คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : [SF] Chilly Boy ::SEOKSOON::{17TEEN}
“ นี่พวกนาย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าตอนกลางคืนพวกนายแอบหนีออกไปเที่ยวข้างนอกกันหน่ะ
เลิกทำซะถ้าฉันจับได้เมื่อไหร่ พวกนายเจอดีแน่ ”
สิ้นเสียงของซึงชอลฮยองก็คือร่างของเหล่าสมาชิกเซเว่นทีนที่สั่นพลัก ๆ ขึ้นมาพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย ก็จะให้ทำยังไงหล่ะตอนนี้
พวกเราก็แทบจะไม่มีเวลาได้ออกไปเที่ยวเล่นไหนกันตอนกลางวันเหมือนที่เด็กคนอื่น ๆ เขาทำกัน อยู่แล้ว แล้วเวลากลางคืนแบบนี้ยัง
จะมาห้ามกันอีกงั้นเหรอ ? มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือไงครับฮยอง - -
“ว่าไง ยังไม่มีใครตอบตกลงฉันเลยนะ”
ซึงซอลฮยองหันมาจ้องหน้าผมที่กำลังฉายแววขุ่นข้องออกมาได้ชัดเจนที่สุดในจำนวนสมาชิกทั้งหมด ผมรีบก้มหน้างุดลงทันที
“ ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ แต่นี่มันเป็นคำสั่งของผู้จัดการ แล้วฉันก็มีหน้าที่แค่เอามาบอกพวกนายเท่านั้น
เข้าใจไหมซูนยอง”
ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงทุ้มห้าวที่เอ่ยเรียกชื่อผมอย่างตกใจ ซึงซอลฮยองเพียงแค่ส่งยิ้มเล็ก ๆ
มาให้ผมก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าห้องไปทันที
ฮยองเพียงแค่เป็นห่วงพวกเราเท่านั้น ผมเข้าใจแล้ว
“ ผมว่าซึงซอลฮยองจะทำกินไปแล้วนะ ”
ผมรีบหันขวับไปมองเจ้าของเสียงคุ้นหูทันทีที่พวกเราพากันแยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ลี ซอกมิน ใบหน้าที่ฉายแววเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนั้นฉันไม่ชอบเลยนะ
“ ฮยองก็แค่เป็นห่วงพวกเราก็เท่านั้น ”
ผมเอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมกับปีนตามเด็กเอาแต่ใจที่นั่งหน้างุ้มอยู่บนบนที่นอนของตัวเอง ซอกมินรีบเขยิบเข้ามาใกล้ผม
ทันทีที่ผมจัดแจงวางตัวเองลงบนที่นอนของผมเรียบร้อยแล้ว
“ แต่เราสองคนไม่ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันนานแล้วนะครับ ”
ซอกมินมันรีบยื่นมือมาตระคลุบมือผมไปกุมเอาไว้เบา ๆ ใบหน้าหล่อ ๆ ที่กำลังฉายแววความเป็นเด็กออกมานั่น
มันช่างดูขัดกันซะเหลือเกิน
“ ก็รอให้ถึงวันหยุดก่อนสิ ”
“ ถึงจะหยุดแต่เราก็ต้องหมกกันอยู่ในห้องซ้อมกันทั้งวัน ”
“งั้นตอนเย็น ๆ ”
“ผมกับฮยองเลิกเรียนพร้อมกับซะที่ไหน”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ตอนกลางคืนก็ได้นี่ ”
“ฮยองลืมไปแล้วหรือไงว่าพวกเรากำลังถูกกักบริเวณกันอยู่หน่ะ ”
ส่งเสียงหายใจออกมายาว ๆ พร้อมกับฝ่ามือของผมที่หล่นแปะลงไปวางอยู่บนที่นอนแทบจะทันที
ซอกมินงอนผมแล้ว ? ตอนไหน เรื่องอะไร ทำไมอยู่ดี ๆ เขาถึงต้องงอนผม ? ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย
“ ฮยองไม่อยากออกไปข้างนอกกับผมงั้นสิ ”
“ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ ”
ผมรีบสวนเจ้าเด็กเอาแต่ใจที่นั่งหันหลังให้ผมอย่างอ่อนใจ ซอกมินมันรีบวางตัวเองลงบนที่นอนก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนมิดหัว
ผมควรจะทำยังไงดี ซอกมินไม่เคยงอนผมมากขนาดนี้เลยนะ
ผมคิดกับตัวเองอย่างร้อนรนก่อนจะรีบทำท่าจะเอื้อมมือไปดึงผ้าหนา ๆ ที่คลุมอยู่บนตัวของคนรักของผมออก
แต่เสียงทุ้มหนักของคนที่นอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มที่ส่งออกมาทำเอาผมต้องรีบหยุดการกระทำของตัวเองลงทันที
“ ฮยองไม่ต้องมาจับผมเลย แล้วก็มาต้องสนใจผมด้วย ถ้าฮยองไม่อยากไปกับผม ผมไปคนเดียวก็ได้ ผมไม่ง้อฮยองหรอก ”
“ ซอกมิน ”
“ผมจะนอนแล้ว ฝันดีครับ ”
สิ้นเสียงของคนภายใต้ผ้าห่มก็คือความเงียบสงบที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในห้องของเราสองคนอีกครั้ง ผมค่อย ๆ วางตัวเองลงบน
ที่นอนช้า ๆ พร้อมกับสายตาที่ยังคงจดจ้องไปก้อนผ้าห่มก้อนใหญ่ที่ครอบคลุมเจ้าเด็กขี้แงของผมอยู่ ผมนอนไม่หลับ และและหลับไม่ลง
ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ผมไม่ชอบซอกมินที่เป็นแบบนี้ ซอกมินที่ทำตัวเป็นเด็ก ซอกมินที่ไม่มีเหตุผล และซอกมินที่ทำให้ผมไม่สามารถ
หลับตาลงได้แม้กระทั่งตอนนี้ ตอนที่เข็มนาฬิกากำลังจะเหยียบข้ามไปยังอีกวันนึงแล้ว
“ซูนยองฮยอง”
ผมรีบปิดตาตัวเองลงทันทีที่ได้ยินเสียงกระซิบของคนที่ผมกำลังนึกถึงอยู่ ผมรู้สึกถึงฝ่ามือเรียวยาวของใครบางคนที่พัดผ่านใบหน้าของ
ผมไปสองสามทีก่อนที่ร่างสูง ๆ ของคน ๆ นั้นข้ามผ่านลำตัวของผมแล้วปีนลงไปด้านล่าง สิ้นเสียงปิดประตูที่อยู่ในระดับที่เบาที่สุด
ผมก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที
ซอกมินจะไปไหน เจ้าเด็กนี่มันจะทำในสิ่งที่มันพูดจริง ๆ เหรอเนี่ย ! ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
ผมคิดกับตัวเองอย่างหัวเสียพร้อมกับความรู้สึกเป็นห่วงคนที่กล้าขัดคำสั่งแม้กระทั่ง”ลีดเดอร์”
นั่นสิ !! ถ้าซอกมินมันถูกพี่ซึงซอลจับได้มันต้องแย่แน่ ๆ !!
ผมรีบยันตัวลุกขึ้นก่อนจะปีนลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องออกไป ความว่างเปล่าเท่านั้นที่ผมมองเห็น
“ซอกมิน ลี ซอกมินนายได้ยินฉันไหม ?? ”
ผมส่งเสียงออกไปเบา ๆ พร้อมกับค่อย ๆ สาวเท้าไปรอบห้องในระดับที่เบาที่สุด
ไร้สัญญาณตอบรับ ? เจ้านั่นออกไปแล้วงั้นเหรอ บ้าจริง มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรือไง
“ ซะ ซูนยองฮยอง ”
ผมรีบหันขวับไปมองที่มาของน้ำเสียงแปลก ๆ ที่ดังออกมาจากที่ไหนซักแห่งของห้องห้องนี้อย่างรวดเร็ว
ห้องน้ำ ? ใช่แล้ว เสียงนั่นดังออกมาจากในห้องน้ำจริง ๆ ด้วย
ผมคิดกับตัวเองอย่างดีใจก่อนจะรีบเดินดิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าซอกมินแค่ออกมาเข้าห้องน้ำเท่านั้น
เจ้านั่นมันไม่คิดจะแอบหนีผมไปเที่ยว เหมือนที่ปากหนา ๆ นั่นพร่ำออกมาซักหน่อย
“ซะ ซูนยองฮยอง ผะ ผมไม่ไหวแล้ว ”
ผมรีบรีบผละหน้าออกมาเบา ๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงแหบพร่านั่นเรียกชื่อของผมออกมาอย่างไม่ขาดสายตา
น้ำเสียงหนัก ๆ ที่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับคนที่กำลังจะหายใจไม่ออกนั่น ...
