียกยองแจมาลากมึงไปแน่”แจ็คสันเริ่มดุ
“ก็ได้…แต่พี่ต้องให้กำลังใจผมก่อนนะ”ยูคยอมบอกพร้อมยื่นแก้มเข้าไปใกล้กับอีกฝ่ายแล้วหลับตาลง
แจ็คสันมองท่าทางเจ้าตัวก่อนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นนิดๆ
เหลือบมองไปยังลูกค้าท่านหนึ่งแล้วลุกเดินผ่านเด็กยักษ์ไปดึงแขนลูกค้าท่านนั้นมายืนใกล้ๆอีกฝ่ายแทน
“ได้เดี๋ยวจะให้เต็มรักเลยครับ”แจ็คสันตอบก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างกับลูกค้าท่านนั้น
สักพักแก้มของเด็กหนุ่มก็ถูกริมฝีปากสีชมพูบางกดจูบลงบนแก้มเต็มรัก
ยูคยอมยกยิ้มพึงพอใจกับกำลังใจของอีกฝ่ายค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อยเพื่อสำรวจใบหน้าของคนที่หอมแก้มตน
แต่…
“เฮ้ย!”ยูคยอมตกใจทันทีเพราะคนที่หอมแก้มตนเมื่อครู่นี้ไม่ใช่แจ็คสันของเขาแต่เป็นคุณป้าแก่ๆท่านหนึ่งแทน
แถมยังเป็นคนที่ยิ้มสวยลมออกปากทั้งปากอีกด้วย ฟันนี่แทบจะนับซี่ได้เลยนะครับป้า
“ตั้งใจทำงานนะจ๊ะ”แจ็คสันขยิบตาให้ยูคยอมเล็กน้อยก่อนหัวเราะแล้วเดินพาคุณป้าแกกลับโต๊ะ
ปล่อยให้ยูคยอมยืนทำหน้าเซ็งอยู่อย่างนั้นคนเดียวแทน
เวลา 20:00 น.
“ให้ไปส่งที่หอไหม?”ยองแจเอ่ยถามหลังจากช่วยกันปิดร้านเสร็จ
“ไม่อ่ะไม่อยากไป”แจ็คสันตอบพลางดูดน้ำปั่นที่ยูคยอมซื้อให้ก่อนกลับเงียบๆทำเป็นเมินไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดอยู่ในตอนนี้
“ไม่อยากไปหรือไม่อยากเจอกูกันแน่ไอ้เตี้ย”เสียงทุ่มโหดๆกับใบหน้ายุ่งๆของเจบีทำให้แจ็คสันสะดุ้งเกือบทำแก้วน้ำในมือตก
เขาหันไปมองยองแจก็พบว่าอีกฝ่ายเดินโบกมือเป็นสัญญาณว่าให้เขาไปเคลียร์กับเจบีเองเงียบๆ
“…..”แจ็คสันทำมึนเตรียมเดินตามยองแจไปแต่ก็โดนเจบีจับรั้งกระชากไว้ไม่ให้ตามไป
“มาคุยกันให้รู้เรื่อง”เจบีบอกเสียงต่ำบากแจ็คสันไปที่มอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้วยืนกอดอกมองคนตัวเล็กที่ก้มหน้านิ่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรใดๆออกมาทั้งสิ้น
พวกเขายืนอยู่อย่างนั้นอยู่นานจนยุงเริ่มชุมและบางตัวก็บินมากัดแจ็คสันทำให้เจ้าตัวต้องยกมือขึ้นตบไปตามตัว
นั่นทำให้เจบีอารมณ์ฉุนขาดจับกระชากดึงแจ็คสันเข้ามาใกล้กับตนแล้วยกมือขึ้นบีบกรามอีกฝ่ายเล็กน้อย
“จะพูดไหมว่ามึงเป็นอะไรเตี้ย”เจบีพยายามสะกดอารมณ์โกรธไว้
มือก็บีบกรามอีกคนแน่นจนแจ็คสันชาปากไปหมด
