ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรักวังหลวง [서현]

    ลำดับตอนที่ #87 : กลอุบายที่เริ่มต้นใหม่ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.2K
      94
      20 ส.ค. 62

    ตอนที่ 87 กลอุบายที่เริ่มต้นใหม่





         หญิงสาวหันไปเปิดกล่องสีแดงในตู้ไม้ออกมาวางก่อนจะเปิดฝาออก ภายในมีของส่วนตัวของนางเองรวมถึงจดหมายทั้งสามฉบับที่ซินฮวารยอนฝากไว้

         ซอฮยอนเอื้อมมือหยิบจดหมายฉบับที่ป้ายด้วยน้ำหมึกสีแดงออกมาดู ถ้าสิ่งที่พี่สาวต่างมารดากำชับไว้นั้นถูกต้องไม่ผิดพลาด จดหมายฉบับนี้ฉบับที่นางต้องเปิดอ่าน

         ความอยากรู้ที่อัดแน่นมานานในอกกำลังสั่งให้หญิงสาวเปิดซองจดหมายออกอ่าน แต่อีกใจหนึ่งกลับย้ำเตือนว่าถ้าหากเนื้อหาในจดหมายมันร้ายกาจเกินกว่าจะรับได้เล่า จะทำอย่างไรต่อไป คืนนั้นที่หิมะตกซอฮยอนยังจำได้ดี ฮวารยอนที่ร่างกายเหมือนจะสิ้นไปแล้วอันเนื่องมาจากการร้าวระบมด้วยพิษร้ายกลับพยุงอยู่ได้เพราะความแค้นแสนสาหัสเท่านั้น และเนื้อความในจดหมายที่กำลังจะเปิดไม่ยิ่งร้ายกว่าหรือ

         แต่นางก็เข้าวังมาพร้อมความแค้นอยู่แต่แรกแล้วมิใช่หรือ... หญิงสาวเปิดซองจดหมายออกช้าๆ

         "ซอฮยอน" นางในคนหนึ่งร้องเรียกจากนอกห้องพร้อมเงาดำที่กำลังเดินตรงมา ซอฮยอนหยุดชะงักก่อนจะยัดจดหมายฉบับนั้นไว้ใต้ที่นอนอย่างรวดเร็ว

         ประตูกรุกระดาษเลื่อนเปิดออกและปรากฏเพื่อนนางในคนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามา

         "ซอฮยอน มีทหารคนหนึ่งมาขอพบน่ะ"

         "ทหารที่ไหนกัน"

         "ข้าก็ไม่รู้ แต่ดูจากชุดแล้วเหมือนทหารยามนะ"

         ซอฮยอนเดินออกมานอกห้องก่อนจะเห็นทหารยามในชุดสีแดงยืนอยู่ใต้ร่มไม้ เมื่อหญิงสาวก้าวเข้าไปหา ทหารนายนั้นก็เดินออกไปคล้ายจะนำทางไปอีกแห่ง นางเดินตามไปเรื่อยๆ

         เมื่อมาถึงบริเวณลับตาคน ใต้เท้าในชุดขุนนางสีแดงก็เผยตัวออกมาจากเงามืด

         "ท่านพ่อ!" ซอฮยอนร้อง

         ใต้เท้าซินจ้องมองบุตรสาวของตนเองแน่นิ่งอย่างเย็นชา

         "นึกว่าลืมไปแล้วว่าข้าคือพ่อเจ้า"

         "ใต้เท้าหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ"

         ขุนนางชั้นเอกมองชุดชอโกรีสีแดงที่บุตรสาวสวมใส่อยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า

         "อืม เป็นนางในชั้นจง 9 พุมแล้วนี่ใช่รึไม่"

         ซอฮยอนไม่ตอบ

         "อีกไม่นานก็คงไต่เต้าขึ้นเป็นระดับซัง แล้วก็คง--"

         "ใต้เท้าจะพูดอะไรกับข้ากันแน่เจ้าคะ" หญิงสาวตัดบทบิดา

         "เจ้าเข้าวังมาทำไม ซอฮยอน" ใต้เท้าซินซังซอนถามเสียงจริงจัง หญิงสาวชะงักไป

         "เจ้าลืมจุดประสงค์ที่เข้าวังแล้วหรือ จำสาเหตุที่เจ้าต้องจำใจเป็นนางในไม่ได้แล้วหรือ"

         "ข้าไม่เคยลืมเจ้าค่ะ"

         "ถ้าไม่เคยลืม ทำไมการประพฤติเจ้าถึงสวนทางกับคำพูดเช่นนี้"

         "สวนทางรึเจ้าคะ"

