ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Fic exo} Belong to you : Krisyeol

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 :: Mission Complete ครบ 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.46K
      6
      30 เม.ย. 57



    5

    Mission Complete 


                    วันนี้ก็เป็นดังเช่นเมื่อวาน ร่างกายในอ้อมกอดของใครอีกคน สองร่างที่กอดก่ายกันอย่างพอดีตัว ร่างโปร่งเปลือยเปล่าขดซุกตัวแนบชิดอกแกร่งอย่างต้องการความอุ่น แม้จะมีผ้าห่มผืนหนาคลุม แต่ก็คงอบอุ่นไม่เท่าอ้อมกอดของคนข้างๆ คริสเริ่มรู้สึกตัวเมื่อชานยอลขยับยุกยิกไปมา ตาคมเปิดสว่างรับวันใหม่ ก้มลงมองใบหน้าใสที่ค่อยๆลืมตาโตขึ้นมาช้าๆ คนตัวสูงยิ้มบางให้กับดวงตาหวานที่เชยขึ้นมามองเขา ยีเส้นผมดำนุ่มด้วยความหมั่นไส้ ก็อีกคนเล่นทำตัวน่ารักแต่เช้าขนาดนี้ อยากจับมาฟัดอีกรอบจริงๆ

                    "ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกครับ" ชานยอลผละตัวออกจากอ้อมกอดอุ่น ยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงทั้งๆที่ตาก็เปิดไม่สว่างดี มือขาวยกขึ้นมาขยี้ตาหวานไปมา คริสไล่กวาดสายตามองผมยุ่งๆ หน้าบวมๆ ลำตัวขาว แล้วก็เอ่อ...

                    "มะ..ไม่เอานะ พอแล้วเหนื่อย ...ห้ามแกล้งด้วย" เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองถูกมองอะไรชานยอลก็รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวทันที เล่นเอาคริสหลุดขำไม่หยุด

                    "เหนื่อยอะไรครับ เมื่อวานรอบเดียวเองนะ" หน้าคมยิ้มกริ่ม ขยับร่างเข้าใกล้คนตัวขาว

                    "พี่นี่เอะอะจะเอาอย่างเดียวเลยไง๊ ตื่นง่ายกว่ากินไวอากร้าซะอีก"หน้าหวานยกมือดันอกแกร่งไว้อย่างหวาดหวั่น คิดจะทำอะไรไม่เคยถามสุขภาพช่องทางหลังเราสักคำ นี่บอบช้ำเจ็บปวดรวดร้าวสุดๆ

                    "น้องฉันไม่ได้เป็นแบบนี้กับทุกคนหรอกนะ" บอกหน่อยว่าชานยอลควรดีใจกับคำพูดของร่างสูงมั้ย? การถูกเยมันไม่ใช่เรื่องสุนทรีย์ป่ะแก คือนอกจาก 2 วันติดแล้ว ยังหลายรอบอ่ะ ควรจุดพลุฉลองให้กับมังกรพี่คริสดีมั้ย

                    "ผมก็ไม่ใช่รูปูนะพี่ น้องพี่ก็ใช่ว่าเล็ก ใช่ว่าสั้น" คริสจับความรู้สึกเหวี่ยงน้อยๆของหน้าหวานได้ถนัด รับมือมาหมดสำหรับอารมณ์ตัวแม่ แค่ลู่หานนี่ก็เหมือนจะครบทุกสูตร คุณอู๋ไม่หวั่นแม้วันมามาก!

                    "แต่ทุกทีก็ครางชื่อฉันไม่ใช่หรอ?" ถึงกับพูดไม่ออกสิครับ มันก็จริงนะ... เอ่อ.. ชานยอลควรเถียงว่าไรอ่ะ -..-

                    "มะ.. มันคนละเรื่องกัน บ้า!" ไม่เถียงแล้วครับ ยอมก็ได้ ว่าแล้วหน้าหวานก็ลุกลากผ้าห่มคลุมตัวไปจนถึงห้องน้ำทำเอาคนมองไล่หลังขำร่วนกับการเขินอายแบบปิดไม่มิดนั่น รอยยิ้มเผลอไผลผลุดขึ้นมาแต่งแต้มบนหน้าคมอย่างลืมตัว           

                  
                   มองแล้วทำให้ยิ้ม มองแล้วทำให้ขำ

                นายเป็นความรื่นรมย์ในชีวิตของฉันไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ชานยอล :')    

     

                    ดูเหมือนว่าชานยอลจะชอบที่นี่ไม่ใช่น้อยเพราะตลอดทางที่เดินออกมาจากห้อง หน้าหวานเอาแต่มองนั่นมองนี่ไปทั่ว ตาโตเรียวรีจากรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ คริสเฝ้ามองความน่ารักผ่านกรอบตาคมด้วยหัวใจที่สั่นระรัว มือหนาเปิดประตูรถคันแพงเพื่อให้ชานยอลได้ขึ้นไปนั่งเหมือนปกติ

