ไม่มีทาง เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เด็ดขาด
_______________________________________
วันนี้ซองอูไม่ได้ออกไปไหน เขาเพียงแค่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มพร้อมอ่านข่าวในมือถือไปเรื่อยเปื่อย อีกไม่กี่อาทิตย์ใกล้จะเปิดเทอมแล้วเขาจึงต้องการพักผ่อนก่อนเจอกับงานและเนื้อหาอันหนักหน่วงในภาคการศึกษานี้
เนิ่นนานจนเสียงท้องดังประท้วงให้เจ้าของร่างกายอันบอบบางต้องลุกออกไปหาอะไรรับประทาน เพียงแค่เปิดประตูออกมากลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ก็บอกให้รู้ว่าอีกคนกำลังดื่มมันอยู่ สายตาคมปราดมองไปที่อีกฝ่าย มือหนากำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ใบหน้าทั้งดวงตาที่แดงก่ำบ่งบอกได้ว่าดาเนียลดื่มเข้าไปไม่น้อยเลย
เวลามีปัญหาชอบเป็นแบบนี้ทุกที
"หิวหรอครับ"
ใบหน้าเรียวส่งยิ้มจางๆให้เขา แต่คนมองกลับรู้สึกได้ว่าร่างสูงกำลังฝืนและปิดบังอะไรไว้ภายในใจ
ซองอูไม่ตอบแต่เลือกเดินอ้อมเคานท์เตอร์ไปหยิบแก้วทรงสูงแทน แล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้บาร์เคียงข้างอีกคน
แผ่นหลังนั้นกว้างใหญ่เกินไป
ให้แบกโลกไว้ทั้งใบก็คงไม่ไหวหรอกมั้ง
"รินให้ฉันที"
เขายื่นแก้วให้อีกฝ่ายจัดการเสิร์ฟแอลกอฮอหวังนั่งดื่มเป็นเพื่อน ร่างสูงพยักหน้ารับแล้วรินของเหลวสีเข้มอย่างเบามือ รสขมปร่าของแอลกอฮอล์ไม่ใช่สิ่งที่ซองอูชื่นชอบเท่าไรนัก หากแต่สิ่งที่เขาได้รับในยามที่นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดต่างหากที่อยู่ในความสนใจของเขา
"พี่ซองอู"
เป็นดาเนียลที่เริ่มบทสนทนาก่อน
"ว่า"
"ผมน่าจะไม่อยู่บ้านสักอาทิตย์นึงนะ"
"อ่า ทำไมล่ะ นายจะไปค้างบ้านควานลินหรือไง"
"เปล่าหรอก"
"...."
"ผมจะบินไปเยี่ยมพ่อ"
"...."
"ท่านอาการไม่ค่อยดีเท่าไร อย่างน้อยก็อยากไปให้เห็นกับตา มานั่งพะวงอยู่อย่างนี้มก็ยิ่งเครียด"
"...."
"ขอโทษด้วยนะครับที่อาทิตย์หน้าจะไม่มีเวลาได้ช่วยงานที่บริษัทเลย ถ้าผมกลับมาแล้วจะเร่งให้ก่อนปิดเทอม"
"พอเถอะดาเนียล"
"...."
"นายไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น สิ่งที่นายควรโฟกัสก็คือเรื่องของพ่อนายนั่นแหละ อย่ามัวแต่แคร์คนอื่นจนลืมสนใจชีวิตหรือคนรอบข้างของตัวเอง"
"ครับ"
"ว่าแต่ นายบินวันไหน จองตั๋วหรือยัง"
"ว่าจะจองคืนนี้ครับ โรงแรมก็ไม่จำเป็นเพราะไปอยู่บ้านพ่อ ไม่มีปัญหาเลย"
"งั้น...."
"ครับ"
"ให้ฉันไปด้วยได้ไหม ....."
