ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SNSD] YOU KNOW NOTHING [YURI] TaeNy,YoonSic

    ลำดับตอนที่ #28 : Chapter 27 : Dream

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.97K
      28
      18 ก.ย. 59

    T
    H
    E
    M
    Y
    B
    Chapter 27 : Dream


    ขึ้นชื่อว่าคู่รัก นอกจากความรักที่มีให้กันยังมีองค์ประกอบอื่นอีกมากมายที่ทำให้ครองคู่กันไปได้ยาวนานแต่สำหรับเจสสิก้า

    และคนที่พึ่งได้รับการยัดเยียดตำแหน่งแฟนเก่าให้อย่างไม่เต็มใจและไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างจุงกิ..

    อาจจะอ้างอิงหลักเกณฑ์นั้นไม่ได้เลยถึงแม้จะคบกันมาหลายปีก็ตามนั่นก็เพราะ....



    ความรักที่ว่าดีนั้นยิ่งนานวันยิ่งจืดจาง จะเพราะระยะทางที่ห่างกันซีกโลกหรือระยะเวลาที่ต่างกันเกินไปจนทำให้ไม่ค่อยได้

    พูดคุยหรือได้รับการเอาใจใส่ดูแลเท่าที่ควรจะได้รับจนอีกฝ่ายเผลอปล่อยใจให้กับคนที่คอยอยู่ใกล้(แนบ)ชิด 

    คอยเอาอกเอาใจใส่ใจดูแลเสียยิ่งกว่าเจ้าหญิง เพราะฉะนั้นทฤษฎีรักแท้แพ้ใกล้ชิดก็ยังคงใช้ได้ดีกับเจสสิก้า จอง



    ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เธอคิดว่าเธอรักจุงกิ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นเพียงความรู้สึกชอบ...ชอบในความเพอร์เฟ็ค

    ไม่ว่าจะหน้าตาฐานะความรู้นิสัยใจคอเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่จะดูแลเธอได้....จนกระทั่งเมื่อเจอยุนอา...เธอถึงได้รู้...

    ว่าจริงๆแล้วความรักคืออะไร...





    "สิก้า" จุงกิโบกมือขึ้นเมื่อเห็นเจสสิก้าที่กำลังมองหาตนตอนเดินเข้ามาในร้าน



    "มีอะไรก็รีบๆพูดมาเถอะค่ะจุงกิ" ทันทีที่ก้นแตะเก้าอี้เจสสิก้าก็รีบเอ่ยถามถึงธุระที่ดูจะหนักหนาถึงกับต้องนัดเธอออกมา

    ถึงที่นี่ ใบหน้าที่แสนเย็นชาสายตาที่เอาแต่มองไปทางอื่นไม่ยอมสบตากับจุงกิแม้แต่น้อย ฝ่ายชายทำได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้

    เหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดแสนไร้เยื่อใยของคนตรงหน้าแต่ภายในอกนั้นมันร้าวรานจนแทบทนไม่ไหว



    "ขับรถมาไกลสิก้าคงจะหิวแล้วทานอะไรก่อนนะครับแล้วค่อยคุยกัน" จุงกิหยิบเมนูยื่นให้และพยายามส่งสายตาหวานให้แต่

    เจสสิก้าก็ไม่สนใจที่จะสบตาด้วยแม้แต่น้อยในใจมีแต่ความปั่นป่วนอยากจะรีบคุยรีบกลับให้เร็วที่สุดเพราะเธอดันใจอ่อน

    แอบมาหาจุงกิโดยที่ไม่ได้บอกยุนอาน่ะสิ



    "ไม่ใช่เพราะคุณนัดมาที่ไกลๆแบบนี้เหรอคะฉันถึงต้องขับรถมาเหนื่อย" จุงกิยิ้มรับก่อนจะหันไปสั่งอาหารแทนเจสสิก้า

    ทั้งหมดแล้วจึงหันกลับมาพูดกับเค้า



    "ก็ผมจะไปรับคุณก็ไม่ยอมนี่ครับ"



    “ฉันไม่อยากให้แฟนเข้าใจผิด บอกแล้วว่าเจอที่ร้านกาแฟที่เคยไปก็ได้” รอยยิ้มจุงกิจืดจางลงเมื่อได้ยินคำว่าแฟนจาก

    ปากคนที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตัวเองเหมือนกันแต่ก็ยังคงพยายามจะยิ้ม ในใจตอนนี้ยิ่งกว่าโดนเข็มทิ่มแทงไม่ยั้ง 

    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแพลนแต่งงานที่เค้าวางไว้หมาดๆได้พังมลายลงในพริบตาไปแล้วยังต้องมาได้ยินว่าที่เจ้าสาวของ

    ตัวเองพูดจาตัดรอนและแคร์คนอื่นที่ไม่ใช่เค้าอีก....



    “สิก้าจำร้านนี้ได้หรือเปล่าครับ” จุงกิพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่องอื่นทำให้เจสสิก้าเริ่มหงุดหงิดเธอรู้สึกเหมือนอีกฝ่าย

    ดึงเวลาไปเรื่อย



    “ก็แค่ร้านแถวโรงเรียนที่เราเคยเรียนนี่คะ” ใช่เธอจำได้ว่าร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมัธยมปลายของเธอมากนัก ฝ่ายชาย

    ยิ้มบางๆดูแฝงไปด้วยความเศร้าและผิดหวัง



    “ที่นี่เป็นร้านดัลคาบี้ที่คุณชอบกินมากๆไงครับ นี่เป็นร้านแรกที่เรามาเดทกันหลังเลิกเรียน” เจสสิก้าได้ฟังก็อึ้งไปเล็กน้อย 

    พอจุงกิบอกแบบนั้น...ก็เหมือนว่าภาพความทรงจำตอนนั้นจะฉายให้เธอจดจำขึ้นมาได้



    เค้ายังจำได้อีกเหรอ นี่ฉันลืมไปแล้วนะเนี่ยให้ตายเถอะจุงกิ....คุณจะทำให้ฉันรู้สึกผิดที่ทำกับคุณแบบนี้งั้นเหรอ...ไม่สิไม่ 

    จุงกิน่ะ....ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ฉันรู้สึกผิดหรอกเค้าก็เป็นเค้าอย่างนี้มาตลอดต่างหาก....เฮ้อ...อึดอัดจริงๆ 

    ตอนนี้ยุนอาจะทำอะไรอยู่นะหวังว่าคงจะอยู่หอเฉยๆรอฉันนะ...



    “คุณรีบพูดธุระของคุณมาได้แล้วค่ะ ฉันมีเวลาไม่มาก ฉันนัดแฟนไว้!” เจสสิก้าขึ้นเสียงหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างที่ไม่เคย

    ทำให้จุงกิเห็นมาก่อนทำให้ฝ่ายชายนั่งนิ่งถึงกับไปไม่เป็น...เมื่อก่อนตอนที่คบกันก่อนที่เค้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา

    เวลาเจสสิก้าโกรธหรืองอนก็จะเอาแต่เงียบนิ่งไม่เคย...ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำสีหน้าและน้ำเสียงแบบนั้นใส่เลยจริงๆ



    “ผมแปลกใจมากนะครับที่เห็นคุณขึ้นเสียงใส่ผม นี่เป็นอีกด้านที่ผมไม่เคยเห็นงั้นเหรอครับ” แววตาที่มองเจสสิก้าเต็มไป

    ด้วยประโยคคำถามว่าตัวเค้าไม่เคยได้สัมผัสตัวตนของเจสสิก้าจริงๆเหรอ



    “ถ้าคุณต้องการเจอฉันเพราะเรื่องนี้ก็พอเถอะค่ะ” เจสสิก้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกจากที่นั่งแต่จุงกิกลับคว้าข้อมือไว้อย่าง

    รวดเร็ว



    “อยู่ทานมื้อนี้กับผมก่อนนะครับ ขอให้ผมได้ทานอาหารกับคุณเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกลับไปเรียนต่อ...ที่นี่...ร้านนี้....

    ร้านแรกแห่งความทรงจำของเรานะครับ..” เจสสิก้ามองชายหนุ่มที่กำลังวิงวอนเธอด้วยนัยน์ตาแดงๆเหมือนกำลังจะร้องไห้ 

    เจสสิก้าถอนหายใจเบาๆสลัดมือให้หลุดจากจุงกิแล้วหันกลับไป.....นั่งลงที่เดิม



    “ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ขอให้คุณตัดใจจากคนเลวๆอย่างฉัน ขอให้คุณเจอคนที่เหมาะสมกับคุณมากกว่าฉัน....แล้วก็..

    ที่ผ่านมา..ขอบคุณมากที่รักและดูแลฉันเป็นอย่างดี....ฉันซึ้งใจมาก...ฉันพูดจากใจจริงนะคะจุงกิ...” เจสสิก้าพูดด้วย

    ใบหน้านิ่งสายตามองหน้าชายหนุ่มแค่ตอนเธอพูดเท่านั้นหลังจากพูดจบก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น

    ระหว่างรออาหารมา



    ไม่รู้ว่าเธอทำถูกไหมที่ยอมทานอาหารกับเค้าเป็นครั้งสุดท้ายที่นี่....ที่จริงถ้าเธอจำได้แต่แรกคงจะไม่ยอมมา...

