ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #45 : หิมะสีขาว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 45
      4
      18 ต.ค. 61


    ห้าสิบปีผ่านไป ที่คฤหาสน์ไม้อายุนับร้อยปีกลางทุ่งหิมะอันหนาวเหน็บกลางหุบเขาทางเหนือที่มีแต่ความหนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างของหญิงชราผู้สวมชุดกิโมโนที่นั่งอยู่ที่โถงใหญ่นั่งอย่างสงบนิ่งอยู่อย่างนั้น โดยมีชายหนุ่มนั่งอยู่ไม่ห่าง ดวงตาสีดำขลับค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อได้ยินเสียงพายุหิมะที่พัดถล่มที่นี่ ยูกิในตอนนี้เธอมีอายุเฉียดแปดสิบปี รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้านั้นคอยเตือนเธอมานานแสนนานว่าเวลาในชีวิตของเธอมันค่อยๆลดน้อยลงทุกที  เส้นผมสีขาวที่ถูกรวบไว้เรียบร้อยอย่างดีดูสง่าให้สมกับที่เธอเป็นผู้นำตระกูลมาตลอดหลายสิบปี หญิงชราเพียงมองนาฬิกาข้อมือเก่าๆของตนและดูเวลา เมื่อคิดว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วจึงได้หันไปกล่าวกับทาโร่

    ทาโร่ ช่วยพยุงข้าให้ลุกขึ้นหน่อยชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหวานประดุจสตรียิ้มออกมา

    ขอรับเขาเข้าประคองอีกฝ่ายหนึ่งอย่างว่าง่ายในทันที

    ขอบคุณเจ้ามากหญิงชรากล่าว และเดินออกไปที่ด้านหน้าปราสาทอย่างเชื่องช้า ด้านนอกคฤหาสน์นั้นยูกิอนนะหลายตน ก็มารอบางอย่างอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อพบว่าหญิงชราเดินทางออกมาด้านนอกแล้ว หญิงสาวทั้งหลายก็คำนับเธอ หญิงชราเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น และรอใครบางคนที่มากับพายุหิมะ

    “56ปีตามที่ข้าได้รับรู้ถึงคำทำนาย ข้ารอมานานในช่วงชีวิตของมนุษย์ธรรมดาเพียงคนหนึ่ง ข้าตัดสินใจแล้วว่าต้องมีชีวิตอยู่ในถึงวันนี้จนได้เธอหันไปกล่าวกับการาสุเทนกุที่อยู่ข้างๆเขา

    ขอรับท่านยูกิหญิงชราหันมาหาเขา

    แล้วเจ้าจะกลับไปหาไดกิแล้วใช่ไหม

    ขอรับหญิงชราพยักหน้าออกมาเมื่อได้ฟัง ก่อนร่างนั้นจะเดินไปยังด้านหน้าคฤหาสน์ และรอดูลมพายุหิมะที่พัดกระหน่ำก่อนหิมะนั้นจะปรากฏร่างของยูกิอนนะตนหนึ่ง ดวงตาสีเทา ผิวที่ขาวประดุจหิมะ เส้นผมยาวสีขาวของนาง รวมไปถึงขนตาของนางที่ยังสีขาวบริสุทธ์ ร่างผอมบางเดินมาเผชิญหน้ากับหญิงชรา เสียงซุบซิบจากรอบข้างเริ่มดังขึ้น

    งดงามเสียจริง นางสวยมากอย่างกับเบนไซเทนเลยยูกิอนนะตนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ

    นั่นสิเรือนผมสีขาว มีเพียงยูกิอนนะตนแรกเท่านั้นที่มีเรือนผมสีขาวสวยเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อ…”ยูกิกระแอมเบาๆ ให้เสียงนั้นเบาลง และเดินไปยังด้านหน้าร่างนั้น

    ท่านยูกิขอรับ นางมีพลังมากนะขอรับ หากท่านยูกิเข้าไปใกล้นาง นางอาจทำร้ายท่านได้ขอรับทาโร่รีบเตือนหญิงชรา แต่ร่างนั้นส่ายหน้าช้าๆ

    นางเป็นแขก ข้าที่เป็นเจ้าบ้านจะต้องต้อนรับนางหญิงชราเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าร่างนั้นที่ยืนนิ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้น

    นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าได้มาที่นี่สินะ ข้าในนามผู้นำตระกูลของยูกิอนนะขอต้อนรับเจ้า เจ้ามีนามว่าอะไรล่ะ?” ยูกิกล่าวออกมาด้วยความเป็นมิตร

    ไม่มีเจ้าค่ะอีกฝ่ายกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ยูกิเพียงคลี่ยิ้มออกมา และพยักหน้ารับ

    เจ้าคงเดินทางมาไกล เข้ามาพักด้านในเสียก่อนเถิดอาโอยูกิเดินนำร่างนั้นเข้าไปในคฤหาสน์ ในวันนี้เธอดูตื่นเต้นมากกว่าวันก่อนๆเสียอีก แม้ว่าจะอายุมากถึงเพียงนี้แต่การได้พบเจออีกฝ่ายหนึ่งก็ทำให้ยูกิในวัยชราดูมีใบหน้าที่สดใสมากขึ้น ร่างอีกฝ่ายจึงเดินตามจนถึงห้องรับรองขนาดใหญ่ ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดยาวถูกปูด้วยเสื่อทาทามิถูกตกแต่งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม การาสุเทนกุประคองหญิงชราให้นั่งลงช้าๆ ก่อนมือที่เหี่ยวย่นจะผายมือแสดงท่าทางให้อีกฝ่ายนั่งลงเบื้องหน้าเธอ หญิงสาวเบื้องหน้านั่งลงช้าๆด้วยความสงบนิ่ง เธอยังเด็กเกินไปจนไม่รู้จักอารมณ์ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น

    เจ้ารู้ไหมว่า มีคนรอเจ้ามาที่นี่มากมาย เจ้าคงเห็นยูกิอนนะคนอื่นๆที่มารอดูเจ้าแล้ว เพราะว่าข้าได้รับคำทำนายมานานนับห้าสิบกว่าปี ว่าจะมียูกิอนนะที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และด้วยเส้นผมสีขาวของเจ้านั้น เจ้าคงเกิดขึ้นมาเพราะพรของท่านอิซานากิและเบนไซเทน อย่างนั้นใช่ไหม?”ร่างเบื้องหน้านิ่งฟังไม่ตอบอะไร

    ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าเอง อย่างเจ้าคงจะเหมาะกับชื่อชิโระยูกิ เป็นที่สุดยูกิกล่าวขึ้นและนึกถึงนิทานเจ้าหญิงที่เธอดูเมื่อสมัยยังเยาว์วัยอย่างไงอย่างนั้น หิมะสีขาว คงเหมาะกับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นที่สุด แต่อีกฝ่ายเพียงนิ่งฟังไม่กล่าวอะไรไม่อาจรู้ได้เลยว่านางชอบหรือไม่ชอบชื่อนั้น

