ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #57 : วิกฤตินางใน [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.16K
      143
      25 มิ.ย. 62

    ตอนที่ 57 วิกฤตินางใน






         เสียงตบโต๊ะของใต้เท้าต้นเครื่องดังสนั่นไปทั้งห้องประชุม ซังกุงหลายคนถึงกับสะดุ้งสุดตัวก่อนจะก้มหน้าหลบตาผู้เป็นนาย

         "พวกเจ้าทำงานกันประสาอะไร เหตุใดองค์หญิงถึงยังไม่ดีขึ้น"

         "ใต้เท้า จะโทษพวกเราอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะเจ้าคะ" ซังกุงสูงสุดประจำห้องเครื่องพูดขึ้น "เครื่องเสวยของเราไม่มีปัญหาสักนิด ถ้าจะโทษควรโทษสำนักหมอหลวงดีกว่านะเจ้าคะ"

         "ซังกุงสูงสุด ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร" หมอใหญ่ที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะหันขวับมามอง

         "ท่านกับหมอหญิงในสังกัดน่าจะรู้นะว่าข้าพูดถึงอะไร องค์หญิงดายองทรงประชวรหนัก ไม่ว่าอย่างไรก็เกี่ยวพันกับสำนักหมอหลวงอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเกี่ยวกับพวกนางในอย่างข้าเลยแม้เพียงนิด"

         "นี่ท่านกำลังจะกล่าวหาว่าข้าและสำนักหมอหลวงทำงานไม่ได้เรื่องหรือ" หมอใหญ่ขึ้นเสียง

         "ถ้าทำงานได้เรื่อง ไฉนองค์หญิงยังทรงเป็นเช่นนี้"

         "ท่าน!"

         "พอได้แล้วทั้งคู่" ใต้เท้าต้นเครื่องตัดบทอย่างรำคาญใจพลางโบกมือ "เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากด้วยเพราะเกี่ยวพันถึงพระพลานามัยของกงจู (องค์หญิงที่ประสูติแต่พระราชาและพระราชินี) อันเป็นพระธิดาหัวแก้วหัวของพระมเหสี ฉะนั้นจงอย่าเกี่ยงกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นหมอหลวงหรือนางในฝ่ายไหนก็ต้องร่วมมือกันเพราะมันคือหน้าที่ของข้าราชบริพารทุกคน"

         ทุกคนเงียบไป

         "เอาล่ะ ทุกคนจงสรุปเหตุการณ์ล่าสุดขององค์หญิงดายองมา" 

         "เมื่อคืนองค์หญิงมีอาการประหลาด ทำลายข้าวของ กรีดร้องอาละวาด สุดท้ายก็สลบไปเจ้าค่ะ พอตกดึกยิมโฮแทกุนก็เสด็จมา" เซโจซังกุงรายงาน

         "หมอหญิงทุกคนในสำนักหมอหลวงได้ตรวจชีพจรขององค์หญิงอย่างถี่ถ้วนแล้วคนละหลายหนขอรับ" หมอใหญ่พูดขึ้นบ้าง

         "แล้วผลเป็นอย่างไร"

         "องค์หญิงไม่ได้ประชวรแน่นอนขอรับ"

         ทุกคนมองหน้ากัน

         "หมายความว่าอย่างไรไม่ได้ประชวร อาการผิดประหลาดเช่นนั้นน่ะหรือไม่ได้ประชวร"

         "อย่างที่ข้าเคยบอกก่อนหน้านี้ องค์หญิงทรงป่วยเป็นโรคทางใจที่ไม่ว่าจะใช้ยาตัวไหนในแผ่นดินก็รักษาไม่ได้ มีวิธีเดียวคือต้องปล่อยให้เวลาเยียวยาในตัวของมันเอง แต่ทว่าข้าคาดการณ์ผิด"

