คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 5 Breakfast + Lunch= Brunch
5
Breakfast + Lunch= Brunch
เสียงของฝูงนกนางนวลออกจากรังร้องกึกก้องดังไปทั่วบริเวณท่าเรือของทีมารู เพื่อให้สัญญาณว่า เช้าวันใหม่ได้มาถึงแล้ว แสงของพระอาทิตย์ปรากฏขึ้นเหนือน่านน้ำทะเล แต่งแต้มสีสันให้ท้องฟ้ายามเช้าของทีมารูนั้นสวยงาม ชาวเมืองมากหน้าหลายตาเริ่มออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน เด็กน้อยใหญ่เองก็ออกเดินทางที่จะไปโรงเรียน ผิดกับสาวเจ้าของผมสีบลอนด์อ่อนที่ยังคงหลับแบบไม่รู้เหตุการณ์ของบ้านเมืองว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
“นี่คุณตื่นได้แล้ว”เสียงทุ้มอันหล่อเหลาของแจ็คพูดเบา พร้อมสะกิดเอลซ่า ทำให้เธอขยับตัวเล็กน้อย
“อืม...ขออีกห้านาทีนะ อันนา”เอลซ่าพูดพร้อมพลิกตัวไปทางตรงกันข้ามที่แจ็คยืนอยู่
“คุณนี่มันจะเก้าโมงแล้วนะ”แจ็คพูดพร้อมเขย่าตัวเอลซ่าเล็กน้อย
“อย่ามาปลุกฉัน”เอลซ่าตะโกนดังพร้อมปัดมือแจ็คออกอย่างแรง ทำให้คนที่พยายามปลุกถึงกับทำหน้าบึ้ง
“ผมควรใช้วิธีนี้กับคุณจริงๆใช่ไหม”แจ็คพูดพร้อมก้าวเท้าขึ้นเตียงและคร่อมตัวเอลซ่า ก่อนที่โน้มตัวเข้าไปข้างหูของเอลซ่า
“ตื่นได้แล้วครับ คุณป้าตื่นสาย”เสียงแผ่วเบาของแจ็คทำให้เธอรู้สึกจักกะจี้อย่างรำคาญ ทำให้ตาของเธอปรือขึ้นมาเล็กน้อย
“ใช่เป็นพี่สาวเธอนะ...อั...”เอลซ่าลืมตาโพร่งเหมือนเห็นคนที่ปลุกเธอไม่ใช่น้องสาว แต่เป็นผู้ชายที่เธอพบกับเขาเพียงสองวันที่กำลังอยู่บนเตียงและคร่อมเธอไว้ไม่ให้ไปไหน แต่ที่หนักกว่าคือ ริมฝีปากสีชมพูอยู่ใกล้ริมฝีปากของอีกฝ่ายมากเกินไป
“คะ...คุณ” เอลซ่าที่อยู่ภายใต้อกแกร่งรู้สึกไม่ดีกับท่าทีแบบนี้ จึงพยายามเรียกสติของอีกฝ่าย
“ฮะ...อะ...เอ่อขอโทษ”แจ็คที่เพิ่งได้สติ รีบลุกขึ้นพร้อมหันไปนั่งที่ขอบเตียงโดยที่ไม่หันไปมองเอลซ่า
‘เขากำลังเขินเหรอ’เอลซ่าที่เพิ่งหลุดจากพันธนาการของอีกฝ่ายหันไปมองชายหนุ่มที่หันหลังให้เธอ เธอเห็นหูสองข้างที่เคยสีขาวใสเปลี่ยนไปเป็นสีแดงระรื่น
“เอ่อ...คุณ ตอนนี้มะ...มันจะสายแล้ว จะให้ผมออกไปซื้อของมาไว้ทำข้าวเช้าไหม”แจ็คพยายามพูด เพื่อไม่ให้บรรยากาศนั้นเป็นสีเทา
“คุณคงหิวสินะ งั้นไปซื้อของมาเตรียมไว้ก่อนเลยก็ได้ กระเป๋าตังค์ฉันอยู่ในกระเป๋าแบ็คแพ็คฉันอ่ะ” เอลซ่าพูดพร้อมชี้ไปบนที่กระเป๋าของเธอ
“คุณจะเอาเป็นอะไรพิเศษไหม”แจ็คพูดพร้อมเดินไปที่กระเป๋าของเอลซ่าพร้อมเปิดกระเป้าหน้า แต่ก็พยายามหลบหน้าเอลซ่าไว้
