คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 9 (50%)
Chapter
9
อัญนิกาอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดเข้ารูปลายม้าลายกับกระโปรงบานสั้นสีแดงสดใสอวดเรียวขา
เธอตั้งใจแต่งชุดนี้เป็นพิเศษ นั่งไขว้ขาสบายๆ
รออยู่ที่โต๊ะอาหารขณะบาสเตียนกำลังอาบน้ำ ไม่นานนักเขาเดินเข้ามา สวมเสื้อยืดคอวีเข้ารูปสีขาวเน้นกล้ามอกกับกางเกงขายาวผ้ายืดสีเทาใส่สบาย
ทรงผมที่ยังเปียกหมาดๆ ยุ่งเหยิงนิดๆ ส่งให้เขาหล่อเหลาและเซ็กซี่
ก่อนเดินผ่านไปนั่งฝั่งตรงข้าม
เขายังทิ้งกลิ่นน้ำหอมสดชื่นไว้เบื้องหลังให้เธออยากยื่นจมูกตามไปสูดดมกลิ่นหอมตรึงใจอีกด้วย
“เธอคงดีใจนะที่ได้กินอาหารไทย”
เขาเปิดฉากชวนคุยเพื่อลดความอึดอัด
ขณะมองเธอเปิดภาชนะที่ปิดคลุมอาหารออกวางด้านข้าง
“ค่ะ
ฉันดีใจมาก สองสัปดาห์ที่อยู่ในเมืองไทย ฉันจะกินให้คุ้มเลย”
เธอยิ้มละไมเงยหน้ามองเขา
ริมฝีปากเปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้
“หมายความว่าเธอจะยังไม่กลับพร้อมฉันเหรอ”
คิ้วเข้มของเขาขมวดชนกันยามจ้องตาเธอเขม็ง
“ค่ะ
ก็ตั๋วเครื่องบินของฉันระบุวันกลับไว้สองสัปดาห์นี่คะ” เธอตั้งใจยิ้มยียวน
“โธมัสสามารถจัดการให้ได้เรื่องเลื่อนวันกลับ”
เขาพูดสวนทันที
“อย่ารบกวนโธมัสเลยค่ะ
ฉันต้องการอยู่ต่อ ฉันมีธุระอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ”
เธอตักอาหารใส่ปากเคี้ยวช้าๆ นึกขอบคุณโธมัสที่ช่างรู้ดีไปหมดว่า
เธอชอบอาหารไทยแบบไหน
และมีอาหารหวานเป็นแพนเค้กราดน้ำผึ้งแถมยังมีขวดน้ำผึ้งใบเก๋มาให้ด้วย
เผื่อลูกค้าต้องการความหวานและความชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ
“ตามใจ
ตอนแรกฉันคิดว่าจะอยู่รอเธอสักวันสองวัน แต่เปลี่ยนใจแล้วฉันจะกลับพรุ่งนี้เลยแล้วกัน”
บาสเตียนพูดไม่เชิงห้วนจัด
จากนั้นทั้งสองคนนั่งกินอาหารต่อไปเงียบๆ แต่ไม่ถึงกับอึดอัด
บาสเตียนสอบถามเกี่ยวกับเรื่องอาหารไทย และเงยหน้าขึ้นมาสบตากันเป็นบางครั้ง ต่างฝ่ายต่างรักษากิริยาอาการวางเฉยไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำให้ถูกจับได้ว่า
ฝ่ายตรงข้ามมีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขา
กระทั่งกินอิ่มบาสเตียนเป็นฝ่ายลุกขึ้นไปก่อน
เวลานี้เขากึ่งนั่งกึ่งนอนเอกเขนกดูรายการทีวีอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่
ข้างกายมีบรั่นดีขวดเดิมที่เหลือไม่ถึงครึ่งขวดตั้งอยู่
อัญนิกาเดินตามมายืนอยู่ตรงปลายเท้าของเขา
รู้สึกผิดหวังที่แผนของเธอไม่สำเร็จ บาสเตียนไม่แคร์เธอเลย “ฉันจะเข้านอนแล้วนะคะ
บาสเตียน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
“เดี๋ยวสิ
พิ้งกี้ นั่งคุยกันก่อน อย่าบอกนะว่าเธอใส่ชุดนี้เพื่อจะเขานอน”
