ลำดับตอนที่ #49
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่12
เมื่อทำลายกระบวนท่าพญาหงส์ของลุงจางลงได้จนหมดแล้ว ก็ถึงคราวทางนี้จะตีโต้คืนกลับไปบ้าง ผมรวบรวมสมาธิสร้างกระแสลมหมุนขึ้นในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างนั้นคือเปลวเพลิงอันร้อนแรง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการทำอิมเมจเทรนนิ่งกับพวกเจ็ดองค์รักษ์เมื่อก่อนหน้านี้ เพราะพลังขั้นสีแดงนั้นสามารถใช้ควบคุมบงการธาตุพื้นฐานได้ในระดับหนึ่ง หากตั้งจิตมั่นคงก็จะเรียกใช้ไฟ ลม วารีและพสุธาได้ดังใจนึกเลยทีเดียว
"ในอดีตเหล่าผู้กล้าทั้งหลายต่างปราชัยให้แก่กระบวนท่านี้มาแล้วนับไม่ถ้วน ไหนลองดูซิว่าเจ้าจะต้านทานได้สักแค่ไหน!"
น้องหมาดูจะภูมิใจกับวิชาเพลิงวายุนี้มาก ซึ่งก็ควรเป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อผมจับทั้งสองธาตุหลอมรวมกันจนก่อเกิดเป็นลมพายุร้อนที่โหมกระหน่ำเข้าใส่คู่ต่อสู้ในทันที แรงลมหมุนต่อเนื่องแทบจะขุดผิวดินของลานประลองให้เหวี่ยงกระจุยขึ้นกลางอากาศได้เลยทีเดียว
"ไม่เลวนี่จอมมาร! แบบนี้ค่อยคู่ควรที่ข้าจะเอาจริงหน่อย"
แม้ว่าแรงกดอากาศจากกระบวนท่าพายุเพลิงจะทำให้ลุงจางดูอึดอัดอยู่บ้าง แต่แกยังไว้ลายเจ้าสำนักด้วยการต้านรับลมพายุได้อย่างมั่นคงไม่สั่นไหว ตอนนี้จึงกลายเป็นศึกเล่นของใหญ่ว่าใครจะยิงพลังได้แรงกว่ากันไปแล้ว กระนั้นผมก็รับรู้ถึงความจริงบางอย่างที่ว่าแม้พลังเต็มขั้นของเจ้าสำนักมังกรทองก็ยังไม่อาจเทียบชั้นวิชาของจอมมารได้เลย เพราะตัวผมนี่ยังใช้ได้แค่ถึงขั้นที่สามเองด้วยซ้ำ แต่ก็รับมืออีกฝ่ายได้อย่างไม่รู้สึกตกเป็นรองอะไรเท่าไหร่นัก
"ประมุขจาง ในเมื่อผลการประลองมันปรากฎชัดแล้วท่านก็ควรรามือแต่เพียงเท่านี้นะ!"
ผมยังคงกดดันให้ลุงแกยอมถอนตัวไปก่อนจะเจ็บหนักกว่านี้ เพราะนอกจากลมประสานไฟแล้ว คราวนี้ผมเล่นลมผสานน้ำดูบ้าง เมฆฝนพลันตั้งเค้าหนาทึบ ปลดปล่อยหยาดน้ำจำนวนมหาศาลควบรวมกับพลังลมอันแปรปรวนรุนแรง กลายเป็นพายุฝนกระหน่ำเข้าโจมตีใส่ลุงจางแบบไม่มียั้ง ต่อให้วิชาเซียนจำแลงจะร้ายกาจขนาดไหนก็คงทนรับมือได้อีกไม่เกินสองสามกระบวนท่าแน่ ๆ ทว่าท่ามกลางลมพายุกระหน่ำลุงแกยังยิ้มออกมาได้
"ดี... ดีมาก เอาอีกสิจอมมาร!"
กลุ่มเมฆดำเคลื่อนตัวออกมาล้อมรอบคล้ายกับกำแพงหนาป้องกันการโจมตีด้วยลมพายุได้ชะงัดนัก จางเหอลู่เร่งพลังเสียจนควันร้อนระเหยออกจากศีรษะเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นผมยังสังเกตเห็นที่มุมปากมีเลือดไหลซิบออกมาอีกด้วย ท่าทางว่าภายในคงจะบอบช้ำไม่เบาเลย
"จางเหอลู่! เจ้าอย่าได้ดื้อรั้นนัก มิเช่นนั้นข้าก็คงต้องเอาจริงด้วย!"
ผมยังคงไม่ล้มเลิกความคิดที่จะจบไอ้ศึกบ้า ๆ นี้โดยไม่มีการนองเลือด พวกจอมยุทธนี่มันเพี้ยนสิ้นดีเลย ตายไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา? ชื่อเสียงเหรอศักดิ์ศรีเหรอ? แล้วมันกินแทนข้าวได้มั้ยเล่า! จอมมารนี่ก็โหดเหี้ยมโดยไม่จำเป็นเหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้พลังอำนาจมันมาอยู่ในมือผมแล้วเพราะฉะนั้นต้องใช้มันเพื่อยุติเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้เสียที!
"ไอ้หนูถ้ามันอยากตายนักก็สงเคราะห์มันเสียทีเถอะ"
จอมมารดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่ผมพูดจาเหมือนไว้ปราณีคู่ต่อสู้ แต่ใจนึงก็คงรู้สึกโล่งใจบ้างแหละที่ไอ้ละอ่อนอย่างผมรับมือกับคู่ต่อสู้ได้ดีถึงเพียงนี้ และที่สำคัญผมไม่ได้ลงศึกนี้เพราะต้องการจะฆ่าแกงใคร เพียงแต่อยากจะหยุดการต่อสู้ที่จำเป็นนี้เท่านั้น
"อย่าดูถูกกันนักจอมมาร!"
