คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คาถาบูชาเมีย บทที่๔ : รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไรเธอก็เมีย
คาถาบูชาเมียบทที่๔ : รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไรเธอก็เมีย
“พี่คริสกลับไปก่อนเลยก็ได้นะ”
เสียงห้าวของชานยอลบอกทันทีหลังจากอาจารย์ประจำคลาสเดินออกไปจากห้อง คริสเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะหลังจากหลับมาทั้งชั่วโมงก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“จะไปไหนต่อล่ะ ไม่กลับพร้อมกันหรอที่รัก”
“มีนัดแคสบทละครเวทีน่ะ พี่จุนมยอนขอร้องมา” ร่างบางถอนหายใจแรงๆด้วยความเซ็งสุดชีวิตพลางกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะลงเป้ใบโปรด ส่วนแบคฮยอนที่นั่งอยู่ด้วยก็เก็บเครื่องเขียนลงกระเป๋าตัวเองพลางบ่นงึมงำเรื่องโพสต์อิทไม่ขาดปาก
“ละครเวที?”
คริสถามด้วยความสงสัย ในขณะที่มือก็รับเป้จากชานยอลมาสะพายให้ด้วยความเคยชิน
“มีเมียอยู่นิเทศแต่ไม่รู้จักละครเวทีนิเทศเนี่ยนะ หู่ยยย เสียชื่อ”
“อะไรไอ้เตี้ย”
“เฮ้ยพูดงี้ได้ไง คิดว่าสูงแล้วข่มใครก็ได้หรอ”
ห้าวที่สุดเลยคนนี้น่ะ …
ชานยอลมองแบคฮยอนที่ทำท่าจะคว้าคอเสื้อคริสมาต่อยเพราะโดนจี้จุดอ่อนแต่ดันเตี้ยกว่าคู่กรณีหลายขุมนักเลยโดยคริสเอามือยันหัวไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้แล้วก็ได้แต่ขำ สองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กัดกันได้ตั้งแต่คริสเริ่มเข้ามาจีบ จนตอนนี้ได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้วก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษคริสที่ขี้แกล้งแถมยังชอบแหย่เรื่องปมด้อยด้านส่วนสูงของแบคฮยอน โชคร้ายที่แบคฮยอนเองก็ยุขึ้นทุกครั้ง เลยกลายเป็นของเล่นประจำตัวคริสเวลามาหาเขาที่คณะ
“เลิกเล่นกันได้แล้ว จะไปด้วยกันไหม”
“ไปสิ” แบคฮยอนเลิกสนใจคนขี้แกล้งทันที ก่อนจะเดินมาเกาะแขนชานยอลที่เดินนำออกมาจากห้องโดยมีคริสเดินตามมาติดๆราวกับบอดี้การ์ด
“อ้าว มาพอดีเลยชานยอล” เสียงคุ้นเคยดังมาจากมุมหนึ่งของห้องประชุมนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ก่อนจะตามมาด้วยร่างเล็กแต่ขาวสว่างจนแสบตาของพี่ชายสุดที่รักอย่างจุนมยอนที่เดินยิ้มมาแต่ไกล
ภายในห้องประชุมตอนนี้วุ่นวายไปด้วยชาวนิเทศที่อัดแน่นกันเต็มห้อง พวกรุ่นพี่ชั้นปีสูงๆก็วิ่งวุ่นประสานงานกันจ้าละหวั่น ส่วนรุ่นน้องทั้งปีหนึ่งปีสองต่างก็ท่องบทที่ถือมาในมืออย่างขะมักเขม้น
“คนเยอะดีนี่พี่จุน ไม่เห็นต้องให้ผมมาแคสเลย” ร่างบางโอดครวญ
“พวกนี้แคสบทอื่นน่ะ บทนายพี่ล็อคไว้ให้แล้ว”
“บทนางเอกหรอพี่?”