"พี่ ... พี่อะนะ"
เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ร้อยวันพันปีพี่ซองอูไม่เคยเลยที่จะพูดแบบนี้
"อืม ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงพ่อของนายหรอกนะ แต่ฉันอยากไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ต่างหาก ท่านยังไม่กลับนี่"
"ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"
ดาเนียลหัวเราะเบาๆ เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าตัวเองเป็นคนปากร้ายใจดี ถึงจะปากแข็งในบางครั้งแต่โกหกไม่เนียนเลยทีเดียว
"ว่ายังไง"
"...."
"ให้ฉันบินไปกับนายด้วยได้ไหม ไปด้วยกัน"
"ได้สิ มีพี่ไปมันต้องดีกว่าอยู่แล้ว"
__________________________
@ United State of America
รถยนต์คันหรูขับมาส่งพวกเขาที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตชานเมือง มีบ้านหลังใหญ่อยู่ในละแวกนั้นไม่มากนักแต่ก็ไม่ได้เงียบสงัดจนเกินไป พื้นที่ส่วนมากถูกปกคลุมด้วยต้นไม้นานาชนิดช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่ สายตาไล่มองสีเขียวชอุ่มของใบไม้ไล่ไปตามความยาวถนนยามที่ยานพาหนะเคลื่อนผ่าน พ่อของดาเนียลบอกให้พวกเขามาหาที่บ้าน เนื่องจากคนป่วยต้องการรักษาในที่ที่คุ้นชินและระยะทางจากบ้านไปโรงพยาบาลก็ไม่ไกลมากนัก
แสงแดดที่ส่องผ่านสะท้อนความกังวลจากดวงตาเรียวรีได้เป็นอย่างดี
มือทั้งสองข้างกุมเข้าหากันแน่น ใบหน้าขมวดมุ่นต่างจากปกติที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เสียงลมหายใจพ่นออกครั้งแล้วครั้งเล่า
ทุกๆการกระทำอยู่ในความสนใจของคนข้างๆมาตลอดทาง
"ตื่นเต้นไหม"
"...."
"ดาเนียล"
"ค ครับ"
เสียงเรียกดังขึ้นจนคนที่อยู่ในภวังค์สะดุ้งทันที ใบหน้าเรียวหันมามองเขาด้วยความงุนงง
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าดาเนียลกำลังกลัว หรือกังวลอะไรบางอย่าง
"ถึงหน้าบ้านแล้วนะ"
"พี่ซองอูลงไปก่อนเลยก็ได้ครับ ผมขอเวลาแปปนึงเดี๋ยวตามไป"
"กลัวหรอ"
"อืม"
"...."
"เหมือนเป็นปมในใจผมมาตั้งแต่เด็กๆ"
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆท่ามกลางความมเงียบหลังจากที่ทุกคนเดินเข้าไปแล้ว มีเพียงซองอูและเขาที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ เหมือนหัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆในยามที่สมองกำลังคิดถึงสิ่งที่เขาจะได้เจอ
"ทำไมล่ะ"
"แต่ก่อนผมคิดว่าพ่อไม่รัก ท่านเลยทิ้งแม่กับผมมาอยู่ที่นี่ ช่วงเวลาที่ยากลำบากระหว่างผมกับแม่ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นท่านจะอยู่สุขสบายเพียงไหน"
"...."
"โกรธทุกครั้งเวลาที่แม่ร้องไห้ เวลาที่ครอบครัวมีปัญหาแล้วไม่รู้ต้องทำยังไง"
"อืม"
"ก็นั่นแหละ ผมไม่เคยคิดจะตามหาพ่อตัวเองเลยเพราะผมคิดว่าแค่เราสองคนแม่ลูกก็พอแล้ว"
"...."
"จนกระทั่งโตขึ้น ผมถึงได้รู้ว่าลึกๆแล้วเด็กทุกคนก็ต้องการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ"
"...."
"เหมือนเด็กที่ขาดความรักจากพ่อ พอจะได้เจอกันอีกครั้ง ผมก็กลัว กลัวว่าพ่อจะไม่ได้อยากเจอผมเหมือนที่ผมอยากเจอท่านมากๆ"
"...."
"กลัวตัวเองจะโกรธท่าน เกลียดท่านเหมือนที่เคยคิด"
"...."