    เจ้าจงอยู่ที่นี่ก่อนเถิด ถ้าเจ้ายังไม่มีที่ไป ข้าจะสอนเจ้าเองเกี่ยวกับการเป็นยูกิอนนะ และก็ถ้าเจ้าอยากได้วิชาอะไรนอกเหนือจากยูกิอนนะ ข้าก็จะให้ ทาโร่ เป็นคนสอนวิชาให้ ส่วนข้าแก่แล้วข้าสอนไม่ไหว โดยเฉพาะพวกวิชาต่อสู้แล้ว ทาโร่ถือว่าเก่งกาจมากเลยนะ หากเจ้าอยากเรียนก็จงบอกข้า อย่าได้เกรงใจทาโร่ถึงกับหูผึ่งขึ้นมาเมื่อได้ยิน ไม่นึกว่าตนจะถูกเรียกด้วย

    ขอรับ ข้าเต็มใจสอนวิชาให้นางขอรับเขาคำนับยูกิ และมองอีกฝ่ายที่ไม่ตอบสิ่งใดเธอนั่งนิ่งเหมือนก้อนน้ำแข็ง ส่วนยูกิยังคงถามไถ่นางต่อไป

    แล้วเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน พอจำอะไรได้ไหม?”หญิงชราถามไถ่

    ข้าจำไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าจำได้เพียงว่ามีหิมะ เต็มไปหมดเลยเจ้าค่ะยูกิพยักหน้ารับ ยังไงยูกิอนนะก็ต้องพบเจอหิมะเป็นปรกติแล้ว ร่างบางดูเหมือนจะพยายามคิดถึงเรื่องราวต่างๆก่อนหน้านี้ และผู้ฟังทั้งสองรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

    ข้าจำได้ว่าชั่วแวบหนึ่งก่อนข้าจะสิ้นลม ข้ามองเห็นเกล็ดหิมะสวยงามเหมือนผลึกแก้วใสยูกิก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่ดูน่าประหลาด เพราะคนที่ตายลงด้วยความเหน็บหนาวก็จะกลายเป็นยูกิอนนะ

    นั่นสินะ เจ้าคงจะโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่งหิมะมานาน เจ้าจงพักที่นี่เถิด ถือเสียว่าข้าเป็นแม่เจ้าแล้วกัน เจ้ามาอยู่ที่นี่ต้องพบเจอคนมากมาย ต้องรู้จักเรื่องต่างๆมากมายที่ยากจะเข้าใจ ข้าจะสอนเจ้าเอง และจงอยู่ที่นี่เถิดให้เหมือนกับเป็นบ้านของเจ้า

    เจ้าค่ะร่างนั้นตกลงอย่างว่าง่าย เธอยังไม่เข้าใจของความหมายของคำว่าแม่เสียด้วยซ้ำไป ยูกิเพียงคลี่ยิ้มออกมาเมื่อได้ฟัง เธอไม่อยากจะนึกเลยว่ามันช่างยากกว่าที่คิดเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่เคยรับรู้ความรู้สึกอะไรต่างๆเช่นนี้มาก่อน และนั่นเป็นปัญหาที่สำคัญมากสำหรับการเป็นยูกิอนนะ

    นางจะมาเป็นผู้นำตระกูล และทำให้เทนกุมาเป็นพันธมิตรกับเราได้ นางอาจเป็นผู้ที่สามารถต่อกรกับเหล่าเทพ แต่ว่า ไม่นึกว่าจะไร้อารมณ์เช่นนี้ การเป็นผู้นำตระกูลต้องมีจิตใจเมตตาอารีย์ด้วย ทั้งต้องเข้มแข็งและอ่อนโยน แต่ว่าหากเป็นเช่นนี้มันคงจะท้าทายเป็นอย่างมาก หากนางได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องไป อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพลังที่มากมายมหาศาลเช่นนี้แล้วด้วย ฉันจะต้องระวัง

     

    หลายสัปดาห์ต่อมา เสียงฟันดาบกันอย่างเป็นจังหวะดังก้องไปทั่วบริเวณ ที่ลานของคฤหาสน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ หญิงชราจิบน้ำชาเพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกายและนั่งมองทั้งสองฝึกซ้อมกัน เมื่อชิโระยูกิเป็นคนขอให้ทาโร่สอนการฟันดาบให้เธอเองยูกิแม้จะดูสบายใจเมื่ออีกฝ่ายสนใจในวิชาความรู้ แต่กลับลำบากใจไปในคราวเดียวกัน เธอกลัวเหลือเกินว่าชิโระยูกิยังมีจิตใจที่ไม่พร้อมสำหรับการฝึกเช่นนี้  ชีวิตที่ผ่านมายูกิรู้ถึงความสำคัญว่าเธอต้องมีความรู้ด้านการต่อสู้เสียด้วย อย่างไรชิโระยูกิก็มีโอกาสที่จะได้เป็นผู้นำของยูกิอนนะรุ่นต่อจากเธอได้โดยไม่มีอุปสรรคใด ประหนึ่งอีกฝ่ายเกิดมาเพื่อมีพรสวรรค์ด้านนี้ที่โดดเด่นชัด ทั้งหน้าตา พลัง ความสามารถ ยูกิยังมองไม่เห็นใครที่จะเทียมเท่าเธอเลย หรือว่ายูกิควรจะส่งนางไปแต่งงานกับใครสักคน ก็จะยิ่งทำให้ตระกูลของนางมีเส้นสายมากยิ่งขึ้นดี แต่คนที่เธออยากจะเห็นว่าต้องถูกบังคับให้แต่งงานมากขนาดไหนก็ไม่พ้นคู่รักคู่แค้นของเธอตลอดกาล เมื่อนึกถึงใบหน้าที่เหวอเมื่อรู้เรื่อง เธอคงจะสะใจเสียอย่างเป็นที่สุด ก่อนจะสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเพราะได้ข่าวว่า ปิศาจเทนกุเองก็ล้มป่วยหนักจนถึงทุกวันนี้ เธอไม่ควรจะแกล้งคนตรอมใจเช่นนี้ แต่ยูกิก็ยังอมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงแผนการดังกล่าวอย่างชั่วร้ายที่สุด

    อยากเห็นใบหน้าของเจ้านั่นชะมัด คงตกใจมากแน่ๆ แค่คิดก็อยากจะหัวเราะออกมาซะแล้วสิ ทำยังไงดีนะ หรือว่าจะให้นางไปอยู่กับไดกิดีนะ ยังไงเขาก็เป็นปิศาจ หากนางอาละวาดขึ้นมา เขาก็คงจะรับมือไหวแหละ ดีเสียอีกนางจะได้เรียนรู้อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ อยู่ที่นี่ไปมันก็ไม่มีอะไรนอกจากทุ่งน้ำแข็งที่หนาวเย็น นางรู้จักความรู้สึก หนาวหรือร้อนหรือเปล่านะ ข้าสงสัยเสียจริง ถ้านางไปฝึกวิชากับไดกิด้วยแล้วก็คงดีไม่น้อย ตระกูลของเราจะได้ทั้งความสัมพันธ์ แถมชิโระยูกิยังได้วิชาและได้ฝึกจิตไปด้วยเลยทีเดียว

