ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Jelsa ] Snow in your heart

    ลำดับตอนที่ #5 : 4 Good night, My sleeping beauty

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 330
      6
      22 ก.พ. 58

    4

    Good night, My Sleeping Beauty

    ร่วมเดินทางกับเธอ คำๆนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเอลซ่า

            เธอไม่แน่ใจว่า เธอควรที่จะรู้สึกดีกับคำพูดของคนที่นั่งข้างตอนขึ้นเครื่องบินกับตามมาด้วยหรือเปล่า พร้อมกับปฏิกิรยาของเธอกับเขาที่กอดเขาโดยไม่รู้ตัว ทำเอาหัวใจเธอหวั่นไหวเสียไม่น้อย แต่ทว่าเธอเพิ่งรู้จักเขาเพียงวันเดียวเท่านั้น ไม่ควรที่คิดเรื่องแบบนี้ เธอจึงสลัดความคิดนั้นออกไป ก่อนที่จะหันไปมองชายหนุ่มเรือนผมสีเงินที่กำลังดูท่าจะเคลิ้มหลับเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการดูหนังมาราธอนตลอดขึ้นเครื่องบวกกับวิ่งมาที่รถบัส คงทำเอาเขาเหนื่อยเสียไม่น้อย

    คงต้องปล่อยให้เขาหลับไปก่อนแล้วกันเอลซ่าคิดในใจก่อนหันออกไปยังนอกต่าง

            แสงอาทิตย์ของฤดูหนาวเริ่มหริหรี่ลงทุกที ทั้งทีตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาว่าเพิ่งห้าโมงเย็นเสียด้วยซ้ำ เอลซ่ามองไปยังท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีครามม่วงก่อนที่ไล่มาเป็นเฉดสีส้มบริเวณพระอาทิตย์ตกดิน

    สวยจังเลยเอลซ่าพูดพร้อมเปิดกระเป๋าแบ็กแพ็คใบเก่งออก เพื่อค้นหากล้องที่เธอเตรียมมา แต่ทว่า

    อืม...เสียงของคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆเธอดังขึ้นเพื่อบิดขี้เกียจ ก่อนที่จะหันหน้าไปยังเอลซ่าพร้อมคว้ากระเป๋าของเอลซ่าไปกอด

    คุณ...เอลซ่าสะกิดแผ่นหลังกว้างของแจ็ค เพื่อให้เขารู้สึกตัว แต่มือของแจ็คกับปัดมือของเอลซ่าออก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเขา

    จะเอากล้องยังไงดีเนี่ยเอลซ่าพึมพำกับตัวเองเบาๆ เธอยื่นมือไปจับกระเป๋าของเธออีกครั้ง แต่ก็ไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะแจ็คยังคงปัดมือเธอออกไป

    เอลซ่าเหลือบกลับไปมองยังหน้าต่างข้างรถบัส ท้องฟ้าเฉดสีส้มเริ่มจางหายไปพร้อบกับแสงตะวันที่จะลับขอบฟ้าในอีกไม่ช้า แน่นอนว่าเธอไม่มีเวลามากพอที่มาเล่นดึงกระเป๋ากับคนขี้เซาแบบนี้ เอลซ่าจึงรีบคว้าหูสะพายกระเป๋าพร้อมออกแรงดึงสุดกำลัง เพื่อให้กระเป๋าของเธอสามารถหลุดจากพันธนาการของมือปลาหมึกได้

    สำเร็จเอลซ่าพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อเธอสามารถดึงกระเป๋าให้หลุดได้แล้ว เธอไม่รีรอที่จะหยิบกล้องสีดำของเธอออกมาจากกระเป๋าพร้อมหันไปยังนอกหน้าต่างเพื่อจับโฟกัสของแสงทันที

    เหวอ!!” ขณะนั้นเองมือปลาหมึกของคนที่อยู่ข้างเอลซ่า ได้รั้งเอวบางของเธอไว้ก่อนที่จะฉุดลงไปที่นั่งอันแสนเล็ก ทำเอาเอลซ่าผว่าไม่น้อย

