คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SF] LoDae - Vintage
10 ปีที่แล้ว...
“เด็กตุ๊ด! เด็กตุ๊ด!
ไอ้เด็กตุ๊ด!”
“ฉันไม่ได้เป็นตุ๊ดนะ!”
“ไอ้เด็กตุ๊ดไว้ผมยาว!
ไอ้เด็กตุ๊ดใส่กระโปรง! ไอ้เจลโล่เด็กตุ๊ด!!!”
“แง้!!!! ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่ตุ๊ดไง! ฮึก!”
“หวายๆๆ เด็กตุ๊ดร้องไห้แล้ว”
“แง้!!!!”
เพราะเสียงเอะอะโวยวายผสมกับเสียงร้องไห้แหลมๆของใครบางคนทำเอาคนที่แอบอู้งานหลบมานอนเอาแรงบนต้นไม้อย่าง
จองแดฮยอน ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ร่างเล็กปีนลงมาจากต้นไม้ก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาอุปกรณ์ที่จะทำให้เสียงที่น่ารำคาญพวกนั้นเงียบลงก่อนที่ตากลมโตจะหันไปปะทะเข้ากับก้อนดินขนาดพอดีมือเด็ก
8 ขวบอย่างเขา ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มอย่างคนมีแผนการณ์ชั่วร้ายอยู่ในหัว
มือเล็กคว้าก้อนดินก้อนนั้นขึ้นมาถือไว้ก่อนจะเดินไปยังต้นเสียงที่รบกวนเวลานอนกลางวันของตัวเอง
ตากลมโตจับจ้องล็อคเป้าหมายเอาไว้ก่อนจะขว้างก้อนดินที่อยู่ในมือก้อนนั้นออกไปจนสุดแรง
ผลั๊วะ!!!
“โอ๊ย!!!!”
เด็กตาตี่หัวโจกของกลุ่มร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด
มือเล็กกุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันไปมองผู้มาเยือนใหม่ที่ยืนผิวปากอย่างกวนประสาทอยู่หน้าทางเข้าสนามเด็กเล่นที่พวกเขาอยู่
ปากเล็กเบะบึนก่อนจะ...
“แง้!!!!”
“จะแหกปากทำไมกันวะ?
ร้องไห้เป็นตุ๊ดไปได้นะไอ้ตาตี่”
เสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาอย่างกวนประสาทก่อนจะยักคิ้วหลิ่วตาใส่กลุ่มเด็กหัวโจกที่เห็นหัวหน้าของตัวเองร้องไห้
ก็เริ่มจะพากันเบะตาม
“ไม่นะ! จงออบไม่ใช่ตุ๊ด!”
“แล้วผู้ชายที่ไหนร้องไห้กันหล่ะ?”
“ก็... ก็แกล้งจงออบทำไม? แง้!!!”
“ทีนายยังแกล้งคนอื่นเค้าได้เลย
รีบๆไปเลยนะพวกนายหน่ะ แล้วก็อย่าแกล้งใครเค้าอีกหล่ะ
ถ้าไม่อยากโดนเอาคืนแบบเมื่อกี๊”
“จงออบจะฟ้องแม่! แง้!!!!”
“เชิญขี่ม้าสามศอกไปบอกเถอะ บู๊วว”
แดฮยอนแลบลิ้นปลิ้นตาตามหลังกลุ่มเด็กที่ร้องไห้พากันวิ่งออกจากสนามเด็กเล่นไปก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ใกล้ๆ
เด็กแสบเบะปากเล็กน้อยก่อนจะดึงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าส่งให้
“ฮึก! ข... ขอบคุณนะฮะ”
มือเล็กรับผ้าเช็ดหน้าจากอีกคนก่อนจะเช็ดน้ำตาตัวเองจนแห้งสนิท
แม้ว่าตัวเองจะมีอาการสะอื้นอยู่บ้างก็ตาม แดฮยอนมองเด็กที่นั่งอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างสำรวจ
ผิวขาวที่ขาวจนซีดกับริมฝีปากสีแดงสด
ไหนจะผมสีน้ำตาลที่มัดแกละสองข้างกับชุดสีชมพูหวานๆที่ดูเข้ากันดีกับเจ้าตัว
แดฮยอนหรี่ตามองคนตรงหน้า ไวกว่าความคิด
มือเล็กคว้าหมับเข้าที่กลางลำตัวของคนที่กำลังนั่งกลั้นสะอื้นอย่างต้องการหาคำตอบทันที
“ผู้ชายจริงๆเหรอเนี้ย?”
เจ้าของร่างสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจก่อนที่ริมฝีปากบางนั้นจะเบะออกเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ
แดฮยอนละมือออกจากกลางลำตัวของเด็กผิวเผือกคนนั้นก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบบางอย่างยื่นไปตรงหน้า
คนตัวเล็กที่ตั้งท่าจะร้องไห้อีกรอบเป็นต้องชะงักพลางมองของที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย
เด็กที่เหมือนจะอายุมากกว่าตัวเอง ผิวคล้ำ หน้าเข้ม
คนที่มาช่วยเขาจากเด็กขี้แกล้งพวกนั้นที่ตอนนี้ส่งยิ้มจนตาหยี
แก้มขึ้นขีดเหมือนหนวดแมวส่งให้เขา
รอยยิ้ม...
ที่เขาไม่สามารถลืมได้
“หยุดร้องไห้แล้วกินลูกอมซะจะได้อารมณ์ดี”
มือเล็กรับลูกอมมาถือไว้ก่อนจะมองเด็กชายที่ท่าทางแสบเอาเรื่องเล็กน้อย
ปากอิ่มสีแดงสดฮัมเพลงเบาๆก่อนจะมองเขาด้วยความสงสัย
“มีอะไรรึเปล่า?”
“ขอบ... ขอบคุณนะฮะที่ช่วยผม”
“ฉันก็แค่รำคาญ
เสียงเจ้าพวกนั้นกับเสียงร้องไห้ของนายมันทำให้ฉันหลับกลางวันไม่ได้”
“อ่า... งั้นเหรอฮะ?”