"กลัวจะเสียใจ เสียดายเวลาที่หายไปโดยไม่พยายามทำอะไรเลย"
"อ่า"
"เหมือนจะดีใจ แต่ลึกๆผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าผมพร้อมหรือยัง ไม่รู้ว่าควรโกรธ หรือควรโทษตัวเองดี"
"อย่าคิดแบบนั้นสิ .... เข้าไปในบ้านกัน"
"...."
"เวลานี้คงไม่มีใครตอบคำถามนายได้ดีเท่าคุณพ่อของนายแล้วล่ะ"
ใช่
พี่ซองอูพูดถูก
เพราะคำตอบของคำถามที่มีถูกเฉลยด้วยร่างผอมสูงของผู้เป็นพ่อ ดวงตาเรียวรีที่เหมือนกันกับเขาส่องประกายในยามที่ต่างฝ่ายได้พบหน้ากัน .....ท่านกำลังส่งยิ้มผ่านหน้าต่างบานใหญ่จากชั้นสองของตัวบ้าน
ไม่
เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกโกรธ
ตรงกันข้าม ...รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเรียวทันทีที่ได้สบตากัน
ความคิดถึงกว่าหลายสิบปีกำลังเอ่อล้นไปทั่วทั้งความรู้สึก เหมือนเขานอนฝันกลางวันและเป็นฝันดีเสียจนไม่อยากจะตื่น ในฝันนั้นคล้ายกับว่ามือของเขากำลังสั่น หัวใจดวงน้อยๆเริ่มพองโตและตัวเขาเองก็มีความสุขมาก มากเสียจนไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นเพียงเด็กน้อยคนนึงที่กำลังยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านในขณะที่จ้องมองพ่อตัวเอง
เขาไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว
"เข้าไปสิ"
แรงดันจากด้านหลังพร้อมประโยคกึ่งคำสั่งกำลังบอกให้เขาก้าวเข้าไปในตัวบ้าน เท้าทั้งสองขยับไปด้านหน้าอย่างกล้าๆกลัว
กล้าๆหน่อย
"ด ดาเนียล"
เสียงสั่นเครือจากคนตรงหน้าที่เอ่ยเรียกชื่อเขาชวนให้หัวใจอิ่มเอมอย่างแปลกประหลาด ราวกับแก้วน้ำแก้วเปล่าที่ถูกเติมเต็ม เหมือนแสงแดดในเหมันต์ฤดู หรืออะไรก็ตามแต่ ร่างสูงไม่รอช้าวิ่งเข้าไปสวมกอดชายอาวุโสตรงหน้านั้นทันที
สัมผัสจากคนเป็นพ่อช่างอบอุ่นเหลือเกิน
ใบหน้าเรียวซบลงกับลาดไหล่ผอมอยู่ชั่วครู่ เปลือกตาหลับลงรับสัมผัสที่เขาโหยหามาตลอด นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่จากกัน ไม่เคยเลยที่เขาจะลืมมันได้ลง ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงสะกดกลั้นหยดน้ำตาไม่ให้เอ่อคลอบนดวงตาคู่นี้
"พะ พ่อคิดถึงลูก ม มากๆ"
แต่ความพยายามกลับถูกทำลายลงด้วยเสียงของผู้เป็นพ่อ
"ผมก็คิดถึงพ่อเหมือนกัน ไม่สิ ค คิดถึงมากๆเลยด้วยซ้ำ"
เสียงทุ้มตอบกลับอย่างสั่นเครือไม่ต่างกัน
"ปะป๊าครับ อ้าว!"
