black suit ชายชุดสูทสีดำ [ฤดูร้อน2014]
เมื่อคุณเห็นความตายกำลังจะมาคุณจะทำอย่างไร ยอมให้ตาย หรือ จะโกงความตายหละ
ผู้เข้าชมรวม
260
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ชายชุดสูทสีดำ
Mr.mon:เขียน
ท่ามกลางหาดทรายในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ลมทะเลถูกพัดพาเข้าฝั่งทำให้ได้กลิ่นอายแห่งน้ำทะเล มีเด็กกลุ่มหนึ่งประมาณ หกคน อายุราวๆสิบเจ็ด กำลังนั่งจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวอยู่ริมหาดทราย เสียงคลื่นน้ำกระทบชายฝั่ง ปน กับเสียงดนตรีที่ออกมาจากวิทยุตัวจิ๋ว มันทำให้คนบริเวณนั้นครึกครื้นขึ้นมาทันที
ซึ่งต่างกับเด็กอีกคนหนึ่งซึ่งมานั่งแยกตัวออกจากเพื่อนๆ มานั่งอยู่ที่ริมทะเล เขาเอานิ้วปาดไปมาตามพื้นทราย สายตาจ้องไปยังเส้นขอบฟ้าที่อยู่ริมทะเล เด็กหนุ่มคนนี้มีนามว่า 'เกียร์'เขามีนิสัยที่เงียบๆไม่สุงสิงกับใครมาแต่นานแล้ว
" อ้าวเกียร์ทำไมมานั่งตรงนี้หละ......ไม่ไปอยู่กับเพื่อนๆหละ" เสียงใสๆของ 'มิ้น' เอ่ยขึ้นก่อนที่จะมานั่งข้างเกียร์
" เราชอบอยู่คนเดียวมากกว่า......." เด็กหนุ่มพูดพลางใช้นิ้วปาดเล่นที่ทรายไปมา
" อ่ะนี่ฉันเอามาให้" มิ้นพูดก่อนที่จะหยิบจานบาร์บีคิวออกมา แล้วยกให้เกียร์
" ขอบใจนะ" เด็กหนุ่มพูดสั้นๆ สายตาของเขายังคงมองไปที่ทะเล
" เฮ้......ทั้งสองคนไปแล่นเรือสปีดโบทกันไหม" เสียงของ พีช ตะโกนขึ้นทำให้ทั้งมิ้น และเกียร์ต้องหันไปทางเดียวกัน เกียร์จ้องมองไปที่กลุ่มเพื่อนทั้งสี่ ตอนนี้มีชายชุดสูทสีดำยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนเขาทุกคน
" ไปไหม...เกียร์" มิ้นหันมาถามเกียร์ เกียร์ส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ไป ทำให้เด็กสาวตกลงบอกลาเพื่อน
" พวกฉันไม่ไปหรอก....ไปเล่นกันเลย" มิ้นพูดก่อนที่จะนั่งลงที่พื้นทราย เพื่อนจึงไม่สนใจเดินไปที่ท่าเรือ สายตาของเกียร์มองมาที่มิ้นอย่างสงสัย
" มิ้นเห็นไหม...." เกียร์พูดแล้วมองหน้ามิ้นอย่างคาดหวังกับคำตอบ
" เห็นอะไรหรอ" เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัย
" ชายชุดสูท.......เธอไม่เห็นหรอ" เกียร์เอ่ยขึ้น มิ้นส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่ทั้งคู่จะต้องหยุดบทสนทนา เพราะเสียงกรีดร้องขอใครบางคนดังออกมา
ร่างของ แพท เพื่อนของพวกเขาได้ตกลงจากเรือทางด้านหน้า ก่อนที่จะโดนเรือสปีดโบทแล่นทับร่างของเธอ เลือดสีแดงแผ่ซ่านปนกับน้ำทะเล ก่อนที่เรือทั้งลำจะหยุดชะงักกลางทะเล
" เฮ้ยรีบไปดูไอแพทเร็ว" เสียงของพีช ตะโกนขึ้นอย่างเร่งรีบ ก่อนที่ปอจะรีบวิ่งไปที่หน้าเรือ เขาพยามมองหาร่างของแพทแต่กับไม่พบ
" กรี๊ด........!" เสียงแหลมของโบว์ ดังขึ้นทำให้ทั้งหมดหันไปทางเธอ
" พะ....พะ..แพท..แพทติดอยู่ที่ใบพัดเรือทางด้านหลัง" โบว์พูดอย่างสั่นเครือ พลางชี้นิ้วไปทางหลังเรือ
"ไปดูเร็ว" พีชพูดก่อนที่จะวิ่งไปข้างหลัง หัวของแพทติดอยู่ที่ใบพัดเรือ เลือดสีแดงไหลนองทั่วผืนน้ำ ร่างของแพทแน่นิ่ง มันเป็นสัญญาณว่าเเพทนั้นตายไปแล้ว !