“กูไม่ได้เป็นไร”แจ็คสันตอบเสียงแผ่วเริ่มตัวสั่นเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายตนเหมือนกับคราวนั้นอีก
วันที่เขาแอบหนีมันมาแล้วพายองจีแฟนเก่าตนไปกินไอติมในร้านเก่าที่ยูคยอมเคยทำงานอยู่ด้วย
เขาจำได้วันนั้นแจ็คสันโคตรทรมาน
“ไม่เป็นไรแล้วมึงหนีกูมาอยู่กับไอ้ยองแจทำไม?!”เจบีตะคอกเสียงใส่แจ็คสันดังลั่นหน้าร้านโดยไม่คิดอายคนที่เดินผ่านเลยแม้แต่น้อย
จะให้เขาแคร์ใครอีกวะนอกจากไอ้คนตรงหน้านี่เนี้ย
“….ก็แค่มาช่วยมันดูร้านเฉยๆ…”แจ็คสันตอบเสียงแผ่ว “แล้วมันใช่เรื่องไหมที่มาโดยไม่บอกกู
นี่ถ้าไอ้ยองแจมันไม่โทรไปบอกว่ามึงไปเดินแถวข้างทางแล้วมันขับรถไปเจอพอดีกูก็ไม่รู้หรอก
ทำไมชอบทำตัวให้คนอื่นเขาเป็นห่วงตลอดเลยวะแจ็คสัน กูเหนื่อยนะเว้ยบางทีอ่ะ”
“เหนื่อยมึงก็หยุดดิ…ฮึก…มึงเหนื่อยที่จะตามใจกูมึงก็หยุดดิวะ! ทำไมอ่ะกูผิดเหรอวะที่กูเสียใจที่เราจะจบแล้วเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
กูผิดเหรอวะที่กูไม่อยากให้มึงต้องไปทำงานที่อื่นอ่ะ….กูผิดเหรอที่กูไม่อยากให้มึงหายไปไหนไกลๆจากกูอ่ะเจบี”แจ็คสันกำเสื้อเจบีแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาต่อหน้าอีกฝ่าย
….ไม่เคยกลั้นไว้ได้เลย….
…..ไม่เคยเข้มแข็งได้เลยสักนิดเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกมัน
ทำไมเขาถึงได้อ่อนแอเป็นผู้ชายบอกบางแบบนี้วะ!
แม่งเอ้ย!!....
“……”
“กูรู้ว่ากูทำตัวงี่เง่าใส่มึง เออกูผิดเองแหล่ะที่เงียบใส่ถามอะไรก็ไม่ตอบ
ก็ตอนนั้นกูกำลังกังวลอยู่นี่หว่ามึงจะให้กูทำไงวะเจบี จะให้กูทำยังไง!?”
“มึงไม่ต้องทำไรทั้งนั้นแหล่ะ….”
เจบีโอบกอดแจ็คสันแน่นเขามันโง่เองที่ไม่รู้ว่าแจ็คสันเป็นคนยังไง
เจบียังศึกษาเกี่ยวกับตัวแจ็คสันไม่พอเขายังไม่รู้จักอีกฝ่ายดี
มันคือความผิดพลาดของเขาเอง ถ้ารู้ว่าแจ็คสันคิดยังไงกับตนล่ะก็เจบีจะไม่ตะคอก
ไม่ด่า ไม่ว่า แล้วก็ไม่ทำร้ายอีกฝ่ายเลย
เขามันโง่เองแหล่ะที่ใช้อารมณ์แก้ปัญหาและทำให้เรื่องมันบานปลายแบบนี้
ถ้าตอนนั้นเขาไม่ใช้อารมณ์แจ็คสันก็คงไม่ร้องไห้แบบนี้
“ขอโทษนะ คราวหลังกูจะทำตัวให้ดีกว่านี้”เจบีกระซิบบอก
“อืม”แจ็คสันตอบรับในลำคอเสียงแผ่ว
“กลับกันเถอะดึกแล้ว”เจบีพูด
“อือ”แจ็คสันพยักหน้ารับจับมือกับอีกฝ่ายก่อนเดินพากันไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของเจบีที่อีกฝ่ายขับมาเพื่อตามหาตนกลับหอพัก….