ซอกมิน !! อย่าบอกนะว่าโรคประจำตัวนายกำเริบหน่ะ ให้ตายเหอะ ! ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ !! ใจเย็นไว้
ฉันกำลังจะไปช่วยนายเดี๋ยวนี้แหละ !!
ผมรีบใช้มือสั่น ๆ ของตัวเองพลักประตูห้องน้ำที่ยังคงมีเสียงร้องของคนด้านในดังกระเส่าอยู่ไม่ขาดสายเข้าไปทันที
ว่างเปล่า ? ว่างเปล่า งั้นเหรอ ให้ตายเหอะ ซอกมิน ! นายอยู่ที่ไหนกันหน่ะ
ก่อนที่ผมจะแหกปากตระโกนเรียกชื่อเจ้าเด็กนั่นออกไปอีกครั้ง ผมก็รู้สึกได้ถึงฝ่ามือหนา ๆ ของใครบางคนที่ยื่นขึ้นมากระชากตัวผม
ให้ล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าแดงก่ำของคนที่นั่งหลบอยู่ตรงซอกของประตูห้องน้ำ ก่อนจะค่อยๆ
ไล้สายตาลงมายังอะไรบางอย่างที่กำลังถูกมือเรียวยาวของเจ้าของของมันรูดขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ
หะ ให้ตายเถอะ นะ นี่ มัน อะ อะไรกาน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ฮะ ฮยอง ”
“ อุ๊บส์ !!! ”
ก่อนที่ผมจะแหกปากตระโกนแล้ววิ่งหนีออกไปข้างนอกอย่างที่ตัวเองต้องการ ผมก็ถูกไอ้คนตรงหน้ากระชากเข้าไปจูบอย่างรวดเร็ว
รสจูบที่เร้าร้อนและรุนแรงมันไม่ทำให้ผมตกใจและฝืนที่จะดิ้นรนเท่ากับฝ่ามือหนาที่กำลังชักพามือขาว ๆ ของผมให้ไปสัมผัสกับ
แท่งอะไรบางอย่างที่ร้อนระอุจนผมรู้สึกแสบมือ ซอกมินค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกมาจากผมก่อนจะค่อย ๆ จับมือของผมขยับ
สิ่งที่แข็งขืนอยู่ภายใต้ฝ่ามือของเราสองคนขึ้นลงอย่างเอาแต่ใจ ผมพยายามจะดึงมือของผมออกหากแต่แรงกดหนัก ๆ
ของฝ่ามือหนา ๆ ที่กำลังทาบทับฝ่ามือของผมอยู่ทำให้ผมต้องเก็งมือตัวเองไว้อย่างนั้น ผมรีบปิดตาลงอย่างรวดเร็วทันทีที่คนตรงหน้า
ยื่นหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของผมอีกครั้ง ก่อนที่แรงกระตุกแรง ๆ พร้อมกับหยดน้ำเหนียวหนืดที่ฉีดพุ่งขึ้นมา
เปื้อนใบหน้าของผมจะทำให้ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับเจ้าของใบหน้าแดงก่ำที่กำลังส่งเสียงหอบแฮ่ ก ๆอยู่เบื้องหน้าช้า ๆ
“ นะ นายมัน “
.
.
.
.
