ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #111 : ศึกถล่มวังหลวง ตอนที่04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 127
      10
      17 ก.ย. 62


         เมื่อจับไต๋ม่านพลังของฝ่ายศัตรูได้  ผมถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างลืมตัว  นั่นเพราะเหตุผลที่พลังลมปราณของผมใช้ไม่ได้กับพวกมันก็คือปราณพลังแบบเดียวกัน! เจ้าพวกหุ่นกระป๋องควบคุมคลื่นลมปราณแบบเดียวกับที่ผมกำลังใช้โจมตีอยู่เด๊ะ ๆ  แถมยังไม่ใช่ระดับธรรมดา ๆ ด้วยเพราะถึงขนาดดีดคลื่นลมปราณของทางนี้ออกมาได้เลย

         "ฮึ่ม! ไอ้พวกบ้าเอ๊ยดันงัดวิธีนี้ออกมาใช้ได้นะ!"

         เจ้าหุ่นตัวหนึ่งรวบแขนทั้งสองข้างไว้ระดับหน้าอก  แล้วยิงคลื่นพลังบางอย่างเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็วราวกับพายุ  ผมพยายามตั้งรับไว้ด้วยวิชาขั้นสีแดง  แต่ไม่เป็นผลคลื่นพลังอันรุนแรงถาโถมเข้ามาจนกระเด็นหมุนคว้างกลางอากาศไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย  กรอด! พวกมันก็ใช้พลังลมปราณได้จริง ๆ ซะด้วย...

         "เจ้าหนู!!!"

         "เออรู้แล้วน่า ตอนนี้กำลังคิดหาวิธีรับมืออยู่เฟ้ย!"

         พลังลมปราณใช้กับพวกมันไม่ได้  วิชาหยุดเวลาก็ใช้ไม่ได้! แล้วตัวเราจะเหลือหนทางอะไรไปจัดการกับพวกมันได้ล่ะเนี่ย  ผมคิดด้วยความเจ็บใจและพยายามเกร็งตัวรักษาสมดุลจุดศูนย์ถ่วงกลางอากาศ  บัดซบเอ๊ย! พวกมันรู้วิธีรับมือกับทางนี้ได้ทั้งหมดเลยแถมยังมีระดับที่สูงกว่าอีกด้วย  คิดเข้าสิเจ้าโชค! คิดหาหนทางเอาชนะพวกมันให้ได้  ไม่งั้นอนาคตของดาวดวงนี้ต้องชิบหายป่นปี้หมดแน่

    เฟี้ยว!

         ในระหว่างที่ผมกำลังสับสนหมดหนทางอยู่นั้นเอง  จู่ ๆ กระสุนปริศนานัดที่สองก็พุ่งตรงเข้าบดขยี้กกล่องดำของตัวหุ่นเข้าอย่างจังอีกครั้ง  เจ้าหุ่นสูญเสียการควบคุมต้องถอยไปตั้งหลักในแนวหลังทันที  เท่านั้นแหละผมก็ปิ๊งไอเดียขึ้นทันใด  เออยังมีวิธีนี้อยู่นี่หว่า!

         "ฮ่าหห์!"

         ผมพุ่งตัวลงไปบนพื้นราบที่เบื้องล่าง  โน้มตัวลงสัมผัสกับพื้นดินอันนุ่มนิ่มแล้วเกร็งพลังขั้นสูงสุดสิบส่วน  ปราณสีแดงฉานค่อย ๆ แทรกซึมลงไปแล้วดึงสิ่งที่ผมต้องการขึ้นมา  นั่นก็คือเศษหินก้อนกรวดเป็นปริมาณมหาศาล  แล้วหลอมรวมเป็นวัตถุทรงกลมขนาดเหมาะมือหลายลูกเอาไว้ใช้แทนกระสุนจริง 

         " พลังปราณขั้นสีแดงดรรชนีกระสุนทะลวงสวรรค์! "

         หากใช้อาวุธอาบคลื่นลมปราณโจมตีโดยตรงก็คงไม่พ้นโดนบาเรียพวกมันดีดออกมาอีก  แต่ถ้าลองใช้อาวุธบินดูบ้างล่ะ?  ผมรวมสมาธิไปที่ลูกกระสุนซึ่งลอยอยู่กลางอากาศนับสิบ  ก่อนจะซัดทีละนัดเข้าใส่พวกศัตรูที่เหินฟ้าอยู่อย่างรุนแรงราวกับสายฟ้าฟาด  และมันก็ได้ผลซะด้วย!

         "วู้ววว! เป็นไงมั่งล่ะไอ้น้อง  โดนไปเต็ม ๆ ดอก!!!"

         ผมตะโกนด้วยความสะใจเมื่อได้เห็นฝูงบินของพวกศัตรูเจอเล่นงานจนร่วงไปตาม ๆ กัน  แต่ก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อสัญชาตญาณของตัวเองจับเค้าลางของหายนะบางอย่างได้จึงเร่งใช้วิชาลับในเสี้ยววินาที  เพื่อหลบลำแสงทำลายล้างที่ยิงตรงลงมาจากบนฟากฟ้า  แม้ว่าจะหลบการโจมตีได้ในห้วงเวลาที่หยุดนิ่ง  ทว่าเมื่อกาลเริ่มเดินอีกครั้งก็ต้องเจอกับแรงปะทะของพลังทำลายซึ่งกินวงกว้างมหาศาล  ร่างของผมหมุนติ้วไม่รู้ทิศทางกลางเวหา  เท่าที่ตามองเห็นนั่นคือพระราชวังที่เบื้องล่างแหลกกระจุยกระจายไม่เหลือชิ้นดี

         "ไอ้... หนู...!"