คริสถามขำๆ เลยโดนฝ่ามืออรหันต์พิฆาตเข้าเต็มรักที่กลางหลัง “ตีพี่ทำไม เจ็บนะ”
“สำออย” ชานยอลย่นจมูกใส่อย่างหมั่นไส้
“นางเอกบ้านแกสิไอ้คริส” จุนมยอนทำท่ายื่นกำปั้นใส่ “บทพระรองน่ะ”
“อ้าว แล้วใครเป็นพระเอกอะพี่”
“เด็กปีหนึ่ง เดือนคณะปีนี้ไง ดีกรีเดือนมหาลัยด้วยนะแบคฮยอน”
“จริงดิพี่” แบคฮยอนตาลุกวาว “ใช่คนที่ตัวสูงๆ ผมดำๆ ตาดุๆป่ะ”
“นายรู้จักด้วยหรอวะแบค”
ชานยอลถามอย่างสงสัย
“เคยเห็นตอนรับน้องอะ เด่นจะตาย หล่อมาก”
“เก็บอาการหน่อยน้องเตี้ย”
“ผมไปเตี้ยบนหัวพี่หรือไง เงียบไป๊!”
“สองคนนี้นี่ยังไง เห็นตีกันมาตั้งนาน ยังไม่เบื่ออีกหรอ” จุนมยอนถามด้วยเสียงหัวเราะ “อ้าวนั่นไง พ่อพระเอกของเรามาพอดี”
พูดจบก็ชี้นิ้วไปยังประตูทางเข้าที่ปรากฏร่างสูงโปร่งของผู้มาใหม่ที่กำลังเดินเข้ามา และเมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในนั้นทันที ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีดำและนัยน์ตาสีดำสนิทดูน่าค้นหา เรียวปากบางหยักลึกได้รูป พร้อมรอยยิ้มและสายตาที่สามารถคว้าหัวใจได้เพียงแค่สบตา
“สวัสดีครับพี่จุนมยอน” เสียงทุ้มบอกพร้อมรอยยิ้ม กวาดสายตามองอีกสามชีวิตที่ยืนอยู่ด้วยแล้วผงกหัวให้นิดๆ ก่อนจะหยุดสายตาที่ชานยอลซึ่งยืนอยู่กลางวงแล้วยิ้มให้
“สวัสดีครับ”
“หวัดดี”
ชานยอลยิ้มรับ ในขณะที่คนข้างๆคิ้วกระตุกยิกๆให้กับความไม่ชอบมาพากลของไอ้หนุ่มหน้าใหม่นี่
“จือเทา นี่ชานยอลนะ รุ่นพี่ปีสอง จะมาเล่นบทพระรองให้ละครเรา ส่วนนั่นแบคฮยอน ปีสองเหมือนกัน แล้วนั่นก็คริส แฟนชานยอลมัน อยู่วิศวะปีสาม” จุนมยอนแนะนำทีละคน “พวกนาย นี่จือเทา พระเอกใหม่แกะกล่องของเราเอง”
“ฝากตัวด้วยนะครับ”
“มารยาทดีจัง”
แบคฮยอนพึมพำเบาๆ ก่อนจะยื่นมืออกไปเชคแฮนด์กับหนุ่มหล่อด้วยสายตาเป็นประกาย “พี่แบคฮยอนนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ เต็มใจเสมอ”
“ขอบคุณครับพี่แบคฮยอน” จื่อเทาเอ่ยนิ่มๆแต่มองกลับด้วยสายตาที่ทำให้แบคฮยอนแทบละลาย ติดที่คริสเอามือบีบไหล่เขาเอาไว้ ไม่เช่นนั้นคงลงไปนอนกองกับพื้นแล้วเป็นแน่
“ฝากตัวด้วยนะครับพี่ชานยอล”
จื่อเทาเบนสายตามาสนใจหนุ่มร่างบางตัวสูง เจ้าของนัยน์ตากลมโตสดใสที่สะดุดตาเขาตั้งแต่วันรับน้อง โชคร้ายที่เขาเห็นรุ่นพี่คนนี้แค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่เจออีกเลยจนกระทั่งวันนี้ มือเรียวยื่นมือออกไปหวังจะเชคแฮนด์แบบที่แบคฮยอนทำเมื่อครู่ ชานยอลมองมือขาวนั้นอย่างลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจยื่นมืออกไปแต่แล้วก็ถูกปัดออกด้วยมือใหญ่ของใครบางคนที่ยื่นเข้ามาจับมือจื่อเทาแทนเขาอย่างรวดเร็ว
“โทษทีนะไอ้น้อง แต่ไม่รับฝากว่ะ ขอบคุณ” คริสบอกเสียงเหี้ยม บีบมือที่จับอยู่แน่นด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะปล่อยมือออกเมื่ออีกฝ่ายบีบตอบกลับมาด้วยท่าทางเอาเรื่องเช่นกัน
“พี่คริส..”