         "คาดการณ์ผิดหรือ" ใต้เท้าต้นเครื่องขมวดคิ้ว

         "ขอรับใต้เท้า องค์หญิงดายองยังทรงพระเยาว์นัก เมื่อถูกกระทบทางใจหรือสูญเสียสิ่งรักไปอย่างฉับพลัน ความรู้สึกอันบอบบางย่อมถูกทำลายอย่างรุนแรง เวลาไม่สามารถรักษาได้ และหากยิ่งปล่อยไว้จะเรื้อรังและหนักข้อขึ้น" หมอใหญ่พูด

         "ปัญหาคือไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงในวันที่พระมเหสีทรงติเตียนนาง ซังกุงคนสนิทก็ไม่ได้อยู่ในตำหนักด้วย ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าอะไรกันแน่ที่องค์หญิงดายองสูญเสียไป" เซโจซังกุงกล่าว

         "และนั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องค้นหา" ใต้เท้าต้นเครื่องพูด "สั่งการลงไป ให้ทุกฝ่ายช่วยกันสืบว่าต้นเหตุแห่งการประชวรขององค์หญิงดายองคืออะไร เข้าใจรึไม่"

         ทุกคนรับคำพลางก้มศีรษะ

         "ใต้เท้า!" ทหารยามในชุดสีแดงวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องประชุม

         "เอะอะโวยวายอะไร"

         "ใต้เท้า ข้า... ข้านำพระบัญชาของพระมเหสีลงมาขอรับ"

         "พระบัญชาหรือ"

         "ขอรับ พระมเหสีมีรับสั่งว่าภายในสองวันต้องหาต้นเหตุการประชวรขององค์หญิงให้พบ หากเกินสองวันพระนางจะปฏิรูปฝ่ายในทั้งหมด ไม่ว่าจะสั่งปลดซังกุง นางใน นางกำนัลที่ไม่มีประโยชน์ออกไปจากวังและสั่งยุบห้องกองงานต่างๆ ของฝ่ายใน เพื่อไม่ให้เปลืองเบี้ยเลี้ยงทางการอีกต่อไป"

         "อะไรนะ!"










         "โอ๊ย เมื่อยมือ" ซุนฮวาสะบัดมือไปมาพลางวางพู่กันลง "คัดลายมือหลายหน้ากระดาษมากมายจนปวดนิ้วไปหมดแล้ว อักษรฮันกึลน่ะพอได้นะ แต่อักษรจีนนี่ยากชะมัดอีกทั้งซับซ้อนเหลือหลาย ข้าคัดผิดตัวเดียวโดนเชวซังกุงตีน่องเสียแทบแตก"

         "อย่าบ่นเลยน่า รีบคัดเข้าเถิด เดี๋ยวถูกสั่งห้ามกินข้าวนะ" ซอฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้น

         "เจ้าเชี่ยวชาญอักษรจีนก็พูดได้นี่ ว่าแต่เจ้าเรียนอักษรจีนมาจากที่ใด ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงได้เรียนเลยนะ เว้นแต่จะเป็นลูกขุนนางผู้ใหญ่" ซุนฮวาถาม

         มือของซอฮยอนเย็นเฉียบขึ้นมาทันที

         "มารดาข้าสอนน่ะ" นางพูดปด

         "โชคดีนัก ข้าเกิดมากว่าจะได้อ่านหนังสือสักเล่มก็ยากแล้ว เจ้าช่างมีมารดาที่ประเสริฐแท้ๆ"

         ซอฮยอนยิ้มบางๆ

         "แต่ข้าแปลกใจนะ เมื่อเช้าข้านึกว่าเชวซังกุงจะลงโทษเจ้าที่ปีนไปบนหลังคาเสียแล้ว ไปๆ มาๆ กลับไม่ลงโทษอะไรเลยอีกทั้งยังอนุญาตให้เข้ามาในเรือนชางวีได้อีก"

         "นั่นสิ ข้าก็สงสัย นายหญิงดูไม่โกรธข้าเลย" ซอฮยอนกล่าวพลางครุ่นคิด

         "นางอาจจะชอบเจ้าเพราะเจ้าตะโกนตอบชนิดของกระดาษถูกก็ได้นะ แต่ข้าล่ะสาแก่ใจนักตอนเชวซังกุงไม่เอาเรื่องเจ้า เพราะทำเอาซงฮวันโกรธจนแทบเต้น" ซุนฮวาหัวเราะ