ปอเอื้อมมือดึงร่างของแพทขึ้นแล้ววางลงที่พื้น และใบพัดเรือก็กลับมาทำงานได้อีกครั้ง เท้าของเขาลื่นเลือดของแพท ก่อนที่ร่างของปอจะตกลงไป ใบพัดตัดฉีกหัวของปอ เศษเนื้อยุ้ยกระจายเต็มเรือ เลือดข้นถูกสาดไปมาตามแรงปั่น
เรือที่แล่นช้าๆกับแล่นเร็วผิดปกติ เรือมุ่งหน้าไปที่กองหินโสโครกขนาดใหญ่ ก่อนที่เรือจะพุ่งตรงไปชนเข้าเต็มๆ แรงอัดกระแทกทำให้เรือระเบิดขึ้น ร่างเพื่อนที่อยู่บนเรือถูกแรงระเบิดอัด ร่างกายไหม้ดำเป็นตอตะกอ
มิ้น และ เกียร์รีบวิ่งไปที่จุดเกิดเหตุทันที แต่มันสายไปแล้วเพื่อนของเขาที่ขึ้นเรือไปเสียชีวิตทั้งหมด มิ้น เข่าทรุดทันที น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เกียร์ก็ไม่ต่างจากมิ้นเขายืนขาสั่น น้ำใสของเขาไหลออกมาค้างที่ตาของเขาทั้งสองข้าง
หลังจากเกิดเหตุสองวัน
ภายในห้องนอนอันมืดมิดมีเพียงแสงสว่างสีทองที่ลอดออกมาจากผ้าม่าน มีเกียร์นั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนเตียง ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อสองวันก่อนเกียร์ก็ดูแปลกไป เขาไม่ยอมออกจากห้อง
เกียร์เงยหน้าดูนาฬิกา เข็มสั้นชี้เลขสิบสองเข็มยาวชี้เลขหนึ่ง เมื่อเห็นดังนั้นเด็กหนุ่มจึงพยุงร่างของตัวเองเดินลงบันได เขามองไปที่ปฏิทิน
" วันสงกรานต์หรอ.....เร็วจัง" เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เย็นมีกระดาษแผ่นสีเหลืองถูกแปะไว้อยู่ มีข้อความถูกเขียนไว้ว่า
" วันนี้พ่อกับแม่จะไม่อยู่บ้านนะจ๊ะ พ่อกับแม่จะไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัดสักสองวัน ต้องขอโทษด้วยนะลูกที่แม่ไม่ได้บอก เห็นลูกดูเศร้าเลยไม่อยากรบกวน แม่ทำกับข้าวไว้แล้วอยู่ในตู้เย็นเอาเวฟได้เลย แล้วเงินอยู่ที่หลังหมอนของแม่เอาไปได้เลยหละ ดูแลตัวเองด้วยนะ จากแม่ "
เด็กหนุ่มอ่านข้อความก่อนที่จะดึงมันออกแล้วเปิดตู้เย็น เกียร์เลือกที่จะหยิบ ช็อคโกแลตแล้วเดินไปที่ประตูบ้านเขาใส่รองเท้าแล้วตรงดิ่งไปที่สวนข้างบ้าน
