ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซาตานสอนงานรัก

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 9 (50%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      0
      21 มิ.ย. 64



    Chapter 9

     

    อัญนิกาอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดเข้ารูปลายม้าลายกับกระโปรงบานสั้นสีแดงสดใสอวดเรียวขา เธอตั้งใจแต่งชุดนี้เป็นพิเศษ นั่งไขว้ขาสบายๆ รออยู่ที่โต๊ะอาหารขณะบาสเตียนกำลังอาบน้ำ ไม่นานนักเขาเดินเข้ามา สวมเสื้อยืดคอวีเข้ารูปสีขาวเน้นกล้ามอกกับกางเกงขายาวผ้ายืดสีเทาใส่สบาย ทรงผมที่ยังเปียกหมาดๆ ยุ่งเหยิงนิดๆ ส่งให้เขาหล่อเหลาและเซ็กซี่ ก่อนเดินผ่านไปนั่งฝั่งตรงข้าม เขายังทิ้งกลิ่นน้ำหอมสดชื่นไว้เบื้องหลังให้เธออยากยื่นจมูกตามไปสูดดมกลิ่นหอมตรึงใจอีกด้วย

    “เธอคงดีใจนะที่ได้กินอาหารไทย” เขาเปิดฉากชวนคุยเพื่อลดความอึดอัด ขณะมองเธอเปิดภาชนะที่ปิดคลุมอาหารออกวางด้านข้าง

    “ค่ะ ฉันดีใจมาก สองสัปดาห์ที่อยู่ในเมืองไทย ฉันจะกินให้คุ้มเลย”

    เธอยิ้มละไมเงยหน้ามองเขา ริมฝีปากเปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “หมายความว่าเธอจะยังไม่กลับพร้อมฉันเหรอ” คิ้วเข้มของเขาขมวดชนกันยามจ้องตาเธอเขม็ง

    “ค่ะ ก็ตั๋วเครื่องบินของฉันระบุวันกลับไว้สองสัปดาห์นี่คะ” เธอตั้งใจยิ้มยียวน

    “โธมัสสามารถจัดการให้ได้เรื่องเลื่อนวันกลับ” เขาพูดสวนทันที

    “อย่ารบกวนโธมัสเลยค่ะ ฉันต้องการอยู่ต่อ ฉันมีธุระอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ” เธอตักอาหารใส่ปากเคี้ยวช้าๆ นึกขอบคุณโธมัสที่ช่างรู้ดีไปหมดว่า เธอชอบอาหารไทยแบบไหน และมีอาหารหวานเป็นแพนเค้กราดน้ำผึ้งแถมยังมีขวดน้ำผึ้งใบเก๋มาให้ด้วย เผื่อลูกค้าต้องการความหวานและความชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ

    “ตามใจ ตอนแรกฉันคิดว่าจะอยู่รอเธอสักวันสองวัน แต่เปลี่ยนใจแล้วฉันจะกลับพรุ่งนี้เลยแล้วกัน”

    บาสเตียนพูดไม่เชิงห้วนจัด จากนั้นทั้งสองคนนั่งกินอาหารต่อไปเงียบๆ แต่ไม่ถึงกับอึดอัด บาสเตียนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องอาหารไทย และเงยหน้าขึ้นมาสบตากันเป็นบางครั้ง ต่างฝ่ายต่างรักษากิริยาอาการวางเฉยไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำให้ถูกจับได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามมีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขา กระทั่งกินอิ่มบาสเตียนเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปก่อน เวลานี้เขากึ่งนั่งกึ่งนอนเอกเขนกดูรายการทีวีอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ ข้างกายมีบรั่นดีขวดเดิมที่เหลือไม่ถึงครึ่งขวดตั้งอยู่

    อัญนิกาเดินตามมายืนอยู่ตรงปลายเท้าของเขา รู้สึกผิดหวังที่แผนของเธอไม่สำเร็จ บาสเตียนไม่แคร์เธอเลย “ฉันจะเข้านอนแล้วนะคะ บาสเตียน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

