ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SNSD] YOU KNOW NOTHING [YURI] TaeNy,YoonSic

    ลำดับตอนที่ #29 : Chapter 28 : เรื่องเดียวที่ให้ไม่ได้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.04K
      21
      1 ต.ค. 59

    T
    H
    E
    M
    Y
    B
    Chapter 28 : เรื่องเดียวที่ให้ไม่ได้



    แสงอาทิตย์สีส้มยามใกล้ลับขอบฟ้าท่ามกลางธรรมชาติ ป่าไม้เขียวชะอุ่มที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเมื่อแสงจาก

    ขอบฟ้าลดลงเรื่อยๆ



    “ตัวเล็กไหวไหม” ทิฟฟานี่หันมาถามแทยอนที่กำลังเซตอุปกรณ์เตรียมทำอาหารเย็นกินกันที่บริเวณหน้าบ้านพัก



    “แททำได้น่า เต็นท์ก็ยังกางเสร็จแล้วเลย” เมื่อสายตาหันไปดูเต็นท์ที่คนตัวเล็กกางไว้ถึงกับส่ายหน้า



    นั่นเรียกว่ากางเต็นท์เหรอ ทรงเต็นท์บูดเบี้ยวอย่างนั้น มันใช่เหรอ



    ทิฟฟานี่นึกขำแล้วเดินไปแก้เต็นท์ที่แทยอนจัดการไว้ ทั้งสองคนตกลงกันว่าเย็นนี้จะปิ้งเนื้อทำบาบีคิวกินและกางเต็นท์ที่

    ลานกว้างหน้าห้องพักไว้เพื่อนอนดูดาวตอนกลางคืนด้วยเลย หญิงสาวจัดเต็นท์ใหม่เรียบร้อยก็ลองเข้าไปนั่งก่อนจะส่งเสียง

    ให้กำลังใจคนตัวเล็กที่ยังคงหน้าดำคร่ำเคร่งกับการเซตอุปกรณ์ ถึงแม้เธอจะอยากเข้าไปช่วยแต่ก็ไม่อยากให้แทยอนต้อง

    เสียเซลฟ์ 



    คนที่พยายามจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำเพื่อใครสักคน...



    แม้สิ่งที่ทำให้อาจจะออกมาไม่ดีหรือแม้ในที่สุดแล้วจะทำสำเร็จหรือไม่..เธอก็ไม่สนหรอก..



    เพราะความจริงใจความตั้งใจที่เค้าแสดงออกมามันทำให้เธอรู้สึกดีที่สุด...ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟ็คต้องเก่งในทุกเรื่องหรือ

    เป็นที่พึ่งให้เธอได้ทุกอย่าง...



    ขอแค่ความจริงใจของแทยอนถือว่าเป็นสิ่งที่เพอร์เฟ็คที่สุดแล้ว




    “ฟานี่! เสร็จแล้ว!” เสียงแทยอนตะโกนเรียกดังขึ้นทำให้ทิฟฟานี่หลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง หญิงสาวจึงรีบลุกออกไป

    หาคนตัวเล็กดวงตาหวานมองอุปกรณ์ปิ้งย่างที่แทยอนประกอบเสร็จด้วยรอยยิ้มกว้าง



    “เก่งจังเลยแทแท ไปนั่งพักนะคะเดี๋ยวฟานี่ทำของอร่อยๆให้กิน” ทิฟฟานี่เกลี่ยผมที่ยุ่งๆของแทยอนแล้วกลับเข้าไปในตัว

    บ้านพักเพื่อเอาของออกมาทำอาหาร 



    แทยอนเดินไปนั่งรอที่เต็นท์ตามอีกคนบอก สายตามองท้องฟ้าที่ไร้แสงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นสีฟ้าหม่นใกล้จะมืดสนิทเข้าไป

    ทุกที ดวงตากลมทอดสายตามองธรรมชาติรอบกายที่ไร้แสงจากตึกสูงเหมือนในเมือง ไม่มีเสียงการจราจรที่วุ่นวายตาม

    ท้องถนนที่แม้เวลาดึกแล้วก็ยังมีผู้คนใช้เส้นทางสัญจรไม่ขาด ไม่มีร้านอาหารข้างทางยามค่ำที่แสนคึกคักที่คุ้นเคย....

