ตอนที่ 11 : SF l Host Family 1/ (100%)
HOST FAMILY
“ลู่หานนนนนนนนนน”เสียงแหลมแสบแก้วหูดังลั่นมาตั้งแต่หน้าประตูห้องเรียน ในเช้าที่สดใสวันนี้ ลู่หาน เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงโวยวายนั้นด้วยใบหน้างุนงงมือบางปิดหนังสือที่กำลังอ่านคั่นเวลาเข้าแถวลง พร้อมกับพลิกตัวกลับไปหาเพื่อนรักที่ทิ้งตัวลงนั่งด้วยแรงหอบ
“ฮะ แฮก ละลู่”
“เออๆมีอะไรก็ว่ามา แล้ววิ่งมาขนาดนั้นถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่แกตาย!”ใบหน้าหวานยกนิ้วขู่เพื่อน ก่อนนิ้วนั้นจะถูกดันลงฉับ
“แกได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลีเว้ย!”คนบอกจับมือเพื่อนเขย่าด้วยความดีใจ หากแต่คนรับรู้ชะงักค้างไปเรียบร้อย ดวงตากลมเบิกกว้างกับประโยคเมื่อสักครู่สั่นหน้าไปมาราวกับมันไม่ใช่เรื่องจริง
“มะ ไม่จริงน่า แกจะบ้าเหรอฉันเนี่ยนะ”
“ไม่จริงมั้ง โธ่ ดีใจด้วยนะเว้ย ฉันน่ะอยากไปจะตายไม่ได้กลับบ้านเกิดซะทีมาอยู่นี่จนจะเป็นอาตี๋ไปแล้ว” ใช่ ฟังไม่ผิดเพื่อนตัวเท่ากันตรงหน้าคือ แบคฮยอน เป็นคนเกาหลีตั้งแต่กำเนิดแต่แต่ต้องย้ายตามคุณยายมาอยู่ที่จีนเพราะพ่อกับแม่เสียไปนานแล้ว แต่ท่าทางสดใสร่าเริงก็เป็นตัวบ่งบอกได้ว่าทุกอย่างในชีวิตมันคือความทรงจำที่สวยงาม
“แกก็เป็นอาตี๋สำหรับม๊าฉันอยู่ดี”ลู่หานว่าแล้วยื่นปากใส่
“จ้า อาหมวย”
“แบคฮยอน”คนถูกเรียกด้วยชื่อเต็มๆหน้าสั่นทันที มีไม่กี่เรื่องที่เพื่อนหน้าหวานตรงหน้าจะเอ่ยเรียกตนด้วยชื่อจริงๆ ถ้าไม่ดีใจมากๆก็คงอยากฆ่าเขามากๆอย่างเช่นกรณีนี้
“ขอโทษ ขอโทษษ เออว่าแต่จะไปมั้ย แต่ฉันไม่อยากให้แกสละสิทธ์นะ เสียดายโอกาสมาก”คนโดนถามหันกลับมานั่งตรึกตรองในใจอีกครั้ง ไอ้อยากไปน่ะใช่ แต่ตอนนี้เขากำลังเรียนปีสุดท้ายแล้วอีกเทอมเดียวก็ขึ้นมหาลัย ไม่รู้ว่าถ้าไปเอาตอนนี้เกิดได้เรียนใหม่ขึ้นมาก็จบไม่ทันเพื่อนพอดี
“ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้เว้ย”
“หน้าฉันฟ้องขนาดนั้น?”แบคฮยอนพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ
“แกกำลังกังวลเรื่องจบช้ารึไง”
แบคฮยอนพูดอย่างใจคิด แต่ดันโดนเพื่อนตากลมคว้าหมับเข้าทั้งตัว
“ใช่! แกรู้ได้ไง ฉันไม่อยากไปแล้วกลับมาเรียนมาซ้ำ”เจ้าของใบหน้าหวานทำหน้างอง้ำ ก่อนหัวจะโดนมือขาวๆของเพื่อนขยี้จนฟู
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล อาจารย์บอกมาว่าเรียนแลกเปลี่ยนที่นั่นจบก็เท่ากับจบที่นี่”
“จริงดิ งั้นไปหาอาจารย์แป๊บนะ”ว่าจบก็วิ่งพรวดออกจากห้องไป ทิ้งร่างเพื่อนสนิทที่มองตามด้วยความหมั่นไส้เล็กๆ
ใครจะไปคิดว่าชีวิตเรียนๆเล่นๆอย่างเขาอยู่ๆจะมีโอกาสได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกับคนอื่น จริงอยู่ว่าทุนแลกเปลี่ยนเด็กที่ต้องได้รับจะต้องเป็นเด็กเรียนดี ลู่หานก็ขยันเรียนนะแต่แค่เรียนไม่ค่อยทันเพื่อนเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ไปเรียนรู้เพิ่มเติมจากที่นู่น