    ทาโร่ลดดาบลงในที่สุดและมีใบหน้าที่ภูมิใจในตัวอีกฝ่ายหนึ่ง ที่เก่งเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากนัก เหมือนเรื่องฟันดาบไม่ใช่เรื่องยากของอีกฝ่ายหนึ่ง

    ตั้งแต่พบท่านยูกิ ก็มีเจ้านี่แหละที่ช่างเก่งกาจยิ่งนัก!!”เขาชื่นชมชิโระยูกิออกมา แต่อีกฝ่ายไม่ตอบสิ่งใด ก่อนจะคำนับเขาตามมารยาท

    ข้าคิดว่าให้ท่านไดกิสอนนางก็คงจะดีทาโร่กล่าวออกมา ยูกิหรี่ตามองอีกฝ่ายในทันที จนเขาต้องรีบแก้ตัว

    ข้าคิดว่าท่านยูกินั้นเก่งกาจเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้มากเลยขอรับ แต่ว่าท่านไดกินั้นเองก็มีความรู้ในเรื่องอื่นๆด้วยขอรับ นอกจากการใช้อาวุธ การต่อสู้ด้วยมือเปล่า ท่านไดกิก็ยังมีความสามารถอื่นๆด้วยขอรับทาโร่รีบแก้ตัวออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าอาโอยูกิเองก็คิดเช่นนั้นเฉกเช่นเดียวกับเขา

    ถ้าไม่ติดว่าข้ามันแก่แล้ว ข้าคงจะสอนศิลปะป้องกันตัวให้นางด้วยยูกิจิบชาต่อ เพราะการอยู่ที่นี่มันหนาวเกินกว่ามนุษย์อย่างนางจะรับได้ จึงต้องมีน้ำชาร้อนๆให้นางได้จิบอยู่เกือบตลอดเวลา แม้เธอจะสวมเสื้อผ้าหนาแล้วแต่ความหนาวเย็นของที่นี่มันช่างทรมาณร่างกายของเธอเสียเหลือเกิน

    เจ้านี่เหมือนพ่อของนางเสียจริงยูกิหยอกอีกฝ่ายหนึ่ง จนทำให้ทาโร่ถึงกับดูตกใจอย่างมาก

    พ่อ!?!”

    ก็เจ้าดูจริงใจกับนาง อยากให้นางได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด แบบนั้นคนเป็นพ่อเขาทำกันไม่ใช่รึ?”ยูกิยิ้มออกมาอย่างสนุกสนาน แล้วจึงหันไปถามหญิงสาว

    เจ้าล่ะ อยากจะเรียนวิชากับ ไดเทนกุหรือไม่?”หญิงชราถามขึ้น ชิโระยูกิทำหน้าสงสัยเมื่อได้ฟัง

    ก็ไดเทนกุตนนั้นเป็นหัวหน้าของทาโร่อีกทีหนึ่ง เขาเก่งเรื่องการรบอย่างมาก ถ้าเจ้าสนใจ ข้าจะลองไปถามไถ่ดูให้ชิโระยูกิยังคงสงสัยอยู่ และทำหน้างงงวย เพราะว่าเธอไม่เข้าใจคำว่าไดเทนกุแม้แต่น้อย

    ครึ่งคนครึ่งนกน่ะหญิงสาวนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเทนกุต้องหน้าตาเป็นยังไง

    ก็ได้ค่ะ ท่านยูกิอยากให้ข้ามาเป็นหัวหน้าตระกูลต่อใช่ไหมล่ะเจ้าคะ?”ยูกิแทบจะสำลักน้ำชา เรื่องผู้นำตระกูลคนต่อไปไม่มีใครเขาเอามาพูดใส่ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันกันหรอก แต่ก็เข้าใจในความไร้เดียงสาของอีกฝ่าย ท่าทางเธอจะต้องฝึกมารยาทชิโระยูกิอีกมาก

     

    ทางด้านคฤหาสน์หลังใหญ่กลางหุบเขาสีเขียวขจีเมื่อเข้าสู้ฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มตัวแล้ว ร่างของไดกิเริ่มลืมตาขึ้นหลังผ่านพ้นฤดูหนาวไปเรียบร้อยแล้ว ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไดกิต้องทนทุกข์ทรมาณในสิ่งที่เขาเคยทำอย่างมาก แม้ว่าเขาจะยังเป็นคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักมาตลอดทั้งปี แต่ก็ไม่อาจลืมเลือนเรื่องเลวร้ายที่ตนเองได้ทำลงไปได้แม้แต่น้อย  ชายหนุ่มที่ดูไม่ต่างจากเดิมนักตั้งแต่ยามที่เขากลับมาที่คฤหาสน์แห่งนี้จากการฆ่าอมนุษย์ไปจำนวนมาก ยกเว้นเสียร่างกายที่ค่อนข้างซูบผอมลงเพราะไม่สบายเสียจนแทบจะทำอะไรไม่ได้แม้แต่ผมที่ไม่ได้ตัดเสียทีจน เส้นผมของเขายาวถึงกลางหลังแล้ว ไดกิเหลือบมองผ้าพันคอสีขาวที่วางไว้ข้างตัวตลอดเวลา และจ้องมองมันด้วยความเงียบงัน จากนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง ไม่นานนัก อากาเนะก็ยกอาหารเข้ามาถึงในห้องเหมือนปกติ และวางลงใกล้ๆเขา

    ท่านไดกิเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ?”อีกฝ่ายถามไถ่ขึ้นด้วยความเป็นห่วง

    ข้าสบายดีแล้วเจ้าไม่ต้องห่วงเขากล่าวออกมา แต่อากาเนะก็ไม่เชื่อแม้สักนิดเดียว สภาพเช่นนี้เขาไม่เรียกว่าสบายดีหรอก แต่ก็ไม่ได้แย้งอีกฝ่ายไป ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทาโร่ติดต่อเธอมาสักพักใหญ่แล้ว แต่มิได้มีโอกาสบอกท่านไดกิแต่อย่างใด เพราะอีกฝ่ายต้องจำศีลในช่วงฤดูหนาว เขาทุกข์ทรมาณอย่างมาก อากาเนะเฝ้ามองอีกฝ่ายอยู่ห่างๆเท่านั้น ทุกคนรู้ดีว่า ชายหนุ่มนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เธอไม่อยากให้เรื่องเลวร้ายลงไปกว่านี้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นปิศาจที่บ้าคลั่งแต่การาสุเทนกุรับใช้อย่างเธอไม่มีวันทอดทิ้งคนตรงหน้าเด็ดขาด