    “เดี๋ยวสิ พิ้งกี้ นั่งคุยกันก่อน อย่าบอกนะว่าเธอใส่ชุดนี้เพื่อจะเขานอน”

    เขาพูดล้อเลียนแล้วถือโอกาสมองสำรวจเรียวขาสลักเสลาภายใต้กระโปรงบานสีแดงตัวสั้นเลยไปถึงปลายเท้าเปลือยเรียวเล็ก ก่อนจะไล่สายตากลับขึ้นมาถึงเรียวขาที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าให้ความรู้สึกดีมาก เมื่อมันโอบรัดสะโพกของเขา ความคิดนี้ทำให้เขาเริ่มตื่นตัว เป้ากางเกงเริ่มตึงและเขาไม่พยายามปกปิด เธอคงสังเกตเห็นจึงเดินหนีไปนั่งบนเก้าอี้นวมหันข้างให้เขา

    “คุณอยากคุยอะไรกับฉันหรือคะ” เธอถาม แสร้งเบนสายตาไปที่จอทีวี

    “เรามีอะไรต้องคุยกันไหมพิ้งกี้” เขาเปรยขึ้น นอนตะแคงเอียงหน้าไปหาเธอ

    หญิงสาวหันมาฝืนยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กเป็นระเบียบ “ถ้าคุณหมายถึงเรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอกค่ะบาสเตียน สบายใจได้เลย ฉันรู้จักคุณดี และฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไร”

    “เธอไม่เสียใจใช่ไหม” เขาเลิกคิ้วสูงราวกับเขาหูฝาดที่ได้ยินแบบนั้น เธอไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ไม่รู้สึกเป็นเจ้าของเขาด้วยใช่ไหม ความคิดเหล่านั้นมันทำให้เขาหงุดหงิด ชายหนุ่มขบกรามจนเป็นสัน

    “ค่ะ ฉันไม่เสียใจ จริงๆ แล้วฉันอยากขอบคุณด้วยซ้ำ มีคนเคยบอกว่าประสบการณ์เรื่องเซ็กส์ครั้งแรก ควรให้ผู้ชายที่มีประสบการณ์สูงเป็นคนสอน คุณไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยค่ะ บาสเตียน ต่อไปฉันคงไม่เงอะงะและแฟนของฉันคงพอใจ” นอกจากแสร้งไม่ยี่หระความสาวที่สูญเสียให้กับเขาเป็นคนแรกหญิงสาวทำตาชวนฝันถึงชายหนุ่มคนต่อไปจนน่าหมั่นไส้

    “ให้ตายสิ เธอพูดเรื่องบ้าอะไร” บาสเตียนผุดขึ้นนั่ง สีหน้าขึ้งเคียดกำมือแน่น พระเจ้า เขากลายเป็นคู่ซ้อมเล่นๆ ของเธอไปได้อย่างไร

    “ประสบการณ์เรื่องเซ็กส์ไงคะ” เธอตอบเสียงดังฟังชัด

    “อ๋อ ถ้าเรื่องนั้นเธอยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอหรอก พิ้งกี้ และเธอต้องการเรียนรู้เพิ่มอีก” ชายหนุ่มพูดประชด ลุกขึ้นเดินตึงๆ ไปในห้องนอนที่ใช้ร่วมกัน ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เดินออกมาแต่เลี้ยวไปทางโต๊ะอาหาร เขาเดินกลับมาตรงมุมสำหรับนั่งพักผ่อนอีกครั้งพร้อมกับขวดน้ำผึ้ง และคอนดอมหนึ่งกล่องโยนลงบนโซฟา

    ดวงตาอัญนิกาเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น เธอไม่ได้สงสัยว่าเขาจะทำอะไร แต่เธอกำลังสงสัยว่าที่เขาหงุดหงิด เป็นเพราะเขาเสียความมั่นใจใช่ไหม หลังจากที่เธอแสร้งทำเป็นไม่แคร์ ความคิดนั้นทำให้เธอรู้สึกดี อย่างน้อยเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาหันหลังให้ทันทีเมื่อเสร็จกิจในครั้งแรก

    “ลุกขึ้นมาสิ” เขาเดินเข้ามาหาแล้วดึงไหล่ให้เธอลุกขึ้นยืน ถือโอกาสถอดเสื้อยืดของเธอออกอย่างถือวิสาสะและกำลังจะปลดตะขอกระโปรงของเธอ

    “ดะ... เดี๋ยวค่ะบาสเตียน ฉันคิดว่าฉันได้ประสบการณ์มาเพียงพอแล้ว”

    หญิงสาวยกมือห้ามพูดเสียงตะกุกตะกักขาดห้วง รู้สึกว่าแผนของเธอกำลังจะทำให้ตนเองตกที่นั่งลำบาก

    “ที่เธอเรียนรู้ไปนั่นเป็นแค่ผู้รับ ถ้าเธออยากให้ผู้ชายของเธอประทับใจ เธอต้องเรียนรู้การเป็นผู้ให้ด้วย หวานใจ” เขาพูดล้อเลียนเสียงเย้ยหยัน ถึงตอนนั้นกระโปรงแดงเซ็กซี่ของเธอก็หลุดลงไปกองอยู่รอบปลายเท้ารอให้เธอก้าวขาออกไป บาสเตียนดึงเสื้อยืดของตัวเองออกเหวี่ยงทิ้งไป ดันตัวเธอเดินไปที่โซฟาตัวใหญ่แล้วผลักให้นั่งลงพิงพนักโซฟา ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

    เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นขวดน้ำผึ้งที่เขาถืออยู่ในมือ เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาจะทำอะไรกับร่างกายเธอ เพียงแค่คิดร่างกายเธอก็สั่นสะท้าน

    “เอ่อ... ฉันคิดว่าฉันไม่ต้องการเรียนรู้เพิ่มแล้ว ฉันมีประสบการณ์มากพอแล้วค่ะ บาสเตียน”

    “ยังไม่มากพอหรอก ไหนๆ เธอก็ไว้ใจฉันแล้ว จงเป็นนักเรียนที่ดีเถอะ พิ้งกี้ ทำตัวให้ว่านอนสอนง่าย ฉันจะถวายหัวสอนเธอให้เก่งภายในคืนเดียว”

    พูดจบเขาเอื้อมมือรวบผมเธอดึงเกือบเป็นกระชากไปข้างหลังให้เธอเงยหน้าขึ้น แล้วหยดน้ำผึ้งราดลงบนเรียวปากเธอจนชุ่มฉ่ำ ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมานั่งคร่อมทับสะโพกเธอไว้

    “บาสเตียน คุณจะทำอะไรคะ มันเลอะเทอะไปหมดแล้ว” หญิงสาวยกมือจะเช็ดปากแต่ถูกเขาตรึงมือสองข้างไว้

    เขาละสายตาจากใบหน้าเธอ มองน้ำผึ้งฉ่ำเยิ้มที่กำลังไหลลงไปช้าๆ แล้วกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกวิ่งขึ้นวิ่งลงหลายรอบ เขาฝันถึงน้ำผึ้งกับเรียวปากของเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เธอมาปรากฏตัวที่บ้านของเขา วันนี้สมใจแล้วเพราะเธอเป็นคนเปิดโอกาส แต่อย่าฝันหวานไปหน่อยเลยว่าเธอจะได้ไปใช้ประสบการณ์เรื่องเซ็กส์กับชายอื่น ถ้าเขายังมีลมหายใจอยู่ บาสเตียนเลียริมฝีปากตนเองอย่างเร้าใจ

