คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9 คนที่ใช่ กับ คนที่รัก Rewrite 100%%%%%%%%%
ตอนที่ 9 คนที่ใช่ กับ คนที่รัก
“ เห้ยยยย เหี้ย ”
“ คนเว้ยไม่ใช่เหี้ย ”
ผมสวนกลับคนตกใจ ที่ตอนนี้กำลังรีบใส่กางเกงของตัวเองอย่างร้อนรน
“ เฮ้ออ ซอกจินนา นายจะมาอายอะไรตอนนี้ห่ะ หันมาเดี๋ยวนี้ ฉันยังทายาไม่เสร็จเลย ”
ผมเดินเข้าไปหยิบยาหลอดที่นอนอเนกอยู่บนเตียงขึ้น ในขณะที่ซอกจินกำลังเดินเลี่ยงไปอีกด้าน
“ ไม่ต้องแล้วว หายแล้วๆๆ ”
คนโดนฟาดพยายามบ่ายเบี่ยง แล้ววิ่งหนีเมื่อผมพยายามเดินเข้าหา
“ จองกุก จะไม่พูดอะไรสักหน่อยหรอ ”
คำพูดของซอกจินที่กำลังหนีไปทั่ว ทำให้ผมถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว กับท่าทางการปกป้องก้นน้อยๆของเขา
“ พูดอะไรอ่ะ ??? ”
ผมยังคงตีมึนใส่ซอกจิน ทำอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ อะโอ้ยย พี่ลงทุนขนาดนี้ นายนี่มันไม่รู้จักบุญคุณจริงๆ ”
คนที่ค่อยๆนั่งบนเตียงเริ่มโอยขึ้นมา เมื่อแผลของเขากระทบกับมัน และต่อว่าผมทันที
“ ใครบอกละ เมื่อกี้ฉันก็ทายาที่ตูดให้นายได้ไง ฉันเสี่ยงมากเลยรู้ไหม ไม่รู้ว่าพยาธิของนายมันจะฝังตัวลงในฝ่ามือสวยๆของฉันหรือป่าวเนี่ย เห็นทีต้องเช็ดแอลกอฮอล สะแล้ว ”
“ ตูดฉันออกจะสดใส และ สะอาดสะอ้าน มือนายนั่นแหละ แหล่งสะสมเชื้อโรค ”
ผมกับเขาเริ่มพ่นสงครามน้ำลายใส่กันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครยอมใคร
เรื่องตูดเนี่ยนะ ???
“ พอเหอะๆ ฉันขึ้เกียจจะเถียงกับนายแล้ว เอาเป็นว่าฉันแวะมาเยี่ยมนายละกัน หายไวๆนะ ”
“ แค่เนี่ยย ?? ”
คิมซอกจินเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยถามอย่างผิดหวัง
“ อื้มแค่นี้ ^___________^ ”
“ ก็ดี กลับไปได้ละ แล้วก็รีบไปเร็วๆด้วย เห็นหน้านายแล้วมันเจ็บจริงๆ”
คำสบถเบาๆดังตามหลังผม ที่กำลังจะก้าวออกจากห้องที่เขาอยู่ แต่ถึงอย่างไรละ ทำไมผมต้องสนใจคนปากจัดอย่างซอกจินด้วย
“ โอ้ยยย เจ็บวะ โอ้ยยยย จองกุก นายจะทิ้งพี่ไปแบบนี้หรอ ก็เห็นอยู่ว่าตูดพี่ระบมไปหมด จะลุกไปไหนก็ไม่สะดวกอ่ะ ”
อ้าววไอ้นี่แม่งกวนตีนแหะ เมื่อกี้ยังไล่ผมอยู่เลย
“ อ้าวก็เห็นนายไล่ ฉันก็จะไปนี่ไง ”
ผมแย้งกลับด้วยความสงสัยกับการเปลี่ยนใจรวดเร็วของเขา