2เดือนต่อมา
2 เดือนผ่านไปอะไรๆก็เปลี่ยนไปหลายอย่าง
วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนที่พวกแจ็คสันและเจบีจะเรียนจบจากมหาลัยของที่นี่เพราะพวกเขาอยู่ปีสุดท้ายของคณะนี้แล้ว
แม้จะเป็นวันที่เศร้าที่จะต้องลาจากกับเพื่อนๆและอาจารย์รวมถึงหอพักที่อยู่มานานตั้งสามปีรวมปีนี้เข้าไปด้วยแล้วก็กลายเป็นสี่ปีนับว่าเป็นอะไรที่ผูกพันจนยากที่จะตัดขาด
“เจบีมึงจะย้ายไปอยู่ไหนวะต่อจากนี้ แล้วมึงจะทำงานอะไรอ่ะ? แล้ว…กูจะได้เจอมึงอีกไหม?”
“แจ็คสันคือพวกเราแค่ย้ายออกจากหอไม่ได้ย้ายไปอยู่คนละประเทศมึงจะกังวลห่าไรครับ?”
“ก็กูกลัววาพวกเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันครบหกคนนี่หว่า”
“มึงคิดว่ากูกล้าหนีมึงไปอยู่ที่อื่นเหรอ…มึงคิดผิดแล้ววะเตี้ย
กูอ่ะหนีไปไหนจากมึงไม่ได้หรอกเว้ยเพราะหัวใจของกูอยู่กับมึง”
เจบียกยิ้มจิ้มนิ้วชี้มาที่อกซ้ายของแจ็คสันก่อนที่ใบหน้าขาวนวลของคนตัวเล็กจะแดงซ่านขึ้นพร้อมกับมือขาวอวบที่ทุบเข้าเต็มๆกลางอกชายหนุ่ม
เจบีร้องด้วยความจุกเล็กน้อยก่อนขยับตัวถอยออกมาจากมือของ(ช้าง)แจ็คสัน
มีเมียมีหนักต้องทำใจโดนเมียทุบต้องไม่ตาย
“พูดบ้าอะไรของมึงวะ! ไม่คุยด้วยแม่งแล้วสัสหงุดหงิด!!”แจ็คสันโวยวายเดินหนีเจบีเลี่ยงไปเก็บของในห้องของตนพร้อมแก้มที่แดงเป็นลูกเชอร์รี่ไม่หาย
ใครมันจะไม่หน้าแดงกันก็อีกฝ่ายเล่นพูดจาหวานใส่ขนาดนั้นถึงจะเก่งยังไงมันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างนั่นแหล่ะ
นี่แจ็คสันเป็นคนนะไม่ใช่รูปปั้นที่จะได้ตีหน้านิ่งทำหน้าอยู่หน้าเดียวได้ตลอด
“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า”เจบีพูดไล่ตามหลัง แต่แจ็คสันไม่ได้สนใจก้มหน้าเก็บของใส่กระเป๋าต่อ
“ขนลุกสัสคำพูดมึงอ่ะ”แจ็คสันโต้กลับ
“ขนลุกหรือเขินกันแน่จ๊ะเตี้ย~ ถึงพี่จะเสี่ยวแต่พี่ก็ทำให้เธอเสียวได้นะจะ-…อุ๊ปส์!”เจบีพูดหยอกด้วยใบหน้าทะเล้น
แต่ยังไม่ทันพูดจบประโยคหมอนใบโตก็ลอยออกจากห้องแจ็คสันปาไปโดนเต็มๆใบหน้าเพื่อนจอมกวนทันที
“หุบปากโว้ย!”
แจ็คสันสั่งก่อนเก็บของกระชากเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าตัวเองเสียงดังปึ่งปังด้วยความหงุดหงิดปนไม่พอใจที่อีกฝ่ายพูดล้อเล่นกับตนแบบนั้น…ก็บอกว่าเขินจะอะไรหนักหนาวะ!?
Rrrr Rrrr
“ฮัลโหลใครวะ?”
[“แจ็คนี่นยองเองนะครับ”]
“นยองเหรอมีไรอ่ะ?”
[“พรุ่งนี้แจ็ครับปริญญาใช่ไหมครับ?”]
“อือ ทำไมมีไรเหรอ?”
[“เปล่าครับไม่มีอะไรครับ
นยองแค่จะบอกว่านยองคงไปดูแจ็ครับปริญญาไม่ได้นะนยองติดผ่าตัดใหญ่พอดี แจ็คไม่โกรธนยองใช่ไหมครับ?”]