เมื่อเห็นเด็กเผือกตรงหน้าทำตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ
คนที่ดูจะโตกว่าก็เขกหัวคนตรงหน้าไป 1 ทีเล่นเอาคนที่กำลังจะร้องไห้ถึงกับสะดุ้งโหยง
“เป็นผู้ชาย อย่าขี้แยดิ๊
เก็บน้ำตาไว้เสียให้เรื่องสำคัญๆดีกว่า”
“...ฮะ”
“แดฮยอน!!!”
เด็กแสบหันไปมองตามเสียงที่ตะโกนเรียกเขาดังลั่นไม่ไกลจากสนามเด็กเล่นนั้นมากนัก
เจ้าของชื่อจุ๊ปากเล็กน้อยอย่างขัดใจ ก่อนจะหันมามองคนตรงหน้า
“ฉันต้องไปแล้วหล่ะ
นายอย่าให้ใครรังแกอีกก็แล้วกัน”
“ด... เดี๋ยวก่อนสิ นายชื่ออะไรเหรอ?”
คนที่ตัวเล็กกว่าคว้าชายเสื้อของเขาเอาไว้ในขณะที่เขากำลังหมุนตัวกลับและกำลังจะวิ่งออกจากตรงนั้น
แดฮยอนเลิกคิ้วมองเจ้าของมือที่รั้งชายเสื้อตัวเองเล็กน้อย
“ฉันชื่อ จองแดฮยอน อายุ 8 ขวบ
เพิ่งย้ายบ้านมาใหม่”
“พี่แดฮยอน... ผมชื่อ ชเวจุนฮง
ชื่อเล่นผมคือเจลโล่ ผมอายุ 6 ขวบ ยินดีที่ได้รู้จักนะฮะ”
รอยยิ้มใสๆจากริมฝีปากบางสีแดงสดถูกส่งให้คนเป็นพี่ที่ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น
ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดีรับมิตรภาพใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น
“อื้อ! ยินดีที่ได้รู้จัก”
ณ ปัจจุบัน
“จองแดฮยอน!!! ตื่นได้แล้ว!!!”
“ผมขออีก 5 นา...”
โครม!!!
“แกจะนอนกินบ้านกินเมืองให้ตะวันแยงตูดไปจนถึงเมื่อไหร่ห๊ะแดฮยอน?! ปีนี้อายุ 18
แล้วนะ
อีกไม่กี่เดือนแกต้องเข้ามหาลัยแล้ว หัดรับผิดชอบตัวเองได้แล้วไอ้เด็กดำ!”
“โอ๊ย!!! แม่ถีบผมทำไม?!”
“ถ้าแกไม่รีบจัดการตัวเองแล้วลงไปข้างล่างภายใน 10
นาทีนี้หล่ะก็...
ฉันไม่ทำแค่ถีบแกแน่!!!”
“อ๊าก!!!!”
เสียงเอะอะโครมครามแบบนี้เป็นเรื่องปกติที่สามารถหาฟังได้ทุกเช้าจากบ้านหลังข้างๆ
ชเวจุนฮงส่ายหน้าให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ
มือหนาลดแก้วนมในมือลงก่อนจะเดินออกจากบ้านอย่างไม่รีบร้อน
“ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับม๊า”
“ตั้งใจเรียนหล่ะ”
จุนฮงยิ้มให้มารดาเล็กน้อยก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้านที่เพิ่งรบกันเสร็จ
ดูนาฬิกาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ ก่อนที่นิ้วเรียวจะกดกริ่งหน้าบ้านอย่างเคยชิน
“เออๆๆๆ มาแล้วโว้ย!!!”
เสียงปึงปังดังมาจากภายในบ้าน
ก่อนที่ร่างเล็กๆของใครบางคนจะรีบวิ่งมาทางเขา ปากอิ่มคาบขนมปังอยู่สองแผ่น
แขนหนีบกระเป๋าเป้เอาไว้พร้อมๆกับมือเล็กที่รีบติดกระดุมเสื้อตัวเองอย่างรีบร้อน
จุนฮงคว้าเอากระเป๋าเป้ของคนตัวเล็กตรงหน้าที่ใส่รองเท้าผิดๆถูกๆมาถือไว้
ก่อนจะช่วยติดกระดุมเสื้อแล้วจัดเสื้อผ้าให้คนตรงหน้าจนเรียบร้อย
ริมฝีปากอิ่มหอบหายใจเบาๆก่อนจะแทะขนมปังที่ยังคาปากลงท้องตัวเอง
“เมื่อไหร่พี่จะตื่นเช้าๆบ้างหล่ะ?
ผมได้ยินพี่ทำสงครามกับแม่พี่ทุกเช้าเลย ไม่เบื่อบ้างเหรอ?”
“เบื่อดิ แต่ทำไงได้หล่ะวะ?
