ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #112 : เข้าเฝ้าพระราชา [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 997
      46
      4 พ.ย. 62

    ตอนที่ 112 เข้าเฝ้าพระราชา





         ขบวนทหารเดินไปตามทางลูกรังอย่างช้าๆ ชาวบ้านร้านตลาดต่างพากันมายืนมุงดูพลางชี้ชวนไปทางเกี้ยวสีขาวที่อยู่กลางขบวนซึ่งมีซังกุงสูงอายุเดินเทียบเคียงมาด้วย ทุกคนในที่นั้นวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเสียงอันดัง

         "ใครโดนปลดหรือ" แม่ค้าขายปลาถามขึ้น

         "พระมเหสีรึเปล่า" อีกคนตอบมา

         "จะบ้าหรือ ไม่ใช่เสียหน่อย นี่พระชายาต่างหาก ฮยอนจองเซจาพินอย่างไรเล่า" ชายอีกคนที่หอบหนังสือเต็มอ้อมแขนหันมาบอก

         "ใครกัน" บางคนทำหน้าขมวดคิ้ว "พระชายาองค์ชายยิมโฮหรือ"

         "ผิดแล้ว พระชายาองค์ชายลีซองแจต่างหาก แล้วองค์ชายยิมโฮก็ไม่ใช่องค์ชายอีกต่อไปแล้ว ต้องเรียกว่าองค์รัชทายาท"

         "อะไรนะ!" หลายคนหันหน้ามามองผู้พูด "นี่องค์ชายยิมโฮขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแล้วหรือ"

         "ใช่" ชายหนุ่มตอบพลางขยับหนังสืออันหนักอึ้งให้เข้าที่ "พิธีแต่งตั้งจะมีขึ้นวันนี้"

         "แล้วองค์ชายลีซองแจทำไมถึงโดนปลดจากตำแหน่งรัชทายาทเล่า"

         "พระองค์ไม่ได้โดนปลด พระองค์สละตำแหน่งเองต่างหาก"

         ทุกคนในที่นั้นตกตะลึง

         "เป็นไปได้หรือ สละตำแหน่งเองเนี่ยนะ"

         "ก็พระชายาตัวเองประพฤติตนไม่ถูกต้อง โดนข้อหาร้ายแรงหลายข้อหา"

         "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสวามีเล่า"

         "องค์ชายลีซองแจคงจะอยากรับผิดชอบกระมัง"

         "ไม่ใช่หรอก" ชายสูงอายุที่นั่งฟังอยู่นานพูดแทรกขึ้น "องค์ชายลีซองแจไม่ได้อยากได้ตำแหน่งรัชทายาทมาแต่แรกอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นเพราะหน้าที่บังคับ ยิ่งมีพระชายาก็ไม่สามารถหลีกหนีไปไหนได้ แต่ตอนนี้พระองค์เป็นอิสระจากพระชายาแล้ว จึงมอบตำแหน่งให้อนุชาและออกไปประทับอยู่นอกวังแทน พวกเจ้าลองไปถามคนแถวถนนอินซอสิ พวกนั้นเห็นองค์ชายลีซองแจไปแถวนั้นบ่อยๆ เพราะจวนของพระองค์ตั้งอยู่ที่นั่น"

         "แปลกนะ ในวังก็ออกจะสุขสบาย ไยถึงไปอยู่นอกวัง" ชาวบ้านอีกคงตั้งข้อสงสัย

         "ที่จวนนอกวังอาจถูกพระทัยพระองค์ก็ได้นะ"

         "หรือไม่ก็มีใครที่ถูกพระทัย" ชายสูงอายุคนเดิมพูดต่อ

         "โธ่ ใต้เท้ามุน พูดราวกับว่าองค์ลีซองแจมีใครอยู่ในพระทัยฉะนั้น" แม่ค้าหัวเราะ

         "มีสิ มีแน่นอน" เขาตอบเรียบๆ

         "ใต้เท้านี่คงจะแก่แล้วเลอะเลือนนะ ว่าแต่ลูกชายที่เป็นหัวหน้ากองงานวรรณกรรมในวังเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อใดจะได้เป็นขุนนางชั้นเอกใส่ชุดสีแดง"

