คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1.1 แค่เพียง เศษเสี้ยวของหัวใจ รีไรท์
ภายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาเลือกหาซื้อจับจ่ายสินค้า ผู้คนมากมายแต่จำเพราะให้เธอได้มาเจอเขาโดยบังเอิญ ร่างบอบบางในชุดนิสิตสถาบันดังชะงักเท้าที่เตรียมก้าวเดินเมื่อดวงตาคู่งามสะดุดหยุดอยู่ที่ใบหน้าคมเข้ม เหมือนเธอทำหัวใจหล่นหายทันทีที่สบสายตาหมางเมินคู่นั้นและยังเหยียบย่ำซ้ำเติมลงมาอย่างเลือดเย็นด้วยสีหน้าเย็นชา เสี้ยววินาทีที่สบตากับเขา เธอสังเกตถึงความเกลียดชังในดวงตาคมกับจังหวะก้าวเดินที่แปรเปลี่ยนไปของทัยวัต นรากร
ทัยวัตเป็นเพื่อนสนิทของอินตรา พี่สาวต่างมารดาของอินทิรา แม้อินตราจะไม่ยอมรับว่าเธอเป็นน้องสาวตนตนทิราก็ยังให้ความรักและความหวังดีกับพี่สาวคนนี้เสมอ
เธอพยายามจะเอาชนะใจอินตรากับมารดา แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์ อินทิราไม่สามารถขจัดความชิงชัง
รังเกียจที่ทั้งสองมีกับตน และนั่นน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทัยวัต
เพื่อนสนิทของอินตราแสดงอาการเฉยชากับเธอทุกครั้งที่พบกัน
ไม่เหลือเค้าสายตาอ่อนโยนที่เคยส่งผ่านความรู้สึกเห็นใจเธอเหมือนครั้งหนึ่งที่เขาเคยมีน้ำใจให้...ในวันนี้
ทุกอย่างได้แปรเปลี่ยนไปจนเธอรู้สึกใจหาย
ทัยวัตชะงักเท้าที่เตรียมก้าวเดินเมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวในชุดนิสิตสถาบันดัง
ดวงตาเฉยชาสบตาเจ้าของดวงตาโศก กระทั่งเสียงกระซิบกระซาบถามจากคนข้างกายดึงความสนใจของเขาออกจากเจ้าของนัยน์ตาโศก
ทัยวัตรีบสลัดความครุ่นคิดรกสมองนั้นทันที
“พี่วัต
เด็กคนนั้นทำท่าเหมือนรู้จักกับพี่เลยนะ”
หญิงสาวหุ่นระหงช้อนตามองชายหนุ่มที่ควงคู่มาด้วย คิ้วเรียงได้รูปยกเฉียงสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างข้องใจ
พลางพยักเพยิดไปที่หญิงสาวในชุดนักศึกษาอย่างสนิทสนม เนื่องจากเธอเป็นเพื่อนสนิทกับทิพย์ลดา
นรากรน้องสาวของทัยวัต
ดวงตาคมกริบไหววาบเมื่อทอดสบตาโศกคู่นั้น
แต่ครู่เดียวก็เลือนหาย เหลือเพียงความเงียบขรึมและมองผ่านเลยอินทิราไปอย่างไม่ไยดีพลางหันมาสนใจคนข้างกาย
“ไปกันเถอะ”
ทัยวัตกางมือยื่นออกไปโอบรอบเอวสาวสวยข้างกาย รั้งเบาๆ
จนร่างเพรียวขยับเข้ามาชิดทั้งที่สายตาชิงชังยังจับจ้องมองหญิงสาวที่บังเอิญผ่านมาพบกันก่อนกลบเกลื่อนแววตาเคืองขุ่นจนเลือนหายและจงใจหันมาเปิดยิ้มอ่อนโยนให้คู่ควงคนงาม
อินทิรารีบหลุบตาลงต่ำหลบสายตาคมกริบคู่นั้น
ความเสียใจถาโถมเข้ามาเสียดแทงใจจนสัมผัสได้ถึงความปวดร้าววูบโหวงในอก ฝ่ามือชื้นเหงื่อกำแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์หากมีใครสักคนสังเกตคงเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงฉับพลันของเธอ
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อภาพบาดใจนั้นอยู่พักใหญ่กว่าจะตัดใจหมุนตัวหันหลังเดินห่างคนทั้งสองออกมาอย่างเจ็บปวด
“เป็นอะไรไปมัทรี
เดินหน้าซีดกลับมาเลย ที่นั่งเต็มหรือไงแก”
ลิซ่ายกคิ้วสูงพลางเอ่ยถามเพื่อนที่ทำหน้าเศร้าเดินกลับมา
ทั้งที่ก่อนไปอินทิรายังยิ้มแย้มร่าเริงอยู่เลย
อินทิรา บริรักษ์สกุล หรือมัทรี เป็นลูกสาวคนเดียวของนายปองพล
นักธุรกิจคนดังเมืองย่าโม เจ้าของอินทิรา รีสอร์ต
ที่กำลังถูกครหาว่ารุกล้ำพื้นที่เขตป่าสงวนเป็นข่าวดังเกรียวกราวอยู่ในขณะนี้
ดูจากภายนอกอินทิราอาจเป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ ด้วยรูปร่างสะโอดสะอง หุ่นระหงชวนมอง
ใบหน้าสวยบาดตา ริมฝีปากอิ่มสีสดได้รูปน่าสัมผัส ผิวเธอขาวราววิปครีมหรือนมสด
ทรวดทรงองค์เอวที่เย้ายวนใจ ชวนให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ลุ่มหลงเสน่ห์แห่งวัยสาว