เมื่อคืนฉันเล่นเกมดึกไปหน่อยก็แค่นั้น”
“ไม่หน่อยแล้วมั้ง? ผมเห็นไฟห้องพี่เปิดยันตีสาม”
“เออๆ จะยังไงก็ช่าง ฉันตื่นทันนายก็แล้วกัน”
แดฮยอนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะเงยหน้ามองคนเป็นน้องที่เดินหัวเราะอยู่ข้างๆอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากค้นกระเป๋าตัวเองหยิบหนังสือการ์ตูนออกมาอ่านโดยที่มือข้างหนึ่งจับชายเสื้อของจุนฮงเอาไว้เพื่อกันตัวเองที่เพลินกับการ์ตูนแล้วเดินชนโน่นชนนี่เหมือนที่เคยเป็น
จุนฮงมองคนเป็นพี่ด้วยสายตาเอ็นดู 10 ปีที่ผ่านมาพวกเขาโตขึ้นมาก
จองแดฮยอนที่เคยผิวคล้ำ หน้าคมในตอนนั้น ใครจะรู้ว่าโตมาแล้วจะกลายเป็นเพียงแค่ผู้ชายตัวเล็กๆ
ผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย ในหน้าคมที่เคยหล่อเหลากลับกลายเป็นใบหน้าเรียวได้รูป
อ่อนหวานดูน่ารัก ตากลมโต รับกับจมูกโด่งรั้น
ลงตัวดีกับริมฝีปากที่อวบอิ่มกว่าคนทั่วไป ไหนจะแก้มกลมๆ แอบป่องเล็กน้อยนั่นอีก จากจองแดฮยอนเด็กแสบในตอนนั้นกลายมาเป็นผู้ชายที่ดูสวย
น่ารักกว่าผู้หญิงในตอนนี้
คงไม่ต่างจากเขา ชเวจุนฮง
ที่เมื่อก่อนเป็นเพียงเด็กผู้ชายตัวเล็ก ใบหน้าน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง
แถมแม่ของเขายังชอบจับเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิง
เมื่อโตมาแล้วจะกลายเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงถึง 186 เซนฯ
แม้ว่าเขาจะยังมีอายุเพียงแค่ 16 ปีก็ตาม รูปร่างของเขาเริ่มมีมัดกล้าม ใบหน้าก็ดูหล่อเหลา
เค้าความน่ารักที่เคยมีกลับไม่หลงเหลืออยู่เลยในตอนนี้ ที่ยังเหมือนเดิมก็คงจะมีแค่ผิวที่ขาวซีดกับริมฝีปากสีแดงสดเพียงเท่านั้น
“พี่แดฮยอน!!!!”
จุนฮงจุ๊ปากเล็กน้อยอย่างขัดใจ
เมื่อเสียงที่เขาแสนจะรำคาญดังขึ้นมาพร้อมๆกับตัวเตี้ยๆของใครบางคนที่วิ่งตรงมาทางพวกเขา
แขนที่ยาวกว่าตัวโถมเข้าคล้องคอแดฮยอนเอาไว้ทันทีก่อนจะหอมแก้มคนที่กำลังอยู่ในโลกของการ์ตูนโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างหนักๆ
ทำเอาจุนฮงคว้าคอเสื้อคนที่มาใหม่คนนั้นแยกออกจากแดฮยอนแทบไม่ทัน
“อะไรของนายเนี้ยเจลโล่?”
คนที่มาใหม่ร้องขึ้นอย่างขัดใจ
ก่อนจะมองไปที่คนเป็นพี่ที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สายตาจับจ้องไปที่การ์ตูนอย่างตื่นเต้น
คนที่มาใหม่ทำท่าจะเข้าไปกอดแดฮยอนอีกครั้ง แต่จุนฮงกลับยืนขวางไว้
“ห้ามเข้าใกล้พี่แดฮยอน”
มุนจงออบ
ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของคนเป็นน้องแต่ตัวโตกว่าเขาหลายโยชน์
คนอายุมากกว่าแต่ตัวเตี้ยกว่ามากทำได้แค่ถอนหายใจฟึดฟัดอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะจุนฮงในตอนนี้
ไม่ใช่เด็กที่เขาจะแกล้งให้ร้องไห้บ่อยๆเหมือนเมื่อตอนเด็กๆอีกแล้ว
ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าจุนฮงตัวโตกว่าจงออบมาก แต่เป็นเพราะว่าจุนฮง
เด็กขี้แยที่เขาเคยรู้จัก ในตอนนี้
กลายเป็นนักกีฬาเทควันโด้สายดำของเขตไปแล้วเรียบร้อย และมุนจงออบก็ฉลาดพอที่จะรู้จักรักตัวเอง
ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับขายาวๆของจุนฮงแน่นอน
“การ์ตูนเรื่องนี้นี่มันสนุกจริงๆ
เลิกเรียนคงต้องไปยืมเล่มต่อไปมาอ่านแล้วหล่ะ อ้าว!
นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันหน่ะไอ้เด็กตี๋?”
แดฮยอนเก็บหนังสือการ์ตูนลงกระเป๋าก่อนจะสังเกตได้ถึงบุคคลที่สามที่เดินตามพวกเขามาเงียบๆ
จงออบเบะปากเล็กน้อยอย่างคนรู้สึกน้อยใจ พี่แดฮยอนของเขา
มักจะอยู่ในโลกของตัวเองจนไม่สนใจคนรอบข้างแบบนี้เป็นประจำ
“ผมมานานแล้วนะพี่แดฮยอน”
“เหรอ?”
เหรอ?
คำสั้นๆจากคนเป็นพี่ที่ทำเอาจงออบไปต่อไม่ถูก
ตั้งแต่วันที่แดฮยอนปาหัวเขาด้วยก้อนดินวันนั้น
จงออบก็ตั้งปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะจีบแดฮยอนให้ได้ จงออบพยายามจีบแดฮยอนมา 10
ปีแล้วแต่เหมือนว่าความสัมพันระหว่างเขากับแดฮยอนไม่คืบหน้าไปไหนจนจงออบเริ่มจะถอดใจ
“พี่แดฮยอนผมมีคูปองกินเค้กฟรี 2 ใบ
เลิกเรียนแล้วไปกินกันนะ?”
แต่ถึงอย่างนั้นจงออบก็ไม่ละความพยายาม เขาไปเล่นเกมชิงรางวัลมาตลอดทั้งวันเพื่อให้ได้คูปองร้านเค้กมาให้แดฮยอน
คนเป็นพี่ตาโต ก่อนจะยิ้มตาหยีออกมาจนทำให้คนที่กำลังมองอยู่ทั้ง 2 คน
อดที่จะเขินกับรอยยิ้มนั้นไม่ได้
ก็เวลาพี่แดฮยอนยิ้มจนตาหยี
แก้มขึ้นขีดหนวดแมวทีไร มันทั้งน่ารัก น่าฟัด จนอยากจับมาฟัดหนักๆให้หมดแรงคาอกมากเลยนี่นา
“นายจะให้ฉันทั้ง 2 ใบเลยใช่มั้ย?”
แดฮยอนถามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกายวิบวับจนจุนฮงที่เดินอยู่ข้างๆแอบหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นจงออบแอบหน้าเสียไปนิดหน่อย
“อะไรกันหล่ะ? พี่ไปกินกับผมสองคนสิ”
“สำหรับฉันชิ้นเดียวมันจะไปอิ่มอะไรกันหล่ะ?
ถ้านายไม่ยกให้ฉันทั้ง 2 ใบ ฉันไปกับจุนฮง ให้จุนฮงซื้อให้ก็ได้เว้ย”
จงออบหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนจะยื่นคูปองร้านเค้กที่ตัวเองอุตส่าห์ไปเล่นเกมมาได้ให้แดฮยอนอย่างจำใจ
คนเป็นพี่ยิ้มกว้างพลางคว้าคูปองมาไว้ในมือ ก่อนจะ...
ฟอด!!!
“ขอบใจเว้ย! ไอ้น้องชาย”
แดฮยอนวิ่งตัวปลิวเข้าโรงเรียนไปแล้ว
ทิ้งให้จงออบยืนตาค้างหน้าแดงอยู่หน้าโรงเรียนอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
ฝัน...
นี่มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ พี่แดฮยอนหอมแก้มเราโว้ย!!!
จงออบได้แต่ยิ้มค้างอย่างคนใกล้บ้าเต็มที
คูปองร้านเค้ก 2 ใบแลกกับการที่พี่แดฮยอนหอมแก้มเขา จงออบบอกเลยว่าโคตรคุ้มค่าครับ!
จุนฮงนั่งมองแดฮยอนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเองสลับกับจิ้มหมูในจานของเขากินอย่างคนไม่รู้สึกผิด
เขาและแดฮยอนมักจะมาทานข้าวเที่ยงด้วยกันแบบนี้เสมอ
เรื่องเมื่อเช้าทำให้จุนฮงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรไปว่าแดฮยอน
จึงทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆแล้วก้มหน้ากินข้าวในจานตัวเองที่หมูทอดของเขาหายไปเกือบครึ่ง
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
แดฮยอนมองหน้าคนเป็นน้องพลางถามออกมาอย่างคนขี้สงสัย
จุนฮงส่ายหน้าน้อยๆให้เป็นคำตอบ
ไม่ได้เป็นอะไรกัน
กลัวว่าถ้าพูดไปแล้วระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม...
“มีปัญหาอะไร ปรึกษาได้นะเว้ย!
ถึงฉันจะช่วยได้ไม่มากก็เถอะ”
“ผมบอกได้จริงๆเหรอ?”
“ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้หล่ะ?”
คนเป็นพี่ถามพลางมองหน้าคนเป็นน้องที่เอาแต่จ้องหน้าของตัวเอง
คิ้วสวยเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม ส่วนมือก็สาละวนกับการจิ้มหมูในจานของคนเป็นน้องเข้าปากตัวเองไม่หยุด
“ผมไม่ชอบที่พี่ทำกับพี่จงออบเมื่อเช้า”
“เห?”
“ผมไม่ชอบที่พี่หอมแก้มพี่จงออบ”
“...”
“ผมหวงพี่”
เหมือนมีค้อนใหญ่ๆทุบลงกลางหัวของแดฮยอน คนตัวเล็กได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายตาโตอย่างอึ้งๆ
ช้อนที่อยู่ในมือถึงกับร่วงลงทันที
“ห... หวงอะไร? บ้าน่า...”
พยายามแก้ตัวโดยการบอกปัดทุกสิ่งออกจากตัวเองเอาไว้ก่อน
แดฮยอนเม้มปากแน่นเมื่อเห็นคนเป็นน้องอมยิ้มเมื่อมองหน้าเขา
ความรู้สึกแปลกๆภายในอกกับอาการร้อนๆบนแก้มของตัวเองเป็นอาการที่แดฮยอนไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่นัก
“ผมพูดจริงๆ ผมหวงพี่”
“นาย... จะมาหวงฉันทำไมกันหล่ะ? ฮึ่ย! ฉันคอแห้ง
ฉันไปหาอะไรดื่มก่อนนะ”
ว่าแล้วแดฮยอนก็รีบวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
ปล่อยให้จุนฮงหัวเราะตามหลังเบาๆเมื่อเห็นอาการประหม่าทำอะไรไม่ถูกของแดฮยอน
จุนฮงยังยืนยันคำเดิม...
ว่าแดฮยอนน่ารัก น่ารักมากจนน่า... รัก
เลิกเรียนแล้ว แดฮยอนยังคงเตร็ดเตร่อยู่แถวๆหน้าโรงเรียน
คนตัวเล็กชะเง้อมองหาเด็กตัวสูงผิวซีด ที่ทุกทีเด็กนั่นต้องเป็นฝ่ายมารอเขา
แต่วันนี้เจ้าเด็กคนนั้นกลับหายไปไม่มารอเหมือนที่ควรจะเป็น
“หายหัวไปไหนของมัน?”
แดฮยอนเริ่มหงุดหงิด
ทั้งๆที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะชวนเจ้าเด็กนั่นไปกินเค้กแท้ๆ แต่กลับปล่อยให้เขารอ ปากอิ่มได้แต่บ่นงึมงัมให้เด็กตัวสูงที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน?