         "ที่เจ้าเสนอตัวช่วยซังกุงชราที่ชื่อฮงซังกุงอะไรนั่น ข้ายอมช่วยเพราะเห็นแก่ความมุ่งมั่นของเจ้า และข้าก็หวังว่าบุตรสาวข้าจะไม่เข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งๆ อีก แต่สิ่งที่มาถึงหูข้ากลับกลายเป็นว่าเจ้าไม่ได้ทำตามที่ข้าสั่งเลยสักนิด"

         "ข้าทำอะไรรึเจ้าคะ"

         "เซ็งกักชิ" ขุนนางชั้นเอกตะคอก "สอบได้แต้มสูงสุดทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ต่อมาก็ออกตัวช่วยองค์ชายยิมโฮเรื่องพิสูจน์อาวุธ และติดๆ กันเลยคือช่วยองค์หญิงดายอง จวบจนสุดท้ายก็คือสอบออซองเคียงวอนได้ที่หนึ่ง"

         "ใต้เท้าพูดราวกับว่าสิ่งที่ข้าทำเป็นสิ่งเลวร้าย"

         "ไม่ใช่ มันไม่เลวร้าย และไม่ใช่เรื่องผิดด้วย แต่เจ้ากำลังจะทำตัวให้เป็นภัย ความโดดเด่นและความเก่งของเจ้าจะย้อนกลับมาทำลายตัวเจ้าเอง ทำไมนะซอฮยอน ทำไมอยู่เฉยๆ อยู่เงียบๆ สถานการณ์อะไรมาถึงก็รู้จักโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ใช่ต่อต้านและเสนอหน้าแก้ปัญหา อันตรายจะมาถึงเข้าสักวัน"

         "ใต้เท้า..." ซอฮยอนมองหน้าบิดาราวกับไม่อยากจะเชื่อ "ท่านพอใจที่ได้เห็นข้าเป็นคนโง่ในวังหรือเจ้าคะ"

         "แกล้งโง่แล้วปลอดภัย ยังดีกว่าได้หน้าแล้วถูกจ้องทำลาย เจ้าคิดว่าความโหดร้ายของวังหลวงมีแค่นี้หรือ เจ้าคิดผิดแล้ว ที่เจ้าเจอมานั่นยังไม่ถึงเสี้ยวด้วยซ้ำ"

         "ข้าไม่เคยอยากได้หน้านะเจ้าคะ ข้าแค่ทำในส่วนของข้า และหลายครั้งหลายหนเรื่องมันมาถึงตัวข้าเองแท้ๆ หาใช่ข้าไปหาเรื่องใส่ตัวนะเจ้าคะ และนอกเหนือจากนั้นคือเพราะข้าอยากช่วยเหลือคนที่ลำบากก็แค่นั้น"

         "ช่วยเหลือในความหมายของเจ้าคือไปนั่งเขียนชีวิตอันรันทดของเหล่านางในในชุมนุมหลังตำหนักร้างออกมาเป็นหนังสือด้วยใช่รึไม่"

         "ใต้เท้ารู้..." หญิงสาวชะงัก

         "ข้ารู้ทุกอย่าง ซอฮยอน และอนาคตอย่าให้ข้าต้องรู้ด้วยเลยนะว่าเจ้าสลัดสกุลปาร์คที่บังหน้าไว้อยู่และกลับไปใช้สกุลซินตามเดิม"

         "ใต้เท้า ข้าไม่เคย--"

         "พี่สาวเจ้าตายอย่างไร เจ้าลืมแล้วรึ!" ใต้เท้าซินตะเบ็งเสียง "คำขอของนางเจ้าก็คงจะลืมแล้วเช่นกัน"

         "ข้า... ข้าไม่เคยลืมนะเจ้าคะ"

         "ฉะนั้นเลิกเสีย หยุดทำตัวเด่น หยุดช่วยเหลือคนอื่นได้แล้ว เอาตัวเองให้รอดเป็นพอ ถ้าเจ้ายังทำเช่นนี้อยู่ คิมซังกุงต้องลงมือเล่นงานเจ้าแน่ต่อให้ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นน้องสาวต่างมารดากับอดีตพระชายาฮวารยอนก็เถอะ"

         "คิมซังกุงตอนนี้กำลังวิ่งเต้นช่วยหลานสาวตัวเองอยู่นะเจ้าคะ" ซอฮยอนเอ่ย

         "และมันก็จะสำเร็จ ซึ่งถ้าเวลานั้นมาถึง กลอุบายที่เริ่มต้นใหม่ของนางจะแผลงฤทธิ์อีกครั้ง"

         "กลอุบายที่เริ่มต้นใหม่?" ซอฮยอนทวนคำ

         "คนของข้าสืบมาแล้ว ตอนนี้นางไม่ได้แค่ช่วยเหลือเซจีจากเรือนจำฝ่ายใน แต่เหมือนจะเข้าไปที่ตำหนักของเซจาพินด้วย" ใต้เท้าซินกล่าว

         ซอฮยอนเบิกตากว้าง

         "นาง... นางเข้าไปที่ตำหนักของใครนะเจ้าคะ!"





