ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เพลิงแค้นซาตาน [END]

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 17 : การจากลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.83K
      147
      10 ก.ค. 57

    บทที่ 17 การจากลา

     

     

                ความรัก...

                ไม่สามารถหยุดความแค้น...

                หากแต่เพราะรัก...

                ความแค้นจึงได้ถือกำเนิด...

     

    ความรักที่เจ็บปวดและผิดหวัง ความเสียใจเมื่อถูกพรากสิ่งที่รัก... สิ่งเหล่านั้นก่อให้เกิดความแค้นที่เป็นนิจนิรันดร์ ไม่มีวันดับสลาย และคงอยู่ตลอดกาล

     

    ซาสึเกะ...ฉันขอโทษที่อยู่เคียงข้างเธอไม่ได้

     

                ซากุระคิดพร้อมกับหยิบเอาแผนที่ที่ซุยเงสึเขียนไว้ให้ขึ้นมาดู ตอนนี้เธอยืนอยู่ริมหน้าผาสูงชันที่เบื้องล่างมีลำธารสายใหญ่ไหลผ่าน ถึงแม้จะมองเห็นได้ไม่ชัดนักเพราะเป็นเวลาเช้ามืดที่พระอาทิตย์ยังคงนอนหลับใหล แต่ซากุระกลับจดจำสถานที่นี้ได้เป็นอย่างดี...

     

    จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในแคว้นฮิโนะคุนิ...

     

                ตามที่ซุยเงสึเขียนบอกไว้ ถ้าเธอมาถึงจุดนี้ได้แสดงว่าเธอได้ออกจากป่าวงกตแล้ว ที่เหลือก็แค่เดินไปตามทางที่ลำธารนี้ไหลผ่าน เธอก็จะพบกับน้ำตก ซึ่งเป็นบริเวณที่เธอถูกลักพาตัวมา และเมื่อถึงที่นั่น... เธอก็จะลาจากเขา...ตลอดกาล...

                ซากุระกระชับเสื้อขนสัตว์ตัวหนาเข้ามาแนบตัวเมื่อมีสายลมหนาวพัดผ่านหอบเอาความเย็นยะเยือกจนเสียดเข้าไปในผิวเข้ามาปะทะ เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้เธอเดินทางมาได้แค่ชั่วครู่ก็รู้สึกเหนื่อย ซากุระจำเป็นต้องหยุดพักเป็นระยะเพื่อฟื้นกำลังกาย การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะรู้ตัวก่อนและตามมาทัน

     

    เธอได้แต่ภาวนาในใจ...

    อย่าตามฉันมา...ซาสึเกะ

     

    แต่เธอคงจะถูกโชคชะตาเกลียดชัง... คำภาวนาของเธอมักจะถูกลืมเสมอ...

     

    “หนีฉันมาทำไม”

     

    เสียงหนึ่งพูดเบาๆอยู่ข้างหลังของเธอ น้ำเสียงแหบพร่าแฝงไปด้วยความเจ็บปวดเกินจะทานทนทำให้ร่างบางตัวสั่นน้อยๆ หยดน้ำตามากมายไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา...หัวใจของเธอก็เจ็บปวด

    ซากุระหันใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาไปทางเขา แล้วเธอก็ต้องสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อเห็นใบหน้าของซาสึเกะ

     

    ดวงตาสีรัตติกาลของเขาดูอิดโรย...

    ใบหน้าหล่อเหลาดูเศร้าหมอง...

    นัยน์ตาคมมองมาที่เธออย่างเศร้าสร้อย...

     

                “ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้...” ซาสึเกะพูดพร้อมกับสืบเท้าเข้ามาหาเธออย่างเชื่องช้าราวกับคนไร้วิญญาณ ซากุระก้าวถอยหลัง

     

    “เธอจะทำลายโคโนฮะ...” เสียงหวานพูดเบาๆ ดวงตาสีมรกตสั่นระริกอย่างเจ็บปวด “ไม่เหลือเหตุผลที่ฉันจะอยู่ที่นั่นแล้ว”

     

    “แล้วฉันล่ะ” ร่างสูงพูดน้ำเสียงตัดพ้อ “ฉันจะอยู่ยังไง...”

