คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : PHOTOS ; 19 { 100 per. }
19
ความเคยชินทำให้คนที่นอนหลับปุ๋ยบนเตียงสะดุ้งตื่นตอนแปดโมงเช้าของวันใหม่ ดวงตากระพริบปริบๆ ปรับสภาพก่อนจะรีบผุดลุกขึ้นนั่งเพราะเริ่มนึกเรื่องราวเมื่อคืนได้ อี้ชิงต้องตื่นมาเผชิญกับความอายรุนแรงในตอนเช้า สะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปมองกระจกแล้วเห็นรอยแดงจางๆ อยู่รอบคอ
อี้ชิงกับคุณคริส
...เมื่อคืน อี้ชิงกับคุณคริส?
ช่างภาพตัวขาวหยิกแก้มตัวเองแรงๆ กับสิ่งน่าอายที่ตัวเองทำลงไป เมื่อคืน...ถึงมันจะไม่เลยเถิดไปขนาดนั้นก็เถอะ ยังดีนะที่ตื่นมาแล้วยังมีเสื้อตัวหลวมโคร่งของคุณแรพเปอร์คนดังอยู่บนตัว อี้ชิงกระวีกระวาดก้าวขาลงเตียงก็ต้องสะดุดหายใจเพราะเสื้อผ้าเมื่อวานของตัวเองที่หล่นกระจายอยู่บนพื้น
“ นี่มัน...นี่มัน... ”
อยากจะหนีมุดดินลงไปซะพ้นๆ เลยจางอี้ชิงคนบ้า! เมื่อคืนทำไมไม่อายเท่าตอนเช้าล่ะเนี่ย! คุณแรพเปอร์คนดังที่อ่อนโยนคนนั้น...แค่คิดหน้าก็ร้อนจนแทบจะระเบิด อี้ชิงรีบคว้าเสื้อผ้าตัวเก่าของตัวเองมากอดแนบอก มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครก็รีบวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำทันที
“ อ๊ะ! ”
“ ตื่นมาก็ซุ่มซ่ามเลยนะครับหืม...จางอี้ชิง ”
จู่ๆ ก็มีคนนึงเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี แผ่นอกกว้างอยู่ในระดับสายตากลม ช่างภาพตัวขาวหายใจติดๆ ขัดๆ น่าอายเป็นบ้า ทำท่าจะเงยหน้ามองแต่ก็ไม่ยอมเงยสักทีจนคุณแรพเปอร์คนดังต้องช้อนคางขึ้นสบตา
“ หน้าแดงหมดแล้วนะครับ เขินล่ะสิ เมื่อคืนพวกเราออกจะมีความสุข ”
“ เมื่อคืนผม...มันก็...ผม...คือมัน... ”
“ ไปแต่งตัวสิครับ ยืนใส่เสื้อตัวเดียวแบบนี้ระวังผมไว้หน่อยก็ดีนะครับJ ”
ไอ้การกระตุกยิ้มเจ้าชู้นี่อี้ชิงเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกตั้งรับไม่ถูก ได้แต่วิ่งหน้าแดงหูแดงเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูดังปัง! คล้ายจะได้ยินเสียงหัวเราะแว่วเข้ามาแต่ตอนนี้อี้ชิงคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว ก้มมองเสื้อที่มีแต่กลิ่นคุณคริสแล้วก็แทบทึ้งหัวตัวเองเพราะความเขิน
“ ฮื่อออ เมื่อคืนมีความสุขขนาดนั้นเลยรึไงนะจางอี้ชิง! ”
หมดกัน...อี้ชิงอายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
ในหัวมีแต่ภาพลามกเต็มไปหมดเลย งื้ออออ
อี้ชิงรีบแต่งตัวลวกๆ มองหน้าแดงแจ๋ของตัวเองในกระจกอย่างหมายมั่น วันนี้ต้องชิ่งหนีไปก่อน...ขืนอยู่ต่ออี้ชิงจะได้เขินตายแน่ๆ ฮื้อออ คุณคริสครับ อี้ชิงขอกลับไปตั้งหลักใหม่ก่อนนะครับ!
