คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #147 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท ( ตอน คนเพิ่งรู้จักกัน )
“อย่ามาทักผมเลย ผมเป็นพวกไม่มีมนุษย์สัมพันธ์อย่างรุนแรง ไปห่าง ๆ ผมเถอะ”
อิทธิพลกระแทกเสียงตอบกลับออกไป และกำลังจะก้าวเท้าเดินหนีจากคนตรงหน้า แต่กลับถูกเรียกเอาไว้
“เดี๋ยวครับ.....เหมือนผมเลยครับ...แล้วเราจะไม่ลองมาสานสัมพันธ์กันหน่อยเหรอครับ ตอนนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแล้วนี่ครับ เหมือนญาติกันแล้วด้วย...ใช่มั้ยล่ะครับ คุณอิทธิพล”
หมั่นไส้ว่ะ น่าหมั่นไส้ชิบหาย แม่ง คุณอิทธิพล คุณอิทธิพลห่าอะไรอยู่ได้วะ รำคาญโว้ยยยยยยยย
อิทธิพลเหลือบสายตาขึ้นมอง ไอ้คนใจดำที่ทำให้ร้องไห้ทุกวัน แล้วเริ่มหงุดหงิดโมโหขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
จนต้องตะคอกตอบกลับออกไป
“ไปห่าง ๆ ผมดีกว่าคุณอารยะ..ผมมันคนความอดทนต่ำเดี๋ยวอยู่ดี ๆ ผมอาจจะกลายร่างเป็นหมากระโดดกัดคุณได้”
อิทธิพลเองก็ไม่แพ้กัน แสดงท่าทางให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กำลังหงุดหงิดโมโห
แต่อารยะกลับลอบยิ้มชอบใจในปฏิกิริยาตอบกลับของอีกฝ่าย
ทำเป็นด้วยเหรอ ท่าทางแบบนี้ ทำเหมือนเด็กขี้งอน ปากด่าแต่ตามองไปไหนแล้วล่ะนั่น
“กัดเหรอครับ......ถ้าเป็นไหล่....ก็ยอมนะครับ.....เจ็บนิดเดียวผมยอมได้ถ้าจะทำให้เราได้รู้จักกัน”
อารยะเอ่ยบอกดวงตาเป็นประกายระยับ
ไม่คิดว่าปากตัวเองจะพูดไปได้ถึงขนาดนั้น ท่าทางของคนตรงหน้า ทำให้อยากจะกระชากร่างนั้นเข้ามากอดให้หนำใจ แล้วก็หอมแก้มหนัก ๆ ให้หายหมั่นไส้ซะหน่อย แต่สงสัยจะยาก
เพราะท่าทางคุณอิทธิพลเขากำลังของขึ้นนะนั่น
“ไปตายที่ไหนก็ไปเลยโว้ยยยยยยยยไอ้เหี้ยแม่งเอ้ย มึงเป็นใครกูไม่รู้จักหรอก แต่กูหมั่นไส้มึงโว้ยยยยยยยยย”
อิทธิพลตะโกนใส่หน้าของคนที่พูดจายียวนกวนประสาท แล้วก็ซัดกำปั้นเข้าที่ใบหน้าของอารยะอย่างรุนแรง
จนร่างนั้นทรุดลงไปกองกับพื้น ด้วยความมึนงง
เฮ้ย มาไงวะเนี่ย
นั่งงงอยู่เป็นนาน กว่าจะรู้สึกตัว
โดนชกเหรอ โดนชกเหรอเนี่ย
มิน่ายังมึน ๆ อยู่เลย โห่ หมัดหนักชิบหาย
อิทธิพลจ้องมองใบหน้าของคนที่ลงไปกองกับพื้น ยังไม่คลายความโมโห แล้วก็เดินกระแทกเท้าปึงปังเข้าบ้านไปไม่สนใจอารยะที่ยกมือขึ้นลูบแก้มของตัวเองเลยสักนิด
เจ็บนะเนี่ย
แรงไม่มีตกเลย
อะไรวะ คนอุตส่าห์คิดถึง อุตส่าห์มาหา ไอ้คุณอิทมันดันต่อยซะร่วงเลย ฟันหักเปล่าวะเนี่ย
ไอ้อิทนะได้อิท