    ได้ยินแต่เสียงใบไม้ไหวและสายน้ำที่ไหลเอื่อยตามวัฐจักรธรรมชาติ บรรยากาศโดยรอบที่แทยอนมองเห็นสงบนิ่งราวกับอ

    ยู่กันคนละโลกกับเมืองที่เธอเคยอยู่ราวฟ้ากับเหว..




    “ตัวเล็กเป็นอะไรหรือเปล่าเหม่อเชียว” ทิฟฟานี่ที่ออกมาด้านนอกเตรียมจะปิ้งเนื้อเห็นแทยอนอาการแปลกๆเลยเดินเข้ามาดู



    “ไม่ได้เป็นอะไร แทแค่กำลังชื่นชมธรรมชาติ” ทิฟฟานี่ยิ้มน้อยๆกับคำตอบที่ได้รับและกลับไปเริ่มลงมือปิ้งบาบีคิวสักที



    ฮ้าาาา...แทยอนสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอดและแหงนดูมองบนท้องฟ้าที่เริ่มมีดวงดาวส่องประกาย และดวงจันทร์ที่

    ออกมาทำหน้าที่แทนพระอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้าไป



    รู้สึกดีจัง...เพราะแบบนี้ฟานี่ถึงฝันอยากไปเที่ยวรอบโลกสินะ...แค่ในเกาหลีก็ยังมีสถานที่มากมายที่เธอไม่เคยได้ไป

    มันต้องมีอะไรน่าสนใจและสวยงามกว่านี้อีกแน่ๆ....



    คิดแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับตัวเองก่อนจะหันไปมองทิฟฟานี่ที่กำลังง่วนกับการปิ้งเนื้อบนเตานั่น นี่เธอนั่งสบายๆปล่อยให้อีกคน

    ทำทุกอย่างเองอยู่แบบนี้จะดีเหรอ คนตัวเล็กคิดชั่งใจเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะ.....



    “ตัวเล็กทำอะไรคะเนี่ย ฟานี่ยุ่งอยู่เห็นไหม” ทิฟฟานี่สะดุ้งเล็กน้อยที่โดนแทยอนเข้ามากอดจากทางด้านหลังก่อนจะหัน

    ความสนใจไปจัดการเนื้อตรงหน้าเธอต่อ



    “ฟานี่ก็จัดการส่วนของฟานี่ไปสิคะ แทก็จะจัดการส่วนของแทเอง” ทิฟฟานี่ไม่เข้าใจกับสิ่งที่แทยอนพูดมากนักแต่หลัง

    จากที่เค้าฉวยโอกาสหอมแก้มเธอเสร็จมือที่โอบกอดเธอไว้ก็หายไป...



    “ตัวเล็ก!?” ทิฟฟานี่ต้องตกใจอีกครั้งจนต้องก้มลงไปมองแทยอนที่ลงไปนั่งยองๆกับพื้นมือลูบขาของเธอตั้งแต่ต้นขายาว

    ลงไป



    “แทแค่ทายากันยุงให้ฟานี่น่าไม่ทำอะไรหรอก ใครให้ใส่ขาสั้นแบบนี้ล่ะ” แทยอนบ่นพึมพำแล้วก็บีบยากันยุงใส่มือบรรจง

    ทาขาของทิฟฟานี่จนเสร็จแล้วขยับไปทาอีกข้างต่อ ดีที่ว่าทิฟฟานี่ใส่เสื้อคลุมแขนยาวไม่งั้นคงจะได้ทาแขนให้เค้าด้วย

    แทยอนที่ถือขวดยากันยุงค้างไว้ยืนหันรีหันขวางด้วยนึกไม่ออกว่าจะช่วยอะไรทิฟฟานี่ได้อีกบ้าง



    “ฟานี่มีอะไรให้แทช่วยไหม” สุดท้ายเจ้าตัวก็เอ่ยปากถามอีกคนไปตรงๆ เจ้าของเสียงหวานเลยใช้ให้แทยอนไปล้างมือ

    แล้วมาถือจานรอบาบีคิวหอมกรุ่นที่กำลังสุกได้ที่ แทยอนตอบรับแล้วรีบวิ่งหายเข้าไปในบ้านเพื่อล้างไม้ล้างมือแล้วก็วิ่ง

