คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : STORY3 : VAMP {CT1}
VAMP.
ตัญหา..
ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่สิ้นสุด..
อยากที่จะสวยอยากที่จะหล่อ..
อยากรวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐี..
อยากเด่นดังเพื่อให้เป็นที่รู้จัก..
อยากให้คนที่รักหลงไหล..
ความอยากที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพวกมนุษย์มันช่างน่าพะอืดพะอมเหลือเกิน
สำหรับคนแบบ ‘พวกผม’
ความต้องการหรอ? ความอยากได้หรอ? ความสุขสมทางอารมณ์หรอ?
หึ.. ช่างน่าขำเสียนี้กระไร.. ถ้าคุณอยากได้ความสุขที่เฝ้าหา..
มาเป็นแบบ ‘พวกผม’ สิ
แล้วคุณจะหาคำว่า ‘ทรมาน’ ในใจของคุณไม่เจอแม้แต่ตัวอักษรเดียว..
สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘คิมจินฮวาน’ ช่างเย็บผ้าของเมืองเล็กแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก
จนแทบจะไม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอก ชีวิตที่เมืองนี้มันก็สุขสบายกายสบายใจดีนะครับ.. ถึงจะไม่มีแสงไฟในยามกลางคืนที่สวยงาม..
ไม่มีเพลงบรรเลงรื่นรมย์แต่คนที่นี้ก็ไม่เคยแม้ปริปากบ่นเพราะมันช่างสงบเหลือเกินและผมก็เป็นคนชอบสิ่งนั้น..
ชาวเมืองที่อาศัยและเกิดที่นี้ทุกคนต่างก็รู้จักกันดีในฐานะเพื่อนร่วมอาศัย
แต่กับคนที่อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนที่สูงสุดของภูเขานั้นอย่าว่าแต่รู้จักเลย หน้าก็ไม่เคยเห็น..
คฤหาสน์ที่ได้แต่มองอยู่ไกลๆ สีของตัวคฤหาสน์ที่ดำทะมึนจนแทบจะไม่เห็นประตูแสงไฟที่ควรจะเปิดไว้บ้างในตอนกลางคืนก็ไม่มีแม้แต่แสงเทียนเล็ดลอดออกมา
มันแปลก..แปลกมากจนคนที่นี้ไม่กล้าเข้าไปทักทายหรือย่างกายเข้าไปใกล้ที่นั้นเลยแม้แต่คนเดียว..
คิดๆไปนี้ก็อยากไปเหมือนกันแฮะที่นั้นน่ะ คงแปลกน่าดูแฮะ -3-..
กรุ้งกริ้ง!
เสียงกระดิ่งอยู่บนคานประตูที่ทำไว้เพื่อเตือนว่ามีลูกค้าเข้ามาดังขึ้นและนั้นก็ทำให้ผมหันไปที่ประตูเพื่อต้อนรับคนที่เข้ามาใหม่..
“ยินดีต้อนรับครั.. เอ่อคุณ”
ลูกค้าที่ผมไม่เคยเห็นหน้าทำให้แปลกใจนิดหน่อยเพราะในละแวกนี้ก็จะมีแต่ลูกค้าประจำเข้ามาทั้งนั้น
เลยไม่ชินกับลูกค้าใหม่ซักเท่าไหร่ แถมลูกค้าแปลกหน้าคนนี้ยังแต่งตัวไม่ชินตาอีก
แล้วก็ไอ้ชุดสูทสีดำมิดเนี้ยบสุดแถมทรงผมเซ็ตที่เนี้ยบพอๆกับสูทที่ใส่อยู่เป้ะ คนๆนี้เป็นคนที่เมืองนี้จริงๆหรอเนี่ย? -______-
“สงสัยว่าผมคงจะทำคุณตกใจสินะครับ.. กระผมชื่อชเวลีโฮครับอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ด้านบนเมืองแห่งนี้
นี้คือครั้งแรกที่ลงมาที่นี้น่ะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ คุณ..?”