                    "ผมกลับเองก็ได้นะ ไม่เห็นจำเป็นต้องลำบากพี่เลย" ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำใสแฝงความเกรงใจแต่ช่างขัดใจอีกคนที่เปิดประตูรอการตอบรับที่ดีอยู่

                    "ฉันจะลำบากใจถ้านายไม่ยอมให้ฉันไปส่งมากกว่า ขึ้นรถได้แล้ว" คำพูดตัดบทของคริสทำให้หน้าหวานจำใจก้าวขึ้นไปนั่งบนรถตามที่อีกคนหวัง มุมปากหน้าคมยกยิ้มพอใจเล็กน้อยก่อนจะอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป ตากลมเสมองกระจกข้างด้านซ้ายด้วยความเคยชิน มองดูรถอีกสองคันที่มีบอดี้การ์ดสี่คนขับตามมา ไปไหนก็มีแต่คนตาม โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่มายืนคุมอยู่หน้าประตูห้องนอน ไม่งั้นคงมองหน้าใครไม่ติด เล่นครางซะเต็มที่ขนาดนั้น ก็พอถึงเวลามันควบคุมกันได้ซะที่ไหนเล่า -//-

                    "ร้อนหรอ หน้าแดงเชียว" คริสเอ่ยถาม มือใหญ่เลื่อนปรับแอร์ให้โดนอีกคนมากขึ้น

                    "ปะ.. ป่าว" เพราะความคิดบ้าๆนั่นแท้ๆ นี่เห็นชัดขนาดนั้นเลยหรอ ชานยอลยกมือขึ้นมากุมหน้าตัวเองสัมผัสกับความร้อนรุ่นบนใบหน้าใส บ้าจริง!

                    "ดูนายไม่ค่อยเกร็งเวลาอยู่กับฉันแล้วนะ พูดจาเป็นกันเองเชียว ฉันชอบ" หน้าคมยิ้มบางเบาพร้อมยกมือหนายีผมดำขลับด้วยความเอ็นดู ไม่รู้รึไงว่าการกระทำแบบนี้ เคะหวั่นไหวนะ ตั้งแต่เช็ดผมให้ตอนนั้นแล้ว เอาใจเก่งชะมัด -..-

                    "พี่ครับเลี้ยวข้างหน้าเลยนะ" ความเขินอายทำให้ชานยอลเกือบลืมบอกทางที่ถูกต้อง ร่างสูงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะหักพวงมาลัยตามคำบอก

                    การเดินทางดำเนินต่อไปเรื่อยๆตามที่ชานยอลเป็นคนนำทาง ไปส่งร่างโปร่งเหมือนดังเช่นเหมือนวานแต่เส้นทางกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หน้าคมแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังคงทำหน้าที่คนขับที่ดีต่อไปจนถึงจุดหมาย สถานที่ไม่คุ้นตามีเพียงสนามหญ้าสำหรับเล่นกีฬากว้างๆตรงหน้ากับซอกซอยเล็กเพียงพอให้คนเดินเท่านั้น

                    "นายย้ายบ้านหรอ?" เมื่อทนความสงสัยไม่ได้ ร่างสูงจึงเอ่ยถาม

                    "อะ.. อ๋อ ป่าวครับ พอดีผมว่าจะมาเตะบอลกับเพื่อนสักหน่อย" รอยยิ้มหวานถูกส่งมาหลังจากคำตอบ คริสพยักหน้าตอบรับก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆกลับไป

                    "งั้นผมขอตัวก่อน ขอบคุณมากที่มาส่ง ขับรถกลับดีๆนะครับ"

                    "ขอบคุณเหมือนกันสำหรับความสุขที่มอบให้" คริสหมายถึงทุกอย่างไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงเพราะชานยอลทำให้เขามีความสุขจริงๆ จากรอยยิ้มหวาน ท่าทางกริยายามเขินอาย คำพูดที่ดูใสซื่อ มันทำให้เขาหลุดยิ้มออกมาได้ง่ายๆ หน้าหวานยิ้มกว้างก่อนจะปิดประตูและโบกมือลา

                    มือหนาแตะเบาๆที่โทรศัพท์ข้างกาย ส่งสัญญาณให้ใครบางคนได้ทราบ สายตาคมยังคงจดจ้องอยู่ที่แผ่นหลังคนตัวสูงที่ค่อยๆเดินจากไปจนลับตาจึงเคลื่อนตัวรถออกไปเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น

                   
                 แล้วเจอกันนะ น้องชานยอล...     

     

     

    ...............................-- Belong to you --...............................