    อืม...จิมมี่ ใจเย็นนะๆ พี่อยู่นี้แล้วๆ มืออีกข้างที่ว่างจากการรั้งเอวของเอลซ่า ลูบหัวของสาวผมสีบลอนด์แพลตตินัมอย่างอ่อนโยนราวกับปลอบใจเด็กน้อยคนนึง

    คุณ...ฉันไม่ใช่จิมมี่สักหน่อย เอลซ่าพูดก่อนที่วางกล้องลงที่เก้าอี้ของเธอ หลังจากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างพยายามแกะมือคนหลับที่โอบกอดเธอไว้อย่างเนี่ยวแน่น แต่แล้วมือทั้งสองข้างของเอลซ่าก็ถูกรวบด้วยอุ้งมือใหญ่ของคนที่หลับไหลอยู่ ซึ่งตอนนี้มือที่เคยลูบหัวเอลซ่าเริ่มไล่ลงมาที่ใบหน้า...ปาก...และเนิน...

    อุ๊บ!” เสียงร้องของคนที่นอนหลับไหลตั้งแต่ขึ้นรถยันฟ้าจะตกดินต้องตื่นขึ้น ด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดที่สุด เพราะรู้สึกว่ามีอะไรบ้างอย่างมากระทุ้งบริเวณเป้ากางเกงของเขา ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวดที่สุดก่อน มือที่เคยรั้งเอวของร่างเล็กได้ถูกปลดปล่อยทำให้เอลซ่ารีบกับไปนั่งที่เดิมทันที

    คุณ...ทำ...บะ...บ้าอะไรของคุณเนี่ยแจ็คพูดหันกลับมองเอลซ่าที่กำลังทำเป็นไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้น อีกมือก็จับบริเวณท้องไว้

    ก็คุณแต๊ะอั๋ง ฉันก่อนน่ะสิ

    ตอนไหน ผมเปล่า ผมไม่ทำอะไรคุณเลย แล้วคุณมาเตะผมทำไมเนี่ย

    ตอนคุณหลับเมื่อกี้น่ะสิ เอลซ่าพูดพร้อมทำหน้าบูดบึ้ง ให้แจ็ครู้ว่าเขากำลังโกหกอยู่

    ผมไม่ทำจริงๆแจ็คยังคงยืนยันคำเดิม

    คุณทำเอลซ่าทำเสียงแข็ง ว่ายืนยันว่าเขาทำ

    ชู่ว...เสียงบอกให้เงียบของผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่ในรถบัสคันเดียวกับเอลซ่าและแจ็ค ทำให้การปะทะคารมต้องหยุดลง

    เฮ้อ เพราะคุณคนเดียวเลยนะ คุณป้าขี้บ่นแจ็คพูดขึ้น ตอนนี้อาการจุกเกือบหายแล้ว ทำให้เขาเอนกายทำท่าจะนอนต่อ

    ส่วนเอลซ่าก็ได้แต่ทำเสียงจิ๊กจักในลำคอหันกับยังภาพที่เธอจะถ่าย แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปซะแล้ว

    สายเกินไปซะแล้ว เพราะคุณคนเดียวเลยนะเอลซ่าทำหน้าเศร้าแต่ในขณะเดียวกันเธอก็หันไปมองต้นหมายปลายเหตุที่ทำให้เธออดได้รูปถ่าย ด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมอย่างโมโห แต่ดูเหมือนว่าบุคคลที่เอลซ่ากล่าวถึงนั้นได้เข้าสู่โหมดหลับเรียบร้อยแล้ว

    คุณนี้มัน...ตัวก่อกวนชัดเอลซ่าบ่นใส่แจ็คแบบเบาๆ พร้อมกับเก็บกล้องลงไปในกระเป๋าเหมือนเดิม