     

    “ฉันอยู่กับเธอไม่ได้...เธอก็รู้ ฉันรักเธอไม่ได้อีกแล้ว” ซากุระพูดน้ำตานองหน้า

     

    “อย่าพูดแบบนั้นนะ!” เขาร้องห้าม ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยออกมาอย่างร้าวราน “ขอร้อง...”

     

    “ปล่อยฉันไปเถอะ ซาสึเกะ...”

     

    “ถ้าเธอโกรธฉัน เธอจะทำอะไรฉันก็ได้ ฉันยอม...แต่อย่าจากฉันไป เธอเอาหัวใจของฉันไปแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ...” เขาพูดพร้อมกับใช้ดวงตาสีรัตติกาลมองมาที่เธออย่างเว้าวอน

     

    “...”

     

    “เรื่องคาริน ฉันจะจัดการเอง...”

     

    “เธอหนีความจริงไม่ได้หรอกซาสึเกะ!” ร่างบางโพล่งขึ้นทั้งที่เขายังพูดไม่จบ ดึงเขาให้ออกจากโลกแห่งความฝัน

     

    “ต่อให้ไม่มีเรื่องคาริน...แต่เรา...จะรักกันได้เหรอ”

     

    “...”

     

    “เรื่องของคารินมันก็แค่ทำให้ฉันกับเธอต้องจากกันเร็วขึ้นก็เท่านั้น... แต่ตอนจบของเรื่องนี้มันก็เหมือนกัน... เรารักกันไม่ได้” ซากุระเค้นคำพูดแค่ละคำออกมาอย่างยากลำบากเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย เธอรู้ว่าคำพูดของเธอทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำมากถึงขนาดไหน แต่มันคือความจริง... ความจริงที่ทั้งเขาและเธอพยายามทำเป็นมองไม่เห็น

     

    มันเป็นความรักที่ไม่สมควรจะเกิดตั้งแต่ต้น...

     

    “ทำไมถึงเป็นแบบนี้...” ซาสึเกะพูดเสียงเบาหวิว ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้... สิ่งที่เขาและเธอพยายามทำเป็นลืม...

     

    ความรับผิดชอบต่อความแค้นของบรรพบุรุษของเขา...

    ความรับผิดชอบต่อหมู่บ้านของเธอ...

     

    มันเหมือนกำแพงสูงใหญ่ที่กั้นพวกเขาเอาไว้...

     

                เขาไม่เคยรักใคร... ไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากความรัก ไม่เคยรู้ว่ามันทรมานมากถึงขนาดไหน...จนกระทั่งเขามีความรัก...

    ความเจ็บปวดของเขาไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาต้องทำร้ายคนที่ตัวเองรักครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากที่เขารับรู้ว่าตัวเองทำสิ่งที่ผิดพลาดและเธอหนีจากเขาไป ความเจ็บปวดของเขา...มันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เขารู้สึก... รัก

     

    ความรักบนความแค้น...

     

    คนเราทุกคนรู้ว่าความรักทำให้เกิดความเจ็บปวด ทำให้เกิดความเคียดแค้น...

    บางคนพยายามหลีกหนีจากมันเพราะไม่อยากเจ็บปวด...

    แต่ถึงกระนั้น...เวลาที่รักกัน คนเราก็ยังคงรักกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา มอบหัวใจให้แก่กันและตายแทนกันได้...

    พวกเขารักกันโดยไม่สนว่าวันหนึ่งพวกเขาอาจจะได้รับความเจ็บปวดจากมัน...

     

    ...เขาเป็นหนึ่งในนั้น...