    เพราะอย่างน้อย....ก็อยากให้เหลือความทรงจำที่สวยงามเอาไว้ให้จุงกิ...แทนที่เค้านึกถึงร้านนี้ก็จะนึกได้แต่เวลาที่มี

    ความสุขเมื่อตอนเดทกันครั้งแรกแต่....หลังจากวันนี้ไป...ร้านนี้คงเป็นร้านที่ทำให้เค้าคิดถึงเมื่อไหร่..



    คงมีแต่ความเจ็บปวด.....



    “อิยุนโว้ย!” ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนหัวไหล่ดังป๊าบใหญ่จนยุนอาสะดุ้งหันไปมองตาขวางใส่แทยอน



    “อิแท! อะไรของแก” ยุนอาลูบบริเวณที่โดนตีสีหน้าบูดบึ้งคละเคล้าความสงสัยกับการกระทำของเพื่อน



    “จะตั้งรกรากอยู่นี่เหรอไงลุกได้แล้ว” ยุนอามองแทยอนก่อนสายตาจะเลื่อนไปดูพี่ฟานี่ที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อนตัวเองกำลังเก็บ

    เงินทอนที่พึ่งได้รับมา ยุนอาถอนหายใจเล็กน้อยค่อยๆลุกจากที่นั่งแล้วเดินตามแทยอนกับพี่ฟานี่ออกจากร้านอาหาร

    แถวๆหอ



    วันนี้ทิฟฟานี่มาหาแทยอนที่หอหลังจากที่เข้าไปจัดการงานที่บริษัทตัวเองเสร็จแล้วเลยพากันออกมาหาข้าวกลางวันกิน

    และยังคงความใจดีชักชวนยุนอาออกมาด้วยแถมเลี้ยงเค้าอีกเหมือนเดิม คนที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มตอนนี้เอาแต่ยกมือถือที่ไร้

    วี่แววการติดต่อทั้งจากข้อความหรือสายโทรเข้าของแฟนสาวขึ้นมาดู ทั้งๆที่เจสสิก้าบอกไว้แล้วว่าจะไปธุระกับแม่แต่เวลา

    เค้าขาดการติดต่อไปนานๆ หัวใจที่ยังมีรอยแผลก็นึกระแวง...



    กลัวว่า...เจสสิก้าจะหายไปอีก



    “ฟานี่แวะมินิมาร์ทแป๊บนึงนะแทอยากซื้อของกินเล่น”เพื่อนตัวเล็กของยุนอาพูดเสียงดังขึ้นมาให้เธอหลุดจากความฟุ้งซ่าน

    ของตัวเอง เธอรีบเดินตามแทยอนกับทิฟฟานี่เข้าไปมินิมาร์ทได้แต่ทอดสายตามองไปตามชั้นวางแต่ละชั้นผ่านๆเหมือน

    ไม่คิดอยากจะซื้ออะไรเป็นพิเศษ



    “ยุนอาอยากกินขนมอะไรหยิบมาวางรวมกันเลยนะจะได้จ่ายทีเดียวเลย” ทิฟฟานี่ที่คอยดูแทยอนหยิบโน่นนี่หันมาหายุนอา

    ที่เงียบมาได้สักพักแล้ว



    “ให้แทมันเลือกเลยพี่ ยุนกินอะไรก็ได้ปกติก็แบ่งๆกันตลอด”



    “ตัวเล็ก หยิบเผื่อยุนด้วยล่ะ” ทิฟฟานี่หันไปบอกกับแทยอนที่ยังเดินวนเลือกขนมอื่นๆอยู่ เจ้าตัวจึงส่งเสียงตอบกลับมา

    เหมือนไม่พอใจน้อยๆที่ทิฟฟานี่บอกให้หยิบเผื่อเพื่อนเธอด้วยอย่างกับเด็กขี้อิจฉา เสียงทะเลาะกันอย่างไม่จริงจังมาก

    เท่าไหร่ของแทยอนกับทิฟฟานี่ทำให้ยุนอาอมยิ้มออกมา



    อิแทเนี่ยนะ เวลาอยู่กับพี่ฟานี่อย่างกับเด็กสองขวบ สิ้นฤทธิ์หมดท่าสู้พี่เค้าไม่เคยได้สักที



    เสียงมือถือในมือดังขึ้นเมื่อมีสายโทรเข้ามาเมื่อยุนอามองเห็นเป็นชื่อแฟนสาวของตัวเองก็รีบรับสายแล้วเดินออกมานอก

    ร้านมินิมาร์ทเพื่อคุยอย่างส่วนตัว



    “สิก้าเสร็จธุระแล้วเหรอคะ”



    “ยุนอยู่ไหน!”



    “เอ๊ะ?”



    “สิก้าถามว่ายุนอยู่ที่ไหน!”



    “ยุนอยู่มินิมาร์ทใกล้..สิก้า!” ยุนอาพูดยังไม่ทันจบสายตาก็หันไปเห็นเจสสิก้าเดินออกมาจากซอยเข้าหอเธอด้วยท่าทาง

    หัวฟัดหัวเหวี่ยงจึงเรียกไว้ เมื่อเจสสิก้าได้ยินเสียงเรียกจึงรีบหันมาดูพอเห็นว่าเป็นยุนอาก็กดวางสายไปแล้วเดินตรงเข้าไป

    หาอย่างรวดเร็ว



    “ออกมาข้างนอกทำไมไม่บอกสิก้าก่อน ไปหาที่ห้องไม่เห็นมีคนเปิดนึกว่าหนีไปไหนอีก”



    “ยุนแค่ออกมากินข้าวเองคิดมากอะไรน่ะสิก้า” ยุนอายิ้มกว้างสงสัยว่าการที่เธอเปลี่ยนมือถือเปลี่ยนเบอร์ย้ายหอในตอนนั้น

    ทำให้เจสิก้าห่วงว่าเธอจะหายไปดื้อๆอีกสินะไม่ใช่เธอคนเดียวที่กลัวอีกฝ่ายหายไป...แต่เค้าก็เช่นกัน....นี่น่ะสินะ..

    ที่เรียกว่าความรัก...



    “ก็บอกก่อนสิ! สิก้ารีบกลับมากะว่าจะไปเซอร์ไพรซ์ที่ห้องเคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีคนตอบ คนบ้านี่!” เจสสิก้าเหวี่ยงกระเป๋าถือ

    ฟาดใส่แขนยุนอาไม่แรงมากนักพอให้แฟนรู้ว่าตอนนี้กำลังงอนอยู่ ยุนอามองดูใบหน้างองุ้มของแฟนก็อดหุบยิ้มไม่ได้จนต้อง

    คว้าตัวเจสสิก้าเข้ามากอดด้วยความเอ็นดู



    “โอ๋ๆขอโทษนะคะ รีบกลับมาหายุนมากขนาดนั้นเลยเหรอดูสิผมกระเซิงไปหมดเลย” ยุนอาลูบจัดผมแฟนให้อย่างอ่อนโยน

    คนในอ้อมกอดก็ยังบ่นงุ้งงิ้งๆไม่ยอมหยุด



    “เฮ้อ ร้อนจัง” เสียงกวนๆดังขึ้นยุนอาหันไปเห็นแทยอนที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับทำมือพัดไปมาเหมือนอากาศมันร้อนเพราะ

    คู่รักสักคู่แถวๆนั้นแล้วก็เดินผ่านพวกเค้าไปเฉยๆเท่านั้นยังไม่พอทิฟฟานี่ที่เดินตามหลังเพื่อนตัวเล็กมาทำเป็นยิ้มและส่ง

    สายตาล้อเลียนมาให้แล้วเดินผ่านหน้าไปอีกคน



    ไม่คิดว่าที่เคยได้ยินใครๆเค้าพูดกันว่าคนเรายิ่งอยู่ด้วยกันนิสัยการกระทำก็จะคล้ายกันมากขึ้นนั้นจะเป็นความจริง แต่วันนี้

    เธอคงต้องเชื่อแล้วล่ะก็ดูสองคนนั้นสิ เดี๋ยวนี้พี่ฟานี่ติดนิสัยกวนตีนของอิแทแล้วเหรอไงเนี่ยฮึ่ย



    ยุนอามองตามด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะชักชวนแฟนตัวเองกลับไปที่หอเธอบ้าง เมื่อกลับมาถึงห้องก็เห็นแทยอนนั่งกินขนม

    มันฝรั่งทอดอยู่บนเตียงแต่สายตามันกลับจ้องเขม็งไปที่พี่ฟานี่ที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง



    “พี่ซีวอนโทรมาเหรอ” ยุนอาย่องเข้าไปกระซิบใกล้จนแทยอนหันมาถมึงตาใส่



    “ปาก!”แค่คำพูดสั้นๆไม่พอถึงกับส่งเท้าไปยันยุนอาจนแทบกระเด็น คนร่างสูงที่โดนเพื่อนตัวเล็กทำร้ายร่างกายเดินไป