    ถ้าฉันลงเมื่อไหร่ จะไม่เรียกเขาลงด้วยเด็ดขาดเอลซ่าพูดในใจ พร้อมเก็บของต่างๆที่กระจักกระจายอยู่ทั่วที่นั่งของเธอใส่กระเป๋า เมื่อเธอเห็นป้ายใหญ่ ที่เขียนว่า ทีมารู เป็นสถานีที่เธอต้องลงจอดไว้

    เมื่อเข้าสู่ เมืองทีมารู เมืองท่าอันแสนสงบ  ในยามราตรี ทั้งถนน บ้านเรือนร่วมไปถึงห้างสรรพสินค้า ต่างไร้วี่แววของผู้คนที่จะพลุกพล่านออกมาเดินเล่นยามวิกาล ร้านค้าทุกร้านปิดร้าน ทำให้บรรยากาศไม่ค่อยที่จะครึกครื้นเหมือนกับเมืองออสโลเสียเท่าไร เอลซ่ารู้สึกชอบที่นี่ เหมือนกับว่าเธอไม่ต้องมากังวลว่าใครจะนินทาว่าเป็น ราชินีหิมะ ไม่ต้องกลัวที่จะออกไปข้างที่จะต้องเผชิญหน้าผู้คนมากมายหลายตา เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใคร ในเมืองนี้ ยกเว้นแต่ผู้ชายที่คนที่นอนข้างๆเธอนั้น จะทำให้เธออับอาย

     “ทีมารู มีใครจะลงไหมครับ ทางด้านคนขับพูดดังขึ้น เมื่อถึงป้ายรถประจำทางของเมืองทีมารู

    ฉันค่ะเอลซ่าพูด พร้อมยกกระเป๋าสะพายหลังหนึ่งข้าง และพยายามก้าวข้ามขาของคนที่นอนหลับออกไปด้วยความยากลำบาก

    เป็นการนอนที่ไม่มีมารยาทสุดเมื่อผ่านวิกฤตนั้นมาได้ เธอจึงปัดกระโปรงเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินไปยังประตูหลัง แต่ทว่าโดนมืออีกมือฉุดรั้งเธอไว้

    คุณจะไปไหนแจ็คพูดพร้อมด้วยสีหน้าที่จริงจัง ราวกับว้เขาตื่นตั้งนานแล้ว

    ก็ลงจุดหมายของฉันไง ปล่อยมือฉันเอลซ่าพูด และแกะมือแจ็คแต่ดูท่าจะไม่สัมฤทธิ์ผล

    ทำไมไม่ปลุกผมล่ะ

    มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ที่จะต้องมาปลุกคุณ

    แต่ผมบอกคุณว่า จะร่วมเดินทางกับคุณแจ็คพูดราวกับจับผิดอีกฝ่ายที่พยายามหนีออกจากเขา

    ก็แค่ในรถไม่ใช่เหรอเอลซ่าตอบอย่างทันควัน พร้อมเริ่มที่จะสลัดมือของเขาออก

    เปล่า ผมหมายถึง ไปทุกที่ที่คุณไปต่างหากแววตาของเอลซ่าเบิกกว้าง เมื่อได้ยินคำตอบของแจ็ค ทำเอาเธอแทบจะใจหายเลยที่เดียว ราวกับเธอกับเขาจะแยกจากกันไม่ได้เลยสักวันใช่ไหม

    ในความคิดเธอตอนนี้ตอนนี้มีคำตอบอย่างเดียว คือ ‘ไม่แต่ยากเสียเลียเกินที่จะพูดมันออกมา เพราะแววตาอ้อนวอนเหมือนน้องหมาขออาหารนั่นทำให้เธอลังเล

    นี่ คุณหนู ถ้าจะลงก็รีบลงนะไม่งั้นผมจะขับรถต่อแล้วฝ่ายคนขับก็เริ่มบื้บคั้นเธอ ให้รีบตอบคำถามให้ไปด้วยหรือไม่ไปด้วย

    เอาเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเอลซ่าหลับตาลงก็จะเปิดขึ้นช้าๆ