“เดี๋ยวเหอะ......ทำเนียนเลยนะ ไม่รู้จักกัน เดี๋ยวทำให้รู้เองแหละ .... จะมาหาทุกวันเลย .... เอาสิ...เดี๋ยวก็รู้จักกูเองแหละไอ้คุณอิทธิพล”
อารยะคงเป็นบ้า เมื่อหันกลับไปมองคนที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินเข้าบ้านไปแล้ว แต่ตัวเองกลับนั่งยิ้ม
ทั้งที่ยังเจ็บที่ข้างแก้ม แต่รู้สึกว่า ความอึดอัดใจ มลายหายไปจนหมดสิ้น
ใบหน้าที่เอาแต่ขมวดคิ้วมุ่น กลับปรากฏรอยยิ้มเจือจางสดใส
ยกมือกุมแก้มและนั่งหัวเราะเสียงเบาอยู่คนเดียว
“คุณอิทธิพลนะคุณอิทธิพล ผมรู้แล้วแหละ ทำไม ผมเอาแต่นั่งมองรูปคุณอยู่ได้ทุกวัน ..... ก็เพราะว่าผมโคตรจะเกลียดคุณนี่เอง ผมเพิ่งรู้ว่าผมเกลียดคุณเวลาที่กอดคุณไม่ได้ หอมแก้มคุณไม่ได้ แล้วก็แตะตัวคุณไม่ได้ ผมเกลียดเวลาที่ไม่ได้เห็นหน้าคุณ.....แล้วผมก็เกลียดที่คุณ ........... หลบหน้าผมด้วยนะเนี่ย ........ “
อารยะนั่งยิ้มอยู่ตรงนั้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า ก้าวเท้าเดินเข้าไปภายในบ้านที่มีผู้ใหญ่นั่งคุยกันอยู่ ส่วนอิทธิพล ก็กลับไปนั่งหน้างอหงิกอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเดิม
อารยะเหลืบสายตามองหน้าอิทธิพลเพียงนิดเดียว และกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ เริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าคมที่สะบัดหน้าหนี กลับทำให้อยากหัวเราะเสียงดัง ๆ
ดูไปดูมา ก็...........ไอ้คุณอิทธิพลมันน่ารักขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย
“อืม.........คุณอิทธิพลครับ.......ไหล่ให้กัดได้นะครับ....ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ากัดได้....ถ้าจะทำให้เรารู้จักกัน”
อารยะเดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ และเอ่ยบอกเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน
นั่นกลับทำให้อิทธิพลหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที
ริมฝีปากขบกันแน่น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
อาย.......
เพิ่งรู้ว่าโดนล้อในเรื่องน่าอายเข้าแล้ว
กัดบ้ากัดบออะไรวะ กูไปกัดมึงตอนไหน แค่เล็บจิกแค่นิดเดียวเอง จะมาพูดจาบ้าบอเพ้อเจ้ออะไรอยู่ได้
คนที่นั่งนิ่งเงียบ ไม่ยอมมองหน้า ยิ่งทำให้อารยะอยากจะคว้าร่างนั้นมากอดให้หายคิดถึง
คุณอิทธิพลครับ คุณอิทธิพล
อย่าทำหน้าตาน่ารักแบบนั้นได้มั้ยครับ
เดี๋ยวผม ก็อดใจไม่ไหวหรอกครับ
ยังไม่ทันรู้จักกันดีเลย ผมก็อยากจะข้ามขั้น ขอคุณเป็นแฟนซะแล้วนะครับ
ยะเริ่มรุกแล้ว
ความคิดเห็น