คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 13 เรารักกันมาก3
ตอนที่
13
เรารักกันมาก3
หลังจากเงียบงันไปอึดใจฟงชินหยางพลันได้สติก่อนหลิงเวยจึงเอ่ยออกมาพร้อมยกยิ้มตรงมุมปากพาเอาใบหน้าคมเข้มสว่างไสว
“เจ้าคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปพักผ่อนดีหรือไม่”
ชายหนุ่มกล่าวกับภรรยาคนงามข้างกายอย่างเป็นห่วงเป็นใยเหลือเกิน เขาต้องพานางออกไปจากอันตรายตรงหน้า
ภรรยาของเขาช่างโง่งม
“เอ่อ...” หลิงเวยเริ่มอึกอัก นางไม่อยากเข้าเรือนไปกับสามีผู้ดุร้าย นางอยากอยู่ตรงนี้กับทุกคนในครอบครัว แต่ว่านางกำลังทำพลาดไป อยากร้องไห้เสียจริง
หญิงสาวเริ่มสบสนกับตนเอง นางมิรู้ว่าต้องทำอย่างไร จึงทำได้แค่เพียงเงยหน้าขึ้นมองคนตัวใหญ่พลางเม้มริมฝีปากแน่นๆ กะพริบตาปริบๆ คล้ายกับนักโทษต้องอาญาถูกนายเหนือหัวตัดสินโทษทัณฑ์แล้วต้องถูกเพชฌฆาตตรงหน้านำตัวไปประหาร
ฟงชินหยางก้มมองนางตรงหน้าด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย นางกำลังทำหน้าตาอย่างนี้ นางกำลังทำมารยาร้ายกาจใส่เขาอีกแล้ว
ชายหนุ่มคิดในใจได้อย่างนั้นจึงไม่ต้องการมองใบหน้าของนางในยามนี้อีกต่อไป เขาจึงดึงเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่เขาสวมใส่เอาไว้ด้านนอกให้ปกคลุมนางตั้งแต่ศีรษะลงไปแล้วดึงนางเข้ามาให้ใบหน้าฝังในแผงอกของเขาและใช้ฝ่ามือใหญ่หนาอีกข้างจับกดศีรษะนางเอาไว้จนจมมิดกับหน้าอกของตนเสียเลย
แค่นี้ก็ไม่มีใครมองเห็นมารยานางได้แล้ว
“...!”
หลิงเวยถึงกับชะงักนิ่งหายใจไม่ออกในฉับพลัน
สามีนางโหดยิ่งนัก!
ทุกคนในศาลาถึงกับนิ่งงันไม่ต่างกันเมื่อฟงชินหยางดึงภรรยาให้หน้าทิ่มเข้าไปในแผงอกตามด้วยดึงเสื้อเอามาคลุมนางเอาไว้จนมิดคล้ายพญาเหยี่ยวกางปีกปกป้องนกพิราบกระนั้น
ในฤดูกาลนี้อากาศช่างหนาวเย็นทุกคนมักใส่เสื้อผ้าหลายชั้นและมีเสื้อตัวนอกสุดที่เป็นเสื้อคลุมตัวใหญ่
แต่เสื้อคลุมสำหรับท่านแม่ทัพนั้นมิใช่แค่เพียงป้องกันอากาศหนาวเย็นแต่ใช้เป็นเกราะกำบังเหล่าศัตรูได้อีกด้วย
ฟงชินหยางก้มหน้าของตนลงไปในเสื้อคลุมกระซิบกระซาบดุดันชิดใบหน้านางในอ้อมแขน “กลับเรือนกัน”
หลิงเวยเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาจนปลายจมูกชนกันอยู่ในเสื้อคลุมพลางส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่กลับได้หรือไม่”
“ไม่ได้”
“ข้าอยากคุยกับทุกคนอีกครู่ได้หรือไม่”
“ไม่ได้”
“แต่ว่า...”
“เดี๋ยวนี้”
ทั้งแววตาทั้งน้ำเสียงของสามีช่างเข้มข้นจนนางผู้เป็นภรรยาต้องส่ายหน้าไปมาอย่างหนักแน่น
ทั้งสองกระซิบกระซาบภายในเสื้อคลุมตัวใหญ่ คนหนึ่งก้มหน้าคนหนึ่งเงยหน้าเห็นเพียงศีรษะขยับไปมาคล้ายกับว่ากำลังจูบกันกระนั้น
ทุกคนในศาลายิ่งตะลึงงันกับคู่ข้าวใหม่ปลามันตรงหน้า
จะรักกันเกินไปแล้ว...