    กลับออกมาหยิบจานที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ใกล้ๆกับทิฟฟานี่ขึ้นมาถือรอด้วยนัยน์ตาแป๋วแหววน่ารักน่าชังทำให้คนที่กำลัง

    หยิบบาบีคิวออกจากเตาหันมาเจอถึงกับละสายตาไม่ได้



    “อะไรเหรอฟานี่?” แทยอนเห็นทิฟฟานี่มองหน้าเธออยู่นานทำให้นึกสงสัยว่าทำอะไรไม่ถูกใจหรือเปล่าแต่หญิงสาวเพียง

    ยิ้มแล้วหันกลับไปจัดการเนื้อต่อ



    อะไรของเค้าล่ะ? เดาใจลำบากจริงๆฟานี่เนี่ย



    แทยอนได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจพอเป็นลูกมือให้ทิฟฟานี่เรียบร้อยทั้งหมดทั้งสองก็มานั่งที่โต๊ะไม้ใกล้ๆลงมือกิน

    อาหารเย็นกัน แม้จะมีกันแค่สองคนก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศมันน่าเบื่อกลับมีแต่เสียงหัวเราะหยอกล้อกันอย่างมีความสุข 

    ดวงตาหวานที่มักมีความทุกข์ซ่อนอยู่เบื้องลึกแต่เมื่ออยู่กับคิมแทยอน....เด็กที่อายุน้อยกว่าเธอ7ปีคนนี้....

    ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ด้วยความสุขจากหัวใจจริงๆทุกครั้ง...



    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้แทยอนและทิฟฟานี่หยุดบทสนทนาที่กำลังคุยกัน สายตาทั้งสองคนหันไปมองมือถือที่วางอยู่

    ใกล้มือทิฟฟานี่ ชื่อเด่นหราบนหน้าจอ ซีวอนอปป้า ทำให้บรรกาศดีๆเริ่มขุ่นมัว เรียวคิ้วบางของแทยอนขมวดเข้าหากัน

    จนหน้ายุ่ง ทิฟฟานี่ปรายตามองหน้าคนตัวเล็กก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา



    “ฟานี่รับโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะ” เธอจรดริมฝีปากลงกลางหน้าผากแทยอนแล้วลุกจากโต๊ะเดินเข้าไปคุยสายในบ้านพัก 

    ที่จริงก็ไม่ได้มีความลับหรอกนะแค่คิดว่าเธอนั่งคุยตรงนั้นอาจจะทำให้แทยอนอารมณ์เสียมากกว่าการที่เธอทำแบบนี้



    เคร้ง!



    เสียงส้อมทิ่มลงจานอย่างแรงจนทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่เก้าอี้ด้านในมองออกมาเห็นแทยอนจิ้มเนื้อเข้าปากใบหน้าแสนจะหงุดหงิด 

    กี่ครั้งแล้วที่คนตัวเล็กออกอาการไม่พอใจแต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในเมื่อยังไม่สามารถตัดขาดกับพี่ซีวอนได้ในตอนนี้

    จนกว่าจะถึงเวลาที่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งฝ่ายชาย 



    แทยอนน่ะ.....จะรอได้จริงหรือเปล่า...



    ทิฟฟานี่คุยกับซีวอนอยู่ไม่นานฝ่ายชายก็ยอมวางสาย ไปหญิงสาวหันไปมองด้านนอกเห็นอีกคนนั่งกินอาหารหมดแล้ว

    กำลังใช้ส้อมทิ่มจานเล่นไปมาสีหน้าบูดบึ้งเหมือนเด็กขี้งอนที่รอใครสักคนมาง้อ ทิฟฟานี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินออกไปหา

    แทยอน



    “อิ่มแล้วเหรอคะแทแท” เธอถามทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่ 



    มือเรียววางมือถือบนโต๊ะแล้วกดปิดเครื่องให้แทยอนได้มองตาไม่กระพริบ



    “ปิดเครื่องทำไมล่ะ เดี๋ยวพี่ซีวอนโทรมาก็ไม่ติดหรอก” น้ำเสียงประชดประชันใส่อีกฝ่ายแม้ในใจแทบโห่ร้องด้วยความยินดี