         "ก็แล้วแต่เขาสิ เขาจะเป็นเขาก็เป็นเองแหละ"
       
         ขบวนทหารเลื่อนผ่านกลุ่มคนไปช้าๆ สายตาของชายชราจับจ้องไปที่เกี้ยวสีขาวแน่นิ่งจนมันค่อยๆ หายลับไปเมื่อสุดโค้งของถนน










         เกี้ยวถูกวางอย่างช้าๆ กลางลานดินสกปรก รอบข้างมีแต่หม้อไหจานชามที่แตกพัง วัชพืชขึ้นรกรุงรังเต็มรั้วไม้ บ้านตรงกลางที่หลังคามุงด้วยดินแดงนั้นโย้เย้จวนพัง เมื่อประตูเกี้ยวเปิดออก ฮยอนจองเซจาพินในชุดผ้าป่านสีขาวล้วน บนศีรษะไร้ซึ่งคาเชและปิ่นใดๆ ประดับอยู่ก็เดินลงมาก่อนจะมองไปโดยรอบอย่างช้าๆ

         ทหารทุกคนหันหลังเดินจากไปและแบกเกี้ยวกลับไปด้วย เมื่ออยู่ตามลำพังโอซังกุงก็เข้ามาประคองนายของตนให้เดินเข้าไปในบ้าน แต่อดีตพระชายายืนนิ่งไม่ไหวติง

         จู่ๆ พระนางก็ทรุดลงกับพื้นดินอย่างหมดแรง น้ำตาค่อยๆ ไหลลงอาบแก้มของนาง ทว่าไม่มีเสียงสะอื้นให้ได้ยินแม้แต่นิด มือกำแน่นที่ชายผ้าตัวเองอย่างทรมานใจแสนสาหัส โอซังกุงนั่งลงข้างๆ ก่อนจะกอดปลอบพระนางไว้












         "บ้านหลังไหนหรือเจ้าคะที่ทหารส่งพระชายามา" ซอฮยอนถามพ่อค้าขายยาที่ข้างทางของตลาดใหญ่เลียบกำแพงวังหลวง

         "พ้นหัวมุมถนนนี่ไปก็จะเจอเองแม่นาง ตั้งอยู่หลังเดียวแหละ" เขาตอบ "นี่เจ้ามาจากในวังเลยหรือ"

         "เจ้าค่ะ ขอบคุณมากนะเจ้าคะ" หญิงสาวก้มศีรษะก่อนจะเดินฝ่าคนไปยังหัวมุมถนนข้างหน้า

         เมื่อเดินพ้นหัวมุมถนนมาได้ตามคำบอกของพ่อค้าขายยา ซอฮยอนก็หยุดชะงักลงชั่วครู่ สายตาจับจ้องไปที่ตัวบ้านแสนทรุดโทรมอย่างไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นสตรีสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมารดน้ำต้นไม้ก็รีบเดินฝ่ารั้วไม้เข้าไปทันที

         "นายหญิงโอซังกุง" ซอฮยอนปรี่เข้ามาคำนับ

         โอซังกุงในชุดฮันบกสีดำตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาว นางเพ่งตามองดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า

         "เจ้าเองหรอกหรือ"

         "เจ้าค่ะ พระชายาประทับอยู่ข้างในรึเปล่าเจ้าคะนายหญิง"

         "เลิกเรียกข้าว่านายหญิงเถิด ข้าไม่ใช่ซังกุงในวังอีกต่อไป"

         "อย่าพูดเช่นนั้นสิเจ้าคะ"

         "ใครมาหรือ" เสียงของอดีตพระชายาดังออกมาจากข้างในตัวบ้าน

         "ปาร์คซอฮยอนเพคะ" โอซังกุงตอบกลับไป

         "ให้นางเข้ามาสิ"

         ซังกุงชราผายมือเป็นทำนองให้หญิงสาวเดินเข้าไป ซอฮยอนก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะก้าวขึ้นเรือนและเลื่อนบานประตูไม้กรุกระดาษเปิดออกช้าๆ