    “ฉันจะเช็ดให้เอง หวานใจ” พูดจบเขาก็ก้มลงมาเลียไล้น้ำผึ้งหวานฉ่ำรอบปากเธออย่างเร้าอารมณ์จนหมดทุกหยาดหยด แล้วรวบรวมน้ำผึ้งทั้งหมดไว้ปลายลิ้น “ให้ฉันป้อนเธอนะ พิ้งกี้” เขาสอดลิ้นใส่ปากราวกับเธอเป็นลูกนกผู้หิวโหย หลอกล่อให้ดูดดื่มน้ำผึ้งจากปลายลิ้นเขา “หวานไหม” เขาถามเสียงกระเส่า สองมือสากนิดๆ เคล้าคลึงแก้มเธอเบาๆ

    “หวานค่ะ”

    “เธอชอบไหม”

    “ชอบค่ะ ฉันชอบน้ำผึ้ง” เธอพูดเมื่ออารมณ์พาไป หลังปากประกบปาก ลิ้นพันลิ้นแบ่งปันความหวานให้แก่กันจนอิ่มเอม

    “ฉันก็ชอบน้ำผึ้ง โดยเฉพาะเมื่อมันอยู่ในปากของเธอ หน้าอกเธอและ...” เขามองต่ำลงไปที่บิกินีตัวน้อยด้วยสายตาซุกซนจนเธอผวา มันจะต้องที่นั่นด้วยหรือ แล้วที่เขาจะสอนให้เธอเป็นผู้ให้ มัน... มันจะต้องที่นั่น... ของเขาด้วยใช่ไหม ขณะที่เธอมัวแต่ครุ่นคิดรู้ตัวอีกทีปลายยอดถันของเธอก็เย็นวาบ ถูกของเหลวเหนียวหยดใส่ เสื้อยกทรงเธอหลุดไปตอนไหนแทบไม่ทันรู้ตัว

    กายสาวสั่นสะท้านอย่างรอคอย เมื่อเขาประทับริมฝีปากลงบนยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก ไล้เลียดูดกลืนหยาดน้ำผึ้งอย่างหิวโหย เธอหลับตาพริ้มคร่ำครวญอย่างมีความสุข เมื่อความเสียวซ่านแผ่กระจายจากยอดถันไปทั่วทรวงอก และพุ่งทะยานลงไปกลางเรียวขาของเธอ

    “เธอหวานเหลือเกิน หวานใจ” เขาพูดงึมงำ เลื่อนตัวลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ แยกขาเธอออกกว้าง สองมือแกร่งรวบสะโพกกลมกลึงของเธอดึงไปข้างหน้าจัดท่าให้นั่งหมิ่นเหม่อยู่บนขอบด้านนอกของโซฟา

    “บาสเตียนคะ ฉันคิดว่า...” เธอเลียริมฝีปากที่ยังมีรสหวานของน้ำผึ้งอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี อยากหนีบขาแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เขาแยกหัวเข่าสองข้างของเธอไว้ด้วยข้อศอก ขณะที่มือเขากำลังราดน้ำผึ้งเข้มข้นลงบนบิกินีบริเวณเนินเนื้อสามเหลี่ยม เธอก้มมองดูมันไหลเยิ้มจนเสียวซ่านไปทั่วกาย

    “อยู่เฉยๆ เถอะ ตั้งใจดูฉันสาธิตให้ดี แล้วเธอจะต้องเป็นฝ่ายปฏิบัติบ้าง”

    “อื้อ บาสเตียน...” กายสาวกระตุกส่งเสียงครวญบาดใจ ปากของเขาดูดดื่มหนักหน่วง ขณะที่ลิ้นก็ปาดเลียน้ำผึ้งอย่างดุเดือดแทบชอนไชทะลุทะลวงเข้าไปในบิกินีเนื้อบางที่เปียกฉ่ำ