“ไม่ล่ะ เอาที่คุณซื้อมาแล้วกัน”
“โอเค งั้นเดี๋ยวผมมานะ”แจ็คพูดพร้อมหันไปยังบานประตู พร้อมรีบเดินออกไป
“อ๋อ อย่าซื้อมา...เยอะล่ะ...”เอลซ่าพยายามเตือนไม่ให้แจ็คซื้ออะไรเยอะเกินความจำเป็น แต่ดูท่าจะช้าเกินไป เขาปิดประตูแล้วเดินออกไปเสียแล้ว
ภายในห้องที่ตอนนี้เหลือเพียงเอลซ่า เสียงหัวใจที่เต้นอยู่เริ่มแรงขึ้น เมื่อเธอกับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วครู่ ใบหน้าสีขาวหิมะเผยถึงแก้มสีชมพูอ่อน แต่ก็อดขำกับท่าทีของผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ซึ่งเขาก็คงเขินพอๆกัน
“ไปอาบน้ำดีกว่า”เอลซ่าพูด พร้อมพยุงตัวเองขึ้นจากเตียง และเตรียมของเพื่อเข้าห้องน้ำ
ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวที่ตอนนี้เดินออกมานอกโมเทลแล้วนั้น เขาเดินตรงไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น เขาอดคิดไม่ได้ ตอนที่เขาคร่อมเธออยู่นั้น เหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างที่ทำให้เขาโน้มหน้าเขาไปใกล้เอลซ่าขนาดนั้น เหมือนกับสมองไม่สั่งการ แต่เป็นใจที่สั่งให้เขาทำแบบนั้น
“ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”แจ็คพูดพร้อมกุมขมับตัว พรางเดินไปเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมหยิบตระกร้า
‘ความรู้สึกนี่หมายถึงอะไรกัน’ดวงตาสีฟ้าอ่อนเหม่อมองไปเรื่อยๆคิดถึงเรื่องนั้นอีกครั้ง พร้อมหยิบเสบียงมากมายลงไปในตระกร้าใบเล็ก ก่อนที่จะไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
‘ทำไมหัวใจต้องเต้นทุกครั้ง เมื่อมองหน้าเธอใกล้ๆ’แจ็คยังคงคิดถึงใบหน้าสวยของเอลซ่า ก่อนจะจ่ายเงินให้กับพนักงานแคชเชียร์ พร้อมถือถุงที่เต็มไปด้วยของกินกลับไปยังที่พัก
‘หรือนี่ คือสิ่งที่คน เรียกว่า ชอบ’แจ็คชะงักการเดินเล็กน้อย พร้อมทบทวนการกระบวนของเขาทั้งหมด ขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังห้องหมายเลข 151
แจ็คส่ายหัวตัวเองเล็กน้อย เพื่อเลิกคิดเรื่องแบบนี้ พร้อมบิดลูกบิดเพื่อประตูนั้นออกมา แต่ต้องเจอกับเอลซ่าที่กำลังนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกำลังใส่บราสีฟ้าอ่อนอยู่ เผยแผ่นหลังสีขาวของเอลซ่า ทำเอาแจ็คถึงกับชะงักเลยที่เดียว ขณะเดียวกันเอลซ่ารู้สึกดวงตาที่จับจ้องที่เธออยู่ ทำให้เธอหันไป