         เชวซังกุงเดินเข้ามาในเรือนชางวี นางส่งสายตามองซอฮยอนแวบหนึ่งก่อนจะหันเหไปที่อื่น

         ทุกคนก้มศีรษะคำนับ

         "เอาล่ะ" นางมองทุกคน "โดยปกติทุกระดับของนางในห้องเขียนหนังสือจะมีหัวหน้าคอยควบคุมดูแล ถึงพวกเจ้าจะเป็นนางกำนัลไม่มียศแต่ก็ควรจะมีหัวหน้าไว้รับคำสั่งจากข้าอีกที" เชวซังกุงประกาศ

         "หัวหน้านางกำนัลหรือเจ้าคะ" ซงฮวันพูดออกมาอย่างตื่นเต้น "แล้วหัวหน้ามีอำนาจอะไรบ้างหรือเจ้าคะ"

         "พูดง่ายๆ" เชวซังกุงเดินไปที่โต๊ะ "คำสั่งจากหัวหน้านางกำนัลก็เท่ากับคำสั่งจากข้า"

         ทุกคนตาโตเท่าไข่ห่าน

         "แล้วนายหญิงจะให้ใครเป็นหัวหน้านางกำนัลเจ้าคะ" 

         "ข้าจะเลือกหัวหน้านางกำนัลโดยใช้ผลงานของพวกเจ้าเป็นตัวตัดสิน" เชวซังกุงประกาศ

         "หมาย... หมายความว่า นายหญิงจะจัดการแข่งขันขึ้นหรือเจ้าคะ"

         "ถูกต้อง"

         เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที และขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้นใต้เท้ามุนยองนัมรูปหล่อก็เดินขึ้นมาบนเรือนชางวีด้วยท่าทางเร่งรีบ

         "ใต้เท้า มีอะไรหรือเจ้าคะ" เชวซังกุงถาม

         "หยุดการเรียนสักครู่ ตอนนี้ขอให้ทุกคนไปรวมแถวที่ลานหน้าฝ่ายในเร็วเข้า" หัวหน้ากองงานวรรณกรรมพูดออกมา

         นางกำนัลทุกคนหันหน้าพูดคุยกันทันที

         "ใต้เท้า เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะถึงต้องเรียกนางกำนัลห้องเขียนหนังสือไป" เชวซังกุงสงสัย

         "ไม่ใช่หรอก แต่นางในทุกห้อง ทุกฝ่าย ทุกกองงาน รวมถึงซังกุงทุกระดับถูกเรียกไปหมด"

         "อะไรนะเจ้าคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วใครเป็นสั่งการลงมาเจ้าคะ" เชวซังกุงถาม

         ใต้เท้ามุนยองนัมถอนหายใจก่อนจะตอบ

         "องค์ชายยิมโฮ"






    [ต่อจาก 50%]





         "องค์... องค์ชายยิมโฮหรือเจ้าคะ" เชวซังกุงขมวดคิ้ว

         "ใช่ องค์ชายรับสั่งลงมาเช่นนี้" ใต้เท้ามุนตอบ

         "ทำไมยิมโฮแทกุนถึงมาข้องแวะกับพวกนางในได้เล่าเจ้าคะ ตามปกติจะเป็นหน้าที่ของพระมเหสีมากกว่ามิใช่หรือ"

         "ได้ยินว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงอาการป่วยขององค์หญิงดายองด้วย ดายองกงจูเป็นพระขนิษฐาของยิมโฮแทกุน แน่นอนว่าพระองค์ย่อมทรงห่วงเป็นธรรมดา ตอนนี้เจ้ารีบบอกนางกำนัลของเราให้รีบไปรวมเถิด ป่านนี้ฝ่ายอื่นคงมากันแล้ว"