เสียงแหลมเล็กของเด็กน้อยอายุราวๆ 5-6 ขวบอุทานขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนในบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี ดวงตาคู่คมหันไปมองเจ้าของเสียงต้นเหตุที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันนัก ใบหน้ากลมๆ ผิวขาวๆ กับดวงตาตี่ๆ กำลังมองกลับมาทางเขาด้วยความงุนงงไม่ต่างกัน ก่อนมือป้อมๆจะยกขึ้นเกาแก้มเนียนของตัวเอง
"มินกุกขอโทษครับปะป๊า มินกุกจะไปนั่งรอปะป๊าที่ห้องครัวนะ"
"ครับ อย่าซนนะเดี๋ยวปะป๊าตามไป"
หลังจากเด็กน้อยเดินหายไปในห้องครัวแล้ว ซองอุค มินอาและซองอูก็ขอตัวไปนั่งรอในโถงบ้านเพื่อให้เวลาส่วนตัวระหว่างพ่อลูกได้พูดคุยหลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน
"พ่อเป็นยังไงบ้างครับ คุณซองอุคบอกผมว่าพ่ออาการไม่ค่อยดีเลยให้รีบบินมาหาด่วน"
มือหนาจับร่างผอมสูงให้หันซ้ายหันกว่าเพื่อดูความผิดปกติจากภายนอก ท่าทางเป็นห่วงจนน่าเอ็นดูเรียกเสียงหัวเราะในลำคอได้เป็นอย่างดี
"ทำอย่างกับพ่อเป็นเด็กๆเลยนะมาจับหมุนไปหมุนมาอย่างนี้น่ะ"
"..."
"ก็อย่างที่ลูกรู้นั่นแหละ อาการของพ่อมันไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะตอนนี้กำลังรอผลตรวจว่าเซลล์ที่แบ่งตัวผิดปกติได้ลามไปที่อวัยวะอื่นไหม"
"แล้วเราจะทราบผลได้เมื่อไรครับ"
"อาทิตย์หน้าแพทย์จะเรียกพ่อเข้าไปพบอีกที แต่ต่อให้ไม่พบอะไรพ่อก็ยังกังวลอยู่ดี"
"...."
"พ่อรู้ ....ว่าพ่อทำผิดกับลูกและเยบินไว้มาก"
มือผอมเอื้อมมากุมมือร่างสูงไว้ ก่อนกระชับให้แน่นขึ้น
"...."
"ไม่รู้ว่าพูดตอนนี้จะสายเกินไปไหม แต่พ่อขอโทษสำหรับทุกอย่างที่พ่อได้ทำลงไป ตั้งแต่ตอนนั้นจนส่งผลกระทบถึงลูกในตอนนี้"
ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกได้ว่าเจ้าของเสียงแหบพร่ารู้สึกอย่างที่ได้เอ่ยออกไปจริงๆ
"ม ไม่เป็นไรครับ"
"พ่อไม่รู้ว่าโรคที่พ่อเป็นอยู่จะรักษาให้หายได้ไหม หรือถ้าไม่หาย ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไร"
"มันต้องมีวิธีสิครับ เชื่อผม"
"ไม่มีใครหนีความตายได้หรอกดาเนียล ....พ่อไม่อยากให้ลูกคาดหวัง"
"...."
"พ่อมีอีกเรื่องที่จะบอก ...ลูกเห็นเด็กคนนั้นไหม"
เขาชี้ไปทางห้องครัว ดาเนียลมองตามฝ่ามือนั้นไปจนพบกับเจ้าของเสียงน่ารักเมื่อครู่ ใบหน้าเล็กๆนั้นกำลังหันมองมาที่พวกเขาพอดี พลันรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้น
เหมือนได้เห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่โต
"ค ครับ"
แน่นอนว่าเขารู้ .....รู้ว่าพ่อกำลังจะสื่ออะไร
"เด็กคนนั้นชื่อมินกุก ...เขาเป็นน้องชายของลูก"
"หมายความว่า..."
"พ่อมีน้องกับผู้หญิงเกาหลีคนนึง เราเจอกันตอนที่พ่อย้ายมาอยู่ที่นี่.."
"...."
"เรากำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทุกอย่างไปได้ดีจนกระทั่งวันที่พ่อรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคร้าย"
"..."
"แล้วเธอก็ทิ้งพ่อไป ทิ้งมินกุกเอาไว้ พ่อเองก็ไม่รู้จะทำยังไง"
"...."
"พ่อกลัวว่าถ้าวันหนึ่งพ่อจากโลกนี้ไป คงไม่มีใครดูแลน้อง เพราะแม้แต่แม่แท้ๆก็ยังไม่สนใจน้องเลย"
"พ่อ..."