    ระหว่างที่ท่านไดกิยังไม่ตื่น ทาโร่ส่งจดหมายมาหาข้าว่าท่านยูกิอยากให้ท่านไดกิช่วยสอนการต่อสู้ให้ยูกิอนนะตนหนึ่งเจ้าค่ะ”อากาเนะกล่าวออกมา

    ข้าไม่สอนเขาปฏิเสธในทันที

    เอ่อเดี๋ยวสิเจ้าคะ ท่านอาโอยูกิกล่าวว่ายูกิอนนะตนนี้มีพลังมากที่สุดเท่าที่ท่านยูกิเคยพบเจอเจ้าค่ะ และคาดว่าน่าจะได้เป็นผู้นำตระกูลต่อจากนาง หากท่านไดกิช่วยฝึกฝนนางแล้ว ก็จะเหมือนได้สหายช่วยรบเพิ่มเจ้าค่ะอากาเนะกางจดหมายขึ้นมาอ่าน

    ข้าสอนใครไม่ไหวทั้งนั้นร่างกายข้ามันไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนชายหนุ่มรีบตัดบท โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เขาเองก็รู้ตัวดี และต้องมาสอนอีกฝ่ายยามฤดูหนาวมาเยือนเท่านั้น เขาไม่ทำเด็ดขาด

    ยังไงข้าก็ไม่สอน  พวกยูกิอนนะมาที่นี่ได้แค่ในฤดูหนาวเท่านั้น ข้าเกลียดฤดูหนาวโดยเฉพาะวันที่มีหิมะตก และข้าก็ไม่มีความจำเป็นที่จะคุยกับพวกยูกิอนนะแต่อย่างใดร่างนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่สนใจใยดี

    เจ้าค่ะท่านไดกิ ข้าจะส่งจดหมายกลับไปให้ทาโร่เจ้าค่ะอากาเนะคำนับ และออกไปจากห้อง ชายหนุ่มเพียงมองดูอาหารที่อยู่ในถาดเท่านั้น และลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงมองไปยังภาพหมู่บ้านเบื้องหน้าของเขา และนึกถึงหญิงสาวที่เคยอยู่กับเขา มองไปทางไหนเขาก็พบเพียงความทรงจำที่มีเธออยู่ด้วย ไดกิถอนหายใจออกมา เขาคิดว่านอกจากที่นี่จะมีแต่ความทรงจำของเธอแล้ว ที่นี่เองก็เริ่มจะใกล้ถูกมนุษย์รุกรานเต็มที แต่เขาก็ยังอยากจะอยู่ที่นี่...เผื่อมนุษย์ผู้หนึ่งจะหลงทางเข้ามา เผื่อหญิงสาวที่เขารอคอยมาแสนนานจะมาที่นี่และได้พบเจอเขาในที่สุด แม้ว่าจะดูสิ้นหวังก็ตามที แต่ร่างที่ป่วยกระเซาะกระแซะเช่นเขา มันทำประโยชน์อะไรไม่ได้มากนักแต่เมื่อคิดว่าหากเป็นมนุษย์คนอื่นที่จะเข้ามาที่นี่ล่ะก็เขาเองก็รู้สึกแย่ที่ตนเองเป็นผู้นำที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

    ข้าเป็นห่วงเหลือเกินถ้ามนุษย์เข้ามาวุ่นวายในที่แห่งนี้อีก ข้าจะคอยปกป้องดูแลพวกเจ้าไม่ได้อากาเนะที่ได้ฟังก็เป็นห่วงอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้นไปเสียอีก

    ท่านไดกิไม่สบายเจ้าค่ะ แต่พวกเราเป็นห่วงท่านไดกิเสียมากกว่า ท่านไดกิตอนนี้ต่อสู้กับมนุษย์พวกนั้นไม่ไหวหรอกค่ะอากาเนะกล่าว และจึงหันไปสั่งเด็กน้อยทั้งสามที่แอบอยู่ด้านหลังประตูในทันที ก่อนที่เธอจะต้องนำยามาให้ไดเทนกุเบื้องหน้าของตนรับประทาน

    สึบาสะ คาเซะ ไอ พวกเจ้าเฝ้าท่านไดกิด้วยนะ”อากาเนะหันไปกล่าว

    เจ้าค่ะ ท่านแม่ไอกล่าว

    ขอรับท่านแม่เด็กน้อยอีกสองคนกล่าวตามเด็กหญิงในทันที อากาเนะพยักหน้ารับและเดินจากไปในทันทีเพื่อไปเก็บของและจัดเตรียมยาต่อ และเด็กน้อยทั้งสามก็พูดคุยกันถึงช่วงเวลาที่ไดกิกำลังอยู่ในห้วงนิทรา

    "ตอนฤดูหนาวมีปิศาจตนหนึ่งจะบุกเข้ามาในที่นี่ด้วย และพวกการาสุเทนกุไล่นางออกไปแล้วในทันที แต่นางสวยมากเลยเมื่อโตขึ้น ข้าอยากสวยแบบนางบ้างจัง"ไอกล่าวออกมา

    "ไอ นี่เจ้าออกไปดูปิศาจตนนั้นรึ ท่านพ่อท่านแม่ก็สั่งห้ามแล้วไง ทำไมเจ้าถึงดื้อดึงนัก ออกไปก็ไม่ยอมบอกพวกข้า พวกข้าก็อยากเห็นนางบ้าง!!!"คาเซะโวยวายออกมา พอๆกับการาสุเทนกุตัวน้อยอีกตนพยักเพยิดเห็นด้วย 

    "ก็พวกเจ้าช้าเองนี่นา"ไอรีบกล่าวออกมา ไดกิที่ได้ฟังจึงถามไถ่ขึ้น

    แล้วนางก็เข้ามาในดินแดนของข้าน่ะรึ? โดยไม่สนใจพลังของข้าสักนิดน่ะหรือ?”ไดกิถามไถ่ขึ้น

    ใช่เจ้าค่ะ น่าแปลกชะมัด นางดูเหมือนไม่มีทีท่าจะเป็นอันตราย แต่นางเป็นยูกิอนนะที่มีพลังเท่าๆกับท่านไดกิเลยเจ้าค่ะไอ กล่าวขึ้น และนั่นทำให้เขาเองก็รู้สึกตัวเช่นกันว่าเขาเองควรจะทำหน้าที่เป็นผู้นำได้ดีกว่านี้ จะมามัวนอนป่วยเช่นนี้ไม่ได้แล้วเพราะชายหนุ่มยังคงมีหน้าที่ในการดูแลการาสุเทนกุตนอื่นๆด้วย เขาถอนหายใจออกมา และเห็นว่าตนเองช่างน่าสมเพชเสียจริง ร่างกำยำค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ

    ท่านไดกิจะไปไหนขอรับ!!!”เด็กน้อยกล่าวขึ้น

    ข้าเป็นไดเทนกุ ข้าต้องมีหน้าที่ดูแลปกครองพวกเจ้า ข้ามันอ่อนแอนักคงทำให้ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเจ้าเป็นห่วงล่ะสิ รวมถึงคนอื่นๆด้วย ข้าหลงลืมคำสาบานที่ข้าให้ไว้พวกเจ้าได้เช่นไรกันมือใหญ่ลูบศีรษะเด็กน้อยทั้งสาม

    แต่ว่าท่านไดกิไม่สบายนะขอรับ ข้าคิดว่าไม่น่ามีใครต่อว่าท่านหรอกขอรับสึบาซะกล่าวขึ้น

    แล้วท่านไดกิ คงจะคิดถึงท่านมายุสินะเจ้าคะ ข้าเชื่อว่าท่านมายุต้องคอยดูท่านไดกิจากสวรรค์แน่นอนเจ้าค่ะไอกล่าวขึ้น ชายหนุ่มเพียงครุ่นคิดในใจ เขาเองก็อยากจะรู้ว่าสวรรค์อยู่หนใด และมีความสุขจริงหรือไม่ อยู่ใกล้เขาหรือเปล่า ดวงตาสีดำขลับมองไปเบื้องหน้ายังที่ไกลแสนไกล แม้ว่าเขาจะดูเหมือนทำใจเรื่องการจากไปของมายุได้แล้ว แต่ในใจเขาก็ยังคงโศกเศร้าอยู่ ก่อนชายหนุ่มจะค่อยๆเดินออกไปจากห้องท่ามกลางความตกใจของทั้งสาม

    "ท่านไดกิขอรับ จะไปไหนขอรับ!!"คาเซะรีบกล่าวออกมาโดยมีทั้งสามวิ่งไปติดๆ

    "ไม่ต้องเป็นห่วงข้าไป ข้าจะประชุมกับการาสุเทนกุอาวุโสเสียหน่อย...ข้านอนป่วยมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่ข้าต้องทำอะไรจริงๆจังๆบ้างเสียที"

    "ทำอะไรรึเจ้าคะ"การาสุเทนกุน้อยถามขึ้นด้วยความอยากรู้

    "มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เจ้าคงไม่อยากฟังนักหรอก"มือกำยำลูบศีรษะเด็กทั้งสาม ดวงตาเรียวสีดำมีประกายความแน่วแน่อยู่ภายในนั้น 

    มายุของข้า ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าเองที่มันทำกับเจ้าเป็นเช่นนี้ โดยเฉพาะไอ้พวกจตุรเทพแล้วด้วย!! ข้าจะต้องวางแผนได้แล้ว ข้านอนป่วยมานานมากพอ ข้าต้องเข้มแข็งให้ได้มากกว่านี้ แต่ข้ายังมีสติมากพอที่จะไม่ใช้กำลัง ไม่เช่นนั้นเรื่องมันคงไม่จบง่ายๆเป็นแน่ ตอนนี้ข้าคงทำได้เพียงไปพบอิซานากิและให้เขาปลดปล่อยข้าให้เป็นอิสระ...แล้วหลังจากนั้น ข้าค่อยคิดบัญชีเหล่าเทพทีหลัง

     

    เดือนต่อมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่กลางทุ่งหิมะอันไร้ชีวิตชีวาใดๆ ยูกิที่นอนซมอยู่ในห้องนอนใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มองหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด ร่างบางนั่นนิ่งจนเหมือนก้อนน้ำแข็งเสียจนนึกว่าเป็นเพียงหุ่นไร้ชีวิตจิตใจ แต่ร่างกายของนางที่ไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ก็ทำได้เพียงนอนซมด้วยอาการป่วยเท่านั้น ทาโร่เองอยู่เคียงข้างยูกิไม่ห่าง เพื่อจะคอยดูแลเธอ ทั้งสองอยู่ด้วยกันตลอดประดุจเงาตามตัว อาโอยูกิเพียงแค่ไม่สบายเพราะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเกินไป เธอไม่ควรจะมาอยู่ในที่ที่สภาพอากาศช่างสุดขั้วเช่นนี้ แต่ก็มาที่นี่เพราะอยากจะเห็นชิโระยูกิด้วยตาตนเอง หญิงชรายิ้มออกมาให้ชิโระยูกิที่ยังคงนั่งนิ่งเช่นเดิม ก่อนทาโร่จะค่อยๆประคองนางให้ลุกขึ้นมาทานยา

    ท่านยูกิขอรับ ท่านควรจะกลับบ้านของท่านเพื่อสุขภาพของท่านนะขอรับทาโร่กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วง

    “ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ว่าใครจะดูแลชิโระยูกิกัน ถ้าเจ้าและข้าไม่อยู่ที่นี่ นางยังมีเรื่องที่ยังไม่รู้อีกมาก ข้าไม่อยากปล่อยนางไว้คนเดียวที่นี่หญิงชราเอื้อมมือไปจับ หญิงสาวที่นั่งข้างๆ ผิวของเธอเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง ร่างบางเงยหน้ามามองเธอด้วยความสงสัย

    ข้าไปด้วยไม่ได้หรือเจ้าคะร่างบางถามขึ้น

    เจ้ายังใช้พลังได้ไม่คล่องนัก หากไปอยู่ในที่ที่อากาศร้อนกว่านี้เจ้าจะตาย ต่อให้เจ้าใช้พลังได้แต่เจ้าก็ต้องสูบพลังจากสิ่งมีชีวิตอื่น ข้าเลยไม่อยากให้เจ้าไป การฆ่าคนอื่นมันไม่ดีนะยูกิอธิบายออกมา

    "เจ้าค่ะ ข้าจะจำไว้เจ้าค่ะ"อาโอยูกิเมื่อได้ฟังอีกฝ่ายหนึ่ง จึงอธิบายต่อ

    เจ้าต้องอยู่ที่นี่ คนเดียวมันจะยากกับเจ้าสักหน่อยแต่เจ้าจะได้รู้ว่ายูกิอนนะนั้นทำอะไรได้บ้าง และก็เลือกคบคนให้เป็น จงใช้คำพูดและการกระทำในการทำให้คนอื่นยอมรับ แต่อย่าใช้กำลังเด็ดขาด มีอะไรหลายอย่างที่เจ้าต้องเรียนรู้อีกมาก ค่อยๆเรียนรู้ไปทีละอย่าง...ร่างบางนิ่งฟังอยู่เช่นนั้น ยูกิเองก็ดูเหมือนจะหมดแรงกล่าวกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความเหนื่อยล้า เธอดูอาการไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

    เจ้าจงไปนำยามาให้ข้าเสียหน่อยสิ ชิโระยูกิ”อาโอยูกิสั่งอีกฝ่ายหนึ่ง

    เจ้าค่ะหญิงสาวลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ยูกิค่อยหันมากล่าวกับทาโร่ที่ประคองเธออยู่เช่นนั้น