         เมื่อบรรดานางกำนัลห้องเขียนหนังสือเดินมาถึงลานหน้าฝ่ายในก็พบว่าทั่วทั้งลานมีนางในจากฝ่ายต่างๆ ยืนออกันอยู่เต็มไปหมด ทุกคนต่างกำลังพูดคุยอย่างเคร่งเครียด ซอฮยอนสังเกตว่าบริเวณหน้าสุดของลานจะเป็นตำแหน่งของซังกุงในชุดทังอีสีเขียวเข้ม ถัดมาเป็นชุดเขียวอ่อน เมื่อพ้นจากแถวซังกุงก็จะเป็นนางในชั้นสูงในชุดชอโกรีสีแดงเข้มและชุดสีแดงอ่อน ส่วนแถวของซอฮยอนจะอยู่รั้งท้ายสุดตามลำดับชั้นยศ

         "โอ้ ข้าเพิ่งเคยเห็นการรวมตัวของนางในทุกส่วนเป็นครั้งแรก นั่นใช่นางในจากตำหนักพระมเหสีรึเปล่า" ซุนฮวาพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

         "ข้าก็มาพร้อมกับเจ้า จะรู้ได้อย่างไร" ซอฮยอนตอบ

         "ทางโน้นเหมือนจะเป็นนางรำกับพวกนางกำนัลฝ่ายดนตรีในวังนะ ชุดสวยจริง" ซุนฮวายังคงมองไปรอบตัว "ตายจริง นั่นใช่นางในฝ่ายตรวจการรึเปล่า หน้าตาดุนัก"

         "นี่ พอได้แล้ว" ซอฮยอนปรามเมื่อรู้สึกว่าเพื่อนเริ่มส่งเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ

         สักพักก็ปรากฏนางกำนัลจากตำหนักใหญ่เดินเข้ามาในลาน ซอฮยอนหันไปมองก็พบคิมเซจีเดินมาพร้อมกับกลุ่มนี้ด้วย หญิงสาวยิ้มให้

         คิมเซจีชะงักเมื่อเห็นซอฮยอน นางไม่มีทีท่าว่าเคยรู้จักกับซอฮยอนมาก่อน ทั้งหมดที่หลานสาวคิมซังกุงทำคือมองเหยียดครั้งหนึ่งก่อนจะเมินหน้าหนี

         ซอฮยอนขมวดคิ้ว ถึงไม่แน่ใจแต่นางก็รู้สึกว่าเซจีแสดงกิริยาบ่งบอกว่าชิงชังตนเองอย่างเปิดเผย ความจริงนางต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเกลียดเซจีเพราะเป็นหลานสาวของคนที่ฆ่าพี่สาวต่างมารดาของตน แต่ในใจส่วนตัวของซอฮยอนกลับคิดว่าความเกลียดชังนั้นไม่สามารถสืบทอดได้ เซจีไม่ใช่คนที่ฆ่าฮวารยอน ไฉนนางต้องเกลียด นี่คือการแยกแยะได้ของซอฮยอน แต่เหมือนกับว่าตอนที่ตนเองชนะในการสอบเซ็งกักชินั้นอาจทำให้คิมเซจีเกลียดชังนางเข้าแล้วก็เป็นได้

         ทุกคนในลานก้มศีรษะกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อยิมโฮแทกุนเสด็จเข้ามา นางในหลายต่อหลายคนพยายามชะเง้อคอมองเพื่อจะได้เห็นองค์ชายได้ชัดๆ ซอฮยอนเองก็อยู่ในตำแหน่งที่มองไม่ชัดเหมือนกันแต่ทว่านางก็ไม่จำเป็นต้องยืดคอมอง เพราะร่างอันสูงสง่าสมส่วนดุจชายชาตรีและฉลองพระองค์สีดำก็ชี้ชัดแล้วว่านั่นคือองค์ชายแน่นอน ภาพความทรงจำที่นางทุบตีเขาอีกทั้งพูดจายียวนใส่ข้างบ่อน้ำเมื่อคืนฉายวาบเข้ามาในดวงจิต
         
         "ทุกคนคงรู้แล้วว่าข้าเรียกพวกเจ้ามาทำไม" องค์ชายตรัสเสียงดัง "เรื่องของน้องสาวข้า ดายองกงจู"