ชานยอลมองหน้าชายหนุ่มทั้งสองสลับกันอย่างสุดเซ็งกับความขี้หึงของคนรัก แต่ก็เลือกที่จะดึงมือคริสออกมากุมไว้หลวมๆ ในขณะที่คริสก็กระชับมือเล็กกว่าแน่นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“ชานยอล จื่อเทา ไปคุยเรื่องบทเรื่องอะไรกับทีมงานทางนั้นดีกว่า บรีฟงานกันเสร็จเร็วจะได้กลับกันเร็วๆ”
จุนมยอนบอกพลางดึงแขนรุ่นน้องตัวสูงทั้งสองไปด้วย จื่อเทานั้นเดินตามเขามาอย่างง่ายดายแต่อีกคนกลับถูกมือแกร่งรั้งเอาไว้แน่น
“ขอผมคุยกับชานยอลแป๊บนะพี่”
“อ .. อืม เร็วๆล่ะ” ร่างเล็กเอ่ยด้วยความไม่มั่นใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เหลียวมองคู่รักเสาไฟฟ้าเป็นระยะๆพร้อมกับพาจื่อเทาเดินห่างออกมาเพื่อพูดคุยเรื่องบทกับทีมงานฝ่ายอื่นๆ
“ชานยอล ไม่เล่นเรื่องนี้แล้วได้มั้ย” คริสพูดเสียงอ่อน นัยน์ตาคมฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมล่ะ”
“ดูไอ้พระเอกนั่นมองเราสิ ไม่เห็นหรือไง แทบจะทะลุอยู่แล้วมั้ง”
“หึๆ ก็เหมือนสายตาที่พี่มองสาวสวยเวลาเดินผ่านนั่นแหละ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี” ร่างบางว่า ยกมือขึ้นดึงแก้มคนรักเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวกับความขี้หวงขึ้นสมอง
“ไม่เอาน่าที่รัก ไม่รื้อฟื้นเนอะ” คริสบอกอย่างออดอ้อน “แต่พี่พูดจริงๆนะ ไม่เล่นไม่ได้หรอ พี่ไม่ไว้ใจมันเลย”
“คุณเสาไฟฟ้าครับ นี่คิดไปไกลถึงไหนแล้วครับคุณ ชานยอลมันเล่นเป็นพระรองนะเว้ยไม่ใช่นางเอก ไม่มีฉากถึงเนื้อถึงตัวกันหรอกน่า นี่เว่อร์ไปป่ะเนี่ย”
แบคฮยอนโพล่งขึ้นมาหลังจากทนยืนดูความหวานเลี่ยนของคู่นี้มาตั้งแต่ต้น บทจะหวานก็หวานซะน้ำตาลยังจืด แต่ลองทะเลาะกันทีก็รุนแรงไม่ต่างอะไรจากทะเลคลั่ง พายุกระหน่ำเข้าเกาหลีเลยล่ะ
“คนไม่มีแฟนช่วยหุบปากไปด้วยครับเตี้ยครับ คนรักกันขาจะคุยกันครับ”
แล้วอีกคนมันยอมแพ้กันที่ไหน ..