“ โรคจิต ! “
~ (ห้องซ้อม) ~
พลาดแล้ว ! ผมทำในสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตไปแล้ว ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริง ๆ ใบหน้าหวาน ๆ ที่คอยเอาแต่หลบหน้าหลบตาผมทั้งวัน
มันทำให้ผมอึดอัดจนแทบจะอยากระเบิดตัวตายไปให้รู้แล้วรู้รอด ซูนยองฮยองคงรังเกียจแล้วก็ขยะแขยงผมมากเลยสินะ u..U แต่จะให้
ผมพูดยังไงดีหล่ะ ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะใครกัน ถ้าไม่ใช่เพราะริมฝีปาก นุ่ม ๆ ผิวขาว ๆ แล้วก็กลิ่นตัวหอม ๆ ของฮยองที่ทำให้ผมลืม
ความผิดชอบชั่วดีจนบังคับฮยองให้ในสิ่งบ้า ๆ แบบนั้น
จะให้ผมโทษตัวเองฝ่ายเดียวอย่างนั้นหน่ะเหรอ มันไม่ยุติธรรมกับลี ซอกมินคนนี้เลยซักนิด !
“ ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอวะ ”
“ เปล่าหรอก ”
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนเจ้าของเสียงแหบแห้งที่กำลังทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ผม มินกยูมันมองหน้าผมแปลก ๆ
ก่อนจะสบัดหัวไปมาเบา ๆ ผมรีบเหลือบไปมองการกระทำแปลก ๆ ของมันอย่างอดนึกสงสัยไม่ได้
“เป็นอะไร”
“ เปล่า ”
“อย่ามากวนตี_ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ”
ผมหันไปถอนหายใจหนัก ๆ ใส่มันก่อนจะหันหน้าหนีทันที
ขอโทษวะมินกยู วันนี้กูไม่มีอารมณ์จะเล่นกับมึงจริง ๆ
“ พี่วอนอูแม่งไม่มีเวลาให้กูเลยวะ ”
“ ไม่มีเวลาห่าอะไรกูเห็นมึงไม่เคยห่างพี่เขาเดินสามวิได้ซักที ”
“ ไม่ใช่เวลาแบบนั้น ”
“ หา ~ ?”
ผมค่อย ๆ หันหน้าไปมองเจ้าของเสียงซึม ๆ ของคนที่นั่งคอตกอยู่ด้านข้าง
ไม่ใช่เวลาแบบนั้น .....
อย่าบอกนะว่ามึงกับพี่วอนอู ......
“ กูแม่งโครตอึดอัดจะอาทิตย์นึงได้แล้วเนี่ยกูยังไม่ได้ .....”
“เฮ้ย ๆ แปบ ๆ คือเวลาที่มึงหมายถึงคือ ...... ”
“ ก็เวลาที่สามีภรรยาเขามีเวลาอยู่กันสองคนไง มึงงงอะไรเนี่ย ”
“หา !!!!!!! อย่าบอกนะว่ามึงกับพี่วอนอู !! ”
“มึงตกใจอะไรนักหนาวะ หรือว่ามึง ? อย่าบอกนะว่ามึงกับพี่ซูนยองยัง ...... ”
“หุบปาก !! ก็เออดิวะ ”
ผมรีบเอื้อมมือไปปิดปากเจ้าของดวงตาโต ๆ ที่มองมายังใบหน้าตื่น ๆ ของผม มินกยูมันรีบดึงมือผมออกจากของมัน
ก่อนจะใช้สายตาแปลก ๆ จดจ้องมาที่ใบหน้าซีด ๆ ของผมอย่างไม่นึกเกรงใจ
“ทำไมวะ”
“กูจะไปรู้ได้ไง”
“ ทำไมมึงถึงไม่ขอหล่ะ ”
“แค่กูให้ช่วยนิดหน่อยแม่งก็งอนกูจะครึ่งปีได้ละ ถ้ากูขอกูไม่โดนงอนยาวไปถึงชาติหน้าเลยหรือไง”
ผมเงยหน้าขึ้นไปโผล่งใส่มันอย่างเหลืออด มินกยูมันผละหน้าหนีเล็กน้อย ๆ ก่อนที่ใบหน้าหล่อ ๆ ของมัน
จะแย้มรอยยิ้มแบบที่ผมเกลียดที่สุดออกมา
“กูรู้แล้วพี่ซูนยองงอนมึงเรื่องนี้ ?”
