คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #146 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท (ตอน ทักทาย )
อิทธิพลยืนนิ่งอึ้ง เมื่อพบหน้าของคนที่มากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้าน และไม่ใช่แค่อิทธิพลเท่านั้นที่นิ่งไปชั่วขณะ
ทั้งแม่และป้าของอิทธิพลก็ยืนนิ่ง.......ทำอะไรไม่ถูกไปเช่นกัน
“อิท...คือ...ยะบอกว่าอิทยอมให้แม่มาหาหลานได้แล้ว....เอ่อ....ใช่หรือเปล่า... แม่เลยมา....แม่เอ่อซื้อของมาฝากหลานด้วย......”
หญิงวัยกลางคนที่อิทธิพลจำได้ดีว่าเป็นแม่ของอารยะ และไอยรดา มายืนอยู่ตรงหน้า ด้วยท่าทางที่เก้อเขินและดูเหมือนกังวลใจที่จะพูดอะไรอยู่ตลอดเวลา ทำให้อิทธิพลต้องก้มหน้าลง ประมวลความคิดที่ค่อยถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“แยมหลับนะครับ.....เพิ่งหลับไป......เมื่อกี้นี้เอง...ไม่นาน....”
เหมือนเป็นการปฏิเสธอยู่กลาย ๆ ถ้อยคำที่พูดไม่ได้เย็นชาหรือผลักไส แต่กลับอ่อนโยนลงด้วยซ้ำจนแม่ของอารยะรู้สึกได้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เหมือนกับการปฏิเสธ หล่อนก้มหน้าลง แบกความหวังมาทั้งหมด แต่กลับต้องแบกกลับไปทั้งที่ไม่ได้เห็นหน้าหลาน แม้จะรู้สึกว่าความเสียใจกำลังถาโถมเข้ามาภายในจิตใจ แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้
“งั้น...แม่กลับก่อน...ก็ได้....”
ใบหน้าที่ซีดเผือดลงของหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ทำให้อิทธิพลอดที่จะสงสารไม่ได้ กำลังจะทำผิดอีกแล้ว ไม่น่าเลย ไม่น่าพูดอย่างนี้เลย รับปากไปแล้ว กลับอยากจะผิดคำพูดขึ้นมา ทำไมถึงเป็นคนอย่างนี้ ไม่อยากเป็นคนแย่ ๆ แบบนี้อีกแล้ว จะไม่มีทางทำผิดสัญญาอีกต่อไปแล้ว
“ไม่ครับ.....แยม.....แยม....อยู่บนเบาะครับ...แม่....เอ่อ.....แม่จะเข้ามาหาแยมก่อนมั้ยครับ...ถ้า....ไม่รังเกียจ”
คำพูดตะกุกตะกักของอิทธิพลที่แสดงไมตรีจิตออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงเท่านั้นใบหน้าที่เคยหมองเศร้าของหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ค่อยสว่างไสวขึ้น
“ไม่เลย ไม่เลยอิท ไหนอิท...หลานอยู่ไหน ให้แม่ได้เห็นหน่อยเถอะ หลานอยู่ไหน”
ท่าทางตื่นเต้นยินดี ทำให้อิทธิพลรู้สึกยินดีตามไปด้วย
เข้าใจสิ ความรู้สึกที่ว่า อยากเจอแต่ไม่ได้เจอ ทั้งที่คิดถึงมาก แต่กลับไม่ได้เจอมันทรมานมากแค่ไหน
ทำไมจะไม่รู้ เข้าใจหมดทุกอย่างเลย ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว
ตามที่มึงบังคับให้กูทำให้นะไอ้ยะ......ตามที่มึงต้องการ กูทำให้แล้ว
กูไม่ได้ผิดสัญญาอีกต่อไปแล้ว
"อยู่ข้างในครับ...." อิทธิพลกำลังจะก้าวเท้านำทาง แต่ก็ต้องหยุดชะงักนิ่ง เมื่อหันกลับมามอง
"อิท......แม่ซื้อของมาให้หลานด้วย..ยะ..หิ้วเข้ามาเร็ว...สองถุงเลยนะที่แม่ฝากยะไว้..เอามาทั้งสองถุงเลย"
แค่เพียงได้ยินว่ามีใครอีกคนมาด้วย อิทธิพล แทบอยากจะร้องไห้ แต่ไม่ได้หันกลับไปมองอีกครั้ง
รับรู้ว่าใครอีกคนก้าวเข้ามาภายในบ้านด้วย แต่ทำอะไรไม่ได้ ทักทายไม่ได้ มองหน้าไม่ได้
ไม่รู้จักกัน เราไม่รู้จักกัน ใช่ เราไม่รู้จักกัน
แล้วจะมาทำไมล่ะเว้ย กูยิ่งอยากร้องไห้อยู่นะ มึงจะมาทำไมเนี่ย
แม่ง.........