    ดะ...ได้เอลซ่าตัดสินใจพูดออกมา รอยยิ้มของแจ็คปรากฏทันที พร้อมปล่อยมือที่คว้าแขนของเอลซ่าออก ความหนักของมือทำเอาข้อมือซ้ายของเธอแดงอย่างเห็นได้ชัด

    คุณนี้มันมือปลาหมึกชัดๆเอลซ่าพูดพร้อมจับข้อมือตัวเองให้หายแดง

    ถือว่า เอาคืนสิ่งที่คุณทำกับผมไว้ไงแจ็คพูดพร้อมดึงที่ลากกระเป๋าขึ้นมา

    ไปกันแจ็คพูดพร้อมจูงข้อมือของเอลซ่าไปยังประตูหลังรถ

    ขอบคุณครับแจ็คพูดพร้อมเดินลงจากรถกระเป๋าลากของเขา ตามด้วยเอลซ่าที่มือของเธอด้วยจูงอยู่

    เอ่อ...ขอบคุณนะคะเอลซ่าพูดเมื่อก้าวออกจากรถขั้นสุดท้าย

    ประตูรถค่อยๆเปิดลงแบบอัตโนมัติ จากนั้นรถก็ขับเคลื่อนออกจากตรงที่เขาสองอยู่อย่างรวดเร็ว แจ็คมองตามรถคันนั้นไปไกลจนริบตา ก่อนที่จะหันมามองเอลซ่าที่กำลังใช่มือถือของเธอ ค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของโมเทลที่น้องสาวของเธอจองไว้

    คุณจองโมเทลตรงไหนแจ็คถาม แต่ดูเหมือนว่าเอลซ่ากำลังใช้สมาธิกับการหาตำแหน่งอยู่

    โมเทลที่อยู่ใกล้ๆแถวนี้แหละเอลซ่าพูดพร้อมหันไปยังทางตะวันออก และเจอชื่อโมเทลที่ชื่อเดียวกับเธอค้นหาพอดี

    ไปกันเอลซ่าพูดพร้อมเดินนำแจ็คไป แต่ทว่าดูเหมือนเขาจะไม่ตามมา

    คุณผมมีเรื่องจะบอก คำพูดของแจ็คทำให้ก้าวเดินของเอลซ่าหยุดลง พร้อมหันหลังกับไปมองเขาอย่างสงสัย

    เรื่องอะไร

    ผมไม่มีเงินเลยซักดอลลาร์ คำตอบของแจ็คทำเอาเอลซ่าตะลึง และหันหลังเดินกลับมาที่ตำแหน่งที่เขายืน

    คุณบ้าไปแล้วหรือไง แล้วตอนที่บัส...

    ผมไม่ได้จ่ายแจ็คทำหน้านิ่ง แต่ก็แอบหลุดขำ เพราะสีหน้าท่าทางของเอลซ่าที่เป็นเดือดเป็นร้อนมากที่สุด

    ฮืม...เอาล่ะ งั้นฉันขอถามคุณว่าคุณมีอะไรบ้างแล้วกัน เอลซ่าพยายามกั้นโมโหสุดชีวิตถามคำถามคนที่ไม่มีเงิน

    กระเป๋าสตางค์

    มีแต่ไม่มีเงิน

    มือถือ

    มีไม่ได้ซื้อซิมส์ เพราะไม่มีเงิน

    บัตรเครดิต

    มี...แต่ไม่มีเงินเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทำให้เอลซ่ายิ้มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ต้องหุบทันทีเพราะ คำว่า ไม่มีเงิน

    นี้คุณจะเตรียมอะไรมาบ้างไหม ในชีวิตเอลซ่าพูดด้วน้ำเสียงโมโหที่สุด ผิดกับใบหน้ากับชายหนุ่มที่ยังคงนิ่งเฉยอยู่

    ก็ตอนแรก ผมคิดว่าจะต้องมาธุระน่าจะมีคนมารับ แต่พอผมรู้ว่าเจ้านายของผมให้เที่ยว ผมก็เลยตามคุณมา