“ ............... ”
“มึงต้องบังคับเขาแน่เลย ”
“มึงรู้ได้ยังไง”
ผมรีบเงยหน้าขึ้นถามันอย่างลนลาน มินกยูมันคายรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม ๆ ออกมาอีกครั้งอย่างคนเป็นต่อ
“กูรู้เพราะกูก็เคย”
“ ................ ”
“แต่พี่วอนอูไม่ชอบหรอก กูว่าพี่ซูนยองของมึงก็ด้วย ”
“ก็ตอนนั้นมันฉุกเฉินนี่หว่า ”
ใช่ มันเป็นเวลาที่เขาใกล้จะพาตัวเองถึงฝั่งอยู่แล้ว แต่พี่ซูนยองของเขากลับพาร่างกายที่เขากำลังจินตนาการถึงอยู่มาให้เห็นซะงั้น
ใครทนไหวก็บ้าแล้ว !!
“ฉุกเฉินอะไรของมึงวะ”
“กูขอไม่เล่าได้ปะ”
“เออ ๆ กูไม่อยากรู้ก็ได้ ว่าแต่ตอนนี้มึงไปขอให้พี่เขายกโทษให้มึงให้ได้ก่อนเหอะ อย่างอื่นค่อยเอาไว้ทีหลัง”
พูดจบมันก็ยันตัวลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าบิดขี้เกรียจตามแบบฉบับของมัน ผมเลยไม่รอช้าที่จะลุกตามมัน
ทันทีที่เห็นซึงชอลฮยองเดินออกมาจากห้องเล็ก
“ปะ กลับห้องกันได้แล้ว”
“ เอ่อ ซึงซอลฮยองซูนยองมันยังไม่ออกมาจากห้องน้ำเลยนะครับ ”
ผมรีบหันควับไปทางห้องเล็กทันทีที่วอนอูฮยองส่งเสียงทักซึงซอลฮยอง
ยังไม่ออกมางั้นเหรอ ? เหอะ ได้การหล่ะ
“อะ เอ่อ ซึงชอลฮยอง คะ คือฮยองพาเมเมเบอร์กลับไปก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรอซูนยองฮยองหรอก
เดี๋ยวผมรอกลับพร้อมซูนยองฮยองก็ได้”
ทำไมหล่ะ ก็กลับพร้อมกันสิ”
“ อะ เอ่อ พอดีว่าข้าวของเครื่องใช้ผมหมดเกลี้ยงเลยหน่ะครับ ก็เลยจะแวะซื้อซักหน่อย”
ผมรีบสวนฮยองออกไปทันที ซึงซอลฮยองหันมามองผมแปลก ๆ ผมรีบหลุบตาลงทันที
“ เอางั้นเหรอ ?”
" คะ ครับ ๆ ”
“อย่างนั้นก็ได้ฉันก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน อย่ากลับกันดึกมากหล่ะ เข้าไหม”
“ครับฮยอง บ๊ายบายนะครับ”
ผมรีบโบกมือให้สมาชิกที่กำลังทยอยเดินกันออกไปจากห้องซ้อม เมื่อแผ่นหลังหนา ๆ ของเจ้ามินกยูที่พึ่งหันมายักคิ้วให้ผม
หายไปจากสายตาแล้วผมก็รีบเดินตรงไปยังห้องเล็กทันที
แกร๊ก !!
