ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใต้อาณัติหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : 2.1 รักไร้ข้อแม้ รีไรท์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.83K
      33
      7 เม.ย. 63

                   เมื่อการแสดงจบลงเสียงตบมือดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ทัยวัตมองภาพที่ยศวินแสดงการให้เกียรติฝ่ายหญิงด้วยการพาเจ้าหล่อนไปแนะนำตัวกับบิดาของตน ทัยวัตยอมรับว่าใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยนของท่านทรงยศกับคุณหญิงจรัสศรีมีส่วนทำให้เขาอดคิดระแวงเด็กสาวตามคำชี้นำของอินตราไม่ได้เช่นกัน


                    “เอ๊ะ!...นั่นแม่จะทำอะไรน่ะ”


                    อินตราอุทานด้วยความตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นมารดาเดินปั้นปึ่งเข้าไปหาคุณหญิงจรัสศรีพลางก้มลงกระซิบบางอย่างเบา ๆ ทั้งที่สายตาชิงชังยังจับจ้องนิ่งอยู่ที่ใบหน้านางรำสาว ทำให้อินตรารีบวางแก้วเครื่องดื่มในมือของเธอลงกันมาคว้าข้อมือคนเป็นเพื่อนลากตามไปในทิศทางเดียวกับที่นางอินทุอรยืนอยู่


                    “ตายจริง! นี่ถ้าคุณอรไม่มาบอกดิฉันคงไม่ทราบนะคะว่าเด็กคนนี้เป็นลูกสาวนักธุรกิจเห็นแก่ได้คนนั้น ไม่ได้การแล้วหละค่ะ เดี๋ยวดิฉันต้องรีบรายงานให้ท่านทราบโดยด่วนจะได้ไม่เผลอไปเอ็นดูเด็กนั่นให้เสียภาพพจน์ของท่านเปล่า ๆ ตายศวินนี่น่าตีนักเชียว จะคบใครทำไมไม่สืบดูเทือกเถาเหลากอมาให้เรียบร้อยก็ไม่รู้”


                    คุณหญิงจรัสศรีมองนางรำสาวด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อทราบว่าเธอคือบุตรสาวนายปองพลพร้อมกับนึกตำหนิบุตรชายและอดที่จะเป็นห่วงกลัวยศวินจะเสียรู้ให้กับเด็กสาวหน้าแฉล่มคนนั้นให้เธอกับสามีทุกข์ใจอีกต่างหาก ดังนั้นทันทีที่ทราบจากนางอินทุอร คุณหญิงจรัสศรีจึงรีบเข้าไปกระซิบกับสามีเบา ๆ พลางส่งสายตาไม่พอใจชำเลืองมองเด็กสาวและใบหน้ายิ้มแย้มของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์เครียดขึงขึ้นมาฉับพลันเมื่อได้ฟังข้อมูลจากภรรยา


                    “หนูเป็นลูกสาวพวกบุกรุกเขตป่าอย่างนั้นเหรอ” ท่านทรงยศถามนางรำสาวออกไปตรง ๆ


                    อินทิรารู้สึกใจหายวูบเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาและคำถามของผู้ใหญ่ ใบหน้าที่แต่งไว้สวยซีดเผือด มือของเธอเย็นเฉียบกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอื้ออึงไปทั่วทันทีที่จบคำถามของรัฐมนตรีคนดัง


                    “อะไรกันครับพ่อ ทำไมพ่อถึงถามมัทรีแบบนั้น” ยศวินรีบรับแทนเพื่อนสาวที่ยืนหน้าซีดเผือดอยู่ข้าง ๆ เขาด้วยความรู้สึกเห็นใจ


                    “แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะที่เพื่อนของแกเป็นลูกสาวไอ้พวกคนชอบตัดไม้ทำลายป่าน่ะ” คนเป็นพ่อทำหน้าเคร่งมองลูกชายคนเดียวด้วยสายตาดุดัน


                    “จะใช่หรือไม่ใช่มันก็ไม่เกี่ยวกันนี่ครับ ที่มัทรีอุตส่าห์มาในคืนนี้ก็เพราะผมขอร้องเธอ แล้วนี่พ่อทำอะไรลงไปครับนี่” ยศวินหงุดหงิดเมื่อบิดาทำเหมือนไร้เหตุผล


                    “เกี่ยวสิ ถ้าฉันไม่ได้รับผิดชอบคดีพ่อของเธอโดยตรง การที่เพื่อนของแกจะมาในคืนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ฉันกลัวว่าเธอจะมาหาประโยชน์จากการมาในคืนนี้นะสิ” รัฐมนตรีทรงยศทำหน้าตึงใส่บุตรชาย


                    “ท่านเข้าใจผิดแล้วล่ะคะ เพื่อนของดิฉันไม่เคยคิดจะหาผลประโยชน์อะไรกับการมาในครั้งนี้ทั้งสิ้น การที่เรามาก็เพราะคุณยศเป็นเพื่อน และในเมื่อเพื่อนขอร้องเราก็แค่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าการมาของเราทำให้ท่านไม่สบายใจแล้วละก็ พวกเราก็เสียใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ”


                    ลิซ่ากล่าวอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้คนตรงหน้าจะมีตำแหน่งใหญ่โตแต่ถ้าไร้เหตุผลแบบนี้ เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเธอก็ไม่จำเป็นจะต้องเกรงใจ


                    “นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม นี่เธอกล้าก้าวร้าวกับท่านขนาดนี้เชียวเหรอ” นางอินทุอรส่งเสียงแหลมสอดขึ้นมาทันที


                    “ทำไมคะป้า หรือว่าป้าอยากให้หนูหันมาก้าวร้าวป้าแทนหรือไงคะ” ลิซ่าหันไปแสยะยิ้มร้าย ๆ มองมารดาของอินทิราด้วยสายตาเยาะหยัน


                    “แก!!...”