         อดีตเซจาพินในชุดสีขาวนั่งอยู่ข้างใน ข้างตัวมีกองหนังสือและกาน้ำร้อนวางอยู่ ซอฮยอนปิดประตูตามหลังก่อนจะคำนับ

         "ไม่ต้องคำนับข้าหรอก รีบนั่งลงเถิด" พระนางอนุญาต 

         หญิงสาวนั่งลงก่อนจะส่งห่อผ้าสีชมพูให้อดีตพระชายา

        "เจ้าเป็นคนแรกเลยนะที่มาเยี่ยมข้าตั้งแต่ออกมาจากวัง"

         ซอฮยอนตกตะลึง

         "ไม่... ไม่เคยมีใครมาเลยหรือเพคะ แล้ว... แล้วองค์ชายซองแจ..."

         "พระองค์แค่ส่งเงินทองและเครื่องใช้สอยมาให้ ทว่าไม่เคยเสด็จมาเองเลย พระองค์น่าจะยังโกรธข้ามากอยู่ ซึ่งก็สมควรแล้ว"

         "แต่บ้านเดิมของพระชายาไม่ใช่ที่นี่มิใช่หรือเพคะ ทำไมจู่ๆ ถึงมาประทับที่นี่แทน" 

         "บ้านเดิมและทรัพย์สินของข้าถูกริบเข้าหลวงทั้งหมด" พระนางตอบเศร้าๆ "องค์ชายซองแจกับรัชทายาทยิมโฮไม่เอาเรื่องข้าก็จริง แต่พระมเหสีนั้นหาได้ผ่อนปรนไม่ พระนางทรงลงโทษเฉียบขาดมาก"

         "แล้วเหตุใดถึงไม่ไปอยู่ที่จวนกับองค์ชายซองแจเล่าเพคะ" ซอฮยอนถามต่อ

         "จวนแห่งนั้นไม่ใช่ของข้า ไม่เคยเป็นของข้า แต่เป็นขององค์ชายซองแจกับใต้เท้ามุนจองนัมต่างหาก" เสียงของฮยอนจองเซจาพินดูคล้ายจะพยายามทำให้เข้มแข็ง แต่ลึกๆ แล้วซอฮยอนสัมผัสได้ว่ามันสั่นระรัวร้าวลึก "บ้านอันเสื่อมโทรมหลังนี้เท่านั้นแหละ ที่เหมาะกับข้า"

         "พระนางต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะเพคะ" หญิงสาวให้กำลังใจ

         อดีตพระชายาเงยหน้ามอง

         "ทำไมเจ้าถึงดีกับข้านัก ทั้งๆ ที่ผ่านมาข้าทำตัวไม่ดีกับเจ้ามาตลอด ไหนจะเรื่องเกาะวัวที่ทำให้เจ้าเกือบตายอีก"

         "ความจริงหม่อมฉันโกรธมากเพคะ แต่ว่าพระองค์ทำให้หม่อมฉันนึกถึงคนคนหนึ่ง"

         "ใครหรือ"
         
         ซอฮยอนนิ่งเงียบไป 

         อดีตพระชายาเห็นหญิงสาวเงียบไปก็ไม่กล่าวอะไรต่อ นางหันไปยกกาน้ำเทใส่จอกก่อนจะยกมันขึ้นจิบช้าๆ

         ฉับพลัน จอกชาในมือของพระนางก็พลัดหลุดตกลงพื้น น้ำร้อนสาดกระเซ็นเต็มพื้นห้อง ฮยอนจองเซจาพินร่างกายกระตุกสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ตาเหลือกค้างปากบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว มือข้างหนึ่งพยายามกอบกุมหน้าอกตนเองไว้คล้ายคนหายใจไม่ออก

         "พระ... พระชายา พระชายาเพคะ!" ซอฮยอนตกตะลึง "ทรงเป็นอะไรไปเพคะ!"

