ตอนที่ 5 : บท 5
ภายในห้องทำงานเก่าของนายโชค นิรชรกนก ที่บัดนี้ได้เปลี่ยนมือสู่ประธานบริษัทคนใหม่
ภรรยาของอดีตประธานบริษัทมีโชคกัดฟันกรอดๆ สีหน้าบึ้งตึงไม่ต่างจากยักษ์ขมูขี หลังจากรับฟังรายงานพฤติกรรมของน่านฟ้าจากมัศยา “ฉันจะทำยังไงกับอีตาบ้านี่ดีนะ มันเป็นเวรเป็นกรรมของฉันหรือยังไง ที่ต้องมาพัวพันกับคนพรรค์นี้ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน”
“เอ่อ ตอนนี้หยีกับต๋องกำลังตามหาตัวอยู่ค่ะ น่าจะไปซ่อนตัวที่ไหนสักแห่งในโรงงาน” มัศยารายงาน
นางวิภาถอนหายใจดังพรืด “แล้วเธอเฝ้านายน่านภาษาอะไร ทำไมปล่อยให้เขารอดสายตาไปได้”
มัศยาหน้าเจื่อน “หยีขอโทษค่ะ หยีจะไปตามตัวเขาให้เจอค่ะ”
“แล้วอย่าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยๆ นะ” หญิงสูงวัยสั่งเสียงเข้ม
“แต่จะโทษพนักงานฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะครับพี่วิ การรับมือนายน่านไม่ใช่เรื่องง่าย” นายสุกิจแย้งขึ้น
“ฉันรู้น่า แต่ฉันแค่อยากให้หยีคุมเข้มนายน่านมากกว่านี้ เพราะเราต่างก็รู้กันว่าเขาหาเรื่องปวดหัวให้เราได้มากแค่ไหน”
“ไม่ต้องห่วงค่ะท่าน หยีจะไม่ให้คุณน่านรอดสายตาไปง่ายๆ อีก”
“ดี ทำหน้าที่ของเธอให้เต็มที่ ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อีกหน่อยอนาคตของบริษัทมีโชคต้องตกอยู่ในมือของเขา อนาคตของพวกเราขึ้นอยู่กับนายน่าน”
“ค่ะ หยีจะเข้าใจ หยีจะทำหน้าที่ให้ดีและเต็มที่ที่สุด หยีสัญญาค่ะ” มัศยารับปากอย่างหนักแน่น ก่อนจะขอตัวออกไปตามหาน่านฟ้าต่อ
“พี่วิครับ” นายสุกิจเอ่ยเรียกหญิงสูงวัย หลังจากมัศยาหายออกไปจากห้อง
“ว่าไง”
“พี่แน่ใจหรือครับว่า...นายน่านดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมีโชคได้จริงๆ ”
ความเคร่งเครียดฉายชัดบนดวงหน้าของนางวิภา “ตอนนี้ฉันก็ยังไม่แน่ใจหรอก แต่ฉันไม่มีทางเลือก แกก็รู้ ตอนนี้น่านคือทายาทคนเดียวของนิรชรกนก และคุณโชคก็ขอร้องฉันไว้ก่อนตาย”
“ผมเข้าใจครับ แต่...การวางอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคไว้ในมือคนอย่างนายน่าน ผมกลัวว่ามันจะ...ไปไม่รอด” ชายวัยกลางคนมีสีหน้าหนักใจ
คิ้วที่ผ่านการสักหกมิติจนโก่งเรียวราวกับคันธนูของนางวิภาพุ่งเข้าหากัน “นี่ไง ฉันถึงให้มัศยาทำหน้าที่ดูแล สอนงาน และคุมพฤติกรรมของนายน่าน”
“แต่ผมอยากให้พี่ลองทบทวนการตัดสินใจอีกที แล้วที่ผมทักท้วงแบบนี้เพราะผมห่วงอนาคตของข้าวเกรียบมีโชค”
“ฉันรู้ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว และฉันคงจะไม่เปลี่ยนใจ แต่ฉันรับปากว่า ฉันจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนายน่านให้ได้” แม้จะรับปากไปเช่นนั้น แต่ก็ใช่ว่านางจะแน่ใจนักว่าจะทำตามที่ประกาศไว้ได้ ความหนักอึ้งในอกก่อกวนจิตใจอีกครั้ง
“แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะครับ”
“มันต้องสำเร็จ”