แดฮยอนทรุดตัวลงนั่งข้างฟุตปาธหน้าโรงเรียน มือเล็กกอดเข่าตัวเองเอาไว้
ตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความเย็นของอากาศช่วยปลายฤดูใบไม้ร่วง
เกือบ 6 โมงเย็นแล้วที่แดฮยอนยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
ปากอิ่มเริ่มซีดเพราะอากาศที่ยังคงเย็นลงอย่างต่อเนื่อง
มือเล็กกระชับกอดตัวเองให้แน่นเข้าไปอีก แดฮยอนเริ่มกระวนกระวาย
จุนฮงไม่เคยหายไปไหนโดยไม่บอกเขาแบบนี้เลยสักครั้ง
“ขอบใจนะจุนฮงที่อยู่เป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็เธอไม่สบายใจนี่นา
จะให้ฉันทิ้งเธอได้ยังไงหล่ะจอย”
“ยังไงก็ต้องขอบใจจริงๆนะ นายใจดีกับฉันมากๆเลย”
“อย่าคิดมากเลย ฉันเต็มใจอยู่กับเธอหน่ะ”
บทสนทนาจากหนึ่งในน้ำเสียงที่คุ้นเคยเรียกให้แดฮยอนสนใจได้ไม่ยาก
ตากลมโตมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินออกมาจากโรงเรียนด้วยท่าทางที่สนิทสนม
แดฮยอนได้แต่เม้มปากแน่น ใบหน้าเริ่มชากับสิ่งที่เห็น
เด็กหนุ่มผิวซีดตัวสูงที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
เดินออกจากโรงเรียนโดยมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักเดินมาด้วยข้างๆ
แต่เขาคงจะไม่รู้สึกอะไรถ้าคนสองคนนั้นไม่ได้เดินจับมือกัน...
อยู่ๆก็รู้สึกหน่วงบริเวณอกข้างซ้ายอย่างที่แดฮยอนไม่เคยเป็นมาก่อน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? แล้วไปสนิทกันตอนไหน? แล้วท่าทางสนิทสนมกันแบบนั้นคืออะไร?
ทำไมแดฮยอนไม่เคยรู้เลย?
“พี่แดฮยอน?”
ร่างสูงชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นแดฮยอนนั่งกอดเข่ามองมาที่ตัวเอง
ทำไมแดฮยอนถึงยังอยู่ที่นี่?
“เดี๋ยวสิ”
จุนฮงรีบตรงเข้าไปคว้าข้อมือคนเป็นพี่เอาไว้เมื่อเห็นแดฮยอนทำท่าจะเดินหนีตัวเอง
แดฮยอนไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องหนี
แต่เขาไม่อยากเห็นภาพที่จุนฮงจับมือกับผู้หญิงคนอื่น เขาไม่อยาก...
“อะ... อะไรของนาย? ปล่อยดิ๊ ฉันจะกลับบ้าน”
“แล้วทำไมพี่ถึงยังอยู่ที่นี่ทั้งๆที่พี่ควรกลับตั้งนานแล้ว?”
“ก็กำลังจะกลับนี่ไง ปล่อยดิ อากาศมันเย็นนะเว้ย! ฉัน...
จะรีบกลับบ้านไปซุกผ้าห่มอุ่นๆ”
แดฮยอนพยายามแกะมือที่เหนียวยิ่งกว่าปลาหมึกของจุนฮงออก
แต่เหมือนยิ่งแกะท่าไหร่เจ้าเด็กตัวสูงกลับเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือของแดฮยอนให้เพิ่มมากขึ้นจนแดฮยอนรู้สึกเจ็บ
“จุนฮง! มันเจ็บนะเว้ย!”
แดฮยอนโพลงออกไปอย่างเหลืออด
ก่อนจะดึงข้อมือตัวเองกลับแรงๆแล้ววิ่งออกจากตรงนั้นทันที
จุนฮงได้แต่มองตามพี่ตัวเล็กที่วิ่งหนีเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ แดฮยอนรอเขา
เขารู้... แต่เขาไม่คิดว่าแดฮยอนจะรอ ปกติคนตัวเล็กคนนั้นถ้าไม่เจอเขาที่หน้าโรงเรียนภายใน
15 นาที แดฮยอนเป็นต้องชิงกลับบ้านก่อน แต่วันนี้ไม่แบบนั้น...
ทำไมแดฮยอนยังรอเขาหล่ะ?
“มีอะไรรึเปล่าจุนฮง?”
“เปล่าหรอก กลับบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันไปส่ง”
จุนฮงส่งยิ้มบางให้หญิงสาวที่เป็นเพื่อนร่วมห้อง
ยังไงบ้านของเขากับแดฮยอนก็ใกล้กันอยู่แล้ว กลับบ้านแล้วค่อยไปถามก็คงจะไม่เป็นไร
...คงไม่เป็นไร
แต่เหมือนจุนฮงจะคิดผิด
เพราะเมื่อเขากลับบ้านมาแล้ว กลับพบว่าไฟในห้องของแดฮยอนปิดสนิท
ไร้ซึ่งเสียงโวยวายของคนตัวเล็กที่ทำสงครามกับมารดาทุกเช้าเย็น
ประตูระเบียงกับผ้าม่านที่เคยเปิดอยู่ตลอด วันนี้กลับปิดสนิท
ห้องของจุนฮงกับแดฮยอนหันหน้าเข้าหากัน ระเบียงห้องยื่นออกมาจนแทบจะชนกัน
มีเพียงรั้วเท่านั้นที่กั้นไว้ ทำให้แดฮยอนกับจุนฮงชอบปีนระเบียงข้ามไปมาหากันอยู่เสมอ
จุนฮงได้แต่มองระเบียงห้องตรงข้ามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ไม่รู้ว่าแดฮยอนจะกลับบ้านรึยัง? หรือไปเถลไถลอยู่ที่ไหน?
จะไปร้านเกมหรือจะไปเล่นกับจงออบ? ด้วยความเป็นห่วง
จุนฮงจึงปีนระเบียงข้ามไปหาอีกคนอย่างเคยชิน
ก๊อกๆๆๆ
“พี่แดฮยอน พี่กลับมารึยัง?”
“...”
“พี่อยู่ข้างในรึเปล่า?”
“...”
“มันค่ำแล้วนะ พี่ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”
“...”