" อ้าวไอ้เกียร์ไม่ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเขาบ้างหละ อยู่แต่ในบ้านน่าเบื่อจะตาย"
เด็กหนุ่มมีนามว่า 'ฟลุ๊ค' ขี่จักรยานคันเก่าผ่านหน้าบ้านเกียร์ แทนที่เขาจะสนใจฟลุ๊ค แต่เกียร์สนใจสิ่งที่อยู่ข้างหลังฟลุ๊คมากกว่า ร่างของชายสวมชุดสูทสีดำนั่งค่อมจักรยานของฟลุ๊คอยู่ มันเหมือนกับชายชุดสูทที่เขาเห็นยืนอยู่ข้างหลังเพื่อนเขาก่อนตาย เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้ว
" เอียดดดด.....โครม....!" รถกระบะคันสีดำพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วก่อนที่จะชนเข้ากับจักรยานของฟลุ๊ค ร่างของฟลุ๊คกลิ้งไปที่หลังคารถก่อนที่จะตกลงพื้น หัวของเขากระแทกเข้ากับกระจกรถ ทำให้เห็นสมองเวอะออกมาเลือดสีแดงผสมเข้ากับมันสมองสีขาวขุ่นดูสยองกับคนที่พบ เลือดสีแดงข้นไหลออกมาจากบาดแผลตามลำตัว กระดูกที่ขาหักแทงทะลุออกมานอกผิวหนังส่งผลให้เห็นกระดูกสีขาวโผลนทะลุผิวหนัง ร่างของฟลุ๊คชักตุกสามทีก่อนที่จะแน่นิ่งไป
" ฟลุ๊ค...!" เกียร์วิ่งเข้ามาที่ร่างของฟลุ๊คแต่ไม่ทันแล้ว เขาเสียชีวิตแล้ว เด็กหนุ่มนั่งน้ำตาซึม
อยู่หน้าศพฟลุ๊ค ทำไมกัน ทำไมเรื่องร้ายๆถึงไม่หยุดซักที เด็กหนุ่มได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปมา สักพักหนึ่ง จำหน้าที่ตำรวจ และรถพยาบาลก็มา ทำให้เด็กหนุ่มต้องออกจากที่เกิดเหตุ
เกียร์เดินเข้าไปในบ้านก่อนที่จะไปนั่งบนโซฟาที่ห้องรับแขก และอยู่ดีๆความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา
เขาเดินไปที่โต๊ะคอมตัวโปรดก่อนที่จะกดเปิด เขานั่งรอสักพักหน้าจอก็สามารถทำงานได้เด็กหนุ่มลองค้นหาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ตดูเกี่ยวกับชายชุดสูทสีดำ และเขาก็ได้ทราบคำตอบ
สิ่งที่เขาเห็นคือ......ยมทูต!