                   

     

     --Luhan's Part--

                   
                    กริ๊ง~

                    เสียงกระดิ่งแสนหวานดังขึ้นเมื่อใครบางคนเปิดประตูเข้ามารับกลิ่นหอมอบอวลของกาแฟในร้านที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาววินเทจ แต่ความเป็นขาประจำทำให้ขาเรียวหาสนใจความน่ารักของร้านกาแฟไม่ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการมันน่ารักกว่าร้านนี้เป็นไหนๆ

                    ลู่หานเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ที่มีป้ายเขียนกำกับไว้ 'เฉพาะพนักงาน' สนใจทำไมก็ตำแหน่งของเค้ามันสำคัญกว่านั้นน่ะสิ หน้าสวยยิ้มหวานเมื่อเจอบุคคลที่เขาคิดถึงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่เว่อร์นะ อันนี้พูดความจริง จะกินจะนอนจะนั่งหรือตีลังการรำพัดอะไรก็ตาม สมองมันมีแต่ความน่ารักของคนๆนี้อ่ะ -//-

                    "จ๊อกกกก~ เก้อมาแล้วนะครับ" น้ำเสียงออดอ้อนเอ่ยเรียกคนตัวเล็ก ใบหน้าเนียนใสขาวอมชมพูระเรื่อ เปลือกตาชั้นเดียวแต่ดวงตากลับกลมใสเปล่งประกาย กลีบปากบางรูปกระจับเผยอเอื้อนเอ่ยคำพูด

                    "ไม่ได้อยากรู้" คำพูดร้ายกาจแบบนั้นบอกเลยว่าอาลู่คนแมนรับฟังมาตลอดเวลาที่ตามตื้อคนน่ารักด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยพลังแรงกล้า ฉะนั้น... ไม่ว่าน้องจ๊อกจะพูดอะไรอาลู่รับได้เสมอ!

                    "พูดจาไม่น่ารักเลยนะครับ ไหนดูสิว่าตัวเองทำอะไรอยู่" ลู่หานยังท่องอยู่เสมอว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ขาเรียวจึงก้าวเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้นหวังว่าตัวเองจะพอช่วยอะไรได้บ้าง

                    "อย่ามายุ่ง" แต่ก็ไม่เลย คนตัวเล็กหันหน้ามาบอกก่อนจะสวมผ้ากันเปื้อนแล้วเดินออกไปอย่างไม่หันกลับมา ทำร้ายหัวใจคนแมนอย่างแรง น้องจ๊อกคนงาม แม่ทรามเชยของลู่เก้อ

                   
                  มินซอก หรือ ซิ่วหมิ่น ในนามทางการที่ใครต่อใครก็รู้จัก แต่สำหรับลู่หาน เค้าคือผู้ชายหน้าหวานสวย ตัวเล็กน่าฟัด ปากบางน่าสัมผัส นามว่า จ๊อก หรือ เปาจื่อ เท่านั้น ก็แก้มกลมใสสะท้อนแสงไฟนวลเนียนมันทำให้ดูคล้ายซาลาเปา ทั้งขาว ทั้งหอม น่ากินที่สุด
    ><

                    ถ้าถามว่าเพราะอะไรทั้งสองถึงเจอกันได้ คงต้องย้อนความไปตั้งแต่ ซิ่วหมิ่นไปจีนเพื่อเรียนการทำกาแฟครั้งนั้น ด้วยความที่ลู่หานคนเกือบจะแมนชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจจึงได้ไปประสบเจอกับความสวยใสของซิ่วหมิ่นในร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่งของปักกิ่ง แต่เพราะคนตัวเล็กมาเรียนได้นานพอสมควรแล้วจึงต้องย้ายสำมะโนครัวกลับมาที่เกาหลีบ้านเกิด เส้นสายที่ใหญ่โตทำให้ลู่หานตามหาคนน่ารักได้ไม่ยากเลยสักนิด ผู้ชายที่ทำให้คนเกือบจะเคะอย่างเขาต้องหันมาเมะอย่างสมบูรณ์ ลงทุนมาเกาหลีเพื่อตามหารักขนาดนี้ บอกเลยว่ายังไงก็ต้องได้เมียเท่านั้น!!   

               
                     "เปาจื่อคร้าบบบ ลู่เก้ออุตส่าห์หอบรักจากจีนมาเกาหลีเพื่อเปาน้อยของเก้อเลยน้า สนใจกันบ้างสิครับ" คนแมนเกาะเคาน์เตอร์ทำหน้าเหมือนกวางน้อยอ้อนอีกคนให้สนใจตนเต็มที่

                    "เอานี่ไปเสิร์ฟโต๊ะ 3 ให้ทีนะ" มินซอกหันกลับมาพร้อมยื่นอเมริกาโน่หอมฉุยมาตรงหน้า ไม่มีเลยความสนใจ อ้อนไปแค่ไหนเหมือนสลายเป็นผงฝุ่นไปกับตา น้องจ๊อกใจร้ายย ย ~!