    “นี่ยังไม่ใช่ของจริง หวานใจ” เขาหงายหน้าขึ้นเพื่อรูดบิกินีตัวน้อยออกไปตามเรียวขาของเธอ สบตาเธอแล้วก้มหน้าตามลงไปดูดดื่มความหวานรสน้ำผึ้งใจกลางกายสาว อัญนิกาหอบหายใจแรง เนื้อตัวบิดเร่า ศีรษะที่เอนไปพิงพนักโซฟาส่ายไปมาจนผมยุ่งเหยิง

    “อ๊า... อ๊า... บาสเตียน... บาสเตียน...” เสียงครวญครางหวิวไหวปานจะขาดใจ เมื่อเธอถูกรุกรานด้วยปลายลิ้นแสนเร่าร้อน ที่ตวัดลูบไล้จุดอ่อนไหวขึ้นลงอย่างเร้ารัญจวน สลับแทรกลึกลงไปเลียนแบบการร่วมรัก ไม่ช้าไม่นานร่างกายเธอก็ระเบิดพราวสว่างไสวออกมาเป็นสีรุ้ง ขณะที่บาสเตียนแทบอยากระเบิดตามเธอไปด้วย แต่เขารั้งไว้ด้วยความสามารถเฉพาะตัว เขาสาธิตกลวิธีให้เธอมากพอแล้ว ถึงคราวที่นักเรียนสาวของเขาจะต้องลงมือปฏิบัติให้เขาดูบ้าง เขามองไปที่ขวดน้ำผึ้งยังเหลืออยู่อีกครึ่งขวด อดคิดอย่างขบขันไม่ได้ว่าเขาคงไม่ถูกโรคเบาหวานเล่นงานหรอกนะ

    “ถึงตาเธอแล้วหวานใจ” เขาโยกตัวขึ้นจุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่ออย่างอ่อนโยน แล้วทิ้งตัวลงนั่งดึงร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเพื่อให้เวลาเธอ เขารู้ว่าเธอยังต้องใช้เวลาเพื่อทำใจ

    “ฉันต้องทำจริงๆ หรือคะ” เธอพูดปนหอบสะท้านอยู่ในวงแขนของเขา สายตาเบนไปยังความแข็งขึงตรงหน้าขาของเขาอย่างอดใจไม่ไหว น้ำลายสออยู่ในปากจนต้องกลืนแรงๆ เจ้าสิ่งนั้นของเขาช่างน่าประทับใจ มันขยายใหญ่เสียจนเธออยากครางออกมาดังๆ

    “เธออยากได้ประสบการณ์ไม่ใช่หรือ” เขาเริ่มนวดต้นคอปลุกเร้าเธอเงียบๆ แล้วลากนิ้วไปตามร่องอก พอใจที่มันชูชันตอบสนอง เขาจูบขมับเธอแล้วอุ้มขึ้นมานั่งบนตักหันหน้าเข้าหากัน โอบเอวคอดกิ่วของเธอไว้ เริ่มจูบเธอก่อนแต่เขาทำเพียงประกบริมฝีปากกับปากเธอ หน้าที่ต่อจากนั้นนักเรียนหัวไวก็สานต่ออย่างไม่มีติดขัด เธอประคองแก้มเขาไว้เอียงใบหน้าในองศาที่เหมาะเจาะ สอดลิ้นเล็กๆ เข้ามาพัวพัน ดูดดึงลิ้นเขา ขณะที่มือเล็กๆ ของเธอลูบไล้เป็นวงกลมอยู่ที่กล้ามอก บดขยี้ตุ่มไตของเขาเล่นอย่างมันมือ ทำเลียนแบบที่เขาทำกับเธอ