คริสยังคงใส่แค่กางเกงขายาวตัวเดียวเดินไปมาในห้องครัวเล็กๆ ในคอนโดของตัวเอง มื้อเช้าง่ายๆ สไตล์อมเริกันเช่นไข่ดาว ไส้กรอกกับสเต็กถูกตักใส่ลงบนจาน คิดถึงหน้าแดงจัดกับดวงตาที่แลกแลกไปมาร้อนรนของคนที่เพิ่งวิ่งหนีไปในห้องน้ำแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้เลยจริงๆ
แค่คิดว่าถ้าได้ทำอะไรๆ จางอี้ชิงมากกว่าเมื่อคืนแล้วจะเป็นยังไงนะ? บางทีจางอี้ชิงอาจจะเขินจนสลบไปเลยก็ได้ จัดการอาหารเช้าเสร็จก็นั่งเคาะโต๊ะรอใครอีกคน นานหลายสิบนาทีจางอี้ชิงก็ไม่ยอมโผล่หน้าหวานๆ แก้มแดงๆ ออกมาสักทีจนคริสต้องลุกไปตาม
ประตูห้องถูกเปิดแง้มเอาไว้
คีย์การ์ดที่จำได้ว่าวางไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงกลับถูกวางหมิ่นเหม่บนโต๊ะใกล้ๆ ประตูแทน นึกแล้วอดหมั่นเขี้ยวคนที่หนีไปไม่ได้ คริสส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกไปปิดประตูห้อง เสื้อยืดตัวใหญ่ของเขาที่จางอี้ชิงเคยใส่ถูกพับวางเรียบร้อยบนเตียงยับๆ กลิ่นหอมประจำตัวช่างภาพตัวขาวลอยฟุ้งจนต้องกดจมูกลงไปสูดดม ให้ตายสิ...จางอี้ชิงนี่ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย
สงสัยต้องแกล้งต้อนคนขี้อายซะหน่อยแล้ว
“ เฮ้อ...ถูกฟันแล้วทิ้งเหรอเนี่ย แย่จัง ”
พูดเสียงเศร้าแต่ใบหน้ากลับระบายยิ้มสนุกสนานซะงั้น
ช่างภาพตัวขาวกำลังเผชิญกับวันที่ยากลำบากสุดขีด...ข้างซ้ายเป็นคุณเจสสิก้ายืนเกาะแขน ข้างขวาเป็นคิมแทยอนที่ชะโงกหน้ามาใกล้ อี้ชิงพยายามระงับอาการลนลานเอาไว้แต่มันยากเหลือเกิน
“ เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง? คริสไม่ได้ทำอะไรนายใช่มั้ย? ”
“ ก็ดี...ดี...ไม่...คุณคริสไม่ได้ทำอะไรเลย ”
“ แน่นะ? ”
“ อื้ม! แน่...แน่สิ! ฮะๆๆ ”
ทั้งสองคนไม่เชื่อเขาหรอกสายตามันฟ้อง อี้ชิงเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้เหมือนมีไฟมาลน บังคับสายตาให้อยู่นิ่งๆ หรือสบตาใครไม่ได้เลย คิมแทยอนหรี่ตาลงอี้ชิงก็รีบละลักละล่ำบอก
“ แค่มีซาแซงแฟนตามมาน่ะ! เกือบโดนจับได้แล้วนะรอดมาหวุดหวิดเลย ”
“ แล้วจะอ้ำๆ อึ้งๆ ทำไม บอกมาแต่แรกก็จบแล้ว ”
“ ก็คนมันตกใจนี่นา... ”
ดูเหมือนว่าซาแซงแฟนจะเป็นปัญหาใหญ่ใช่เล่นคิมแทยอนถึงได้เชื่อสนิทใจโดยไม่ลืมกำชับอี้ชิงว่าให้ระวังตัว ช่างภาพตัวขาวแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่ก็เกือบลืมไปว่ามีคุณนางแบบดังนั่งประกบอยู่ข้างๆ อี้ชิงนั่งตัวเกร็งโดยอัติโนมัติเมื่อรอยยิ้มหวานถูกส่งมาให้
“ โกหกไม่เก่งเลยน้าาา ”
“ อะ...อะไรกันครับ? ”
อี้ชิงมองตามมือของคุณนางแบบดังชี้ไปตรงคอตัวเอง
“ หลักฐานเต็มสองตาเลยนะคะเนี่ย คิกคิก ”
“ …!!! ”
“ เฮ้อ ไปดีกว่า...เดี๋ยวคนแถวนี้เขินตายซะก่อน ”
...ไม่ทันแล้วละมั้งครับ
คุณเจสสิก้าลุกไปพร้อมกับทิ้งระเบิดลูกโตเอาไว้ให้อี้ชิงได้อายเล่นๆ อี้ชิงฟุบหน้าลงกับโต๊ะรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองมันร้อนมากแค่ไหน นี่โทรศัพท์ยังไม่กล้าเอาขึ้นมาดูเลยเพราะวอลเปเปอร์มันเป็นรูปคุณแรพเปอร์คนดัง โอ๊ยย อี้ชิงจะเผชิญหน้ากับเขายังไงนะ!
