คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5
“คุณโฮย่าอาบน้ำก่อนเลยนะฮะ เดี๋ยวผมอาบทีหลังเอง” ดงอูกล่าวกับร่างหนาเมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกัน
“งั้นคุณรอแป๊บนึงนะ” โฮย่าว่าพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนู
“หนังสือเล่มนี้น่าอ่านจังเลยฮะ ผมขออ่านได้รึเปล่า” คนตัวเล็กพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากบนชั้นลงมา แล้วหันหน้าไปมองร่างหนารอฟังคำอนุญาต
“…” ร่างหนามองปกหนังสือแล้วเงียบไป หนังสือเล่มนั้นเป็นเล่มโปรดของมิจูน้องสาวเขา…
“เอ่อ… ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรฮะ” ร่างเล็กว่าแล้วทำท่าจะเอาหนังสือใส่คืนที่ชั้นตามเดิม
“อ๋อๆ ไม่เป็นไร อ่านได้ๆ ตามสบายเลยคุณ” ร่างหนากล่าวขึ้นเพราะเสียงของคนตัวเล็กที่ดึงให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยแววตาเจือความเศร้า
“สีหน้าแบบนั้น…คงคิดถึงน้องสาวอีกแล้วแน่ๆเลย” ดงอูรำพึงกับตัวเองเบาๆเพราะสังเกตเห็นความเศร้าและโหยหาในแววตาของร่างหนา
.
.
.
.
.
.
.
ดงอูเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนกางเกงขาเท่าเข่ากับเสื้อยืดแล้วมานั่งลงข้างๆร่างหนา เขาควรจะพูดเปิดใจกับโฮย่าแล้วช่วยให้ร่างหนาพ้นจากความเศร้าแบบนี้เสียที
“คุณโฮย่าฮะ” ดงอูเรียก
“…” ร่างหนาไม่ได้พูดอะไรแต่เงยหน้าขึ้นมามองคนตัวเล็ก แต่นัยน์ตาก็ยังคงเจอความเศร้าอยู่เล็กน้อย คนตรงหน้าเขาอาจจะทำให้เขามีความสุขก็จริง แต่ในความสุขนั้นเขาก็ยังคงคิดถึงมิจูอยู่เสมอ มิจูคนที่เคยทำให้เขายิ้มได้เช่นกัน
“ผม… ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องคุณมิจู น้องสาวคุณ”
“ทำไมอยู่ๆถึงอยากจะคุยเรื่องน้องสาวผม” ร่างหนาถามขึ้นเสียงเรียบ
“ผมคิดว่า…คุณควรจะลืมได้แล้ว” ดงอูกล่าวต่อ
“ลืม!?? คุณจะให้ผมลืมน้องสาวของตัวเองงั้นเหรอ!?” ร่างหนากล่าวเสียงแข็งกร้าวและลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะฮะ แค่อยากจะให้คุณมีความสุข และ…”
“คุณคิดจะมาแทนที่น้องสาวผมรึไง” โฮย่าตะหวาดกลับทั้งที่ร่างเล็กยังพูดไม่จบประโยค ไฟโทสะของเขากำลังลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่คิดเลยว่าดงอูจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“ไม่ใช่นะฮะ ผมแค่อยากให้คุณลืมความเศร้าเรื่องการตายของน้องสาวคุณ ไม่ได้หมายความว่าให้คุณลืมน้องสาวตัวเอง” ร่างเล็กลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับร่างหนาพยายามทำให้ร่างหนาสงบลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล “คุณคิดถึงเธอได้ แต่คุณควรหายเศร้าเรื่องเธอได้แล้ว ผมไม่คิดว่าคุณมิจูจะมีความสุขหรอกนะฮะที่คุณมัวแต่จมปลักอยู่กับความเศร้าแบบนี้”