“จินฮวานครับ คิมจินฮวาน”
ผมแนะนำตัวพอเป็นพิธีแล้วก้มหัวลงเพื่อเคารพคนที่พึ่งแนะนำตัวไป.. แต่จะว่าไปเขาบอกว่าอยู่บนคฤหาสน์ด้านบนงั้นหรอ? พวกคนรวยสินะ.. แต่ก็มารยาทผิดคาดแฮะ คิดว่าจะหยิ่งยโสกว่านี้ซะอีก
“แล้วต้องการอะไรบ้างครับ?”
“ลืมไปเลยนะครับเนี่ยว่ามาเอาผ้ามาให้ซ่อมให้น่ะ นี้ครับ..”
คนที่จัดได้ว่าหน้าตาดีสุดๆคนนึงหรือจะเรียกว่าลูกค้าใหม่ของผมจับเสื้อที่น่าจะเป็นเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนแขนของเขาแล้วยื่นให้ผม..
รับเสื้อมาจากมือของลูกค้าก่อนจะมองการอยขาดที่เขาต้องการจะให้ซ่อมและก็เห็นรอยนั้นอยู่ตรงแขนเสื้อแต่พอมองดูดีๆแล้ว..
นี้มันเสื้อคลุมของราชวงศ์อังกฤษยุค 1978 นี้.. ทำไมของสำคัญแบบนี้ถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะเนี่ย?
“อยากจะถามสินะครับว่าทำไมของสำคัญแบบนี้ถึงมาอยู่กับกระผมได้.. มันเป็นเสื้อคลุมที่ตกทอดมาจากราชวงศ์อังกฤษยุค 1978 และนายน้อยของพวกเราก็เป็นทายาทรุ่นที่ 37 น่ะครับ เสื้อคลุมนี้ถึงได้มาอยู่กับกระผมได้..”
โห.. เป็นคนใหญ่คนโตน่าดูเลยสิเนี่ย.. ผมดูเสื้อคลุมที่มีค่ามากกว่าชีวิตผมในมือเพื่อตรวจสอบรอยขาดที่อยู่บนเสื้อนั้น อืม รอยขาดเยอะน่าดูเลยนะเนี่ยสงสัยน่าจะซ่อมเสร็จพรุ่งนี้เลยล่ะมั้ง..
“เสื้อนี้คงต้องซ่อมถึงพรุ่งนี้เลยล่ะครับ คุณคงจะรอรับไม่ได้เดี๋ยวผมจะเอาขึ้นไปส่งให้นะครับ”
“โอเคครับ.. งั้นผมจะรอนะครับ”
“ครับ ขอบคุณที่ใช้บริการครับ ^_______^”
ผมโก่งตัวให้เคนคนนั้นก้าสิบองศาเพื่ออำลาก่อนจะเข้าไปทางหลังร้านเพื่อซ่อมสิ่งที่พึ่งได้รับมาทันที คงต้องทะนุถนอมหน่อยแล้วล่ะสิ.. ขืนขาดเพิ่มอีกเนี้ยชีวิตผมคงอันตรายแล้วล่ะ .______.
หลังจากที่ผมเดินออกมาจากร้านของคนคนนั้น คุณคิมจินฮวาน..
หวังว่าคนนี้จะทำให้นายน้อยถูกใจนะ..
--ต่อ--
Jinhwan’s SIDE
“ฮ่า! เสร็จซะที ไปส่งเลยแล้วกัน!”
ผมยื่นเสื้อคลุมที่พึ่งทำเมื่อตะกี้ขึ้นสูงเพื่อชื่นชมกับผลงานตัวเอง เฮ้ออ คนอะไรหล่อแล้วยังทำงานเก่งอีก ^_________^ นี้แหละน่าที่เขาเรียกว่าเพอร์เฟ็ค!