ถึงจะ...มีความสุขอยู่ด้วยกันค่อนคืนก็เถอะ
“ เลิกติดต่อไปสักระยะดีมั้ยนะ...? ”
เพราะงานที่ทำอยู่สนุกมากซะจนอี้ชิงลืมเรื่องที่ตัวเองกังวลใจไปซะสนิท อี้ชิงยังคงเป็นตากล้องที่ดีของคุณนางแบบดังในการถ่ายภาพเซ็ตสุดท้ายนั่นก็คือ Wedding Dress ในโบสถ์แบบคาทอลิกแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองแต่กลับสงบเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ
ชุดแต่งงานสีขาวสะอาดบนร่างกายบอบบางของคุณนางแบบดังแล้วยิ่งดูสวยสง่า อี้ชิงแอบเห็นนะว่าคิมแทยอนมองตาไม่กระพริบเลย นายแบบหน้าใหม่อีกคนแต่งตัวในชุดเจ้าบ่าวดูดีไม่แพ้กัน เมื่อยกกล้องขึ้นอี้ชิงก็ได้บันทึกรูปถ่ายสวยๆ เพิ่มอีกรูป รู้สึกดีที่ได้กดชัตเตอร์ให้ภาพสวยๆ ตรงหน้า
“ ช่วยถ่ายรูปฉันกับคุณคิมหน่อยสิคะจางอี้ชิง ”
ช่างภาพตัวขาวพยักหน้ายิ้มๆ มองคิมแทยอนที่ยังเฉยชาแล้วก็อดขำไม่ได้ ตั้งแต่คบกันมาหลายปีอี้ชิงยังไม่เคยเห็นใครบังคับหรือจื้อคิมแทยอนได้เลยสักคน จะมีก็แต่คุณเจสสิก้านี่แหละ...คนแรกเลย
“ วันนี้ฉันยอมเป็นเจ้าสาวคุณคิมหนึ่งวันนะคะ ”
“ เจ้าสาวอะไรกันคะ... ”
คิมแทยอนปฏิเสธเสียงแข็งแต่หน้ากลับขึ้นสีแดงซะงั้น คุณเจสสิก้าคล้องแขนเจ้าบ่าวจำเป็นเอียงคอซบไหล่แล้วฉีกยิ้มหวาน คิมแทยอนคลี่ยิ้มบางๆ อี้ชิงก็กดชัตเตอร์ทันที
แชะ!