         "องค์หญิงดายอง?" ซอฮยอนทวนคำ "องค์หญิงดายองทำไมหรือ"

         "จริงสิ ข้าลืมเล่าไปเสียสนิท เจ้ามัวแต่ซักผ้าล้างชามจึงไม่รู้ว่าองค์หญิงดายองน่ะทรงมีพระอาการแปลกๆ" ซุนฮวากระซิบตอบ

         "แปลกอย่างไร"

         "หลายคนบอกว่าองค์หญิงประชวร แต่ข้าว่าไม่ คนป่วยที่ไหนจะมีพฤติกรรมเช่นนั้น"

         "บอกข้าเสียที องค์หญิงมีอาการอย่างไร" ซอฮยอนถามอีกรอบ

         "พระธิดาน้อยกลายเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ไม่พอใจในอะไรสักอย่าง ซังกุงหรือนางในที่เคยวิ่งเล่นกับองค์หญิงก็เข้าพระพักตร์ไม่ติดสักคน"

         "ทำไมถึงเป็นแบบนั้นเล่า"

         "ข้าได้ยินว่าพระมเหสีเข้าไปในตำหนักขององค์หญิงพร้อมดุด่าว่ากล่าวรุนแรง ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนพระสติของดายองกงจูสูญเสียไปตั้งแต่บัดนั้น วันดีคืนดีก็ขว้างปาทำลายข้าวของ ตกกลางคืนก็นอนกรรแสงกับที่บรรทมโดยไม่รู้สาเหตุ"

         "อะ... อะไรนะ นอนร้องไห้ตอนกลางคืนหรือ"

         "ใช่ นี่ยังดีนะที่ทรงเสวยพระกระยาหารได้ตามปกติ หาไม่ราชสำนักคงวุ่นกว่านี้"

         "แล้วหมอหลวงก็ไม่รู้สาเหตุหรือ"

         "ไม่เลย" ซุนฮวาตอบ

         "เอ๊ะ... เดี๋ยวนะ องค์หญิงดายองนี่ใช่คนที่เคยทำแมวหลุดมาจากตำหนักแล้วให้นางในมาตามจับแถวเรือนสอบเซ็งกักชิจนมาเห็นว่าซงฮวันคือคนที่ใส่ร้ายเราใช่รึไม่" ซอฮยอนสงสัย

         "ใช่ องค์หญิงองค์นี้แหละ ข้ายังคิดนะ หากคืนนั้นองค์หญิงดายองไม่ทำแมวหลุดมา ข้ากับเจ้าคงไม่พ้นมลทินแน่" ซุนฮวาพูด

         ซอฮยอนชะงักไป

         ทางด้านยิมโฮแทกุนนั้นก็ตรัสไปโดยที่ซอฮยอนนั้นไม่ได้มีสมาธิฟังเลยว่าพระองค์รับสั่งว่าอย่างไรบ้างเพราะมัวแต่คุยกับเพื่อนอยู่ กว่านางจะมาตั้งใจฟังอีกครั้งก็เมื่อองค์ชายตรัสว่า

         "ฉะนั้นพวกเจ้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนางข้าหลวงระดับซัง นางในชั้นสูง นางในชั้นต้นหรือแม้แต่นางกำนัลไม่มียศ ไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ห้องใด ตำหนักใด สังกัดกรมกองใด จงช่วยคิดหาวิธีที่จะช่วยองค์หญิงอย่างเต็มที่ เข้าใจรึเปล่า"

         เสียงอื้ออึงเอ็ดตะโรดังขึ้นไปทั่วทั้งลาน ซงฮวันเองก็ร้องประท้วงออกมาด้วยเช่นกัน

         "เรื่องขององค์หญิงทำไมต้องใช้นางในส่วนอื่นมาช่วยด้วยเล่า มันเป็นเรื่องของนางในตำหนักขององค์หญิงกับหมอหลวงไม่ใช่หรือ ไม่เห็นเข้าใจเลยว่านางในส่วนอื่นเกี่ยวตรงไหน พูดยังกับว่างานของเราไม่มีทำอย่างนั้นแหละ"