“คุณอย่ามาพูดถึงน้องสาวผม!!” ร่างหนาที่ตอนนี้ถูกเพลิงโทสะครอบงำ ไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆพูดออกมาแล้วผลักคนตัวเล็กลงไปบนเตียงอย่างแรง
“หวา~~” ร่างเล็กร้องด้วยความตกใจ แต่ไม่ทันจะได้ตั้งตัว โฮย่าก็ทาบกายลงมาทับบนร่างของเขาทันทีโดยใช้มือกดข้อมือของร่างเล็กไว้
“คุณก็แค่คนที่บ้านส่งมาไถ่หนี้ให้ผม อย่า มา พูด แบบ นี้!!” โฮย่ากล่าวเน้นย้ำแล้วโน้มหน้าลงมาใกล้กับใบหน้าหวานของร่างเล็กมากๆ “คุณมันก็แค่ทรัพย์ชิ้นหนึ่งของผม อย่าได้คิดจะมาแทนที่น้องสาวผมเป็นอันขาด” กล่าวจบร่างหนาก็ก้มหน้าลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวและขบกัดอย่างแรงจนเป็นรอยแดงชัดเจน
“อื้อ! คุณโฮย่า ใจเย็นก่อนสิฮะ ผมเจ็บ” ร่างเล็กพยายามดิ้น แต่ก็ไม่อาจสู้กำลังที่มากกว่าของร่างหนาได้
“หน้าที่ของคุณก็แค่นอนนิ่งๆก็พอ” ร่างหนาว่าแล้วกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอิ่มอย่างแรงและกัดที่ริมฝีปากล่างของดงอูจนเลือดออก ตอนนี้เขาไม่อยากได้ยินอะไรจากปากคนตรงหน้าทั้งนั้น
“อื้อ~ อื้อ~” ร่างเล็กร้องอย่างเจ็บปวดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรจะหยุดร่างหนาได้อีกแล้ว…
[NC]
"คุณมันไม่รู้อะไรเลย" ร่างหนากดเสียงต่ำข้างหูร่างเล็กที่ตอนนี้อ่อนเพลียจนถึงที่สุด ไม่เหลือแม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะเอ่ยสิ่งใดด้วยซ้ำ...
“อืมมมม” ร่างหนารู้สึกตัวขึ้นตอนประมาณตีห้า ท้องฟ้าภายนอกยังคงมืดมิด ร่างหนาลุกขึ้นยืนแล้วบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยขบ เมื่อคืนนี้เขาแทบนอนไม่หลับเลย ในหัวเขามีเพียวแต่คำพูดที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนตัวเล็ก เขาโกรธมาก แต่หลังจากนั้นโฮย่าก็ได้คิดทบทวนถึงเรื่องน้องสาวของเขา
มิจูมีความสุขที่เห็นพี่มีความสุขนะคะ
คำพูดที่มิจูเคยพูดกับเขาเมื่องานวันเกิดของเขาก่อนที่มิจูจะตายลอยผุดขึ้นมาในหัว แล้วตอนนี้เขามีความสุขรึเปล่า…? บางครั้งเขาก็ยังคงตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเองเรื่องมิจู เขายังคงเศร้ากับเรื่องนี้อยู่ แล้วแบบนี้…มิจูจะมีความสุขหรือเปล่า
ร่างหนาหวนนึกถึงคำพูดที่ดงอูกับเขาเมื่อคืน แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ตัวเองกล่าวกับคนตัวเล็กออกไป เขายอมรับว่าเขาพูดออกมาด้วยความโมโห เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนตัวเล็กเสียใจ…
โฮย่าหันไปมองคนตัวเล็กบนเตียง แม้ภายในห้องจะค่อนข้างมืด แต่ในความมืดนี้ ร่างหนากลับเห็นคราบน้ำตาบนพวกแก้มของดงอู น้ำตาที่เขาเป็นคนทำให้มันไหลออกมา น้ำตาที่หลั่งไหลเพียงเพื่อสนองไฟโทสะในจิตใจของเขา…
ร่างหนาเก็บเสื้อผ้าที่ตกอยู่ตามพื้นขึ้นมา นำไปใส่ในตะกร้าเตรียมให้แม่บ้านเอาไปซัก ก่อนจะนำชุดนอนชุดใหม่มาสวมให้ร่างเล็กอย่างเบามือ จากนั้นจึงเข้าไปอาบน้ำเพื่อนเตรียมตัวไปทำงาน แม้ว่าตอนนี้ภายในจิตใจของโฮย่าจะสับสนไปหมด