         น้องหมากระเด็นกระดอนหล่นจากในเสื้อของผม  แม้จะพยายามไล่คว้าแต่ด้วยแรงระเบิดเมื่อครู่มันช่างรุนแรงเสียจนผมไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่าประคับประคองตัวให้ตกกระแทกพื้นแบบเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  และหมดสติไปในที่สุด...


    @@@@@@@@@@@@


         "ดูเหมือนว่าจะทำเกินไปหน่อยนะครับ?"

         ข้าหลวงใหญ่แห่งสหราชอาณาจักรกล่าวกับองค์ราชินีในระหว่างที่เดินสำรวจความเสียหายรอบ ๆ พื้นที่เครเตอร์ (หลุมขนาดใหญ่)  ซึ่งเกิดจากอานุภาพของปืนใหญ่เร่งพลังอานุภาคที่ยิงลงมาจากบนชั้นวงโคจร  แน่นอนว่าด้วยพลังทำลายล้างขนาดนี้จะป่นดาวดวงนี้ให้กลายเป็นหลุมดำก็ยังได้  แต่เพราะเป้าหมายของพวกมันหาใช่การทำลายล้างไม่  จึงจำกัดพลังงานให้อยู่ในระดับต่ำสุด  กระนั้นก็ยังทำลายเมืองหลวงของต้าหลงไปเกือบครึ่ง  พระราชวังหลวงกลายเป็นผุยผง  เหลือไว้เพียงในความทรงจำเท่านั้น

         "ไม่มีอะไรเกินไปทั้งนั้นแหละ  ต้องยอมรับว่าเจ้าหนูน้อยนี่ฝีมือดีกว่าที่คาดไว้มากทีเดียว..."

         แอนดรอยสาวก้มลงตบศีรษะของเจ้ายุทธจักรหนุ่มซึ่งนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ ตัว  การต่อสู้อันดุเดือดเมื่อครู่นี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของเส้าเทียนอิ้งซึ่งสามารถทำลายหุ่นรบเกียร์ออร์ก้ารุ่นคัสตอมได้หลายต่อหลายตัว  มิหนำซ้ำยังล่วงรู้ถึงความลับของม่านพลังพิเศษซึ่งติดตั้งเอาไว้อีก  นับว่าฉลาดหลักแหลมเกินกว่าพวกชนชั้นป่าเถื่อนไร้รากคนอื่น ๆ บนดาวดวงนี้  ดังนั้นเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมจึงจำต้องสำแดงอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้เห็นในฐานะของจ้าวผู้ปกครองกาแลคซี่แห่งนี้ให้ดูเป็นขวัญตา  แม้ใจจะปรารถนาเก็บดาวดวงนี้ไว้สำหรับเก็บเกี่ยวทรัพยากรก็ตามที

         "ว่าแต่... แล้วเรื่องของเจ้าพวกที่บังอาจยื่นมือมาขัดขวางล่ะครับ?"

         แมคเกรเกอร์เอ่ยถามถึงเจ้าพวกที่ลอบขัดขวางการต่อสู้เมื่อครู่  แถมมันยังมุ่งบอกใบ้ความลับของเครื่องส่งกำลังซึ่งติดตั้งไว้ที่เกียร์ออร์ก้าให้อีกฝ่ายรู้ตัวเสียด้วย  นับว่าเป็นอันตรายเสียยิ่งกว่าพวกเทียนซานเสียอีก  ต้องรีบกำจัดทิ้งโดยเร็วที่สุด

         "ข้าพอจะรู้แหละว่ามันเป็นใคร  แต่ตอนนี้เราต้องจัดการกับอุปสรรค์ตรงหน้าเสียก่อนนะ"

         อลิซาเบธกล่าวพลางออกคำสั่งให้ฝูงบินมาตามเก็บกวาดซากปรัก  รวมถึงจับกุมตัวเส้าเทียนอิ้งไปคุมขังไว้บนยานแม่ที่ลอยอยู่เหนือวงโคจรดาวอีกด้วย  แถมยังไม่ประมาทสั่งให้พวกลูกน้องออกไล่ล่ากลุ่มเทียนซานแล้วกำจัดให้หมดสิ้นเสี้ยนหนามอีกด้วย

         "รับทราบครับองค์ราชินี  ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าเถิด!"

         ข้าหลวงใหญ่ผายมือเชิญให้เจ้านายกลับขึ้นไปบนยานส่วนตัว  อลิซาเบธเผยรอยยิ้มเล็กน้อยกับผลงานการกำราบต้าหลงแห่งนี้  ซึ่งเอาจริงก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ที่ตนได้ปล้นชิงและเผาทำลายมาโดยตลอด  ที่เหลือก็คือการตามจับตัวชาล็อตกลับมาให้ได้โดยเร็ว  เพียงเท่านี้แผนการแย่งชิงหนึ่งในทรัพยากรอันสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในจักรวาลก็จะสำเร็จลุล่วงลงได้ในที่สุด!



    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×