" กริ้ง...กริ้ง..กริ้ง" เสียงกดออดหน้าบ้านดังขึ้นก่อนจะมีเสียงคุ้นหูดังแทรกมา
" เกียร์......อยู่รึเปล่า" เสียงของมิ้นดังออกมาจากหน้าบ้าน ทำให้เด็กหนุ่มเดินออกไปเปิดประตู
" ฉันมีเรื่องที่จะปรึกษาเธอหน่อย" มิ้นพูดก่อนที่จะหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าออกมา มันคือรูปถ่าย
" ฉันถ่ายรูปเล่นตอนจัดงานปาร์ตี้มา แต่รูปมันแปลกๆ" มิ้นพูดก่อนที่จะยื่นรูปให้เกียร์ดู มันเป็นรูปเพื่อนสี่คนยืนกอดคอกันอยู่ แต่สิ่งที่แปลกคือบริเวณศีรษะมีรอยเบลอๆเกิดขึ้นกับทุกคน ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด และบริเวณไหล่ มีแขนโผล่ออกมา ทั้งๆที่ตอนถ่ายไม่น่าจะมีคน
เด็กหนุ่มจ้องไปที่แขนนั้นบริเวณแขนมีเสื้อสีดำโผล่มาเด็กหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนที่จะส่งภาพนั้นให้
" ฉันคิดว่า........." เด็กหนุ่มหยุดพูดสักพักก่อนที่จะพูดต่อ
" มันคือยมทูต.......เท่าที่ฉันรู้ถ้ายมทูตเดินตามใครคนนั้น....ถึงฆาต..!" เสียงของเกียร์ดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิม
" และฉันเห็นมันอยู่ที่หลัง ไอพีช แพท โบว์และ ปอ ก่อนที่พวกนั้นจะตาย" คำพูดของเกียร์ทำเอาคนฟังตาค้างเลยทีเดียว
" เออใช่ตอนฉันเข้ามามีคนมุงอะไรเต็มเลยหละ ที่หน้าปากซอย" มิ้นถามด้วยความสงสัย
" ฟะ....ฟลุ๊ค...ฟลุ๊คโดนรถชน " เด็กชายตอบเสียงสั่นเครือ
" แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่า" มิ้นถามต่อ เเต่เกียร์ไม่ตอบ เขายืนนิ่งก่อนที่จะมีเสียงสะอื้นออกมา ทำให้มิ้นต้องรีบปลอบใจ ก่อนที่เธอจะตัดบทสนทนาเก่าแล้วเริ่มบทสนทนาใหม่
" เกียร์กินข้าวรึยัง........ไปกินข้าวกับเราไหมเรามีเรื่องอยากจะคุยมากเลย" มิ้นเอ่ย เกียร์พยักหน้าก่อนที่จะเดินไปล็อคประตูบ้านแล้วเดินออกจากรั้วแล้วล็อครั้ว
"จะไปที่ไหนหละ" เกียร์เอ่ยขึ้น
" แถวๆถนนข้าวสาร ไง" มิ้นเอ่ยก่อนที่จะค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ
ทั้งคู่เดินตรงมาที่ป้ายรถเมล์ สักพักไม่นานรถเมล์คันสีแดงก็ขับมาจอดเทียบป้าย เกียร์เดินขึ้นไปบนรถก่อน ทันทีที่ขึ้นรถเขาก็หยุดขงักทันที ชายสวมชุดสูทสีดำยืนอยู่เต็มคันรถจำนวนสิบห้าคนถ้ารวมคนขับด้วย เกียร์รีบถอยลงจากรถทันที
" ไปคันหน้าเถอะมิ้น.....คนเยอะ" เกียร์เอ่ยขึ้น ทำให้มิ้นอดสงสัยไม่ได้
" ลุงครับขับรถดีๆอย่าประมาทนะครับ.......ชีวิตคนสิบสี่คนอยู่ที่ลุง" เด็กหนุ่มพูดก่อนที่จะเดินลงรถ ทำให้คนขับงุนงงเลย
" ทั้งคู่กำลังจะนั่งลงกับเก้าอี้ แต่มีเสียงบางอย่างดังขึ้น
" เอียดดดดด.....โครม..!"