อารยะเองก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด
เพียงแว่บแรกที่ได้เห็น ทิฐิที่เก็บสะสมมาหลายวัน กลับพังทลายลงจนหมดสิ้น ทันทีที่ได้พบหน้า
ทันทีที่ได้เห็นสายตาเศร้า ๆ ของใครคนนั้น
เห็นแล้ว
เห็นหน้าไอ้อิท แล้ว....แล้วก็....
ขาก้าวเข้ามาภายในบ้าน และลงนั่งที่พื้น ข้างเบาะของเด็กอ่อนที่นอนดูดนมในขวด ร่างเล็ก ๆ หลับใหลอยู่บนเบาะนอนของเด็ก
แม่ของอารยะ ถึงกับตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น จนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
เมื่อลงนั่งข้าง ๆ เด็กหญิงตัวเล็ก และลูบไล้ไปมาที่หลังและขา
"แยมเหรอ...หนูแยมใช่มั้ย เหมือนยัยดาไม่มีผิดเลยนะ ดูสิ เหมือนใช่มั้ยยะ เหมือนใช่มั้ย"
ท่าทางยินดีอย่างสุดซึ้ง ทำให้ทั้งป้าและแม่ของอิทธิพลต่างมองหน้ากันนิ่ง ๆ และนิ่งมองผู้หญิงที่กำลังลูบไล้ไปที่ร่างของหลานสุดรักสุดหวง แล้วชักเกิดความไม่พอใจ
"ดูแต่ตานะคุณ....มาหาได้.....แต่ถ้าคิดจะมาแย่งเอาไปเลยล่ะก็...."
เสียงที่เว้นไปชั่วขณะ ทำให้แม่ของอารยะ น้ำตาคลอ
"ไม่จ่ะ ฉันแค่อยากได้เห็นหลานบ้าง กรุณาฉันเถอะ ฉันไม่คิดจะแย่งไปเลยสักนิด แค่ขอให้ได้เห็นบ้างสักนิด ฉันขอร้อง"
ผู้ใหญ่คุยกัน โดยที่อิทธิพลเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ห่างออกไป และนิ่งมองภาพนั้นอยู่อย่างนั้น
อารยะวางถุงของแล้วหันไปมองหน้าของอิทธิพล ต่างฝ่ายต่างนิ่งมองกันและกัน และอิทธิพลเองที่เป็นฝ่ายหลบสายตาที่จ้องมองมา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกจากบ้าน
ไม่อยากเจออารยะเลยสักนิด ไม่ได้อยากเจอเลย ไม่ได้อยากเจอเลยจริง ๆ จะมาทำให้ช้ำใจไปถึงไหนกัน
อยากให้ทำอะไรตามที่ต้องการ ก็ทำให้แล้ว แล้วจะมาทำไมอีก แค่นี้ยังทำให้เสียใจไม่พอหรือไง
สงสัยยังไม่สะใจละมั้ง เลยอยากให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้ คงจะมาดูหน้าล่ะสิ ว่าตอนนี้ ต้องฝืนทนขนาดไหน
คงอยากจะมาแสดงว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แล้วก็คงอยากมาเห็นคนที่พ่ายแพ้ จนทำอะไรไม่ได้
เออ กูมันเลว จำได้แล้วแหละ ให้ลืมก็ลืมอยู่นี่ไง ไอ้ยะ ไอ้คนใจร้ายใจดำ
อารยะจ้องมองคนที่ลุกขึ้นเดินออกจากห้อง และมองตามไปจนร่างนั้นเดินลับตาไปแล้ว
จึงค่อยหันกลับมามองหลานสาวที่ยังคงหลับใหล
ภาพตรงหน้า
แม่ของเขาได้พบกับหลานแล้ว และดูมีความสุขอย่างถึงที่สุด
หน้าที่ ที่ต้องทำก็สำเร็จไปแล้วอย่างหนึ่ง.......แล้วตอนนี้....ต้องทำอะไรต่อไป
อะไรที่ต้องทำ.............