                    นางอินทุอรยืนเกร็งจนตัวสั่นเทาเพราะแรงโทสะและกำลังจะเอ่ยปากด่าทอเด็กสาวไร้สัมมาคารวะตรงหน้าแต่ติดที่มือของอินตราเอื้อมมาบีบแขนของนางแน่นพร้อมกับส่งสายตาห้ามปรามทำให้นางรีบหุบปากฉับไม่ส่งเสียงตวาดแหลมสูงเหมือนอย่างที่ใจคิดจะทำ


                    “ลิซ่า...”


                    อินทิรารีบคว้าข้อมือเพื่อนพลางส่งสายตาวิงวอนเพราะถึงอย่างไรนางอินทุอรก็คือมารดาของเธอ ใบหน้าสวยซีดสลดเพราะความสะเทือนใจ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบมารดาที่นี่และนี่คงเป็นต้นเหตุทำให้บิดาของยศวินเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเธอ รวมทั้งสายตาเฉยชาของทัยวัตและอินตราที่มองเธอราวสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ผิดที่ผิดทางนั้นอีกเล่า...


                    “เจ้ายศ...แกรีบพาเพื่อนของแกกลับออกไปเดี๋ยวนี้เลย” ท่านทรงยศหันไปส่งสายตาดุใส่บุตรชายเมื่อเหตุการณ์ดูเหมือนจะเริ่มบานปลาย สายตาหลายคู่เริ่มจ้องมองท่านด้วยความสนใจ


                    “ไปกันเถอะมัทรี ในเมื่อทำดีแล้วไม่ได้ดีก็ไม่ต้องทงต้องทำมันแล้ว” ลิซ่าทำหน้าบึ้งพร้อมกับคว้าข้อมือเพื่อนสาวหมุนตัวหันหลังให้รัฐมนตรีใจแคบทันที


                    “เดี๋ยวครับมัทรี ลิซ่า ผมจะไปส่งพวกคุณเอง” ยศวินทำท่าจะเดินตามสองสาวไปแต่ติดที่มือมารดากระชับข้อมือของเขาไว้มั่น


                    “ไม่ได้นะตายศ แม่ไม่อนุญาตให้แกไปไหนเด็ดขาด ให้สมศักดิ์เอารถไปส่งเพื่อนของแกก็พอแล้ว” คุณหญิงจรัสศรีสั่งบุตรชายเสียงดังพลางส่งสายตาดุตวัดมองสองสาวอย่างไม่พอใจ


                    “พวกเรากลับกันเองได้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณยศหรอกค่ะ” อินทิรารีบหันกลับมาปฏิเสธยศวิน เธอไม่อยากให้เขาต้องขัดใจบิดามารดาเพราะเธอเป็นต้นเหตุ


                    “ไม่เป็นไรครับ ผมควรรับผิดชอบเพราะที่พวกคุณยอมมาก็เพราะอยากจะช่วยผม ผมทิ้งคุณสองคนไม่ได้จริง ๆ” ยศวินตอบพลางปลดข้อมือของมารดาออกเบา ๆ


                    “ไม่ได้นะตายศ แม่ไม่อนุญาตให้แกไปไหนทั้งนั้นแหละ อย่าลืมสิว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณพ่อ ถ้าขืนแกวิ่งโล่ตามผู้หญิงคนนี้ไป ครอบครัวเราคงได้ดังเป็นพลุแต่กันทุกคนแน่ ๆ” คุณหญิงจรัสศรีไม่ยอมปล่อยบุตรชายไปง่าย ๆ


                    “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะคุณยศ แต่ฉันกับลิซ่าไปเองน่าจะสะดวกกว่า คุณไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอกค่ะ” หญิงสาวแสดงความขอบคุณแม้จะปกปิดความสะเทือนใจทางสายตาไว้ไม่มิดก็ตาม


                    “เราไปเถอะมัทรี”


                    ลิซ่าคว้าข้อมือเพื่อนรั้งให้เดินตามกันหายเข้าไปในห้องที่พวกเธอใช้แต่งตัว ครู่เดียวก่อนจะกลับออกมาพร้อมลังใบใหญ่ที่คนของยศวินรีบตรงเข้ามาช่วยถือ ทั้งคู่เดินเร็ว ๆ ผ่านผู้คนมากมายออกไปทั้งที่ยังคงแต่งชุดการแสดงเต็มยศ

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×