    ที่เค้าปิดเครื่องก็เถอะ



    “ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ฟานี่จะได้มีเวลาอยู่กับตัวเล็กไงคะ”ทิฟฟานี่ส่งยิ้มหวานให้แทยอนจนเจ้าตัวเริ่มคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปม

    และสีหน้าบึ้งเริ่มจางหายลงจนเกือบเป็นปกติ



    บางทีแทยอนก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังงี่เง่าเกินไป ทั้งที่ทิฟฟานี่ก็ขอแล้วบอกกับเธอแล้วยังคงทำฤทธิ์ใส่เค้าตลอด

    เมื่อเธอเลือกที่จะยอมรับก็ต้องทำตัวให้ทิฟฟานี่สบายใจสิไม่ใช่ประชดใส่ตลอดแบบนี้...



    “ฟานี่”



    “ว่าไงคะ” ทิฟฟานี่ตอบรับแล้วจิ้มเนื้อในจานตัวเองขึ้นมาทานก่อนจะมองหน้าแทยอนรอว่าเค้าจะพูดอะไรต่อ



    “เป็นแฟนกันนะ”



    “..........แท” ทิฟฟานี่วางส้อมในมือเธอลงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที



    “แค่ตอนนี้.....สามวันที่เราอยู่ด้วยกัน....ไม่มีใครเห็น....ไม่มีใครรู้...มีแค่เรา...แค่เราสองคนนั้นเท่านั้น...

    ทำสิ่งที่อยากทำกันเถอะฟานี่” แทยอนจ้องหน้าอีกคนรอคำตอบ 



    ทิฟฟานี่นั่งกอดอกนิ่งในหัวกำลังครุ่นคิดในสิ่งที่แทยอนร้องขอก่อนจะตอบ



    “ก็ได้....แค่สามวันนี้นะ” แทยอนยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับทำเอาคนมองเอื้อมมมือเรียวไปสัมผัสใบหน้าแทยอนแล้วส่ง

    รอยยิ้มหวานให้ อยู่ๆแทยอนรู้สึกเขินอายขึ้นมาดื้อๆจนต้องหลบสายตาทำเฉไฉด้วยการเอื้อมมือไปหยิบส้อมมาจิ้มเนื้อใน

    จานมาจ่อที่ปากหญิงสาว ทิฟฟานี่เลิกคิ้วส่งสายตาเหมือนจะถามว่าทำอะไร แทยอนที่เห็นเค้ายึกยักไม่ยอมอ้าปาก

    กินเนื้อที่เธอพยายามจะป้อนสักที่



    “กินสิ เย็นหมดแล้ว” ทิฟฟานี่ยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาจับมือแทยอนก่อนจะยอมกินเนื้อชิ้นนั้น ใบหน้าพออกพอใจก่อนจะชี้นิ้วที่

    จานตัวเองเป็นการบอกให้แทยอนป้อนเธออีก คนตัวเล็กยิ้มมุมปากจิ้มเนื้ออีกชิ้นขึ้นมาพอเห็นทิฟฟานี่กำลังอ้าปากจะงับเนื้อ 

    แทยอนก็แกล้งดึงมือหนีจนทิฟฟานี่เอื้อมตัวไปตีแขนแทยอนและพยายามจะดึงส้อมจากมือเค้าคืน กว่ามื้ออาหารเย็นจะ

    จบได้แทยอนก็เหย้าหยอกทิฟฟานี่อยู่นานกว่าทั้งสองจะได้เก็บกวาดล้างจานจัดเก็บอุปกรณ์



    “ตัวเล็กมานี่ก่อนซิ” ทิฟฟานี่ที่อยู่ในห้องน้ำส่งเสียงเรียกทำให้แทยอนรีบวิ่งเข้าไปหานึกว่าหญิงสาวต้องการให้ช่วยอะไร



    “ไรอ่ะฟา..อุ๊ก” พอเข้าไปในห้องน้ำยังไม่ทันถามจบคำก็เจอทิฟฟานี่เอาแปรงสีฟันยัดใส่ปากเธอแล้ว



    คงไม่ต้องถามอะไรมากว่าเรียกมาทำไม เล่นเอาแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันใส่ให้เสร็จขนาดนี้แล้วแถมทิฟฟานี่ก็ยืนแปรงฟัน