         พระนางไม่เอื้อนเอ่ยคำใดตอบกลับมา ใบหน้าที่ทุกข์ทรมานนั้นหงายเชิดขึ้น ก่อนจะทุ่มลงกับโต๊ะไม้ขาเตี้ยเต็มแรง

          ซอฮยอนหวีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด นางถลันลุกขึ้นยืนอย่างหวาดกลัว อาการของเซจาพินตอนนี้คล้ายถูกผีสิงชัดๆ

         "โอซังกุง! โอซังกุง!" หญิงสาวถลาออกไปเปิดบานประตูออก "นายหญิง! เกิดเรื่อง--"

         ร่างของซังกุงสูงอายุนอนคว่ำหน้าอยู่กลางลานดินหน้าบ้าน มีดเงินวาววับปักอยู่กลางหลังของนางจนมิดด้าม เลือดสีแดงฉานไหลเจิ่งนองไปทั่ว

         "กรี๊ด!" หญิงสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียง นางถอยหลังกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างเสียขวัญ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ

         อดีตพระชายากำลังอาเจียนออกมาเป็นโลหิต หู ตา จมูก ปากของนางเอ่อล้นไปด้วยเลือด 

         "คนคนนั้น... คนคนนั้นที่เจ้าคิดถึง คือข้าใช่ไหม"  ฮยอนจองเซจาพินกล่าวออกมา แต่เสียงนั้นกลับไม่ใช่เสียงนาง 

         "พระชายาตรัสอะไรเพคะ" ซอฮยอนขนหัวลุกซู่

         "พระชายาหรือ นี่เจ้าลืมแล้วรึว่าข้าเป็นใคร" เสียงคุ้นหูดังขึ้นมาอีก

         "ท่าน... ท่านพี่" หญิงสาวตาเบิกโพลง "ท่านพี่ฮวารยอน!"

         "ดีที่ยังจำข้าได้ ข้านึกว่าเจ้าหลงระเริงในเพลิงอำนาจของวังหลวงจนลืมคำมั่นที่ให้กับข้าหมดแล้วว่าจะแก้แค้น" ฮวารยอนในร่างเซจาพินกล่าวออกมาพร้อมกับเลือดเต็มปาก

         "ท่านพี่... ทำไมท่านพี่ถึงได้..."

         "ข้าเจ็บปวดน่ะสิ ในปรโลกข้าเจ็บปวดทุกข์ทรมานนัก ทรมานเพราะน้องสาวข้ากำลังจะทรยศข้า!"

         "ท่านพูดอะไร ความแค้นท่านข้าไม่เคยลืม"

         "ถ้าไม่ลืม เหตุใดป่านนี้เจ้ายังไม่ทำอะไรอีก คนชั่วที่มันฆ่าข้าไฉนมันยังลอยนวลอยู่ได้!"

         "คือข้า... ข้า" ซอฮยอนเสียงสั่น

         "เจ้ากำลังใจอ่อนใช่ไหม"

         "ข้าเปล่า"

         "หรือไม่... เจ้าก็มีใจเสน่หาต่อองค์ยิมโฮ"

         ซอฮยอนหันขวับมามองคนพูดด้วยความตกใจ ฉับพลัน เซจาพินก็คอพับลงกับอกคล้ายกับถูกหักคออย่างรุนแรง มือเท้าเหยียดเกร็ง เลือดสีดำคล้ำไหลทะลักออกมาจากปาก

         "กรี๊ด!"

         ซอฮยอนสะดุ้งพรวดลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เหงื่อแตกเต็มใบหน้า รอบด้านตอนนี้มืดสนิท นางฝันไปนี่เอง นางไม่ได้ออกนอกวังไปไหนทั้งนั้น...