     

                ทั้งๆที่รู้ว่าเส้นทางของเขาและเธอแตกต่างกันมากเกินไป ทั้งๆที่รู้ว่าจุดจบอาจมีใครต้องตายจาก ความรักของเขาไม่มีทางสมหวังตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เขาก็ยังรัก...รักมาก...จนตัดใจไม่ได้...

     

                “ความรักของฉันเยียวยาบาดแผลในใจของเธอไม่ได้... ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะอยู่ที่นั่น และยิ่งตอนนี้...เธอมีอีกสองชีวิตที่ต้องดูแล ฉันจะไปอยู่ที่นั่นในฐานะอะไร”

     

                “เธอกำลังจะฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็นนะซากุระ...” ร่างสูงพูดพร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาสีรัตติกาลที่แข็งแกร่งบัดนี้กลับมีน้ำใสๆไหลรินออกมาไม่ขาดสาย

     

    ซาตานกำลังร้องไห้...

     

                “ฉันรักเธอ... แค่ รัก ก็ยังทำไม่ได้เลยเหรอ”

     

                “ความรักของเรามันจบลงแล้ว ฉันทวงหัวใจของฉันคืนแล้ว...” เธอเอ่ยย้ำ พยายามทำเสียงให้ดูเย็นชาที่สุด ทั้งๆที่น้ำตานองหน้า

     

    “เธอคือคนแค้น ส่วนฉันคือฝ่ายที่ถูกแค้น มันเป็นไปไม่ได้... ความแค้นของเธอมันหนักหนาเกินกว่าที่แค่คิดจะให้อภัยก็ทำได้ง่ายๆ...” ซากุระพูด พยายามกลั้นน้ำตาที่เหลือไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้

     

    “...”

     

    “มันเป็นนิรันดร์ คงอยู่ตลอดกาล... เป็นเพลิงแค้นที่แผดเผาทุกอย่างและไม่มีวันดับ ซาสึเกะ... ในใจของเธออาจเลือกที่จะลืม แต่จิตสำนึกของเธอมันบอกให้เธอจำ ปีศาจในตัวเธอบอกให้เธอแก้แค้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป...”

     

    “...”

     

    “วันหนึ่ง...ฉันอาจจะต้องฆ่าเธอด้วยมือของฉัน หรือเธอ...อาจจะฆ่าฉันด้วยมือของเธอ...”

     

    “ไม่มีทาง...” ซาสึเกะพูดเสียงเบาหวิว ดวงตาสีมรกตที่คอยปลุกให้เขาตื่นจากฝันร้าย ใบหน้าสวยหวานที่มองกี่ครั้งก็ทำให้หลงใหล เรือนผมสีดอกซากุระที่ส่งกลิ่นหอมจนเขาอดไม่ได้ที่จะต้องดอมดม ทุกอย่าง...ดูเหมือนอยู่ไกลเหลือเกิน...

     

    “เพราะฉะนั้น...ปล่อยฉันไป ลืมฉันและทำที่เหลือตามที่ใจตัวเองต้องการ ฉันจะกลับไปโคโนฮะเพื่อเตรียมรับมือกับเธอ ฉัน...”

     

    “...”

     

    “จะลืมเธอให้ได้...”

     

    ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงที่แสนเจ็บปวด ทั้งเขาและเธอเดินกันมาไกลเกินไป... เธอเชื่อว่าความรักของเธอจะสามารถหยุดความแค้นของเขาได้ หากแต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่ ความรักของเธอมีแต่จะดึงเขาให้ตกอยู่ในความเจ็บช้ำ... หัวใจของเธอกลับกลายเป็นภาระ

     

    และยิ่งตอนนี้...

    เขามีคนที่ต้องดูแล...

     

                “แล้วฉันจะลืมเธอได้ยังไง... ฉันจะทำใจฆ่าเธอได้ยังไง ซากุระ!