ไปเลยละกัน.. ผมพับเสื้อคลุมตัวนั้นใส่ถุงของร้านแล้วออกจากร้านไปทันที ปวดขาแน่เลย T^T ยิ่งคนไม่เคยขึ้นเขาแบบผมมาปีนเขาสูงขนาดนั้นนี้ไม่ตายหรอเนี่ย ให้ตายเหอะ T^T
เอาวะ! เป็นไงเป็นกันเพื่อลูกค้าและเงิน!
OMG..
ขาแทบหลุดเหอะ เหนื่อยกว่าที่คิดเยอะเลยอ่ะ T^T เอาวะแต่ยังไงก็มาถึงแล้วล่ะเข้าไปได้เลยมั้ยเนี่ย?
ผมลากสังขารตัวเองมาหยุดที่หน้าประตูคฤหาสน์ที่ได้แต่มองอยู่ไกลๆแต่วันนี้กลับได้มาอยู่ข้างหน้าประตูขนาดนี้ ดีใจดีมั้ยเนี่ย?
ก็อยากจะดีใจอยู่หรอกนะ แต่พอมองไปรอบประตูแล้วเนี่ย..
ไม่มีกริ่ง.. ไม่มีที่เคาะ เออแปลกเข้าไปที่นี้น่ะ
- - สงสัยคงต้อง Manual ดังนั้นผมก็.. เคาะประตูโดยใช้มือ แล้วจะมีคนได้ยินมั้ยฮะถาม -______-
ทำไงดีเนี่ย ._______.
และเพราะความเหนื่อยผมก็ยืนแล้วเอาหลังพิงประตูเพื่อลดน้ำหนักให้ขาตัวเองแบกรับน้อยลง
แต่ว่าทำไมรู้สึกเหมือนหลังไม่ได้พิงประตูอยู่วะ?
อ่าว.. แล้วกูพิงอะไรอยู่?
และพอหันไปก็ทำให้ตาสว่าง ผู้ชายที่คุ้นเคยนั้นก็คือ ลูกค้าผมกำลังเอามือดันผมไม่ให้ผมเองลงไปนอนกองบนพื้น เห็นแบบนั้นก็รีบเอาน้ำหนักไปไว้ที่ขาเหมือนเดิมแต่ดูเหมือนจะรีบไป.. ทำให้ก้นได้ลงไปกองกับพื้นสมใจ
“โอ้ย!”
“เป็นอะไรมั้ยครับ? เข้ามาข้างในก่อน”
ลีโฮพยุงผมที่กำลังลูบก้นตัวเองป้อยๆ ให้ลุกขึ้นแล้วพาเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้า
โห อลังการงานสร้างจริงๆเว้ย -3- แต่จะว่าไปไอ้คฤหาสน์นี้มันจะดำไปไหนวะ ขนาดโคมไฟระย้าอันใหญ่ที่ห้อยอยู่บนหัวยังสีดำ แล้วมันจะทำอะไรได้วะนั้น
“เอ่อ ผมเอาเสื้อคลุมมาส่งน่ะครับ..”
“ครับ รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปเรียกเจ้าของมารับนะครับ”
แล้วทำไมคุณถึงไม่เอาไปให้เจ้าของล่ะคร้าบ - - แต่นั้นก็เป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้ทำการสำรวจที่นี้น่ะนะ
โอ้โห เพราะมาดูดีๆ นี้ก็หรูสุดๆ ไปเลยนะเนี่ยแต่ก็สมเหตุสมผลดีแหละเพราะถ้าจะเป็นเจ้าของเสื้อคลุมนั้นก็คงต้องประมาณนี้แหละเนอะ
10นาทีต่อมา..
เห้ยไปตามหรือไปครอดวะฮะ - -
นานเหลือเกิน..
ไปตามหน่อยดีกว่า ผมลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งจนก้นชาแล้วเดินไปหาชเวลีโฮที่หายไปนานเหลือเกิน
แต่คฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่าหลังนี้ไม่ได้ใหญ่แค่ภายนอกตามที่ผมคิดเมื่อมองจากด้านล่างแต่ที่จริงแล้วข้างในแม่ม..ใหญ่กว่าเยอะเล้ย!