    ออดอ้อนกอดแฟนให้เค้าปลอบขวัญราวเจ็บปวดหนักหนาทำให้แทยอนที่มองตามเกิดความหมั่นไส้ไม่น้อย



    “อ้าวยุน นึกว่าจะออกไปข้างนอกกับเจสสิก้าซะอีก” ทิฟฟานี่ที่พึ่งคุยสายจบหันหลังเดินกลับเข้ามาในห้องเห็นยุนอากำลัง

    นอนอ้อนแฟนอยู่



    “วันนี้พวกฉันยังไม่มีแพลนจะไปไหนเลยพี่ทิฟฟานี่” ทิฟฟานี่แปลกใจกับสรรพนามการเรียกของเจสสิก้า



    “ยุนเล่าเรื่องฉันให้ฟังแล้วเหรอ?” เจสสิก้าพยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ ทิฟฟานี่เพียงแค่ยิ้มแล้วเดินไปนั่งข้างแทยอนที่ทำ

    เป็นเมินกินขนมถุงในมือไม่หยุด



    “ตัวเล็ก”



    “อะไรล่ะ”



    “ฟานี่ต้องไปข้างนอกก่อนนะ คืนนี้มารับฟานี่ด้วย”



    “จะไปไหน”



    “ธุระ ถ้าเสร็จธุระก่อนค่ำจะโทรมาหานะจะได้ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” ทิฟฟานี่หันไปจุ๊บปากทีนึงแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าถือ

    ตัวเองออกไปจากห้อง ยุนอากับเจสสิก้ามองตากันแล้วหันมามองหน้าแทยอน



    “แท พี่ฟานี่ออกไปหาพี่ซีวอนเหรอ”



    “ยังไม่หยุดนะแกเนี่ย ไม่รู้ใครโทรมาแต่คงไม่ใช่หมอนั่นหรอก”



    “อ้าว แล้วแกจะไปไหนล่ะนั่น” ยุนอาเห็นแทยอนเดินไปหยิบกระเป๋าเงินมือถือกับเสื้อแจ๊กเกตฮู๊ดขึ้นมาแล้วเดินไปทาง

    ประตูห้อง



    “ไม่อยากอยู่ดูหนังสดเว้ย” แทยอนบอกแค่นั้นแล้วออกไปพร้อมเสียงปิดประตูดังลั่น ยุนอาส่ายหัวน้อยๆดูจากสีหน้า

    อาการแล้วแทยอนไม่ได้ออกไปข้างนอกตามสาเหตุที่เค้าพูดมาแน่ๆ



    “ยุนไปห้องสิก้าไหมแล้วบอกให้แทยอนกลับมา สิก้ารู้สึกไม่ดีที่ทำให้แทยอนต้องไปอยู่ข้างนอกแทนหน่ะ”



    “อย่าไปสนมันเลยสิก้า เชื่อเถอะที่มันออกไปน่ะ...เพราะพี่ฟานี่ต่างหาก” เจสสิก้าฟังยุนอาพูดด้วยความสงสัยแต่ยุนอาก็

    บอกไม่ให้คิดมาก แต่แววตาเจสสิก้ายังคงดูมีเรื่องอะไรอยู่ในใจจนยุนอาสงสัย



    “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ ไม่เชื่อที่ยุนพูดเหรอ” เจสสิก้าเงยหน้าขึ้นสบสายตาและรอยยิ้มแสนอบอุ่นของยุนอาทำให้

    หัวใจเกิดเจ็บแปร๊บขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิดขึ้นมาชั่ววูบ เจสสิก้ากอดร่างยุนอาแน่นแทนคำตอบให้กับแฟนเธอ ในใจยังคงมี

    แต่ความไม่สบายใจในเรื่องที่ตัวเองพึ่งทำมา...การที่ไปเจอกับคนที่ได้ชื่อว่าแฟนเก่าโดยที่แฟนใหม่ไม่รู้....เธอ..

    ควรจะเล่าเรื่องที่ไปเจอจุงกิมาหรือเปล่า...แต่ว่า...หลังจากนี้จุงกิคงจะตัดใจจากเธอได้จริงๆและคงไม่ตามมาวอแวหรือ

    วุ่นวายกับเธออีกแล้วล่ะ...บางเรื่อง...



    การไม่พูดอาจจะดีกว่า....



    เจสสิก้าเลือกที่จะปกปิดเรื่องที่ไปเจอกับแฟนเก่ามา ถ้าเธอไม่พูดก็จะไม่มีใครรู้ เรื่องราวระหว่างเธอกับยุนอากำลังเป็นไป

    ด้วยดี...เธอจะรักษาความสัมพันธ์กับยุนอาเอาไว้ให้ดีที่สุด.....



    ความลับระหว่างคู่รัก..หลายๆครั้งที่ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้เพราะการเลือกสิ่งที่ควรบอกหรือไม่ควรบอกต่อกัน..



    แต่บางครั้งสิ่งที่ไม่ควรปกปิดก็มี...



    เพราะมันอาจจะนำปัญหามาให้ในภายหลังยังไงล่ะ...



    “นัดใครไว้วะ หรือนัดกับอิเสี่ยนั่นจริงๆแต่ไม่ยอมบอกกัน”แทยอนบ่นพึมพำกับตัวเองขณะแอบดูทิฟฟานี่อยู่ห่างๆในจุดที่เธอ

    คิดว่าอีกคนมองไม่เห็นเธอแน่ๆ มีธุระอะไรถึงได้มานัดเจอกันที่ห้างแบบนี้ 



    แทยอนแอบดูอยู่สักพักก็เห็นผู้หญิงผมสั้นใส่แว่นตาทรงกลมคนหนึ่งเดินเข้าไปทักทิฟฟานี่ ดูท่าแล้วคงจะเป็นคนที่นัดกับ

    ทิฟฟานี่ไว้จริงๆพวกเค้ายืนคุยกันอยู่ไม่นานก็พากันเดินไปที่อื่นจนเจ้าตัวเล็กรีบสะกดรอยตามไปติดๆจนเห็นทั้งคู่ขึ้นมาถึง

    ชั้นโรงหนังทำให้แทยอนถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย



    ธุระ? ธุระคือการมาดูหนังกับไอ้แว่นหัวเห็ดเนี่ยนะ นี่อย่าบอกนะว่ามีคนมาจีบฟานี่



    แทยอนรีบเดินจ้ำเท้าแทรกเข้าไปในกลุ่มคนจนตามหลังพวกทิฟฟานี่ทันและเริ่มไม่ชอบใจมากขึ้น

    เมื่อเดินตามหลังพวกเค้าใกล้ๆแล้วเห็นสีหน้าที่ดูมีความสุขตอนพูดคุยกันของทั้งสองคนทำให้หน้ามืดตามัวไปหมด



    พลั่ก!



    “โอ๊ะ ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงผมสั้นที่มากับทิฟฟานี่ชนกับใครบางคนเข้าก็รีบหันไปขอโทษก่อนแต่อีกฝ่ายท่าทางคงจะไม่รับ

    คำขอโทษแน่ๆ และอีกอย่างทางเค้าเป็นคนตั้งใจเข้ามาชนเองด้วยซ้ำ



    “แกเป็นใคร” แววตาที่ดูไม่เป็นมิตรบวกกับน้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจจากแทยอนทำให้เค้าสงสัยว่ากำลังเจอพวก

    อันธพาลอะไรหรือเปล่าก็ขอโทษไปแล้วนี่นายังจะเอาอะไรอีก ส่วนทิฟฟานี่นั้นพอเห็นว่าเป็นแทยอนก็ต้องถอนหายใจ

    ออกมา



    “ตัวเล็ก แอบตามฟานี่มาเหรอ”



    “อะไร!ใครตาม...ก็แค่ออกมาเที่ยว ไม่อยากอยู่ห้องเป็นกขคเพื่อน” แทยอนลอยหน้าลอยตาปฏิเสธเสียงแข็งใส่คนตรงหน้า

    อย่างไม่รู้สึกผิดอะไรเลย



    “พี่ฟานี่ นี่เด็กที่บริษัทพี่เหรอ”



    “ฉันไม่ใช่เด็กที่บริษัทเค้ายัยแว่นหัวเห็ด!” ทิฟฟานี่กลับมองแทยอนที่เริ่มแผลงฤทธิ์ด้วยรอยยิ้มไม่มีทีท่าจะโกรธอะไร

    สักนิด



    “ไปซื้อตั๋วก่อนเถอะเดี๋ยวฟานี่คุยกับเค้าเอง” หญิงสาวบอกกับคนที่มาด้วยกันพร้อมกับส่งเงินให้ พอแทยอนเห็นทิฟฟานี่ให้

    เงินผู้หญิงคนนั้นไปก็ยิ่งควันออกหูขึ้นไปอีกทำท่าจะเดินตามเค้าไปแต่ทิฟฟานี่ดึงมือแทยอนเอาไว้



    “จะไปไหนคะ คนที่ตัวเล็กมีธุระด้วยน่าจะเป็นฟานี่มากกว่านะไม่ใช่เค้า”



    “ยัยหัวเห็ดนั่นใคร”



    “คนรู้จัก”



    “คนรู้จัก??? มาดูหนังกับคนรู้จักนี่เรียกว่าธุระเหรอฟานี่”



    “เรื่องมันยาวน่ะตัวเล็กกลับไปรอที่ห้องก่อนนะเดี๋ยวดูหนังเสร็จแล้วจะรีบไปหา”



    “ฟานี่!”