"ทำไมทำแบบนั้นไปวะ!" ร่างหนาสบถกับตัวเองขณะนั่งอยู่ในห้องทำงาน เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวันที่เขาเอาแต่ถามตัวเองแบบนี้ซ้ำๆด้วยความกระวนกระวายใจ
ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเกือบบ่ายสามนี้ร่างหนาแทบไม่มีสมาธิทำงานเลย แม้จะอยู่ในห้องประชุม แต่เขากลับจับใจความอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่ในหัวของเขากลับมีแต่ภาพคนตัวเล็กน้ำตาเปื้อนใบหน้าปรากฏขึ้นมา สลับกับเสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กตลอดกิจกรรมบนเตียงเมื่อคืน
เขาแน่ใจว่าตอนนั้นเขาโกรธดงอูจริงๆ โกรธเพราะไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาแทนที่น้องสาว แต่ทำไมเขาโกรธแล้วจึงทำเรื่องอย่างว่านั่นลงไป…หรือเป็นไปได้ว่ามันอาจมาจากจิตใต้สำนึกที่ปรารถนาจะครอบครองคนตัวเล็ก
และอีกอย่างก็คือเขาไม่คิดว่าดงอูจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา ดงอูเป็นคนที่รักษาน้ำใจคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเล็กอาจจะไม่ได้สื่อความหมายแบบที่ร่างหนาเข้าใจก็ได้ แต่คงเพราะความโมโหร้ายและหุนหันพลันแล่นของเขาเองที่ทำให้เรื่องมันบานปลายขนาดนี้
ผมแค่อยากจะให้คุณมีความสุข
นี่คือคำพูดที่คนตัวเล็กพูดกับเขาเมื่อคืนหลังจากที่สติของร่างหนาถูกไฟโทสะผลาญจนมอดไหม้ไปแล้ว ทั้งมิจูและดงอูต่างก็อยากจะทำให้เขามีความสุขทั้งนั้น แต่เขากลับทำลายความปรารถนาของทั้งคู่ เขาทำร้ายดงอู แถมยังเอาแต่โหมงานหนัก ไม่ดูแลตัวเอง ทั้งที่มิจูก็เคยพูดกับเขาบ่อยๆแท้ๆว่าเขาจะต้องดูแลตัวเองให้ดี เขาทำผิดกับคนทั้งคู่ และตอนนี้เขาอยากจะแก้ไขมัน
ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ
ภาพใบหน้าเปื้อนน้ำตาบนเสียงสะอื้นของดงอูยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ร่างหนาถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกไป จากนั้นก็ลุกออกจากโต๊ะทำงานและเก็บของเดินออกไปจากห้อง ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะกลับบ้านเร็วกว่าปกติเพราะมีสิ่งที่สำคัญกว่างานตรงหน้าให้เขาต้องไปจัดการ…คนสำคัญที่เขาต้องไปดูแล
“วันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะ เอกสารอะไรอย่างอื่นเก็บเอาไว้ก่อน แล้วผมจะมาจัดการพรุ่งนี้” ร่างหนากล่าวกับเลขาส่วนตัวแล้วมุ่งตรงมาที่ลิฟต์เพื่อจะรีบกลับบ้าน "นี่ฉันแคร์เขาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะเนี่ย" เขารำพึงกับตัวเอง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“อ้าว!? คุณโฮย่า ทำไมวันนี้กลับเร็วจังครับ” เป็นซองยอลที่เอ่ยทักเมื่อร่างหนาก้าวขาเข้าบ้านมา
“ไม่มีอะไรมากหรอก ดงอูอยู่ไหน” ร่างหนากล่าว