มีคนบอกว่าไม่มีคู่รักคู่ไหนที่สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ต้น
เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงต้องค่อยๆ จูนเข้าหากันทีละนิด...ทีละหน่อย
พนันได้เลยว่ารูป Wedding รูปนี้คงจะบรรยายสองประโยคข้างต้นได้ดีเลยทีเดียว
งานผ่านไปได้ด้วยดีจนอี้ชิงปลาบปลื้มใจ ช่างภาพตัวขาวปฏิเสธที่จะไปกินเลี้ยงกับทีมงานเพราะอยากเที่ยวโบสถ์ต่อ อี้ชิงไม่เคยมาโบสถ์เลยสักทีเพราะเอาแต่วิ่งตามถ่ายรูปคุณแรพเปอร์คนดังจนหัวหมุน ที่จริงก็คิดถึงนะ...แต่อี้ชิงอายนี่นา อายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
“ มีตู้สารภาพบาปอยู่ตรงโน้นแน่ะ... ”
“ ช่างเถอะน่า เดี๋ยวต้องไปกินเลี้ยงปิดกองต่อนะ ”
“ นานๆ จะมาทีนี่ ”
“ โอ๊ยย ช่างเหอะน่า! ไปๆ ขึ้นรถได้แล้ว ”
เสียงพูดคุยของทีมงานดังใกล้ๆ อี้ชิงก็หูผึ่งอย่างสนใจ ตู้สารภาพบาปยังงั้นเหรอ? ดีเลยสิ นี่อี้ชิงมีเรื่องอยากจะระบายเต็มไปหมด ช่างภาพตัวขาวสะพายเป้เดินก้าวเร็วๆ ไปหาทีมงานสองคนนั้นทันที พวกเขาหันมามองอี้ชิงคล้ายจะแปลกใจเล็กน้อย
“ อ้าว คุณช่างภาพจาง ”
หนึ่งในนั้นร้องทักอย่างเป็นมิตร อี้ชิงยิ้มบางโค้งให้เล็กน้อย
“ ขอโทษนะครับ คือผมอยากรู้ว่าตู้สารภาพบาปที่พวกคุณพูดถึงมันไปทางไหนเหรอครับ? ”
“ อย่างนี้นี่เอง ด้านโน้นครับ เลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ”
“ ขอบคุณมากเลยครับ ”
อี้ชิงเพียงแค่เดินมาตามทางประดับสวยงามก็ได้เจอกับที่ๆ คาดว่าเป็นตู้สารภาพบาปโดยไม่หลงไปไหน ยืนลังเลใจอยู่นานกว่าจะเดินเกร็งๆ ไปนั่งตรงเก้าอี้อย่างสงบเสงี่ยม มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจคลายความตื่นเต้นบ้าง
“ มีอะไรอยากจะสารภาพยังงั้นเหรอ? ”
ช่างภาพตัวขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงดังขึ้นตรงหน้าตัวเอง มันมาจากข้างในกล่องสี่เหลี่ยมนี่เอง อี้ชิงพยายามมองลอดเข้าไปข้างในกล่องแต่เสียงกระแอมก็ทำให้รีบเด้งตัวกลับมานั่งท่าเดิม
“ คุณ...เอ่อ...เป็นใครเหรอครับ? ”
“ กล่องสารภาพบาป ”
“ อ่า...คือผมมีอะไรบางอย่างอยากจะสารภาพครับ ”
“ ว่ามาได้เลย ”
ทำไมรู้สึกแปลกๆ แฮะ?
กล่องสารภาพบาปเป็นแบบนี้จริงเหรอเนี่ย?
“ เมื่อคืน...มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นครับ ”
พูดแล้วก็นึกไปถึงเมื่อคืนจนได้ อี้ชิงเริ่มรู้สึกอายอีกครั้งจนต้องก้มมองมือตัวเองที่พันเกี่ยวกันแน่นอย่างประหม่า พยายามเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้งก็เล่นเอาหน้าแดงไปหมด
“ มันค่อนข้างจะลึกซึ้ง...คนสองคน...มันทำให้ผมรู้สึกดี แต่มันก็...ทำให้ผมอายมากๆ หลังจากคืนนั้นผมก็คิดว่าตัวเองขี้ขลาดไม่กล้าสู้หน้าเขาน่ะครับ ผม...กังวลไปหมด อายแล้วก็เขินมากๆ ด้วยครับ ฮือออ ผมจะทำยังไงดี ”
“ ความสัมพันธ์ของคนสองคนอย่างลึกซึ้งไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง ”
“ จริงเหรอครับ? แต่ผม...อายนี่นา ”
“ คนๆ นั้นคงรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งแน่ๆ เลย เขาน่าสงสารนะ ”
“ ผมแอบหนีเขาออกมาก่อน...ผมแย่จริงๆ เลยครับ ”
อี้ชิงฟุบหน้าลงกับมือตัวเองอย่างสิ้นหวัง ทิ้งเขามาแบบนั้นคุณคริสจะว่ายังไงบ้างยังไม่รู้เลย แต่อี้ชิงเขินนี่นา! ก็แค่อยากจะหนีกลับมาตั้งหลักก่อนนี่นา คุณคริสจะโกรธมั้ยนะ...