เขาพูดล้อเลียนแล้วถือโอกาสมองสำรวจเรียวขาสลักเสลาภายใต้กระโปรงบานสีแดงตัวสั้นเลยไปถึงปลายเท้าเปลือยเรียวเล็ก
ก่อนจะไล่สายตากลับขึ้นมาถึงเรียวขาที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าให้ความรู้สึกดีมาก
เมื่อมันโอบรัดสะโพกของเขา ความคิดนี้ทำให้เขาเริ่มตื่นตัว เป้ากางเกงเริ่มตึงและเขาไม่พยายามปกปิด
เธอคงสังเกตเห็นจึงเดินหนีไปนั่งบนเก้าอี้นวมหันข้างให้เขา
“คุณอยากคุยอะไรกับฉันหรือคะ”
เธอถาม แสร้งเบนสายตาไปที่จอทีวี
“เรามีอะไรต้องคุยกันไหมพิ้งกี้”
เขาเปรยขึ้น นอนตะแคงเอียงหน้าไปหาเธอ
หญิงสาวหันมาฝืนยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กเป็นระเบียบ
“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอกค่ะบาสเตียน สบายใจได้เลย ฉันรู้จักคุณดี
และฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไร”
“เธอไม่เสียใจใช่ไหม”
เขาเลิกคิ้วสูงราวกับเขาหูฝาดที่ได้ยินแบบนั้น เธอไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ
ไม่รู้สึกเป็นเจ้าของเขาด้วยใช่ไหม ความคิดเหล่านั้นมันทำให้เขาหงุดหงิด ชายหนุ่มขบกรามจนเป็นสัน
“ค่ะ
ฉันไม่เสียใจ จริงๆ แล้วฉันอยากขอบคุณด้วยซ้ำ มีคนเคยบอกว่าประสบการณ์เรื่องเซ็กส์ครั้งแรก
ควรให้ผู้ชายที่มีประสบการณ์สูงเป็นคนสอน คุณไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยค่ะ บาสเตียน
ต่อไปฉันคงไม่เงอะงะและแฟนของฉันคงพอใจ” นอกจากแสร้งไม่ยี่หระความสาวที่สูญเสียให้กับเขาเป็นคนแรกหญิงสาวทำตาชวนฝันถึงชายหนุ่มคนต่อไปจนน่าหมั่นไส้
“ให้ตายสิ
เธอพูดเรื่องบ้าอะไร” บาสเตียนผุดขึ้นนั่ง สีหน้าขึ้งเคียดกำมือแน่น พระเจ้า
เขากลายเป็นคู่ซ้อมเล่นๆ ของเธอไปได้อย่างไร
“ประสบการณ์เรื่องเซ็กส์ไงคะ”
เธอตอบเสียงดังฟังชัด
“อ๋อ
ถ้าเรื่องนั้นเธอยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอหรอก พิ้งกี้
และเธอต้องการเรียนรู้เพิ่มอีก” ชายหนุ่มพูดประชด ลุกขึ้นเดินตึงๆ ไปในห้องนอนที่ใช้ร่วมกัน
ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เดินออกมาแต่เลี้ยวไปทางโต๊ะอาหาร เขาเดินกลับมาตรงมุมสำหรับนั่งพักผ่อนอีกครั้งพร้อมกับขวดน้ำผึ้ง
และคอนดอมหนึ่งกล่องโยนลงบนโซฟา
ดวงตาอัญนิกาเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น
เธอไม่ได้สงสัยว่าเขาจะทำอะไร แต่เธอกำลังสงสัยว่าที่เขาหงุดหงิด เป็นเพราะเขาเสียความมั่นใจใช่ไหม
หลังจากที่เธอแสร้งทำเป็นไม่แคร์ ความคิดนั้นทำให้เธอรู้สึกดี อย่างน้อยเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาหันหลังให้ทันทีเมื่อเสร็จกิจในครั้งแรก
“ลุกขึ้นมาสิ”
เขาเดินเข้ามาหาแล้วดึงไหล่ให้เธอลุกขึ้นยืน
ถือโอกาสถอดเสื้อยืดของเธอออกอย่างถือวิสาสะและกำลังจะปลดตะขอกระโปรงของเธอ
“ดะ...