ฟงจินหมิงถึงกับอิจฉานัยน์ร้อนผ่าว
ไม่เพียงคนในครอบครัวตระกูลฟงที่กำลังยืนมองภาพของคู่รักในศาลาที่กำลังแสดงความรักกันอย่างนั้น เหล่าทหารห้านายที่กำลังตามหลังพ่อบ้านจินมาก็ได้มองเห็นภาพนั้นไม่แตกต่างกัน
นับว่าเป็นบุญตายิ่งแล้วที่ได้เห็นภาพของท่านแม่ทัพผู้โหดเหี้ยมเคร่งขรึมดุดันกำลังแสดงความรักกับภรรยาของตน
พ่อบ้านจินเดินนำเหล่าทหารทั้งหลายที่บอกกล่าวแก่เขาว่าต้องการนำรายงานมามอบให้คุณชายใหญ่เพียงส่งเสียงออกไปด้วยอาการขัดเขิน “เอ่อ...คุณชายใหญ่ขอรับ”
ฟงชินหยางจึงเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินแต่ยังคงจับกดศีรษะของคนตัวเล็กให้ใบหน้ามุดเข้าไปในเสื้อคลุมตรงแผงอกของตนอยู่อย่างนั้น
“มีอะไร?” เขาถามเสียงเข้ม
“ทหารพวกนี้นำรายงานมาส่งขอรับ” พ่อบ้านจินรีบกล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปด้วยไม่ชินกับการที่ใครบางคนมีเมีย
อาซิ่นกับอาตู้รีบทำความเคารพไปทางอดีตท่านแม่ทัพใหญ่ ฟงฮูหยินและท่านแม่ทัพของตน ซือซือและอี้ผิงก็รีบทำความเคารพเช่นเดียวกัน
อวี้ถิงที่บัดนี้วิญญาณยังมิทันได้กลับเข้าร่างพลันถูกเปลวไฟแห่งความริษยาเข้ามอดไหม้ในฉับพลัน แต่ทว่านางทำได้แค่เพียงยืนนิ่งงันแข็งค้าง
สตรีที่ต้องอยู่ในเสื้อคลุมและแผงอกอุ่นนั่นควรจะเป็นนาง ต้องเป็นนางเท่านั้น อวี้ถิงได้แต่คิดอยู่ในใจแต่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ในเมื่อแผนการของนางมันล้มเหลวไม่เป็นท่าและท่านแม่ทัพก็ไม่เคยแลนาง ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ
“หยางเอ๋อร์ปล่อยเวยเอ๋อร์ก่อนดีหรือไม่” ซินหรูรีบเตือนสติบุตรชายเมื่อเห็นว่าหลิงเวยคล้ายจมเข้าไปในแผงอกจนจะสิงเข้าไปในร่างกันอย่างนั้น
ฟงชินหยางจึงหรี่ตามองนางในอ้อมแขนพร้อมกระซิบกระซาบเสียงลอดไรฟัน “กลับไปรอข้าที่เรือน”
“ไม่เอา” หลิงเวยยังคงมีจุดยืน นางเข้มแข็งมากในเรื่องนี้
ชายหนุ่มยิ่งนึกเข่นเขี้ยว เขาพอจะดูออกว่านางต้องการทำมารยาใส่คนในครอบครัวของเขา ฮึ! ไม่มีทาง
“ไม่กลับใช่หรือไม่”
หลิงเวยพยักหน้าน้อยๆ พยายามมองสู้สายตามืดดำของเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เช่นนั้นก็อยู่กับข้า ห้ามห่าง นี่คือคำสั่ง!”
“...”
จบคำจึงยอมปล่อยหลิงเวยออกจากอ้อมแขนแต่ยังคงปรายสายตาคมดุเข้าฟาดฟันตรึงนางเอาไว้แน่น
“นี่ก็ใกล้มื้อเย็นแล้ว แม่ขอตัวไปดูในโรงครัวเสียหน่อย” ซินหรูเอ่ยขึ้นพลางหมุนตัวเดินไปกับฟงซือหลางสามีของตน
หลิงเวยเห็นอย่างนั้นจึงทำท่าจะผละไปเพื่อเดินตามหลังแม่สามีแต่กลับถูกฝ่ามือใหญ่หนาโอบจับกระชับเอวเอาไว้แน่น
ฟงลี่หลินได้แต่มองพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ตาปริบๆ ในขณะที่ฟงจินหมิงนึกอิจฉาขึ้นทุกที
“พวกเจ้าอยู่ทานมื้อเย็นก่อนกลับแล้วกัน” ฟงซือหลางเอ่ยมาทางเหล่าลูกน้องทหารนอกศาลาก่อนเดินจากไปกับฮูหยิน ของตนพาเอาอาซิ่นและอาตู้แทบโบยบิน
อวี้ถิงรีบเรียกวิญญาณของตนให้กลับเข้าร่างพลางยืนจ้องนิ่งที่คู่รักในศาลา “ท่านแม่ทัพของข้า” นางเอ่ยเสียงเบาลอดไรฟันพร้อมกับถลาร่างออกมาจากกลุ่มทำเอาซือซือและอี้ผิงต้องรีบจับตรึงเอาไว้แน่น
“ใจเย็นอวี้ถิง” สหายสาวทั้งสองกระซิบกระซาบเสียงดุทั้งจับแขนทั้งจับขาของสหายผู้คลั่งรักเอาไว้มั่น
ใครกันบอกว่าท่านแม่ทัพมิได้รักภรรยา แล้วที่เห็นนี่คืออันใด?