"ใช่ พ่ออยากให้ลูกรับน้องเป็นบุตรบุญธรรมและพาเขากลับไปใช้ชีวิตที่เกาหลี"
"...."
"ฟังดูไร้ความรับผิดชอบใช่ไหม ...แต่นี่เป็นทางออกเดียวที่พ่อคิดออก และดีที่สุดสำหรับน้องของลูกแล้ว"
"ทำไม.."
"...."
"ทำไมพ่อถึงทำกับผม กับน้องแบบนี้!"
ดาเนียลขึ้นเสียงใส่คนที่ได้ชื่อว่าพ่ออย่างไม่นึกเกรงใจใคร น้ำตามากมายพากันไหลออกมาจากดวงตาคู่เรียว ทั้งโกรธ ทั้งผิดหวัง ทั้งเสียใจ มันมีความรู้สึกหลากหลายปะปนกันอยู่ในตอนนี้ มือทั้งสองกำเข้าหากันแน่นจนแขนทั้งสองข้างสั่น
หมดแล้ว
ชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครเขาบอก
"พ พ่อขอโทษลูก"
คนเป็นพ่อกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ เขาชั่งใจอยู่นานจนสุดท้ายก็ได้เอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไป เป็นไปตามคาดว่าดาเนียลไม่ได้ยินดีกับความประสงค์ของเขา แต่เขาก็พร้อมแลกมันกับการให้ลูกชายคนเล็กได้มีชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดี
"...."
"พ่อคุยกับคุณซองอุคแล้ว ท่านยินดีจะรับมินกุกไว้ในการดูแล ลูกไม่ต้องห่วงนะว่าพ่อจะรบกวนเงินของท่าน ตั้งแต่มินกุกเกิดมาพ่อก็เก็บออมเงินก้อนโตเอาไว้ให้น้องทุกเดือน มันมากพอจะส่งเสียให้เขาเรียนจบจนถึงปริญญาตรี"
"พ่อรู้มั้ย ...พ่อเป็นพ่อที่ใจร้ายที่สุดเลย"
"...."
"แต่รู้มั้ย ...สุดท้ายผมก็ทำอะไรไมได้อยู่ดี พ่อเอาความรักที่ลูกให้กลับมาทำลายชีวิตลูกตัวเองอย่างนั้นหรอ"
"พ่อขอโทษ ...พ่อเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน แต่พ่อก็ปล่อยให้ลูกคนเล็กของพ่อต้องมีชีวิตที่ยากลำบากไม่ได้เหมือนกัน"
"ผมไม่น่ามาที่นี่เลย ....ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเองเลยจริงๆ"
ร่างสูงหันหลังกลับโดยไม่ใส่ใจคำขอโทษที่อีกฝ่ายเอาแต่พร่ำบอก
พอแล้วกับความคาดหวัง พอกันทีกับความรู้สึกแย่ๆที่ถูกซ้ำเติมให้แย่ลงกว่าเดิมเมื่อมาเจอกันอีกครั้ง
แต่แรงเบาๆที่รั้งข้อเท้าเอาไว้พร้อมกับเสียงโวยวายกลับทำให้หัวใจที่แข็งกร้าวอ่อนลงในทันที เหมือนสาดน้ำเย็นเข้ากองไฟที่ไม่อาจดับมอดแต่ก็เพลิงก็เบาบางลง
"พี่ชาย ..พี่ดุปะป๊าของน้องทำไม!! ฮือ พี่ชายใจร้าย"
กำปั้นเล็กๆทุบเข้าที่ขาทั้งสองข้างระรัว เสียงนั้นสั่นพร้อมกับแรงสะอื้นจนดาเนียลจำต้องอุ้มร่างเล็กขึ้นมา รูปตาทรงเดียวกัน ริมฝีปากบางเม้มตรงคล้ายจะเบะบึ้งในยามที่เขาจ้องมองอย่างไม่สบอารมณ์นัก
แต่สุดท้ายก็ต้องกอดปลอบเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนไว้หวังให้เลิกร้องไห้เป็นเด็กขี้แยสักที
"พี่ขอโทษครับ"