แดฮยอนนอนคลุมโปงเงียบๆอยู่ในห้อง
มือเล็กกระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น
ปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างพยายามข่มไม่ให้เสียงของตัวเองเล็กลอดออกไปนอกห้อง
จุนฮงถอนหายใจออกมาอีกครั้งทำท่าจะหันหลังกลับ
แต่คนตัวสูงกลับหูดี เมื่อบังเอิญได้ยินเสียงจามกับเสียงไอเบาๆลอดออกมาจากในห้อง
ขายาวๆที่กำลังจะปีนระเบียงกลับเป็นต้องชะงัก
“พี่แดฮยอน เปิดประตูให้ผมหน่อย”
คนตัวสูงเคาะประตูระเบียงรัวด้วยความร้อนใจ
ในเมื่อแดฮยอนอยู่ แล้วทำไมถึงไม่ตอบเขาหล่ะ? ไม่สบายเหรอ? กินยารึยัง?
ภายในใจร้อนรนด้วยความเป็นห่วง แต่พี่ตัวเล็กยังคงเงียบเหมือนเดิม
จุนฮงจึงตัดสินใจปีนระเบียงห้องกลับเข้าห้องตัวเอง
แดฮยอนมองประตูระเบียงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
เขายอมรับว่าสิ่งที่เห็นเมื่อตอนเย็น แดฮยอนไม่ชอบใจเลยสักนิด
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่? แต่แดฮยอนไม่ชอบเห็นจุนฮงยืนข้างใคร
เดินข้างใคร หรือจับมือใคร
...นอกจากเขา
“พี่แดฮยอน!”
แดฮยอนสะดุ้งสุดตัว ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันทีก่อนจะมองไปทางประตูห้องของตัวเอง
เมื่ออยู่ๆจุนฮงก็พรวดพราดเปิดประตูห้องของเขาเข้ามา
จุนฮงมองคนเป็นพี่ที่นั่งทำหน้าตื่นๆอยู่บนเตียงก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเอ็นดู
มือหนาปิดประตูห้องโดยไม่ลืมล็อคห้องให้เรียบร้อย
“อะ... อะไรของนายเนี้ย? อยู่ๆก็พรวดพราดเข้ามา
บุกรุกเหรอ?”
แดฮยอนแสร้งทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนก่อนจะล้มตัวลงนอนตามเดิม
จุนฮงเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงของแดฮยอนให้สว่างกว่าเดิม
ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆคนตัวเล็ก
“ก็ผมเคาะเรียกแล้วพี่ไม่ยอมเปิดเองนี่นา”
“แล้วจะมาเคาะทำไมหล่ะ? แค่กๆๆๆ”
“เป็นไงหล่ะ? ตากลมไม่ยอมกลับบ้าน
เป็นหวัดเลยเห็นมั้ย?”
น้ำเสียงดุๆของจุนฮงทำเอาแดฮยอนเบะปากเล็กน้อยอย่างคนเตรียมจะงอแง
ก็ที่ต้องมาไม่สบายแบบนี้ก็เพราะนายไม่ใช่เหรอไอ้หมายักษ์?
ทำได้แค่เถียงในใจ แดฮยอนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงตัวเองแต่ก็โดนมือขาวซีดของคนที่บุกรุกห้องตัวเองดึงเอาไว้
“อย่าดื้อดิ เอาผ้าห่มมา”
“พี่นั่นแหละอย่าดื้อดิ”
“นายว่าฉันดื้องั้นเหรอ? ฉันเป็นพี่นายนะเว้ย!”
“แถมดื้ออีกต่างหาก”
“เจลโล่!”
“ครับ แดฮยอนนี่”
แดฮยอนเบะปากอย่างรู้สึกขัดใจ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเถียงไม่เคยชนะเจ้าเด็กนี่เลยสักครั้ง
ด้วยความน้อยใจจากเรื่องเมื่อตอนเย็น บวกกับอาการป่วยที่ดูท่าจะแย่ลง
ทำเอาคนตัวเล็กน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ร้องไห้ทำไมอ่ะพี่แดฮยอน?”
เมื่อเห็นน้ำตาของคนเป็นพี่
เด็กผิวซีดถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูก
เหมือนคำถามของคนเป็นน้องไปเปิดก๊อกน้ำตาของแดฮยอนให้ไหลออกมาหนักกว่าเดิม
“ฉันเกลียดนายอ่ะ ไอ้เด็กบ้า! ฉันเกลียดนาย!
ฮืออ”
จุนฮงหัวใจกระตุกวูบ หน้าชา
มือสั่นทันทีที่ได้ยินคำว่าเกลียดจากปากของคนตัวเล็ก แดฮยอนยังคงร้องไห้ไม่หยุด
มือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆของตัวเอง
“ทำไม...?”
“ฉันเกลียดนาย ฮึก! ฉันอุตส่าห์รอไปกินเค้กกับนาย
แต่นายกลับไปเดินจับมือกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ เกลียดนายอ่ะไอ้เด็กบ้า! ฉันเกลียดนาย!
ฮืออ”
จุนฮงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
คนตัวโตกว่าถือวิสาสะรวบเอาตัวของคนที่ร้องไห้งอแงเป็นเด็กเข้ามากอดไว้แน่น
“ผมก็นึกว่าเรื่องอะไร?”
“ฮืออ ปล่อยนะเว้ย! กลับบ้านนายไปเลยไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!”
“ที่แท้... ก็หึงนั่นเอง”
แดฮยอนถึงกับเงียบทันที ตากลมโตกระพริบถี่ๆเพื่อไล่น้ำตา
แก้มกลมๆขึ้นสีชมพูเรื่อชวนมอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการร้องไห้หรือกำลังเขินกับสิ่งที่ได้ยินกันแน่
“ม... ไม่เว้ย! หึงอะไรกันหล่ะ?
ฉันก็แค่... แค่...”