“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้องของเอลซ่า ทำเอาสติของแจ็คที่หลุดลอยไปกลับมาทันที พร้อมรีบปิดประตูก่อนที่จะโดนสิ่งของที่ไม่พึงประสงค์ปามายังเขา
“คุณจะเปิดประตูก็ช่วยเคาะกันบ้างสิ”เสียงเอลซ่าร้องดังจนมากระทั่งแจ็คยังคงได้ยิน
“คุณเองก็ไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำสิ”แจ็คโต้
“จะบ้าหรอ เสื้อผ้าฉันเปียกหมด”เอลซ่าพูดพร้อมเดินมาเปิดประตูเพื่อประชันหน้ากับชายหนุ่มที่เห็นภาพอันแสนไม่ควรดู
“คุณไม่เห็นอะไรใช่ไหม”เอลซ่ามองเขาไปในดวงตา ราวกับให้ยืนยันคำตอบว่าเขาไม่เห็นอะไรที่ไม่ดี
“ผมรู้แค่ว่านมคุณก็ใหญ่ดีเหมือนกันนะ”คำตอบนี้แทบทำเอาเอลซ่าแทบอยากเอาปรมาณูมายัดปากเขาเสียจริงๆ
“คุณนี่มัน...แล้วนี้คุณจะอพยพถิ่นเหรอเนี่ย”เอลซ่าถึงกับร้องตกใจเมื่อเห็นของที่เขาซื้อมานั้นเยอะเกินความจำเป็นอย่างมาก
“ก็แค่เก็บเสบียงไว้เฉยๆ”แจ็คพูดอย่างไม่รู้สึก สำนึกทำเอาปรอทความอดทนของเอลซ่ามาถึงขีดสุดแล้ว
“ฮึ่ม...บ้าเอ้ย”เอลซ่าสบถกับตัวเอง ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอแล้วรีบยื่นให้แจ็ค
“คุณรีบโทรหาเจ้านายคุณเดี๋ยวนี้ ให้รีบส่งเงินมาให้คุณซะ”
“ทำไม”แจ็คพูดพร้อมถือโทรศัพท์อย่างงุนงง
“คุณจะได้รีบออกไปจากชีวิตฉันสักทีไง คุณรู้ไหมฉันรำคาญ”เอลซ่าตะโกนประโยคสุดท้ายออกมาอย่างเหลืออดด้วยความโมโหสุดชีวิต แน่นอนว่าประโยคนี้ทำเอาแจ็ครู้สึกจุกอยู่ที่คอทันที แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินออกจากห้องเพื่อไปโทรหานอร์ทให้ส่งเงินมาให้
“ฉะ...ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”เอลซ่ารู้สึกว่าเธอทำผิดมหันต์กับคนที่เธอรู้จักกันเพียงสองวัน ไปตะโกนว่าเขาอย่างเป็นเอาเอาตาย
เอลซ่าจึงหยิบถุงซูเปอร์มาร์เก็ตที่เต็มไปด้วยของกินนานาชนิดขึ้นก่อนจะเดินเขาไปที่ห้อง เพื่อจัดเตรียมกับข้าวให้เธอกับเขาและเธอควรทำอะไรบางอย่างเป็นการขอโทษเขา
‘ฮัสโหล สวัสดีครับ สถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เดอะ การด์เดียนครับ’น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเจ้าของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า สดใสทักทายคนที่กำลังถือสายแจ็คอยู่ตอนนี้
“เฮ้ นอร์ทนี่ฉันแจ็คเองนะ”
‘อ้าวไงแจ็ค เห็นจดหมายของฉันแล้วใช่ไหม เป็นไงบ้างไปเที่ยว’คำถามมากมายออกมาจากโทรศัพท์ ทำเอาเขาเลือกไม่ถูกว่าควรตอบคำถามไหนก่อนดี