    “เอาเป็นว่าฟานี่ติดเลี้ยงหนังเค้าเพราะเค้าช่วยงานฟานี่ ถ้าตัวเล็กอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ต้องรอนะ ถ้าไม่ดูกับเค้า

    วันนี้วันอื่นก็ต้องมาเจอเค้าอีกอยู่ดี”



    “ก็จ่ายค่าหนังให้มันไปแล้วหนิ ตอนนี้ก็กลับได้แล้วสิ”



    “ไม่ได้ค่ะต้องอยู่ดูหนังกับเค้าก่อนจะทิ้งเค้าไว้คนเดียวได้ยังไงคะน่าเกลียดนะ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าไม่มีอะไรหรอกตัวเล็ก” 

    ทิฟฟานี่ใช้ปลายนิ้วชี้กดที่ปลายจมูกแทยอนเล่นเบาๆ



    “พี่ฟานี่...ได้ตั๋วแล้วค่ะ” ผู้หญิงหัวเห็ดที่แทยอนว่าเดินกลับมาพร้อมกับชูตั๋วหนังในมือและยิ้มให้ด้วยความสดใส 

    ทิฟฟานี่หันไปยิ้มให้ก่อนจะหันมาหาแทยอนอีกครั้ง



    “เป็นเด็กดีนะแทแท” มือเรียวจับปลายคางเด็กน้อยของเธอเชิดขึ้นมาก่อนจะก้มหน้าไปประทับจูบคนใจร้อนอย่างรวดเร็ว

    แล้วผละตัวออกมา การกระทำของทิฟฟานี่ไม่ใช่แค่แทยอนที่ตกใจแต่คนที่จะไปดูหนังกับทิฟฟานี่ก็มองด้วยสีหน้า

    ช็อคด้วยเช่นกัน



    “พี่ฟานี่ ทำไม...จะ จูบ เด็กคนนี้” ทิฟฟานี่หันมายิ้มหวานให้คนถามก่อนจะตอบ



    “ขอโทษนะที่คนของพี่ทำกริยาไม่ดีใส่ เราไปดูหนังกันเถอะ”ทิฟฟานี่ดันหลังคนที่นัดเธอมาให้เดินไปด้านในโดยไม่ลืมหัน

    กลับมาโบกมือลาแทยอนที่ยังยืนตะลึงอยู่กับที่เพราะโดนฉวยโอกาสในที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่านแบบนี้ ส่วนคนที่เดิน

    ไปกับทิฟฟานี่ยังช็อคกับภาพที่เห็นไม่หาย เธอพยายามตามจีบทิฟฟานี่มาได้สักพักแล้วโดยใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้างในการ

    เข้าหาพยามยามช่วยงานต่างๆนาๆจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีจึงขอรางวัลด้วยการมาเดทด้วยจนได้แต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้

    ตบท้ายด้วยคำที่บอกสถานะว่าอีกคนนั้นเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียวของทิฟฟานี่ทำเอาเธอถึงกับสมองว่างเปล่าเหมือนคน

    ไร้วิญญาณไปทันที...เมื่อแทยอนที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ได้สติแล้วหันไปมองรอบๆก็เห็นคนมองมาทางเธอไม่น้อยจนต้องรีบเดิน

    ออกจากโซนนั้นไปอย่างรวดเร็ว



    คนตัวเล็กเดินโต๋เต๋อยู่แถวนั้นได้พักใหญ่ก็ตัดสินใจจะกลับห้อง เธอจึงโทรกลับไปหายุนอาและทางเพื่อนก็บอกให้กลับมา

    ได้เลยไม่มีปัญหาแม้ว่าเจสสิก้าจะยังอยู่ที่ห้องด้วยก็ตาม เมื่อคิมแทยอนกลับมาถึงห้องก็เดินเลยไปนั่งหน้าจอทีวีเปิดเกมส์

    เล่นคนเดียวเงียบๆปล่อยให้สองคนที่อยู่ในห้องเกิดความสงสัยไม่น้อย บรรยากาศที่น่าอึดอัดแผ่กระจายรอบตัวแทยอนทำ

    ให้ยุนอาเริ่มทนไม่ไหว



    “แท พี่ฟานี่ล่ะ”



    “ไม่รู้” แทยอนตอบเสียงนิ่งเหมือนไม่มีอะไรแต่ยุนอาดูก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องปกติของเพื่อนเธอเลย



    “แกไม่ได้ตามพี่ฟานี่ไปหรือไง” ยุนอาพยายามถามให้โดนจุดเผื่อจอมปากแข็งจะยอมพูดอะไรออกมาบ้างแต่ก็ไม่มีเสียง

    ตอบกลับจากแทยอนจนต้องยอมแพ้ แทยอนยังคงใช้เวลาอยู่กับเกมส์คนเดียวปล่อยให้ยุนอากับเจสสิก้านั่งสวีทกันอยู่บน

    เตียงสองคนเหมือนอยู่กันคนละโลก ผ่านไปสามชั่วโมงกว่าเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น 



    ยุนอาและเจสสิก้าหันไปทางประตูพร้อมๆกันผิดกับแทยอนที่ยังไม่ทีท่าจะสนใจรอบข้างแม้จะแอบสะดุดกับเสียงเคาะประตู

    ไปบ้าง



    “ไอ้แท เมียมาแล้วมั้งนั่นไปเปิดประตูสิ” แทยอนยังคงนั่งนิ่งทำไม่รู้ไม่ชี้จนยุนอาที่เรียกซ้ำถึงสามรอบหงุดหงิดจนลุกจาก

    เตียงลงมาถีบหลังเพื่อนเต็มแรงแล้วเดินไปประตูซะเอง ยุนอากระซิบฟ้องกับทิฟฟานี่เบาๆว่าตั้งแต่แทยอนกลับมา

    ไม่พูดไม่จาอะไรเลยแต่ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะเดินเข้าไปหาแทยอนเจ้าตัวก็วางจอยส์เกมแล้วเดินขึ้นไปมุดผ้าห่ม

    คลุมโปงซะอย่างนั้นทำให้เจสสิก้ายุนอาและทิฟฟานี่มองเป็นตาเดียว



    “พี่จัดการเอง” ทิฟฟานี่ตบบ่ายุนอาเบาๆแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียง ตั้งแต่ที่บอกว่าชอบให้หวงเจ้าตัวเล็กของเธอก็ขยันหึง

    ขยันหวงเธอซะจริงๆ



    “ตัวเล็กฟานี่หิวแล้วนะออกไปหาอะไรกินกันเถอะ” มือเรียวเอื้อมไปลูบช่วงไหล่ของแทยอนแม้ยังไม่เปิดผ้าห่มออกมาคุย

    ด้วยดีๆก็เถอะ



    “...........................”



    “เอ.....ท่าทางคนแถวนี้ไม่อยากไปกินข้าวกับฟานี่ งั้นโทรเรียกคนอื่นไปแทนก็ได้” ทิฟฟานี่แกล้งละมือจากไหล่แทยอน

    มาหยิบมือถือในกระเป๋า



    “จะไปกับใครอีกล่ะ” เจ้าคนตัวเล็กรีบตวัดผ้าห่มออกลุกขึ้นมานั่งทำหน้างอขึ้นเสียงใส่ คนโตกว่าเพียงสบตาด้วยแล้ว

    ยิ้มหวานให้ดังเช่นปกติ



    “ไปกับตัวเล็กไงคะ” มือเรียวจับปลายคางแทยอนส่ายไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว ก็บอกไปคร่าวๆแล้วยังจะงอนซะอีกเด็ก

    คนนี้ ยุนอากับเจสสิก้าที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบๆพากันแอบยิ้มกับการกระทำของพี่ทิฟฟานี่



    “ไอ้เห็ดนั่นตกลงเจอที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง แล้วทำไมต้องเลี้ยงหนังมันด้วย...มันมาจีบสินะ ทำงานที่ผับหรือไง

    ทำไมแทไม่เคยเห็น” คำถามถูกยิงออกจากปากคนตัวเล็กไม่ยั้งจนทิฟฟานี่นึกขำอยู่ในใจ



    “เค้าเป็นคนช่วยหาที่เที่ยวใหม่ๆในเกาหลีมาเสนอให้แถมจัดการจองห้องพักและติดต่อคนนำเที่ยวเตรียมไว้ให้ฟานี่ไป