    หน้าตาเฉยอยู่ข้างๆซะอีก



    จ๊ะแม่...กลัวฉันฟันผุเหรอไงเดี๋ยวก่อนจะนอนก็มาแปรงหรอกนะ



    แทยอนแอบมองค้อนทิฟฟานี่เบาๆ ระหว่างแปรงฟันก็เหลือบตามองทิฟฟานี่บ่อยๆจนเค้าหันมาสบตาด้วยพอดี มือเรียวดึง

    แก้มแทยอนเบาๆส่งสายตาดุให้คนตัวเล็กรีบแปรงฟันให้เสร็จเพราะคิดว่าเวลาประมาณนี้ฟ้าคงสวยน่าชมมากทีเดียวและ

    ก็เป็นดังที่คาดพอทั้งสองออกมาด้านนอกผืนฟ้าที่มืดกลับมีดวงดาวแข่งกันส่องสว่างระยิบระยับบนท้องฟ้า



    “ฟานี่หนาวไหม” แทยอนไม่ถามเปล่าขยับตัวไปนั่งกอดด้านหลังทิฟฟานี่และเกยคางบนไหล่เบาๆ



    “ไม่หนาวแล้วค่ะดูสิตัวเล็กท้องฟ้าคืนนี้สวยมากเลยนะ สวยกว่าที่โซลเยอะเลย” ทิฟฟานี่ที่เอนหลังมาพิงตัวแทยอนหันมา

    จุ๊บแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า ดวงตากลมทอดสายตาขึ้นไปมองตามอีกฝ่ายบอกแล้วกระชับ

    วงแขนแน่นขึ้น



    “คนตรงหน้าสวยกว่าดาวบนฟ้าเยอะเลย”



    “ทำเป็นปากหวาน” มือเรียวยกขึ้นมาสัมผัสใบหน้าคนตัวเล็กอย่างนุ่มนวล



    “ก็ปากหวานกับฟานี่คนเดียวน่า”



    “ไม่เชื่อหรอก เสือผู้หญิงอย่างตัวเล็กก็ชมไปทั่วนั่นแหละ” คำพูดดูตัดพ้อแต่มือเรียวที่วางอยู่ที่ใบหน้าเค้ากลับลูบไล้แก้ม

    เนียนนั้นอย่างทะนุถนอม



    “นั่นมันเมื่อก่อนนี่นา ตอนนี้แทก็ชมแต่ฟานี่คนเดียวจริงๆนะคะ”



    “ให้มันจริงเถอะ อย่าให้เห็นนะว่าแอบไปกินสาวที่ไหนอีก ฟานี่ไม่เอาไว้แน่” ทิฟฟานี่เบนหน้าไปส่งสายตาดุเป็นการเตือน

    ว่าอย่าได้คิดจะทำนิสัยเก่าๆอีกเด็ดขาด คนตัวเล็กจับมือที่วางบนแก้มตัวเองมาประทับที่ริมฝีปากเบาๆก่อนเลื่อนสายตา

    มองเจ้าของมือสวยนั้น



    “แทจะเป็นเด็กดีของฟานี่คนเดียวค่ะ เพราะอย่างนั้น...รอแทนะฟานี่...” แทยอนบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่อ่อนหวาน

    นัยน์ตาที่มองทิฟฟานี่ช่างลึกซึ้งผิดกับครั้งอื่นไม่เหลือเค้าคิมแทยอนคนเจ้าเล่ห์ที่เธอรู้จัก...



    ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก



    เสียงหัวใจที่กำลังเต้นรัวอยู่ในอกทำให้ทิฟฟานี่ไม่อาจควบคุมตัวเอง สมองว่างเปล่าจนคิดคำพูดไม่ออกดวงตาหวานมอง

    คนตรงหน้านิ่งบรรยากาศรอบกายมีแต่ความเงียบ



    “ฟานี่....แท...” ทิฟฟานี่ประกบริมฝีปากเพียงเพื่อปิดปากเอาไว้ไม่ให้เอ่ยคำนั้นออกมา เธอรู้ว่าแทยอนกำลังจะพูดอะไร

    แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะฟังในตอนนี้



    อย่าพูดออกมาเลยตัวเล็ก....