     

    ซาสึเกะตะโกนถามอย่างเจ็บปวด อยากให้เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ฝันร้าย
    อยากให้เขาตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองยังอยู่ที่โคโนฮะโดยมีครอบครัวที่ยังอยู่กันพร้อมหน้า พ่อ... แม่... อิทาจิ...
    อยากให้เขาตื่นขึ้นมา...โดยที่ไม่ต้องมีความแค้นต่อใคร

    ตื่นขึ้นมา...และสามารถ รักเธอได้โดยที่ไม่ต้องเจ็บปวด

     

    มันเป็นแค่ความฝัน...

     

                “ยังไงฉันก็ปล่อยเธอไปไม่ได้ ซากุระ”

     

                “แล้วเราจะอยู่ในสภาพนี้ต่อไปได้ยังไง ซาสึเกะ!

     

                “...”

     

                “เธอจะทำยังไงกับความแค้นของเธอ”

     

                “...”

     

                “เอาหัวใจของเธอคืนกลับไปและตัดใจ...จากฉัน” เธอพูด ดวงตาสีมรกตกำลังสั่นระริกราวกับว่าเธอฝืนใจที่พูดประโยคนั้นออกมา  

     

    “ซากุระ...”

     

                เป็นเวลานานหลายนาทีที่ไม่มีใครพูดอะไร ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดที่แสนเจ็บช้ำ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ไร้ทางออก ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีแต่ความเจ็บปวดที่รออยู่... ซาสึเกะก้มหน้ามองพื้น หยดน้ำตาที่ไม่ค่อยจะได้เห็นไหลรินอาบแก้ม

     

    ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการ...

    เขาก็ควรปล่อยเธอไป...

    เขาผิดเองที่ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมาน...

    เขาต้องอยู่ให้ได้ แม้ว่าจะไม่มีเธอข้างกาย...แม้ว่ามันจะทรมานเจียนตายเขาก็ต้องทำ...

     

    .

    .

    .

     

                “ซาสึเกะ...ถึงฉันจะบอกเธอแบบนั้น...แต่ว่าฉัน...ฮึก...ตัดใจจากเธอไม่ได้...”

     

    ซากุระพูดขึ้นทำลายความเงียบพร้อมกับสะอื้น ดวงตาสีมรกตเต็มไปด้วยน้ำตาและสั่นไหวราวกับว่าเธอกำลังสับสนในตัวเอง น้ำเสียงปานจะขาดใจของซากุระดึงซาสึเกะออกจากภวังค์เขาเงยหน้าขึ้นมองคนพูดช้าๆ ก็พบว่าเธอกำลังก้าวเดินถอยหลังเรื่อยๆจนร่างสูงรู้สึกผิดสังเกต ใบหน้าของเธอดูอ่อนแรง แววตาของเธอมองเขาอย่างเศร้าสร้อย ริมฝีปากบางระบายยิ้ม...

     

    ซาสึเกะใจหล่นวูบ...

    ไม่นะ!

     

                “เธอคิดจะทำอะไร ซากุระ!” ซาสึเกะตะโกนอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เขาพยายามลุกยืนขึ้นแต่ขาทั้งสองข้างกลับไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ

     

                “อย่านะ...อย่าทำแบบนั้น...” เขาพูดเสียงขาดห้วง พยายามคลานเข้าไปแต่ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ไกลเหลือเกิน ดวงตาสีรัตติกาลแปรเปลี่ยนเป็นเนตรวงแหวนทั้งน้ำตา ดวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดสั่นระริก

     

    เขาต้องสะกดจิตเธอ...

     

                “อั่ก!” ร่างสูงเผลอร้องออกมาเพราะวิชาของตัวเองถูกตีกลับ ภายในตัวของเธอมีพลังบางอย่างที่กำลังต่อต้านเขา

     

    ไม่จริง! อย่า...  

     

     “ฉันลืมเธอไม่ได้ ตัดใจก็ไม่ได้ อยู่กับเธอก็ไม่ได้...” ซากุระพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างนึกสมเพชตัวเอง สุดท้าย...เธอก็หลอกตัวเองไม่ได้

     

    ฉันคงมาได้ไกลแค่นี้

     

    ไม่ใช่แค่เขาที่ขาดเธอไปแล้วอยู่ไม่ได้...