     

    [ต่อจาก 50%]





         เซจาพินคือตำแหน่งของพระชายารัชทายาท และองค์รัชทายาทปัจจุบันที่อยู่ในตำแหน่งคือลีซองแจ พี่ชายต่างมารดาของยิมโฮแทกุน คนภายนอกมักมองว่าพี่น้องคู่นี้สนิทกัน แต่ความจริงออกจะเป็นความถ้อยทีถ้อยอาศัยมากกว่า

         ลีซองแจได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทตั้งแต่ 6 ขวบ ทุกสิ่งดูจะเรียบง่ายมั่นคงแต่ทว่าผิดถนัด พระมเหสีมังยอนผู้เป็นพระมารดาถูกปลดออกจากตำแหน่งและต้องไปอยู่บ้านเดิมที่นอกวัง และพระมเหสีฮโยฮันก็ขึ้นเป็นวังบีแทน

         ยิมโฮแทกุนประสูติตอนที่ลีซองแจมีพระชันษาได้ 8 ขวบ และในความคิดของซองแจ แม้การได้เป็นรัชทายาทจะเป็นตำแหน่งที่ก้าวขึ้นไปสู่บัลลังก์ก็จริง ทว่าเมื่อมีองค์แทกุนอย่างยิมโฮขึ้นมาเป็นคู่แข่งก็เป็นอะไรที่ประมาทไม่ได้เลย

         ทั้งสติปัญญา ความเหมาะสม ความเชี่ยวชาญในการรบ ดูเหมือนเขาจะด้อยกว่ายิมโฮในทุกทาง แต่สิ่งที่ลีซองแจสังเกตก็คือ น้องชายต่างมารดาคนนี้ไม่เคยหวังถึงบัลลังก์หรือคิดจะมาชิงตำแหน่งรัชทายาทสักนิด ความหวาดระแวงจึงค่อยๆ หมดไป

         คนที่ระแวงยิมโฮแทกุนจริงๆ แล้วคือพระชายาฮยอนจองผู้เป็นเซจาพินนั่นเอง พระนางหวั่นเกรงว่าอนาคตองค์ชายยิมโฮจะมาปาดหน้าตำแหน่งรัชทายาท จึงสนับสนุนให้เขาออกไปอยู่นอกวัง

         แต่เมื่ออำนาจพระมเหสีฮโยฮันแก่กล้าขึ้น พระนางก็ทรงมีรับสั่งให้ลูกชายกลับเข้ามาอยู่ในวัง ฮยอนจองเซจาพินจึงแก้ลำด้วยการให้เหล่าขุนนางบังคับให้องค์ชายยิมโฮทรงสมรสกับพระชาฮวารยอนจากสกุลซิน เพราะแทกุนองค์ใดที่ผ่านการแต่งงานแล้วต้องออกไปอยู่จวนนอกวัง นั่นคือกฎ

         แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ฮยอนจองเซจาพินคาดหวัง เพราะจู่ๆ ฮวารยอนพูบูอินก็สิ้นพระชนม์ไปก่อนอย่างลึกลับ ยิมโฮแทกุนในฐานะที่ยังไม่มีพระชายาจึงหวนคืนสู่วังหลวงอย่างเป็นทางการ หลายครั้งหลายหนที่ฮยอนจองพยายามหารือเรื่องนี้กับลีซองแจพระสวามี แต่สิ่งที่รัชทายาทรับสั่งออกมามีแค่ "ยิมโฮเขาไม่ใช่คนแบบนั้น" ฮยอนจองจึงต้องจัดการทุกอย่างเอง เพราะอนาคตตำแหน่งพระมเหสีต้องเป็นของนางเท่านั้น

         ตอนที่เกิดเรื่องสายลับญี่ปุ่นตายอยู่ข้างตำหนักยิมโฮแทกุน ก็เป็นนางเองที่ทูลฝ่าบาทว่าควรลงโทษองค์ชายให้หนัก แต่ในที่สุดศัตรูก็รอดพ้นเงื้อมมือไปได้อีกครั้ง ได้ยินว่ามีนางกำนัลคนหนึ่งช่วยเหลือ แต่ช่างเถิด ฮยอนจองไม่สนใจนางกำนัลหน้าไหนทั้งนั้น