                    "อเมริกาโน่ที่สั่งได้แล้วครับ" สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจร่ำไห้แค่ในแผ่นอก เดินเอากาแฟร้อนมาเสิร์ฟตามที่อีกคนบอก

                    "น้องเป็นพนักงานใหม่หรอคะ? เห็นมาทุกวันเลย" ลูกค้าขาประจำเอ่ยถาม มาทุกวันก็โดนใช้ทุกวันอย่างงี้แหละครับ มาตื้อเอาแฟนหรือมาแทนที่พนักงานเก่าก็ไม่รู้ - -*

                    "ป่าวหรอกครับ ผมกำลังพยายามเป็นมากกว่าพนักงานอยู่" ลู่หานฉีกยิ้มแห้งๆกลับคืนไป

                    "อ่า.. สู้ๆนะ มินซอกน่ะใจดีจะตาย เห็นคอยมองดูน้องตลอดเลย" บ๊ะ! ที่แท้ก็รักนะแต่ไม่แสดงออกหรอกหรอ -..- คนแมนโค้งขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆก่อนจะเดินตรงไปหาคนที่หัวใจต้องการ เปาจื่อของลู่เก้อ~

                    "น้องจ๊อกครับ" ลู่หานยันตัวขึ้นนั่งเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์เอ่ยเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงธรรมดาแตกต่างออกไปจากทุกที คนตากลมเงยหน้าจากแก้วกาแฟรสขมปร่ามามองหน้าอีกคน

                    "ยังไม่กลับไปอีกหรอ แล้วนี่มาทำอะไร?" นั่นไง! ประโยคดูสนใจขึ้นมานิสนึง น้องจ๊อกต้องใจอ่อนขึ้นแน่ๆ

                    "มาหาหัวใจของลู่เก้อ" หยอดคำหวานเลี่ยนเหมือนจิ๊กโก๋ปากซอยใช้เต๊าะสาว ช่างเหมาะกับหนังหน้าคนแมนสมัยยังเป็นสก๊อยปักกิ่งเสียจริงเชียว

                    "เสี่ยว" คนตัวเล็กด่าไปหนึ่งทีก่อนจะกรอกตาเอือมๆกับการเสียเวลาเชยตาขึ้นมามอง

                    "เสี่ยวลู่ใช่ป่ะ? นั่นชื่อสำหรับคนสนิทที่ลู่เก้อให้เรียกเลยนะ เปาจื่อรู้ได้ไงอ่า นี่แอบสืบประวัติเค้าใช่มะ สนใจผู้ชายหน้าหวานใสหัวใจมีแต่น้องจ๊อกก็บอก" ลู่หานยิ้มกรุ่มกริ่มจ้องหน้ามองจับผิดตวงตากลมด้วยความคาดหวัง ก็เขาเล่นมาตื้อทุกวันขนาดนี้ ออเซาะเอาใจมันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างละหน่า มินซอกเหลือบตามองอีกคนเพียงเล็กน้อยก่อนจะยกช้อนคนขึ้นมาเคาะหัวผู้ชายขี้อ้อน

                    "หลงตัวเอง" ก่อนจะหันหลังเดินจากไปอีกครั้ง คนแมนจะไม่นั่งตาค้างแก้มแดงแบบนี้เลยถ้าน้องจ๊อกเคาะหัวแล้วเดินจากไปเฉยๆ แต่ที่ขวยเขินหัวใจเต้นระดับ 8 เมอร์คัลลีขนาดนี้เพราะรอยยิ้มบางๆพร้อมการกระทำแสนน่ารักนั่น ฮว้ากกกกกก มินซอกคนงามยิ้มให้ลู่เก้อด้วย ยิ้มแบบที่ต้องการ แบบที่โหยหามาตลอด พบ้า!!

                   
                    เวลาผ่านไปเกือบครึ่งค่อนวันกับการตามตื้อคนน่ารักของลู่หานคนแมน บอกเลยว่าหิว
    !! ใช่ครับ หิว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พี่ลู่คนก็หาใช่เครื่องจักรไม่ ยกนาฬิกาบนข้อมือขาวขึ้นมือพิจารณา 12.57 น.

                    "เปาจื่อทำงานตั้งแต่เช้าแล้วไม่หิวหรอครับคนดี" หยอดมันทุกคำนั่นแหละครับ ให้เขารักเขาหลงจะได้ตกลงปลงใจเป็นสะใภ้ตระกูลลู่สักที หม่าม๊าจะต้องดีใจที่ได้ผู้ชายน่ารักมาดูแลลูกชายตัวเอง ><

                    คนตัวเล็กยังคงทำท่าไม่สนใจคำถามของร่างสูงกว่าสักนิด สั่งพนักงานเอานั่นนี่ไปเสิร์ฟ ชงกาแฟ ล้างถ้วย เอาจริงๆเป็นเจ้าของร้านไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างขนาดนี้ป่ะครับ? คือก็รู้ว่าเป็นคนขยันเหมาะมาเป็นศรีภรรยาลู่เก้อแต่เงยหน้ามามองกันสัก 3 นาทียังไม่มีเลยอ่ะ ใจร้าย!