“เห็นแล้ว แต่นอร์ทไม่ได้โอนเงินมาให้ผม...แล้วผมจะเที่ยวยังไงล่ะ”แจ็คพูดประชดราวกับเน้นว่า เขาไม่มีเงินเลยสักดอลเดียว
‘เอ่อ...ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ทูธโอนเงินเข้าบัตรเครดิตให้แจ็คหน่อย’เสียงตะโกนของนอร์ทให้ทูธจัดการเรื่องนี้ให้
‘แล้วตอนนี้นายอยู่ยังไงเนี่ย’นอร์ทยังคงถามคำถามต่อไป เพื่อสืบสารทุกข์สุกดิบเกี่ยวกับแจ็ค
“ตอนนี้ผมอาศัยอยู่กับผู้หญิงชาวนอร์เวยครับ พอดีเธอมาเที่ยว...แต่ผมเพิ่งโดนเธอไล่มา”ประโยคสุดท้ายมันจุกที่คอของแจ็ค และยากเหลือเกินที่จะเปล่งออกมา
‘แม่สาวนั้นคงเอ็นดูนาย...เดี๋ยวนะแจ็คนายกำลังตกหลุมรักกับเธอเหรอ’นอร์ทพูดแบบนี้ทำอาแจ็คเผยหน้าชมพูออกมาเล็กน้อย
“ปะ...เปล่านะ ก็แค่ผู้ร่วม...เดินทาง”คำตอบของแจ็คทำให้นอร์ทมั่นใจเต็มร้อยว่า เขาตกหลุมรักเธอคนนั้นเสียแล้ว
‘ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดนายเลยนะแจ็ค แล้วที่โดนไล่เพราะทำตัวน่ารำคาญใส่เธอใช่ไหมนั้น’เมื่อนอร์ทตอกย้ำคำว่า น่ารำคาญทำเอาน้ำตาเขาเกือบจะเอ่อล้นออกมาแล้ว
‘แจ็ค โอกาสแบบนี้หายากนะ รีบไปขอโทษเธอซะ อ๋อจิมมี่จะคุยด้วยน่ะ’
‘พี่แจ็คสบายดีไหมฮะ ผมได้ยินตอนที่คุณลุงนอร์ทคุย พี่กำลังจะมีแฟนใช่ไหมฮะ ผมกำลังจะมีพี่สาวใช่ไหม พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอกนะ ผมอยู่กับคุณลุงนอร์ทสบายอยู่แล้ว’น้ำเสียงอันไร้เดียงสาของจิมมี่ ทำให้เขาถูกปลอบประโลมจากเหตุการณ์ชั่วครู่ เขารู้สึกได้ว่า เด็กน้อยของเขาโตขึ้นแล้ว
“พี่สบายดีจิมมี่ ดีแล้วที่เธอไม่อะไรไม่งั้นพี่คงเป็นห่วงแย่แน่ แต่ถ้าเรื่องแฟน พี่ว่าทั้งพี่กับเขาอาจจะไปกันไม่รอดหรอก”แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน
‘ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้พี่แจ็ค ถ้าพี่พยายามให้ถึงที่สุด เธออาจจะตกหลุมรักพี่ก็ได้’คำพูดปลอบประโลมของจิมมี่ทำให้แจ็ครู้สึกสดชื่นขึ้นมา พร้อมที่จะเดินก้าวต่อไป
“ขอบใจมากนะ พี่ต้องไปแล้วเจอกันนะ ฝากบอกขอบคุณนอร์ท และคิดถึงทูธด้วยนะ”แจ็คพูดพร้อมตัดสายไป ในขณะเดียวกันเสียงเตือนข้อความของโทรศัพท์ของแจ็คก็ดังขึ้น เมื่อเขาเปิดดูมันคือใบแจ้งว่าตอนนี้บัตรเครดิตของเขามีเงินแล้ว
“เรียบร้อยแล้วสะ”แจ็คพูดพร้อมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงของเขา ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องพักของเขากับเธอคนนั้น