รถเมย์ขับตรงไปที่กลางสี่แยก ก่อนที่จะมีรถสิบล้อขนาดใหญ่พุ่งตรงมาด้วยความเร็ว ชนเข้ากับรถเมย์อย่างจัง รถเมย์ถูกอัดเละ จนเหมือนเศษเหล็ก คนที่นั่งอยู่ข้างในกระเด็นออมาจากทางหน้าต่าง ร่างของผู้โดยสารคนหนึ่งปลิวออกมานอกคันรถไถลลงไปกองอยู่ที่พื้น ก่อนที่จะมีรถอีกคันวิ่งมาทับเข้าที่ศีรษะอย่างเต็มๆ หัวสมองถูกฉีกด้วยแรงอัดจากล้อรถ ก่อนที่จะมีมันสมองสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาปนกับเลือดสีแดงข้น ส่งกลิ่นคาวคลุ้งทั่วถนน
ผู้คนที่อยู่ระแวกนั้นกรีดร้องด้วยความตกใจ ผู้คนแถวนั้นรีบวิ่งเข้าไปช่วยคนที่อยู่ในรถ แต่จากสภาพภายนอกคนในรถน่าจะไม่มีใครรอด
"มิ้นเรารีบไปจากที่นี่เหอะ......เดินไปก็ได้" เกียร์พูดก่อนที่จะจับมือมิ้นเดินออกมา ทั้งคู่เดินเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆซอยหนึ่งซึ่งเป็นทางลัดไปถนนข้าวสาร ไม่แปลกเลยถ้าไม่มีรถผ่านเพราะที่นี่เป็นเขตก่อสร้างอันตราย แต่ที่เกียร์เลือกเดินทางนี้เพราะเป็นทางที่เร็วที่สุดถ้าจะไปถนนข้าวสาร
เกียร์เดินไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะหันไปหามิ้นเข้าตกตากว้างอีกรอบ มีชายชุดสูทสีดำเดินตามมิ้นอยู่ เกียร์หยุดเดินแล้วจับมือมิ้นเดินไปทางอื่น
" เกียร์มีอะไรหรอ" เมื่อเด็กสาวถามจบ ก็มีรถเครนขนาดใหญ่ล้มคว่ำในเขตก่อสร้าง ส่งผลให้เสาร์เหล็กล้มตกลงมาทับที่พื้นถนน ฝุ่นสีน้ำตาลลอยคลุ้งทั่ว บริเวณถนนมีลอยแตกขนาดใหญ่เนื่องด้วงเสาร์เหล็กมีน้ำหนักมาก ถ้าเกียร์ไม่ดึงมิ้นออกมาเธอจะต้องโดนเหล็กทับแน่ๆ มิ้นยืนตัวสั่นระริก เหงือค่อยๆผุดขึ้นตามใบหน้าและลำตัว
" เป็นอะไรมากไหม อีหนู " เสียงคนงานดังขึ้นก่อนที่จะวิ่งมาทางพวกเขา
" ไม่เป็นอะไรครับ" เกียร์พูดก่อนที่จะรีบเดินออกจากซอยนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เดินไปตามทางท้าว ไปเรื่อยๆ ถึงจะช้าแต่ก็ปลอดภัย
" มิ้นเมื่อตะกี้......ฉันเห็นมันเดินตามเธอ.....ชายชุดสูท" เกียร์พูดแล้วมองไปที่มิ้น มิ้นมีอาการแปลกๆอย่างเห็นได้ชัด
" แล้วตอนนี้หละ" มิ้นเอ่ยขึ้น เกียร์ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงไม่เห็น ก่อนที่จะหันไปมองที่ถนนใหญ่ ตอนนี้มีรถติดเป็นรายกิโล จราจรเป็นอัมพาท เนื่องด้วยรถแก๊ส คว่ำอยู่ที่ทางข้างหน้า ผู้คนจำนวนมากมุมอยู่ที่รถแก๊ส แต่สิ่งที่ทำเอาเด็กหนุ่มเขาทรุดคือ ชายชุดดำจำนวนรายร้อยคนเดินไปมาที่ถนน เขาไม่เคยเห็นเยอะขนาดนี้มาก่อน มันต้องเกิดเหตุร้ายแน่ๆ
