กลรักวังหลวง [서현]
"ออกมานะ" "โอ๊ย" "นี่เจ้า... เจ้าเป็นผู้ชายรึ นี่มันที่พักของนางใน เจ้ากล้าบุกรุกเข้ามาได้อย่างไร ออกไปนะ ออกไปเดี๋ยวนี้" นางลากตัวเขาออกมาบริเวณที่มีแสงสว่างและทำให้เห็นฉลองพระองค์ซึ่งเขาสวมใส่อยู่ "น่ะ... นี่มันชุดองค์ชายนี่" "ใช่ ข้าคือองค์ชาย" "โกหก เจ้าขโมยชุดองค์ชายมาใส่ใช่รึไม่" องค์ชายกุมขมับ
ผู้เข้าชมรวม
94,921
ผู้เข้าชมเดือนนี้
66
ผู้เข้าชมรวม
โชซอน วังหลวง ดราม่า พีเรียด รักดราม่า เล่ห์กล ริษยา พยาบาท แก้แค้น นางใน นางกำนัล บุคคลในประวัติศาสตร์ สตรีผู้ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา เกาหลี เกาหลีโบราณ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แต่สถานที่ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ นาม/พระนามที่มีการเอ่ยถึงหรือปรากฏในเรื่องไม่ว่าจะเป็นวีรชน ราชวงศ์ บันทึกตามพงศาวดาร รวมถึงเส้นเรื่องนั้นอิงประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
ภาพนี้ทางผู้เขียนต้องขอกราบขอบพระคุณ คุณแมวขนยุ่ง เป็นอย่างสูงที่ได้กรุณาวาดภาพปกสวยๆ ให้กับนิยายเรื่องนี้ ใครสนใจติดต่อสอบถามเชิญได้ที่เพจนี้ครับ
https://m.facebook.com/LingwahStudio/
สำหรับนักอ่านเก่าและใหม่ทุกท่าน ตอนนี้กลรักวังหลวงได้จัดทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทาง meb e-book แล้วนะครับ ท่านใดสนใจซื้ออ่านหรือซื้อเก็บไว้เป็นเล่ม สามารถเข้าได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ (*กดเข้าจากลิงก์นี้เท่านั้นนะครับ)
คลิกที่ Get it now เลยฮะ
|
ปล. ลิงก์ที่แสดงเป็นแค่เล่ม 1 เท่านั้น ยังมีอีกหลายเล่มที่มีเนื้อหาต่อจากเล่มนี้ แต่ทุกท่านจะสามารถพบเล่มอื่นๆ รวมถึงตอนพิเศษของกลรักวังหลวงได้ในลิงก์นี้ครับ โดยเมื่อกดเข้าไปแล้วก็เลื่อนลงไปแถบข้างล่างที่ขึ้นว่า "เล่มอื่นๆ ในซีรีส์" จะพบอีกหลายเล่มเรียงตามลำดับอยู่ตรงนั้นครับ
ผลงานอื่นๆ ของ สุสานทางช้างเผือก ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สุสานทางช้างเผือก
"ความกล้าหาญของนักเขียน"
(แจ้งลบ)นับเป็นความกล้าหาญของนักเขียนที่สนใจจะเขียนตีแผ่เรื่องราวของนางในช่วงยุคสมัยโชซอนของเกาหลีในรูปแบบของนิยาย ปกติเวลาอ่านนิยายย้อนยุคพูดถึงชีวิตของคนทำงานในวัง เรามักจะคิดถึงกันแต่การสอบของผู้ชายเพื่อให้ได้เข้ามารับราชการและเป็นขุนนาง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ได้เห็นในมุมของการสอบ การคัดเลือก การอบรมผู้หญิงที่ทำงานรับใช้ตามตำหนักและหน่วยงานต่า ... อ่านเพิ่มเติม
