ตอนที่ 21 : Promotion Part2
“นายมาที่นี่ทำไม? ฉันจำว่าไม่ได้เรียก” บอร์ฆาพูดเสียงเข้ม ออร่าความกดดันที่ออกมาจากบอร์ฆาทำให้เฟยฉางหลุดจากความมึนงงที่ได้รับ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าแล้วเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนอย่างสงบเสงี่ยม
“ยกโทษให้ฉันด้วยที่ฉันมาโดยที่นายไม่ได้เรียก..”
“ทำไมฉันต้องยกโทษให้นาย?” บอร์ฆานั่งอยู่บนเก้าอี้วางขาพาดลงบนโต๊ะตัวเตี้ยด้านหน้า
เพราะฉันคงเข้ามาไม่ได้ถ้านายไม่ปล่อยให้เข้ามา เสียงดังในความคิดของเฟยฉางแต่ความเป็นจริงคือ
“เพราะฉันมาช่วยนายแก้ไขปัญหาไง”
บอร์ฆามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ “นาย มนุษย์ อยากช่วยฉัน?”
เฟยฉางยืนนิ่งแทนการตอบรับ
“ฮึ่ม” บอร์ฆาเมินหน้าหนีอย่างรังเกียจ “เสียเวลาฉันเปล่าๆ ออกไปได้แล้ว”
“ฉันเชื่อว่านายต้องเปลี่ยนความคิด ถ้าได้ฟังแผนของฉัน” เฟยฉางกล่าวขณะที่คอยระแวงทุกครั้งที่เห็นบอร์ฆาขยับตัว
“แผน?” บอร์ฆาวางขาลงพื้นและยืนขึ้น ใช้น้ำเสียงเย่อยิ่งพูดต่อ “แผนของนายทำให้มิคาเอลตกนรกได้ไหม?”
เขาชะงักในหัวเฟยฉางเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ทำไมมิคาเอลต้องตกนรก?
“แผนการของนายทำให้เทวดาตกได้ไหม?”
“ฉันทำให้จินตกได้” เฟยฉางรีบตัดบทก่อนบอร์ฆาจะเสนออะไรที่ยิ่งใหญ่ไปมากกว่านี้
“หืม.. มีอะไรดีขนาดนั้น?” บอร์ฆาสยายปีกเล็กๆของตัวเองและบินจากเก้าอี้ไปที่เตียง
นี่แปลว่าการเจรจาล้มเหลวหรือเปล่า ? เฟยฉางหันรีหันขวางอยู่ครู่ก็ตัดสินใจเดินออกจากห้อง
“มาตรงนี้ไวๆ” เสียงที่ดังมาตามหลังของบอร์ฆาทำให้เขารีบหมุนตัวกลับเข้าไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขารีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากันหน้าและหัวตัวเองทันที ในฐานะที่มีสติปัญญาสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างเขา เขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไว้ก่อน
บอร์ฆาเอนหลังพิงกับหัวเตียง มองที่จมูกของเฟยฉาง “นายบอกว่ามีแผนที่จะทำให้จินเจอดี”
เฟยฉางรีบพยักหน้าด้วยความรวดเร็วราวกับมีดที่อันโตนิโอ้ใช้สับผัก
“ทำไมนายถึงช่วยฉัน” บอร์ฆาถาม “นายไม่ได้เกลียดฉันหรอ?”
นี่นายก็รู้หรอ?
เฟยฉางโต้กลับในใจ ก็แน่อยู่แล้วละใครจะกล้าพูดออกมากัน “แต่ฉันมีเงื่อนไขบางอย่าง”
สายตาของบอร์ฆาที่มองมาเข้มขึ้น “นายขู่ฉัน?”
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ขู่นายแน่นอน ฉันแค่อยากได้ความช่วยเหลือจากท่านลอร์ดบอร์ฆาเท่านั้น ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความพยายามจะทำอะไรเลย”
บอร์ฆาไม่พูดอะไรอีกนอกจากจ้องมองอย่างนิ่งเงียบ จนเฟยฉางเริ่มรู้สึกท้อแท้
“ราคาของนายคืออะไร”
(TL ; ตรงนี้หมายถึง ความช่วยเหลือที่เฟยฉางต้องการ เป็นราคาของค่าแผนการที่จะทำกับจินนะขอรับ)
“ฉันต้องการให้นายสาบานว่าจะไม่แตะต้องส่วนใดในร่างกายของฉันอีก ไม่ว่าจะโดยตรง หรือทางอ้อมอย่างวัตถุ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” หลังจากได้รับบาดเจ็บติดต่อกันสามครั้งในวันเดียว ทำให้ความกลัวของเขาเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
“อ่อ นายแค่อยากให้ฉันเลิกตีนายอย่างนั้นหรอ?”