และสิ่งนั้นก็ทำให้ผม
หลง..
อ้ากกก แล้วตอนนี้กูอยู่ไหนวะครับ!! แต่ดูจากเฟอร์นิเจอร์รอบๆห้องมันก็น่าจะเป็น ห้องนอน?
แต่รู้สึกว่าห้องนี้จะมีคนอยู่เพราะเสียงฝักบัวในห้องน้ำที่ดังทั่วห้องน่ะนะ ผมควรออกไปมั้ย? หรือจะถามว่าทางออกอยู่ไหนดี - - ถามแล้วกันวะ.. อยากกลับแล้ว T^T
“เอ่อขอโทษนะครับ..”
พูดไม่ทันขาดคำเสียงฝักบัวในห้องน้ำก็ดับลงพร้อมกับคนที่ออกมาจากห้องพร้อมกับมองหน้าผม พ่อคุณ..ไม่คิดจะตอบอะไรหน่อยเรอะ? แล้วไอ้ผ้าขนหนูที่พันรอบเอวหมิ่นเหม่ว่าจะหลุดไม่หลุด
น้ำที่เกาะอยู่บนแผงอกซิกแพคที่ไม่ใหญ่จนน่าเกลียดผมที่ลู่ไปกับคอที่ดูแข็งแรง
อยากตายครับบอกได้เลย..
“โอ้คุณจินฮวานใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ครับ แต่จะว่าไปแล้วคุณรู้จักชื่อผมได้ยังไงครับ?”
คนหล่อขนาดนี้มารู้จักผมได้ยังไงกัน? หรือว่าจะเป็น..
“คุณคือนายน้อยของที่นี้?”
“ลีโฮคงบอกเรื่องของผมแล้วสินะครับ”
“ใช่ครับคุณคงเอาเสื้อมาให้ผมสินะ”
เออ..ใช่สิลืมไปซะสนิทเลยว่ามาทำอะไร โอ้ยตาย สมองไปหมดแล้ว - -
“อ่อ.. ใช่ครับเดี๋ยวผมไปเอา.. อ้ะ!”
คิดได้แบบนั้นก็เตรียมที่จะไปเอาถุงเสื้อที่วางไว้ที่โซฟาห้องรับแขกแต่ทันใดนั้น..
แรงจับที่ข้อมือผมทำให้ผมต้องหันหลังไปเพื่อดูต้นตอ.. พอหันไปก็เจอคนที่ทำให้ผมใจเต้นจับข้อมือผมอยู่
อะไร?
“ผมชื่อคิมฮันบิน ผมอยากได้เลือดของคุณคุณจะให้ผมได้มั้ย?”
“ฮะ?”
คำขอร้องที่คิ้วพันกันเป็นปมแทบแก้ไม่ออก.. อะไรนะ เลือด? จะอะไรก็ช่างแต่ตอนนี้ผมว่าผมไม่ปลอดภัยแล้วล่ะ..
ผมพยายามจะสะบัดข้อมือให้ออกจากการกอบกุมของคนแปลกๆตรงหน้าแต่ก็ได้แต่สะบัดเพราะคนที่ขึ้นชื่อว่าคิมฮันบินก็เหมือนจะไม่สะทกสะท้านแต่กลับยิ้มและดึงผมให้เข้าไปในกอดของเขาแล้วอ้าปากออกก่อนจะกัดเข้าที่คอของผมอย่างจัง..
“โอ้ย!!!”
ความเจ็บที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายและไม่นานนักสิ่งนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านจนแทบจะละลายกองไปบนพื้น..
ทำไมกัน? โดนกัดแล้วก็ต้องเจ็บไม่ใช่รึไง? แต่ทำไมกลับเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย..
“อื้อ.. ท ทำไม?”
ฮันบินถอนเขี้ยวนั้นออกแล้วพาผมไปที่เตียงขนาดคิงไซส์หลังใหญ่ในห้อง
ก่อนจะหันมายิ้มให้ทำไมผมถึงต้องการคนตรงหน้าขนาดนี้..