                    "เก้อรู้นะว่าที่จ๊อกทำงานขนาดนี้เพราะต้องการหนีหน้ากันใช่มั้ย? เป็นเจ้าของร้านแต่ทำทุกอย่างแล้วจะจ้างพนักงานมาทำไมละครับ พอแล้วนะ ไปหาไรกินกัน เค้าหิวแล้วอ่าตัวเอง นะๆๆ.. น้าาา~" มาสเต็ปนี้เอาหน้าถูแขนอาลู่ก็ยอม ขอแค่น้องจ๊อกคนดีศรีภรรยาในอนาคตหันมาสนใจกันบ้าง มินซอกส่ายหัวน้อยๆกับท่าทางเป็นเด็กของคนข้างๆ

                    "เดี๋ยวเธอเอาสตอว์เบอรี่ชีสเค้กไปเสิร์ฟที่โต๊ะ 8 กับ 10 นะ แล้วก็คาปูชิโน่นี้โต๊ะ 12" ตากลมยังคงให้ความสนใจกับงานตรงหน้ามากกว่ากิริยาสะดีดสะดิ้งของอีกคนที่คิดว่าอีกไม่นานคงลงไปนอนดิ้นๆเหมือนเด็ก 2 ขวบเวลาอยากได้ตุ๊กตาแล้วสุดท้ายแม่ก็เดินหนีไป ขอบคุณค่ะ...

                    "เปาน้อยของลู่เก้อ ไปกินข้าวกันเถอะครับ จะบ่ายอยู่แล้วนะ เดี๋ยวเค้าเลี้ยงเอง"

                    "วายองไปเอาบราวนี่ในตู้อบหลังร้านมานะ เสิร์ฟโต๊ะ 6 อย่าลืมเก็บแก้วโต๊ะ 3 ด้วยละ" สนใจพี่ลู่มากเลย ขอบคุณครับ น้ำตาจะไหลขอกดไลค์รัวๆ ตลอดการมีชีวิตที่ผ่านมาอาลู่ไม่เคยรู้เลยว่าคนน่ารักมักหูหนวกด้วย

                    "เสร็จละ ป่ะ..." หลังจากสั่งพนักงานทำนั่นนี่จู่ๆคนงามก็หันมาพนักหน้าใส่คนแมน เอ่อ... อาจจะไม่ใช่ก็ได้ม้างงง

                    "จ๊อกพูดกับเก้อป่ะครับ?" ลู่หานเอ่ยถามตากลมออกไปด้วยความไม่แน่ใจ ก็ตอนแรกดูยุ่งๆอาจจะเบลอไงไรงี้

                    "ก็แล้วเมื่อกี้ใครชวนผมไปกินข้าวละ ไม่ใช่ลู่เก้อหรอ?" กรี้ดดดดดดดดดดดด ลู่หานคนแมนอยากจะลุกขึ้นมามิกซ์ Miracle in December กับอือรือรองรวมกันแล้วปิดซอยเซิ้งกันไปสามวันแปดวัน มินซอกเรียกลู่เก้อ ลู่เก้อนะ ไม่หูฝาด ไม่หูบอด พฮึก! หวั่นไหวปาทั้งตับไตหัวทั้งสี่ห้องให้รัวๆ น้องจ๊อกตกลงจะไปกินข้าวด้วย ปิดซอยไปอีกสิบสองวัน ไม่ได้ฝัน ไม่ได้ฝันใช่มั้ย ตบหน้าคนแมนที ฮอลล ล ล >..<   

                    "เสี่ยวลู่เร็วๆดิ ผมหิวแล้วนะ" มินซอกกวักมือเรียกลู่หานที่เอาแต่ยืนทึ้งหัวตัวเองด้วยความเขิน คราวนี้เจอเสี่ยวลู่ไปอีก โอ๊ยยยย โดนใจเต็มๆ มอมเหล้าแล้วพาเข้าห้องเลยได้มั้ย!?

                    "คร้าบบบบ" บอกเลยว่า ณ จุดนี้โคฟเวอร์เป็นเสือชีตาห์ครับ ใส่เกียร์วิ่งให้เร็ว เปิดประตูรถให้พร้อม ออกเครื่องเดินทางให้ไว มินซอกคนดีศรีภรรยาพี่ลู่ใจอ่อนไปแล้ว แน่นอน!

                   
                 มาถึงตอนนี้คงรู้กันแล้วใช่มั้ยละครับว่าเมียผมนะเป็นผู้ชาย เพราะงั้น...

                    เจอกันอีกทีวันแต่งเลยละกันนะครับ ฮิ้ว ว ว~

     

     --End Luhan's Part-- 


    55 เปอร์เซ็นต์

     

     

    ...............................-- Belong to you --...............................