“ ก็เมื่อกี้ไล่ แต่ตอนนี้ ไม่ไล่แล้วไง จองกุกอา มานี้หน่อยสิ ”
คนโลเล กวักมือเรียกผมหยอยๆ ก่อนจะพยุงร่างของตัวเองนั่งด้วยความเจ็บปวด
“ นายนี้มันจริงๆเลย แล้วคิดยังไงถึงช่วยฉันไว้ละ ปกติคนอย่างนายไม่น่าจะช่วยคนเป็นนะ”
“ ย่าห์!!! ดูพูดเข้า พี่อยากจะเป็นพระเอกบ้างไม่ได้หรือไง หยิบน้ำมากิน ดิ !! ”
คิมซอกจินบ่นไปบ่นมา พลางชี้นิ้วไปยังเหยือกน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ผมค่อยๆบรรจงรินมันลงแก้วอย่างเบามือ พร้อมยื่นไปให้คนบนเตียง
“ นายก็เลยต้องเจ็บตัวเพราะฉัน ฉันก็ควรต้องตอบแทนนายบ้าง สินะ ”
“ ถูกต้องที่สุดเลยครับ ”
ร่างสูงได้ที เสริมรับคำของผมใหญ่ ก่อนจะดื่มน้ำในแก้วต่อ
“ ฉันว่าแล้วไงคนอย่างนาย มันไม่มีทางทำดีโดยไม่หวังผลหรอก ”
“ รู้แล้วก็ดี งั้นเอามา ~~~~~ ”
ซอกจินพูดด้วยสีหน้ายียวนกวนประสาท พร้อมกับแบมือของเขา
“ อะไร ?? ”
“ ค่าเสียหายไง ค่าเจ็บตัวไง ”
ให้ตายเถอะ ยอมเจ็บตัวเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หมอนี่มันมิจฉาชีพชัดๆ
“ ไม่มี ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือ ยี่สิบบาทเอง ”
“ ไม่ใช่เงิน พี่หมายถึงอย่างอื่น ”
อย่างอื่น ?? คืออะไร ไม่ใช่ว่า เขาจะทำร้ายผมแทนนะ ???
“ ส่งมือนายมาสิ ”
“ ไม่ !!! ”
ผมสะบัดหน้าไปมา พร้อมกับตอบปฏิเสธทันที
“ เอามาเหอะน่า พี่ไม่ทำอะไรให้เจ็บตัวหรอก ”
“ จะเชื่อได้ไหมเนี่ยย ???? ”
ผมคิดในใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยื่นมือเล็กๆของตัวเองไปให้เขา กุมเอาไว้
“ มองตาด้วย”
“ อะไร ทำไมต้องทำตามที่นายบอกด้วย ”
“ เหอะน่า อย่าพูดมาก ”
มือหนาของซอกจิน ช้อนใบหน้าผมเงยขึ้น จนอยู่ในระดับที่สายจาของเราสองคนประสานกัน ดวงตาคู่สวยราวกับหญิงสาวของเขา มองมายังผม ด้วยความอ่อนโยนที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ จองกุกอา ต่อไปนี้แกห้ามมาสายอีกนะ เข้าใจไหม ?? ”
“ รู้แล้วน่า ”
ผมพูดพร้อมกับเบือนสายตาตัวเองหนีไปทางอื่น แต่ก็กลับถูกมือหนาของเขาลากกับมาจุดเดิมอีกครั้ง
“ ถ้านายทำให้พี่ป็นห่วงอีกครั้ง นายตายแน่ เข้าใจไหม ??? ”
“ ใครใช้นายให้เป็นห่วงละ ”
“ จองกุกอา ถ้ายังไม่เลิกหุบปากเน่าๆนี้ พี่จะกอดนายแล้วนะ ”
ซอกจินเอ่ยเสียงดัง ก่อนจะกระชากร่างของผมให้ไปใกล้กับเขา