         และแล้วสวรรค์ก็เปิดโอกาสให้นางอีกครั้ง จู่ๆ วันดีคืนดีคิมซังกุงซึ่งเป็นซังกุงรับบัญชาก็มาขอเข้าเฝ้าตนที่ตำหนักพร้อมกับแผนการที่จะผลักดันให้ยิมโฮแทกุนออกไปอยู่นอกวังได้อีกครั้ง

         เซจาพินจ้องมองคิมซังกุงที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของตน กระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เจ้าของตำหนักเอื้อมมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาคลี่อ่าน ยิ่งฮยอนจองเซจาพินอ่านข้อความในจดหมายนั้นมากเท่าใด ความประหลาดใจก็ดูจะเพิ่มพูนบนสีหน้ามากเท่านั้น

         "งานนี้เป็นธุระของรัชทายาทลีซองแจสวามีข้ามาโดยตลอด แต่ปีนี้เจ้าจะบอกให้ข้ายกงานนี้ให้ยิมโฮทำแทนรึ"

         "เพคะพระชายา" คิมซังกุงทูลตอบ

         "เพื่ออะไร"

         "เพราะหม่อมฉันรู้มาว่าปีนี้ฝั่งเขาต้องการอะไร และหม่อมฉันมั่นใจว่าองค์ชายยิมโฮไม่มีปัญญาหามาได้แน่เพคะ"

         "แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป"

         "คนอย่างยิมโฮแทกุน" คิมซังกุงยิ้มเย็น "ไม่มีทางแตะต้องท้องพระคลังแน่นอน และถึงกล้าแตะต้อง ฝ่าบาทก็จะกริ้วหนักอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึงองค์ชายต้องมาพึ่งรัชทายาทและเซจาพินแทน"

         ฮยอนจองเซจาพินเลิกคิ้ว

         "แล้วสิ่งที่ข้าต้องทำคืออะไร"

         "พระนางต้องยื่นข้อแลกเปลี่ยนเพคะ ถ้าองค์ชายจะมาขอพึ่ง เขาก็ต้องทำบางอย่างแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน"

         "เจ้าจะให้ข้าขออะไรจากเขาก็ว่ามา" ฮยอนจอนรับสั่งถาม

         "ให้องค์ชายทรงเลือกหลานสาวหม่อมฉันคิมเซจี ให้เป็นพระชายาเพคะ"

         "อะไรนะ!"

         "ได้ยินไม่ผิดหรอกเพคะ หม่อมฉันต้องการให้สกุลคิมมีอำนาจและได้เป็นเชื้อพระวงศ์ ส่วนพระนางเองจะได้กำจัดองค์ชายออกไปอยู่นอกวังเพราะตามกฎแล้วแทกุนที่สมรสเรียบร้อยต้องไปอยู่จวนอื่น"

         "แต่ว่าหลานสาวเจ้าเป็นนางในไม่ใช่หรือ จะมาเป็นพระชายาองค์ชายได้อย่างไร"

         "ได้สิเพคะ เพราะใต้เท้าคิมลุงของหม่อมฉันจะทูลขอเซจีจากฝ่าบาทให้องค์ชายเอง และแม้แต่พระมเหสีก็จะมาข้องเกี่ยวไม่ได้เพราะมันเป็นสัตย์สัญญาระหว่างพระองค์และยิมโฮแทกุน"

         เซจาพินนิ่งคิดอยู่สักพัก

         "แล้วถ้าข้าเลือกที่จะทำตามแผนเจ้า เจ้ายอมหรือที่หลานสาวตัวเองจะต้องไปอยู่นอกวังกับองค์ชายด้วยในฐานะพระชายา อนาคตจะไม่มีวันได้กลับเข้าวังอีกเลยนะ"

         "เรื่องนั้นไม่ต้องทรงเป็นห่วงเพคะ เพราะหม่อมฉันและหลานสาวไม่ได้หวังยศศักดิ์อะไรในวังเลยเพคะ" คิมซังกุงกล่าว

         เซจาพินนิ่งมองหน้าของซังกุงรับบัญชาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า

         "ก็ได้ เอาตามนี้แหละ"

         คิมซังกุงคำนับก่อนจะทูลลาพระชายาขององค์รัชทายาท เมื่อนางเดินลงจากตำหนักก็หันหลังกลับไปมองพลางยิ้มร้ายออกมาในความมืด






    โปรดติดตามตอนต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×