“ ‘ตี’ ดูเหมือนจะเป็นคำที่กว้างเกินไป จะดีกว่านี้ถ้าจำกัดความให้แคบลงกว่าเดิม”
บอร์ฆาพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ก็ได้”
“งั้น..นี่หมายความว่านายจะไม่ทำร้ายฉันอีกใช่ไหม?” เฟยฉางใจจดใจจ่อรอคำตอบที่จะได้รับ
"อือ" บอร์ฆาส่งเสียงในลำคอยืนยัน
“นายจะไม่กลับคำพูดใช่ไหม?”
บอร์ฆากรอกตาพร้อมส่งเสียงข่มขู่ “นายไม่เชื่อคำพูดฉันงั้นหรือ มนุษย์”
หักหลังเพื่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง สมกับที่เป็นมนุษย์ เลื่อนจากคนอ่อนแอเป็นคนรับใช้ได้ไม่ถึงวัน
“เอิ่ม..แน่นอนว่าฉันไว้ใจนายมากที่สุด ลอร์ดบอร์ฆาที่ยิ่งใหญ่แม้จะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ ฉันก็มั่นใจว่าสติปัญญาและความแข็งแรงของนาย ไม่มีใครเทียบเทียมได้”
ไม่มีใครเทียบเทียมได้เพราะไม่มีใครอยากถูกเทียบเทียมกับเขา เฟยฉางพูดต่อในใจ
บอร์ฆาลูบคางตัวเอง “อ่อ ใช่ นายเพิ่งจะ ยี่สิบ- อะไรซักอย่างใช่ไหม?”
“ใช่..” มันแปลกๆที่โดนพูดว่า เพิ่ง ยี่สิบอะไรซักอย่าง จากคนที่หน้าตาเหมือนเด็กประถม
“ซึ่งหมายความว่านายอายุน้อยกว่าฉันเกือบสี่ร้อยกว่าปี”
..นี่เป็นความคิดที่อันตราย เฟยฉางเลือกที่จะจ้องมองเด็กชายตรงหน้าเงียบๆ
“แต่ฉันคิดว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ มีทารกมากมายเช่นนาย แม้แต่ในนรกทารกแรกเกิดตายก็ถมเถไป”
เสียงที่สะท้อนออกมา..
ทารกเหมือนนาย..
ความตายของทารกแรกเกิด..
เซลล์สมองของเฟยฉางอยู่ในภาวะหวาดผวาจนทำอะไรไม่ถูก บอร์ฆาที่รอมานานแล้วเลยพูดว่า
“ทำไมนายยังยืนงี่เง่าอยู่ตรงนั้น ไหนละแผนของนาย?”
เฟยฉางหลุดออกจากความคิดตัวเอง “จินมีจุดอ่อนที่ใหญ่มาก”
บอร์ฆากระตือรือร้นขึ้นมา “จริงหรอ? ฉันต้องแทงตรงนั้นเพื่อฆ่าเขาใช่ไหม?”
“เอ่อ...ฉันไม่ได้หมายความว่าจุดอ่อนแบบนั้น”
“แล้วมันคืออะไร?”
“ฉันหมายถึงจุดอ่อนภายในจิตใจ”
บอร์ฆาเสียงแข็งขึ้นมาทันที “จิตใจของคนชั่วช้าแบบนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย มันไม่มีความหมายสำหรับฉัน ถ้าพูดถึงจุดอ่อนมันต้องหมายถึงความอ่อนแอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!”
เฟยฉางปาดเหงื่อ “ถ้านายหยุดหมอนั่นจากการเป็นโรคจิตที่น่ารังเกียจได้แล้ว ทุกอย่างก็จะเงียบสงบ”
“แล้วนายมีไอเดียยังไง?”