“…..ทะ…ทำไมจะต้องโกรธด้วย นยองไม่ได้ทำไรผิดสักหน่อยนี่”
[“นั่นสินะครับ งั้นแค่นี้นะครับนยองรักแจ็คนะครับ”]
“อืม ตั้งใจทำงานนะนยอง”
[“ครับ”]
จินยองกดวางสายไปพร้อมๆกับใบหน้าของแจ็คสันที่ดูหมองลงเล็กน้อย
เจบีเห็นแบบนั้นแล้วก็ทำได้แค่ส่ายหน้าเดินไปโอบไหล่เจ้าตัวไว้ก่อนลากแจ็คสันกลับไปนั่งที่โซฟากลางห้องแล้วเดินไปเปิดประตูให้ใครบางคนหลังจากได้ยินเสียงเคาะอยู่ด้านนอกมาเนิ่นนาน
“ยองแจ?”แจ็คสันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อพบกับยองแจที่เดินถือถุงของกินเต็มไม้เต็มมือเข้ามาในห้องตน
“เลี้ยง…ไปหยิบจานมาจะได้กิน”ยองแจพูดบอกพร้อมสั่งให้แจ็คสันไปหยิบจานในครัวมาเพื่อแกะของกินเทใส่จาน
แจ็คสันพยักหน้าเดินไปหยิบแต่โดยดีโดยไม่พูดปฏิเสธอะไรใดๆอีกฝ่ายกลับไป
พอหยิบมาวางไว้เสร็จพวกเขาก็จัดการแกะของกินต่างๆใส่ถุงทันที วันนี้ยองแจซื้อทั้งอาหารทะเล
พิซซ่า และอื่นๆอีกมากมายมาเลี้ยงพวกเขาก่อนรับปริญญาวันพรุ่งนี้ด้วย
“พรุ่งนี้ก็จะจบแล้วนิ…ต่อไปจะไปทำงานอ่ะไรล่ะ?”ยองแจถาม
“ว่าจะกลับไปเยี่ยมกากาสักปีหนึ่งแล้วค่อยกลับมาหางานทำต่อที่เกาหลีอ่ะ”แจ็คสันบอก
เพราะเขาสัญญาไว้ว่าถ้าจบแล้วเขาจะกลับไปเยี่ยมกายีที่ฮ่องกงสักปีแล้วค่อยกลับมาหางานทำที่นี่ใหม่
“กูว่าจะไปเปิดร้านซ่อมรถอะไรแบบนี้ทางบ้านกูเขาก็ทำกิจการนี้ด้วยไงก็เลยอยากจะสานฝันพวกพ่อกับแม่ให้มันสำเร็จสักทีท่านจะได้สบายใจ”เจบีบอกขณะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซด
“เหรอไม่มีใครคิดจะมาช่วยกูดูแลร้านกาแฟหน่อยเลยรึไง?”ยองแจตอบก่อนแกล้งถามทั้งคู่ออกไปด้วยความสงสัย
“ร้านมึงลูกน้องเยอะจะตายมึงก็ดูแลเองดิวะ กูก็มีความฝันกับงานที่อยากทำเหมือนกันนะเว้ย”แจ็คสันบอกตักสปาเก็ตตี้ใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย
“มึงไม่จำเป็นต้องทำงานก็ได้ไหมแจ็คสัน….มีผัวอย่างพวกกูแค่นี้ก็เลี้ยงมึงได้ไปจนแก่แล้วเว้ย”เจบีบอก
“…..พวกมึงไม่คิดที่จะมีลูกบ้างหรือไง?...”แจ็คสันวางช้อนลงกับจานแล้วเงยหน้าขึ้นถาม
จู่ก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องซีเรียสแบบนี้สองหน่อที่นั่งอยู่แทบตามอีกฝ่ายไม่ทันเลยทีเดียว
“ลูกเหรอ?
เรื่องแบบนั้นผู้ชายทุกคนเขาก็คิดที่จะมีกันอยู่แล้วเว้ย”เจบีกล่าว
“อืม”ยองแจพูดเสริมอีกเพื่อนตาตี่ข้างๆ
“แล้วทำไมถึงยังปักหลักอยู่กับผู้ชายอย่างกูวะ คนอย่างกูมันมีอะไรดีไม่ทราบ?”แจ็คสันเลิกคิ้วถาม
ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าตนมีอะไรดีไอ้พวกนี้มันถึงได้รักนักรักหนา
ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้สวย อ่อนหวาน และน่ารักแต่อย่างใด
แล้วพวกมันหลงอะไรในตัวเขากันวะ?