“ลงมาทานอาหารตอนเช้าแล้วก็กลับขึ้นไปบนห้องแล้วล่ะครับ ถึงตอนนี้ยังไม่ลงมาเลย ดูเหมือนจะเพลียๆ อาจจะหลับอยู่ก็ได้ครับ”
“งั้นหรอ ขอบใจมาก นายไปทำงานต่อได้แล้ว” ร่างหนารีบก้าวขึ้นบันไดมุ่งไปยังห้องนอนของตนเองทันที แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องพบเพียงความว่างเปล่า…
เมื่อไม่พบร่างเล็กที่ห้องนอนของเขา เขาเดินไปที่ห้องนอนเก่าของดงอูแล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบกับร่างบางกำลังนั่งอยู่บนเตียง กอดตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเขียวไว้…ตุ๊กตาตัวที่เขาเล่นเกมให้เมื่อตอนไปสวนสนุกเมื่อหลายวันก่อน
“ฮึก…! ค…คุณโฮย่า” ร่างเล็กที่หันมาตามเสียงประตูเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ รีบปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าทิ้งแล้วหลบสายตาร่างหนา โฮย่าเดินตรงเข้ามาหาร่างเล็กอย่างไม่ลังเล
“คุณเป็นคนย้ายของมาห้องนี้เหรอ??” ร่างหนาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าข้าวของของดงอูอยู่ในห้องนี้เหมือนตอนที่คนตัวเล็กเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ๆ
“ฮะ…” ร่างเล็กตอบพลางลุกขึ้นช้าๆ ในอ้อมแขนยังคงกอดตุ๊กตาไว้ไม่ปล่อย
“ย้ายมาทำไม ผมบอกว่าให้คุณนอนห้องเดียวกับผม”
“ผมคิดว่าคุณโฮย่าอาจจะไม่อยากเห็นหน้าผม” ร่างเล็กว่าเสียงอ่อย
“…”
“คุณคงโกรธผมมาก ผมขอ.. อุ้บ!!” ร่างเล็กที่กำลังจะเอ่ยคำขอโทษออกมากลับถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของโฮย่า ร่างหนาบดจูบลงมาอย่างอ่อนโยนต่างจากเมื่อคืนลิบลับ เป็นจูบที่ไม่มีการรุกล้ำใดๆ ร่างเล็กที่ตอนนี้อ่อนเพลียเกินกว่าจะหนีออกมาจากวงแขนเกร่งรอบเอวของตนนั้นก็ได้แต่ยอมรับจูบแต่โดยดี
“คุณไม่ต้องขอโทษผม” ร่างหนาเอ่ยหลังจากผละริมฝีปากออกมา “ผมสิต้องขอโทษคุณ ผมทำผิดต่อคุณมากจริงๆ ผมขอโทษที่ทำร้ายคุณ ขอโทษที่ทำให้คุณร้องไห้ ผมอยากให้คุณรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อคืนเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของผม ผมไม่ได้หมายความตามนั้น” ร่างหนากล่าวระบายความอัดอั้นที่มีมาตลอดทั้งวันออกมาเป็นคำขอโทษต่อรางเล็กตรงหน้า
“จริงๆแล้วผมไม่ควรจะพูดอะไรแบบนั้นออกไป…” ดงอูว่า
“ไม่ ผมเองต่างหากที่ไม่ฟังคุณ คุณบอกว่าแค่อยากให้ผมมีความสุข คุณหวังดีกับผมแต่ผมกลับทิ้งความหวังดีของคุณไป ผมมันโง่เอง” ร่างหนาพูดอย่างรู้สึกผิด
“อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิฮะ” ร่างเล็กที่รับรู้ถึงความจริงใจในน้ำเสียงของโฮย่า ตอนนี้ความเสียใจของร่างเล็กได้มลายหายไปจนเกือบหมดแล้ว เขาเข้าใจคนตรงหน้านี้ดี เพราะเขาเองก็เคยเสียพ่อแม่ไปเหมือนกัน
“ผมทำผิดต่อคุณมาก และผมก็กลับไปแก้ไขมันไม่ได้”
“ไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอกฮะ” ร่างเล็กยิ้มให้กับโฮย่าที่หันมาสบตาตน