    แต่ก็เป็นตัวเธอเองเหมือนกันที่จะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา...

    อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น...

     

                “อย่านะซากุระ! ฉันยอมแล้ว...ฉันยอมปล่อยเธอไปแล้ว อย่าทำแบบนี้...” เขาพูดเสียงสั่น และดวงตาสีรัตติกาลที่กลับคืนสู่สภาพเดิมก็ต้องเบิกโพลงอีกครั้งเมื่อร่างเล็กยืนจนชิดขอบหน้าผา ถ้าเธอก้าวถอยหลังอีกแค่ก้าวเดียว...

     

    เธอก็จะจากเขาไปตลอดกาล...

     

                “ซาสึเกะ ฉันช่วยเธอมาจากความแค้นไม่ได้ ฉันอยู่เคียงข้างเธอไม่ได้...ฉันขอโทษ”

     

                “มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะซากุระ! เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ อย่าเอาชีวิตของตัวเองมาทิ้งเพราะคนอย่างฉัน

     

                “...”

     

                “ทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันเอง... ฉันอาฆาตแค้น ฉันทำร้ายเธอ ฉันทำให้เธอเจ็บปวด แม้กระทั่งความรักของฉันก็ยังทรมานเธอ ซากุระ...เธอจะโกรธฉันก็ได้จะเกลียดฉันก็ได้ เธอจะฆ่าฉันก็ได้ ฉันยอม...แต่อย่าทำแบบนี้...” เขาพูดทั้งน้ำตา หัวใจกำลังร่ำไห้อย่างหนัก เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะขาดใจตาย

     

                “อย่าไปในที่ที่ฉันตามเธอไปไม่ได้ อย่าอยู่ในที่ที่ฉันมองไม่เห็นเธอ...”

     

                “นี่... เธอเชื่อเรื่องภพชาติมั้ย ซาสึเกะ” ซากุระถามเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับระบายยิ้มเศร้า ซาสึเกะชะงักเมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังดูเหมือนคำลา

     

                “...”

     

                “ถ้าชาติที่แล้วเราผูกพันกับใครมากๆ ชาติต่อไปเราก็จะเกิดมาพบกับคนๆนั้นและจะรักกันอีกครั้ง...”

     

                “ไม่...ได้โปรด”

     

                “แต่สำหรับฉัน...ชาตินี้เรารักกันมามากพอแล้ว ถ้าเกิดว่าชาติหน้าเราพบกันอีก...ฉันหวังว่าเรา... คงจะไม่ต้องมา รัก กันอีก...”

     

                “หยุดพูดแล้วเดินกลับมาได้แล้วซากุระ!” เขาตะคอก ไม่ฟังประโยคล่ำลาของเธอ สำหรับเขาแล้ว...

     

    ไม่ว่าชาติไหนก็จะรัก...

     

                “ขอโทษที่ยืนอยู่ข้างเธอไม่ได้...”

     

                “...”

     

                “ขอโทษที่ฉันอ่อนแอเกินไปจนต้องตัดสินใจทำแบบนี้...”

     

                “ซากุระ! กลับมา...”

     

                “ถ้าไม่มีเธอ...ฉันเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน...”

     

                “ซากุระ!!!!

     

                “ดูแลตัวเองด้วย ฉัน...รักเธอมากนะ...ซาสึเกะ

     

                “อย่านะ!!!!!

     

                “ลาก่อน...” ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแสนเศร้า ก่อนที่ร่างของเธอทั้งร่างจะร่วงหล่นลงสู่ธารน้ำเบื้องล่างราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาฉุดดึง ซาสึเกะเบิกตาโพลง คลานเข้าไปหาพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งพยายามคว้าตัวเธอไว้ แต่เขาก็สัมผัสได้เพียงก้อนอากาศ เธอหายไปต่อหน้าต่อตาเขา...พร้อมๆกับแสงแห่งรุ่งอรุณที่ส่องสว่าง...