    "นางยังเยาว์นัก ข้าไม่อยากให้นางอยู่ที่นี่คนเดียวเลยทาโร่ นางต้องถูกคนอื่นกลั่นแกล้งเป็นแน่ ข้าอยากให้ไดกิรับนางเอาไว้  แม้ข้าจะเกลียดเขาแต่เขาเป็นคนที่ข้ามั่นใจว่าเขาจะไม่สอนสิ่งที่เลวร้ายให้นาง...แต่ว่า เขาคงไม่รับนางเป็นศิษย์ใช่หรือไม่ ทาโร่"

    "ขอรับ ข้าได้รับจดหมายจากอากาเนะแล้วขอรับ ดูเหมือนท่านไดกิจะร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรงดีนักขอรับ"เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสลด

    "เช่นนั้นข้าขอให้เจ้าลองพยายามต่อไปได้ไหมทาโร่ ข้าขอเพียงเรื่องเดียวจากเจ้าเท่านั้น"อาโอยูกิขอร้องอีกฝ่ายหนึ่ง

    "ขอรับ"ทาโร่รับปากอีกฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าเขาเองจะไม่อยากรบกวนท่านไดกิมากนัก แต่ก็จะลองพยายามดู

    "นึกว่าข้าไม่รู้รึว่านางเป็นที่อิจฉาของยูกิอนนะตนอื่นๆมากเพียงใด ข้าแก่แล้วทาโร่ ถ้าข้าตาย...นางจะลำบาก"

    "อย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลยขอรับ ท่านยูกิยังแข็งแรงอยู่เลยนะขอรับ"อีกฝ่ายรีบกล่าวออกมา เวลามนุษย์พูดเรื่องความตายมันชวนให้ปิศาจเช่นเขากังวลยิ่งนัก

    "ไม่หรอก ข้าแก่แล้วจริงๆ อายุข้าก็จะแปดสิบแล้ว ช่วยดูแลนางต่อด้วยล่ะ"อาโอยูกิยิ้มออกมา ก่อนจะพอดีกับชิโระยูกิที่ถือถาดยาเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงเบื้องหน้าและกำลังง่วนกับการจัดชุดยานั้น มือที่แห้งเหี่ยวเอื้อมมาจับมือที่เย็นเฉียบของร่างบาง ทั้งสองจึงหยุดพูดคุยเรื่องดังกล่าวไปชั่วขณะ ก่อนหญิงชราจะนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีเรื่องสำคัญอยู่ที่ต้องบอกยูกิอนนะเบื้องหน้า

    ข้าคิดว่าเจ้าควรจะมีชื่อเฉพาะของเจ้าได้แล้ว ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชิโระยูกิ ที่เป็นชื่อที่ยูกิอนนะตั้งตามกันอย่างดาษดื่นดวงตาสีเงินมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง

    ข้าเองก็มีชื่อเต็มว่า อาโอยูกิ แต่ว่าชื่อในตอนที่ข้าใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์นั้นมีนามว่ายูกิหญิงชราอธิบายขึ้น

    แล้วข้าควรจะมีนามว่าอะไรดีเจ้าคะ?”เธอถามกลับ และยูกิกับทาโร่จึงหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย

    ข้าให้เจ้าเลือกเอง…”ยูกิยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ร่างบางนั้นเองก็ยังมีสีหน้าสงสัยอยู่เช่นนั้น

    เจ้าจงไปลองนั่งคิดดูเถิด หากได้นามนั้นเมื่อไหร่ค่อยนำมาบอกท่านยูกิทาโร่กล่าวออกมาบ้าง

    อย่างนี้ก็แล้วกัน ชิโระยูกิจงอยู่ที่นี่ เมื่อพวกข้ากลับมาเมื่อใด เจ้าก็เตรียมคำตอบไว้ให้ข้าทาโร่พยุงให้ยูกิลุกขึ้นช้าๆ และเตรียมตัวจะออกเดินทางกลับ หญิงชราสวมเสื้อหนาหลายชั้นเพื่อให้ได้รับความอบอุ่นเพื่อเตรียมไปนั่งรถยนต์ที่จอดอยู่ห่างไกลจากที่แห่งนี้ ก่อนจะตัดสินใจให้ชิโระยูกิต้องอยู่คนเดียวไปเสียก่อน

    เจ้าค่ะชิโระยูกิที่ได้ฟังผู้อาวุโสจึงคำนับ และตามคนทั้งสองออกไปจากห้อง ร่างบางเดินตามจนไปถึงด้านหน้าคฤหาสน์อันกว้างใหญ่และมองทั้งสองเดินออกไปยังทุ่งหิมะที่เงียบสงบแล้วเมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินลับตาไปในที่สุด ความรู้สึกโดดเดี่ยวนั้นจึงเข้ามาแทนที่ น่าแปลกที่ชิโระยูกิเคยอยู่คนเดียวมานานแสนนาน แต่พอเห็นทั้งสองเดินจากไปกลับรู้สึกว้าเหว่เช่นนี้ เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเสียเลย จากนั้นหญิงสาวจึงเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก

    ชิโระยูกิครุ่นคิดอยู่สักพักใหญ่แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะมีชื่ออันใดที่เหมาะสมกับเธอ ผู้มีเรือนผมสีขาว ค่อยเดินไปตามคฤหาสน์หลังมหึมา ที่มียูกิอนนะจำนวนมากเต็มไปหมด เพื่อหาคำตอบดังกล่าว เหล่ายูกิอนนะนั้นได้เล่นสนุกกันอยู่ด้านนอกที่ทุ่งหิมะ ชิโระยูกิเองก็จึงเดินไปมองหญิงสาวกลุ่มนั้นอยู่ห่างๆ เสียงเจื้อยแจ้วที่ดูสนุกสนานก็ตรงข้ามกับบุคลิกเธออย่างสิ้นเชิง จึงทำได้เพียงดูการละเล่นไปเท่านั้น ซ้ำยังมิพอไม่ห่างกันนักก็ยังมีหญิงสาวที่เต้นระบำยามฤดูหนาวด้วยความอ่อนช้อย ก่อนร่างนั้นจะหยุดเต้นรำและหันมามองเธอ

    ตายแล้ว!! ชิโระยูกินี่เอง สวยเสียจริงนะ คงเพราะว่าท่านเบนไซเทนเป็นคนให้พรเธอนี่นายูกิอนนะตนนั้นกล่าวขึ้น พร้อมกับหญิงสาวคนอื่นๆที่เข้ามาดูชิโระยูกิอย่างประหลาดใจ