“ เลิกพูด และฟังฉันอย่างเดียวก็พอ จองกุกอา ฉันชอบ……….. ”
ติ๊ดตะลิ๊ดๆๆๆๆๆติ๊ด
ในระหว่างที่ผมกำลังลุ้นว่าซอกจินจะพูดอะไรออกมานั่นเจ้าโทรศัพท์ ก็มาเคาะระฆังช่วยผมไว้ก่อน เบอร์โชว์หราขึ้นว่าจีมิน เจ้าหมอนั่นมีอะไรอีกนะ ป่านนี้เขาควรจะซ้อมอยู่ไม่ใช่หรอ
ผมสะบัดมือตัวเองออกจากซอกจิน ก่อนจะหันขวับมารับสายของตัวเอง แต่ทว่า ระหว่างนั้นเอง แขนยาวๆของซอกจิน ก็รัดตัวผมไว้จากด้านหลัง ทำให้ผมตกใจจนทำโทรศัพท์มือถือนั้นตก
“ ย่าห์ คิมซอกจิน นายทำอะไรของนาย ”
“ ช่วยสนใจพี่สักทีได้ไหม จองกุกอา ”
ร่างของผมค่อยๆหันกลับไปยังร่างสูงที่กำลังซบที่ไหล่ของผมอยู่
“ อะไรอีกละ โอ๊ะ !!! ”
และแล้วผมก็หันกลับไปตามแรงของคนด้านล่าง ก่อนที่ริมฝีปากหนานั้นจะบรรจงลงที่ปากของผมพอดี ทั้งสิ่งทุกอย่างรอบตัวของผมเหมือนกับหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้าที่ร้อนผ่าวนั้นไม่ต่างจากความอบอุ่นที่ซอกจินสอดแทรกเข้ามาให้ผมได้รับ ความอ่อนหวานละมุน ทำไมถึงให้ผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มเช่นนี้
ในขณะที่จูบแสนหวานของเรากำลังเดินไปอยู่นั้น ก็มีบุคคลที่สามเข้ามาพอดี
“ ซื้อของมาเยี่ยมจ้า !!!! โอ๊ะ !!!! ไอ้เชี่ยยจินนนน ”
“ ไอ้กุก !!! ”
คำพูดของซูก้าและวี รวมถึง เจโฮป ที่เดินเข้ามาพร้อมกับขนมเยอะแยะ ช่วยเรียกสติของผมกลับมา ในขณะที่ทั้งสามกำลังอึ้งกับภาพที่เห็นอยู่
“ เชี่ยแล้วไง”
ผมพูดด่าคนตรงหน้า พร้อมกับผลักเขาออกจากตัวเอง และเก็บสัมภาระของตัวเองออกไปทันที
“ เห้ยจองกุก อย่าเพิ่งไป ”
คำพูดของซอกจินดังขึ้นหลังจากที่ผมวิ่งออกไปด้านนอก
“ มึงคิดอะไรของมึงอยู๋ห่ะ เชี่ยจิน ”
“ ไอ้เชี่ยก้าไอ้เชี่ยวี พวกมึงงมาทำไมไม่ให้ซุ้มให้เสียงเลยวะ ”
“ ถ้ามาเสียงดังจะได้เห็นเลิฟซีนหรอวะ 5555 ”
ผมเสียจูบแรกให้กับซอกจินไปแล้ว จูบแรกที่รักษามาเกือบสิบกว่าปี โดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา
“ นายมันบ้าจริงๆ คิมซอกจินน >/////////////< ”
แต่…..ทำไมผมถึงต้องเขิลด้วยเนี่ยยย
กร่อกกกกก!!!
มือเรียวทั้งสองผมกำลังกวักของเหลวเย็นที่ก๊อกนั้นขึ้นมาเพื่อล้างปากของตัวเองอย่างรวดเร็ว ถ้าพกแปรงสีฟันติดมาด้วยผมจะรีบแปรงมันเลยทันที ผมดูเวอร์ไปไหม ?