    45 เปอร์เซ็นต์

                  

                    ร่างโปร่งทิ้งตัวนอนลงบนพื้นปูนเย็นเฉียบด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากทำความสะอาดและจัดข้าวของให้เข้าที่ในห้องเช่าหลังใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทบ่งบอกเวลาค่ำ แต่คนที่ชานยอลเฝ้ารอก็ยังคงไม่กลับมา ตั้งแต่ที่คริสมาส่งเขาก็อยู่ในห้องนี้แต่เพียงลำพัง แม่ไม่เคยอยู่จนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว แต่เดี๋ยวก็คงกลับมา คิดได้ดังนั้นหน้าหวานจึงลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัวที่แสนแคบ

                  
                   ทำกับข้าวไว้รอแม่กลับมา...

                   

                    ตั้งแต่เด็กจนโตความยากจนทำให้เขาต้องขวนขวายที่จะมีชีวิตอยู่ให้ได้ อะไรที่ทำไม่ได้ก็จำเป็นต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะกวาดบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าว ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าได้เป็นสามีหรือศรีภรรยาก็สบายไปแล้วทั้งชาติ ชานยอลเป็นคนขยัน ว่านอนสอนง่าย และอ่อนน้อมถ่อมตนที่เขาสามารถเรียนจบมัธยมาได้ก็เพราะอย่างนี้ แต่หน้าหวานก็ยังไม่มีทุนพอที่จะเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินเรียนแต่สุดท้ายก็ต้องหายไปกับการใช้หนี้จนหมดสิ้น ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่หมดไปเสียที

                   

                  มือขาวเปิดตู้เย็นเครื่องเล็กออกดูวัตถุดิบที่พอจะนำมาทำอาหารได้ แต่ก็ว่างเปล่า ร่างโปร่งลืมไปเสียสนิทว่าเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงวัน จึงตัดสินใจว่าจะออกซื้ออะไรเข้ามาตุนไว้เสียหน่อย เงินจากการทำงานเมื่อคืนยังพอที่จะใช้จ่ายได้ ความจริงยังคงได้อีกหลายวันเพราะคริสให้เขามามากกว่าที่ควร รอยยิ้มบางจุดขึ้นบนใบหน้าใสเมื่อนึกใครบางคนที่ทำให้เขาหวั่นไหว ชานยอลส่ายหัวไล่ความคิดน่าขันออกไปก่อนจะพาร่างตนไปยังประตูไม้อันแสนเก่า แต่ไม่ทันได้ยกมือขึ้นเปิดก็มีใครบางคนด้านนอกกระชากให้มันเปิดออกก่อนเขาด้วยความเร็ว ใบหน้ามารดาสุดรักที่บอบช้ำจากการถูกทำร้าย มุมปากมีเลือดสีแดงสดยังไหลไม่ยอมหยุด

                    "แม่!!" ดังหัวใจกระตุกวาบกับภาพที่ได้เห็น แต่เหมือนจะไม่มีเวลาพอที่จะตอบคำถามความสงสัยของชานยอล คนเป็นแม่ผลักอกลูกชายคนเดียวด้วยความแรงก่อนจะเดินเข้าไปเก็บข้าวของทุกอย่างที่มีอย่างรวดเร็ว

                    "ชานยอลหนีเร็ว! พวกมันตามตัวเราเจออีกแล้ว ฉันหนีมาได้ เก็บข้าวของให้เร็วที่สุด!!" ตาโตเปิกกว้างกับคำพูดจากมารดา ขายาวรีบกล้าพรวดทำตามคำสั่งที่ถูกมอบหมายตัวหัวใจที่เต้นแรง ทะ.. ทำไมถึงเป็นอย่างนี้? นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องหนีอย่างกะทันหันแบบนี้ แต่ก็เป็นน้อยครั้งที่กระชั้นชิดเสียจนตั้งตัวไม่ทัน มันเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายที่สุด ครั้งสุดท้ายที่แม่เขาถูกทำร้ายมา พวกเขาทั้งสองเกือบเอาตัวไม่รอด และครั้งนี้... ไม่รู้จะรอดรึป่าว...

                    "โอ๊ะโอ.. ดูเหมือนครั้งนี้พวกแกจะหนีไม่ทันซะแล้วละ หึ!"

                    !!!

                   

                     มะ... ไม่จริง หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นกับภาพตรงหน้า ไม่ทันแล้ว... ไม่รอดแล้วจริงๆใช่มั้ย?        

     
                     ผู้ชาย 2 คนเยื้องกายเข้ามาในห้องเช่าของพวกเขาด้วยความรวดเร็ว คนหน้าตาโหดเหี้ยมยืนถือปืนสั้นจ่อเล็งมาทางแม่ลูกที่ตัวสั่นเป็นลูกนกด้วยความกลัว ทำยังไง ทำยังไงดี?