ฟงชินหยางยืนมองเหล่าลูกน้องของตนด้วยมาดองอาจทรงอำนาจเฉกเช่นปกติ เขากวาดสายตาคมกริบมองนายทหารตรงหน้าทีละคนตามวิสัยเช่นเดียวกับยามฝึกทหารในค่ายเฉกเช่นเหมือนดังเคย แต่แล้วสายตาคมเข้มพลันต้องชะงักเมื่อมองเห็นสตรีนางหนึ่ง
สตรีผู้ถูกสายตาคมกล้าของท่านแม่ทัพจับจ้องนิ่งคือ อวี้ถิงนั่นเอง นางถึงกับจ้องตอบสบสายตาคมนั่นอย่างตื่นตะลึงดวงตาพลันสาดประกายวิบวาบทอแสงเจิดจ้า
สองชายหญิงหนึ่งในศาลากับหนึ่งนอกศาลายืนสบตากันนิ่งนานอยู่อย่างนั้น
หลิงเวยสังเกตได้ในฉับพลันนางจึงยืนนิ่งยิ่งกว่าเดิม
ไม่แน่ว่าสตรีนางนั้นอาจจะเป็นคนรักของเขา เช่นนั้นนางควรทำอย่างไร หญิงสาวคิดอย่างนั้นพลางมองคนข้างกายอย่างตกตะลึงระคนหวั่นไหวบางเบา
“พวกเจ้าเดินไปรอข้าที่ห้องทำงาน” ฟงชินหยางเอ่ยเสียงราบเรียบด้วยมาดเรียบนิ่งไปทางเหล่าลูกน้องทหารแต่ยังคงจ้องค้างอยู่ที่สตรีนางหนึ่งไม่วางตา
เหล่าลูกน้องทหารพากันเดินไปยังทิศทางห้องทำงานของแม่ทัพฟงอย่างรู้ตำแหน่งภายในจวน ในขณะที่อวี้ถิงยังคงจ้องมองสบสายตากับฟงชินหยางด้วยสายตานุ่มลึกทอประกาย
นางมีแผนการที่เข้ามายังจวนแห่งนี้ นางคิดจะชักชวนท่านแม่ทัพดื่มสุราในเย็นย่ำแล้วหาโอกาสเหมาะๆ ยั่วยวนเขา ใกล้ชิดเขา แตะเนื้อต้องตัวกับเขาต่อหน้าภรรยาและต่อหน้าทุกคนในครอบครัวของเขา
นางจะให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่นางต้องการให้ทุกคนเห็น นางจะให้ภรรยาของเขาเข้าใจผิดจนต้องช้ำใจตรอมตรมและเขาจักต้องรับผิดชอบนางให้นางได้เข้าจวน
นางจะเริ่มต้นด้วยการเป็นอนุและต่อไปก็เป็นเมียหนึ่งเดียว หึหึ!
อวี้ถิงคิดการได้อย่างนั้นจึงไม่มีรีรอ
นางรีบส่งยิ้มตอบกลับให้ฟงชินหยางอย่างมีความหมายเผยความนัยรักใคร่มากมายแล้วปรายสายตามองสตรีข้างกายของเขาอย่างเย้ยหยันซ่อนเล่ห์พาเอาหลิงเวยถึงกับใจกระตุกวูบวาบร้อนผะผ่าวแปลกประหลาดอยู่ในอก
ฟงชินหยางยืนจ้องมองอวี้ถิงที่กำลังเดินไปกับเหล่าทหารด้วยสายตาคมปลาบยากเข้าใจ เขายังคงจ้องนิ่งมองตามอวี้ถิง อยู่อย่างนั้น
หลิงเวยได้แต่ยืนมองเขาด้วยความรู้สึกขมลึกอยู่ในลำคอ
“เจ้ากลับไปรอข้าที่เรือน...” ชายหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยสั่งการหญิงสาวผู้เป็นภรรยาข้างกายเสียงเย็นก่อนจะพาเรือนร่างสูงใหญ่เดินออกจากศาลาตามกลุ่มลูกน้องของตนไป เขาเดินตามสตรีนางนั้นไป
ครานี้หลิงเวยไม่กล้าปฏิเสธ นางกำลังรู้สึกกลัวบางสิ่ง นางยังไม่พร้อมเดินออกจากจวนแสนสุขแห่งนี้ไป นางไม่อยากกลับเข้าจวนตระกูลหลิง
หญิงสาวคิดแบบนั้นอย่างคนหมดแสงแห่งชีวิตพลางเดินคอตกไปตามทางหินอ่อนระหว่างศาลาริมสระบัวกับเรือนหอของตนที่ผ่านพ้นแค่เพียงข้ามคืน
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับ E-Book คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
|
|
|
ความคิดเห็น