กลิ่นหอมของเนยที่ถูกทาลงกระทะที่กำลังละลายถูกทับด้วยออมเล็ตกับผักชนิดต่างๆ หอมโชยออกมานอกห้อง ทำเอาแจ็คที่หิวมาตั้งแต่เช้า ท้องร้องดังทันที เมื่อเขาเดินเข้าไปก็เห็นเอลซ่ากำลังทำออมเล็ตที่เริ่มสุกได้ทีอีกจานนึงอยู่ เมื่อเอลซ่าหันไปหาแจ็ค พร้อมเผยยิ้มให้แจ็ค
“เป็นไงบ้าง เจ้านายบอกว่าไง”เอลซ่าพูดพร้อมยกออมเล็ตขึ้นจากกระทะเพื่อใส่จานที่เตรียมไว้ แจ็ครู้ว่าถ้าเขาบกว่า โอนให้แล้วเรียบร้อยอาจจะทำให้พลัดพรากจากเธอแน่นอน
“เอ่อ...อีกห้าหกวันกว่าจะเข้า พอดีเจ้านายกับลูกน้องคนอื่นๆเข้าไปพักร้อนกันอยู่”
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก มานั่งสิ”เอลซ่าพูดอย่างใจเย็น จนบางทีแจ็ครู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สามารถปรับอารมณ์เร็วเหมือนกัน
แจ็คเดินไปยังโต๊ะทานอาหารที่ถูกจัดเตรียม ส้อมกับมีดไว้เรียบร้อยแล้ว เขาค่อยๆเลื่อนเก้าอี้เพื่อนั่งรอแม่ครัวคนเก่งที่กำลังยกอาหารมาให้ทาน กลิ่นเนยและชีสที่ถูกโรยที่หน้าของออมเล็ตลอยมาเตะจมูกของแจ็ค ทำเอาเขารอไม่ไหวแล้วที่จะทานมัน เอลซ่าค่อยๆเสิร์ฟจานออมเล็ตอันใหญ่ให้กับแจ็ค จากนั้นเธอค่อยเสิร์ฟให้ตัวเอง แต่เมื่อเธอกำลังจะนั่ง เธอก็เห็นว่าแจ็คตั้งหน้าตั้งตาทานไปเรียบร้อยแล้ว
“อร่อยไหม”เอลซ่าเอ่ยถาม แอบอมยิ้มไม่ได้พอเห็นแจ็คทานออมเล็ตอย่างมีความสุข
“ใช้ได้เลยนะเนี่ย เพิ่งรู้ว่าคุณนี้ทำอาหารอร่อยขนาดนี้”แจ็คเอ่ยชม ทำเอาเอลซ่าฉีกยิ้มกว้างทันที
“ขอบคุณนะ...และก็...ขอโทษด้วยสำหรับตอนนั้น”คำขอโทษของเอลซ่า ได้ทำให้แจ็คตะลึงจนหยุดกิน และมองไปหาเธอ
“ฉันไม่ควรพูดกับคุณแบบนั้นเลยนะ”เอลซ่าพูดพร้อมดวงตาที่กำลังสั่นระริกพร้อมกับมือที่สั่นเทา เพราะแน่นอนเขาคือคนแรกที่ทำให้เธอระเบิดขนาดนี้
“เฮ้ ฉันเข้าใจนะ มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น คนเราต้องมีผิดพลาดกันบ้าง และถ้าเธอไม่พูดตรงๆฉันคงไม่เลิกแกล้งเธอหรอก”แจ็ควางมือที่จับส้อมอยู่ไปกุมมือของเอลซ่าเบาๆ ทำให้เอลซ่าสัมผัสได้ถึงความอุ่นของมือผู้ชายคนนี้
“นายไม่จะโกรธฉันจริงๆฉันไหม”เอลซ่าที่ตอนนี้น้ำตาได้เหือดแห้งไปแล้วเหลือไว้แต่เพียงดวงตาที่จริงจังเท่านั้น
“แน่นอน ฉันไม่ได้โกรธเธอเลยสักนิด”คำตอบของแจ็คทำให้เอลซ่ารู้สึกโล่งใจขึ้นอีก จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไร
“แล้วพวกเราจะเดินทางไปเทคาโปตอนไหน”แจ็คทำลายบรรยากาศเงียบครั้ง ทำให้เอลซ่าเงยหน้าขึ้นมา
“วันนี้ตอนบ่ายสองโมง”
ความคิดเห็น