" นี่..นี่..มีอะไรหรอ" มิ้นกระตุกชายเสื้อเกียร์ เธอมองหน้าเกียร์ด้วยความสงสัย
" ฉันเห็น....เยอะมาก" เกียร์พูด ทำให้น้ำอึ้งเลย
"แล้วจะทำไงดีหละ" มิ้นถามขึ้น
" เราต้องไปเตือนพวกเขา...มันมากเกินไป..!" เกียร์พูดเสร็จก็วิ่งไปที่กลางถนนก่อนที่จะ
เคาะกระจกรถ
"ออกมาจากรถเถอะครับไม่งั้นอาจตายได้" เกียร์พูดด้วยความเร่งรีบแต่ไม่มีใครฟังเขา
คนในรถกลับด่าเกียร์ว่าบ้าทั้งสองวิ่งไปเตื่อนรถทีละคันแต่มีแต่คนว่าเขา
"กึก..กึก..กึก. ออกมาเถอะครับ"เกียน์ยังไม่ละความพยายาม
" พ่อค่ะ...พ่อค่ะ...พี่เขาเป็นอะไรหรอค่ะ" เด็กน้อยในรถคันหนึ่งถามขึ้น
" ไม่ต้องไปสนใจหรอกลูก" ผู้เป็นพ่อพูดพลางมองรถคันข้างหน้าซึ่งติดยาวเหยียด
"ติดอะไรของมัน...ทำไมไม่ขยับ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น
ทั้งคู่ยังคงเตือนคนไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังพวกเขามีคนยืนอยู่เกียร์หันไปหามิ้นซึ่งตอนนี้มีชายชุดสูทยืนอยู่
" มิ้นรีบไปเหอะ....ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว"
รถมอเตอร์ไซคันหนึ่งขี่มาด้วยความเร็วก่อนที่จะไถลน้ำ รถมอเตอร์ไซไถลไปตามพื้นก่อนที่จะไปโดนรถแก๊ส เกิดประกายไฟขึ้น
" พรึบ.........บึ้มมมมมมม...!" รถแก๊สระเบิด ลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นฟ้าตามด้วยเสียงกรีดร้องของผู้คน
" มิ้นไปกันเถอะ" เกียร์พูดก่อนที่จะวิ่งไปข้างหน้า ควันสีดำลอยคลุ้งขึ้นฟ้า
" บึ้ม....บึ้ม....บึ้ม...!" เสียงรถที่จอดอยู่ระเบิดขึ้นทีละคัน กลุ่มไฟจำนวนมากเผาไหม้สิ่งที่กรีดขวาง ผู้คนบริเวณนั้นถูกไฟเผาไหม้ ตัวดำเป็นตอตะกอ บางคนวิ่งด้วยท่าทีร้อนรนไฟท่วมร่างกาย เสียงกรีดร้องของผู้คนดังไปทั่ว คนที่นั่งอยู่ในรถถูกแรงระเบิดอัดทำให้ร่างถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
" บึ้ม..!" แรงอัดระเบิดทำให้อะไหล่รถกระเด็นมาทางมิ้น
" มิ้นระวัง" เกียร์เอ่ยขึ้นก่อนที่จะดึงแขนมิ้นเข้ามา อะไหล่รถยนต์พุ่ง
เข้ากระแทกกับร่างชายคนหนึ่งที่วิ่งมา ทำให้เขาล้มลงเลือดไหลออกมาจากหน้าท้อง ไส้สดๆไหลออกมา ทำให้ทั้งคู่ต้องหันหน้าหนี
" โครม..!" รถคันหนึ่งซึ่งมีเด็กนั่งอยู่ข้างใน ถูกอะไหล่รถพุ่งทับที่หลังคารถทำให้ตัวรถบุบ กระจกหน้าต่างแตก เกียร์มองเข้าไปในรถ คนภายในรถเสียชีวิตหมดแล้ว เลือดสาดกระเส็นทั่วภายในรถ ทั้งคู่หันหน้าหนีก่อนที่จะวิ่งหนีไปในที่ที่ปลอดภัย