    บาสเตียนครางฮือเมื่อเธอเปิดปากออก ย่อกายลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือเล็กสั่นๆ ประคองความเป็นชายของเขาไว้เต็มอุ้งมือนุ่มอย่างน่าสงสาร เขาเกือบสงสารแต่ก็ไม่ เขาอยากรู้ว่าเมื่อถูกน้ำผึ้งราดรดลงมาที่ความเป็นชายแข็งชันเขาจะรู้สึกอย่างไร ทว่ายังไม่ทันโดนเขาก็ซ่านสยิวจนแทบทนไม่ไหว เมื่อเห็นริมฝีปากชุ่มชื้นน่าสงสารของเธอขณะสบตาเขา

    “ไม่ต้องพิ้งกี้” เขาห้าม หยิบขวดน้ำผึ้งออกไปจากมือเธอ

    อัญนิกาสูดลมหายใจเข้าลึก กลืนน้ำลายเอื๊อกเธอไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน มือเล็กที่ประคองความแข็งชันของเขาไว้ก็เริ่มสั่น เธอยื่นหน้าลงไปใกล้ส่วนนั้นของเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ หลับตาแล้วนึกถึงภาพแท่งไอศกรีมที่เคยไล้เลียตอนเป็นเด็ก

    “อืมมม...” บาสเตียนครางฮือบ่งบอกว่าแสนพอใจก่อนจะถึงวินาทีหวาดเสียวชวนหัวใจวายตาย เมื่อริมฝีปากอิ่มอ้าครอบครองความแข็งชันของเขาไว้ลึกๆ ในปาก ลิ้นน้อยเงอะงะของเธอทำให้เขาแทบคลั่ง เขาประคองใบหน้าเธอกำกับการรูดรั้งขึ้นลงอย่างที่ต้องการ “โอ พระเจ้า ปากเธอแสนดีอะไรอย่างนี้ หวานใจ เธอกำลังจะทำให้ฉันคลั่ง โอ้วววว ฉันทนไม่ไหวแล้ว”

    บาสเตียนฉุดเธอลุกขึ้นยืน เขาใช้ปากฉีกซองดึงเกราะป้องกันมาสวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นสองมือแกร่งช้อนใต้สะโพก ยกเธอขึ้นจนถึงยอดอก แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาให้ร่างเธอไถลลึกเข้าไปตามความยาวแข็งชันที่กำลังเต้นตุบอย่างรุนแรง

    อัญนิกาโอบรอบคอเขาไว้แน่น ความปรารถนาวิ่งพล่านไปทั่วร่างเมื่อเขายกสะโพกเธอขึ้นๆ ลงๆ กล้ามเนื้อเธอโอบรัดความแข็งชันที่เต้นตุบๆ อยู่ในกายเธอด้วยความยินดี หญิงสาวครวญครางแล้วขบไหล่เขา เมื่อจังหวะการผลักออกและดันเข้ารุนแรงมากขึ้น เธอแหงนศีรษะไปข้างหลังสะบัดผมพลิ้วกระจายพร้อมทั้งกรีดร้อง เมื่อความสุขวิ่งวนมาจนสุดทางและบาสเตียนก็ตามมาติดๆ ถึงตอนนั้นขาเขาเริ่มสั่นต้องปล่อยเธอลง ดึงเกราะป้องกันโยนใส่ถังขยะแถวนั้น

    หญิงสาวยืนพิงอกกว้างแล้วพรมจูบทั่วร่างของเขา พลางส่งเสียงครางด้วยความพึงพอใจ บาสเตียนซบหน้าแนบเรือนผมนุ่มหอมของเธอ กอดเธอไว้นิ่งนาน

    “ฉันจบหลักสูตรอย่างสวยงามแล้ว ใช่ไหม” เธอฝืนยิ้มเมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาสีฟ้ากระจ่างของเขา

    บาสเตียนไล้แก้มเธอเบาๆ “ใช่ มันสวยงามมากหวานใจ มากกว่าทุกครั้งเท่าที่ฉันจำมันได้ แต่เธอยังเรียนไม่จบหรอก พิ้งกี้ ไม่มีวันจบ” เขายิ้มเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก้มลงมาจูบเธอเร็วๆ