แดฮยอนเม้มปากตัวเองแน่น
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนที่เห็นจุนฮงจับมือกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเขาถึงได้รู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆแบบนั้น
“แค่อะไรครับ?”
“แค่...
แค่ไม่ชอบใจที่นายลืมฉันแล้วไปอยู่กับคนอื่น นายเป็นน้องฉันนะ...”
จุนฮงกระชับกอดแดฮยอนแน่นเข้าไปอีก
กลิ่นหอมๆจากสบู่ที่แดฮยอนใช้เป็นประจำทำเอาจุนฮงปั่นป่วนได้ไม่ยาก
“ถึงขนาดร้องไห้เลยเหรอ? ใครกันน๊าที่เคยบอกผมว่าผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ง่ายๆกันหน่ะ?”
“ก็... ฉันป่วยไงเล่า!
อย่ามายอกย้อน กลับบ้านของนายไปเลย ฉันจะนอนแล้ว”
แดฮยอนพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของจุนฮง
แต่เหมือนมันไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไหร่
จุนฮงรวบตัวคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งบนตักตัวเองก่อนจะเกยคางลงบนไหล่แคบของคนเป็นพี่เอาไว้อย่างถือวิสาสะ
“ทำอะไรวะ? ปล่อยดิเห้ย!”
แดฮยอนเปลี่ยนจากร้องไห้มาโวยวายแทน จุนฮงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กที่ดิ้นไม่หยุดอยู่บนตักของตัวเองไปฟอดใหญ่ แดฮยอนหยุดดิ้นทันที ก่อนที่ตาโตๆจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ
“ผมขอโทษนะที่ปล่อยให้พี่รอ
แต่ผมกับจอยไม่ได้มีอะไรเลยนะ ผมกับเขาเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ”
“เพื่อนประสาอะไรทำไมต้องจับมือกันด้วย?”
ปากอิ่มส่งเสียงงุ้งงิ้งๆทั้งๆที่เจ้าตัวยังคงก้มหน้างุดเพื่อซ่อนหน้าแดงๆของตัวเอง
จุนฮงยิ้มให้คนเป็นพี่อย่างเอ็นดู
“เขามาบอกชอบผมหน่ะ...”
แดฮยอนชะงัก
ปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะหันหน้าไปกัดแขนจุนฮงแรงๆ แค่ได้ฟังแค่นั้น
แดฮยอนก็รู้สึกไม่ชอบใจแล้ว มันคง... เป็นอาการของพี่ที่หวงน้องเฉยๆนั่นแหละ ได้แต่ปลอบใจตัวเองแบบนั้น
“โอ้ย! พี่แดฮยอน! ผมเจ็บ”
“ก็กัดให้เจ็บไง ฮึ่ย!
ปล่อยฉันเลยไม่ต้องมากอดแล้ว ฉันจะนอน ฉันปวดหัว ฮัดชิ้ว!”
ว่าแล้วก็จามใส่ไอ้เด็กจอมฉวยโอกาสนั่นไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
จุนฮงส่ายหน้าน้อยๆให้กับความคิดจะเอาตัวรอดแบบแปลกๆของแดฮยอน
ก่อนจะกระชับกอดเอวแดฮยอนให้แน่นเข้าไปอีก
“ฟังผมก่อนสิ เขามาบอกชอบผมก็จริง
แต่ผมไม่ได้ตกลงคบกับเขานะ”
“จะคบไม่คบมันก็เรื่องของนาย ปล่อยฉันได้แล้ว
ฉันอยากนอนแล้ว”
แดฮยอนมีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
คงเพราะฤทธิ์ไข้ที่เริ่มเล่นงานทีละนิด ทำเอาเรี่ยวแรงของแดฮยอนหายไปจนเกือบหมด
ถ้าเป็นตอนปกติ เขาคงถีบจุนฮงลงเตียงไปแล้วเรียบร้อย
ไม่มานั่งร้องไห้ให้ไอ้เด็กบ้าฉวยโอกาสแกล้งแบบนี้หรอก
“ฟังผมก่อน แล้วผมจะให้นอน แต่ถ้าพี่ไม่ไหว จะซบไหล่ผมไปก่อนก็ได้นะ”
“นายมันเผด็จการสุดๆเลยรู้ตัวบ้างรึเปล่า?”
บ่นไปงั้น แต่คนตัวเล็กก็เลือกเอนหัวตัวเองซบไหล่กว้างๆของเด็กผิวซีดเอาไว้
แดฮยอนเริ่มตัวรุมๆจนจุนฮงสัมผัสได้
“ผมปฏิเสธเขาไปแล้ว ผมคบกับเขาไม่ได้หรอก
พี่อย่าคิดมากเลย”
“ทำไมหล่ะ?”
ตากลมโตเอียงมาสบตาเรียวคมของคนเป็นน้อง
แดฮยอนในยามที่อาบไปด้วยพิษไข้ ดูนัยตาฉ่ำยั่วยวนอย่างบอกไม่ถูกในความคิดของจุนฮง
ลวนลามคนกำลังป่วย
จะผิดมั้ยครับ?
“เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วไง รักมานานแล้วด้วย”
“...”
“ผมรักเขามา 10 ปีได้แล้วหล่ะ
เขาเป็นคนน่ารักมากเลยนะ เมื่อก่อนเขาเคยช่วยผมตอนที่ผมโดนพี่จงออบแกล้งด้วย
พี่รู้จักคนๆนั้นรึเปล่า?”
“...”
แดฮยอนเห่อร้อนไปทั้งหน้า ใจเต้นรัวอย่างห้ามไม่อยู่
จุนฮงยิ้มให้คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มกลมๆที่ขึ้นสีจัดของอีกคนเบาๆ
“เพราะผมรักพี่ รักมาก รักมานานแล้ว รักได้แค่คนเดียวด้วย
ผมเลยบอกปฏิเสธจอยไป เขาร้องไห้ ผมเลยต้องอยู่ปลอบเขา พอเขารู้สึกดีขึ้น
เขาเลยขอเดินจับมือผมแล้วเขาจะไม่มายุ่งกับผมอีก มันก็แค่นั้นเอง...”