“เราจะเริ่มด้วยฮิวจ์”
“มนุษย์ล่องหน?” บอร์ฆาขมวดคิ้วฉับ “ฉันมองไม่เห็นคุณลักษณะอื่นๆ นอกจากถอดเสื้อผ้าเร็ว”
“เขาค่อนข้างใส่เร็วด้วยเหมือนกัน” เฟยฉางแก้ไข ก่อนทุกอย่างจะกลับมาเงียบอีกครู่ใหญ่ เมื่อเห็นบอร์ฆาเงียบไปเขาจึงรีบขยี้ต่อ
“สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ แม้จินจะเป็นโรคจิต วิปริตที่สนใจแต่เรื่องของฮิวจ์ แต่เราเอาจุดนี้มาใช้ประโยชน์ได้”
“ฉันกำลังคิดจะจัดเตรียมกรงเหล็กขนาดใหญ่ไว้ขังไอ้โรคจิตจิน แต่ฉันยังไม่มีวิธีที่จะพามันเข้าไป ความคิดนายอาจจะมีหวังขึ้นมาบ้าง”
...ขังจินไว้ในกรงเหล็ก? .. เฟยฉางไม่สามารถห้ามจินตนาการภาพที่ผุดในหัวได้เลย พวกเขาจะเก็บค่าเข้าชมด้วยไหมหากมีแวมไพร์ไว้ในสวนสัตว์?
“เราสามารถลักพาตัวมนุษย์ล่องหนแล้วจับยัดเข้าใส่กรงก่อน และเมื่อจินก้าวเข้าไปข้างในฉันก็จะปิดประตูทันที หึหึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันจะขังมันได้ทันที”
เฟยฉางมองคนอายุมากกว่าสี่ร้อยปีที่กำลังอยู่ในความคั่งแค้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความปลงตก นี่คือขอบเขตของสติปัญญาพวกตกสวรรค์หรือไม่?
“เอ่อ.. แล้วกรงจะเอามายังไง?” สิ้นคำถามเสียงหัวเราะก็หยุดลง บอร์ฆาตวัดตามองเขา
“..แล้วความคิดยิ่งใหญ่ของนายคืออะไร?”
เมื่อเห็นว่าเขาตกหลุมพรางแล้วเฟยฉางก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของฮิวจ์ แล้วจินกำลังวางแผนจัดปาร์ตี้ให้เขา ฉันคิดว่าจะมอมเหล้าเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทันทีที่หมอนั่นเมา.. เหอะๆ”
“มนุษย์ล่องหนมีวันเกิดด้วยหรอ การเฉลิมฉลองพวกนี้มันไม่ใช่สิ่งงี่เง่าที่มนุษย์ทำกัน?” มนุษย์ มีแต่ความอ่อนแอ และ โง่เง่าเท่านั้น
เฟยฉางเงียบแล้วจดความแค้นนี้ไว้ในใจ “มันเป็นเรื่องจริง เพราะฮิวจ์กับจินเพิ่งผ่านช่วงสงครามเย็นมา - ไม่สิ จริงๆแล้วยังไม่ถือว่า – นั่นเป็นเหตุลที่เขาคิดจะจัดงาน – “
“ฉันไม่สนใจเรื่องน่าขยะแขยงพวกนั้น ถ้าไอ้โรคจิตนั่นจะจัด ฉันก็จะไปงานวันเกิดกับนาย”
“ไม่ได้!” เมื่อดวงตาวาววับของบอร์ฆาหันมามองเฟยฉางรีบแก้ตัว “จินคิดมาเสมอว่านายเป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุด เขาจะเลิกตั้งแง่แล้วดื่มกับนายได้ไง?”
บอร์ฆาครุ่นคิด สรุปว่าเขายังเป็นปัญหา “แล้วแผนของนายคือ?”
“ฉันจะอาสาจัดสถานที่วันนี้ ธีมของมันคือ ความสัมพันธ์ อาคาร ‘ลัง’ ฉันจะใช้มันเป็นข้ออ้างในการขนลังจำนวนมากเข้าไปด้านใน ฉันแน่ใจว่าจินจะต้องพอใจกับมัน นายไปอยู่ในลังใดลังหนึ่งในนั้น มั่นใจได้เลยว่ามันต้องสมบูรณ์แบบ”
บอร์ฆาจ้องเขาเพียงครู่ ทันใดนั้นเขาก็กระโดดลงบนเตียงอย่างตื่นเต้นพร้อมกับพึมพำ “มนุษย์เป็นคนฉลาดแกมโกงอย่างแท้จริง ชั่วร้ายมาก!”