“ ผมควรจะทำยังไงดี... ”
“ ง้อสิครับ ”
“ ครับ? ”
“ ง้อตอนนี้ผมไม่โกรธหรอกครับ ”
เสียงกุกกักจากข้างในเงียบหายไปทิ้งให้อี้ชิงนั่งงงอยู่ที่เดิม แต่ทว่า...ร่างสูงที่เดินออกมาจากข้างในต่างหากที่ทำอี้ชิงช็อคไปเลย ดวงตากลมเบิกกว้าง มองใบหน้ายิ้มแย้มของอีกคนแล้วเหมือนจะหน้ามืดให้ได้ อี้ชิงครางเสียงเบาอย่างท้อแท้
“ ...คุณคริส ”
นี่เป็นแผนยังงั้นเหรอเนี่ย!?
คนเจ้าเล่ห์!
ช่างภาพตัวขาวสารภาพไปหมดเปลือกหน้าแดงไปถึงลำคอ ทั้งตกใจทั้งอายสับสนไปหมด สุดท้ายก็ลงอีหรอบเดิมๆ คือนั่งน้ำตาซึม...คุณคริสผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอี้ชิงนั่งน้ำตาคลอ อี้ชิงหลุดเสียงสะอื้นช้อนตามองอีกคนอย่างตัดพ้อ จะโกรธก็โกรธไม่ลงอีก
“ โอ๋ๆ ไม่ร้องไห้นะครับ ”
“ ฮึก...ผมอาย ทำไมคุณคริสต้องทำแบบนี้ด้วยครับ? ”
“ ผมน้อยใจนี่ครับ เราเพิ่งรักกันมาหมาดๆ แต่เช้ามาจางอี้ชิงกลับหนีผมไป ทิ้งให้ผมอยู่ในห้องคนเดียว ผมคิดว่าผมอาจจะฝืนใจจางอี้ชิงมากเกินไป ”
“ ผม...ฮึก...ไม่ได้บอกว่าฝืนใจสักหน่อยนี่ครับ ”
“ แต่จางอี้ชิงหนีผมมา ถ้าไม่ทำแบบนี้จางอี้ชิงจะยอมพูดมั้ยล่ะครับหืม? ”
ช่างภาพตัวขาวสูดจมูกฟุดฟิดน่ารักน่าชัง ซุกใบหน้าเปื้อนน้ำตากับอกอีกคนพูดไปสะอื้นไป
“ ก็ผมเขินนี่ครับ... ”
“ ไม่เขินสิครับ เดี๋ยวก็ชินแล้ว...ทำบ่อยๆ จางอี้ชิงก็ไม่เขินแล้วล่ะครับ ”
“ ผมไม่อยากทำแบบนั้นบ่อยๆ นี่ครับ ฮึก ฮืออ อายจะตายอยู่แล้ว ”
ทุบอกอีกคนดังปั้กแทนที่จะเจ็บแล้วถอยไปแต่คุณคริสกลับรัดอี้ชิงแน่นอีก ช่างภาพตัวขาวดิ้นอึกอักในอ้อมกอด ยิ่งมองค้อนคุณคริสยิ่งชอบใจซะอย่างนั้น
“ โอเคครับ เขินก็เขิน เขินแล้วน่ารักจะตายไป ”
“ คุณคริสครับ! ”
คุณแรพเปอร์คนดังสวมชุดพรางตัวมาอย่างดีเชียวล่ะวันนี้แต่ก็ยังเป็นจุดเด่นได้อยู่ดี อี้ชิงกังวลนิดหน่อยเรื่องซาแซงแฟน ไหนจะเรื่องพวกปาปารัซซี่อีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้เจอคุณแรพเปอร์คนดังมันทำให้อี้ชิงรู้สึกดีและสดชื่นเอามากๆ
พวกเขาจับมือกันเดินไปตามม้านั่งตัวยาวในโบสถ์ โบสถ์สีขาวสะอาดตาประดับประดาอย่างประณีตและสวยงามอลังการ อี้ชิงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในงานแต่งงาน แล้วคุณคริสก็ทำให้อี้ชิงรู้สึกเหมือนเจ้าสาวด้วยการคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วดึงมืออี้ชิงไปจูบเบาๆ