         หญิงสาวจุดเทียนในห้องขึ้นเพื่อขับไล่ความมืด นางนั่งกอดเข่าอยู่สักพักเพื่อระงับอาการตื่นเต้นตกใจที่เพิ่งพบเห็นในฝันไปหมาดๆ มันเหมือนจริงเหลือเกิน พี่สาวนางเองก็เช่นกัน ความสยองนั้นก็ดูเหมือนจับต้องได้จริง

         ทำไมนางจึงฝันเช่นนี้ เพราะคิดมากหรือเครียดไปหรือ ตนเองเคยได้ยินว่าถ้าเพิ่งผ่านเรื่องราวร้ายแรงถึงชีวิตมาอย่างเช่นสงครามที่เพิ่งเผชิญ เหตุการณ์เหล่านั้นจะตกค้างอยู่ในส่วนลึกและแปรเปลี่ยนออกมาเป็นฝันร้าย หรือไม่... ก็เป็นเพราะสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่สาวต่างมารดาซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกนั้นมากระตุ้น แต่ถ้าไม่อีกก็หมายถึงพี่สาวของนางได้มาหานางจริงๆ...

         ซอฮยอนสะบัดหัวไล่ความมึนงงออกไปก่อนจะลุกขึ้นยืน ก็ประจวบเหมาะพอดีกับซุนฮวาเปิดประตูห้องเข้ามา

         "อ่าว เจ้าตื่นแล้ว นอนพอแล้วรึ" 

         "คงพอแหละ" ซอฮยอนตอบพลางนวดขมับ

         "เจ้าสบายดีรึเปล่า" ซุนฮวาถามอย่างเป็นห่วง

         "ปวดหัวนิดหน่อย"

         "ให้ตามหมอหญิงไหม"

         "ไม่ต้องหรอก" ซอฮยอนโบกมือ "แล้วนี่เตรียมงานไปถึงไหนแล้ว"

         "วุ่นวายเหลือเกิน เชวซังกุงปลุกนางในและนางกำนัลทุกคนตั้งแต่ยามสามให้ออกมาช่วยเตรียมงาน ป่านนี้ยังไม่เสร็จดีเลย"

         "งานยุ่งขนาดนั้นเลยหรือ"

         "แน่นอน งานแต่งตั้งองค์รัชทายาททั้งที พระมเหสีเองก็ทรงกำชับทุกฝ่ายให้เตรียมงานอย่างดีที่สุด กองงานวรรณกรรมของเรายังเบานะ พวกห้องเครื่องนี่ต้องตื่นมาทำอาหารตั้งแต่ยามสอง"

         "เช่นนั้นเดี๋ยวข้าไปช่วยด้วย" ซอฮยอนบอก ซุนฮวาพยักหน้าก่อนจะเดินนำเพื่อนหญิงออกมาจากเรือนพัก ทั้งคู่เดินมาถึงเรือนชางวีก็เห็นเหล่านางในนั่งกันอยู่เต็มไปหมด ใต้เท้ามุนยองนัมเดินลงบันไดสวนมาพอดี ซุนฮวารีบก้มศีรษะคำนับ

         ซอฮยอนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นหัวหน้ากองงานวรรณกรรม เวลาเจอหน้าเขาทีไรนางจะหวนคิดถึงเหตุการณ์ในห้องทรงพระอักษรเมื่อวันนั้นเสมอ ภาพนั้นมันไม่จางหายไปจากใจเสียที

         ใต้เท้ามุนยองนัมเองก็รู้สึกว่าพักหลังๆ ซอฮยอนเปลี่ยนไปเมื่อเจอหน้า แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนัก

         "ซอฮยอน" เชวซังกุงชะโงกหน้าลงมาจากเรือนชางวี "เจ้านอนพอแล้วหรือ"

         "เจ้าค่ะนายหญิง" หญิงสาวตอบก่อนจะรีบเดินสวนใต้เท้ามุนยองนัมขึ้นไปบนเรือน "ข้าอยากมาช่วยงานด้วย เห็นทุกคนวุ่นวายเหลือเกิน"

         "คิดได้เช่นนั้นก็ดี นอนกินแรงคนอื่นมันน่ารังเกียจ" ซงฮวันพูดขึ้นอย่างดูหมิ่น

         "เงียบนะ ซงฮวัน" ซุนฮวาหันไปบอก

         "นายหญิงมีอะไรให้ข้าช่วยบ้างเจ้าคะ" ซอฮยอนถามเชวซังกุงอย่างไม่สนใจซงฮวัน

         "จริงๆ มีกองหนังสือที่ต้องคัดแยก แต่ไม่ต้องแล้ว ให้ซงฮวันทำไปทั้งหมดแล้วกัน" เชวซังกุงกล่าว