นับเป็นความกล้าหาญของนักเขียนที่สนใจจะเขียนตีแผ่เรื่องราวของนางในช่วงยุคสมัยโชซอนของเกาหลีในรูปแบบของนิยาย ปกติเวลาอ่านนิยายย้อนยุคพูดถึงชีวิตของคนทำงานในวัง เรามักจะคิดถึงกันแต่การสอบของผู้ชายเพื่อให้ได้เข้ามารับราชการและเป็นขุนนาง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ได้เห็นในมุมของการสอบ การคัดเลือก การอบรมผู้หญิงที่ทำงานรับใช้ตามตำหนักและหน่วยงานต่างๆของพระราชวังเช่นกัน ลองมาอ่านดูก็ได้สัมผัสชีวิตของผู้หญิงในวังที่มีภารกิจประจำวันให้ทำมากมาย เริ่มเรื่องเปิดด้วยความแค้นส่วนตัว ไปๆ มาๆ กลายเป็นแนวสืบสวน ไขคดีปริศนาวังหลัง นักเขียนแอบบอกว่ายังมีที่หักมุมไปมาอีกหลายรอบ ชักไม่แน่ใจว่ากำลังอ่านนิยายหรือพับกลีบดอกบัว...ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชวนให้เราติดตามได้ดีจริงๆ #นักอ่านหมายเลข ๑# อ่านน้อยลง
นักอ่านหมายเลข ๑ | 5 มิ.ย. 62
3
0
"วีรสตรีหาญกล้า ปริศนาวังหลวง คำลวงกับอำนาจ และความแค้นที่อาจผลาญชีพ [วิจารณ์นิยาย สไตล์ DarkFerret Studio]"
(แจ้งลบ)กลรักวังหลวง เป็นนิยายที่เล่าถึงหญิงสาวนาม ซอฮยอน ซึ่งโชคชะตานำพาให้เข้าวังหลวง จุดประสงค์หลักเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่โดนใส่ร้ายและถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่าการเข้าวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญภายในวังหลวงก็มีความลับดำมืดมากมาย อีกทั้งปริศนาต่างๆ ที่คอยให้เธอแก้ไข มาเริ่มอ่านบทวิจารณ์กันเถอะ! โครงเรื่อง จากที่อ่านมาถึงปัจจุบัน ... อ่านเพิ่มเติม
กลรักวังหลวง เป็นนิยายที่เล่าถึงหญิงสาวนาม ซอฮยอน ซึ่งโชคชะตานำพาให้เข้าวังหลวง จุดประสงค์หลักเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่โดนใส่ร้ายและถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่าการเข้าวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญภายในวังหลวงก็มีความลับดำมืดมากมาย อีกทั้งปริศนาต่างๆ ที่คอยให้เธอแก้ไข มาเริ่มอ่านบทวิจารณ์กันเถอะ! โครงเรื่อง จากที่อ่านมาถึงปัจจุบัน เราว่าโครงเรื่องของกลรักวังหลวง ผู้เขียนได้วางแผนล่วงหน้าไว้จนจบแล้ว ปมต่างๆ ทั้งปมในใจของตัวร้าย การกระทำของตัวละครต่างๆ อย่างเชวซังกุงที่แรกๆ ชอบบ่นและด่าทอซอฮยอนก็มีเหตุผล หรือแม้แต่ตัวซอฮยอนเอง ที่เข้าวังมาก็มีจุดประสงค์หลักเพื่อจะแก้แค้น แต่ครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงข้อดีกัน จะมากล่าวถึงข้อเสียกันตรงๆ นะขอรับ คือแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม และประเด็นหลังของเรื่องนั้นก็คือนางเอกเข้าวังเพื่อมาแก้แค้นให้พี่สาวของตัวเอง แต่แทนที่ส่วนนี้จะกลายเป็นพล็อตหลังของเรื่องที่ดูเด่นชัด ทว่ากลับถูกพล๊อตรองอย่างการไขคดีต่างๆ ในวังหลวงมากลบจนเกือบลืมไปเลยว่านางเอกเข้าวังมาจริงๆ นั้นมีจุดประสงค์อย่างไร แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็ยังพยายามเขียนบอกเราเรื่อยๆ ถึงความแค้นของนางเอกที่มาเป็นช่วงๆ เป็นการเตือนสติผู้อ่าน แต่มันก็ยังคงไม่เด่นอยู่ดี ข้อต่อมา ในส่วนที่ตระกูลคิมกับตระกูลซินนั้นเป็นศัตรูกัน ตอนแรกๆ เรื่องนี้เด่นชัดมาก แต่หลังๆ ก็โดนกลบด้วยการสืบสวนและช่วยเหลือวังหลวงของซอฮยอนเช่นกัน อย่างสุดท้ายคือความรัก เรื่องนี้แม้ชื่อเรื่องจะเป็น กลรักวังหลวง แต่เรื่องความรักนั้นสำหรับผู้วิจารณ์ไม่ใช่เรื่องหลักเลย แต่หลักๆ จะเป็นการแย่งชิงอำนาจและการแก้ไขเรื่องต่างๆ เสียมากกว่า ใครที่หวังเรื่องความรักหวานแหววนั้น ถึงจะมีให้ฟินจิกหมอน แต่ก็ไม่ได้มีมาตั้งแต่ตอนแรกๆ แน่นอน แต่ขอบอกว่าบทจะฟินก็ฟินจริงๆ สำหรับในส่วนการสืบสวนนั้นผู้เขียนทำออกมาได้ดีมาก มีการวางแผนต่างๆ อย่างลงตัว ตัวละคร ข้อดีของเรื่องนี้คือ ตัวละครล้วนมีอารมณ์หลากหลายตามสถานการณ์ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครนั้นๆ และตัวละครก็ไม่ใช่โง่เง่าเต่าตุ่น ที่จะรักกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ส่วนใหญ่จะฉลาดหลักแหลมจนบางทีก็คาดไม่ถึง ข้อเสีย ตัวละครนั้นมีเยอะมากและบางตัวละครนั้นอารมณ์และนิสัยสุดขั้วเกินไป อย่างซงฮวัน ตัวร้ายขวัญใจ(?)ของเหล่าผู้อ่าน ที่แน่ใจได้ว่าขึ้นแท่นเป็นนางร้ายอันดับ 1 ของเรื่อง นางเป็นตัวละครที่ร้ายสุดขั้ว คือร้ายจนเกินไปชนิดที่ว่าแทบมองไม่เห็นความดีเลย (ยกเว้นความภักดีที่มีให้เซจีกับเจ๊คิม) ซึ่งตอนแรก คนอ่านจะคิดว่าคิมซังกุงนั้นร้ายมากแล้ว แต่คิมยังมีพื้นหลังที่สั่งสมมาจนเกิดความร้ายในปัจจุบัน แต่สำหรับซงฮวันคือเหมือนร้ายมาแต่กำเนิดอย่างไรอย่างนั้นเลย ข้อเสียอีกอย่างคือหน้าตา กับลักษณะต่างๆ ของตัวละคร จะมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่บอกเจาะจงว่าลักษณะเป็นยังไง อย่างองค์ชายยิมโฮ ซึ่งบอกถึงสีผิวและหน้าตา แต่ตัวละครอื่นกลับไม่ค่อยบอกเลย โดยเฉพาะสาวๆ อาจจะทำให้คนอ่านจินตนาการภาพไม่ออกนัก แต่ก็ยังมีข้อดีมาหักล้างกัน นั่นคือเครื่องแต่งกายที่บรรยายให้เห็นเด่นชัด ซึ่งถือว่าดีมากๆ การใช้ภาษา สำหรับการใช้ภาษาจะไม่ขอติเตียนอะไรมาก เพราะไรต์คนนี้พัฒนาการการเขียนดีขึ้นมาจากเรื่องก่อนๆ การบรรยายลื่นไหล แต่บทพูดในบางตอนอาจจะเยอะกว่าบทบรรยายไปบ้าง และในบางตอนอาจจะบรรยายเยอะจนเกินไป มีมุกตลกสอดแทรกตลอดด้วย ส่วนการจัดหน้านิยายนั้นดีแล้ว ขอให้ทำแบบนี้ต่อไปนะ แต่เราจะมาพูดถึงคำผิดกันสักนิด ตอนหลังๆ เราพบว่ามีคำผิดเยอะขึ้น แต่ไม่ได้เยอะจนน่าเกลียด มีไม่ถึง 5 จุดด้วยซ้ำ ขอให้คงการเขียนให้มีคำผิดน้อยๆ ต่อไปนะครับ ในด้านภาษา เรื่องนี้จะไม่ผิดหวังเลย แก่นเรื่อง โดยส่วนตัว หลังจากที่อ่านมากว่า 60 ตอนแล้ว