                    "จะ.. ใจเย็นๆก่อนนะครับ แม่ผมติดเงินพี่อยู่เท่าไหร่?" ร่างโปร่งถามออกไปอย่างนั้นเพื่อถ่วงเวลาคิดแผนการเอาตัวรอด แต่ใจหนึ่งก็อยากรู้จำนวนเงินนัก ทำไมถึงใช้ไม่หมดเสียที

                    "นังตัวดีนี่ไม่เคยบอกแกเลยหรอ.. เป็นแม่ที่แย่เสียจริงนะ ยัยนี่ยืมเงินเจ้านายฉันมา 5 แสน"

                    "5 แสน!!!" ชานยอลเผลอตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แม่เอาเงินมากมายแบบนั้นไปทำอะไรกัน!? เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเยอะขนาดนี้ ขายาวแทบทรุดเมื่อทุกอย่างเหมือนเดินเข้าสู้ทางตัน สมองว่างเปล่า กับสถานการณ์คับขันแบบนี้แต่กลับคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง ดวงตาใสคลอด้วยหยาดน้ำตาด้วยความอ่อนล้าภายในจิตใจ ความรู้สึกมากมายเอ่อล้นมาจุกที่ลำคอจนพูดอะไรไม่ออก

                    "ปะ... ปล่อยพวกฉันไปเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนให้ไวที่สุด ได้โปรดละ ชะ..ชานยอล แกทำอะไรสักอย่างสิ!" ผู้หญิงวัยทองยกมือขึ้นไหว้เว้าวอนให้เจ้าหนี้เห็นใจก่อนจะหันไปกระทุ้งแขนใส่ลูกชายที่ยืนนิ่งข้างๆ

                   
                    ดังสวรรค์เห็นใจคนถูกทำร้ายอย่างเขาเมื่อดวงตาใสเหลือบไปเห็นกระบองเหล็กอันใหญ่ที่วางตั้งอยู่ในกล่องข้างประตูทางออกห้องนอนของเขา สมองที่ว่างเปล่ากลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ดวงใจน้อยเต้นถี่เมื่อจำเป็นต้องทำอะไรที่เสี่ยงกับความเป็นไปของชีวิตขนาดนี้ ถ้าสำเร็จก็รอด แต่ถ้าไม่... ก็ตาย

                    "คะ.. คือ เมื่อวานผมไปทำงานได้เงินมาก่อนหนึ่ง ตะ.. แต่ มันอยู่ใน.. ห้องนอน"

                    "แล้วจะยืนนิ่งทำสากอะไร ก็ไปหยิบออกมาเส่!" หน้าโหดตวาดลั่น ร่างโปร่งพยักหน้าช้าๆก่อนจะค่อยๆเดินไปยังห้องนอนโดยมีไอ้หน้าโหดถือปืนจ่อตามมาด้วย ยิ่งใกล้ประตูห้องนอนเท่าไหร่หัวใจก็เต้นเร็วมากขึ้นเท่านั้น ในหัวของชานยอลตอนนี้มีแต่คำว่าต้องรอด เขาจะต้องพาแม่หนีไปให้ได้

                    "ไหนละเงิน" ไอ้หน้าโหดเอ่ยถาม แต่ไม่ทันได้ตั้งตัวชานยอลก็คว้ากระบองเหล็กได้ถนัดมือและเหวี่ยงฟาดไปยังศีรษะของมันอย่างเต็มแรง ร่างบึกเซล้มลงไปกับพื้นด้วยความมึน หน้าหวานจึงเข้าไปฟาดที่ท้าทอยอีกทีจนมันสลบล้มพับลงไป     

                    "เห้ย! เกิดอะไรขึ้นวะ?" ผู้ชายอีกคนวิ่งเข้ามาดูด้านในห้องนอนนั่นทำให้เข้าทีกับคนที่ง้างวงแขนรอฟาดใส่อย่างเต็มที่และแน่นอนโดนหวดเข้าไปเต็มเบ้า เมื่อหน้าหวานเห็นมันล้มลงกับพื้นจึงรีบวิ่งออกไปหามารดา

                    "แม่ไป หนีเร็ว!" แขนแกร่งคว้าข้อมือเล็กก่อนจะพาวิ่งออกไปด้านนอกห้องเช่า แต่ทุกอย่างมันคงไม่ราบเรียบเสมอไปเมื่อมีผู้ชายอีกสองคนยืนรออยู่ด้านนอก

                    "จะหนีไปไหนละหนุ่มน้อย.." ไม่รอช้าชานยอลง้างกระบองเหล็กและฟาดเข้าไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

                    "แม่หนีไปก่อนนะ" ผู้หญิงวัยทองพยักหน้าก่อนจะรีบวิ่งลับหายไปในซอกซอยเล็ก ร่างโปร่งยกขาฟาดแข้งเข้ากับลำตัวหนาของผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มองไล่หลังมารดาของเขา ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะกับการต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อเอาชีวิตรอด ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทุกตารางนิ้วของความรู้สึก ใจสั่นแต่ตัวยังต้องสู้ ขาเรียววิ่งหนีผู้ชายสองคนที่ไล่ตามมา เหนื่อยเหลือเกิน ยิ่งวิ่งก็ยิ่งล้า

                   
                    ปัง
    !