“ขอโทษจริงๆ ให้อภัยผม ให้ผมได้แก้ตัวนะ..” ร่างหนาพูดพลางนำมือของคนตัวเล็กมากุมเอาไว้
“เลิกขอโทษเถอะฮะ ผมไม่ได้โกรธคุณหรอก” ร่างเล็กพูดหลังจากพยักหน้ารับคำขอร้องของโฮย่า กระชับมือแน่นขึ้นแล้วส่งยิ้มให้
“…”
“…”
“ขอบคุณนะ” ร่างหนามองลึกเข้าไปในนัยน์ตาของคนตัวเล็กกว่า มองเห็นความงดงามและจริงใจ คนตัวเล็กนี้ช่างใจดีเหลือเกิน เป็นโชคดีของเขาจริงๆที่เลือกรับดงอูเข้ามาในชีวิต
“…” เมื่อถูกจ้องนานเกินไป คนตัวเล็กก็เลือกที่จะก้มหน้าหลบสายตาคมนั้นเพราะหัวใจที่เคยเปื้อนน้ำตาตอนนี้มันกลับมาพองโตอีกครั้งแล้ว และยังเต้นเร็วขึ้นในทุกๆวินาทีที่ถูกใบหน้าหล่อเหลานั้นจ้องมองอีกด้วย
“คุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงใช่ไหม” ร่างหนากล่าวเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าตนทำให้คนตัวเล็กนั้นเขินอายจนก้มหน้างุดไปแล้ว รอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากด้วยความเอ็นดูคนตรงหน้า “ไปหาอะไรกินกัน”
“เอ่อ…ก็ได้ฮะ” ความลังเลเจอปนในน้ำเสียงหวาน แต่เหมือนว่าร่างหนาจะไม่ได้รู้สึกถึงมัน
“ไปกัน” ร่างหนาจูงมือคนตัวเล็กก้าวออกไปจากห้อง
“ค…คุณโฮย่า เดินช้าๆหน่อยได้มั้ยฮะ” ดงอูกล่าวเบาๆ
“หืม เป็นอะไรหรอ”
“คือผม….” ร่างเล็กอ้ำอึ้งอยู่ ไม่รู้ว่าจะบอกร่างหนาดีไหม หรือจะบอกอย่างไรดี แต่ตอนนี้พวกแก้มขาวของเขามันขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“เจ็บหรอ?” ร่างหนาถาม เขาคิดว่าคนตัวเล็กคงรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ต้องเป็นเพราะที่เขาทำรุนแรงไปเมื่อคืนแน่ๆ…
“…” ร่างเล็กไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าขึ้นลงน้อยๆ
“อ้าว! เจ็บแล้วทำไมไม่บอกผมล่ะ” ร่างหนารีบเข้ามาพยุงดงอู “แล้วเจ็บขนาดนี้จัดห้องเองได้ยังไงเนี่ย”
“…” ร่างเล็กไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ก้มหน้าด้วยความเขินอาย
“งั้นกินข้าวที่บ้านเนี่ยแหละ แล้วผมจะให้คนมาย้ายของคุณให้” ร่างหนากล่าวกับร่างเล็กขณะที่ค่อยๆพยุงคนตัวเล็กลงบันได
“ฮะ…”
คืนนั้น
“นอนกันเถอะ คุณคงเพลียแล้วแน่ๆ” โฮย่ากล่าวกับดงอู แล้วพาร่างเล็กมาที่เตียง เขารู้ว่าเมื่อคืนก่อนนี้คนตัวเล็กคนไม่ได้นอนสักเท่าไหร่
“ขอบคุณนะฮะ” ร่างเล็กกล่าว หลังจากนั้นร่างหนาก็ปิดไฟในห้องแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ
“…”
“ผมขอโทษนะฮะ ที่ทำให้คุณโกรธตอนนั้น” ดงอูกล่าวขึ้นมาท่ามกลางความมืด
“ผมบอกแล้วว่าคุณไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณที่ไม่ยอมฟังคุณ” ร่างหนาเอ่ยแย้งแล้วตะแคงตัวหันหน้ามาหาคนตัวเล็ก
“แต่…”
“ไม่มีแต่ คุณห้ามขอโทษผมเรื่องนี้อีกนะ เข้าใจมั้ย ไม่งั้นผมจะทำโทษคุณ” การพูดถึงการลงโทษของร่างหนาทำเอาร่างเล็กถึงกับไปไม่เป็น ถึงแม้ว่าคืนก่อนทั้งสองจะไปไกลเกินกว่าคำว่าจูบที่เป็นการลงโทษของร่างหนาแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกเขินน้อยลงเลย