แต่จะบอกว่าภาษาเกาหลีนี่แหละเป็นภาษาที่เขาถนัดรองจากภาษาบ้านเกิดของตัวเองเลย แม้มันจะไม่ได้สำคัญกับชีวิตมากหากเขาทำงานในจีนแต่อย่างน้อยมีหลักฐานว่าพูดได้หลายภาษาเอาไว้โม้หน่อยก็ยังดี
และหวังว่าจะได้การต้อนรับเป็นอย่างดีนะ
ประเทศเกาหลี
12:00
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ร้อนโว้ยยยยยยย
ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองค้อนท้องฟ้า ในเวลาเที่ยงตรงแบบนี้เขาควรจะได้นอนพักเอาแรงเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนโรงเรียนใหม่แท้ๆ แต่ตอนนี้ลู่หานยังอยู่ที่หน้าสนามบินเดิม ที่เดิมที่โฮสต์ของเขาบอกว่าจะมารับ
ทำไมเขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้นะ แล้วโฮสต์จะหน้าตาเป็นยังไงเนี่ย จะใจดีมั้ย จะหน้าโหดตลอดเวลาหรือเปล่า ฮื้ออออ
“จะยื่นบื้ออีกนานมั้ย”ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เสียงทุ้มใหญ่ๆดังมาจากด้านหลัง ลู่หานกวาดมองเจ้าของร่างสูงจากการคาดเดาน่าจะร้อยแปดสิบขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากพระเอกซีรีย์ที่แบคฮยอนเคยให้ดู จมูกที่โด่งเหมือนสันเขื่อนจนกลัวว่าจะบาดหากพลาดไปจับ จบด้วยริมฝีปากบางสีธรรมชาติที่เม้มเข้าหากันแน่น รวมๆแล้วโครงหน้าทั้งโครงสมบูรณ์แบบจนลู่หานอดข้นคอดตัวเองในใจไม่ได้
ให้ตายสิ ป๊าให้มาน้อยหรือหมอนี่ได้มาเยอะเกินไปกันแน่
“เลิกทำหน้าตาแบบนั้นสักที เห็นแล้วหงุดหงิด”ลู่หานสะดุ้งตกใจอีกครั้งเมื่อเสียงทุ้มหูดังขึ้นห้วนๆจนอดชักสีหน้าใส่ไม่ได้
เรื่องที่แอบชมอยู่ในใจขอถอนคำพูด!
“อย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่ฉัน”นิ้วยาวยื่นมาจรดอยู่ระหว่างหัวคิ้วเรียวที่ยังขมวดกันแน่นก่อนจะออกแรงดันจนใบหน้าหวานหงายหลัง
“..”
ณ เวลานี้ลู่หานไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าสักนิด
“จะกลับมั้ยบ้านน่ะ”
ลู่หานหลุดจากภวังค์อีกครั้ง เมื่อเสียงตะโกนดังเข้าหูอีกระลอก คนตัวเล็กก้าวขาตามร่างโปร่งด้านหน้าไปด้วยความงงและเบลอผสมปนเป จนกระทั่งขาเรียวก้าวมาหยุดที่รถคนหนึ่ง และเป็นอีกครั้งที่ดวงตากลมวาวออกอาการชะงัก
ก็ตรงหน้าลู่หานมันคือ มินิคูเปอร์
เดี๋ยวนะ ผู้ชายร่างโตๆกับรถน่ารักๆมันเข้ากันตรงไหน
“ขึ้นสักทีเถอะ เธอจ้องแบบนั้นร่างมันจะย้ายเข้าไปข้างในเองมั้ย”
ปากร้ายชะมัด บอกทีว่าเขาไม่ใช่โฮสที่ลู่หานจะต้องอยู่ด้วยไปอีกเทอมน่ะ
“คุณเป็นใครเนี่ย”และสุดท้ายความอยากเอาชนะมันคงคับแน่นในอก ร่างเล็กยืนจ้องหน้าคนตัวสูงตาโปน แวบหนึ่งที่ใบหน้าหล่อผินไปทางอื่นจนไม่ได้เห็นสีหน้าของเขาชัดเจน ลู่หานก็พอจะเดาออกว่าอีกคนมารับเขาในฐานะเด็กแลกเปลี่ยน แต่ที่ลู่หานไม่รู้คือคนตรงหน้ามีศักย์เป็นอะไรของเขาในตอนที่อยู่ที่เกาหลีนี้