หลายวันมานี้ ภาพที่ถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ ถูกเปิดดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดจะลบภาพทิ้งหลายครั้ง แต่ไม่กล้าลบ
แล้วมันกี่ครั้งที่เอาแต่จ้องมองภาพถ่าย ของใครคนหนึ่ง ที่สอดไว้ในกรอบรูปบนหัวเตียง
เฝ้าแต่มองภาพนั้น ภาพของอิทธิพลที่อุ้มลูกสาวและส่งยิ้มอย่างสดใส มีความสุข
ภาพของอิทธิพลที่กำลังยิ้ม
ผิดจากวันนี้ลิบลับ
อิท.....มัน...............ผอมลงไปหรือเปล่า.....มิหนำซ้ำยังดูหน้าซีด
ไม่สบายหรือเปล่านะ
อยากจะเอ่ยถาม แต่ปากกลับไม่ยอมขยับ ยิ่งพอสบสายตาด้วยแล้ว ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรออกมา
อยากเจอใจแทบขาด แต่ก็พร่ำบอกตัวเองว่าไม่มีวันอยากเจอ ทั้งที่อยากเจอ แต่กลับหลอกตัวเองว่าไม่อยากเจอ
ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ
ฝ่ามือกำแน่น และพยายามหักห้ามใจไม่ให้ลุกขึ้นเดินไปหา
แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวายใจ
หลายครั้งที่หันหน้าไปมอง พยายามจ้องมองว่าอิทธิพล เดินอยู่แถวนั้นหรือเปล่า แต่กลับไม่เห็น
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ
แม่ง...........เดินไปไหนกันวะ.......หวงลูกนักหนาไม่ใช่หรือไง แล้วแทนที่จะมานั่งเฝ้าลูก มานั่งให้เห็นหน้าชัด ๆ หน่อยก็ไม่ได้
นี่มันเดินหนีไปไหนของมันวะ
จะปล่อยลูกตัวเองทิ้งไว้อย่างนี้หรือไง
คิดไปคิดมา ก็พาลโมโห คนที่ตัวเองคิดถึงซะได้
อารยะหันหน้าไปมองทางเดินที่อิทธิพลเดินออกจากห้องไป
ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไงดี ท่าทางกระสับกระส่าย อยู่อย่างนั้นเป็นนาน
"ไอ้อิท.........พักนี้อารมณ์มันขึ้น ๆ ลง พูดแต่คิดถึงลูกคิดถึงลูก...........คิดจนร้องไห้ทุกวันเลยมั้ง....ไอ้อิทมันหวงหนูแยมจะตาย ใครมายุ่งกับลูกมัน แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย....นี่ก็อยู่แต่กับลูกจนไม่กินข้าวกินปลาเลย....ฉันไม่ได้เลี้ยงหลานฉันให้อดอยากนะคุณ ไอ้อิทมันเลี้ยงของมันเอง ไม่หลับไม่นอนทุกวัน...."
ผู้ใหญ่สองฝ่ายคุยกัน แต่อารยะก็ได้ยินชัดเจน
ร้องไห้ทุกวัน.....ร้องทำไมล่ะ....ข้าวก็ไม่ค่อยกินเหรอ...ทำไมถึงไม่กิน....
หน้าซีดจะแย่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ยังจะไม่กินข้าวอีกหรือไง......อดหลับอดนอน.....อะไรกัน
จิตใจกระวนกระวาย สุดท้าย ก็นั่งไม่ติดกับที่ ต้องรีบขอตัวแล้วลุกขึ้นเดินออกมาจากภายในบ้าน
"เดี๋ยวผมไปหาอิทหน่อยนะครับ...." อารยะเอ่ยบอกกับแม่และลุกขึ้นยืน รีบก้าวออกมาด้วยความรีบเร่ง และก็ได้เห็นว่าใครคนหนึ่ง นั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่ชิงช้าหน้าบ้าน
ใครคนที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายวัน ใครคนที่ทำให้นอนไม่หลับทุกคืน จนต้องเปิดไฟลุกขึ้นมานั่งมองภาพถ่ายที่สอดไว้ในกรอบรูป
ใครคนที่บอกกับตัวเองเสมอว่าเกลียด....แสนเกลียด.......
ใครคนหนึ่งที่ตอนนี้ กำลังนั่งนิ่ง ๆ อยู่ตรงหน้า ห่างออกไปไม่กี่ก้าว
เวลานี้แม้แต่ตัวเองก็คิดไม่ออกว่าจะมายืนมองอิทธิพลทำไม
ได้แต่ยืนมองเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น อยากจะเรียก อยากจะเอ่ยทัก แต่ปาก........กลับไม่ยอมขยับ
ไอ้อิท ไอ้อิท........มัน...มันผอมลงจริง ๆ ด้วย ไม่กี่วัน มันผอมลงอย่างเห็นได้ชัด....ขนาดมองอยู่ห่าง ๆ อย่างนี้ยังรู้สึกได้
ทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดี อารยะนิ่งคิดอยู่อย่างนั้น จะทักทายก็ไม่กล้า จะเรียกก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อรู้สึกตัวว่ามีใครกำลังจ้องมองอยู่ อิทธิพลขยับร่างเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมอง
และต้องรีบหลบสายตา ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นว่ามีใครกำลังยืนมองอยู่จริง ๆ
บรรยากาศที่แสนอึดอัด
ยิ่งทำให้อิทธิพล ไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนั้นอีก จะมองทำไม รู้แล้วว่าต้องทำเป็นไม่รู้จัก รู้แล้วแหละว่าต้องทำยังไงบ้าง
อุตส่าห์หนีออกมานั่งอยู่ข้างนอก รอให้มันกลับแล้ว ยังจะตามมาหัวเราะเยาะอีกหรือไง
อิทธิพล กำลังจะลุกขึ้นยืน และเดินหนีสายตาของอารยะให้ไกล ๆ แต่กลับถูกเสียง ของอารยะรั้งเอาไว้ ให้นิ่งงันอยู่กับที่อยู่อย่างนั้น
"สวัสดีครับ......คุณอิทธิพล........พ่อของน้องแยมหรือเปล่าครับ....ผมเห็นคุณเงียบ ๆ ไป...มีอะไรให้ผมช่วยได้หรือเปล่าครับ"
ความคิดเห็น