“มึงอ่ะไม่มีอะไรดีหรอก”ยองแจบอก นั่นทำเอาแจ็คสันถึงกับคิ้วกระตุกทันที….สาบานว่ามันไม่ได้แอบหลอกด่าเขา
“แล้วทำมะ-…”
“แต่พวกกูก็ยังรักแบบไม่มีเงื่อนไขอยู่ดีนั่นแหล่ะ
ถึงจะไม่มีดีอะไรในตัวเลยก็ตามความรักของพวกกูไม่ได้วัดจากตัวมึงมีเสน่ห์อะไรตรงไหนหรอกนะ
ขอแค่มึงเป็นมึงแค่นั้นก็พอแล้ว”ยองแจยิ้มหลังพูดจบ
แก้มเขาแดงเล็กน้อยเพราะเขินกับประโยคของตัวเองที่พูดออกมาเมื่อกี้นี้
และก็คงมีสภาพไม่ต่างจากแจ็คสันด้วยเช่นกัน
“พูดบ้าอะไรของพวกมึงกันวะแม่ง…กูไปนอนละเดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นสายเอา”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปในห้องนอนของตนทันทีโดยปล่อยทิ้งให้ยองแจอยู่กับเจบีเพียงแค่สองคนแทน
วันต่อมา
งานวันรับปริญญาถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ เหล่าบัณฑิตหน้าใหม่ต่างพากันยกยิ้มดีใจให้กับความสำเร็จครั้งนี้ของพวกตน
แจ็คสันและเจบีมีพวกรุ่นน้องที่รู้จักเดินมามอบดอกไม้ให้ไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะแจ็คสันที่มีทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวน่ารักๆเดินมามอบให้ตลอดงาน
แต่สิ่งหนึ่งที่คนตัวเล็กกำลังรออย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้นไม่ใช่เหล่ารุ่นน้องหรือใครทั้งนั้นแต่เป็น….
“เฮีย~~”เสียงแบมแบมดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงผอมที่วิ่งเข้ามากระโดดกอดว่าที่แฟนของตัวเองเต็มรัก
ในมือของแบมแบมมีช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถือติดมาด้วย
นั่นทำให้แจ็คสันยกยิ้มหัวเราะและแปลกใจเล็กน้อยที่ไอ้เด็กนี่มันมางานรับปริญญาของเขาได้…วันนี้มันไม่ได้ไปเรียนรึไงกัน?
“พี่แจ็คสันยินดีด้วยนะครับ”ยูคยอมเดินยิ้มไปกระชากคอเสื้อแบมแบมออกแล้วแทรกตัวยื่นดอกไม้ให้แจ็คสันแทนก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเองที่ทำท่าจะตีกับตนอีกครั้ง
“เลิกกัดกันได้แล้วไอ้หมาบ้าสองตัวนี่นิ”แจ็คสันยกมือขึ้นโขกหัวไอ้เด็กสองตัวที่เล่นไม่รู้จักกาลเทศะด้วยความหงุดหงิดนิดๆ
“ยินดีด้วยนะครับเจีย เดี๋ยวจบงานนี้เฮียพาไปฉลองที่รีสอร์ทที่แคนนาดาดีไหม?