    เธอไม่แน่ใจหรอกนะว่าที่แทยอนกำลังจะบอกนั้นตรงกับที่เธอคิดไว้หรือไม่ แต่ความกลัวในจิตใจสั่งให้เธอรีบหยุดเค้าไว้เป็น

    การดีที่สุด..



    คำที่อาจจะทำให้แทยอนมีความหวังมากขึ้นและคำๆนี้....อาจทำให้สติเธอสั่นคลอนและพังทลายจนกระทำเรื่องไม่ยั้งคิด

    คาดคะเนผลในภายหลัง ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับคนตรงหน้าแต่ถ้าหากจะรักกันเธอก็ต้องการที่จะรักแบบที่คนทั่วไป

    เค้ารักกัน ไม่ใช่มีพันธะอะไรมาผูกมัดตามตัวอยู่เหมือนในตอนนี้ถึงแม้พันธะที่ว่าจะไม่ใช่ในแบบคู่รักของเธอแต่การกระทำ

    มันก็ไม่ต่างเพียงแค่ไม่ได้ผูกพันกันทางร่างกายเท่านั้นเอง ซีวอนเองถึงแม้จะไม่ได้เร่งรัดหรือเอาแต่ใจตัวเองมากนักแต่

    ถ้าหากรู้เรื่องแทยอนเข้าเธอก็ไม่แน่ใจว่าซีวอนยังจะเป็นเหมือนเดิมกับเธออยู่หรือไม่ เพราะเธอเป็นเสาหลักของ

    ครอบครัวฮวังดังนั้นเธอจำเป็นต้องมีซีวอนไว้คอยเป็นแรงสนับสนุนทางด้านการเงินและการงานของเธอต่อไป 



    มันดูเห็นแก่ตัวแต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วเพราะคำว่าครอบครัวเท่านั้นเธอจึงต้องทำ ทุกวันนี้เธอจึงได้แต่อดทนและ

    ภาวนาให้คนตัวเล็กของเธออดทนและเดินจับมือเธอไปเรื่อยๆจนกว่าทุกๆอย่างจะลงตัว ทำไมเธอจะไม่อยากได้ยินคำนั้นกัน



    คำที่ใครๆอยากได้ยินจากปากคิมแทยอน..





    คำว่า...





    .....รัก......




    “ตัวเล็กไม่เอาค่ะ” หลังจากแลกจูบกันอยู่ได้สักพักมือเล็กก็เริ่มซุกซนล้วงเข้าในเสื้อทิฟฟานี่จนสัมผัสหน้าอกทิฟฟานี่จึงรีบ

    เอ่ยห้ามขึ้นมา



    “เข้าไปในบ้านไหมฟานี่” ทิฟฟานี่ดึงมือแทยอนออกมาจากเสื้อตัวเองแล้วอมยิ้มส่ายหน้าน้อยๆ



    “ฟานี่ยังอยากดูดาวอยู่ มาเที่ยวทั้งทีก็เที่ยวให้คุ้มหน่อยสิคะ” มือเรียวประคองหน้าแทยอนเข้ามาจูบอีกหนึ่งครั้งแล้ว

    เลื่อนตัวลงนอนคว่ำมือท้าวคางเงยหน้าชื่นชมดวงดาวที่แข่งกันเปร่งประกายเหมือนอัญมณีดังชื่อของเธอ แทยอนมองหน้า

    ทิฟฟานี่แล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแอบพ่นลมออกจากจมูกอย่างเสียอารมณ์



    นี่เห็นดาวบนฟ้าดีกว่าฉันเหรอเนี่ย เฮ้อออออ ทั้งที่จะได้ลองเอ้าท์ดอร์เป็นครั้งแรกเลยนะถ้ามีอะไรกันในเต็นท์แบบนี้



    ระหว่างที่แทยอนนั่งหน้าบูดอยู่มือเรียวก็วางลงที่หัวเข่าเรียกสติคนตัวเล็กให้หันมาสนใจตัวเอง แม้สายตาที่มองมาดูไม่

    พอใจแต่ทิฟฟานี่ก็ยังคงยิ้มหวานให้พร้อมตบที่พื้นใกล้ๆตัวเองเป็นเชิงบอกให้แทยอนลงมานอนข้างๆ