    อย่างนั้นหรือ? ข้าจำไม่ได้เธอตอบอีกฝ่ายไป

    แย่จังข้ากะว่าจะให้เจ้าพาไปพบท่านเบนไซเทนเสียหน่อย เผื่อข้าจะได้ขอพรจากนางบ้างร่างยูกิอนนะตนนั้นที่ดูสวยงามไร้ที่ติได้กล่าวขึ้น ทำให้หญิงสาวงุนงงเสียนิดหน่อยว่าเธอจะอยากสวยมากขึ้นไปกว่าเดิมทำไม

    นั่นสินะ เจ้าน่าอิจฉาเสียจริง พลังก็เยอะ หน้าตาก็ดี แบบนี้คงได้เป็นผู้นำคนต่อไปแน่ๆเลยยูกิอนนะอีกตนกล่าวขึ้น ซึ่งนางก็มีหน้าตาสระสรวยไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ดวงตาสีดำขลับกลับจับจ้องเธอด้วยความเย็นชาเท่านั้น ชิโระยูกิจำได้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเธอมีนามว่า มาฟุยุ  ก่อนร่างนั้นจะกล่าวต่อ

    แต่ว่าข้าจะต้องเพิ่มพลัง ให้มากขึ้นกว่านี้อีกข้าจะใช้ทางลัดเสียดีกว่า”มาฟุยุแสยะยิ้มออกมา 

    ทางลัด?”ชิโระยูกิสงสัย ก่อนคนอื่นๆจะหัวเราะคิกคักออกมา

    เจ้าเพิ่งเกิดมาไม่นานสินะ คงยังไม่รู้ แต่เจ้าอยากรู้ไหมวิธีการเพิ่มพลังของยูกิอนนะอีกฝ่ายถามเธอขึ้น ร่างบางนิ่งไปสักพักและพยักหน้ารับ

    ก็ได้ งั้นข้าจะบอกว่าต้องทำเช่นไร”มาฟุยุสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้ และกระซิบที่ข้างหูเธอ ชิโระยูกินิ่งไปสักพักแต่ก็ยังมีสีหน้าที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก จนทุกคนหัวเราะร่าออกมาด้วยความตลกขบขัน

    "เจ้ายังไม่รู้อีกรึ ข้าคงกล่าวอ้อมไปเสียกระมัง การสูบชีวิตของยูกิอนนะนั้น สามารถสูบพลังของอีกฝ่ายได้ด้วยการสัมผัสตัวกันและกัน ยิ่งสัมผัสมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสูบชีวิตได้มากขึ้นเท่านั้น ยูกิอนนะอย่างเราเลยไม่ต้องกินอาหารอย่างไรล่ะ"ร่างสูงระหงของมาฟุยุกล่าวออกมา

    "แต่ว่าพวกเราไม่ชอบกินอะไรช้าๆกันหรอก ฉะนั้นแล้วบางที 'การหลับนอนกัน'หรือ 'การฆ่าอีกฝ่ายอย่างทารุณ' จึงเป็นทางออกอย่างไรล่ะ"หน้าของชิโระยูกิประหลาดใจขึ้นในทันทีที่ได้ฟัง แต่เหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเสียเท่าไหร่ จนยูกิอนนะข้างต้องกระซิบกระซาบขั้นตอนต่างอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อนั้นใบหน้าที่ขาวผ่องก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอาย

    คิกๆๆๆเสียงคนอื่นกลั้นขำออกมาเมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนั้น

    "จากนั้นก็ค่อยๆฆ่าผู้ชายพวกนั้นทิ้ง ยิ่งทรมาณอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ก็จะรีดพลังออกมาได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ยังไงพวกเราก็เป็นปิศาจที่มีชื่อเรื่องความดุร้ายอยู่แล้ว มันไม่แปลกหรอกที่เราจะทำอะไรแย่ๆเพื่อให้เรารอดชีวิตหรือได้สิ่งที่เราต้องการ"มาฟุยุยิ้มเหยียดออกมาอย่างน่ากลัว ก่อนจะทำหน้ากลับมาเป็นปกติเฉกเช่นเดิม ชิโระยูกิเพียงสงสัยว่าการฆ่าคนนั้นที่ยูกิกล่าวว่าไม่ดี เหตุใดคนอื่นๆถึงทำกันเป็นเรื่องปกติล่ะ ระหว่างนั้นเหล่าหญิงสาวเบื้องหน้าก็เริ่มหยอกเธอ

    แปลว่าที่จริงเจ้าก็พอรู้เรื่องบ้างล่ะสิ ไม่ได้ไร้เดียงสาแบบที่อยู่ต่อหน้าท่านยูกิเลยนี่นา~”เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนร่างผอมบางของยูกิอนนะอีกตนจะรับไม้ต่อ

    เอหรือว่าตอนที่เจ้าเดินทางมาถึงที่นี่ได้ เจ้าคงผ่านมาเยอะล่ะสิ? พลังของเจ้าถึงมากมายขนาดนี้ เอมีผู้ชายตายเพราะเจ้าไปกี่คนกันนะ?”ร่างบางฟังผู้อื่นหัวเราะเยาะใส่ ก็รู้สึกไม่ชอบเป็นอย่างมาก

    ข้าทำแบบนั้นเสียที่ไหนกัน? ข้าไม่เคย!!”เธอตวาดออกมา ผู้ฟังเพียงชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็กลับมาหยอกล้อเธออีก

    เจ้าไม่เคย? ตลกชะมัดจะบอกว่าพลังของเจ้ามันมากมายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? เจ้าไม่เคยแม้แต่จะล่าเหยื่อเลยสักครั้ง? เจ้านี่มันช่างโชคดีนัก พวกข้าน่ะต้องกัดกินพวกผู้ชายที่ชะตาขาดเพื่อประทังชีวิตไปเรื่อยๆ หึ!! ลองให้มีปิศาจหนุ่มหล่อๆมาถึงที่นี่เสียบ้างสิ ข้าจะได้กินเขาไม่ให้เหลือ และเอาพลังของเขามาเป็นของข้า!!”เธอกล่าวออกมา แน่นอนว่าทาโร่นั้นเป็นข้อยกเว้นเพราะถ้าไปยุ่งอะไรกับเขาเธอคงถูกอีกฝ่ายทำร้ายเสียก่อน แถมยูกิเองก็คงจะเล่นงานพวกหล่อนเสียอีกรอบหนึ่งด้วย

    ข้าไม่เคย ...ข้ามีพลังมาตั้งแต่แรกแล้วเท่านั้น”ชิโระยูกิยังคงเถียงอีกฝ่าย

    ถ้าอย่างนั้นก็ลองออกล่าดูบ้างสิ…”ชิโระยูกิที่ได้ฟังก็ไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธอีกฝ่ายหนึ่ง นางเพียงเดินจากไปอย่างเงียบๆเท่านั้น เส้นผมสีขาวมองออกไปที่ทุ่งหิมะมองอยู่อย่างนั้นเธอไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองเลยสักนิดเดียว ทั้งที่เธออายและโกรธจนตัวสั่น ทำไมเธอจึงมีความรู้สึกเช่นนี้กัน ยูกิอนนะต่างหัวเราะเยาะกับท่าทางของเธอ แต่ชิโระยูกิกลับไม่สนใจเสียงนกเสียงกาแต่อย่างใด จนไม่ทันเห็นว่ามียูกิอนนะอีกตนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอตั้งแต่ก่อนที่ชิโระยูกิจะเดินมาที่นี่อีก