“ค..คุณช่วยผมหน่.. ฮ่า”
ประโยคตะกุกตะกักที่หลุดออกมาจากปากผมทำให้คนตรงหน้ายิ้มออกมาน้อยๆแต่มันช่างน่าหลงไหลเหลือเกินสำหรับผม..
“เรียกผมว่าฮันบินสิครับ..”
“ฮันบิน.. อ๊า!!”
“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก แค่นี้ก็พอ..”
หลังจากคนที่ขึ้นชื่อว่าฮันบินพูดประโยคที่ชวนขนลุกนั้นเสร็จเขาก็ฝังเขี้ยวแหลมคมนั้นลงมาอีกครั้ง
ความเสียวซ่านที่ไหลพร่านไปทั่วร่างกายทันทีที่เขี้ยวนั้นฝังมาที่คอของผมต่างจากความรู้สึกไม่กี่นาทีที่แล้ว เพราะตอนนี้มันกลับรู้สึกดีกว่าครั้งนั้นเยอะกว่าเท่าตัว
เกิดอะไรขึ้นกับผมกัน..
ไม่มีการแตะต้องส่วนนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่แค่เขี้ยวนั้นที่กำลังดูดเอาเลือดของผมไปมันกลับรู้สึกดีกว่าตอนที่ทำแบบนั้นหลายเท่าตัว
“อื้อ! ฮันบิน! ทำไม?..”
คนตรงหน้าที่ไม่ได้ตอบคำถามของผมไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองแต่แรงดูดที่คอนั้นมันรุนแรงยิ่งขึ้นก่อนที่สัมผัสชื้นนุ่มนั้นน่าจะเป็นคำตอบให้ผมได้..
“ฮันบิน! ไม่ไหวแล้ว!! อ๊า!”
และอีกไม่กี่นาทีต่อมาผมก็ปลดปล่อยสิ่งนั้นออกมาแต่ทำไมถึงไม่รู้สึกแฉะข้างในเลยซักนิด?
คิดได้ดังนั้นก็พยายามก้มหน้าลงไปหาคำตอบ
กางเกงยีนส์ของผมนั้นลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับอันเดอร์แวร์เป็นที่เรียบร้อยเสร็จสรรพ
ฮะ? ผมถอดตอนไหนวะครับ..
คิดได้อีกครั้งความรู้สึกที่ตีกันทั้งในหัวก็ตีตื้นขึ้นมาจนแทบเป็นลม นี้ผมพึ่งโดนคนที่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงห้านาทีทำแบบนั้นแล้วหรอ?
แต่พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกเพราะเขาก็ไม่ได้แตะต้องตัวของผมเลยแม้แต่นิดเดียว..
เว้นแต่เขี้ยวแหลมคมที่ทำให้ผมมาถึงขั้นนี้ ในนิยายที่ผมเคยอ่านนั้น มนุษย์ผิวสีซีดเผือกจนน่ากลัว หน้าตาหล่อเหลาและสวยงามมากเกินกว่ามนุษยทั่วไป
และจุดเด่นที่สำคัญที่สุด.. เขี้ยวสองข้างที่แหลมพอๆกับมีด ใครที่โดนสิ่งนั้นกัดจะกลายเป็นเหมือนพวกเขาและมีชีวิตอมตะ และสิ่งนั้นที่ว่าก็คือ..
“แวมไพรส์”
มุมทอลค์:
น้อยๆต่อยหนัก (มั้ง) -.-
นี้เสียวโดนแบนมากนะแต่นิดๆหน่อยๆ ก็น่าจะรอดแหละเพราะเคยลงหนักกว่านี้ก็ไม่โดนคิคิ ><
อ่านฟินเม้น 3 คำของไรท์และไรท์คนอื่นๆนะจ้ะ
ไปสกรีมฟิคเค้าได้ในทวิต #ฟิคตอรี่
เจอปืนจ้า#
ความคิดเห็น