     

    ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นแล่นผ่านเข้ามาถึงกลางใจ...

    ร่างสูงสั่นสะท้าน ลมหายใจขาดเป็นห้วง...

    หัวใจแหลกสลาย...

     

                “ซากุระ...ซากุระ... ฉันจะไปหาเธอ ซากุระ...ฉันอยู่ไม่ได้ ซากุระ...” เขาพึมพำราวกับคนเสียสติ ก่อนจะพาร่างของตัวเองไปจนชิดขอบหน้าผา ความเสียใจที่ต้องเห็นคนที่รักจากไปต่อหน้าต่อตามันเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

     

    อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว

     

                แต่ในขณะที่เขาตัดสินใจจะปล่อยให้ร่างร่วงหล่นตามเธอลงไป มือแข็งแกร่งของใครบางคนก็ฉุดรั้งเขาไว้ ซาสึเกะดิ้นพล่านพยายามสลัดตัวเองให้หลุดแต่มือแข็งแกร่งนั้นก็ทรงพลังจนเขาไม่สามารถขยับไปไหนได้ ร่างสูงพร่ำเพรียกหาชื่อของคนที่เพิ่งจากไปพร้อมๆกับหยดน้ำตาสีใสค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสด

     

    น้ำตาสีเลือด...

     

                “ปล่อยฉัน! ฉันจะไปหาซากุระ...ฉันจะอยู่ได้ยังไง!

     

                “ผมปล่อยให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้ครับ คุณซาสึเกะ...” เจ้าของมือแข็งแกร่งที่คอยจับตัวคนที่กำลังใจสลายอยู่พูดขึ้นอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกสงสารอย่างจับใจ

     

                จูโกะมองดูสภาพของเจ้านายที่มักจะเย็นชาและโหดร้ายอย่างเวทนา ดวงตาที่แข็งแกร่งคู่นั้นบัดนี้กลับมีหยดน้ำตาสีเลือดแห่งความเศร้าโศกไหลออกมาไม่ขาดสาย วูบหนึ่งที่เขาคิดว่าการปล่อยให้ซาสึเกะตกลงไปอาจจะเป็นความคิดที่ดีกว่าก็ได้ เพราะอยู่...ก็เหมือนตายทั้งเป็น...

     

                “อ๊ากกกกกกกกกก!!!!!!!!!!

     

    ซาสึเกะตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเป็นเฮือกสุดท้าย ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป เจ้าของเรือนผมสีส้มแสดคลายร่างอักขระของตนก่อนจะแบกร่างเจ้านายซึ่งไม่เหลือสติใดๆแล้วขึ้นบ่า แล้วพากลับไปยังฐานทัพ

     

    .

    .

    .

     

                ผ่านไปสามชั่วโมงนับตั้งแต่ที่เขาพาซาสึเกะกลับมาที่ฐานทัพ แต่ร่างสูงที่ยังนอนเหยียดยาวบนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ แต่ถึงกระนั้น...รอบๆดวงตาที่ปิดสนิทกลับมีหยดน้ำสีเลือดไหลออกมาเป็นระยะสะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดในหัวใจแม้ว่าเจ้าของร่างจะยังคงหลับใหล

     

                เสียงรองเท้ากระทบพื้นเบาๆทำให้จูโกะหันกลับไปมองที่ประตู ร่างบอบบางของซุยเงสึเดินเข้ามาอย่างเลื่อนลอย ดวงตาสีอะเมทิสต์เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาที่เจ้าตัวเช็ดออกไม่หมด ซุยเงสึทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาว พยายามกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายแต่กลับไม่สำเร็จ

     

                “เป็นยังไงบ้าง” จูโกะถามเสียงเรียบ เขาบอกให้ซุยเงสึไปค้นหาร่างของซากุระตรงบริเวณที่เธอร่วงลงไป ถ้าโชคยังเข้าข้าง...เธออาจจะยังมีชีวิต...รวมถึง...