นายสุกิจถอนหายใจเบาๆ “แต่ผมห่วงอนาคตของข้าวเกรียบมีโชคเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป”
“บางทีมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แกคิดก็ได้”
“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พี่วิคิดทบทวนอีกครั้งเรื่องตำแหน่งประธานบริษัท นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เด็กอมมือที่ไหนจะมาเป็นได้ พี่วิน่าจะเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากพอจะรับมือได้”
“ไม่ว่านายน่านจะเป็นยังไง แต่เขาคือคนเดียวที่จะมารับตำแหน่งนี้” นางวิภายืนกราน
“เพียงเพราะเป็นคำขอสุดท้ายของพี่โชคงั้นหรือครับ”
“ใช่ แล้วนายน่านก็เป็นสายเลือดคนเดียวของคุณโชคที่เหลืออยู่ในตอนนี้ และคนที่จะสานต่อธุรกิจข้าวเกรียบมีโชค คือทายาทของคุณโชคเท่านั้น”
“ทั้งๆ ที่นายน่านเป็นลูกจากเมียอีกคนของคุณโชคงั้นหรือครับ”
หญิงสูงวัยหน้านิ่วอย่างไม่ชอบใจนัก เรื่องนี้ยังคงยอกแสยงใจกันเสมอมา แต่สุดท้ายนางก็รักและเทิดทูนสามี แม้ว่าเขาจะเคยทำให้นางต้องเจ็บช้ำใจ “ใช่ แต่ฉันบอกแล้วไงว่าเขาคือทายาทคนเดียวที่เหลือของคุณโชค”
“พี่ไม่กลัวว่านายน่านจะเป็นหอกข้างแคร่พี่บ้างหรือครับ”
“หอกข้างแคร่อะไรของแก” นางวิภายังหน้านิ่ว
“ก็...พี่อย่าลืมนะครับว่านายน่านไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของพี่แท้ๆ ”
“ทำไมแกคิดว่านายน่านมันจะฮุบบริษัทนี้หรือไง”
“อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรือครับ” นายสุกิจตอบ
“ก็จริง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้านายน่านไม่ได้ห่วยแตก ไม่เอาไหน ลอยไปลอยมาทั้งวันแบบนี้ บอกตามตามตรง ฉันกลัวมันทำบริษัทเจ๊งมากกว่าจะมาฮุบบริษัทนี้ซะอีก รู้มั้ยตอนนี้ฉันไหว้พระทุกวัน ให้มันได้สำนึก กลับเนื้อกลับตัว เลิกทำตัวเหลวไหลซะที”
“แต่ผมว่า...”
“พอล่ะ ฉันขี้เกียจคุยเรื่องนี้แล้ว” นางวิภายกมือขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงห้าม “ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนใจ แกมีงานอะไรก็ไปทำซะ ฉันจะรออยู่ในห้องนี้จนกว่าหยีจะตามไอ้ตัวแสบมาได้”
สีหน้าท่าทางของนายสุกิจฟ้องว่ายังไม่ค่อยอยากจบบทสนทนานี้นัก แต่สุดท้ายเขาก็หันเดินออกไปจากห้อง
เมื่ออยู่เพียงลำพัง นายหญิงใหญ่แห่งอาณาจักรมีโชคก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ สีหน้าท่าทางอ่อนล้า ผิดแผกไปจากมาดเข้มงวดและกร้าวแกร่งที่เห็นจนชินตา
“คุณคะ ช่วยดลบันดาลใจให้ไอ้ลูกเฮงกะบ๊วยของคุณมันมีสำนึกซะที ถ้ามันไม่ช่วยตัวเองบ้าง ฉันก็ไม่รู้จะมีเรี่ยวแรงเข็นมันไปได้สักกี่น้ำ” นางวิภารำพันอย่างอ่อนล้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

23 ความคิดเห็น
-
#18 Jnong_ma (จากตอนที่ 5)วันที่ 22 มิถุนายน 2561 / 19:23แม่เลี้ยงแบบนี้หายาก#180