ฝ่ามือใหญ่ลูบปลอบศีรษะทุยแผ่วเบา จนใบหน้าที่จมอยู่กับไหล่กว้างเงียบเสียงลง
พออารมณ์สงบลง เขาจึงได้รู้ว่าไม่ควรพูดแบบนั้นกับพ่อ เพราะคงไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกตัวเองต้องลำบากหรอก
แม่ของเขาก็ไม่เคยสอนให้ต้องเกลียดพ่อเหมือนกัน
ใบหน้าเรียวหันกลับไปก่อนจะพบว่าพ่อยังยืนอยู่ที่เดิม ต่างกันตรงที่ใบหน้านั้นถึงแม้จะเปื้อนคราบน้ำตาแต่ก็ยังส่งยิ้มมาให้เขา ...รอยยิ้มในแบบที่เขาเข้าใจเป็นอย่างดี
เหมือนจะเป็นการสั่งลา แต่เปี่ยมไปด้วยความหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไป
เขาเข้าใจแล้ว
__________________________________
ในระหว่างที่ซองอุคปล่อยให้สองพ่อลูกได้ปรับความเข้าใจกัน พวกเขาทั้งสามคนก็ได้ย้ายมานั่งรออยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอุ่น มีเพียงความเงียบงันก่อตัวขึ้นจนในที่สุดคนที่พวกเขารอก็เดินเข้ามา
ใบหน้าคมจ้องมองเด็กชายตัวเล็กที่สุดอย่างไม่ละสายตา สังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่เขาควรรู้
"นี่ซองอูลูกชายที่คุณซองอุคพูดถึงเมื่อวันก่อนใช่ไหมครับ หน้าตาคล้ายกันไม่มีผิดเพี้ยนเลย"
เจ้าของบ้านเอ่ยทักทายเขาก่อน ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางก้มหัวให้ผู้อาวุโสกว่า
"ไม่เป็นไรหรอก เราทำตัวสบายๆได้เลย อาขอบคุณมากเลยนะที่ดูแลลูกชายอามาเป็นอย่างดี"
"พี่ซองอูน่ะ..."
"ไม่เป็นไรครับคุณอา ถึงจะไม่ใช่หน้าที่ของผมโดยตรงแต่ก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี"
เขาตอบคำถามในเชิงที่คนฟังไม่อยากได้ยินเท่าไรนัก แค่ใครเล่าจะเถียงว่ามันไม่จริง
"ซองอู"
ผู้เป็นพ่อกระซิบเสียงเบาแล้วกระทุ้งแขนของเขา หวังให้ลูกชายรู้กาละเทศะเสียบ้าง
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับคุณ เด็กๆเขาก็พูดจาตรงไปตรงมาอย่างนี้แหละ เล่นเอาผู้ใหญ่อย่างเราไปต่อไม่ถูกเลย"
แต่รอยยิ้มเศร้าสร้อยที่ส่งมากลับทำให้ซองอูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คนปากไวอย่างเขาก็ได้แต่ขอโทษอยู่ในใจเพราะไม่มีวันที่เขาจะยอมปริปากออกไปก่อน
"พี่ซองอูเขาเป็นคนปากร้ายใจดีน่ะครับพ่อ ถึงจะดุไปบ้างแต่ก็ดูแลผมดีเลยหละ"
เป็นดาเนียลที่กู้สถานการณ์อันน่าอึดอัดให้กลับมาดีได้หลังจากเห็นสีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสามคน คงจะมีเพียงเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักของเขาแล้วมองแขกทั้งหมดสลับไปมาด้วยความไม่คุ้นหน้า
"พี่ชาย ...พี่ชายชื่อซองอูหรอครับ ชื่อเท่มากๆเลยฮะ!"