         "นายหญิง!" ซงฮวันร้องเสียงหลง

         "ทำไป อย่าชักช้า" 

         ซงฮวันหน้างอก่อนจะส่งสายตาเกลียดชังไปที่ซอฮยอนและลุกขึ้นไปหยิบกองหนังสือมาวาง

         "หลังๆ นี้ซงฮวันสงบปากสงบคำลงมากนะ ตั้งแต่คิมซังกุงโดนเชวซังกุงด่าไป" ซุนฮวากระซิบกับซอฮยอน

         "เออจริงสิ เรื่องเชวซังกุงด่าคิมซังกุงนี่มันอย่างไร เห็นพูดกันทั้งฝ่ายใน" ซอฮยอนสงสัย

         "จริงๆ ข้าก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรอก นางในที่อยู่ในเหตุการณ์มีแค่เซจีกับซงฮวัน แต่เรื่องมันก็แพร่ออกไปอยู่ดี"

         "เจ้าปล่อยข่าวน่ะสิ" ซอฮยอนหรี่ตา

         "แหม ก็มันสะใจนี่ ซังกุงรับบัญชาโดนด่าเชียวนะ แล้วข้าก็ไม่คิดไม่ฝันว่าเชวซังกุงจะมีคำด่าเจ็บๆ แบบนั้นอยู่ในหัวด้วย อยากรู้จริงๆ เลยว่าคิมซังกุงทำหน้าอย่างไรตอนโดนนางด่า"

         "แล้วเซจีเล่า"

         "โอ๊ย! นังนั่นใบ้กินเลยแหละ" ซุนฮวาหัวเราะเสียงดัง "อึ้งเป็นรูปปั้นไปเลย แต่นางคงเสียหน้าตั้งแต่ตอนที่เข้าไปห้องไต่สวนเพื่อใส่ร้ายเจ้าคดีจดหมายสาปแช่งพระสนม ทว่าไปๆ มาๆ คดีพลิก เดินออกมาจากห้องไต่สวนแทบไม่ทัน"

         "เสียดาย ข้าอยากอยู่ในห้องไต่สวนตอนนั้นด้วยเสียจริง" ซอฮยอนบ่น

         ระหว่างนั้นนางในระดับสูงหลายคนเดินขึ้นมาบนเรือนชางวีก่อนจะกระซิบกระซาบกันกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยความตื่นเต้น

         "นี่ๆ สำรวมหน่อย" เชวซังกุงเอ็ด "มีอะไรตื่นเต้นรึ"

         "ก็ลานหน้าตำหนักใหญ่น่ะสิเจ้าคะ ข้าเห็นคณะดนตรีกับการแสดงทั้งสามสิบชุดเดินทางเข้ามาแล้ว น่าดูทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ ปะรำพิธีก็เริ่มตั้งแล้ว ได้ยินทหารพูดกันว่าจะมีการจุดดินปืนและพลุไฟด้วยเจ้าค่ะ"

         "มากันแล้วหรือ" นางในชั้นต้นหลายคนทำเสียงตื่นเต้น "ข้าได้ยินว่างานนี้ใหญ่กว่างานฉลองวันประสูติมากนัก"

         "ใหญ่กว่าสิ งานแต่งตั้งองค์รัชทายาทนี่ ขุนนางกับบัณฑิตทั่วสารทิศจะมาพร้อมกันทั้งสิ้น"

         "ตายจริง คงได้เจอหนุ่มๆ หน้าอ่อนมากมายเป็นแน่"