     

                แต่ซุยเงสึกลับส่ายหน้าช้าๆอย่างเจ็บปวด เขาไม่มีแรงพอที่จะพูดแล้วด้วยซ้ำ ดวงตาสีอะเมทิสต์หันมองไปยังร่างของคนที่ยังคงหลับใหล อยากจะโกรธ อยากจะกล่าวโทษที่เขาทำให้เธอต้องจากไป แต่...คนๆนั้นเจ็บกว่าตัวเขาเองหลายเท่า

     

    ถ้าเขาตื่นขึ้นมา...เขาจะต้องพบกับความจริงอันโหดร้ายอีกข้อหนึ่ง ซึ่งมัน...อาจจะทำให้เขาหัวใจสลายอีกครั้ง...

     

                เมื่อได้รับคำตอบที่แสนสะเทือนใจ จูโกะก็หันกลับมาที่เตียงอีกครั้ง ไม่อยากนึกสภาพของคนที่หลับอยู่ว่าถ้าตื่นขึ้นมาเขาจะทำอย่างไร เจ้าของเรือนผมสีส้มถอนหายใจ

     

    เขาน่าจะตามไปเร็วกว่านี้...

     

                จูโกะย้อนนึกถึงช่วงเช้าตรู่ที่เขาได้รับข่าวบางอย่างจากสัตว์ที่ผ่านไปมาแถวฐานทัพ และเพราะข่าวนั้นทำให้เขารีบกลับไปยังฐานทัพเพื่อแจ้งข่าวนี้กับซาสึเกะ แต่เขากลับพบว่าซาสึเกะออกจากฐานทัพไปเพื่อไปตามหานินจาจากโคโนฮะ เขาจึงตามไป... แต่เมื่อตามไปทันเขาก็ต้องพบกับภาพอันน่าสะเทือนใจ

     

    หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยคำล่ำลากับเจ้านายของเขาก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตาย...

    เจ้านายของเขาร้องไห้จะเป็นจะตายพยายามคลานเข้าไปหาเพื่อหยุดเธอแต่กลับทำไม่ได้...

    เธอคนนั้นจากไปพร้อมๆกับหัวใจของซาสึเกะ...

     

                ในเวลานั้นสิ่งที่เขาทำได้มีเพียงห้ามไม่ให้ซาสึเกะตายตามไป เพราะเขาสัญญากับเพื่อนคนหนึ่งไว้...ว่าจะปกป้องซาสึเกะด้วยชีวิต หากแต่ถึงปกป้องกายเอาไว้ได้แต่ใจที่ถูกพรากไปเล่า...จะให้ทำอย่างไร?

     

                “ซากุระ...” เสียงพึมพำเบาๆจากคนที่กำลังหลับใหลทำให้จูโกะตื่นจากภวังค์ เขามองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาสีเลือดอย่างสงสารก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ซุยเงสึที่พอรับรู้ว่าซาสึเกะได้สติแล้วก็ทำแบบเดียวกัน...

     

    ...เบือนหน้าหนี...

     

    “ซากุระไปไหน!” ร่างสูงลุกพรวดขึ้นจากเตียงก่อนจะตะโกนถาม ไม่มีใครตอบคำถามนั้น ไม่มีใครมองสบตากับเขา ทุกคนต่างก้มหน้าเงียบ

     

    “ฉันแค่ฝันไปเท่านั้น...แค่ฝันไป” ซาสึเกะพูดพร้อมกับสั่นหน้าไม่อยากรับรู้ความจริง เขาอยากหลอกตัวเอง อยากให้มันเป็นแค่ความฝัน...ความฝันที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา

     

    “เธอตายแล้วครับ” เสียงเรียบๆของจูโกะที่ตอบคำถามทำให้คนอยากหลอกตัวเองเหมือนถูกมีดแทงเข้าที่กลางหัวใจ ร่างของเขาสั่นสะท้าน ลมหายใจเหมือนถูกใครขโมยไป...