เดี๋ยวค่ะบาสเตียน ฉันคิดว่าฉันได้ประสบการณ์มาเพียงพอแล้ว”
หญิงสาวยกมือห้ามพูดเสียงตะกุกตะกักขาดห้วง
รู้สึกว่าแผนของเธอกำลังจะทำให้ตนเองตกที่นั่งลำบาก
“ที่เธอเรียนรู้ไปนั่นเป็นแค่ผู้รับ
ถ้าเธออยากให้ผู้ชายของเธอประทับใจ เธอต้องเรียนรู้การเป็นผู้ให้ด้วย หวานใจ” เขาพูดล้อเลียนเสียงเย้ยหยัน
ถึงตอนนั้นกระโปรงแดงเซ็กซี่ของเธอก็หลุดลงไปกองอยู่รอบปลายเท้ารอให้เธอก้าวขาออกไป
บาสเตียนดึงเสื้อยืดของตัวเองออกเหวี่ยงทิ้งไป
ดันตัวเธอเดินไปที่โซฟาตัวใหญ่แล้วผลักให้นั่งลงพิงพนักโซฟา
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นขวดน้ำผึ้งที่เขาถืออยู่ในมือ
เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาจะทำอะไรกับร่างกายเธอ เพียงแค่คิดร่างกายเธอก็สั่นสะท้าน
“เอ่อ...
ฉันคิดว่าฉันไม่ต้องการเรียนรู้เพิ่มแล้ว ฉันมีประสบการณ์มากพอแล้วค่ะ บาสเตียน”
“ยังไม่มากพอหรอก
ไหนๆ เธอก็ไว้ใจฉันแล้ว จงเป็นนักเรียนที่ดีเถอะ พิ้งกี้ ทำตัวให้ว่านอนสอนง่าย ฉันจะถวายหัวสอนเธอให้เก่งภายในคืนเดียว”
พูดจบเขาเอื้อมมือรวบผมเธอดึงเกือบเป็นกระชากไปข้างหลังให้เธอเงยหน้าขึ้น
แล้วหยดน้ำผึ้งราดลงบนเรียวปากเธอจนชุ่มฉ่ำ ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมานั่งคร่อมทับสะโพกเธอไว้
“บาสเตียน
คุณจะทำอะไรคะ มันเลอะเทอะไปหมดแล้ว”
หญิงสาวยกมือจะเช็ดปากแต่ถูกเขาตรึงมือสองข้างไว้
เขาละสายตาจากใบหน้าเธอ
มองน้ำผึ้งฉ่ำเยิ้มที่กำลังไหลลงไปช้าๆ
แล้วกลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกวิ่งขึ้นวิ่งลงหลายรอบ
เขาฝันถึงน้ำผึ้งกับเรียวปากของเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เธอมาปรากฏตัวที่บ้านของเขา
วันนี้สมใจแล้วเพราะเธอเป็นคนเปิดโอกาส แต่อย่าฝันหวานไปหน่อยเลยว่าเธอจะได้ไปใช้ประสบการณ์เรื่องเซ็กส์กับชายอื่น
ถ้าเขายังมีลมหายใจอยู่ บาสเตียนเลียริมฝีปากตนเองอย่างเร้าใจ
“ฉันจะเช็ดให้เอง
หวานใจ” พูดจบเขาก็ก้มลงมาเลียไล้น้ำผึ้งหวานฉ่ำรอบปากเธออย่างเร้าอารมณ์จนหมดทุกหยาดหยด
แล้วรวบรวมน้ำผึ้งทั้งหมดไว้ปลายลิ้น “ให้ฉันป้อนเธอนะ พิ้งกี้”
เขาสอดลิ้นใส่ปากราวกับเธอเป็นลูกนกผู้หิวโหย
หลอกล่อให้ดูดดื่มน้ำผึ้งจากปลายลิ้นเขา “หวานไหม” เขาถามเสียงกระเส่า
สองมือสากนิดๆ เคล้าคลึงแก้มเธอเบาๆ
“หวานค่ะ”
“เธอชอบไหม”
“ชอบค่ะ
ฉันชอบน้ำผึ้ง” เธอพูดเมื่ออารมณ์พาไป หลังปากประกบปาก
ลิ้นพันลิ้นแบ่งปันความหวานให้แก่กันจนอิ่มเอม
“ฉันก็ชอบน้ำผึ้ง
โดยเฉพาะเมื่อมันอยู่ในปากของเธอ หน้าอกเธอและ...”