ทั้งคู่วิ่งจนมาถึงจุดปลอดภัยแล้วหันไปมองที่ถนน ตอนนี้ไฟจำนวนมากลุกลามไปทั่วท้องถนน จนกลายเป็นทะเลเพลิง กลุ่มควันขี้เถ้าลอยขึ้นฟ้าเป็นจำนวนมาก เหลือให้เห็นเพียงซากรถที่ดำสนิท และร่างของผู้เคราะห์ร้ายที่นอนกองอยู่ที่พื้นเป็นจำนวนมาก ทั้งคู่จ้องมองภาพตรงหน้า น้ำใสๆไหลอาบใบหน้าของทั้งสอง
หลังจากเหตุการณ์เพียงหนึ่งวัน
เด็กหนุ่มนั่งบนโซฟาตัวเดิมสายตาของเขาจับต้องไปยัง โทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้กำลังมีข่าวเหตุการณ์รถแก๊สระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บถูกทยอยส่งตามโรงพยาบาลต่างๆ
" กริ้ง~~~~" เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์
" ฮัลโหลครับ....." เด็กหนุ่มเอ่ย
" พ่อเองนะเกียร์ แม่กับพ่อจะอยู่ต่อที่บ้านยาย เพราะ ท่านป่วยจึงต้องอยู่อีกสักสองวันต้องขอโทษด้วย ถ้าลูกไม่อยากอยู่คนเดียวไปอยู่ที่บ้านป้าก็ได้นะ ดูแลตัวเองด้วย พ่อเห็นข่าวในทีวีแล้วใจไม่ดี ต้องขอโทษด้วยที่ยังกลับไม่ได้ แค่นี้นะ " จบบทสนทนาเด็กหนุ่มก็เดินไปที่บันไดเพื่อไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ทันใดนั้น
" เพล้ง..!" รูปของเกียร์ที่ตั้งอยู่บนหลังทีวี ตกลงมาทำให้เด็กหนุ่มต้องรีบวิ่งไปเก็บกวาด
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้าน บ้านของคุณป้าไม่ไกลมากเพียงแต่ต้องขึ้นรถไฟฟ้า
เด็กหนุ่มเดินไปยังสถานี ซึ่งตอนนี้มีผู้คนหนาตาเดินไปมา เขายืนรอสักพักรถไฟฟ้าก็มีเทียบ ท่าที่ชานชะลา เด็กหนุ่มเดินเข้าไป แต่ชั่วแวบเดียวที่เขามองเขาไปในรถไฟฟ้า มีชายชุดสูทสีดำยืนอยู่นับไม่ถ้วน เหมื่อนกับคราวก่อน เด็กหนุ่มรีบหันหลังกับไปแต่ไม่ทัน
" วืด......" ประตูรถไฟฟ้าถูกปิดโดยอัตโนมัตร เงาของเขาสะท้อนในกระจก ปรากฏเป็นชายชุดสูทยืนอยู่ข้างหลัง มันแสยะยิ้มให้เด็กหนุ่ม
" เอียดดดด........โครม..!" ร่างของเกียร์ไถลไปข้างหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาล กระจกทุกบานบนรถไฟฟ้าแตกกระจาย ร่างของเกียร์ไถลออกนอกหน้าต่าง ร่างของเขาถูกล้อรถไฟฟ้าบดละเอียด ชิ้นเนื้อเล็กใหญ่กระจายทั่วบริเวณของเหลวสีแดงข้นสาดกระเส็นไส้ทะลักออกมาจากลำตัว กระดูกทุกซี่หักละเอียด ร่างของเขาถูกฉีกเละจนไม่เหลือเค้าโคลงเดิมเลย
" เฮือก...!" เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่ใบหน้าและลำตัว ตอนนี้ร่างของเกียร์นอนอยู่บนโซฟาตัวเดิม
" เราฝันไปหรอเนี่ย.." เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะดึงร่างตัวเองยืนขึ้นแล้วเดินไปที่ตู้เย็น