    คุยงานด้วย ฟานี่ก็เลยต้องเลี้ยงหนังตามที่เค้าเคยขอไว้น่ะ” แทยอนฟังแล้วยังข้องใจไม่หายมันดูไม่เคลียร์ยังไงชอบกล



    “มันมาจีบฟานี่ใช่ไหม ไม่งั้นจะขอให้ไปดูหนังด้วยทำไม”



    “ค่ะ” ทิฟฟานี่ตอบรับด้วยน้ำเสียงหวานแถมส่งยิ้มจนตาปิดราวกับภาคภูมิใจในเสน่ห์ของตัวเอง



    “ย่าห์!” พอแทยอนทำท่าจะโมโหขึ้นมาอีกครั้งทิฟฟานี่ก็ทำเสียงจุ๊ปากแล้วลูบหัวแทยอนเบาๆ



    “ที่ฟานี่ทำกับแทที่หน้าโรงหนังขนาดนั้นยังจะห่วงเรื่องเค้ามาจีบฟานี่อีกเหรอ หืม?” ทิฟฟานี่ทบทวนความจำที่เกิดขึ้น

    กลางห้างให้แทยอนต้องกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ



    “เอ่อ ขอเผือกค่ะ ทำขนาดนั้น..คือทำอะไรคะ” ยุนอายกมือเพื่อถามคำถามทำให้เจสสิก้าตีมือเค้าลงว่าไปยุ่งตอนเค้า

    เคลียร์กันทำไมเนี่ย



    “อย่าเสือกอิยุน!” แทยอนหันควับไปเหวี่ยงใส่เพื่อนแทนคำตอบสร้างความหมั่นไส้ให้ยุนอาต้องแลบลิ้นปลิ้นตาใส่



    “ไปกินข้าวกันได้หรือยัง จะปล่อยให้ฟานี่ปวดท้องเพราะไม่ได้กินข้าวเหรอ”



    “ก็ไปสิ แทไปเปลี่ยนชุดก่อนจะได้เลยไปผับต่อเลย...ใช่ไหมล่ะ” แทยอนตอบอย่างรู้ตารางชีวิตของทิฟฟานี่เป็นอย่างดี



    “งั้นพาฟานี่กลับห้องไปเปลี่ยนชุดก่อนนะแล้วค่อยไปกินข้าวกัน”



    “ค่าๆ”



    “อ่อแล้วมะรืนนี้ฟานี่ไม่อยู่นะคะจะกลับมาโซลอีกทีก็วันศุกร์เลย” แทยอนที่กำลังจะลุกจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องชะงัก

    ด้วยความสงสัย



    วันมะรืน..เป็นวันพุธ กลับโซลวันศุกร์?



    “เดี๋ยว ฟานี่จะไปไหน”



    “ฟานี่ก็จะไปเซอร์เวย์เพื่อทำทริปใหม่ของบริษัทตามที่คนนั้นเค้าจัดการหาไว้ให้ไงคะ”



    “ไปกับยัยเห็ดเน่านั่นอ่ะนะ!!!”



    “เปล่าไปคนเดียว แล้วช่วยเรียกเค้าให้ดีๆหน่อยเถอะคุณคิมแทยอน” ทิฟฟานี่ชักจะหมั่นไส้ยัยตัวเล็กนี่เข้าไปทุกที



    “ไม่รู้แหละแทจะไปด้วย”



    “หืม? ฟานี่ไปทำงานนะตัวเล็ก”



    “ฟานี่ก็ไปทำงานสิ แทก็แค่จะไปเที่ยวนี่มันปิดเทอมของแทนะก็อยากไปเที่ยวมั่งดิ”



    “เฮ้ยๆ คิมแท ไหนแกบอกว่าพรุ่งนี้เราจะเริ่มทยอยจัดการการบ้านปิดเทอมกันไงนี่ยังไม่ได้เริ่มแตะสักตัวเลยนะ” ยุนอา

    ขัดขึ้นหลังจากที่ได้ยินเพื่อนงอแงจะตามแม่ทูนหัวไปเที่ยวด้วย ตอนแรกทิฟฟานี่เกือบจะใจอ่อนยอมให้ไปด้วยแล้วเชียวนะ

    แต่พอได้ยินยุนอาบอกอย่างนั้นก็เปลี่ยนใจทันที



    “อยู่ทำการบ้านให้เรียบร้อยเลยนะตัวเล็ก ฟานี่ไปไม่กี่วันก็กลับแล้ว”



    “แค่การบ้านไม่กี่วิชาเที่ยวเสร็จค่อยกลับมาทำก็ยังได้”



    “นี่จะไปให้ได้เลยใช่ไหม”



    “แน่สิ!”



    “โอ้ย ไอ้คนติดเมีย” ยุนอาพูดลอยๆขึ้นมาทำให้แทยอนเตรียมที่จะกระโจนใส่เพื่อนจนทิฟฟานี่ต้องรั้งตัวไว้ในอ้อมกอด 

    ยุนอาทำเป็นไม่สนใจหันไปคุยกระหนุงกระหนิงกับเจสสิก้าแทน ทิฟฟานี่ยิ้มบางๆอย่างอ่อนใจในความดื้อรั้นที่นับวันจะมี

    มากขึ้นของแทยอนก่อนจะยอมให้เค้าไปด้วยและเร่งให้แทยอนไปเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปข้างนอกและสั่งให้แทยอนทำตัวดีๆ

    ไม่งั้นจะแอบหนีไปทริปคนเดียว ทุกอย่างเป็นไปตามแพลนที่แทยอนวางเอาไว้ตั้งแต่พากันออกจากห้องไปคอนโดเพื่อให้

    ทิฟฟานี่ได้อาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าใหม่ไปจนถึงกินข้าวเย็นด้วยกันนับว่าเป็นช่วงเวลาดีๆของทั้งคู่หลังจากที่มีปัญหาหึงหวง

    ไม่เข้าท่าของแทยอนจนกระทั่งมาที่ผับอารมณ์ดีๆของแทยอนก็ดาวน์ลงทันทีที่เห็นหน้าเจ้าของผับ 

    วันนี้พี่ซีวอนโผล่มาที่ผับด้วย เพราะทิฟฟานี่โทรไปบอกเอาไว้ว่าจะไม่ได้เข้ามาดูงานที่ผับสักสามสี่วันเพราะต้องไปดูงาน

    ต่างจังหวัด ซีวอนเลยตั้งใจมาหาทิฟฟานี่ก่อนเพราะพรุ่งนี้เค้าคงมาไม่ได้



    “ตัวเล็ก...ทำตัวดีๆนะ” ทิฟฟานี่หันไปกำชับอย่างเป็นห่วง



    “รู้แล้วน่า” แม้จะมีสีหน้าเรียบเฉยและมีน้ำเสียงปกติ ทิฟฟานี่ก็อดกังวลใจไม่ได้ ทำได้แต่ลอบมองแล้วถอนหายใจน้อยๆ

    ก่อนจะเดินจากโต๊ะที่แทยอนนั่งไปหลังร้านกลัวว่าถ้าเสียเวลาคุยกับแทยอนนานกว่านี้พี่ซีวอนที่แวะไปดูงานหลังร้านก่อน

    จะออกมาตามถึงที่ให้คนตัวเล็กหงุดหงิดมากขึ้น



    เมื่ออยู่คนเดียวแทยอนนั่งฆ่าเวลาด้วยการมองบรรยากาศรอบๆร้านที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มา

    พักผ่อนหาความสุขใส่ตัวในยามค่ำคืนคงมีแต่เธอที่ดูจะแตกต่างจากคนอื่นมาก คิมแทยอนตอนนี้ไม่เหมือนคนก่อนที่เฮฮา

    เริงรื่นกับสาวๆที่เจอในสถานบันเทิงอีกแล้ว..มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูเบอร์เผื่อจะชวนใครมานั่งเล่นรอจนกว่า

    ทิฟฟานี่จะเสร็จงานแต่ก็ไม่รู้จะชวนใครดี รูมเมทตัวสูงก็พึ่งจะมีข้าวใหม่ปลามันกับแฟนเลยไม่อยากจะขัดเวลาส่วนตัวสัก

    เท่าไหร่ แต่แทยอนคงจะลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง....ว่าปกติตัวเธอเองก็เป็นคนเนื้อหอมอยู่แล้วเพราะฉะนั้น...