เราคาดว่าผู้เขียนอยากจะสื่อถึงวัฒนธรรมของเกาหลีในยุคโชซอน ซึ่งทำออกมาได้ดีแล้วละ ทั้งวัฒนธรรมของนอกวังและในวังที่แตกต่างก็เห็นได้ชัด อย่างเรื่องวรรณกรรม ซึ่งคนในวังไม่สามารถอ่านหนังสือของไพร่ได้ และระเบียบอันเคร่งครัดต่างๆ ของวังหลวง อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เพิ่มเติมมากมายเลย ท้ายที่สุด อีกอย่างที่เราได้จากเรื่องนี้คือการกระทำของตัวเรา นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการกระทำนั้นมีผลต่ออนาคตเสมอ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันจะส่งผลถึงเราเสมอนั่นแหละ รวมถึงสอนให้เราระวังตัวตลอดเวลาในสังคม วังหลวงอาจเปรียบได้เหมือนสังคมในปัจจุบัน ที่ทั้งอันตรายและต้องเอาตัวรอดให้ได้นั่นเอง จบไปแล้วกับบทวิจารณ์สไตล์ DarkFerret Studio (A.H.Apyn) ทั้งนี้ทั้งนั้น มีข้อผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะ~ อ่านน้อยลง
เพียงพอนสีหมอก | 14 ก.ค. 62
3
0
ดูทั้งหมด
"วีรสตรีหาญกล้า ปริศนาวังหลวง คำลวงกับอำนาจ และความแค้นที่อาจผลาญชีพ [วิจารณ์นิยาย สไตล์ DarkFerret Studio]"
(แจ้งลบ)กลรักวังหลวง เป็นนิยายที่เล่าถึงหญิงสาวนาม ซอฮยอน ซึ่งโชคชะตานำพาให้เข้าวังหลวง จุดประสงค์หลักเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่โดนใส่ร้ายและถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่าการเข้าวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญภายในวังหลวงก็มีความลับดำมืดมากมาย อีกทั้งปริศนาต่างๆ ที่คอยให้เธอแก้ไข มาเริ่มอ่านบทวิจารณ์กันเถอะ! โครงเรื่อง จากที่อ่านมาถึงปัจจุบัน ... อ่านเพิ่มเติม
กลรักวังหลวง เป็นนิยายที่เล่าถึงหญิงสาวนาม ซอฮยอน ซึ่งโชคชะตานำพาให้เข้าวังหลวง จุดประสงค์หลักเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่โดนใส่ร้ายและถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่าการเข้าวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญภายในวังหลวงก็มีความลับดำมืดมากมาย อีกทั้งปริศนาต่างๆ ที่คอยให้เธอแก้ไข มาเริ่มอ่านบทวิจารณ์กันเถอะ! โครงเรื่อง จากที่อ่านมาถึงปัจจุบัน เราว่าโครงเรื่องของกลรักวังหลวง ผู้เขียนได้วางแผนล่วงหน้าไว้จนจบแล้ว ปมต่างๆ ทั้งปมในใจของตัวร้าย การกระทำของตัวละครต่างๆ อย่างเชวซังกุงที่แรกๆ ชอบบ่นและด่าทอซอฮยอนก็มีเหตุผล หรือแม้แต่ตัวซอฮยอนเอง ที่เข้าวังมาก็มีจุดประสงค์หลักเพื่อจะแก้แค้น แต่ครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงข้อดีกัน จะมากล่าวถึงข้อเสียกันตรงๆ นะขอรับ คือแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม และประเด็นหลังของเรื่องนั้นก็คือนางเอกเข้าวังเพื่อมาแก้แค้นให้พี่สาวของตัวเอง