         เซโจซังกุงหันมาตวาดทุกคนด้วยเสียงอันดัง นางในทั้งปวงจึงจะเงียบลงได้

         "ข้าเข้าใจพวกเจ้าเรื่องหน้าที่การทำงาน อย่างนางในห้องสรงน้ำตำหนักพระสรมมิน แน่นอนว่าแทบจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับองค์หญิงดายอง ทว่าต้องมาช่วยหาสาเหตุการประชวรก็นับว่าแปลกอยู่" ยิมโฮแทกุนตรัส

         "พระองค์ก็ทรงรู้นี่เพคะ ไฉนจึงยังรับสั่งให้พวกเราทุกส่วนช่วยกันอีกเล่า"

         "เพราะพระมเหสีมีรับสั่งลงมา" องค์ชายยิมโฮตรัสช้าๆ "พระนางจะให้เวลาสองวันในการรักษาองค์หญิงดายอง หากพ้นไปแล้วองค์หญิงยังไม่ดีขึ้นหรือทรงมีอันเป็นไป ซังกุง นางในหลายคนจะต้องถูกขับออกจากวัง กองงานของนางในหลายส่วนก็จะถูกยุบ วิกฤติของนางในแบบนี้พวกเจ้าต้องการหรือ"

         ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง

         "เช่นนั้นจะไม่เป็นการดีกว่าหรือที่พวกเจ้าทุกคนจะร่วมด้วยช่วยกัน เพราะถ้ามัวแต่เกี่ยงกันแล้วองค์หญิงทรงเป็นอะไรไป เจ้าไม่มีทางรู้หรอกว่ากองงานที่เจ้าทำงานอยู่จะถูกยุบรึไม่" ยิมโฮแทกุนตรัสต่อ

         "ความจริงเรื่องนี้ต้องเป็นมเหสีหรือไม่ก็เซโจซังกุงที่จะประกาศ แต่ที่ข้านั้นมาเองในคราวนี้เพราะมีเรื่องจะแจ้งเพิ่มเติม"

         ทุกคนตั้งใจฟัง

         "ข้อแรก ดายองกงจูเป็นน้องสาวแท้ๆ ของข้า ข้าจึงต้องออกโรงเอง" องค์ชายนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง "ส่วนข้อสอง ข้าจะให้รางวัลแก่คนที่หาสาเหตุการประชวรขององค์หญิงดายองได้ ซึ่งรางวัลจะเป็นอะไรขึ้นอยู่กับคนคนนั้น"

         "หมาย... หมายความว่าอย่างไรนะเพคะ" นางในหลายคนร้องถาม

         "คนคนนั้นสามารถทูลขออะไรจากข้าก็ได้" องค์ชายตรัสตอบ

         ทุกคนชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบหันหน้าเข้าพูดคุยกันทันที คิมเซจีเงยหน้าขึ้นมองช้าๆ

         "โอ้ ขออะไรก็ได้จากยิมโฮแทกุนหรือ" ซุนฮวาทำเสียงเคลิ้มฝันอยู่ข้างตัวซอฮยอน "ข้าจะขออะไรดีนะ"

         "นี่ เขาเลิกแถวกันแล้ว ใจลอยอยู่ได้" ซอฮยอนสะกิดเพื่อนเมื่อบรรดานางในเริ่มทยอยเดินออกจากลานหลังจากองค์ชายยิมโฮเสด็จจากไป

         "ข้าว่าองค์ชายทรงฉลาดนัก คิดรางวัลขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนขวนขวายรักษาองค์หญิงของตน และดูเหมือนจะได้ผลด้วย" ซุนฮวากล่าว "เจ้าล่ะ อยากช่วยหาสาเหตุการประชวรขององค์หญิงรึไม่"

         "ถ้ามีใครมาขอให้ช่วยเล็กน้อยข้าก็ยินดี แต่ถ้าหากให้อาสาออกตัวโดยเฉพาะข้าไม่เอาด้วยหรอก คนจะค่อนขอดเอาว่าเป็นแค่นางกำนัลไม่มียศทำไมถึงไม่เจียมตัว" ซอฮยอนตอบเบาๆ

        




         ด้านคิมซังกุงหลังจากเดินออกมาจากลานก็แสดงอาการกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาทันที

         "ราชสำนักนี่ดูท่าจะแย่ขึ้นทุกวัน บ้านเมืองต้องเร่งพัฒนา ทุกคนย่อมมีหน้าที่ของตนที่จะกระทำ แต่กลับต้องหยุดทุกส่วนงานเพื่อหาสาเหตุการประชวรอันไร้สติขององค์หญิงดายองกระนั้นหรือ ช่างบ้าสิ้นดี"

         "นายหญิง แต่เหมือนพระอาการขององค์หญิงดายองจะดูหนักหนาจริงๆ นะเจ้าคะ" ซงฮวันที่เดินตามมาด้วยกล่าวขึ้น

         "ข้าไม่สน นั่นมันหน้าที่ของสำนักหมอหลวง งานข้าก็มากพออยู่แล้วไม่มีเวลาไปสนใจว่าใครจะเจ็บจะป่วยหรอก เหอะ พระมเหสีนี่ก็กระไร จะมาขับคนออกจากวังบ้าง ยุบกองงานบ้าง ไร้สาระนัก ข้าคนหนึ่งแหละที่จะไม่ทำ"

         "แต่ข้าจะทำเจ้าค่ะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นอยู่ข้างหลังของทั้งคู่ คิมซังกุงชะงักก่อนจะหันไปมอง

         "คิมเซจี!" 

         "เจ้าค่ะนายหญิง"

         "เมื่อครู่เจ้าพูดอะไรออกมา"

         "ข้าบอกว่าข้าจะหาสาเหตุการประชวรขององค์หญิงดายองให้ได้เจ้าค่ะ" เซจีตอบ

         "เจ้าเสียสติรึ" ซังกุงรับบัญชาตำหนิ "นั่นไม่ใช่หน้าที่เจ้า งานเจ้าเองก็มีอย่าลืมสิ"

         "นายหญิง ข้าไม่ได้ห่วงอะไรองค์หญิงดายองหรอกนะเจ้าคะ" เซจีกล่าว คิมซังกุงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ทว่าสักพักก็ทำหน้าเข้าใจ
     
         "อ๋อ เจ้าหวังรางวัลจากองค์ชายยิมโฮสินะ"

         "ใช่เจ้าค่ะนายหญิง"

         "แล้วเจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าจะทำได้"

         "ข้าต้องทำให้ได้เจ้าค่ะ และเมื่อข้าทำได้ ข้าจะสะสางความเจ็บปวดที่ข้าได้รับ" คิมเซจีเอ่ยอย่างคั่งแค้น

         "เจ้าพูดอะไร"

         "นายหญิงลืมสิ้นแล้วรึเจ้าคะ เมื่อคืนนี้ยิมโฮแทกุนทั้งดูหมิ่น ดูถูก ทำลายศักดิ์ศรีของข้าไม่เหลือซาก ข้าจะนำมันคืนมา ข้าจะทำให้องค์ชายก้มหัวขอโทษข้าให้จงได้!"

         "เซจี!" คิมซังกุงร้องด้วยความตกใจพลางมองซ้ายมองขวา "เจ้าพูดอะไรออกมา หากใครมาได้ยินเข้าจะทำอย่างไร หัวเจ้าหลุดได้ง่ายๆ เลยนะ ไม่รู้รึว่าคนที่เจ้ากำลังพูดเป็นถึงองค์ชาย"

         "ข้าไม่สนหรอกเจ้าค่ะ" คิมเซจีพูดพร้อมดวงตาที่วาววาบ "ข้ารู้เพียงแต่ว่าองค์ชายจะต้องเสียใจที่เคยหมิ่นเกียรติข้า"









    โปรดติดตามตอนต่อไป
        
         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×