                   
                    เสียงลั่นปืนไกดังสนั่นพร้อมกับหน้าหวานที่ล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด นี่เขาโดนยิงใช่ไหม...
                    แต่เหมือนว่าอะไรมันจะยังไม่สิ้นสุด ชานยอลยันตัวลุกขึ้นพยายามต่อสู้กับความทรมานที่ต้นขาขวา เร็วหน่อยชานยอล.. มันใกล้จะถึงตัวแกแล้ว เอื้อนเอ่ยให้กำลังใจตัวเองภายใน แม้ร่างกายจะเหนื่อยจนไม่อาจก้าวขาต่อไปได้อีกแล้ว

                   
                    ปัง
    ! ปัง!

                   
                   เสียงปืนดังขึ้นสองครั้งติด โชคดีที่เขาหมุนตัวเขามาในซอยได้ทัน ไม่งั้นอาจจะหมดลมหายใจไปแล้วก็ได้ ร่างโปร่งทั้งวิ่ง ทั้งหอบ พยายามลากสังขารแสนบอบช้ำไปยังย่านชุมชนอย่างทรมาน อีกนิดเดียว.. อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น

                   
                     พรึ่บ
    !

                   
                     เสียงจ้อกแจ้กจอแจของชุมชนดังขึ้นในโสตประสาทของหน้าหวาน ใช่มันถึงแล้ว.. ดูเหมือนจะรอดอยู่รำไรถ้าไม่ติดเสียว่าสติของเขาใกล้จะหมดลงไปทุกนาที ลมหายใจเริ่มขาดช่วง ดวงตาพร่าภาพตรงหน้าเริ่มเลือนหาย..

                    "เห้ย! มันอยู่นั่น" เสียงที่ไม่อยากได้ยินดังแว่วเข้ามา ไม่!... เขาจะต้องรอด คิดได้ดังนั้นชานยอลก็พยายามหอบร่างพาตัวเองหนีอย่างสุดชีวิต

                   
                ถ้าเป็นคุณจะฝืนมันต่อไปไหม.. ?

                ปล่อยลมหายใจสุดท้ายไปกับความตายเลยได้รึป่าว.. ?

                    ไม่ไหว.. ไปต่อไม่ไหวอีกแล้ว

     

                    ปึก!

                   
                    หน้าหวานวิ่งไปชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคนด้วยความแรง เชยดวงตากลมที่จะหลับอยู่รอมร่อมองขึ้นไป   ภาพตรงหน้าพร่ามัวจนบางทีนี่อาจเป็นเพียงความฝัน อาจจะเป็นเพียงสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดตอนนี้ก็เป็นได้...

                    "พะ... พี่คริส ชะ.. ช่วยผมด้วย..."

                    วาดอ้อมแขนกว้างรับความอบอุ่นจากบางอย่าง เอ่ยพูดคำสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบไปทันที

     

    ...........................................................................................


    Talk with me

    โอ๊ะโอ.... คือแต่งฉากบู้ไม่เก่ง 55555555555 ติดๆขัดๆบ้างก็อ่านๆไปเหอะเนาะ -..-

    ตอนนี้แลดูชีวิตน้องยอลเราช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้ ก็นะ... ชีวิตต้องสู้ลูกจ๋า

    ไหนใครบอกว่าตอนนี้มันหมิ่นลู่ 5555555 ติดตามไปนะจะรู้ว่าพี่ลู่จริงๆเป็นยังไง อิ้อิ้

    เอาจริงๆตอนนี้คือแต่งไปเขินไป พี่ลู่มุ้งมิ้งมาก คำพูดแบบเสี่ยวเกิ๊น ถถถถถถ

    ชานยอลไม่ได้มาเตะบอลนะ มาเตะคน นายเอกเราฮาร์ดคอมาก แมนฝุดๆ กร๊ากกก

    ส่วนการสัมผัสประสบการณ์ใหม่... โดนแบน! ตอน 3 ใครยังไม่อ่านก็รอต่อไป คึคึคึ

    ไปละ เจอกันตอนหน้า กราบสวัสดี เยิฟลู ชู้บๆ 

    ติดแท็ก #ฟิคของคุณ
    ป.ล.ใครทำอะไรให้สม่ำเสมอ เราจำได้ทุกคนนะ เดี๋ยวมีรางวัล หึหึหึ





    B ? W
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×