“ จองกุกแกเป็นไรไหม ?? ”
เสียงของเจโฮปดังขึ้นหลังจากที่วิ่งตามผมเจอที่หน้าห้องน้ำ
“ เอิ่ม..เมื่อกี้แกไม่เห็นมันใช่ไหม ?? ”
ผมลองพูดหยั่งเชิงเพื่อนชายดูว่าเขาเห็นวีรกรรมของซอกจินที่ทำกับผมในห้องพยาบาลนั้นหรือป่าว
“ จองกุก แกพูดเรื่องอะไรหรอ ?? ”
“ คือเรื่องฉันกับ จิน ในห้องพยาบาลนายไม่เห็นใช่ไหมม ”
“ ไม่นิ ไม่มีพลาดดด ฮ่าๆๆๆ ”
แงแง TT แล้วจะหลอกให้ตรูดีใจทำไมฟะเนี่ย ???
“ ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนั้นละ นายควรดีใจนะ ได้จูบจากหนุ่มฮอตที่สุดมหาวิยาลัยอย่างจินน ”
“ ชู่ว< !! เงียบๆไว้นะ ไอ้โฮป ไอ้จินนั้นนะ ปากเหม็นมากก !!! ”
“ จริงอ่ะ ??? ”
ผมกำลังป้ายสีใส่ซอกจิน ให้เพื่อนรักฟัง และดูเหมือนว่าไอ้เจโฮปมันจะเชื่อผมด้วยนะเนี่ย ทั้งที่จริงปากของซอกจินมันช่างหอมหวานยิ่งกว่าไอศกรีมรสช็อคโกแลตสะอีก
“ แต่ว่าหน้าแก มันเหมือนกำลังฟินอยู่นะเนี่ย แกชอบซอกจินหรอ ??? ”
เพื่อนหนุ่มตรงหน้ากำลังซักไซ้ผมที่กำลัง ทำเคลือบเคลิ้มอยู่
“ ชอบบบบบบ เห้ยยย ไม่ชอบบบบบเว้ยย ”
“ ฮ่าๆๆ นั่นไงหลุดออกมาแล้วว นั่นไง โถไอ้กุกเอ้ยยยย ”
เจโฮปร้องร่าออกมาพร้อมกับเอามือเขามาตบบ่าเบาๆ
“ เห้ยย ห้ามจิ้นนนกูกะไอ้จินเด็ดขาด ไม่มีทางเป็นไรได้แน่นอน You know ???? ”
J-hope part…..
J-hope part…..
เด็กแว่นน !!!!!
ไอ้ขี้เหร่ !!!!!!!
ตอนนี้คำสรรพนามเหล่านั้นมันเป็นอดีตสำหรับผมไปแล้ว และนี่ก็คือเหตุผลที่ผมย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ทั้งที่สอบติดมหาวิยาลัยที่อังกฤษแล้วก็ตาม
เพราะเขาคือ ผู้ชายที่ผมแอบรักมาตั้งแต่แรก เพราะเขาคือแรงบันดาลใจของผม เพราะเขาคือ คิมซอกจิน !!!
ตั้งแต่วันนั้น สมัยย มัธยมต้น………
พรึ่บ!!!!
สมุดการบ้านเล่มหนาหลากหลายวิชา ถูกโยนลงบนโต๊ะเรียนของผม
“ ไอ้แว่น นี่การบ้านกู อย่าลืมทำด้วยละ ”
เสียงของคังซุก เจ้าอ้วนอันธพาลประจำห้องที่มักจะรังแกผมจนต้องอยู่เป็นทาสรับใช้เขาเสมอ
“ คังซุกอา ทำไมนายไม่เอาไปทำเองบ้างละฮะ แค่งานตัวเองฉันก็จะทำไม่เสร็จอยู่แล้ว ”
ผมพูดต่อว่า พร้อมกับหยิบสมุดการบ้านส่งคืนให้กับคนวางอำนาจ
“ มึงชักจะเอาใหญ่กับกูแล้วนะ อยากโดนกูตื๊บใช่ไหม ?? ”
ทันทีที่พูดจบ คุงซุกก็ใช่มือหนาที่เต็มไปด้วยไขมันทั้งสองข้างของเขา ตรงมากระชากคอเสื้อของผมทันที
“ มึงจะเขียนให้กู หรือไม่เขียน ฮะ ไอ้โฮซอก ”
โคร้ม!!!