ชานยอลถอนหายใจกับเพื่อนรักและคนรักที่ยังคงแขวะใส่กันเป็นเด็กๆอย่างปลงจิต ก่อนจะยกสองมือขึ้นวางบนแก้มนิ่มของคริสแล้วยิ้มหวานให้
“ช่วยบอกเหตุผลดีๆสักข้อที่จะให้ผมปฏิเสธการเล่นละครเรื่องนี้มาหน่อยสิครับที่รัก”
“พี่หวง”
คริสตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“อือฮึ ..แล้วไง?”
“โถ่ชานยอล แค่นี้ยังไม่พออีกหรอคะ?”
“พี่จะได้เขาใจสักทีไงเวลาผมเห็นพี่แอบไปกิ๊กสาวที่ไหนหลับหลังผม แอบมองสาวสวยหุ่นดีเวลาเดินผ่าน แอบให้เบอร์สาวที่ผับ ผมรู้สึกยังไง”
ชานยอลเอ่ยเสียงเฉียบขาด นัยน์ตากลมสดใสฉายแววสะใจเล็กๆพร้อมกับยิ้มมุมปากที่ทำให้คริสได้แต่กลืนน้ำลายอย่างหมดคำพูด
ชานยอลน่ะร้ายกาจ .. คริสรู้ดี
แต่ไม่คิดว่าจะเอาคืนเขาแบบนี้ .. มันค่อนข้างเหนือความคาดหมายอยู่มากทีเดียว
“ชานยอลอา .. ไม่เอาแบบนี้ไม่ได้หรอ” อดีตเสือจอมวายร้ายอย่างคริสครางหงิงเหมือนลูกหมาเพื่ออ้อนวอนคนรัก “ไม่ต้องเล่นหรอก เดี๋ยวพี่คุยกับจุนมยอนให้เอง”
“ผมบอกว่าจะเล่นก็คือเล่น จบเนอะ” ร่างบางบอกยิ้มๆ “จะได้รู้เอาไว้ว่าพี่ไม่ได้สเน่ห์แรงฝ่ายเดียว อย่าให้ผมอ่อย เพราะโอกาสมันน้อยที่จะไม่มีคนตกหลุมพรางมาจีบ :D”
“ชานยอล!”
“ไม่คุยแล้ว พี่รอผมอยู่กับแบคฮยอนตรงนี้แล้วกัน จะรีบไปคุยงานแป๊บเดียวจะได้รีบกลับกัน”
ชานยอลพูดแค่นั้นแล้วหันหลังเดินออกไปหาจุนมยอนที่ยืนอยู่ไม่ไกล ทิ้งให้คริสได้แต่ยืนมองคนรักตัวแสบตาปริบๆแต่ทำอะไรไม่ได้ รักเขาแล้วก็ต้องทำใจน่ะนะ ..
.
.
บอกเลยว่าเห็นชานยอลนิ่งๆแบบนั้นแต่อย่าให้คิดจะอ่อย เพราะร้อยทั้งร้อยต้องติดกับอย่างไม่มีข้อยกเว้น! จากคริส ผู้มีประสบการณ์ตกหลุมพรางชานยอลมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
-----------------------
ใครบอกว่าพี่คริสร้ายในตอนก่อนๆ อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกสงสารพี่คริสขึ้นมากันบ้างไหมคะ555555555555555555
บอกเลยว่าคนเขียนสงสารพี่คริสมาก ฮ่าาาา ชานยอลมันร้าย ร้ายกว่า ร้ายเงียบ และร้ายลึกจริงๆนะเออ .. อิพี่คริสตามไม่ทันหรอก /หัวเราะหิหิ
ขอโทษที่มาต่อช้านะคะ จะพยายามไม่ให้ช้าไปกว่าอาทิตย์ละครั้ง (ถุย) แต่ถ้ามาเร็วและถี่กว่านี้ได้ก็จะมาค่ะ 5555555
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น