     

    “ไม่จริง...”

     

    “ที่น้ำตกนั่น...ผมให้ซุยเงสึไปหาดูแล้ว แต่ไม่พบร่างของเธอ” จูโกะพูดต่อเรื่อยๆ แม้จะรู้ว่ามันทำให้คนตรงหน้าเจ็บปวด แต่นี่คือความจริงที่เขาต้องยอมรับ

     

     “ฉันจะไป...”

     

    “ไม่มีประโยชน์หรอกซะสึเกะ ซากุระคงถูกพัดไปไกลจากจุดนั้นมาก...ฉัน...ไม่คิดว่าเธอจะรอด” ซุยเงสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินผสมกับร่างกายที่เป็นน้ำของตัวเอง

     

    “ ไม่จริง!!!” ซาสึเกะพูดก่อนจะก้าวลงจากเตียง แต่แข้งขาที่อ่อนแรงของเขาทำให้เขาต้องทรุดตัวนั่งลงอีกครั้ง “ฉันจะไปหาซากุระ...พวกนายอย่ามายุ่ง!

     

    “ผมรู้ว่าคุณกำลังเสียใจ... แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องบอกให้คุณรู้” จูโกะเอ่ยเบาๆ เขายังคงไม่หันมาสบตากับร่างสูงที่กำลังใจสลาย

     

    “ฉันไม่ฟัง...ถอยไป...”

     

    “แต่คุณต้องรู้ครับ”

     

    “ฉันไม่สน!!! ฉันจะไปหาซากุระ!

     

    “ลูกของคุณ...” เพียงประโยคเดียวสั้นๆของจูโกะทำให้คนที่กำลังอาละวาดอยู่หมดฤทธิ์ลงทันที ซาสึเกะนั่งก้มหน้าเอามือกุมขมับ เขาลืมนึกถึงลูกของเขา...

     

    “...”

     

    “ผมฟังมาจากค้างคาวที่บินผ่านที่นี่...พวกมันมีสัมผัสพิเศษที่ตรวจจับสิ่งของผ่านคลื่นเสียงได้...” เมื่อเห็นว่าซาสึเกะหยุดฟังเขาแล้ว จูโกะก็เล่าความจริงอีกข้อที่แสนเจ็บปวดให้ร่างสูงฟัง “...มันเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังท้อง...”

     

    “ฉันรู้แล้ว... ฉันต้องรับผิดชอบคารินกับลูก ฉันรู้แล้ว...” ซาสึเกะพึมพำอย่างเหม่อลอย มือแข็งแกร่งกำแน่นอย่างเจ็บปวด

     

    “ไม่ใช่ครับ...” จูโกะเอ่ยเบาๆ ในขณะที่ซุยเงสึกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่แม้แต่ชายอกสามศอกอย่างเขายังไม่อาจทนฟังได้

     

    “...”

     

    “คนที่กำลังท้องไม่ใช่คาริน”

     

    !!!

     

    “แต่เป็นซากุระ”

     

     

     

                เป็นตอนที่แต่งออกมาได้ยากเย็นที่สุด T^T  ฮรือออ เกะโดนเข้าไปหนึ่งดอกเต็มๆ ใจเย็นลูก เอ็งยังต้องโดนอีกหลายนัด เตรียมกระอักเลือดตายได้เลย (เมิงนี่ซาดิสม์จริงๆ-.-)

     

    ปล. ไรท์ไม่มีอะไรจะพิมพ์มากน้า แวะมาแจ้งข่าวเศร้าอีกเรื่องคือไรท์จะหนีเที่ยวช่วงเข้าพรรษา -.- ก็เลยทิ้งตอนนี้เอาไว้เป็นของฝากก่อน จะมาอัพอีกทีก็โน่นเลย ประมาณวันจันทร์วันอังคาร ไม่ได้จะทรมานคุณผู้อ่านที่น่ารักน้า (จริงๆ หุๆ-,.-) ไปละน้า ฟิ้ว~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×