แต่แทนที่ส่วนนี้จะกลายเป็นพล็อตหลังของเรื่องที่ดูเด่นชัด ทว่ากลับถูกพล๊อตรองอย่างการไขคดีต่างๆ ในวังหลวงมากลบจนเกือบลืมไปเลยว่านางเอกเข้าวังมาจริงๆ นั้นมีจุดประสงค์อย่างไร แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็ยังพยายามเขียนบอกเราเรื่อยๆ ถึงความแค้นของนางเอกที่มาเป็นช่วงๆ เป็นการเตือนสติผู้อ่าน แต่มันก็ยังคงไม่เด่นอยู่ดี ข้อต่อมา ในส่วนที่ตระกูลคิมกับตระกูลซินนั้นเป็นศัตรูกัน ตอนแรกๆ เรื่องนี้เด่นชัดมาก แต่หลังๆ ก็โดนกลบด้วยการสืบสวนและช่วยเหลือวังหลวงของซอฮยอนเช่นกัน อย่างสุดท้ายคือความรัก เรื่องนี้แม้ชื่อเรื่องจะเป็น กลรักวังหลวง แต่เรื่องความรักนั้นสำหรับผู้วิจารณ์ไม่ใช่เรื่องหลักเลย แต่หลักๆ จะเป็นการแย่งชิงอำนาจและการแก้ไขเรื่องต่างๆ เสียมากกว่า ใครที่หวังเรื่องความรักหวานแหววนั้น ถึงจะมีให้ฟินจิกหมอน แต่ก็ไม่ได้มีมาตั้งแต่ตอนแรกๆ แน่นอน แต่ขอบอกว่าบทจะฟินก็ฟินจริงๆ สำหรับในส่วนการสืบสวนนั้นผู้เขียนทำออกมาได้ดีมาก มีการวางแผนต่างๆ อย่างลงตัว ตัวละคร ข้อดีของเรื่องนี้คือ ตัวละครล้วนมีอารมณ์หลากหลายตามสถานการณ์ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครนั้นๆ และตัวละครก็ไม่ใช่โง่เง่าเต่าตุ่น ที่จะรักกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ส่วนใหญ่จะฉลาดหลักแหลมจนบางทีก็คาดไม่ถึง ข้อเสีย ตัวละครนั้นมีเยอะมากและบางตัวละครนั้นอารมณ์และนิสัยสุดขั้วเกินไป อย่างซงฮวัน ตัวร้ายขวัญใจ(?)ของเหล่าผู้อ่าน ที่แน่ใจได้ว่าขึ้นแท่นเป็นนางร้ายอันดับ 1 ของเรื่อง นางเป็นตัวละครที่ร้ายสุดขั้ว คือร้ายจนเกินไปชนิดที่ว่าแทบมองไม่เห็นความดีเลย (ยกเว้นความภักดีที่มีให้เซจีกับเจ๊คิม) ซึ่งตอนแรก คนอ่านจะคิดว่าคิมซังกุงนั้นร้ายมากแล้ว แต่คิมยังมีพื้นหลังที่สั่งสมมาจนเกิดความร้ายในปัจจุบัน แต่สำหรับซงฮวันคือเหมือนร้ายมาแต่กำเนิดอย่างไรอย่างนั้นเลย ข้อเสียอีกอย่างคือหน้าตา กับลักษณะต่างๆ ของตัวละคร จะมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่บอกเจาะจงว่าลักษณะเป็นยังไง อย่างองค์ชายยิมโฮ ซึ่งบอกถึงสีผิวและหน้าตา แต่ตัวละครอื่นกลับไม่ค่อยบอกเลย โดยเฉพาะสาวๆ อาจจะทำให้คนอ่านจินตนาการภาพไม่ออกนัก แต่ก็ยังมีข้อดีมาหักล้างกัน นั่นคือเครื่องแต่งกายที่บรรยายให้เห็นเด่นชัด ซึ่งถือว่าดีมากๆ การใช้ภาษา สำหรับการใช้ภาษาจะไม่ขอติเตียนอะไรมาก เพราะไรต์คนนี้พัฒนาการการเขียนดีขึ้นมาจากเรื่องก่อนๆ การบรรยายลื่นไหล แต่บทพูดในบางตอนอาจจะเยอะกว่าบทบรรยายไปบ้าง และในบางตอนอาจจะบรรยายเยอะจนเกินไป มีมุกตลกสอดแทรกตลอดด้วย ส่วนการจัดหน้านิยายนั้นดีแล้ว ขอให้ทำแบบนี้ต่อไปนะ แต่เราจะมาพูดถึงคำผิดกันสักนิด ตอนหลังๆ เราพบว่ามีคำผิดเยอะขึ้น