    “มาคนเดียวเหรอคะ” 



    เสียงใสดังขึ้นใกล้ๆหูก่อนจะมีมือขาวของคนพูดวางลงบนไหล่พร้อมส่งยิ้มให้อย่างมีความหมายเมื่อแทยอนเงยหน้าขึ้นมอง



    “เปล่า” เมื่อได้ยินคำปฏิเสธนิ่งๆเรียบๆกลับมาหญิงสาวคนนั้นก็ได้แต่แอบทำหน้าเสียดายเล็กน้อย



    “รอเพื่อนอยู่เหรอ ให้นั่งรอเป็นเพื่อนไหมคะ” แทยอนไม่ทันจะตอบหญิงสาวก็ถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆแทยอนแล้ว



    “ไม่เป็นไรหรอก ขอตัวก่อนนะ” แทยอนยิ้มให้อย่างมีมารยาทก่อนจะแกล้งหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาเพื่อสื่อว่าจะออกไปสูบบุหรี่

    ข้างนอกปล่อยให้หญิงสาวนั่งเก้อทำตาละห้อยมองตามแทยอนไปด้วยความเสียดาย



    ฟู่ว



    ควันที่ถูกพ่นออกจากปากแทยอนเป็นทางยาวอาจจะสีเดียวกับความรู้สึกขุ่นมัวในใจตอนนี้ก็ได้ ปกติมานั่งรอทิฟฟานี่เสร็จงาน

    มันก็ไม่ได้น่าเบื่อเท่ากับเวลาที่ซีวอนมา ในใจแทยอนมีแต่ความอึดอัดที่ต้องยอมรับและอดทนให้ได้ตามที่ทิฟฟานี่ขอไว้ 

    ตอนนี้เธอคงทำได้เพียงรอเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่ที่ทิฟฟานี่ไม่ต้องพึ่งพาซีวอนแล้วทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้ ที่จริงถ้าเธอ

    มีฐานะมากกว่านี้....มันอาจจะง่ายขึ้น....แต่...ความจริงมันก็ยังเป็นความจริง...



    เธอเป็นแค่เด็กมหาลัยปีสามฐานะทางบ้านก็อยู่ในระดับปานกลางมีกินมีใช้แต่ไม่ได้ถึงกับร่ำรวยอะไรมากมาย 

    ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองต้องแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่เลยแถมตอนนี้...

    เป็นทิฟฟานี่ซะอีกที่คอยเลี้ยงดูให้เงินเธอใช้ไม่ขาด



    น่าเจ็บใจชะมัด



    แทยอนได้แต่คิดคับแค้นใจตัวเองอยู่ในอกก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นปลายเท้าบดขยี้จนหมดแสงไฟทั้งที่สูบบุหรี่เสร็จแล้ว

    แต่แทยอนก็ยังไม่คิดอยากจะกลับเข้าไปในร้านเลยเลือกที่จะยืนรับอากาศอยู่ข้างนอกจนรู้สึกว่าจิตใจตัวเองสงบขึ้นบ้างก็

    ตัดสินใจจะกลับเข้าไปนั่งรอทิฟฟานี่ตามเดิมแต่แค่เพียงหันหลังกลับก็เห็นหญิงสาวยืนมองอยู่ไม่ห่างมากนัก



    “ฟานี่” แทยอนยังไม่ทันจะก้าวขาไปกลับเป็นทิฟฟานี่ที่เป็นฝ่ายก็เดินมาถึงตัวแทยอนซะก่อน



    “กลับกันเถอะตัวเล็ก”



    “แล้ว...”



    “พี่ซีวอนกลับไปแล้ว” ดวงตาหวานมองคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยนมือเรียวลูบผมเค้าน้อยๆ หลังจากซีวอนกลับไปเธอก็กลับ

    เข้าไปในผับแต่ไม่เห็นแทยอนนั่งอยู่ที่เดิม เธอจึงเดินเข้าไปดูในห้องน้ำก็ไม่พบเลยออกมาดูข้างนอกจึงเห็นแทยอนยืนสูบ

    บุหรี่อยู่...แต่เธอก็ไม่เข้ามาหาเค้าแต่แรกเพราะเห็นใบหน้าของแทยอนที่เหมือนกำลังจมอยู่กับความคิดอะไรบางอย่าง

    เลยยืนดูอยู่เงียบๆจนในที่สุดเค้าก็หันกลับมาเห็น



    “ไม่ต้องดูงานอะไรต่อแล้วเหรอ” ทิฟฟานี่เพียงส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม ที่จริงก็มีงานที่ต้องดูตามปกติเหมือนทุกๆวันแต่ด้วย

    ความเป็นห่วงความรู้สึกของแทยอนที่ต้องมาเจอกับซีวอนมันมีมากกว่าเลยไม่อยากปล่อยไว้คนเดียวแล้วล่ะ



    “วันนี้ไปค้างห้องฟานี่ไหม?”



    “ก็ได้ยังไม่ดึกมากเดี๋ยวแทกลับไปเอาเสื้อที่หอก่อนละกัน”



    “โอเค๊ ถ้าอย่างนั้นกลับหอตัวเล็กกัน”



    ค่ำคืนนั้นทิฟฟานี่เลือกที่จะไม่ถามอาการของแทยอนที่เธอเห็นตอนอยู่ที่ผับเธอพอจะมองออกว่าเค้าเป็นอะไรและเธอก็

    เลือกที่จะปล่อยเรื่องราวไว้อย่างนั้นเพราะหากไถ่ถามไปแล้วอาจจะพาลทะเลาะกันได้ เธอแค่เพียงบอกให้แทยอนกลับไป

    เตรียมเสื้อผ้าในวันรุ่งขึ้นสำหรับทริปที่จะไปกันว่าให้เอาอะไรไปบ้างรวมถึงมีข้อแม้อย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมาที่แทยอนต้องทำ

    ไม่งั้นก็จะไม่พาเค้าไปด้วย..จนถึงวันเดินทางทิฟฟานี่นัดเวลาแทยอนให้ลงมาเจอเธอที่หน้าปากซอยหอคนตัวเล็กใน

    ช่วงเช้า




    “นี่มันอะไรฟานี่” 



    แทยอนที่โดนโทรเร่งยิกๆให้รีบออกมาตั้งแต่ห้านาทีก่อนพอมาถึงปากซอยก็เห็นทิฟฟานี่ขับรถมาจอดรออยู่แล้ว...



    “รีบๆขึ้นมาก่อนเร็วตัวเล็ก” ทิฟฟานี่เร่งให้แทยอนขึ้นมาก่อนเพราะเธอเปิดไฟกระพริบรอแทยอนมาได้เกือบนาทีแล้วพอ

    แทยอนขึ้นรถทิฟฟานี่ก็รีบออกรถทันที



    “มีใบขับขี่ด้วยเหรอเนี่ย” แทยอนถามพร้อมกับเอี้ยวตัวไปคาดเข็มขัด



    “ฟานี่อายุเท่าไหร่แล้วตัวเล็ก” ทิฟฟานี่ตอบแล้วหัวเราะเล็กๆ



    “ไปเอารถใครมาขับ”



    “มีคนจัดการให้น่ะ เดี๋ยวตอนกลับโซลมาค่อยเอาไปคืน”



    “ไอ้หัวเห็ดนั่นอีกแล้วเหรอ” แทยอนเบ้หน้าทำรังเกียจขึ้นมาทันที พอคิดว่าเป็นรถของคนที่มาจีบทิฟฟานี่ก็อยากจะลงซะ

    ตอนนี้



    “ไม่ใช่รถเค้าหรอกน่า รถเช่าน่ะตัวเล็ก แค่เค้าจัดการหาที่ๆไว้ใจได้ทำเรื่องเช่ามาให้เรื่องเงินอะไรฟานี่เป็นคนจัดการเอง” 

    เมื่อได้ยินอย่างนั้นแทยอนก็ค่อยทำใจได้หน่อย นอกจากตอนที่ได้ไปเที่ยวสวนสนุก Everlandกับทิฟฟานี่ นี่คงเป็นครั้ง

    แรกที่ได้ไปเที่ยวตจว.แบบค้างคืนด้วยกันสองคนถึงแม้ที่จริงจะเป็นเรื่องงานซะมากกว่าแต่มันก็ถือว่าได้เที่ยวไปในตัวแหละ 

    ระหว่างทางทิฟฟานี่ก็แวะพักที่จุดพักรถหากาแฟและขนมไว้ทานเล่นนิดหน่อยแทยอนทำได้เพียงนั่งชวนคุยอยู่เป็นเพื่อน

    ตลอดทาง แม้อยากจะช่วยขับก็คงไม่ได้...ก็ขับรถไม่เป็นนี่นาใบขับขี่ก็ไม่มีจะช่วยดูแผนที่ก็คงไม่ต้องในเมื่อทิฟฟานี่ศึกษา

    เส้นทางมาแล้วรวมถึงเปิดGPSช่วยนำทางไปจนถึงจุดหมายที่หุบเขา Gyeongban เจ้าหน้าที่ที่ได้ติดต่อกันไว้ก็นำทาง

    ไปชมที่พักหลากหลายแบบที่ให้บริการทั้งแบบ บ้านพักหลังเล็กส่วนตัวแบบห้องพักที่อยู่ในตึกเดียวกัน จุดตั้งแคมป์เพื่อ

    เป็นข้อมูลในการจัดทริปของทิฟฟานี่ก่อนที่จะนำพาทิฟฟานี่มาที่บ้านพักหลังเล็กแบบส่วนตัวที่ได้จองเอาไว้



    “พักผ่อนให้สบายนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปดูสถานที่เที่ยวต่อ ขาดเหลืออะไรโทรเรียกได้เลยค่ะ” เจ้าหน้าที่ยื่นกุญแจให้