เขามองต่ำลงไปที่บิกินีตัวน้อยด้วยสายตาซุกซนจนเธอผวา มันจะต้องที่นั่นด้วยหรือ
แล้วที่เขาจะสอนให้เธอเป็นผู้ให้ มัน... มันจะต้องที่นั่น... ของเขาด้วยใช่ไหม
ขณะที่เธอมัวแต่ครุ่นคิดรู้ตัวอีกทีปลายยอดถันของเธอก็เย็นวาบ
ถูกของเหลวเหนียวหยดใส่ เสื้อยกทรงเธอหลุดไปตอนไหนแทบไม่ทันรู้ตัว
กายสาวสั่นสะท้านอย่างรอคอย
เมื่อเขาประทับริมฝีปากลงบนยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก
ไล้เลียดูดกลืนหยาดน้ำผึ้งอย่างหิวโหย เธอหลับตาพริ้มคร่ำครวญอย่างมีความสุข
เมื่อความเสียวซ่านแผ่กระจายจากยอดถันไปทั่วทรวงอก และพุ่งทะยานลงไปกลางเรียวขาของเธอ
“เธอหวานเหลือเกิน
หวานใจ” เขาพูดงึมงำ เลื่อนตัวลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ แยกขาเธอออกกว้าง
สองมือแกร่งรวบสะโพกกลมกลึงของเธอดึงไปข้างหน้าจัดท่าให้นั่งหมิ่นเหม่อยู่บนขอบด้านนอกของโซฟา
“บาสเตียนคะ
ฉันคิดว่า...” เธอเลียริมฝีปากที่ยังมีรสหวานของน้ำผึ้งอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี
อยากหนีบขาแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เขาแยกหัวเข่าสองข้างของเธอไว้ด้วยข้อศอก
ขณะที่มือเขากำลังราดน้ำผึ้งเข้มข้นลงบนบิกินีบริเวณเนินเนื้อสามเหลี่ยม
เธอก้มมองดูมันไหลเยิ้มจนเสียวซ่านไปทั่วกาย
“อยู่เฉยๆ
เถอะ ตั้งใจดูฉันสาธิตให้ดี แล้วเธอจะต้องเป็นฝ่ายปฏิบัติบ้าง”
“อื้อ
บาสเตียน...” กายสาวกระตุกส่งเสียงครวญบาดใจ ปากของเขาดูดดื่มหนักหน่วง ขณะที่ลิ้นก็ปาดเลียน้ำผึ้งอย่างดุเดือดแทบชอนไชทะลุทะลวงเข้าไปในบิกินีเนื้อบางที่เปียกฉ่ำ
“นี่ยังไม่ใช่ของจริง
หวานใจ” เขาหงายหน้าขึ้นเพื่อรูดบิกินีตัวน้อยออกไปตามเรียวขาของเธอ
สบตาเธอแล้วก้มหน้าตามลงไปดูดดื่มความหวานรสน้ำผึ้งใจกลางกายสาว
อัญนิกาหอบหายใจแรง เนื้อตัวบิดเร่า
ศีรษะที่เอนไปพิงพนักโซฟาส่ายไปมาจนผมยุ่งเหยิง
“อ๊า...
อ๊า... บาสเตียน... บาสเตียน...” เสียงครวญครางหวิวไหวปานจะขาดใจ
เมื่อเธอถูกรุกรานด้วยปลายลิ้นแสนเร่าร้อน ที่ตวัดลูบไล้จุดอ่อนไหวขึ้นลงอย่างเร้ารัญจวน
สลับแทรกลึกลงไปเลียนแบบการร่วมรัก
ไม่ช้าไม่นานร่างกายเธอก็ระเบิดพราวสว่างไสวออกมาเป็นสีรุ้ง
ขณะที่บาสเตียนแทบอยากระเบิดตามเธอไปด้วย แต่เขารั้งไว้ด้วยความสามารถเฉพาะตัว
เขาสาธิตกลวิธีให้เธอมากพอแล้ว ถึงคราวที่นักเรียนสาวของเขาจะต้องลงมือปฏิบัติให้เขาดูบ้าง
เขามองไปที่ขวดน้ำผึ้งยังเหลืออยู่อีกครึ่งขวด
อดคิดอย่างขบขันไม่ได้ว่าเขาคงไม่ถูกโรคเบาหวานเล่นงานหรอกนะ
“ถึงตาเธอแล้วหวานใจ”
เขาโยกตัวขึ้นจุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่ออย่างอ่อนโยน
แล้วทิ้งตัวลงนั่งดึงร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเพื่อให้เวลาเธอ
