ลำดับตอนที่ #110
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #110 : ศึกถล่มวังหลวง ตอนที่03
เมื่อจัดการกับเจ้าหุ่นรบอวกาศได้ตัวนึงผมก็เริ่มย่ามใจไล่ล่าพวกตัวอื่น ๆ ด้วยในทันที แต่ความนี้ดันไม่ง่ายเหมือนเมื่อกี้ที่มีมือมืดช่วยยิงทำลายจุดอ่อนของพวกมันที่ช่วงเอวให้ก่อน เจ้าพวกหุ่นรบเมื่อเห็นพรรคพวกโดนจับแยกชิ้นส่วนกลางอากาศก็พากันบินวนแยกห่างออกจากกันโดยเว้นระยะไม่มีตัวไหนแตกแถว ถ้าจำไม่ผิดเหมือนเคยเห็นภาพคุ้นตาแบบนี้จากในทีวีนะ คงจะเป็นพวกฟอร์เมชั่นหรืออะไรสักอย่างที่ฝูงบินรบชอบใช้กันในหนังแน่ ๆ เลย แถมมันยังทำให้ไล่จับยากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เพราะยิ่งทีก็ยิ่งบินห่างออกไปขนาดที่ผมเพิ่มสปีดไล่ตามด้วยความเร็วสูงสุดยังไม่ทันเลย โธ่ว้อย! เมื่อกี้นี่คือแค่ลองเชิงกันเฉย ๆ สินะว่าบาเรียจะใช้ได้ผลหรือเปล่า? พอได้ผลทดลองสมใจแล้วก็ใช้วิธีขี้ขลาดบินหนีไปไกล ๆ แล้วยิงด้วยอาวุธอานุภาพสูงอย่างพวกปืนลำแสงสินะไอ้พวกหอกหักนี่! ผมกำหมัดทั้งสองข้างแน่นด้วยความโกรธแค้น
"หนอยแน่ะมาหยามหน้ากันได้นะ!!!"
คราวนี้ผมรวบพลังลมปราณไว้ที่ท้องน้อย ค่อย ๆ ไล่ขึ้นมาจนถึงหน้าอกแผ่ซ่านออกไปทางหัวไหล่ ทั่วร่างรับรู้ได้ว่าคลื่นอันทรงพลังกำลังไหลเวียนไปตามส่วนต่าง ๆ อย่างถ้วนทั่ว บินไล่ตามงั้นรึ? เรื่องอะไรจะปล่อยให้พวกมันได้ใจแบบนี้อีกล่ะ ในเมื่ออยากบินเล่นนักเดี๋ยวจะจัดให้สมใจอยากเลยพวกเอ็ง!
"ฮ่าห์!!!"
วิชามารประสานจิต เทพประสานใจเมื่อสำเร็จได้ถึงขั้นสีแดงแล้วนั้นจะสามารถควบคุมธาตุต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ แม้ตอนนี้ความสามารถของผมอาจจะไม่ได้มากมายเหมือนเส้าเทียนอิ้ง แต่อย่างน้อย ๆ แค่ดึงสายลมให้มาเป็นพวกเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพียงกระชากฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหาลำตัวเท่านั้น เจ้าพวกหุ่นรบที่บินไปไกลลิบ ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าลง ช้าลง... ไม่สิ ต้องบอกว่ากำลังถูกดูดกลับมาทางนี้ต่างหาก ด้วยแรงลมวายุมหาศาลจนสุดจะต้านทานไหว ตอนนี้รอบตัวผมเกิดเป็นลมหมุนขนาดมหึมาราวกับพายุไต้ฝุ่นที่มีตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง
"พวกแกจงมาทางนี้ซะดี ๆ"
ผมกระชากท่อนแขนหนักขึ้น อารมณ์เหมือนกำลังใช้มือดึงเชือกที่มองไม่เห็นซึ่งผูกเข้ากับลำตัวของหุ่นรบพวกนั้นให้พุ่งเข้ามาใกล้ ๆ ระหว่างนี้ก็กำหนดลมหายใจเตรียมพร้อมจะใช้วิชาลับเล่นงานในห้วงเวลาที่หยุดลงไปด้วย ขนาดน้องหมายังตกใจกับพัฒนาการที่เพิ่มพูนขึ้นของผมเลย
"ไอ้หนูเจ้าทำได้ดีมาก ไม่นึกเลยว่าแค่ไม่กี่เดือนจะสามารถควบคุมลมปราณและธาตุหลักได้ถึงขนาดนี้แล้ว ฮ่า ๆ สมน้ำหน้าพวกมันจริง ๆ"
จะชมก็เอาไว้หลังจากตบพวกมันแล้วจัดการตัวบอสที่ยังหลบอยู่ข้างในวังหลวงเถอะ ผมยังไม่ลืมว่านอกจากเจ้าพวกหุ่นกระป๋องนี่แล้ว พวกศัตรูก็ยังมียานอวกาศลำมหึมาลอยเท้งเต้งอยู่นอกวงโคจรของดาวดวงนี้อีก ซึ่งเหตุผลที่เจ้าพวกนั้นไม่ใช้ลำแสงมหาประลัยเหมือนคราวที่แล้วก็คงเป็นเพราะตัวบอสยังอยู่ที่นี่เป็นแน่ ถึงได้กลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย
"ฮึ่มม! เอานี่ไปกิน"
ในเมื่อเข้าใกล้ไม่ได้เพราะมีบาเรียขวางกั้นอยู่ ก็จัดการจับพวกมันกระแทกกันซะเลยเป็นไงเล่า! ผมรวบตัวหุ่นสองตัวให้พุ่งเข้าปะทะกันเองในระยะประชิด แต่ที่ไหนได้แม้แต่พวกเดียวกันบาเรียก็ยังคงทำงานอย่างแข็งขัน ป้องกันไม่ให้ตัวหุ่นได้รับอันตรายแม้แต่น้อย เฮ้ยนี่มันอะไรกันวะ! ขนาดนี้แล้วยังทำอะไรไม่ได้อีกเรอะ ทีเมื่อกี้ยังโดนกระสุนยิงเข้าไปง่าย ๆ เลย... แต่เดี๋ยวก่อนนะ? กระสุนเหรอ... กระสุน... ทำไมลูกกระสุนที่ไม่ได้ดูมีอะไรพิเศษเลยถึงเจาะทะลวงบาเรียเข้าไปแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ลมปรารขั้นสูงสุดเท่าที่ผมมียังทำอันตรายอะไรไม่ได้เลย ทำไมกันนะ?