“ซะ ซอกมิน ”
“ซูนยองฮยอง ! ฮยองจะรีบไปไหนหน่ะ รอผมก่อนสิครับ”
ผมรีบวิ่งตามคนที่อยู่ดี ๆ ก็พรวดพราดออกไปนอกตึกซะอย่างนั้น
“ซูนยองฮยองอย่าไปยืนริมฟุตบาทแบบนั้นสิครับ เดี๋ยวรถจะเฉี่ยวเอานะ”
ผมรีบวิ่งไปรั้งข้อมือเล็ก ๆ ของคนที่กำลังรีซ้ายรีขวาหารถตู้ของบริษัทอย่างน่าสงสาร
ซูนยองฮยองรีบสบัดมือออกจากการเกาะกุมของผมทันทีที่รู้สึกตัว
“ทะ ทุกคนไปไหน”
ซูนยองฮยองเอ่ยเสียงสั่น ๆ ออกมาอย่างนึกหวาดกลัว
ฮยองกลัวอะไร ? กลัวผมงั้นเหรอ ? ไม่สิ มันต้องไม่ใช่อย่างนั้น ฮยองกลัวผมทำไม ผมไม่ได้มีอะไรน่ากลัวซักหน่อยนะ
“กลับไปหมดแล้วครับ ”
“ดะ ได้ยังไงก็ในเมื่อฉันกับนาย .. ”
“ผมบอกให้พวกนั้นกลับไปเองแหละครับ”
ผมรีบใช้สายตาสำนึกผิดจดจ้องไปยังใบหน้าขาวซีดของคนที่ยืนตัวสั่นพลัก ๆ อยู่ด้านหน้า
เลิกทำตัวให้ผมรู้สึกสงสารฮยองซักทีจะได้ไหม แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้วนะ
“ ฮยอง ”
ผมค่อย ๆ ยื่นมือไปกุมข้อมือเล็ก ๆ ของคนที่ยืนเบิกตาโผลงอยู่ตรงหน้าช้า ๆ ซูนยอฮยองงรีบเอามือตัวเองซ่อนไว้ด้านหลังทันที
“ผมขอโทษนะครับ”
“ระ เรื่องอะไร”
ซูนยองฮยองเอ่ยตอบผมทั้ง ๆ ที่ยังคงก้มใบหน้าขาว ๆ นั่นลงจนชิดกับแผงอก
แค่เงยหน้ามามองผมฮยองฮยองยังทำไม่ได้เลยหรือไง จะใจร้ายเกินไปแล้วนะ
“ก็เรื่องเมื่อคืนที่.....”
“หยุดนะซอกมิน ”
ซูนยองฮยองรีบยกมือนุ่ม ๆ ขึ้นมาปิดปากผมไว้อย่างรวดเร็ว
อ๊าส์ ~ หอมจังเลย ~
“อย่าพูดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นออกมานะ”
ฮยองรีบผละมืออกจากริมฝีปากของผมก่อนจะเอ่ยคำข่มขู่ ออกมาเบา ๆ นี่ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าใบหน้าที่เคยซีด ๆ
ของฮยองมันกลับกลายเป็นสีแดงฉาดขึ้นมาอีกแล้ว
ให้ตายเหอะ ! ฮยองเขินที่จะพูดเรื่องนั้นเหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อเลย
“ฮยองรังเกรียจผมเหรอ ? ”
ผมค่อย ๆ ยื่นหน้าไปวางบนลาดไหล่ของคนตัวเล็กที่กำลังยืนหันหลังให้ผมอยู่
ซูนยองทำท่าจะขยับตัวหนีทำให้ผมไม่รอช้าที่จะรีบรวบเอวบางเข้ามาแนบชิดกับลำตัวทันที
“ปะ ปล่อยฉันนะ”
“ฮยองต้องบอกผมมาก่อนว่าทำไมฮยองต้องรู้สึกไม่ชอบขนาดนั้นด้วย”
“มะ ไม่รู้ ”
“ซูนยองฮยอง”
“อะ อะไร”
“บอกผมมา ไม่งั้นผมจะจับฮยองจูบ ตรงนี้เลยด้วย”
“………….”
“ฮยองคิดว่าผมไม่กล้าเหรอ ?”
“.................’
“ผมทำได้นะ”
“..................”
“ บอกฮยองแล้วนะ ....”
“ ก็ใครจะไปชอบให้มือตัวเองไปถูกของคนอื่นแบบนั้นหล่ะ ”
ซูนยองฮยองรีบพลิกตัวหันมาพูดกับผมด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ของอื่นงั้นเหรอ ? ผมอื่นที่ฮยองว่ามันคือคนรักของฮยองเองนะครับ
“ รวมถึงผมด้วยเหรอครับ ”
“ ก็ทุกคนนั่นแหละ”
“แต่ผมเป็นแฟนฮยองนะ ”
“แต่นั่นก็ไม่แปลว่านายจะบังคับฉันได้นะ !”