เขารู้ว่าเธอยังต้องใช้เวลาเพื่อทำใจ
“ฉันต้องทำจริงๆ
หรือคะ” เธอพูดปนหอบสะท้านอยู่ในวงแขนของเขา
สายตาเบนไปยังความแข็งขึงตรงหน้าขาของเขาอย่างอดใจไม่ไหว
น้ำลายสออยู่ในปากจนต้องกลืนแรงๆ เจ้าสิ่งนั้นของเขาช่างน่าประทับใจ
มันขยายใหญ่เสียจนเธออยากครางออกมาดังๆ
“เธออยากได้ประสบการณ์ไม่ใช่หรือ”
เขาเริ่มนวดต้นคอปลุกเร้าเธอเงียบๆ แล้วลากนิ้วไปตามร่องอก พอใจที่มันชูชันตอบสนอง
เขาจูบขมับเธอแล้วอุ้มขึ้นมานั่งบนตักหันหน้าเข้าหากัน โอบเอวคอดกิ่วของเธอไว้
เริ่มจูบเธอก่อนแต่เขาทำเพียงประกบริมฝีปากกับปากเธอ หน้าที่ต่อจากนั้นนักเรียนหัวไวก็สานต่ออย่างไม่มีติดขัด
เธอประคองแก้มเขาไว้เอียงใบหน้าในองศาที่เหมาะเจาะ สอดลิ้นเล็กๆ เข้ามาพัวพัน
ดูดดึงลิ้นเขา ขณะที่มือเล็กๆ ของเธอลูบไล้เป็นวงกลมอยู่ที่กล้ามอก บดขยี้ตุ่มไตของเขาเล่นอย่างมันมือ
ทำเลียนแบบที่เขาทำกับเธอ
บาสเตียนครางฮือเมื่อเธอเปิดปากออก
ย่อกายลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือเล็กสั่นๆ
ประคองความเป็นชายของเขาไว้เต็มอุ้งมือนุ่มอย่างน่าสงสาร เขาเกือบสงสารแต่ก็ไม่
เขาอยากรู้ว่าเมื่อถูกน้ำผึ้งราดรดลงมาที่ความเป็นชายแข็งชันเขาจะรู้สึกอย่างไร
ทว่ายังไม่ทันโดนเขาก็ซ่านสยิวจนแทบทนไม่ไหว
เมื่อเห็นริมฝีปากชุ่มชื้นน่าสงสารของเธอขณะสบตาเขา
“ไม่ต้องพิ้งกี้”
เขาห้าม หยิบขวดน้ำผึ้งออกไปจากมือเธอ
อัญนิกาสูดลมหายใจเข้าลึก
กลืนน้ำลายเอื๊อกเธอไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
มือเล็กที่ประคองความแข็งชันของเขาไว้ก็เริ่มสั่น เธอยื่นหน้าลงไปใกล้ส่วนนั้นของเขาอย่างกล้าๆ
กลัวๆ หลับตาแล้วนึกถึงภาพแท่งไอศกรีมที่เคยไล้เลียตอนเป็นเด็ก
“อืมมม...”
บาสเตียนครางฮือบ่งบอกว่าแสนพอใจก่อนจะถึงวินาทีหวาดเสียวชวนหัวใจวายตาย
เมื่อริมฝีปากอิ่มอ้าครอบครองความแข็งชันของเขาไว้ลึกๆ ในปาก
ลิ้นน้อยเงอะงะของเธอทำให้เขาแทบคลั่ง เขาประคองใบหน้าเธอกำกับการรูดรั้งขึ้นลงอย่างที่ต้องการ
“โอ พระเจ้า ปากเธอแสนดีอะไรอย่างนี้ หวานใจ เธอกำลังจะทำให้ฉันคลั่ง โอ้วววว
ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
บาสเตียนฉุดเธอลุกขึ้นยืน
เขาใช้ปากฉีกซองดึงเกราะป้องกันมาสวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นสองมือแกร่งช้อนใต้สะโพก
ยกเธอขึ้นจนถึงยอดอก แล้วค่อยๆ
ปล่อยลงมาให้ร่างเธอไถลลึกเข้าไปตามความยาวแข็งชันที่กำลังเต้นตุบอย่างรุนแรง
อัญนิกาโอบรอบคอเขาไว้แน่น
ความปรารถนาวิ่งพล่านไปทั่วร่างเมื่อเขายกสะโพกเธอขึ้นๆ ลงๆ
กล้ามเนื้อเธอโอบรัดความแข็งชันที่เต้นตุบๆ อยู่ในกายเธอด้วยความยินดี