“งั้นคุณก็ไม่ต้องขอโทษผมแล้วเหมือนกัน โอเคนะฮะ”
“ก็ได้” พูดจบโฮย่าก็ประกบปากอุ่นลงบนริมฝีปากของคนตัวเล็กทันที มือหนาสอดไปใต้หัวทุยๆแล้วลูกกลุ่มผมนุ่มเบาๆ ส่วนดงอู แม้จะไม่ทันตั้งตัว แต่ก็หลับตาพริ้มยอมรับจูบของร่างหนาแต่โดยดี ลิ้นร้อนค่อยๆไล่แตะไปที่ริมฝีปากอิ่มเหมือนเป็นการขออนุญาตให้ร่างเล็กเปิดทางให้ ซึ่งกลีบปากอิ่มก็เผยออกต้อนรับให้โฮย่าได้ตักตวงความหวานจากโพรงปาก ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นร้อนอย่างไม่ประสีประสา ร่างหนาจึงใช้มือข้างที่รองศีรษะคนตัวเล็กอยู่เลื่อนลงมาที่ท้ายทอยแล้วปรับองศาให้ถนัดขึ้นแล้วนำการจูบไปอย่างเชี่ยวชาญ รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่มาปะทะข้างแก้มขอกันและกัน จนกระทั่งร่างเล็กใช้มือจิกลงบนไหล่แกร่งเบาๆ เป็นการบอกว่าเริ่มจะหมดลมหายใจแล้ว
“…”
“ดงอู…” ร่างหนาเรียกชื่อดงอูแล้วกระชับคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา “ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกผมว่าโฮย่าแล้วนะ”
“แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรฮะ” ร่างเล็กเอ่ยเบาๆอย่างเขินอายด้วยปากที่บวมเจ่อขึ้นเล็กน้อยจากการจูบเมื่อครู่
“เรียกผมว่าโฮวอนนะ… เรียกผมด้วยชื่อจริงๆของผม”
“ฮะ… คุณโฮวอน” ร่างเล็กตอบรับแล้วซบหัวไปที่แผงอกแกร่ง ซึ่งร่างหนาก็ใช้แขนกอดเอวคนตัวเล็กให้แน่นกว่าเดิมก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยกัน
****************************************************************************************************************************************
ถ้าอยากอ่านNCให้เมนชั่นหรือDMมาบอกเมล์ทางทวิตเตอร์ของไรท์นะคะ แล้วไรท์จะส่งให้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แอคนี้เลยจ้าา @KitarSone
ดีกันแล้วเนอะะะะ ต่อไปนี้ก็จะขอเข้าสู่ความมุ้งมิ้งต่อไป และอยากจะบอกข่าวร้ายกับรีดเดอร์ว่า... เรื่องของเราได้ดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องแล้วนะคะ ก็อย่างที่บอกไปว่าฟิคของเราจะไม่ยาวมากเพราะคนแต่งกาก(??) 55555+ ยังไงก็ตาม ไรท์ต้องขอขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ติดตามฟิคเรื่องนี้มาตลอด คอมเมนท์ของทุกคนป็นกำลังใจของไรท์เตอร์มาตั้งแต่เปิดเรื่องไรท์ซาบซึ้งมากจริงๆค่ะ? ? ไรท์รักรีดเดอร์ทุกคนนะค้าาา ขอบคุณค่ะ<3
ป.ล. มีรีดเดอร์คนไหนได้ไปคอนของแคระบ้างมั้ยยย ไรท์อดไปคอนง่ะ แงงงงงงง สัญญาว่าคราวหน้าจะไม่พลาด คราวนี้ใครไปฝากดูอินฟินิททุกคนมาเผื่อไรท์เตอร์ด้วยน้าาา แล้วก็ขอให้ตั้งใจทำโปรเจคแทนไรท์ด้วย อินฟินิทจะต้องประทับใจในตัวอินสปิริทไทยค่ะ^ ^
ความคิดเห็น