แต่จู่ๆคนอายุน้อยที่สุดก็โพล่งออกมา เล่นเอาเจ้าของชื่อส่งยิ้มกลับไปอย่างเขินๆ
ดาเนียลจึงได้รู้ว่าจุดของอีกข้อของพี่ซองอูก็คือเด็ก
"ครับ แล้วเราล่ะชื่ออะไรหืม"
ร่างบางอ้าแขนออกแล้วเรียกให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักเขาเดินเข้าไปหา และเป็นอย่างที่คาดไว้เมื่อมินกุกค่อยก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายก่อนทิ้งตัวนั่งบนตักนั้น
ท่าจะถูกชะตากันอยู่ไม่น้อย
เขาลอบยิ้มในยามที่ใบหน้าคมก้มลงสนทนากับน้องชายต่างมารดาของเขาด้วยความเอ็นดู ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยถ้อยคำมากมายโต้ตอบกับมินกุกในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
"ดูท่าทางมินกุกจะชอบซองอูมากเลยนะครับเนี่ย ปกติไม่ค่อยจะเล่นกับใครนักหรอก"
"นั่นสิ เล่นกับพี่ซองอูมากกว่าพี่ชายแท้ๆอย่างผมอีก"
ความเงียบก่อตัวขึ้นทันทีที่ดาเนียลพูดจบ ผู้ใหญ่ทั้งสามคนหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว รวมถึงองซองอูก็หันมามองเขาด้วยสายตาที่เขาเองก็อ่านไม่ออก
รู้แต่ความหมายของมันคงไม่ดีสักเท่าไร
"ใช่ครับ มินกุกชอบพี่ซองอูม๊ากมากเล้ย!"
เสียงเล็กทำลายความเงียบโดยการเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับขโมยหอมแก้มเจ้าของเบาะนุ่มที่ตัวเองนั่งอยู่ไปหนึ่งที
คังดาเนียลนึกขอบคุณน้องชายตัวเองอยู่ในใจ
พวกเขานั่งคุยกันอยู่อย่างนั้นสักพัก และเหมือนเจ้าตัวแสบจะเพลียจากการเล่นซนจนเกินเหตุจึงได้ผลอยหลับไปบนตักของเขา องซองอูขอตัวพร้อมกับพามินกุกขึ้นไปส่งยังห้องนอนโดยมีพี่ชายแท้ๆเดินตามมาติดๆ
"พ่อบอกว่าห้องในสุดเลย"
เขาวางคนที่หลับคาอกลงบนเตียงเด็กด้วยความทุลักทุเลเพราะตัวเองก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แล้วจุ๊บลงบนหน้าผากเบาๆ
"พี่รักเด็กมากกว่าที่ผมคิดนะเนี่ย"
เจ้าของเสียงทุ้มยืนเท้าเอวมองเขาอยู่ตรงบานประตูใหญ่ ดวงตาเรียวยิ้มหยีพร้อมกับริมฝีปากที่ยกยิ้มกว้าง
แต่ในที่สุดรอยยิ้มนั้นก็หายไปเมื่อสิ้นประโยคของคนแก่กว่า
"มีอะไรที่ฉันควรรู้แล้วนายยังไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า"
_____________________________________________________
"จริงๆคุยกันในนั้นก็ได้ จะต้องออกมาคุยข้างนอกทำไม"
เรียวขายาวก้าวตามลูกชายเจ้าของบ้านออกมายังสวนด้านนอก มีไม้ดอกที่พ่อของดาเนียลคงเป็นคนปลูกเอาไว้จนเบ่งบานและออกดอกสวยงาม ใกล้ๆกันยังมีซุ้มม้านั่งตั้งอยู่ คงเป็นที่เอาไว้สำหรับนั่งคิดทบทวนอะไรเพราะบรรยากาศรอบๆช่างน่ารื่นรมย์เสียจนเขาเอานึกอยากทำแบบนี้ที่บ้านดูบ้าง
"ผมไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน"
"อืม"
"นั่งลงก่อนสิ"
พวกเขานั่งลงบนม้านั่งฝั่งตรงข้ามกัน ดาเนียลหลบสายตายามที่เขาจ้องคาดคั้นจะเอาข้อมูลที่เขาควรรู้เอาไว้ และนั่นก็ยิ่งทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
ทำไมจะต้องเป็นเขาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
"ทีนี้จะพูดได้หรือยัง"
มีเพียงเสียงถอนหายใจยาวเป็นคำตอบให้เขาได้ในเวลานี้
"...."