ซูนยองฮยองเงยหน้าขึ้นมาตวาดให้ผมเบา ๆ อย่างเหลืออด ก่อนที่ใบหน้าสวย ๆ นั่นจะหลุบลงต่ำอีกครั้งเมื่อมองเห็นสายตาแปลก ๆ
ที่ผมส่งไปให้ซูนยองฮยองทันทีที่ผมสามารถจับใจความประโยคที่คนรักของผมโผล่งออกมาได้อย่างเชี่ยวชาญ
คนรักของผมเป็นคนปากหนัก
เวลาจะยอมเปิดปากอะไรออกมาซักอย่างก็ต้องเหนื่อยยั่วจนกว่าจะทนไม่ไหวแบบนี้ทุกทีสิหน่า
“ถ้าไม่บังคับ .... จะมากกว่านี้ก็ได้ใช่ไหม ?”
“ จะบ้าหรือไง ! ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้นซักหน่อย ”
รีบยื่นมือขาว ๆ ออกมาพลักอกผมให้ห่างจากตัวทันทีที่ผมค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แก้มบวม ๆ ที่สุกปลั่งราวกับผลของแอปเปิ้ลสด
ซูนยองฮยองน่ารัก ~ ผมชอบฮยองที่เป็นแบบนี้ที่สุดเลย
“ แล้ว ... ฮยองหมายถึงอะไรหล่ะครับ ”
ผมค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ซูนยองฮยองอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีท่าทางขัดขืน หรือสีหน้าไม่พอใจที่แสดงออกมาอย่างที่ควรจะเป็น
ผมเลยไม่รอช้าที่รีบจิ้มจมูกไปที่ก้อนแก้มร้อน ๆ ของคนหน้าอย่างย่ามใจ
“อ๊ะ ซอกมิน ! คนเยอะแยะไม่เห็นหรือไง ”
ซูนยองฮยองรีบเงยหน้าขึ้นดุผม ก่อนใช้มือเล็กฟาดไปที่หน้าอกของผมเบา ๆ ใบหน้าน่ารัก ๆ ที่กำลังแสดงอาการขวยเขินออกมา
ได้อย่างชัดเจนตอนนี้ไม่หลงเหลือร่องรอยของคนที่เอาแต่หลบหน้าหลบตาผมทั้งวันเลยแม้แต่น้อย
ซูนยองฮยองไม่ได้โกรธผมงั้นเหรอ ?
แล้วที่ผ่านมา ... มันคืออะไรกันหล่ะ
“ ความจริงแล้ว .... ฮยองแค่เขินผมใช่ไหม”
“จะบ้าหรือไง ! ใครเขินนายกัน ”
รีบพลิกตัวเล็ก ๆ หนีผมพร้อมกับเรียวเท้าสวยที่ทำท่าจะออกวิ่งไปด้านหน้า ผมรีบยื่นมือไปรั้งข้อมือเล็ก ๆ ของซูนยองฮยองเอาไว้ทันที
“ ถ้าฮยองหนีผมแสดงว่าฮยองเขินผมจริง ๆ ”
“ฉันไม่ได้เขินนายซักหน่อย”
คนตัวเล็กรีบหันมาเผชิญกับผมก่อนจะใช้ดวงตาเรียวเล็กจดจ้องมายังใบหน้าของผมอย่างเอาเรื่อง
“ นี่ไงฉันกล้าจ้องหน้านาย แสดงว่าฉันไม่ได้เขิน ”
“ จริงหรือเปล่า ?”
ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ คนอวดดีที่เริ่มทำหน้าแปลก ๆ ทันทีที่ผมเริ่มเพิ่มความระยะความใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ
มันใกล้ซะจนได้กลิ่นหวาน ๆ ที่ส่งออกมาจากริมฝีปากสีสวยนั่น …
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แน่นอน ผมไม่สามรถควบคุมสติของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว
อุ๊บส์ !!
“อะ อื้อออ ”
คนตัวเล็กในอ้อมแขนของผมรีบส่งแรงดิ้นเร้าออกมาทันทีที่ผมเผลอตัวทำในสิ่งที่เจ้าตัวไม่ชอบออกไปอีกแล้ว
แต่ก็ชั่งเถอะ ถ้าคนรักของผมงอน ผมก็มีหน้าที่แค่ง้อเท่านั้น
สั้น ๆ ง่าย ๆ เรื่องแค่นี้ ลี ซอกมิน ทำได้อยู่แล้ว
ไม่เชื่อคุณก็ดูแคสนี้เป็นตัวอย่างสิ หึหึ
ความคิดเห็น