หรือจะไปปารีส?”มาร์คเดินมามอบดอกกุหลาบขาวให้กับคนตัวเล็กพร้อมเอ่ยถามสถานที่จัดงานเลี้ยงจบการศึกษาของคนตัวเล็กกับเจ้าตัวเรียบๆ
“ไม่เอาอ่ะเฮียผมไม่อยากจัดอ่ะมันยุ่งยาก แค่กินบุฟเฟ่ต์แค่นี้ก็พอแล้ว”แจ็คสันบอกมาร์คยิ้มๆ ไม่อยากให้จัดงานใหญ่มากเพราะมันสิ้นเปลืองเกินไป
อีกอย่างแค่บุฟเฟ่ต์ธรรมดาๆก็มีค่าเกินพอแล้วล่ะ
แจ็คสันไม่ต้องการอะไรที่มันเยอะไปมากกว่านี้แล้ว
แค่ได้อยู่พร้อมหน้ากับทุกคนเขาก็มีความสุขมากแล้ว
“ดีใจนะที่มึงจบการศึกษาได้น่ะ นี่ของขวัญเล็กๆน้อยๆจากกู”ยองแจยื่นดอกไม้พร้อมกล่องอะไรบางอย่างให้กับแจ็คสัน
คนตัวเล็กรับมาถือไว้พรางเขย่ากล่องด้วยความสงสัยว่ายองแจจะให้อะไรกับตนกัน
“ไว้ค่อยเปิดทีหลังก็แล้วกัน”แจ็คสันพูดกับตัวเองก่อนยิ้มนิดๆ
“มาถ่ายรูปไว้สักหน่อยไหม?”เจบีถาม
“ก็ดีเหมือนกันเอาเป็นรูปหมู่เซ็ทหนึ่งแล้วก็รูปแยกแล้วกันแต่ละคนจะได้เอาไปอัดกรอบใส่ตั้งโชว์ในบ้านได้ไง”มาร์คแบ่งจัดแจงทุกคนเสร็จก็เดินไปโอบไหล่คนตัวเล็กไว้เพื่อประเดิมถ่ายเป็นคนแรก
เจบียกกล้องขึ้นถ่ายพี่ใหญ่ของกลุ่มกับคนรักของตนทันที
เมื่อถ่ายเสร็จก็เป็นแบมแบมที่วิ่งเข้าไปแซงหน้ายองแจกับยูคยอม
จากนั้นก็ตามด้วยพ่อหน้านิ่งพูดน้อยแต่อบอุ่นอย่างยองแจ
เสร็จแล้วก็เด็กยักษ์ยูคยอมที่ทำท่าวางมือไว้บนหัวคนตัวเตี้ยกว่าแล้วยกยิ้มเย้ยใส่อีกฝ่าย
ปิดท้ายด้วยเจบีที่ยองแจเป็นคนถ่ายให้และรูปรวมหนึ่งรูปที่มาร์คบอก
พวกเขาตกลงกันว่าจะไปกินบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างกันที่ร้านประจำร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับมหาลัยของแจ็คสันกับเจบี
มาร์คอาสาเป็นคนขับรถพาทุกคนไปเองโดยเขาเป็นคนโทรไปขอเช่นรถตู้มาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เรื่องจ่ายเงินขอให้บอกมาร์คพร้อมจ่ายเสมอถ้าเพื่อความสุขของแจ็คสัน
ในขณะที่ทุกคนกำลังเล่นกันในรถนั้นเอง
บางสิ่งบางอย่างก็ทำให้มาร์คต้องหยุดรถและทุกคนที่อยู่ภายในก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แจ็คสันขมวดคิ้วเปิดประตูลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่ามาร์คจะขับรถชนคนกัน?
แต่ทว่า…
“นยอง”เสียงแหบปนหวานนิดๆเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา
ท่ามกลางนักศึกษาและรุ่นน้องนับหมื่น
ร่างของหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่กำลังยืนหอบอยู่นั้นทำให้เขารู้สึกตะลึงเล็กน้อย
“แฮ่ก….ขอโทษ…แฮ่ก…ที่มาช้านะ…”จินยองบอก
“…..”แจ็คสันเงียบ
“ยินดีด้วยนะกับการจบการศึกษาครั้งนี้แล้วก็….ได้โปรดรับมันไว้ด้วยนะ”จินยองค่อยๆย่อตัวลงคุกเข่า หยิบเอากล่องเล็กๆกล่องหนึ่งขึ้นมาแล้วเปิดฝากล่องเล็กน้อย
จากนั้นก็หยิบสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาโชว์เห็นแจ็คสันได้เห็นมัน
คนตัวเล็กตาโตด้วยความตกใจ สิ่งที่จินยองหยิบขึ้นมานั้นเป็นแหวนเพชรวงหนึ่งที่ดูแล้วท่าจะหลานแสนพอควร
…อย่าบอกนะว่าที่มาช้านี่ก็เพราะว่า….