    ก่อนจะขอตัวกลับออกไป



    “ตัวเล็กจัดของก่อนซิอย่าพึ่งไปเล่นซน” ทิฟฟานี่รีบขัดแทยอนที่ทิ้งกระเป๋าลงพื้นแล้วทำท่าจะออกไปเดินสำรวจบริเวณ

    รอบๆบ้านพัก แทยอนจึงเดินกลับมาหยิบกระเป๋าเป้ตัวเองเอาเสื้อผ้าออกมาจัดใส่ตู้ไว้ตามทิฟฟานี่สั่ง



    “เอาการบ้านมาหรือเปล่า” ทิฟฟานี่ถามขึ้นอีกครั้งระหว่างที่เธอกำลังหยิบของจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเอง 

    เพราะนี่คือข้อแม้ที่แทยอนต้องทำหากต้องการจะมากับเธอถึงจะขอตรวจล่าช้าไปหน่อยก็ตาม



    “เอามาน่า” แทยอนหยิบชีทเป็นเล่มสองเล่มและสมุดโน้ตขึ้นมาให้ทิฟฟานี่ดู



    “ถ้าแทแทจัดของเสร็จแล้วก็ทำการบ้านเลยนะคะ”



    “ห๊า? พักก่อนไม่ได้เหรอเราพึ่งมาถึงเองนะแทอยากออกไปเดินเล่นอ่ะฟานี่ ข้างนอกอากาศดีจะตายแทพึ่งเคยมาที่นี่

    ครั้งแรกเลยนะ”



    “ฟานี่บอกให้ทำก่อนก็ทำสิคะตัวเล็ก” ทิฟฟานี่หันมาทำตาดุใส่จนแทยอนไม่กล้าเถียงด้วยเลยกระโดดขึ้นไปบนเตียง

    นอนคว่ำหน้าเปิดชีทและสมุดโน๊ตเริ่มทำการบ้านทันที เวลาผ่านไปได้สักพักทิฟานี่ที่จัดของตัวเองใกล้จะเสร็จหันมาดู

    แทยอนเห็นเค้ากำลังทำหน้ามุ่ยมือไม่ขยับสักนิดจึงเดินเข้าไปดูเห็นเค้ากำลังทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษอยู่



    “ทำไมไม่เอาดิคมาเปิดถ้ามันอ่านไม่เข้าใจอ่ะแทแท” ทิฟฟานี่ถามเมื่อเห็นแทยอนใช้มือถือกดเซิสคำโน้นคำนี้ไม่หยุด



    “ดิคมันหนักนี่แบบนี้ก็หาได้ง่ายจะตาย”



    “มาฟานี่ช่วย” ทิฟฟานี่เดินไปนั่งข้างแทยอนถึงแม้ตัวเธอจะไม่ได้เรียนถึงมหาวิทยาลัยแต่เรื่องภาษาเนี่ยยังไงเธอก็มั่นใจ

    ว่าเก่งกว่าแทยอนแน่ๆ คนตัวเล็กจับจ้องริมฝีปากนุ่มที่กำลังสอนภาษาอังกฤษให้เธอฟังบอกได้เลยว่าที่ทิฟฟานี่พูดมา

    ตอนนี้ไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งพอได้มองทุกส่วนบนใบหน้าทิฟฟานี่ใกล้ๆเป็นต้องหลงลืมทุกสิ่งไปทุกที 

    แม้ใครๆอาจจะบอกว่ามีคนสวยกว่าทิฟฟานี่อีกมากแต่สำหรับเธอ...คนๆนี้มีเสน่ห์มากจนมองยังไงก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย



    “ตัวเล็ก ตัวเล็ก ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย” ทิฟฟานี่สังเกตเห็นสายตาที่จับจ้องเธอค้างจนผิดปกติเลยเรียกสติเด็กกลับมา



    "เอ่อ วะ ว่าไงนะฟานี่”



    “ตั้งใจฟังหน่อยสิคะ จะได้ทำการบ้านเสร็จเร็วๆแล้วไปเที่ยวไง”



    “อ่อ อืม ขอโทษที” คนตัวเล็กก้มหน้าหลบสายตาไม่กล้าบอกเหตุผลที่ใจลอยให้เค้าฟัง ทิฟฟานี่เริ่มอธิบายใหม่ทั้งหมดอีก

    ครั้งทีนี้แทยอนตั้งใจฟังเป็นอย่างดี ยิ่งฟังสิ่งที่เค้าสอนให้เธอเข้าใจอย่างง่ายดายก็ยิ่งคิดว่าตัวเองยังห่างไกลกับซีวอนที่ดู

    เป็นที่พึ่งพาให้กับทิฟฟานี่ได้มากกว่านัก



    ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปสักวันแกอาจจะโดนเค้าทิ้งก็เป็นได้นะคิมแทยอน



    ความคิดฟุ้งซ่านเริ่มกลับเข้ามาเกาะกินในใจอีกครั้งแต่แทยอนก็ต้องสลัดความคิดเหล่านี้ทิ้งแล้วพยายามตั้งสติฟังและทำ

    ตามที่ทิฟฟานี่สอน กว่าจะทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษเสร็จก็ทำเธอเหนื่อยล้าไม่น้อยเลย



    “เฮ้อออ เสร็จสักที” ทิฟฟานี่ลูบหัวแทยอนที่ฟุบหน้าลงไปกับสมุดโน้ตก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาที่ติดผนัง นี่เธอช่วย

    แทยอนทำการบ้านมาได้เกือบสองชั่วโมงแล้วเหรอเนี่ย



    “ตัวเล็กออกไปพักชมวิวข้างนอกก่อนก็ได้นะฟานี่ขออาบน้ำสักหน่อย”



    “อือออออออ” แทยอนตอบรับด้วยเสียงยานคางเหมือนแบตเตอรี่ร่างกายหมด ทิฟฟานี่ก้มหน้าลงจูบกระหม่อมเด็กหนึ่งที

    ก่อนจะลุกไปอาบน้ำเพื่อชะล้างความเหนื่อยล้าจากการขับรถเดินทางมาไกล



    คนตัวเล็กหันหน้าไปทางหน้าต่างมองดูสีเขียวของต้นไม้ที่รายรอบบ้านพัก เสียงใบไม้กระทบกันจากสายลมอ่อนๆทำให้

    รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย บรรยากาศแบบนี้ยากมากที่จะหาได้ในตัวเมือง..ก็เหมาะสมแล้วที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน

    หย่อนใจ ทั้งที่แทยอนคิดว่าจะออกไปเดินชมวิวรอบๆแต่พอคิดไปแล้วก็รอออกไปพร้อมกับทิฟฟานี่ดีกว่า 

    เปลือกตาคนตัวเล็กค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆเพื่อพักสายตาที่ใช้งานกับการบ้านมาอย่างหนัก แล้วเวลาไม่นาน

    สติของแทยอนก็เลือนหายไป...



    ทิฟฟานี่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องอาบน้ำด้านนอกเสร็จพอกลับเข้ามาในห้องนอนเห็นแทยอนกำลังหลับปุ๋ยอยู่

    บนเตียงก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูร่างสวยก้าวเข้าไปใกล้ๆเตียงเพื่อแอบมองหน้าตอนหลับของคนตัวเล็กชัดๆก่อนจะเดิน

    ไปหยิบกล้องตัวเล็กที่เอาติดตัวมาด้วยพร้อมสมุดขนาดพอดีมือและของอีกสองสามอย่างติดตัวออกไปนอกห้องปล่อยให้

    แทยอนได้นอนหลับต่อไม่คิดจะปลุกแม้แต่น้อย แต่เสียงแง้มประตูปิดเพียงเบาๆกลับก็ทำให้แทยอนรู้สึกตัวขึ้นมาซะเอง



    ฟานี่ล่ะ



    สิ่งแรกที่คิดเมื่อลืมตาขึ้นมา แทยอนหันซ้ายทีขวาทีก่อนจะลุกขึ้นมานั่งมองไปทั่วห้องก็ไม่พบทิฟฟานี่จึงเดินออกมาตามหา

    จนไปเจอทิฟฟานี่ยืนอยู่ระเบียงด้านนอกตรงห้องนั่งเล่นกำลังถ่ายรูปวิวรอบๆอยู่



    “ฟานี่..ทำไมไม่ปลุกแท” คนตัวเล็กเดินเข้าไปกอดด้านหลังและทำเสียงติดงอแงเล็กๆใส่หญิงสาว



    “เห็นเหนื่อยเลยให้นอนพักไงคะ” ทิฟฟานี่หันมาตอบแทยอนพร้อมกับวางกล้องลงที่โต๊ะไม้ใกล้ๆนั้น



    “ฟานี่น่าจะเหนื่อยกว่าแทนะ” เจ้าของชื่อเพียงยิ้มตอบแล้วเดินไปหยิบแผนที่บนโต๊ะขึ้นมากางแล้วเขียนอะไรบางอย่าง