    เฮ้อออออ ทำหน้าตาอย่างนั้นจะให้ฉันทำไงได้ก็ต้องยอมมั้ยหล่ะ



    คนตัวเล็กๆค่อยขยับตัวลงนอนคว่ำเหมือนอีกฝ่าย พอทิฟฟานี่เห็นดังนั้นก็ค่อยๆเขยิบเข้าไปใกล้จนไหล่ทั้งสองแนบสนิทกัน 

    ศีรษะกลมสวยค่อยๆเอนลงที่ไหล่เจ้าตัวเล็กอย่างนุ่มนวลแล้วอยู่นิ่งในท่านั้นอย่างเงียบๆได้ยินแต่เสียงจากธรรมชาติรอบ

    กายเหมือนเป็นเสียงเพลงเบาๆแสนไพเราะสร้างบรรยากาศให้แทนเสียงเพลงกึกก้องที่พวกเธอฟังเป็นประจำทุกคืนที่ผับ 

    แทยอนเบนสายตามองทิฟฟานี่เล็กน้อยก่อนจะเลื่อนสายตามองดูผืนฟ้าเดียวกันกับที่ทิฟฟานี่มองอยู่ คนตัวเล็กจับจ้อง

    พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างด้วยความรู้สึกวิงวอนอธิฐานอยู่ในใจ..



    อยากจะหยุดเวลานี้ไว้นานๆ 



    เวลาที่มีแค่เราสองคน...



    เวลาที่เรา...



    เป็นแฟนกัน...



    หลังจากที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติยามค่ำคืนกันได้สักพักทั้งสองก็เริ่มรู้สึกถึงความหนาวเย็นมากขึ้น ร่างกายทิฟฟานี่เริ่มสั่นน้อยๆ

    แม้พวกเธอจะอยู่ในเต็นท์แต่เพราะยังไม่ได้ปิดตัวเต็นท์เพื่อนอนชมวิวกันอยู่ทำให้แทยอนขยับไปหยิบผ้าห่มที่เตรียมไว้ใน

    เต็นท์มาห่มให้ทิฟฟานี่ “ตัวเล็กไม่หนาวหรอคะ” หญิงสาวหันหน้าไปถามแทยอนที่สละผ้าห่มผืนนั้นห่มให้เธอทั้งผืน 



    แทยอนยิ้มหวานให้ก่อนจะขยับตัวเข้ากอดร่างทิฟฟานี่แล้วซบหน้าลงที่ไหล่เค้าให้คนโดนซบต้องยิ้มออกมาเมื่อแทยอนเริ่ม

    หาไออุ่นจากตัวเธอ ริมฝีปากไล้ตามใบหน้าลงไปที่ซอกคอให้ทิฟฟานี่เผลอส่งเสียงออกมาเบาๆ ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้ว

    ว่าเคยห้ามแทยอนไว้ในทีแรก



    ร่างสวยค่อยๆพลิกตัวจนหลังแนบสนิทกับฟูกนิ่มที่ปูไว้ในเต็นท์โดยมีแทยอนนัวเนียอยู่ตลอด ทั้งสองคนไม่สนใจว่า

    ตอนนี้อยู่กันนอกบ้านพักแถมตัวหน้าเต็นท์ก็ยังไม่ได้ปิดลงมาพวกเธอแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาบริเวณที่พวกเธอพักอยู่แน่

    ในเมื่อบ้านพักที่เธออยู่เป็นหลังวีไอพีสุดที่ห่างจากโซนบ้านพักเป็นหลังอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกันหลายหลัง..



    ค่ำคืนนี้......



    ก็คงจะมีเพียงดวงดาราและดวงจันทราที่คอยเฝ้ามองบทเพลงรักของทั้งสองคนเท่านั้นเอง...



    ในขณะที่แทยอนกับทิฟฟานี่กำลังมีความสุขกันอยู่นั้นอีกมุมหนึ่งของใจกลางเมืองยังมีใครบางคนที่เริ่มก้าวเดินเข้ามาใน

    ความมืด...



    เสียงดนตรีดังกระหึ่มแสงสีสาดส่องไปมาทั่วบริเวณผู้คนมากหน้าหลายตาที่ไม่คุ้นเคยกำลังสนุกสนานต่างกับชายหนุ่มที่พึ่ง

    เคยมาเหยียบแหล่งอโคจรแบบนี้เป็นครั้งแรก...