“ไอ้เด็กบ้า!”
“ด่าผมทำไมอ่ะ?”
“นายมันบ้า! นายมัน...
ฮืออ”
“ร้องไห้อีกแล้ว...”
จุนฮงเช็ดน้ำตาให้คนเป็นพี่เบาๆ ความรู้สึกของแดฮยอนตีกันจนเขาสับสนไปหมด
ตกใจ? ดีใจ? มีความสุข? ใครจะไปรู้ว่าไอ้เด็กข้างบ้านคนนี้มันจะรักเขา
“ตอนเด็กๆ พี่เคยปกป้องผม
ตอนนี้ให้ผมเป็นคนปกป้องพี่นะครับ”
“นายอย่า... ทำฉันร้องไห้อีกนะเว้ย!
มันไม่แมนเลยนะเว้ย!”
“แต่ผมชอบเวลาที่พี่ร้องไห้เพราะผมนะ
เพราะมันเหมือนว่าผมสำคัญกับพี่มากพอที่พี่จะร้องไห้ให้ผม”
“ไอ้เด็กโรคจิต!”
“ฮ่าๆๆๆ เป็นแฟนกับเด็กโรคจิตคนนี้ได้มั้ยครับ?”
“...”
“ผมไม่อยากเป็นแค่พี่น้องแล้ว
เพราะผมไม่ได้คิดกับพี่แบบนั้นมานานแล้ว นะครับ... ช่วยเป็นแฟนเด็กบ้าคนนี้จะได้มั้ยครับพี่แดฮยอน?”
รอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้แดฮยอนจากคนตัวสูงที่ยิ้มจนแก้มขึ้นลักยิ้มเล็กๆทำเอาแดฮยอนต้องหันหน้าหนีเพื่อหลบตาสายตาแพรวพราวที่จ้องมองตัวเองอยู่
เขายอมรับว่าไม่ได้รู้สึกกับจุนฮงแบบพี่น้องมานานแล้วเหมือนกัน
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าเขาเองก็รักไอ้เด็กบ้าตรงหน้านี้จริงๆ
“ก็ในเมื่อนายพูดมาขนาดนี้แล้ว... เป็นก็ได้...”
“ขอบคุณครับ!
แฟนผมน่ารักที่สุดเลย!”
แดฮยอนเขินจัดจนทำหน้าไม่ถูกที่โดนจุนฮงเรียกว่าแฟน
คนตัวสูงจัดการหอมแก้มกลมๆของแดฮยอนไปฟอดใหญ่ หอมซ้ำๆจนแดฮยอนต้องร้องห้าม
“พอ... พอแล้ว ช้ำแล้ว ทีนี้จะให้ฉันนอนได้รึยัง?”
จุนฮงยิ้มจนตาหยีส่งให้คนน่ารักตรงหน้าตัวเองก่อนจะค่อยๆจับคนตัวเล็กนอนลงแล้วลูบหัวกลมๆอย่างเบามือ
“ให้นอนได้แล้วครับ แต่...”
สายตาแพรวพราวของคนผิวซีดทำเอาแดฮยอนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
แต่กว่าจะได้ถามอะไรออกไป คนตัวสูงกว่าก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมเขาเอาไว้เรียบร้อย
ตาเรียวคมที่จ้องมองเขานั้นช่างเป็นอันตรายต่อหัวใจของแดฮยอนจริงๆ
“อะ... อะไรของนาย? ออกไปไกลๆดิ๊ เดี๋ยวติดไข้นะ”
“ผมกำลังจะช่วยลดไข้ให้พี่อยู่นี่ไง”
“อย่าทำอะไรแปลกๆนะเว้ย! ไม่งั้นฉันโวยวายเรียกแม่แน่ๆ”
“รับรองว่าไม่ทำอะไรแปลกๆแน่ๆ”
ไม่พูดเปล่าคนตัวสูงยังไล้มือลูบเอวเขาเล่นเบาๆ
ทำเอาแดฮยอนขนลุกทันที อาการสั่นน้อยๆของแดฮยอน ตากลมโตที่จ้องมองเขา
ใบหน้าเห่อแดงเพราะพิษไข้หรือพิษเขินเขาเองก็ไม่แน่ใจ
ปากอิ่มที่เผยอเล็กน้อยนั้นดูยั่วยวนจุนฮง จนคนตัวสูงแทบจะสะกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
“ฉันไม่เล่นนะจุน... อุ๊บ!”
จุนฮงปิดปากอิ่มที่เอาแต่พูดไม่หยุดของคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยริมฝีปากของตัวเอง
แดฮยอนได้แต่เบิกตาอย่างตกใจ สัมผัสจากคนตัวสูงกว่าทำให้ภาพตรงหน้าค่อยๆพร่าเลือนไปอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจตอบตกลงคบกับเจ้าเด็กนี่
แดฮยอนยืนยันอีกครั้งว่าจุนฮงหน่ะ
เจ้าเล่ห์และเผด็จการที่สุดเลยครับ!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กว่าจะได้อัพ เจอปัญหามากมายจากโน๊ตบุคกากๆที่ใกล้จะเกษียรตัวเองเต็มที ฮ่อลลล
แต่ก็อัพได้แล้ว ผ่านไปได้ด้วยดี เอ้า! ฉลองงงง
มาอัพซะเช้าเลย ถือว่าต้อนรับเดือนกรกฎา ก็แล้วกันเนอะ ^^
ไม่รู้ว่าเมนูเค้กชิ้นนี้จะเป็นยังไงบ้าง? จะถูกใจรึเปล่า?
คอมเม้นขอได้นะว่าอยากให้เขียนคู่ไหน? แต่ขอเป็นคู่ที่ แดฮยอนนี่ เคะนะครับ
เจอกันกับเมนูหน้านะครับ!!
ความคิดเห็น