ในระหว่างที่ผมกำลังถูกไอ้อ้วนคังซุก ใช้กำลังใส่อยู่นั่นเอง บุคคลที่สามก็ปรากฏตัวขึ้น เพราะเก้าอี้ที่ไอ้อ้วนมันนั่งอยู่ถูกถีบโดนเท้าของเขาจนล้มไปพร้อมๆกัน
เด็กใหม่ชื่อ คิมซอกจิน
ผู้ที่ได้รับฉายา ว่า เจ้าชายน้ำแข็ง เพราะเขาแสนเย็นชา และ มีโลกส่วนตัวสูงมาก แต่ด้วยใบหน้าเรียวเล็กรับกับจมูกอันโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับได้รูป และไหล่ที่สองข้างที่สวยงาม ทำให้เขากลายเป็นคนดังทั้งๆที่เพิ่งเช้ามาเรียนเมื่อวานนี้
“ ขอโทษที่นะ ที่มาขัดจังหวะพวกนาย แต่นั่งมันเก้าอี้และโต๊ะของฉัน นายไม่ควรมานั่ง ”
คิมซอกจิน ลากโต๊ะและเก้าอี้ที่ล้มระเนระนาด ขึ้น ก่อนจะจัดมันที่ตำแหน่งเดิม และนั่งลงอ่านหนังสือทำเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น จึงยิ่งทำให้คังซุก อารมณ์เดือดพล่านราวกับหมูบ้า
“ มึง ไอ้เด็กใหม่ กล้าดียังไงมาถีบกูวะ !!! ”
“ ชู่ว์ !! กูให้เวลามึง ห้าวินาที ถ้ายังไม่เคลื่อนร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันของมึงออกไปให้ไกลจากตัวกู ก็เตรียมตัวเดือดร้อนได้เลย ”
เสียงเบาอันแหบพร่าของซอกจิน บอกกับสายตาอันคมเฉียบนั้น มันช่างน่ากลัวเสียจริง แต่ดูเหมือนว่าผมจะต่างจากคังซุกที่กำลังอยากจะลองของเจ้าชายน้ำแข็ง
“ เดี๋ยวก็รู้ว่ามึงกับกูใครจะแน่กว่ากัน !! ”
โคร้มมมม เพล้งงง !!!!!!!!!!!!
คังซุก จัดการถีบโต๊ะตรงหน้าของซอกจินล้มกระจายเป็นการเอาคืน ทำให้หนังสือของเขา รวมถือ โหลแก้วของติดตัวของเขาแตกกระจาย
“ หึหึ หมดเวลาสนุกแล้วสิ !! ”
ซอกจินเอ่ยเสียงในลำคอ ก่อนจะพับหนังสือในมือและเดินตรงมาที่คู่กรณีอย่างช้าๆ
พลั่ก !!!!!
หมัดแรกของเขาพุ่งตรงไปปะทะกับใบหน้าของเจ้าหมูตอนอย่างเต็มแรงจนทำให้คังซุกเซทลา แต่ดูเหมือนว่าต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน จึงเกิดสงครามขึ้นต่อหน้าต่อตาผมทันที ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ แต่ดูเหมือนว่าซอกจินจะมีทักษะที่ดีกว่าเลยซัดไปเลยหมัดทีเดียว ผมพยายามเข้าไปห้ามแต่ทว่าก็โดนลูกหลงกลับมา
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะพวกเธอ !!!!!! ”
เสียงตะวาดของอาจารย์ประจำชั้นดังขึ้นพร้อมกับไม้เรียว ก่อนจะตรงดิ่งมาตรงมวยทั้งสองที่กำลังฟัดกันอย่างนัวเนีย ในที่สุด สังเวียรมวยนี้ก็ยอมสงบลง ที่ต่างคนต่างก็มีบาดแผลโดยเฉพาะไออ้วนคังซุกที่คิ้วและปากแตก
“ ตามฉันมาที่ห้องปกครองเดี๋ยวนี้ ทั้งสามคน !!!!! ”
ณ. ห้องปกครอง แอร์เย็นเฉียบ !!!!
“ ผู้ปกครองมากันพร้อมแล้วใช่ไหม คะ?? เชิญด้านในเลยคะ ”
เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองหน้าโหดเอ่ยถามก่อนจะเปิดประตูเชิญทุกคนเข้าไป
คิมมินจุน ประธานบริษัทอสังหาริมทรัย์และธุรกิจอีกมากมาย ผู้เป็นพ่อของคิมซอกจิน
คุณนายปาร์ค เจ้าของร้านจิลเวอรี่แม่ของ คังซุก
ส่วนผมก็มีแต่ คุณลุงลี พ่อบ้านมาแทน เพราะพ่อและแม่ของผมอยู่ต่างประเทศกันหมด
“ เอาละคะ ดิฉันต้องขออภัยที่ต้องรบกวนเวลาของทุกท่านนะคะ แต่เพราะลูกหลานของพวกท่าน ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การทะเลาะวิวาทในโรงเรียนถือเป็นข้อห้ามที่สำคัญอย่างมาก และเนื่องจากทุกท่านก็เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมนี้ เอาเป็นว่าดิฉันอยากจะฝากให้พวกท่านช่วยอบรมบุครหลานของท่านในเรื่องนี้ด้วย ครั้งนี้ดิฉันจะไม่พักการเรียนใครสักคน แต่ถ้าครั้งหน้าฉันไม่ยอมแน่นอน หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจนะคะ ”
เวลาอันอึดอัดในที่สุดก็ผ่านพ้นไปสักที เพราะผมกำลังจะตัวลืบอยู่แล้ว
“ มานี่เลยนะ ไอ้ลูกหมู ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ก่อเรื่อง ฉันอุส่าห์ทิ้งร้านมาเพื่อแก ตามมาเดี๋ยวนี้นะ ”
“ โอ้ยยย แม่ครับบ ผมเจ็บบ ”
คุณนายปาร์คสุดจะทนจึงเริ่มลงไม้ลงมือกับคังซุกบุตรชาย และลากกลับบ้านไปในทันที
“ ผมขอโทษนะครับ คุณลุงที่ต้องทำให้เดือดร้อน ”
ผมเอ่ยบอกลุงลีที่เดินออกมาพร้อมกัน ดพ้วยความรู้สึกผิด
“ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหนู ลุงรู้ว่าคุณหนูไม่ใช่คนแบบนั้น ”
“ ขอบคุณครับที่เชื่อใจผม คุณลุงกลับดีดีนะครับ ผมขอตัวไปเรียนต่อก่อน ”
หลังจากล่ำลากันเสร็จสรรพ ผมก็เดินเลี่ยงไปยังห้องเรียนของตัวเองทันที แต่ระหว่างทางก็ไปพบบทสนทาของซอกจินกับพ่อเข้า
“ ขอบคุณมากนะครับ ที่อุส่าห์เสียสละเวลามาเยี่ยมผมถึงที่นี่ ”
เสียงประชดประชนของซอกจินเริ่มเอ่ยขึ้นที ที่เดินออกมา
“ฉันอุส่าห์ย้ายแกมาที่นี้ให้พ้นหูพ้นตา แต่แกก็ยังสร้างเรื่องอีกจนได้ รู้งี้ฉันน่าจะส่งแกไปต่างประเทศตั้งแต่แรก”
“ คุณไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตผม !!!”
สงครามประสาทกำลังเกิดขึ้นระหว่างซอกจินกับพ่อของเขา ซึ่งดูเหมือนว่าต่างคนต่างไม่ลดละที่จะยอมกัน
เพี๊ยะ !!
“อย่ามาผยองกับฉัน ไอ้เด็กเวร ”
มือหนาๆของผู้เป็นพ่อก็ฟาดอย่างจังตรงหน้าของซอกจินอย่างแรง ก่อนจะเดินไปยังรถคันหรูที่จอดสนิทอยู่
ในห้องเรียนที่แสนอึมครีม
ด้วยเหตุผลที่ผมเป็นคนหน้าตาขี้เหร่ใบหน้าเต็มไปด้วยสิวเคลอะ บวกกับแว่นกรอบสาเหลี่ยมหนาๆ แถมยังมีปานแดงที่คางอีก จึงไม่ค่อยมีใครคบค้าสมาคมกับผมสักเท่าไหร่ ดังนั้นโต๊ะข้างๆผมจึงว่างมาโดยตลอด จนถึงวันที่คิมซอกจินย้ายเข้ามา ผมจึงมีเพื่อนร่วมโต๊ะ
อาจารย์วรรณคดียังคงเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาม เรียกเสียงหัวเราะของนักเรียนทั้งคลาส แต่ดูเหมือนว่ามีเพียงคิมซอกจินคนเดียวเท่านั้นที่เอาตัวนั่งเหม่อลอยไปนอกหน้าต่าง
“ เอ่อ เอิ่มม ซอกจินนา นายเป็นอะไรหรือป่าว ??? ”
ผมยื่นมือมาสะกิดไหล่ของเขาเบาๆ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“…………”
ซอกจินหันขวับมามองผม ก่อนจะแผ่ซ่านความเย็นใส่ เจ้าชายน้ำแข็งจริงสินะ ผมรีบกระตุกมือของตัวเองกลับมาทันที ก่อนจะล้วงหยิบอมยิ้มรสผลไม้มาจากในกระเป๋า ก่อนจะเขียนข้อความให้กำลังใจเขา และวางมันลงข้างๆเขาและกลับมาตั้งใจกับเนื้อหาบนกระดานเช่นเดิม
‘ บางทีความเจ็บปวด มันก็อธิบายให้ฟังไม่ได้สินะ ฉันเอาใจช่วยนะ ซอกจิน ไฟว์ทิ้ง !!! ‘
“ โอเคจ้ะ เลิกคลาสได้ ”
ในที่สุดก็หมดเวลาคลาลเรียนสักที นักเรียนคนอื่นต่างพากันร้องโห่ลั่นอย่างดีใจ และวิ่งกรูกันออกไป ผมเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋า และค่อยๆเดินไปยังทางออก แต่ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น
“ คราวหลังขอเป็นรสโคล่าละ รสผลไม้ฉันไม่ชอบ ”
คิมซอกจินที่กำลังกินอมยิ้มของผมอยู่นั้น เดินออกมาพร้อมกับยักคิ้วและส่งยิ้ม ให้ผมที่กำลังใส่รองเท้าอยู่
ผมเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เพราะ คนที่ได้ชื่อว่าเย็นชาและหยิ่งในตัวเองที่สุดอย่างเขาตอนนี้กำลังคุยและยิ้มให้ผม
“ อื้มม”
“ แล้วนายจะไปไหนหรอ ?? ”
“ ตีกอล์ฟมั้ง แถมอะไรบ๊องๆนะไอ้แว่น ”
คำพูดและสรรพนามการเรียกชื่อผมของเขาอาจจะไม่ค่อยถูกหูผมเท่าไหร่แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อย เขาก็คุยกับผมละกัน
“ ไปกินข้าวที่โรงอาหารกันไหมกันไหม ?? ”
ผมเอ่ยถาม ทั้งที่ความเป็นไปได้อาจจะดูต่ำหนักก็ตาม แต่ยังไงก็ขอลุ้นสักหน่อย
“ ไม่ !!! ”