มีเจ้าบ่าวที่ไหนแต่งตัวมิดชิดเป็นผู้ก่อการร้ายแบบนี้กัน
แถมเจ้าสาวยังสะพายเป้มีกล้องคล้องคอด้วย
“ จางอี้ชิงสนใจรับอู๋อี้ฟานเป็นว่าที่สามีมั้ยครับ? ”
ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายวิบวับที่ดูสวยที่สุดในตอนนี้เลยนะ อี้ชิงจ้องมองมันแล้วหยุดยิ้มไม่ได้เลย ไหนล่ะคนหน้าดุคนขี้เก๊กในตอนแรก? ไม่มีนี่นา...ตอนนี้มีแค่คุณคริสคนธรรมดาที่กำลังคุกเข่าขอให้อี้ชิงรับเป็นสามีในโบสถ์ ข้ามขั้นตอนการขอแต่งงานไปเลยล่ะ
“ อืม...งั้นสัญญากันก่อนสิครับ ”
“ สัญญาอะไรครับ? ผมสัญญาได้ทุกอย่างเลยนะ ”
แหวนเงินเกลี้ยงเกลาบนนิ้วส่องประกายต้องแสงแดดบางเบา อี้ชิงลูบมันเบาๆ ต่อหน้าคนสวมให้
“ สัญญาว่าคุณคริสจะไม่ไปไหน...อย่าไป...ผมไม่ให้ไป แค่นี้ได้มั้ยครับ? ”
“ ง่ายจัง ”
คุณแรพเปอร์คนดังพูดกลั้วหัวเราะ เขาลุกขึ้นบีบปลายจมูกอี้ชิงเหมือนจะเอ็นดูก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นริมฝีปากที่ประทับลงมาบนปลายจมูกแทน ช่างภาพตัวขาวแก้มแดง แต่ครั้งนี้ไม่มีหลบตา
“ ถ้าจางอี้ชิงรักผมผมก็จะไม่ไปไหนไกลครับ ผมจะอยู่กับจางอี้ชิงตลอดไปเลย ”
อี้ชิงโผกอดคนปากหวานปล่อยให้ทั้งตัวถูกเขาโอบจนแทบจมหายไปกับอกกว้าง เสียงหัวใจคุณรแพเปอร์คนดังเต้นตุบตับข้างในยิ่งกว่าฝันดีคืนไหนๆ ซะอีก คุณแรพเปอร์คนดังที่มีชีวิตมีตัวตนจริงๆ ตอนนี้ที่อี้ชิงกอดอยู่ มันยิ่งกว่าความฝันสูงสุดในวัยเด็ก
“ รักนะครับ ”
“ รักคุณคริสที่สุดเลยครับ ”
อี้ชิงซ่อนแก้มแดงๆ เอาไว้กับอกกว้าง กระซิบบอกอีกคนเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่พวกเขาสองคน...สองคนเท่านั้น
“ รักเหมือนกันครับ ”
...เขากระซิบกลับมาอย่างอ่อนโยน
“ อยากแต่งงานมั้ยครับ? ”
“ ผมไม่รีบสักหน่อย ผมไม่หนีไปไหนหรอกครับ ผมอยากจะอยู่กับคุณคริสไปนานๆ เลย ”
“ โถ่เอ๊ย...พูดแบบนี้แล้วผมจะหนีไปไหนได้ล่ะครับจางอี้ชิง ”
อี้ชิงจะรอให้คุณแรพเปอร์คนดังของเขาประสบความสำเร็จก่อนนะ
จะแต่งงานกันหลังจากนั้นยังไม่สายนี่นา J
ต่อให้ผ่านไปอีกกี่ปี...
ถ้าเป็นคุณคริสล่ะก็...อี้ชิงก็จะแต่งงานด้วยล่ะ
ทุกคนเสียใจ แต่ต้องรอเขาก่อน
ความคิดเห็น