     คำพูดนี้ทำเอาเอลซ่าหยุดหายใจ ชั่วขณะ ร่วมเดินทางกับเธอ ทั้งทีเธอแอบคิดว่า เขามาเพื่อไปกับเธอ ไม่ใช่เลย ที่เขามาเพราะไม่มีเงิน

    คุณก็เลยคิดว่า ฉันจะยอมช่วยคุณเอลซ่าพูดพร้อมชี้มาที่ตัวเอง แจ็คไม่พูดอะไรแต่พยักหน้า

    โอเค เจริญเอลซ่าพูดพร้อมหันหลังกับไป เพื่อเดินไปยังโมเทลด้วยท่าทางฟึดฟัด ชายหนุ่มที่เดินตามข้างล่างก็แอบขำเล็กน้อยเพราะกิริยาของเธอ จากสาวมาดนิ่งสู่สาวขี้วีนดูน่ารักไปอีกแบบ

    สวัสดีค่ะ โมเทล ซีเบย์ไซด์ ยินดีต้อนรับค่ะ เป็นไงบ้างค่ะ พนักงานสาวพูดพร้อมลุกขึ้นยืนเมื่อเอลซ่าเดินเข้า ทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส พร้อมถามสารทุกข์สุกดิบ ตามธรรมเนียม

    โอเคค่ะ ขอบคุณถึงแม้ว่าคำพูดจะบอกว่าดี แต่ท่าดูจากสีหน้าของเอลซ่าตอนนี้แทบบูดจนกลายเป็นนมบูดแล้ว

    คุณเอลซ่า เอเรนน์เดลล์ที่จองห้องนอน แบบซิงเกิลรูม ใช่ไหมค่ะ

    ใช่ค่ะ แต่ช่วยจองห้องซิงเกิลรูม อีกห้องหน่อยได้ไหมค่ะ พอดีเพื่อนฉันหลงทางมาค่ะเอลซ่าพูด และเน้นประโยคสุดท้ายพร้อมหันไปหาแจ็คที่อยู่ข้างหลังเธอ

    ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ พอดีซิงเกิลรูม เหลืออยู่ห้องเดียวจริงๆ คุณอัพเกรดเป็นห้องทวินไหมค่ะ เป็นแบบมีสองเตียง

    จะดีหรอค่ะเอลซ่าพูดพร้อมหันกับไปมองแจ็คที่ยืนรอเธออยู่

    ดีสิค่ะ คุณจะได้ประหยัดเงินลงด้วยไงค่ะพนักงานสาวพูดอย่างอารมณ์ดี

    โอเค งั้นตามนั้น เมื่อเอลซ่าได้ยินดีคำว่าประหยัด เธอตัดสินใจทันทีโดยไม่รีรอ

    ได้ค่ะ นี่นะคะ กุญแจห้องเบอร์ 151 ห้องอยู่ทางฝั่งซ้ายมือสุดเลยนะคะ ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะพนักงานหญิงพูดพร้อมผายมือไปทางซ้าย

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เอลซ่าพูดพร้อมเดินมุ่งไปยังซ้ายมือ โดยมีแจ็คเดินตามอยู่ข้างหลัง

    ผมเพิ่งรู้นิสัยคุณอีกอย่างนึงเลยนะเนี่ย แจ็คพูดติดตลกทำให้เอลซ่าหันไปมอง

    นายรู้อะไรเอลซ่าหันหลังกับไปมองแจ็คด้วยแววตากึ่งโมโห กึ่งสงสัย

    คุณขี้งก คำพูดนี้ไม่ค่อยทำหลายจิตจของเธอมากทำไร เพราะเธอรู้ตัวอยู่แล้ว

    อืมแล้วไงเอลซ่าตอบกลับอย่างห้วนๆ ทำให้แจ็คหุบยิ้ม เหมือนว่าเธอยังโกรธเขาอยู่  

    เอลซ่ายังคงเดินนำหน้าต่อไปเรื่อยๆ โดยมีแจ็คเดินตามอยู่ข้างหลังพรางๆ ทั้งสองต่างไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากทั้งสองคน ราวกับบรรยากาศสุดมาคุ ก็เริ่มก็ก่อตัวมากขึ้น ตอนนี้เท้าที่เคยเดินของเอลซ่าได้หยุดลง ที่หน้าห้องหมายเลขเดียวกับกุญแจก่อนที่เธอค่อยๆเอาลูกกุญแจสอดไปที่ประตู