"โอเค ถ้านายไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ฉันคงไม่จำเป็นต้องรู้ใช่ไหม"
"มินกุกเป็นน้องชายของผม"
"..."
แวบนึงที่แววตาสั่นไหว ก่อนเจ้าตัวจะเล่าต่อ
"เป็นลูกคนละแม่ พ่อของผมมีน้องกับผู้หญิงเกาหลีคนนึงที่เจอตอนย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่สุดท้ายเธอก็ทิ้งไปตอนที่รู้ว่าพ่อผมป่วย"
ดาเนียลรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ตรงลำคอ มันคงเป็นความอึดอัดที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ เป็นความลำบากใจที่เขาเองก็คาดไม่ถึง
"แล้ว..."
"พ่อเองก็ไม่รู้ว่าตัวท่านจะอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน จะให้ทิ้งน้องไว้อย่างนี้ก็ไม่ได้"
"...."
"เลยจะให้ผมพาน้องกลับไปอยู่ด้วย และรับน้องเป็นบุตรบุญธรรม"
"เดี๋ยวนะ"
เหมือนเรื่องราวมากมายถาโถมใส่จนซองอูตั้งรับมันไว้ไม่ทัน หูของเขาอื้อไปชั่วขณะเหมือนมันไม่ต้องการได้ยินเรื่องอะไรอีกแล้ว
"ผมเลยอยากจะถามพี่ว่าถ้าผมจะขอใ-"
"ไม่ได้!"
เขาตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องรอฟังจนจบ ซองอูรู้ดีว่าดาเนียลกำลังขออะไร และเขาคงให้มันไม่ได้ แค่ดาเนียลคนเดียวก็เป็นภาระในชีวิตเขามาพอแล้ว
"..."
เสียงลมหายใจถูกพ่นออกมาอีกหลายครั้ง ใบหน้าเรียวก้มลงอย่างจนมุมกับปัญหาที่พ่อของเขาได้ก่อเอาไว้
"แค่นายคนเดียวก็มากพอแล้ว นายยังจะพาน้องชายของนายมาเป็นภาระให้ชีวิตฉันอีกหรือไง"
"...."
"ดาเนียล ...อย่าให้เรื่องของครอบครัวนายต้องมามีผลกระทบต่อชีวิตฉันมากเกินไปเลย"
"... ผมขอโทษ"
"ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ แต่อยากให้นายรู้เอาไว้ว่าฉันไม่อนุญาตในสิ่งที่นายต้องการ ถ้านายยังยืนยันที่จะทำแบบนี้..."
"...."
"นายก็ย้ายออกไปอยู่กับน้องและแม่ของนาย ฉันขอบอกไว้เลยว่าครั้งนี้ฉันไม่ยอมแน่ๆ"
tbc
นว้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เปิดเผยตัวละครสุดท้าย
น่ารักน่าหยิก อยากหอมหัวจริงๆ ♥
ขอบคุณและขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
#เกลียดเนียลอง
Thank you for your attention
นว้องเหมือนซาลาเปาเล่ย น่ารักๆ งือเนียลต้องเข้าใจซองอูนะ พี่เขารับมาหลายเรื่องแล้ว พี่ต้องเหนื่อยมากๆแน่เลย ถึงอีกใจจะอยากให้ซองอูรับน้องไว้ก็เถอะนะ อีกอย่างปมเจ็บปวดในใจมันไม่ใช่เรื่องที่แก้ง่ายๆด้วยสิ สู้ๆนะคะไรท์
เวลาดีกันแล้วมันดีมากๆเลย คอยช่วยเหลือกันเป็นห่วงกันเนี่ยT_T ปริ่มใจ
พี่ซองอูคนปากหนัก 5555 ชอบอ่ะ อ่านแล้วยิ้มตามความเป็นห่วงกันเบาๆ