"ไอ้หนูอย่ามัวเหม่อสิฟะ!"
น้องหมาตะโกนเรียกสติให้กลับเข้าตัวก่อนจะเจอพายุกระสุนของอีกฝ่ายเล่นงาน นี่ก็เหมือนกันอีก... กระสุนของพวกมันพุ่งทะลุบาเรียจากข้างในออกมาเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรขวางกั้นอีกแล้ว? เฮ้ยนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยไม่ใช่หนังการ์ตูนนะที่บาเรียจะสารพัดประโยชน์ขนาดแยกแยะได้ว่าอันไหนกระสุนจริงอันไหนพลังลมปราณน่ะ...
หืมมม? พลังลมปราณกับกระสุนงั้นเหรอ?
ท่ามกลางปริศนาอันดำมืดไร้ก้นบึ้งนั้น เหมือนตัวผมจะค้นพบแสงสว่างเพียงแว่บ ๆ จากปลายอุโมงค์อีกฟากหนึ่ง ความรู้สึกแปลก ๆ ที่แล่นผ่านไขสันหลังไปราวกับปะจุไฟฟ้า บาเรียประหลาดที่ผ่านได้เฉพาะเคหะวัตถุที่มีรูปร่าง ในขณะที่พลังลมปราณซึ่งจับต้องไม่ได้จะถูกกั้นเอาไว้ เมื่อเข้าไปใกล้ยังโดนดีดออกมาเหมือนแม่เหล็กในขั้นเดียวกัน... มีทางเดียวที่จะรู้ได้ก็คือต้องทดสอบดูเท่านั้น!
"ไหนขอลองทดสองดูสักหน่อยเถอะว่ะ!"
ผมรวมสมาธิคว้าจับลูกกระสุนจำนวนหนึ่งที่พวกมันยิงออกมา แล้วซัดด้วยวิชาดรรชนีเข้าหาบริเวณลำตัวตรงส่วนของกล่องดำนั่น และมันได้ผล! กระสุนพุ่งตรงผ่านชั้นบาเรียเข้าไปได้อย่างง่ายดาย แล้วฉีกกระชากเจ้ากล่องดำจนแตกกระจุยกระจายไม่เหลือสภาพเดิมอีกเลย เจ้าหุ่นรบเสียจังหวะชะงักไปเล็กน้อย แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะใช้วิชาหยุดเวลาตรงเข้าไปจัดการทำลายเด็ดแขนขาจนสิ้นสภาพในพริบตา
"หนอยแน่ะ! บังอาจนักนะพวกแก!!!"
ไม่ผิดแน่... ในที่สุดปริศนาทั้งหมดก็กระจ่างแจ้งแล้ว ผมขบฟันแน่นด้วยความโกรธ บาเรียปริศนาที่ทะลุผ่านได้เฉพาะวัตถุแต่กลับต้านทานลมปราณได้อย่างแข็งขัน ก็เพราะไอ้บาเรียที่ว่านี่ก็คือสนามพลังงานที่สร้างขึ้นมาจากพลังลมปราณนั่นเอง!
"ไอ้หนูเอ็งว่ายังไงนะ?"
"เออ ก็บอกแล้วไงว่าไอ้สนามพลังพวกนั้นน่ะเป็นคลื่นลมปราณไม่ต่างจากที่ชั้นหรือจอมยุทธคนอื่น ๆ ปล่อยออกมาเลยสักนิด แถมยังมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกด้วยนะ!"
ผมพยายามอธิบายหลักการทำงานของเจ้าบาเรียดังกล่าวให้จอมมารฟัง ด้วยว่าเจ้าพวกต่างดาวนี่มันคงใช้วิธีอะไรบางอย่างในการสร้างพลังลมปราณเทียมขึ้น แล้วนำมาบรรจุลงในถังกักเก็บภายในตัวหุ่น คาดว่าเจ้ากล่องดำนั่นน่าจะเป็นตัวควบคุมการใช้พลังลมปราณดังกล่าวเป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนี้ก็จะมองเห็นสภาพการณืที่แท้จริงได้ เพราะความหนาแน่นของลมปราณเทียมที่มันปล่อยออกมารอบตัวหุ่นจะเป็นคลื่นขัดขวางลมปราณของทางนี้เหมือนกับแม่เหล็กในขั้วเดียวกัน ในขณะที่วัตถุอย่างอื่นซึ่งไม่ได้ประกอบขึ้นด้วยพลังลมปราณจะทะลุผ่านไปได้เหมือนไม่มีอะไร กล่าวโดยสรุปก็คือเจ้าบาเรียดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือใช้ในการสะกัดดาวรุ่งวิชาลมปราณแทบจะทุกแขนงบนดาวดวงนี้!!!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น