“นยองมันเยอะไปรึเปล่า กูรับไว้ไม่ไหวหรอก”แจ็คสันบอกทำหน้าปฏิเสธอีกฝ่าย
แต่จินยองกลับเงยหน้าขึ้นมองอย่างจริงจัง
เดินเข้าไปใกล้กับแจ็คสันแล้วจับมืออีกฝ่ายสวมแหวนใส่นิ้วนางข้างซ้ายของอีกคนอย่างถือวิสาสะ
“นยองตั้งใจสั่งทำมันเพื่อแจ็คสันโดยเฉพาะเลยนะรับมันไปเถอะ
แหวนวงนี้มีแค่วงเดียวในโลกนะครับ”จินยองบอกยิ้มจับมือแจ็คสันแน่น
แจ็คสันมีท่าทีลังเลเล็กน้อยเขาเหลือบมองสิ่งที่อยู่ตรงนิ้วของตนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ
“พวกมึงนี่ชอบทำอะไรอลังการโอเวอร์ตลอดจริงๆเลยให้ตายเถอะ”แจ็คสันส่ายหน้าบ่นยิ้มๆ
“ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อแจ็คสันทั้งนั้นแหล่ะ”จินยองบอก
ทั้งสองจ้องหน้ากันเงียบๆ
ยิ้มให้กันก่อนจะถูกขัดจังหวะโดยใครบางคนที่ทนมองภาพหวานๆของพวกเขาทั้งคู่ไม่ไหว “พวกมึงอ่ะจะจีบกันอีกนานหิวโว้ย!!”เจบีตะโกนถามจากในรถ
นั่นทำให้จินยองกับแจ็คสันต้องรีบพากันขึ้นรถที่มาร์คจอดรอไว้ด้วยความเร็วเพราะกลัวว่าเพื่อนตาตี่ของตนมันจะฆ่าปาดคอเอา
อย่างน้อยงานจบการศึกษารับปริญญาของแจ็คสันก็มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นล่ะนะ…เขาหวังว่าในอนาคตเส้นทางแห่งความรักของพวกเขาทั้งเจ็ดคนจะผ่านไปได้ด้วยดีและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หวังเอาไว้จริงๆ
….แต่
ชีวิตคนเราถ้ามีแค่ความสุขอย่างเดียวมันก็ออกจะไร้สีสันเกินไป
เพราะอย่างนั้น…..นี่มันแค่ปฐมบทเริ่มต้นความรักของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของเขาเพียงเท่านั้น
จากนี้แหล่ะคงจะเป็นรสชาติจริงๆของความรักพวกเขาล่ะ….
End. Season1
TALK
จบภาคของสามหน่อไปแล้วคร้าบบบบ>W<ในที่สุดทั้งสี่คนก็รักกันแอบเขินเหมือนกันนะเนี้ยที่จินยองทำแบบนั้นกับแจ็คสันรู้สึกอิจฉาจริงๆ
รักเจบีมากถึงจะโหดแต่ก็แคร์เมีย
ยองแจก็ดีเสมอต้นเสมอปลายไม่เปลี่ยนแปลงพ่อพระของเรื่อง
ซีซั่นต่อไปจะเป็นคู่ของเด็กแสบทั้งสองแล้วนะคะในตอนนี้ก็เอายูคยอมมาเรียกน้ำย่อยไปก่อนอิอิ
ส่วนพาร์ทอดีตของทั้งสามคนเดี๋ยวไรท์เตอร์จะลงให้อ่านกันอีกทีนะคะ จะได้รู้ว่าอดีตของแจ็คสันเมื่อสามปีก่อนเป็นยังไงเกี่ยวกับพวกเจบี
ยองแจ และหมอจินยองของเรา ทำไมปัจจุบันจินยองถึงโดนเกลียดอย่าลืมรอติดตามด้วยนะคะ
ส่วนคู่จีมินกับเซฮุนไรท์มีตอนแยกให้อ่านค่ะใครชอบคู่นี้อย่าลืมติดตามนะ
เรามาดูกันว่าทำไมคนโหดเด็ดขาดอย่างจีมินถึงได้หลงคนขี้โวยวายอย่างเซฮุนได้ ปล.ไรท์เตอร์มีภาพความน่ารักมาฝาก>W<(ตัดต่อเองกากขออภัยด้วยนะคะ)
(JINYOUNG x JACKSON)
(JOUNGJAE x JACKSON)
(JAEBUM x JACKSON)
ความคิดเห็น