    รอพ่อแม่มารับสินะ ขี้แยเหมือนเด็กอนุบาลเลยเสียจริงมิยูกิกล่าวออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่าย ร่างนั้นยังคงสาวสดงดงามต่างจากพี่สาว อาโอยูกิอย่างสิ้นเชิง ร่างบางหันไปมองผู้พูดอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

    เจ้าน่ะ จะมาเป็นหัวหน้าตระกูลนั้นคงจะง่ายเกินไปล่ะมั้งไม่เห็นเจ้าจะรู้เรื่องอะไรเลย?”มิยูกิกล่าวออกมา เพราะชิโระยูกิช่างไม่ประสีประสาเรื่องใดๆเลยทั้งสิ้น

    ข้าไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าอยากจะเป็นหัวหน้าตระกูลเจ้าค่ะชิโระยูกิกล่าวออกมา ยังไงคนเบื้องหน้าก็มีศักดิ์เป็นถึงน้องของท่านอาโอยูกิ เธอจึงต้องเคารพอีกฝ่ายหนึ่ง

    อย่างนั้นก็ดีหวังว่าจะเป็นไปตามคำนายล่ะร่างนั้นใช้นิ้วม้วนผมตัวเองเล่นไปพลางๆ

    ท่านมิยูกิช่วยบอกเรื่องคำทำนายได้หรือไม่เจ้าคะ?”

    เจ้าเองไม่รู้รึ? เชื่อเลย….เจ้าน่ะมีหน้าที่ต้องแต่งงานกับเจ้าปิศาจเทนกุยังไงล่ะ เพราะโชคชะตาของเจ้า ดังนั้นก็อย่าฝืนสะเออะมาขวางหูขวางตาอยากเป็นผู้นำตระกูลเสีย!! เจ้าจะซวยได้”ชิโระยูกิไม่อาจทราบได้ว่าอีกฝ่ายต้องการเตือนหรือข่มขู่เธอมิยูกิเองก็ทราบคำทำนายดี แต่เธอไม่ยอมรับว่าคำทำนายนั้นจะให้ชิโระยูกิมาเป็นผู้นำตระกูลแบบที่พี่สาวของเธอคาดไว้แต่อย่างใด อย่างชิโระยูกิอย่างมากก็เป็นได้แค่ของกำนัลเอาไปให้เทนกุพวกนั้นเท่านั้นเพื่อความสัมพันธ์ที่รุ่งเรืองของยูกิอนนะ

    ปิศาจเทนกุ? หรือว่าเขาจะรู้นามของข้า? แล้วเขาคือใครหรือเจ้าคะ?”ชิโระยูกิกล่าวออกมา

    เจ้าไม่รู้เรื่องคำทำนายเลยรึ มันไม่มีคำทำนายไหนบอกตรงๆหรอกนะว่าเจ้าจะเกิดมาเป็นอะไรหรือต้องทำอะไร มันแล้วแต่คนจะตีความ แต่ข้ายังพอจะจำได้บ้าง ว่ายูกิอนนะอาวุโสกล่าวออกมาว่า 'ยูกิอนนะผู้มีเรือนผมสีขาวด้วยพรของอิซานากิและความงดงามประดุจเทพเบนไซเทนจะปรากฏตัวขึ้น และนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ตระกูล' ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่คำทำนายแค่นี้ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นจนเกินเหตุ โดยเฉพาะพี่สาวของข้าก็ด้วย แต่เจ้าก็โผล่มาจริงๆ ตอนนี้ทุกคนเขาสงสัยกันแล้วว่าเจ้าจะทำสิ่งใดต่อไป อีกฝ่ายส่ายหน้าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองต้องทำสิ่งใดต่อ

    "ข้าไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ ข้าต้องทำสิ่งใดต่อ"

    "อะไรก็ได้ เจ้าจะไปแต่งงานกับใคร หรือจะเป็นคนที่ต่อสู้กับเหล่าเทพก็ได้ แต่อย่ามาเป็นผู้นำตระกูลล่ะ ข้าจะต้องเป็นผู้นำตระกูลเท่านั้น"มิยูกิกล่าวออกมาในที่สุดด้วยความตั้งมั่นอย่างแรงกล้าว่าตนเองจะเป้นผู้นำตระกูลให้ได้ แต่ก่อนมิยูกิจะกล่าวอะไรต่อ ชิโระยูกิก็รีบเดินทางออกไปจากคฤหาสน์

    เจ้าจะไปไหนกัน? ตอนนี้อย่างเจ้าออกไปก็ตายพอดี นี่มันฤดูใบไม้ผลินะ ที่อื่นมันไม่เย็นสบายเหมือนที่นี่หรอกนะ!!!”ร่างนั้นรีบจ้ำอ้าวมาหาเธอ

    แต่ว่า…”เธออ้ำอึ้งเสียสักพัก แต่ก็ยอมกลับมา

    ชิโระยูกินึกถึงคราวเมื่อเธอเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางในยามฤดูหนาวที่ถูกหิมะปกคลุม จนไปพบกับทางที่ดูชินตาอย่างน่าประหลาดแต่กลับหลงทางในที่สุด  ร่างบางไม่รู้จะไปที่แห่งใดต่อจึงถามหญิงผู้สวมชุดเฮอัน ซึ่งก็ได้คำตอบว่าให้มาที่นี่ แต่ไม่ว่าจะพยายามจดจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นเช่นไรก็ดูเหมือนจะเลือนลางเหลือเกิน  สิ่งที่เธอจำได้คือเกล็ดหิมะสีขาวที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเท่านั้น

    เกล็ดหิมะสีขาวข้าเห็นสีดำ สีแดงมันคืออะไรกันข้าจำไม่ได้ เอาไว้ค่อยๆนึกน่าจะดีเสียกว่ายังไงข้าก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฤดูหนาวจะมาถึงอีกสักคราแต่ว่าน่าเบื่อเสียจริง ที่นี่ดูเหมือนจะมีแต่คนเกลียดข้า ข้าทำอะไรผิด แล้วเทพเบนไซเทน และเทพอิซานากิอีก พวกเขาให้พรข้าตามที่คนอื่นได้กล่าวจริงหรือ แล้วถ้าเช่นนั้นทำไมเทพีแห่งความงามและเทพแห่งการสร้างสรรพสิ่งจะต้องมาสนใจปิศาจอย่างข้าด้วยกันล่ะข้าไม่เห็นจะเข้าใจอะไรสักอย่างเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×