    ลงไป แทยอนเดินตามไปลดตัวลงนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะไม้ดูทิฟฟานี่ทำงานเงียบๆพอเขียนเสร็จก็พับแผนที่เก็บแล้วหยิบบุหรี่ที่

    วางบนโต๊ะมาจุดสูบก่อนจะเดินไปนั่งบนราวกั้นระเบียงสายตาทอดยาวไปยังภูเขาที่เห็นไกลๆนั่น แทยอนเห็นดังนั้น

    ก็ถือวิสาสะหยิบแผนที่ที่ทิฟฟานี่พึ่งพับวางไว้กางออกมาดูเห็นเป็นแผนที่เกาหลีโซนจังหวัดที่เธออยู่ตอนนี้



    “ฟานี่ไปทั่วเกาหลีหรือยังน่ะ เวลามาเซอร์เวย์ที่เที่ยวก็ต้องลงรายละเอียดไว้แบบนี้ตลอดเหรอ”



    “ก็ไปยังไม่หมดหรอก ที่ไหนพึ่งมาฟานี่ก็จะมาจดลงรายละเอียดอย่างนี้ล่ะว่ามาเที่ยวที่ไหน มีอะไรน่าเที่ยวบ้างแล้วก็

    ถ่ายรูปเอาไว้ใช้ที่บริษัทแล้วก็เก็บเองด้วย” แทยอนฟังเค้าเล่าแล้วพับแผนที่เก็บก่อนจะหยิบสมุดบนโต๊ะมาอ่านเห็นเป็น

    รายละเอียดสถานที่บรรยากาศรายละเอียดอื่นๆอีกถี่ยิบที่เป็นประโยชน์ในการงานของทิฟฟานี่



    “ท่าทางฟานี่จะชอบท่องเที่ยวนะ หรือทำเพราะพี่ซีวอนเปิดบริษัททัวร์ให้ล่ะ” แทยอนลุกขึ้นเดินไปยืนข้างทิฟฟานี่ที่ยังคง

    นั่งอยู่บนราวกั้นของระเบียง



    “มันเป็นความฝันของฟานี่น่ะ พี่ซีวอนเลยบอกให้ทำบริษัททัวร์แล้วพี่เค้าจะช่วยเองฟานี่ก็เลยตกลงเพราะยังไงมันก็มีแต่

    ผลดีกับฟานี่ทั้งนั้นที่จะมีบริษัทของตัวเองและจะได้ทำตามฝันด้วย” ทิฟฟานี่เล่าแล้วสูบบุหรี่ในมือต่อ



    “ความฝันเหรอ?”



    “ฟานี่ฝันอยากจะไปเที่ยวรอบโลก โอเวอร์ไหมล่ะ” ทิฟฟานี่หันมาสบตาแทยอนพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มจนตาปิด



    “ก็เป็นความฝันที่ดีนี่” แทยอนพูดแล้วเหม่อมองไปทางเดียวกับที่ทิฟฟานี่มองอยู่



    อิพี่เสี่ยนี่เหนือชั้นจริงๆ รวยไม่พอยังฉลาด ฟานี่ฝันอยากจะเที่ยวรอบโลกก็ให้เงินเปิดบริษัททัวร์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

    ฟานี่ก็มีโอกาสจะได้ไปท่องเที่ยวครบตามฝันแน่ล่ะ



    “แล้วความฝันของตัวเล็กล่ะ” ทิฟฟานี่ละสายตากลับมามองหน้าแทยอนให้คนโดนถามหันมาสบตาด้วย



    ความฝันเหรอ.....ตั้งแต่เกิดมา....ไม่มีเรื่องพวกนั้นอยู่ในหัวเลย...



    “ทำหน้าอย่างนั้นทำไมคะ หรือมีหลายอย่างจนเลือกไม่ถูก” ทิฟฟานี่ถามแทยอนที่กำลังทำหน้ายุ่งท่าทางจริงจังกับ

    คำถามของเธอจนคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตาทิฟฟานี่อีกครั้ง



    “ความฝันของแท.....” ทิฟฟานี่คีบบุหรี่ไว้สายตาจับจ้องแทยอนรอฟังอย่างตั้งใจ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าแทยอนน่ะ

    มีความฝันอะไร ตั้งแต่ที่เจอกันก็เห็นคนตัวเล็กช่างเที่ยวช่างเล่นดูไม่มีสาระอะไรเลยสักนิด



    “แท....จะพาฟานี่ไปเที่ยวรอบโลก” ทิฟฟานี่ได้คำตอบก็เบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึง



    “อะไรนะตัวเล็ก” เธอไม่แน่ใจนักว่าฟังผิดหรือแทยอนพูดเล่นกันแน่



    “ก็บอกว่าแทจะพาฟานี่ไปเที่ยวรอบโลกไง” ทิฟฟานี่หัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้จนแทยอนหน้าเสียเพราะคิดว่า

    อีกคนคงไม่คิดว่าเธอจะพาเค้าไปเที่ยวรอบโลกได้จริงๆ



    “เออ ขำเข้าไปเถอะก็แทมันไม่มีอะไรสักอย่างนี่ใครจะเหมือน..” ก่อนที่แทยอนจะได้พูดชื่อซีวอนออกมาก็โดนนิ้วโป้งของ

    ทิฟฟานี่แตะริมฝีปากให้เค้าหยุดพูดต่อก่อนจะเลื่อนนิ้วโป้งไปที่ข้างแก้มแทยอนช้าๆ



    “ฟานี่ไม่ได้ดูถูกแทนะ ไม่ได้คิดว่าแทพาฟานี่ไปไม่ได้..ฟานี่แค่คิดไม่ถึง...ว่าแทแทอยากทำความฝันฟานี่ให้เป็นจริง 

    เพราะอย่างนั้น....มันทำให้ฟานี่มีความสุขมากนะคะที่ได้ยินแทพูดแบบนี้”



    “เชอะ” ทิฟฟานี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อเห็นใบหน้างอนของแทยอน เธอคว้าคอแทยอนเข้ามาใกล้ๆแล้วก้มหน้าลงมาจรด

    หน้าผากกับแทยอนก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหวานเบาๆ



    “จะพาฟานี่ไปใช่ไหม”



    “อะไรล่ะ” คนตัวเล็กทำเสียงแข็งใส่



    “ไปเที่ยวรอบโลกน่ะ”



    “อือ”



    “ฟานี่จะรอนะคะ” มือที่ยังวางอยู่ที่แก้มใสของแทยอนลูบแก้มป่องนั้นน้อยๆก่อนจะเลื่อนหน้าจูบเค้าเหมือนเป็นการทำ

    สัญญา แทยอนค่อยๆจูบตอบทิฟฟานี่อย่างนุ่มนวลและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ มืออีกข้างที่จับต้นคอคนตัวเล็กไว้เลื่อนมายึด

    ไหล่เค้าไว้กันไม่ให้ร่างกายเธอตกจากราวกั้นระเบียง และระหว่างที่แทยอนกำลังสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกคนนั้น



    “โอ๊ยๆๆ” แทยอนสะดุ้งและร้องครวญด้วยความเจ็บจนทิฟฟานี่ตกใจ



    พอสายตาเลื่อนดูก็พึ่งนึกได้ว่ามือที่เธอจับใบหน้าแทยอนอยู่ยังคีบบุหรี่ไว้ด้วย นั่นก็เป็นสาเหตุที่แทยอนร้องขึ้นมาเพราะ

    โดนขี้เถ้าร่วงใส่คอจนทิฟฟานี่รีบลงจากราวระเบียงที่นั่งเอาบุหรี่ไปวางในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะก่อนเดินกลับมาดูแทยอนอย่าง

    รวดเร็ว



    “ตัวเล็กเจ็บมากไหม ตายละแดงหมดเลย” ทิฟฟานี่ถกคอเสื้อยืดแทยอนออกเพื่อดูร่องรอยพอเห็นเนื้อขาวๆแดงเป็นจุดก็

    ทำให้รู้สึกผิดเหลือเกิน



    “ฟานี่อ่าา!” ทิฟฟานี่เอียงคอยิ้มแห้งๆขอโทษขอโพยแทยอนยกใหญ่แล้ววิ่งเข้าไปหาของมาจัดการปฐมพยาบาลให้

    คนตัวเล็ก



    “ให้ตายสิผู้หญิงคนนี้” แทยอนมองตามทิฟฟานี่ไปก่อนจะส่ายหัวยิ้มออกมาน้อยๆ



    จะพาฟานี่ไปใช่ไหม



    คำพูดที่พึ่งคุยกันจบไปดังขึ้นมาในหัวทำให้แทยอนยิ้มกว้างขึ้นแม้จะเจ็บที่โดนขี้เถ้าบุหรี่อยู่





    ฉันจะพาเธอไปให้ได้ฟานี่ 



    ถึงบริษัทนั้นมันจะเปิดให้เธอ 



    แต่คนที่จะทำความฝันเธอให้เป็นจริง...





    ต้องเป็นฉันคนเดียว...


    ----------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×