แต่ไม่ได้เยอะจนน่าเกลียด มีไม่ถึง 5 จุดด้วยซ้ำ ขอให้คงการเขียนให้มีคำผิดน้อยๆ ต่อไปนะครับ ในด้านภาษา เรื่องนี้จะไม่ผิดหวังเลย แก่นเรื่อง โดยส่วนตัว หลังจากที่อ่านมากว่า 60 ตอนแล้ว เราคาดว่าผู้เขียนอยากจะสื่อถึงวัฒนธรรมของเกาหลีในยุคโชซอน ซึ่งทำออกมาได้ดีแล้วละ ทั้งวัฒนธรรมของนอกวังและในวังที่แตกต่างก็เห็นได้ชัด อย่างเรื่องวรรณกรรม ซึ่งคนในวังไม่สามารถอ่านหนังสือของไพร่ได้ และระเบียบอันเคร่งครัดต่างๆ ของวังหลวง อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เพิ่มเติมมากมายเลย ท้ายที่สุด อีกอย่างที่เราได้จากเรื่องนี้คือการกระทำของตัวเรา นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการกระทำนั้นมีผลต่ออนาคตเสมอ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันจะส่งผลถึงเราเสมอนั่นแหละ รวมถึงสอนให้เราระวังตัวตลอดเวลาในสังคม วังหลวงอาจเปรียบได้เหมือนสังคมในปัจจุบัน ที่ทั้งอันตรายและต้องเอาตัวรอดให้ได้นั่นเอง จบไปแล้วกับบทวิจารณ์สไตล์ DarkFerret Studio (A.H.Apyn) ทั้งนี้ทั้งนั้น มีข้อผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะ~ อ่านน้อยลง
เพียงพอนสีหมอก | 14 ก.ค. 62
3
0
"ความกล้าหาญของนักเขียน"
(แจ้งลบ)นับเป็นความกล้าหาญของนักเขียนที่สนใจจะเขียนตีแผ่เรื่องราวของนางในช่วงยุคสมัยโชซอนของเกาหลีในรูปแบบของนิยาย ปกติเวลาอ่านนิยายย้อนยุคพูดถึงชีวิตของคนทำงานในวัง เรามักจะคิดถึงกันแต่การสอบของผู้ชายเพื่อให้ได้เข้ามารับราชการและเป็นขุนนาง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ได้เห็นในมุมของการสอบ การคัดเลือก การอบรมผู้หญิงที่ทำงานรับใช้ตามตำหนักและหน่วยงานต่า ... อ่านเพิ่มเติม
นับเป็นความกล้าหาญของนักเขียนที่สนใจจะเขียนตีแผ่เรื่องราวของนางในช่วงยุคสมัยโชซอนของเกาหลีในรูปแบบของนิยาย ปกติเวลาอ่านนิยายย้อนยุคพูดถึงชีวิตของคนทำงานในวัง เรามักจะคิดถึงกันแต่การสอบของผู้ชายเพื่อให้ได้เข้ามารับราชการและเป็นขุนนาง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ได้เห็นในมุมของการสอบ การคัดเลือก การอบรมผู้หญิงที่ทำงานรับใช้ตามตำหนักและหน่วยงานต่างๆของพระราชวังเช่นกัน ลองมาอ่านดูก็ได้สัมผัสชีวิตของผู้หญิงในวังที่มีภารกิจประจำวันให้ทำมากมาย เริ่มเรื่องเปิดด้วยความแค้นส่วนตัว ไปๆ มาๆ กลายเป็นแนวสืบสวน ไขคดีปริศนาวังหลัง นักเขียนแอบบอกว่ายังมีที่หักมุมไปมาอีกหลายรอบ ชักไม่แน่ใจว่ากำลังอ่านนิยายหรือพับกลีบดอกบัว...ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชวนให้เราติดตามได้ดีจริงๆ #นักอ่านหมายเลข ๑# อ่านน้อยลง
นักอ่านหมายเลข ๑ | 5 มิ.ย. 62
3
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น