แม้จะใช้กระบวนท่าในรูปลักษณ์ของมังกร พยัคฆ์และหงส์ไปแล้วก็ยังคว่ำทางนี้ไม่ได้ ลุงจางจึงต้องเค้นพลังเรียกคลื่นลมปราณสีดำขนานใหญ่ ปรากฎลูกพลังงานทรงกลมเหนือน่านฟ้า กลิ่นอายอันน่ารังเกียจฟุ้งกระจายไปทั่วเหมือนเมื่อตอนที่ลุงจางเดินเข้าสู่ลานประลองในรอบแรก หากลองสังเกตดี ๆ จะเห็นเส้นเลือดตามแขนและลำคอปูดโปนคล้ายจะปริแตกได้ทุกเมื่อ ที่ทำถึงขนาดนี้เพราะอยากเอาชนะจอมมารมากเลยหรือ?
"ทำไม? เจ้าอยากเอาชนะจอมมารเช่นข้าถึงขนาดนั้นเลยหรือ แม้กระทั่งต้องขายวิญญาณให้กับปิศาจร้าย"
ผมนึกสมเพชเวทนาชายวัยกลางคนที่ตรงหน้า ผู้เคยเป็นถึงเสาหลักของยุทธภพเพียบพร้อมทั้งชื่อเสียงและฝีมือ ทว่าบัดนี้เหลือเพียงซากเก่า ๆ ที่ห่อหุ้มไว้ด้วยพลังมารนอกรีต ไร้ซึ่งเค้าลางของยอดฝีมือที่เขาเคยพอเจอเมื่อก่อนหน้านี้จนสิ้น
"ใช่! ตราบใดที่ยังกำจัดมารร้ายเช่นเจ้าไม่ได้ แผ่นดินนี้ก็คงไม่มีวันสงบสุขได้แน่ ๆ"
จางเหอลู่พูดจบก็กระอักเลือดออกมา เจ้าคลื่นดำนั่นไม่เพียงแต่มีไว้เพื่อล้างผลาญชีวิตผู้อื่นเท่านั้น แต่มันกัดกินกระทั่งเลือดเนื้อวิญญาณเจ้าของวิชาเองเสียด้วยซ้ำ ประโยชน์อะไรที่ต้องยอมพลีชีพเพื่อการต่อสู้อันไร้สาระนี้ คิดได้ดังนั้นผมจึงหันหลังให้กับคู่ต่อสู้ในทันที
"เจ้าจะดูถูกข้าไปถึงไหนเส้าเทียนอิ้ง! จะบอกว่าข้าไม่อยู่ในสายตาเลยงั้นรึ?"
เปล่าหรอก ผมแค่ทนดูลุงแก่ ๆ คนหนึ่งผลาญชีวิตตัวเองเพื่ออุดมการณ์จอมปลอมไม่ไหวแล้วต่างหาก ดูจากสภาพแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมเอาชนะแกได้ไม่ยากแน่ ๆ เพราะขืนเร่งลมปราณมากไปกว่านี้เดี๋ยวมันก็จะตีกลับจนย้อนทำร้ายเจ้าของวิชาเองนั่นแหละ ถ้าสู้กันไปมากกว่านี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่ผมลงมือปลิดชีวิตลุงด้วยตัวเองเลย
"เจ้านั่นพูดถูก หันหลังให้เช่นนี้เท่ากับดูถูกจอมยุทธ เจ้ากำลังจะประหารฝ่ายตรงข้ามทั้งเป็นนะไอ้หนู!"
จอมมารเองก็เข้าใจสถานการณ์ดี และล่วงรู้ความคิดของผมจึงได้ปรามไว้ เพราะถ้ารามือเพียงเท่านี้จางเหอลู่ก็จะโดนผู้คนดูถูกเหยียดหยามในภายหลังเอาได้ ทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการทรมานอีกฝ่ายเลย สู้ประหารให้ตายตกไปยังถือเป็นความกรุณาเสียกว่าอีก
"ผมไม่อยากให้ลุงแกตาย ถ้าลุงแกตาย ลูก ๆ อีกเจ็ดคนของแกคงจะเสียใจแน่ ๆ"
"เจ้าบ้า! ความตายถือเป็นวิสัยหนึ่งของจอมยุทธ และเป็นการเคารพในฝีมือซึ่งกันและกัน!"
จอมมารเริ่มมีน้ำโหแต่ผมเองก็หงุดหงิดไม่แพ้กัน ถ้าใครสักคนตายคนที่อยู่ข้างหลังก็ต้องเสียใจด้วยเหมือนกัน ไม่แน่ว่าแม่และพี่ชายอาจกำลังเศร้าโศกกับการจากไปของผมอยู่ที่โลกโน้นก็ได้ ผมไม่ใช่คนใจมารขนาดที่ล้างผลาญชีวิตคนเป็นผักปลาได้นะ
"แต่เจ้าในตอนนี้คือเส้าเทียนอิ้ง จอมมารผู้ฆ่าคนไม่กะพริบตา! การละเว้นคู่ต่อสู้ก็เป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตของข้าเช่นกัน!"
รอยด่างพร้อยงั้นหรือ? การเข่นฆ่าผู้คนมันมีความสุขถึงเพียงนั้นเลย? ไม่มีทาง! ต่อให้วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ผมจะเก่งกล้าสามารถขึ้นอีกสักเท่าไหร่ก็ตาม ผมจะไม่ฆ่าใครโดยเด็ดขาด ถ้าไม่ใช่เหตุผลที่จำเป็นจริง ๆ ต่อให้คนที่บังคับจะเป็นเจ้าของร่างจริงก็ตามที!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น