...จากคนโง่ทึ่มกลายเป็นคนชั่วร้าย นี่อาจเป็นเพียง โปรโมชั่น
__
ในที่เกิดเหตุ
ป้ายขนาดใหญ่เขียนด้วยลายมือสะกดคำว่า ความสัมพันธ์ อาคาร ‘ลัง’ มันถูกห้องอยู่ตรงกลางห้องจัดเลี้ยง แสงไฟสว่างสดใสปกปิดข้อบกพร่องบางส่วนได้บ้าง ลังถูกจัดวางอย่างส่งเดชรอบๆสถานที่อยู่ประมาณ สิบเจ็ดถึงสิบแปดลัง หลากหลายสีสัน
บนโต๊ะที่เชื่อมต่อยาวเพื่อให้ครอบคลุมมากกว่าสิบเมตรเต็มไปด้วยของอร่อย กลิ่นหอมหวานของไวน์ลอยไปบนอากาศ แอลกอฮอล์ แดง เหลือง และ ใส เหมือนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของพวกเขา
จินคว้าแก้วไวน์ไว้ในมือ
“กล่องไหนบอร์ฆา?” เขาพึมพำเบาๆข้างเฟยฉาง
เฟยฉางจึงชี้ไปที่ด้านหน้า ใต้ป้าย ความสัมพันธ์ อาคาร ‘ลัง’ เป็นกล่องสีดำขนาดใหญ่มีกระดาษาติดอยู่ด้านหน้าเขียนว่า ถังขยะ
จินมองไปรอบห้อง อาซากำลังเลือกอาหารของเขา เลย์ตันจ้องเขม็งมาที่พวกเขา ขณะที่ฮิวจ์ในเสื้อสีเงินเดินผ่านประตูทางเข้า
“นายไม่คิดว่าที่นี่คนน้อยไปหรอ?” มันเป็นวันเกิดของฮิวจ์ทั้งที มันควรจะมีคนเยอะกว่านี้หรือเปล่า จินไม่ค่อยสบายใจนัก
“เราควรเรียก เดีย และ อันโตนิโอ้หรอ? ตอนนี้อันโตนิโอ้ทำอาหารอยู่ก็ถูกแล้ว” เฟยฉางกระซิบแล้วพูดต่อ
“นายคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเดียและอันโตนิโอ้รู้ว่าเรื่องนายกับฮิวจ์เป็นแผน?”
ใบหน้าของจินว่างเปล่าอีกครั้ง “พวกเขาจะฆ่าผู้วางแผนที่ชื่อขึ้นต้นด้วย F’
เฟยฉางชะงักก่อนถอนหายใจ “งั้นปล่อยให้ความลับนี้ยังคงเป็นความลับต่อไปดีไหม?”
จินเดินเข้าไปหาฮิวจ์ใกล้ๆ “ทำไมมาช้าจังที่รัก? หัวใจของฉันแทบจะแตกสลายเมื่อเราอยู่ห่างกัน”
ฮิวจ์ยิ้มบางๆส่งให้ และรับมุขต่อจินทันที “ฉันจะเป็นคนประกอบให้เอง”
เฟยฉางหันหลังให้กับบรรยากาศสีชมพูอมม่วงทันทีและขัดจังหวะด้วยเสียงโห่ร้องของตัวเองแทน
“IT’S PARTY TIME!! มาสนุกกับปาร์ตี้นี้กันเถอะ!”
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่บุคคลที่นั่งยองๆอยู่ในลังกลับรู้สึกถึงลางสังหอนบางอย่างที่ไม่รุนแรงมากนัก
โถๆ พ่อถังขยะน้อย นั่งอยู่ในนั้นต่อไปก่อนนะขอรับ
มาดูกันตอนหน้าว่าเฟยฉางและพวกจะแกล้งท่านบอร์ฆายังไงนะขอรับ
//ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ด้วยขอรับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แอบสงสัย ตรงที่บอกว่าอยากให้ไมเคิลตกนรก
อันนี้จะแปลเป็นมิคาเอลหรือเปล่าคะ
ถ้าตามทางคริสต์ มิคาเอลเป็นอัครทูตสวรรค์
(แปลเป็นไทยแล้วแปลกๆ อังกฤษ คือ archangel) ที่เป็นคนทำสงครามชนะซาตาน