    สิก้าชอบมาเที่ยวอะไรแบบนี้จริงๆเหรอไม่อยากจะเชื่อเลย



    ตั้งแต่เข้ามาในผับจุงกิได้แต่มองสำรวจไปทั่วโดยยังไม่คิดจะไปนั่งที่โต๊ะว่างโต๊ะไหนของร้าน 



    ชายหนุ่มที่ไม่ประสีประสาทำให้ผู้หญิงในผับต่างมองมาที่จุงกิด้วยแววตาเป็นประกายที่เจอผู้ชายหน้าตาดีท่าทางเป็น

    คุณหนูมีเงินและดูอ่อนประสบการณ์ราวกับกวางตัวน้อยท่ามกลางเสือสิงห์ที่คอยซุ่มเข้ามาตะครุบตัว 

    ยังไม่ทันที่แม่เสือสิงห์ทั้งหลายที่กำลังรอจังหวะเหมาะจะเข้าไปทักทายก็มีหญิงสาวเดินมาประชิดตัวเค้าพร้อมวางมือที่

    ไหล่ทำให้จุงกิหันหลังไปมอง



    “มาคนเดียวเหรอคะ” ฝ่ายหญิงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร จุงกิออกอาการงงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าว่าเค้ามาคนเดียว



    “ฉันก็มาคนเดียวค่ะ ไปนั่งด้วยกันไหม”



    “เอ่อ...คือ”



    “เอ... ว่าไปคุณนี่หน้าตาคุ้นๆนะ”



    “แต่ผมว่าผมไม่รู้จักคุณมาก่อนนะครับ”



    “อ๋อ จำได้ล่ะ คุณคือแฟนเจสสิก้านี่เอง ฉันเคยเห็นรูปในโทรศัพท์ของเจสสิก้าค่ะ”



    “คุณ คุณรู้จักกับสิก้าเหรอ?” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับ



    “เราไปนั่งคุยกันตรงโน้นดีไหมคะ” ฝ่ายหญิงชี้นิ้วไปทางเคาน์เตอร์บาร์จุงกิมองตามก่อนจะเอ่ยปากตกลงตามหญิงสาวบอก 

    ความจริงที่จุงกิมาที่ผับนี้เพราะความดื้อรั้นของตัวเอง ปากบอกเจสสิก้าว่าครั้งสุดท้ายแล้วแต่ก็ยังอดทำใจไม่ได้จึงไปที่

    บ้านเจสสิก้าเพื่อขอร้องเข้าทางกับแม่แฟนเก่าเพื่ออยากเจออีก ความสงสารสำหรับคนเป็นแม่ที่คอยเฝ้าดูความรักของทั้งคู่

    มาตลอดเกือบทำให้เธอใจอ่อนยอมบอกที่อยู่ที่คอนโดให้แต่อีกใจกลับกลัวว่าอีกฝ่ายจะไปตามราวีให้ลูกสาวอันเป็นที่รัก

    ของตนเดือดร้อนใจจึงได้บอกปฏิเสธไปด้วยถ้อยคำที่แสนจะถนอมน้ำใจชายหนุ่มไป แต้ก็นับว่าโชคยังเข้าข้างที่จุงกิบังเอิญ

    ไปเจอเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมแถมตอนนี้ยังเรียนคณะเดียวกับเจสสิก้าอีกด้วยจึงเลียบๆเคียงๆถามจนเพื่อน

    ยอมใจอ่อนเพราะความสงสารและไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจสสิก้าทำจึงยอมบอกให้รู้ว่าต้องไปที่ไหนถึงจะเจอกับเจสสิก้า

    หวังเพียงแค่ว่าจุงกิจะตามง้อเจสสิก้าสำเร็จ จุงกิคิดว่าจะได้เจอเจสสิก้าที่ผับนี้เพราะเพื่อนเค้าเป็นคนบอกมาแต่กลับกลาย

    เป็นว่าไม่เห็นแม้แต่เงาดันไปเจอกับคนรู้จักของแฟนเก่าแทน 




    ความอ่อนต่อโลกแห่งราตรีของจุงกิทำให้เค้า...




    กำลังจะได้สัมผัสกับสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสและรู้มาก่อนตั้งแต่เค้าใช้ชีวิตมา...



    ----------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×