    “แต่ฉันจะไม่เรียนกับคุณอีกแล้วค่ะ ราตรีสวัสดิ์” เธอยิ้มเหมือนพูดเล่น แต่นั่นคือความจริงที่พูดออกมาจากหัวใจ และเขาไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเธอรู้สึกลึกซึ้งต่อเขามากแค่ไหน

    บาสเตียนอึ้งไม่พูดอะไร เขายืนมองเมื่อเธอหันหลังผละไป แต่เขาก็ปล่อยให้เธอเดินไปแค่สามก้าว ก่อนจะคว้าคอนดอมที่เหลือติดมือเดินตามไปยืนข้างเตียงของเธอ รอยยิ้มเต็มไปด้วยตัณหาของเขาผุดพรายเต็มใบหน้า

    “เธอยังเรียนไม่จบหลักสูตรหรอก พิ้งกี้ เธอต้องรู้กลวิธีอีกมากมาย”

    พูดจบเขากดเข่าลงมาบนเตียง แทรกเข้ามาตรงกลางเมื่อแยกเรียวขาเธอกว้างออก เขาก้มหน้าลงมาแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากเธอ ปลายจมูกชนกันขณะที่มือกอบกุมอยู่ที่ทรวงอกอวบอิ่มที่กำลังตื่นขยายตัวสู้มือหยาบนิดๆ ของเขา

    “ไม่ค่ะบาสเตียน ฉันเหนื่อย” ปากก็พูดไปอย่างนั้น มีเสียงหัวเราะเยาะสะท้อนออกมาจากภายใน

    “อีกครั้งนะ พิ้งกี้” เขาวิงวอน ดวงตาสีฟ้าคาดหวัง เสียงเขาเว้าวอนอย่างสุภาพไม่ใช่บังคับ นี่แหละมันคือหายนะสำหรับเธอ แล้วพอริมฝีปากเร้าอารมณ์เลื่อนลงมาจากริมฝีปากอิ่ม ครอบครองเต้าทรวงเครียดครัดอย่างเย้ายวน หลอกล่อให้หลงใหล เสียงปฏิเสธก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางแผ่วเบา กายสาวหยัดขึ้นเสียดสีกับร่างแกร่งทรงพลังที่ทำให้เธอเร่าร้อนไปทุกอณู

    เวลาต่อมาเขาพลิกเธอนอนคว่ำ ยกสะโพกเธอลอยขึ้นมาติดกับหน้าขาของเขา มือใหญ่ตีก้นเธอเบาๆ ขณะเขากำลังสวมเกราะป้องกันอันใหม่ก่อนจะ พุ่งโผนเข้าหาเธอจนสุดตัว เขาเคลื่อนไหวช้าๆ เป็นจังหวะ อัญนิกายอมรับความอ่อนโยนที่เขามอบให้อย่างละโมบจนน่าตกใจ สิ่งที่เขาวอนขอไม่ใช่อีกครั้ง แต่มันเป็นสองครั้งไม่นับรวมครั้งก่อนนั้น จนเธอหมดแรงผล็อยหลับใต้ร่างอบอุ่นของเขาในครั้งสุดท้าย


    โปรดติดตามต่อพรุ่งนี้ค่ะ

    โปรดแซ่บ!!! อีบุ๊ก วางจำหน่ายแล้วทีเมพ 
    โปร ราคาเบาๆ 119 บาท 
    หมดเขต 22 มิ.ย. 64 ค่ะ

    อย่าพลาด


    Thumbnail Seller Link
    ซาตานสอนงานรัก
    จันทร์กระจ่าง
    www.mebmarket.com
    CEO หนุ่มชื่อก้องแห่งโลกธุรกิจโลจิสติกส์ ผู้ที่มองผู้หญิงเป็นเพียงขนมหวานหลังอาหารสามเวลา ‘บาสเตียน อัลเบลลาร์ด’ ต้องประหลาดใจกับ ‘ข...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×