ยิ่งยามเธอแต่งกายงดงามในชุดไทยหลายหลากที่ใช้ในการแสดง
อินทิราก็คล้ายหลุดออกมาจากโลกของนิทานปรัมปราราวนางเอกในวรรณคดีเลยทีเดียว แต่ไม่มีเพื่อนๆ
คนใดรู้จักอินทิราดีเท่าลิซ่าอีกแล้ว เพราะทั้งคู่เติบโตขึ้นมาพร้อมกัน
เรียกได้ว่าตื้นลึกหนาบางของครอบครัวเพื่อน ไม่มีอะไรที่ลูกครึ่งสาวจะไม่รู้
และก็เช่นเดียวกัน ไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวกับตัวลิซ่าที่อินทิราไม่รู้
ภายใต้ใบหน้าสวยหวานแฝงความเศร้าสลดทางดวงตาที่เกลื่อนแทบไม่มิด
อินทิราเกิดจากครอบครัวซึ่งไม่ได้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเหมือนที่ทุกคนเข้าใจ
บิดามารดาของหญิงสาวแยกทางกันตั้งแต่เธอเพิ่งลืมตาดูโลก หรือจะเรียกได้ว่า
นางอินทุอรผู้เป็นแม่ทิ้งลูกไปตั้งแต่เกิดก็ว่าได้
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะนายปองพล
บิดาของอินทิรา ได้พรากภรรยาชายอื่นมาจากลูกและสามี
ทำให้อินทิราต้องถือกำเนิดขึ้นจากความเกลียดชังของผู้เป็นแม่
ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเด็กหญิงตาดำๆ เช่นเธอเลยแม้แต่น้อย
อินทิราไม่สมควรจะได้รับความรังเกียจจากผู้ที่ให้กำเนิดเธอ
ดังเช่นที่นางอินทุอรกระทำต่อบุตรสาวซึ่งไม่เคยรับรู้เรื่องราวใดๆ
ระหว่างคนเป็นพ่อและแม่เลยด้วยซ้ำ
“ฉันยังไปไม่ทันถึงเคาน์เตอร์จองตั๋วเลยลิซ่า
อยู่ๆ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเฉยๆ ฉันคงไม่ดูหนังแล้วละ” เธอเลือกที่จะโกหก
เพราะไม่มีกะจิตกะใจจะดูหนังเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่แรกอีกแล้ว
“อ้าว...เป็นอะไรมากหรือเปล่า
สงสัยเป็นเพราะเมื่อคืนแกนอนน้อยเกินไปน่ะสิ
ถ้าอย่างนั้นฉันว่าเรากลับบ้านกันก่อนก็ได้นะ” ลิซ่ารู้สึกห่วงเพื่อนจึงรีบเสนอความคิดเห็น
“ฉันเลยเป็นต้นเหตุทำให้แกอดดูหนังไปด้วยเลย
นี่ถ้าแกไปกับพวกมิ้มก็คงไม่ต้องเสียเที่ยวแบบนี้เนอะ”
ใบหน้าหวานแสดงความเสียใจเพราะรู้สึกเกรงใจ
หากลิซ่าเลือกไปกับเพื่อนอีกกลุ่มแทนที่จะมากับเธอ
ป่านนี้ลิซ่าคงได้คุยกับทุกคนสนุกไปแล้ว
“บ้าน่า ทำไมแกชอบคิดมากนักนะมัทรี
ฉันบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่าเอาแต่เกรงใจคนอื่นแล้วก็เก็บมาคิดเอาเองน่ะ
ซ้ำแกยังคอยกลัวว่าเขาจะเสียน้ำใจอย่างนั้นอย่างนี้
ยิ่งกับฉันแกยิ่งไม่ต้องเกรงใจใหญ่
เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กยังจะคิดอะไรอีกนักหนา”
ลิซ่าบ่นพร้อมกับถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อเพื่อนของเธอทำตัวเป็นคนขี้เกรงใจ
คอยแต่จะกลัวว่าตนเองจะทำให้คนอื่นผิดหวัง
จนลืมที่จะคิดถึงความรู้สึกของตัวเองอยู่ร่ำไปเหมือนเช่นที่กำลังเป็นกรณีกันอยู่อย่างตอนนี้
ก็เพราะอินทิราเป็นคนแบบนี้นี่แหละ
ถึงทำให้เธอเป็นห่วงและตัดใจทิ้งเพื่อนคนนี้ไม่ลงสักที
เธอถึงเลือกที่จะตามดูแลมัทรีด้วยการเลือกเรียนในคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ซึ่งมันก็เป็นโชคดีที่พวกเธอมีความชอบคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว
ทำให้การเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชานาฏยศิลป์ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ
ลิซ่าออกเดินนำหน้าเพื่อนสาว
เตรียมจะกลับอยู่แล้ว ถ้าสายตาของเธอจะไม่ไปสะดุดกับภาพหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังเดินหยอกล้อกันด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
ทัยวัต นรากร!
นี่สินะคือต้นเหตุที่ทำให้อินทิราป่วยขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ความคิดเห็น