หญิงสาวครวญครางแล้วขบไหล่เขา เมื่อจังหวะการผลักออกและดันเข้ารุนแรงมากขึ้น
เธอแหงนศีรษะไปข้างหลังสะบัดผมพลิ้วกระจายพร้อมทั้งกรีดร้อง
เมื่อความสุขวิ่งวนมาจนสุดทางและบาสเตียนก็ตามมาติดๆ
ถึงตอนนั้นขาเขาเริ่มสั่นต้องปล่อยเธอลง ดึงเกราะป้องกันโยนใส่ถังขยะแถวนั้น
หญิงสาวยืนพิงอกกว้างแล้วพรมจูบทั่วร่างของเขา
พลางส่งเสียงครางด้วยความพึงพอใจ บาสเตียนซบหน้าแนบเรือนผมนุ่มหอมของเธอ
กอดเธอไว้นิ่งนาน
“ฉันจบหลักสูตรอย่างสวยงามแล้ว
ใช่ไหม” เธอฝืนยิ้มเมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาสีฟ้ากระจ่างของเขา
บาสเตียนไล้แก้มเธอเบาๆ
“ใช่ มันสวยงามมากหวานใจ มากกว่าทุกครั้งเท่าที่ฉันจำมันได้
แต่เธอยังเรียนไม่จบหรอก พิ้งกี้ ไม่มีวันจบ”
เขายิ้มเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก้มลงมาจูบเธอเร็วๆ
“แต่ฉันจะไม่เรียนกับคุณอีกแล้วค่ะ
ราตรีสวัสดิ์” เธอยิ้มเหมือนพูดเล่น แต่นั่นคือความจริงที่พูดออกมาจากหัวใจ
และเขาไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเธอรู้สึกลึกซึ้งต่อเขามากแค่ไหน
บาสเตียนอึ้งไม่พูดอะไร
เขายืนมองเมื่อเธอหันหลังผละไป แต่เขาก็ปล่อยให้เธอเดินไปแค่สามก้าว ก่อนจะคว้าคอนดอมที่เหลือติดมือเดินตามไปยืนข้างเตียงของเธอ
รอยยิ้มเต็มไปด้วยตัณหาของเขาผุดพรายเต็มใบหน้า
“เธอยังเรียนไม่จบหลักสูตรหรอก
พิ้งกี้ เธอต้องรู้กลวิธีอีกมากมาย”
พูดจบเขากดเข่าลงมาบนเตียง
แทรกเข้ามาตรงกลางเมื่อแยกเรียวขาเธอกว้างออก เขาก้มหน้าลงมาแนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากเธอ
ปลายจมูกชนกันขณะที่มือกอบกุมอยู่ที่ทรวงอกอวบอิ่มที่กำลังตื่นขยายตัวสู้มือหยาบนิดๆ
ของเขา
“ไม่ค่ะบาสเตียน
ฉันเหนื่อย” ปากก็พูดไปอย่างนั้น มีเสียงหัวเราะเยาะสะท้อนออกมาจากภายใน
“อีกครั้งนะ
พิ้งกี้” เขาวิงวอน ดวงตาสีฟ้าคาดหวัง เสียงเขาเว้าวอนอย่างสุภาพไม่ใช่บังคับ
นี่แหละมันคือหายนะสำหรับเธอ แล้วพอริมฝีปากเร้าอารมณ์เลื่อนลงมาจากริมฝีปากอิ่ม
ครอบครองเต้าทรวงเครียดครัดอย่างเย้ายวน หลอกล่อให้หลงใหล
เสียงปฏิเสธก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางแผ่วเบา กายสาวหยัดขึ้นเสียดสีกับร่างแกร่งทรงพลังที่ทำให้เธอเร่าร้อนไปทุกอณู
เวลาต่อมาเขาพลิกเธอนอนคว่ำ
ยกสะโพกเธอลอยขึ้นมาติดกับหน้าขาของเขา มือใหญ่ตีก้นเธอเบาๆ
ขณะเขากำลังสวมเกราะป้องกันอันใหม่ก่อนจะ พุ่งโผนเข้าหาเธอจนสุดตัว
เขาเคลื่อนไหวช้าๆ เป็นจังหวะ อัญนิกายอมรับความอ่อนโยนที่เขามอบให้อย่างละโมบจนน่าตกใจ
สิ่งที่เขาวอนขอไม่ใช่อีกครั้ง แต่มันเป็นสองครั้งไม่นับรวมครั้งก่อนนั้น
จนเธอหมดแรงผล็อยหลับใต้ร่างอบอุ่นของเขาในครั้งสุดท้าย
อย่าพลาด
|
ความคิดเห็น