" กริ้ง~~~" เสียงโทรศัพท์ดังลั้นออกมา ทำให้เกียร์ยกโทรศัพขึ้น
" ฮัลโหลครับ....." เด็กหนุ่มเอ่ย
" พ่อเองนะเกียร์ แม่กับพ่อจะอยู่ต่อที่บ้านยาย เพราะ ท่านป่วยจึงต้องอยู่อีกสักสองวัน
ต้องขอโทษด้วย ถ้าลูกไม่อยากอยู่คนเดียวไปอยู่ที่บ้านป้าก็ได้นะ ดูแลตัวเองด้วย พ่อเห็นข่าวในทีวีแล้วใจไม่ดี ต้องขอโทษด้วยที่ยังกลับไม่ได้ แค่นี้นะ " เกียร์ยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิม ประโยคนี้มันเหมือนในฝันมากเลย ถ้าเป็นอย่างที่คิดอีกสักพักรูปของเขาก็จะตกลงพื้น
" เพล้ง....!"
เสียงกระจกแตกดังออกมาจากหน้าบ้าน เกียร์รีบวิ่งไปเก็บเศษกระจกก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปนั่งกอดเข่าอยู่ที่โซฟา ตัวของเด็กหนุ่มสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
เขาไม่อยากเจออะไรที่หน้ากลัวกว่านี้แล้ว
" ข่าวต่อไปนะค่ะ มีรายงานข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุรถเครนพลิกคว่ำที่ซอยxxx
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย คือxxx ตอนนี้ทางตำรวจกำลังหาเบาะแสที่ทำให้รถเครนขนาดใหญ่ล้มได้ค่ะ ดิฉันนางสาว จิตรมณี พงสุรี รายงานค่ะ"
เสียงรายงานข่าวของผู้ประกาศข่าวทำให้เด็กหนุ่มตากว้างขึ้น คนที่เสียชีวิตคือ
มิ้น !
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนหน้านี้
ทั้งคู่เดินตรงเข้ามาในซอยแคบๆ ก่อนที่เกียร์จะหันหน้าไปหามิ้นและเจอชายสวมชุดสูท เกียร์รีบจับมือมิ้นก่อนที่จะเดินไปข้างหน้า
มีรถเครนขนาดใหญ่ล้มคว่ำในเขตก่อสร้าง ส่งผลให้เสาร์เหล็กล้มตกลงมาทับที่พื้นถนน ฝุ่นสีน้ำตาลลอยคลุ้งทั่ว บริเวณถนนมีลอยแตกขนาดใหญ่เนื่องด้วงเสาร์เหล็กมีน้ำหนักมาก ร่างของมิ้นถูกเสาร์เหล็กทับ กระดูกตามร่างกายของเธอหักทุกซี่ เลือดสีแดงข้นทะลักออกมาจากบาดแผลตามลำตัว ก่อนที่ลมหายใจของเธอจะหยุดลง เกียร์เดินออกไปจากซอยโดยที่ไม่รู้เลยว่า มิ้นตายแล้ว
ทำไมกัน มิ้นตายไปแล้วหรอ แล้วคนที่เดินไปถนนข้าวสารกับเขาหละคือใคร
วิญญาณหรอแล้วถ้าเป็นอย่างนั้นหละก็ ในขณะที่เด็กหนุ่มครุ้นคิดเสียง เคาะประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น ทั้งๆที่ประตูรั้วถูกล็อคไว้อยู่ เสียงครุ้นหูดังตามมา
" น๊อค....น๊อค....น๊อค........มิ้นเองนะเกียร์อยู่รึเปล่า..!"
The end
ผลงานอื่นๆ ของ Kanatsanan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kanatsanan
ความคิดเห็น