มโนห์ราติดบ่วง

ลำดับตอนที่ #19 : 5.1 แผนการ

ห้องนอนของมโนห์รากว้างขวาง สามารถรับรองเพื่อนรุ่นน้องสองคนได้อย่างสบาย และกว่าสาว ๆ จะปิดไฟนอนก็เผลอคุยกันจนดึก เกือบสองนาฬิกาของวันใหม่ขณะที่ มโนห์รากับพระแพงหลับไปพักใหญ่ กินรียังนอนลืมตาโพลงอยู่กับอาการปวดศีรษะตุบ ๆ ที่ค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย 

เธอเหลือบตามองนาฬิกาที่ว่างเด่นอยู่บนโต๊ะข้างเตียงแล้วถอนใจยาว “ไมเกรน” กำลังเล่นงานเธออยู่ ปกติเธอจะพกยาติดกระเป๋าไว้เสมอ แต่วันนี้เธอกลับลืมนำยาติดตัวมาด้วย และถึงจะนอนอยู่ข้าง ๆ เพื่อนรุ่นพี่ เธอก็เกรงใจจนไม่กล้าปลุกมโนห์รา หญิงสาวลุกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องเพื่อค้นหายาในตู้เหนือโถงบันได ความมืดไม่ใช่อุปสรรคเพราะเธอคุ้นเคยกับบ้านวิษณุวัสเป็นอย่างดีไม่ต่างกับเป็นบ้านของตัวเอง กินรีจึงสามารถเดินมาจนถึงตู้เก็บยาได้โดยสวัสดิภาพ

“อื้อ...ปวดหัวจัง อยู่ตรงไหนนะ” 

กินรีทำหน้านิ่วเพราะอาการปวดหัว เธอรื้อค้นตู้ยาพลางบีบคลึงขมับตัวเองเป็นการบรรเทาอาการปวดซึ่งหนักขึ้นจนตาเธอเริ่มมัว หูอื้อจนไม่ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน กระทั่งเสียงผิวปากเป็นเพลงของพรตดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ยังไม่แทรกผ่านเข้ามาในโสตประสาทของเธอเลย

ขณะเดียวกัน...หนุ่มอารมณ์ดีเพิ่งกลับถึงบ้านเมื่อเขาเดินเข้ามา แสงสว่างจากดวงจันทร์กลมโตทำให้พรตไม่จำเป็นต้องพึ่งแสงนีออนเมื่อได้ยินเสียงคล้ายมีบางสิ่งบางอย่างล่วงหล่นดึงความสนใจให้ต้องกวาดสายตามองฝ่าความมืดหาที่มาของเสียงอย่างสงสัย

“ใครน่ะ!” พรตหรี่ตามองเงาตะคุ่ม ๆ ในจุดเกิดเสียงพลางขมวดคิ้วและเพ่งมองไปที่บริเวณตู้ยาก่อนเอื้อมมือกดสวิชไฟ แสงสว่างกระจ่างไปทั้งห้องทำให้เห็นหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น“น้องหนู...” 

พรตรีบเดินเข้าไปประคองหญิงสาวที่นึกว่าเป็นมโนห์รา ช้อนตัวพาดตักแล้วยกคิ้วเฉียง มองคนในวงแขนอย่างประหลาดใจ

“กินรี...นรี” พรตพยายามปลุกอย่างไรกินรีก็ยังไม่ฟื้น เขาเลยอุ้มหญิงสาวกลับขึ้นไปบนห้องของตน

ท่ามกลางความมืดกับแสงสลัว ๆ ที่ทอดผ่านช่องหน้าต่างแทรกเข้ามา    ตามรอยต่อระหว่างชายผ้าม่านอย่างเลือนราง เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนอาการปวดศีรษะของเธอจะเลือนหายไปพร้อมกับสัมผัสวาบหวามที่แทรกซ่านไปทั่วเรือนร่างอยู่ในขณะนี้ ความรุ่มร้อนที่เธอไม่เคยพานพบแล่นปราดไปกองกระจุกรวมกันอยู่ตรงกึ่งกลางเรือนร่าง 

วูบวาบ เสียวเสียดอยู่ในช่องท้องจนเธอเผลอครางละเมอลอดผ่านริมฝีปากแหบพร่าเพราะอารมณ์ปรารถนาที่โลดแล่นอย่างอลหม่านไปทั่วเรือนกาย ขนอ่อนทั่วร่างลุกเกรียว ตื่นตอบสนองสัมผัสปลุกเร้า หัวใจสาวน้อยหวิวหวามไปกับความรู้สึกแปลกใหม่ เมื่อผิวเนื้อเปล่าเปลือยตกอยู่ใต้อำนาจปลายลิ้นอ่อนนุ่มเปียกร้อนที่ตวัดไล้และขบขย้ำซอกคอเธอราวจะกลืนกิน

ดวงตาคู่งามพริ้มหลับขณะที่สติตื่นโพลงขึ้นอย่างพร่าเลือน กลิ่นสะอาดของผิวกายที่เธอจดจำได้ว่าเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของพรต อบอวล กำจายฟุ้งอยู่รอบ ๆ ตัว ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่ข้างหู สร้างความหวามหวาน ชวนมึนเมาไปในคราวเดียวกัน

คนที่ยังสะลึมสะลือเผลอวางมือแปะลงกลางแผ่นหลังกว้าง หอบหายใจสะอื้นฮักขณะหยัดกายยกแผ่นหลังขึ้น ในวินาทีที่ฝ่ามือหยาบละเลงไล้ไปทั่วผิวเปล่าเปลือยของเธออย่างซุกซน

กินรีกรีดเสียงครางแหบพร่าเมื่อทรวงอกสล้างถูกฝ่ามือหยาบกอบกุมเอาไว้คล้ายจะตีตราจอง แล้วครอบครองยอดถันสีทับทิมสดไว้ในโพรงปากชุ่มชื้น ลิ้นฉ่ำร้อนตวัดเลียเชื่องช้าสลับเร่งเร้าอย่างเว้าวอน ถี่เร็วจนคนอ่อนเดียงสาหัวใจสั่น ริมฝีปากร้อยชั้นเชิงดูดชิมความนุ่มหยุ่นทั้งสองของเธออย่างบ้าคลั่ง หยอกยั่วแกมเชื้อเชิญให้เธอเพริดไปกับไฟปรารถนาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน