ตอนที่ 11 : Chapter 11 : สุภาพบุรุษผู้เชื่อถือไม่ได้ (100%)
พ ร ะ พ า ย ท า ย รั ก
_______________________________________________________________________________________________________________________________________
By เฌอมา
คุณหญิงก้อย
บทที่ 11 สุภาพบุรุษผู้เชื่อถือไม่ได้
เช้าวันนี้ที่วังนรังสรรค์มีฝนตกปรอยๆเป็นละอองเย็นฉ่ำ คุณพนักงานชั้นเล็กชั้นน้อยเดินพูดคุยกันไปตามระเบียงวังขณะลำเลียงเครื่องเสวยตามหลังคุณสายสร้อยต้นห้องของวังไปยังห้องเสวย เสียงหัวเราะเคล้าสายฝนทำให้วังใหญ่ดูมีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาด กระนั้นคุณพนักงานทุกคนก็ยังรู้จักหน้าที่ ต่างปฏิบัติงานตามตำแหน่งตนอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เพื่อรับใช้เจ้านายของตน ที่ทุกคนล้วนเคารพรักเทิดทูนด้วยใจจริง
สูงขึ้นไปบริเวณชั้นสองของวังซึ่งปราศจากความวุ่นวายต่างๆนั้น หม่อมลัลนาภรรยาเจ้าของท่านชายกิตติกรเจ้าวังนรังสรรค์กำลังหลับพริ้มอย่างมีความสุข ใบหน้าผ่องดูอิ่มนวลคล้ายยิ้มอ่อนๆที่มุมปาก รอบกายของเธอมีหมอนใบนุ่มหนุนประกบเอาไว้อย่างหวงแหน เนินหน้าท้องที่เคยเรียบคอดเริ่มนูนเด่นออกมาให้เห็นเพราะอายุครรภ์กว่าสามเดือน บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าภายในนั้นมีหนึ่งชีวิตซึ่งราชสกุลนรังสรรค์รอคอยกำลังเติบโตอยู่
หม่อมเจ้ากิตติกรที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาภายในห้องบรรทมทอดสายตามองภรรยา ก่อนวรกายสูงจะนั่งลงด้านข้าง เอื้อมจับมือขาวเนียนซึ่งวาดวางอยู่บนหน้าท้องของตัวเธอ ก่อนจะยกขึ้นจุมพิต เพียงไม่นานเปลือกตาสีอ่อนของหญิงสาวก็กระพริบไหว ก่อนจะลืมตามองตอบ พร้อมรอยยิ้มขานรับแรกอรุณ
“ตื่นได้แล้ว หม่อมขี้เซา”
ลัลนากระชับมืออบอุ่นของสวามีเป็นการตอบรับ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ความเหนื่อยอ่อนจากอาการแพ้ท้องอย่างหนักทำให้หญิงสาวลุกจากเตียงได้ไม่ถึงสามก้าว กระนั้นร่างกายของเธอก็ไม่เคยซีดเซียว ซูบผอม เพราะถูกเอาใจใส่อย่างดี ไม่ว่าจะจากทางสวามีที่คอยดูแลเช้าเย็น และทางพระปิตุจฉาทั้งสองของเขา
“กี่โมงแล้ว” หญิงสาวร้องถามก่อนจะวาดสายตาไปยังนาฬิกาเรือนโตภายในห้องบรรทม “เจ็ดโมงเหรอ ทำไมแกปลุกฉันเช้าจัง”
หม่อมเจ้ากิตติกรมองคนตรงหน้าอย่างแสนรัก “เพราะท่านน้าทรงมีเรื่องดีพระทัย เลยอดไม่ไหวที่จะโทรมาบอกข่าวดีกับเราแต่เช้า”
ลัลนาขมวดคิ้ว ท่านน้าของสวามีก็มีเพียงหม่อมเจ้าหญิงกนกนารี พระมารดาของหม่อมราชวงศ์กนกวลีเพื่อนสนิทของเธอและพระญาติข้างฝั่งพระมารดาของเขาเท่านั้น
“ข่าวดีอะไรเหรอ”
หม่อมเจ้ากิตติกรยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบแม้ในตาคู่คมยังมีรอยลังเลและไม่สบายใจอยู่
“ข่าวดีที่ว่า ก้อยกำลังจะแต่งงานแล้ว”
“ห๊า!!”
หม่อมป้ายแดงและว่าที่หม่อมแม่ในอีก 6 เดือนข้างหน้าอุทานอย่างตกใจ อาการเมาขี้ตาในตอนแรกหายวับเป็นปลิดทิ้ง นั้นเพราะตัวเธอไม่คาดคิดว่าเพื่อนสาวที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่ม และไม่เคยสนใจเพศตรงข้ามมาแต่ไหนแต่ไรจะมีข่าวดีรวดเร็วปานนี้
“ไอ้ก้อยนะเหรอจะแต่งงาน แกฟังมาผิดหรือเปล่า!”
ลัลนาดูจะสติแตกกับข่าวที่ได้ยิน ก่อนเธอจะหยุดชะงัก เมื่อได้ยินประโยคกลั้วหัวเราะของสวามี
“ฉันฟังไม่ผิด ท่านน้าตรัสว่าก้อยจะแต่งงานจริงๆ...แต่งกับดลวัฒน์ แฟนเก่าของแกไง”
หญิงสาวทำตาโตก่อนจะหัวเราะแห้งๆแล้วโน้มตัวเข้าไปคล้องเอวสวามีเอาไว้ ศีรษะที่มีเส้นผมหอมนุ่มปกคลุมอยู่ค่อยๆถูไถๆไปที่พุงของหม่อมเจ้ากิติกรอย่างออดอ้อน “แกอย่าหึงซี่ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับดลล๊าววววว!!! ”
“ฉันไม่หึง...แต่อย่าให้รู้แล้วกันว่าถ่านไฟเก่ายังมี!”
“สวามีสายฮาร์ดคอร์!”
ลัลนาว่าก่อนจะหลับตาพริ้มพิงหม่อมเจ้ากิตติกรอยู่อย่างนั้น
สวามีหนุ่มถอนใจก่อนจะเลื่อนศีรษะของลัลนาให้กลับลงไปนอนบนที่บรรทม การตั้งครรถ์ลูกของเขาทำให้หม่อมแสนแสบของวังนรังสรรค์อ่อนเพลียง่าย คุยด้วยประเดี๋ยวประด๋าวเป็นต้องผล็อยหลับไปอีก ทำให้ช่วงนี้วังนรังสรรค์เงียบเหงาลงไปเป็นกอง
“นอนพักอีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้คุณสายยกข้าวต้มมาให้ทานบนนี้”
“เดี๋ยวสิ แกยังไม่ได้บอกเลยว่าท่านน้าตรัสอะไรอีกบ้าง”
หม่อมเจ้ากิตติกรลูบเส้นผมของภรรยาก่อนจะยิ้ม “ท่านว่างานรดน้ำสังข์จะจัดที่วังภานุพงศ์ ท่านอยากให้เราสองคนไปช่วยกันเตรียมงาน แต่ฉันไม่ได้ตอบตกลงท่านน้าไป กลัวแกจะไม่ไหว เพราะหากช่วย ก็ต้องไปค้างที่วังถานุพงศ์ก่อนวันงานหลายวัน”
ลัลนาพยักหน้าเบาๆทั้งที่เริ่มงัวเงีย “ฉันไหวอยู่แล้ว เราไปกันนะติ เอาคุณพนักงานของเราไปช่วยให้หมด ถือโอกาสให้พวกเขาได้ออกไปข้างนอกบ้าง”
หม่อมเจ้ากิตติกรหัวเราะ ก่อนจะก้มหอมหน้าผากกรุ่นกลิ่นของลัลนา
“ตามใจสิ ฉันเชื่อฟังหม่อมของฉันอยู่แล้ว”
---------------------------------------------------------------------
ที่โรงพยาบาลในเวลาเดียวกันนั้น...
คุณหญิงก้อยเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องตรวจของดลวัฒน์
‘ปัง!’
ก่อนจะผลักประตูเปิดออกอย่างรุนแรงจนเจ้าของห้องที่กำลังนั่งทำงานอยู่เงียบๆสะดุ้งโหยง
“...อ้าว ก้อย” ดลวัฒน์มองใบหน้าทะมึนทึ่งของว่าที่เจ้าสาว “มารับเราไปกินข้าวเหรอ”
คุณหญิงก้อยไม่ตอบ เธอทำเพียงกระโจนเข้าไปใกล้หมอหนุ่ม แล้วปาการ์ดสีหวานไปที่อกของเขา!
“นายรับปากฉันว่าจะไม่บอกใครเรื่องเราจะแต่งงานกัน!” หญิงสาวว่าพร้อมใบหน้าที่แดงเถือกเพราะอารมณ์โกรธที่โดนละเมิดข้อตกลง "แต่กลับส่งขยะนี้ไปทั่วโรงพยาบาล นี้เองสินะความเชื่อใจไม่ได้ของพวกวายะวงศ์!"
ดลวัฒน์ก้มเก็บการ์ดใบนั้นขึ้นมา ก่อนจะปัดๆเศษฝุ่นที่เปรอะเปื้อนแล้วเงยหน้ามองตอบคุณหญิงก้อย
“เราก็ไม่ได้บอกใครตามที่รับปากนี้...เราแค่แจกการ์ดให้เขาเฉยๆ”
คุณหญิงก้อยรู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะหน้ามืดเมื่อได้ยินคนผิดคำพูดแถไปเรื่อยไม่ยอมรับความผิด หญิงสาวกำหมัดแน่น และแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน แต่เธอจะทำอะไรเขาได้ เธอทำไม่ได้ นั้นเพราะการ์ดที่ว่าถูกแจกไปทั่วโรงพยาบาลแล้ว ตลอดทางที่เธอเดินมาที่นี้ก็มีแต่คนอวยพรงานแต่งให้เธอ เห็นได้ชัดว่าคนเจ้าเล่ห์เตรียมการทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น ไม่อย่างนั้นเพียงแค่วันเดียว การ์ดแต่งงานไม่มีทางเสร็จพร้อมแจกคนทั้งโรงพยาบาลแบบนี้หรอก!!
ดลวัฒน์ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวอย่างต้องการทำดีด้วย เขากดไหล่บางให้นั่งลง ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม ก้มมองการ์ดแต่งงานที่เขาเป็นคนเลือกเองทุกอย่าง แล้วแสร้งทำตาโต! อุทาน! ประหนึ่งกำลังตื่นตกใจเหลือแสน!
“อุ้ย! ทำไมร้านทำการ์ดงานแต่งใส่เดือนผิดพลาดล่ะ วันที่ 9 เดือนแปดเหรอ มันเร็วกว่ากำหนดไปตั้งหนึ่งเดือนนี้นา!!!”
หม่อมราชวงศ์กนกวลีจ้องเขม็งไปที่คนลวดลายมากพร้อมกับสั่นเทาไปทั้งตัว
เจริญไหมล่ะ! ไอ้คนเจ้าเล่ห์สามารถใช้ความไร้สัจจะของมันย่นระยะเวลาของานแต่งได้ตั้งหนึ่งเดือนเต็ม! ฉันไม่มีคำพูดอีกแล้ว! ฉันหมดคำพูดแล้วจริงๆเมื่อเจอกับคนแสนล้านเล่มเกวียนแบบเขา!!!!
‘ก๊อกๆ’
แต่ก่อนที่ความโกรธเกรี้ยวของคุณหญิงก้อยจะระเบิดออกมาเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดขวาง ร่างของนางพยาบาลผู้ช่วยหมอดลก้าวเข้ามา เธอยิ้มแล้วส่งหนังสือบางอย่างให้เขา หนังสือแสนคุ้นตา หนังสือที่ทำให้คุณหญิงก้อยเย็นวาบครั้นมองเห็นมัน!
“ผอ. อนุมัติวันลาแต่งงานให้หมอดลกับหมอก้อยแล้วค่ะ วันที่หนึ่งถึงวันที่สิบเดือนหน้า เผื่อไปฮันนิมูนสี่วันตามที่หมอดลขอด้วย คิคิ”
ฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของฉันสามารถฆ่าคนตรงหน้าได้จริงๆ ก็ไหนเขาบอกว่าใส่วันแต่งผิดในการ์ดไง! แล้วที่ไปขอวันหยุดมาเสียเสร็จสรรพคืออัลไล!! ตอบบ!!!
‘แกร็กๆๆๆๆ’
ปากกาลูกลื่นบนมือของหมอหนุ่มเซ็นซิกแซกไปบนกระดาษเพื่อลงชื่อรับวันหยุด ก่อนจะเก็บปากกาเหน็บไว้ที่เดิม แล้วส่งยิ้มให้ว่าที่เจ้าสาวอย่างสดใสร่าเริง ร่าเริงกับผีสิ!!
คุณหญิงก้อยกัดฟันกรอด ก่อนจะพูดรอดไรฟันจนฟังแทบไม่รู้เสียง
“นายเตรียมทุกอย่างพร้อม...นายมัดมือฉัน คิดว่าฉันเชื่อถือไม่ได้เหมือนกับนาย...นายกล้ามากดลวัฒน์!!”
“หื้ม...” หมอหนุ่มเลิกคิ้วทำตาโตก่อนจะพูดต่อ “อ้อ! เราลืมบอกไป ตั๋วไปฮันนีมูนเราก็เตรียมไว้พร้อมแล้วนะก้อย”
ฉัน! ฉัน!!!!
ฉัน! เกลียด! มานนนนน!!!!
ต่อนี้จ้า
-----------------------------------------------
นับจากวันนั้นคุณหญิงก้อยก็ไม่ยอมพูดยอมจาอะไรกับว่าที่เจ้าบ่าวอีก เธอทำเพียงใช่ชีวิตไปวันๆ ปล่อยให้วันเวลาหมุนไปตามสิ่งที่คนมากแผนการวางรอไว้ เธอได้ทราบภายหลังว่าวันที่ 9 เดือนแปดคือฤกษ์ดีที่ทางวายะวงศ์หาไว้ตั้งแต่แรก ดูเหมือนท่านพ่อท่านแม่ก็ได้ทราบการเปลี่ยนแปลงวันแต่งพร้อมกับเธอเช่นกัน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เอ่ยโอษฐ์อันใด เพราะการ์ดได้ถูกร่อนแจกไปยังพระญาติทุกฝั่งฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่พระญาติของเธอซึ่งพำนักอยู่ไกลถึงต่างแดนก็เช่นกัน
ภายในเวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน ไม่กี่วันก็จะถึงวันหมั้นของเธอและดลวัฒน์ จดหมายจากพระญาติข้างภานุพงศ์ที่พำนักอยู่ต่างประเทศ รวมถึงพระสหายสนิทของท่านพ่อทยอยส่งมาที่วังเพื่อแจ้งการเสด็จเยือน เหล่าคุณพนักงานต่างวิ่งวุ่นเพื่อตระเตรียมทำความสะอาดห้องหับรองรับเหล่าราชนิกูลราวยี่สิบกว่าพระองค์ที่จะเสด็จมา ห้องบรรทมน้อยใหญ่ถูกเปิดใช่ราวกับมีงานเลี้ยงใหญ่ ทุกซอกมุมภายในวังใหญ่ถูกเช็ดถูทำความสะอาด กระนั้นคุณพนักงานเพียงยิบมือของวังก็ดูจะไม่พอเพียง แต่ปัญหาทุกอย่างก็หมดไป เมื่อขบวนเสด็จจากวังนรังสรรค์มาถึง
คุณหญิงก้อยยืนยิ้มรอรับรถของวังนรังสรรค์ที่ขับนำมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปรับหม่อมลัลนา ซึ่งถูกหม่อมเจ้ากิติกรพระสวามีของเธอประคองให้ก้าวลงจากรถ
“หม่อมแม่มาแล้ว!”
คุณหญิงก้อยกล่าวล้อลัลนา เพื่อนสนิทของเธอและภรรยาของพระญาติข้างพระมารดา ก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้าไปหา กอดรัดเพื่อนแล้วก้มมองหน้าท้องที่นูนเด่นภายใต้ชุดคลุมท้องสีเรียบร้อยนั้น
“สี่เดือนแล้วสินะ อีกแค่ห้าเดือนวังนรังสรรค์ก็จะมีงานฉลองใหญ่แล้วสิ”
เธอว่าก่อนจะเปลี่ยนไปยิ้มล้อหม่อมเจ้ากิติกร แต่เป็นลัลนาที่เริ่มพูดก่อน
“อ้อ แปลว่าแกยังรู้ตัวสินะ ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเตือนแกบ่อยๆว่าแกนะต้องเป็นคนทำคลอดให้ฉัน!”
"ห๊า! อะไรนะ!"
คนเป็นคุณหญิงร้องอย่างตกใจ แต่นอกจากหม่อมลัลนาจะไม่ตอบ ยัยนั้นไม่วายหันไปพยักพเยิดหน้ากับสวามีผู้แสนเชื่อฟัง แน่นอนว่าหม่อมเจ้ากิตติกรก็พยักตอบด้วย
‘โอเค กดดันกันเข้าไป!’
"อ้าวทั้งสองคนมากันแล้วเหรอ" ท่านหญิงกมลที่เสด็จออกมาดูกล่าวก่อนจะยิ้มรับลัลนาและพระภาติยะของพระองค์ แล้วจึงหันไปตำหนิบุตรสาว ที่ดูอ่ำๆอึ้งๆอยู่
"ก้อยนี้ก็เหลือเกินจริงๆ ทำไมไม่รีบพาเพื่อนเข้าไปในห้องรับแขก"
ว่าจบท่านหญิงกมลก็เสด็จมาใกล้ลัลนา แล้วช่วยหม่อมเจ้ากิตติกรประคองหม่อมวังนรังสรรค์เข้าไปในห้องที่ว่า ซึ่งที่นั้น ท่านธีปประทับรออยู่
คุณหญิงก้อยมองตามคนทั้งหมดไปด้วยใจที่หนักอึ้งราวกับมีภูเขาลูกใหญ่มากดทับไว้ ได้แค่ขอให้สิ่งที่หม่อมบ้าของวังนรังสรรค์พูด เป็นเรื่องล้อเล่นเท่านั้น
“น้าขอบใจชายติมากที่พาคุณพนักงานวังนรังสรรค์มาช่วย เพราะลำพังแค่คุณพนักงานของภานุพงศ์คงจัดเตรียมทุกอย่างไม่พร้อมทันวันหมั้น ไหนจะเรื่องทำความสะอาดวัง ไหนจะเรื่องทำเครื่องเคลาเครื่องเสวยไว้รอรับพระญาติของเราที่กำลังจะมาอีก”
ท่านหญิงกมลกล่าวขณะกวาดสายตามองพระภาติยะและหลานสะใภ้ที่ดูเปล่งปลั่งขึ้นทุกวัน นี้คงเป็นผลจากการตั้งครรภ์หน่อเนื้อราชสกุลนรังสรรค์
“อ้อ อีกเรื่อง น้าให้คุณวิรงรองจัดห้องของพี่หญิงกนกไว้ให้แล้ว ให้ชายติกับหม่อมพักห้องนั้นน่าจะสบายที่สุดเพราะเป็นห้องใหญ่ ท่านติล่ะว่ายังไง ถูกทัยหรือเปล่า”
ท่านหญิงว่าและเห็นพระภาติยะเพียงองค์เดียวเช่นหม่อมเจ้ากิตติกรพยักพักตร์รับแล้วยิ้มสุภาพ
“ขอบทัยค่ะท่านน้า ได้พักห้องท่านแม่ชายถูกทัยมาก”
หม่อมเจ้ากิตติกรกล่าวก่อนจะหันมองลัลนาซึ่งทำหน้าคล้ายครุ่นคิดอะไรอยู่
ท่านหญิงกมลยิ้มตามแล้วหันมองสวามีของตัวเองบ้าง ซึ่งหลังจากผ่านคืนก่อนหน้าไป ท่านหญิงก็บรรทมอยู่ที่ห้องของท่านชาย ไม่หลีกเลี่ยงไปที่ไหนอีก ทำให้บรรยากาศระหว่างสามีภรรยาดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จนหลานทั้งคู่สังเกตเห็น
“ก่อนจะเข้ามาน้าได้ยินว่าท่านติกับหม่อมอยากให้ยัยก้อยทำคลอดให้”
คำตรัสของท่านหญิงกมลทำให้ท่านธีปที่ประทับอยู่ชะงักไป “จริงหรือท่านติ”
หม่อมเจ้ากิตติกรพยักพักตร์อีกหนแล้วตรัสตอบ “จริงค่ะ เสด็จป้าปั้นประสงค์ให้ลูกคนแรกของชายเกิดที่วัง และชายกับลูกไม้ก็เห็นควรว่าคนทำคลอดควรเป็นก้อย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของชาย”
ขณะหม่อมเจ้ากิตติกรตรัสคุณหญิงก้อยก็เดินเข้ามาพอดี ทำให้ทันได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างกับหูตัวเอง หญิงสาวนิ่งเงียบ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
“ก้อยดีใจที่ทั้งสองคนอยากให้ก้อยเป็นคนทำคลอดให้ แต่...” คุณหญิงก้อยว่าก่อนจะก้มหน้าแล้วพูดต่อเสียงแผ่ว “แต่ความสามารถของก้อยคงยังไม่ถึง และก้อยไม่มั่นใจว่าจะทำมันได้ไหม”
หม่อมลัลนาหันมองสวามีก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนสนิทของตน สองมือของหม่อมวังนรังสรรค์ทาบทับและบีบมือคุณหญิงก้อยเอาไว้แน่น
“แกต้องทำได้”
“แต่ไม้...แกก็รู้ว่าฉันกลัว”
หม่อมลัลนาพยักหน้า “ฉันก็กลัวเหมือนกัน แต่เราจะผ่านไปให้ได้ เชื่อสิ!”
คนเป็นคุณหญิงมองเห็นแววตาเชื่อมั่นบางอย่างผ่านทางสายตาของเพื่อนสนิท เธอรู้ว่าเพื่อนบังคับเธอเพราะเหตุผลอะไร เหตุการณ์นั้นทำเธอแทบเสียสติ เธอเสียทั้งตัวตน เสียงทั้งความตั้งใจที่จะเป็นหมอทำคลอด ภาพเด็กทารกที่หมดลมหายใจไปแล้วยังติดตา ทุกครั้งที่หลับตา ภาพนั้นยังหลอกหลอน เธอต้องใช้ยาช่วยให้หลับ เธอไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้ แต่วันนี้ตอนนี้ เพื่อนที่เธอรักที่สุดต้องการดึงเธอให้หลุดพ้นจากมัน แล้วกลับไปอยู่กับความจริง
แต่เธอ...เธอไม่คิดว่าตนเองจะทำมันได้...
----------------------
หม่อมหลวงดลวัฒน์ วายะวงศ์ มาถึงวังภานุพงศ์ในคืนเดียวกันนั้น ชายหนุ่มนำชุดสาวเจ้าที่ต้องใส่ในพิธีหมั้นมาส่ง เพราะคนเป็นเจ้าสาวไม่สนใจงานแต่งซักเท่าไร เขาจึงต้องเป็นฝ่ายตระเตรียมให้ และเลือกแบบชุด รวมไปถึงเนื้อผ้า สี ด้วยตัวเองทั้งหมด
ชายหนุ่มหัวเราะในใจกับสิ่งที่ตัวเองกระทำ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในวัง และพบคุณวิรงรองที่กำลังหัวหมุนอยู่กับแจกันคู่ใบโตกลางโถงทางเดิน
“อ้าว คุณดล”
“สวัสดีครับคุณวิรงรอง”
ดลวัฒน์ยกมือไหว้ต้นห้องของวัง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แล้วถามถึงคนที่เขาต้องการเจอตัว
“คุณหญิงก้อยละครับ”
คุณวิรงรองทำตาหรี่เล็กเป็นเชิงแซว ก่อนจะเอียงตัวเข้ามาใกล้ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างสนิทสนมก่อนกระซิบบอก
“นั่งซึมอยู่ตรงลานน้ำพุข้างวังนู้นค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร เป็นตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ”
ดลวัฒน์ขมวดคิ้วก่อนจะมองชุดเจ้าสาวในมือ เพียงไม้นานคิ้วขมวดก็คลายลง พร้อมร่างสูงที่เดินตรงรี่ไปที่สวนน้ำพุตามการชี้ทางของคุณวิรงรอง
ดลวัฒน์ก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็มาถึงลานน้ำพุที่ว่าซึ่งบัดนี้สวนย่อมรอบๆลานถูกตัดแต่งและประดับประดาด้วยไฟประดับดวงเล็กๆ ซึ่งคุณพนักงานของวังกำลังทดลองระบบไฟอยู่ ชายหนุ่มกวาดสายตามองหาคนที่เขาต้องการเจอ และพบร่างแบบบางนั่งก้มหน้ามองมือตัวเองอยู่บนม้านั่งสีขาวทางมุมหนึ่งของลานหินอ่อน บนใบหน้านวลที่วันนี้ไม่มีแว่นกรอบเหลี่ยมเกะกะลูกตา มีหยดน้ำตาเม็ดน้อยสองหยดกำลังสะท้อนแสงวิบวับกับแสงไฟ ซึ่งภาพที่ปรากฏแก่สายตานั้น ทำให้หมอหนุ่มรู้สึกจิตใจไม่สงบสุขเอาเสียเลย
หม่อมหลวงดลวัฒน์ก้าวเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างไม่รอช้า ก่อนจะร้องทักทายคนที่เอาแต่เม่อ และไม่รู้สึกตัวกระทั่งได้ยินเสียงของเขา
“โอ๊ะโอ๋! มีเด็กผู้หญิงมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ด้วยล่ะ”
-----------------------------------
ฝากกดติดตามเพจ ' เฌอมา ' ด้วยน้า เข้าไปฝอย เม้าท์ ตบตีกัน ในเพจได้นะคะ จะแจ้งอัพนิยายในนั้นน้า ตามมาาาๆๆๆ
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งใน นิยายไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่มีความผิดทางกฎหมายตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติที่ได้ระบุไว้และจ่ายค่าเสียหายตามแต่เจ้าของผลงานจะกำหนด
[ สำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สมาคมนักเขียน ]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หม่อมลัลนาซึ่งถูกสวามีประคองให้...... แก้เป็น ได้สวามีประคอง....จะเพราะกว่าค่ะ เพราะการใช้ถูกกระทำอะไรสักอย่างเป็นใช้ในทางที่ไม่ดีอ่ะค่ะ เช่น ถูกจับ ถูกไล่ออก ประมาณนี้อ่ะ
*เดียวแก้กลับเน้อ ^^
(ใช้)ชีวิต /ห้องถูกเปิด(ใช้)/ (หยิบ)มือ/ พยัก(พเยิด)หน้า/ หม่อม(ป้า)ของวังนรั(ง)สรรค์/ (นี่)คงเป็นผล/ ฉันตัดสินใจ(ไ)ปแล้ว/ อง(ค์)หญิงพิมวลัญช์/ ป(ฏิ)เสธ/ ฝรั่งเศ(ส)/ แล้(ว)/ (ด้วย)ตัวเองทั้งหมด/ (ไหว้)ต้นห้อง/ (ล่ะ)ครับ/ ตา(หรี่)/ เพียง(ไม่)นาน/ (เกะ)กะ/ เหม่อ/ (ไม่)รู้สึกตัว
ปากดี...จิงเจงงงงง
ปากดีให้ตลอดนะ..อิหมอดล
ห้ามนายบอกใครว่าเราแต่งงานกัน..แต่มันแจกการ์ด
ถ้านายตุกติกเมื่อไหร่ฉันมีสิทธิ์ขอหย่า...แต่มันคงไม่หย่า
ที่สำคัญฉันจะไม่นอนร่วมห้องกับนาย.....จะรอดมั้ย
จดบัญชีแค้นไว้ก่อนหญิงก้อย ไว้ค่อยเอาคืนทีหลัง55555
มีพิมพ์ตกพิมพ์ผิดค่าา
ฝนตกปรอยๆ น่าประหลาด เทิดทูน หมอน เรียบคอด ครรภ์ เพิ่งเดินกลับ ท่านน้า คล้องเอว ออดอ้อน ฮาร์ดคอร์ งัวเงีย ถ-ทึง โกรธ จ้องเขม็ง ขัดขวาง ผอ. ฮันนีมูน เซ็นซิกแซก กัดฟัน