“ ทำไมหรอ นายรังเกียจฉัน ?? ”
ผมสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“ ป่าวหรอก ฉันไม่อยากกินข้าว แต่อยากกินไก่กับเบียร์ แกโทรสั่งสิ ”
“ เบียร์หรอ ??? เรายังเป็นเด็กมอต้นอยู่เลยนะ จะกินมันได้ยังไง ?? ”
เสียงของผมแย้งขึ้นมา แต่พอได้เห็นใบหน้าแสนดุของซอกจิน ก็เริ่มอ่อนลงทันที
“ เฮ้ออ น่าเบื่อจริงๆ งั้นเอาอะไรที่มันสั่งได้ ก็สั่งมาสักทีเถอะ !! ”
ผมรีบพยักหน้ารับทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังหงุดหงิด ซอกจินทำการถีบโต๊ะเรียนต่างไปไว้ด้านข้างเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับกินไก่ที่กำลังจะมาถึง
สิบห้านาทีผ่านไป ในที่สุด ไก่ทอดร้อนๆ ก็มาส่งพร้อมกับ โค๊กขวดใหญ่ เราสองคนไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็ลงมือกินมันอย่างเอร็ดอร่อย ดูเหมือนว่าซอกจินจะอารมณ์ดีมากๆถึงกับฮัมเพลงออกมาเมื่อได้กินไก่สมใจ
“ นายมาจากโซลสินะ ทำไมถึงมาเรียนไกลจังละ ”
ผมเริ่มบทสนทนากับคนตรงหน้าที่กำลังมีความสุขกับการกินอีกครั้ง
“ ฉันเบื่อ ”
“ อื้ม ดีจังนะ ที่นายคิดเหมือนฉัน จริงๆบ้านฉันก็อยู่โซลเหมือนนายนั่นแหละ แต่ฉันอยากหนีความวุ่นวายเลยเลือกมาเรียนที่นี้ เอ่อ ว่าแต่นายย้ายมาสองวันแล้ว มีเพื่อนบ้างหรือยังละ ?? ”
บทสนทนายังคงเริ่มต่อไปเรื่อยๆ โดยที่เขาก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจผมเลยสักนิด
“ ไม่มี ”
“ อ่าหะ ฉันไง ฉันอยากเป็นเพื่อนนายนะ ”
ผมรีบเสนอตัวเองทันที ถึงมันจะดูน่าขายหน้าก็ตามเถอะ
“ ไม่ !!! ”
“ อ่ออื้ม….”
เสียงปฎิเสธของซอกจินทำให้ผมหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา
“ ฮ่าๆๆ แกเสียใจหรอ ฉันไม่มีอยากมีเพื่อน แต่ก็อยากมีแกมากินไก่ด้วยแบบนี้ทุกวันนะ ไอ้แว่น ”
และนั่นเองก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนิทกับเขาและแอบรักเขาในที่สุด พอขึ้นมอปลาย ซอกจินถูกย้ายกลับมาที่โซลจึงทำให้เราสองคนแยกห่างกัน แต่ผมก็ยังคงสืบสาวเรื่องราวของเขาอยู่เสมอ จนในที่สุดก็พบว่าเขาสอบเข้ามหาลัยแห่งนี้นี้ได้ ผมจึงยอมสละมหาลัยต่างประเทศทั้งหมด และตรงดิ่งมาสมัครที่นี้เพื่อเรียนที่เดียวกับเขา
การรอคอยของผมมันนานหลายปีจริงๆในที่สุดผมก็พบเขาสักที
ถึงแม้ว่านายจะจำฉันไม่ได้ เพราะความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าฉัน แต่เอาเถอะ ฉันจะยอมให้ใครมาแย่งนายไปอีกแน่นอน
End J-hope part
ความคิดเห็น