         หนังสือเล่มหนาถูกโยนจนเกือบโดนหัวคนพูด เหล่านางในหวีดร้องอย่างตกอกตกใจ

         "พูดอะไรระวังปากด้วย พวกเจ้าเป็นนางในนะ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานเสีย ถ้าใครว่างนักข้าจะให้ไปช่วยห้องเครื่อง ได้ข่าวว่าทำอาหารเป็นร้อยอย่าง แล้วห้องเย็บปักก็งานยุ่งนะ ต้องทำฉลองพระองค์ให้องค์ยิมโฮใหม่ ฉะนั้นใครไม่อยากเหนื่อยเพิ่มก็หุบปากเสีย" เชวซังกุงดุก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา "แล้วอีกอย่าง หนุ่มๆ บัณฑิตและขุนนางรุ่นใหม่รวมถึงคณะการแสดงทั้งปวง พวกเจ้าจะไม่มีทางได้เห็นหรอก"

         ทุกคนนิ่งเงียบทันที

         "ทำไมเล่าเจ้าคะ พวกเราไม่ได้ไปหรือ" หลายคนร้องถาม

         "ไม่ใช่ ได้ไปน่ะได้อยู่ แต่ที่ข้ากล่าวมานั้นจะอยู่ในบริเวณลานชั้นใน พวกเจ้าจะอยู่ได้แค่ลานชั้นนอกเท่านั้น" เชวซังกุงกล่าว

         "โธ่ ไม่ยุติธรรม ทำไมเป็นแบบนี้ตลอดเลย" หลายคนบ่นเสียงดัง

         "งานแต่งตั้งรัชทายาทนะ ไม่ใช่งานที่พวกเจ้าจะมาเที่ยวเล่น" เชวซังกุงบอกก่อนจะคลี่กระดาษในมือออก "ส่วนนี่คือตำแหน่งที่พวกเจ้าจะประจำในส่วนของงาน นางในชั้นสูงไปอยู่ที่ลานชั้นนอกทางทิศตะวันตก ส่วนนางในชั้นต้นไปอยู่ลานชั้นนอกทางทิศเหนือ สุดท้ายคือแนอิน ไปประจำบริเวณหลังตำหนัก"

         "เจ้าค่ะ" ทุกคนรับคำอย่างไม่เต็มใจนักเพราะอดเข้าร่วมงาน

         "เออ ข้าลืมซอฮยอน" เชวซังกุงกล่าวอย่างนึกขึ้นได้ ทุกคนเงยหน้ามอง

         "ข้าทำไมหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนถาม

         "เจ้าเป็นคนเดียวที่จะได้เข้าไปลานชั้นใน"

         "อะไรนะ!"

         "ทำไมนางได้ไปคนเดียวเล่า"

         "ลำเอียงชัดๆ"

         "เงียบนะ!" เชวซังกุงตะเบ็งเสียง "ข้าไม่ใช่คนกำหนดเรื่องนี้ นี่เป็นพระบัญชาต่างหาก"

         "อะไรนะ พระ... บัญชาหรือ" อีซึลอ้าปากค้าง

         "จะตกใจอะไรนักหนาเล่าอีซึล" ซงฮวันทำเสียงดูถูกตามแบบฉบับ "พระบัญชาก็คงมาจากองค์ยิมโฮนั่นแหละ ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย"

         "พระบัญชาไม่ได้มาจากองค์ยิมโฮ" เชวซังกุงกล่าวเสียงดัง ซงฮวันชะงัก "แต่มาจากฝ่าบาทโดยตรง พระองค์มีพระประสงค์ให้ซอฮยอนเข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการ"





    โปรดติดตามตอนต่อไป
         

        
    *เรียนนักอ่านทุกท่าน ตอนนี้กลรักวังหลวงเล่มที่ 4 โดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่ 95 ถึงตอนที่ 110 ได้วางขายเป็นรูปเล่มอิเล็กทรอนิกส์ทาง meb e-book แล้วนะครับ ท่านใดสนใจซื้ออ่านหรือซื้อเก็บไว้เป็นเล่มสามารถกดเข้าได้ที่ลิงก์นี้เลยนะครับ (*กดเข้าจากลิงก์นี้เท่านั้นนะครับ)

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMjczNDI4NiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEwNjc0MCI7fQ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×