    ผมขอโทษนะแจ็คเป็นคนแรกที่เปิดบทสนทนา เอลซ่าหันกลับไปมองเขาอย่างฉงนใจ

    ขอโทษฉันทำไม ไม่เกี่ยวเลย เดี๋ยวนายค่อยใช้โทรศัพท์ฉันโทรหาเจ้านายของนายทีหลังก็ได้เอลซ่าพูดพร้อมบิดลูกกุญแจไปทางขวามือ

    ผม ไอ.โอ.ยู (ติดหนี้) คุณจริงๆนะ

    คนเราต้องช่วยเหลือคนอื่นเป็นธรรมดา เอลซ่าพูดพร้อมส่งยิ้มบางๆให้เขา พร้อมเปิดสวิตช์ไฟขึ้น

      ห้องที่เคยมืดได้เปลี่ยนเป็นสว่าง แสดงให้เห็นถึง เตียงนอน สองหลังที่อยู่คนละฝั่ง ซ้ายกับขวา บริเวณ ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูที่เอลซ่าเปิดทางด้านขวา และห้องครัวเล็กๆ ที่มีไมโครเวฟ เตาอบขนาดย่อมให้พวกเขาทำข้าวเช้ารับประทาน

    ฉันนอนฝั่งนี้นะ ส่วนคุณก็นอนฝั่งนู่นเอลซ่าวางกระเป๋าลงบนเตียง และชี้ไปเตียงที่ยังว่างอยู่

    โอเคงั้น ผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะ แจ็คพูดพร้อมถอดเสื้อตัวนอกออก ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องไปอย่างเงียบ

    อืมเอลซ่าพยักหน้าตอบ แล้วทุ่มตัวลงบนเตียงที่แสนสบายทันที ด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทางอย่างหนักของวันนี้ทำให้เปลือกตาที่เคยสว่างได้จนถึงเที่ยงคืน ต้องปิดลงอย่างช้าๆ

    ผ่านไปประมาณห้านาที ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของชายหนุ่มที่นุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวที่เอว เผยให้เห็นผิวขาวเนียนของเขา ผมที่ยังคงเปียกชุ่มน้ำ หันไปมองหญิงสาวผมสีบลอนด์อ่อนที่ตอนนี้หลับไหล โดยไม่รู้เลยว่ากระโปรงของเธอเลิกขึ้นมาถึงไหน

    ไม่ระวังตัวเอง เอาเสียเลยนะแจ็คพูดพร้อมเดินไปใกล้เอลซ่า ค่อยๆมือดึงกระโปรงที่เลิกขึ้นมาให้กลับไปที่เดิน พร้อมดึงผ้าห่มมาถึงบริเวณอกของหญิงสาว

    เขาจ้องมองใบหน้ายามหลับของเอลซ่า เป็นใบหน้าที่ดูน่ารักที่สุดที่เขาเคยเห็นมา เขาไม่รู้อะไรดลใจให้เขามองเธอตั้งแต่อยู่ที่สนามบินที่ออสโล เครื่องบิน จนมาถึงตอนนี้ที่เขาได้นอนห้องเดียวกันกับเธอ เขารู้สึกดีที่มีเธออยู่ข้างๆถึงแม้ว่าเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย เขาลูบหัวเอลซ่าเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนที่โน้มตัวลงไปข้างๆหู

    ราตรีสวัสดิ์ เอลซ่า เจ้าหญิงนิทราของผม

    LT
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×