“ยัยเบ๊อะ”และครั้งนี้ลู่หานไม่ยอมให้เขาผลักหัวอีกเป็นครั้งที่สอง หัวเล็กหลบหวืดจากมือใหญ่ที่หมายจะจับพลางก้าวเท้าถอยหลัง
“ผมผู้ชาย”
“ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้หญิง”ลู่หานชักสีหน้าใส่
“ถ้าคุณไม่พูดผมจะไปรอโฮสผมที่อื่นแล้วนะ ฮึ่ย นี่เดินตามมาได้ไงเนี่ย”ประโยคท้ายปากสีชมพูขยับพูดอยู่คนเดียว ในจังหวะที่เท้ากำลังจะก้าวหนีไปอีกทางข้อมือก็ถูกฉวยด้วยมืออีกมือ ก่อนแรงกระชากจนทำให้หน้าผากเล็กปะทะเข้าอกแน่นเต็มแรง
“ฉันนี่แหละโฮสท์เธอ”
“O.O”
“โอเซฮุน จำไว้ให้ดีๆ”
ต่อค่า
ระหว่างทางกลับไปยังบ้านพักที่เป็นบ้านของโฮสท์ประจำตัวของลู่หาน อีกคนไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกต่อจากนั้น บรรยากาศน่าอึดอัดเริ่มครอบคลุมทั่วรถบ้านคันใหญ่
คนตัวเล็กที่นั่งติดหน้าต่างทำหน้าไม่ต่างจากโดนบังคับไม่ขึ้นมานั่ง แอบเหลือบหางตามองร่างโปร่งฝั่งคนขับแล้วก็ได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย
ทำไมโฮสท์ที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์มันแตกต่างจากตอนนี้จังล่ะ
“คุณเอ่อ..”
“มีอะไร”เสียงทุ้มต่ำดังตอบฉับเมื่อยังไม่จบประโยค ลู่หานกลืนน้ำลายลงคอซ้ำสอง ดวงตาคู่โตกรอกซ้ายขวาอย่างคนทำอะไรถูกกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ
“เอ่อคือเมื่อกี้..”ลู่หานกำลังหมายถึงตอนอยู่ที่สนามบิน “ผมไม่ได้ตั้งใจไม่รู้จักคุณนะครับ!”ว่าจบก็หลับตาปี๋ราวกับกลัวอีกคนจะทุ่มอะไรสักอย่างใส่ กระทั้งเสียงเดินของเข็มวินาทีดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศชวนปวดหัวดวงตาที่ปิดสนิทจึงค่อยๆพริบขึ้นช้าๆ
ก่อนจะพบว่ารถทั้งคันหยุดอยู่ริมข้างทาง คนตรงหน้าลู่หานเท้ามือกับพวงมาลัยดวงตาคมปราบจดจ้องมาที่ตนนิ่ง
ท่าทางนิ่งแต่ทำเอาคนมองเกิดอาการประหลาด คนๆนี้ชักจะเล่นใหญ่เกินไปแล้ว!
“แล้วยังไง”ร่างโปร่งเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ใช้ดวงตาสีดำสนิทข้างนั้นเป็นเชิงท้าทายเด็กตัวเล็ก
“ก็..ก็ผมไม่ตั้งใจไงครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาคุณเป็นยังไง”ลู่หานว่าตามความจริง เพราะตั้งแต่ตอนที่ไปพบกับอาจารย์ประจำทุนที่มอบให้นอกจากจะได้สิทธ์พิเศษมาแลกเปลี่ยนที่เกาหลีและบอกว่าโฮสท์จะเป็นคนมารับเขาด้วยตัวเองก็ไม่มีอะไรยืนยันตัวตนของอีกคนเลย
“แล้วยังไง”ประโยคเดิมหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบจนร่างเล็กเผลอค้อนตาขวับใส่คนด้านข้าง
“ก็ไม่แล้วยังไง ผมแค่อธิบายให้คุณเข้าใจ”
“เพื่ออะไรล่ะ ที่ให้ฉันเข้าใจ”
“คุณเหมือนจะโกรธผม ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ทั้งๆที่ผมจะต้องอยู่กับคุณไปอีกหลายเดือน”
คนอธิบายยังคงก้มหน้าไม่ยอมสบตากับคนขับรถ มุมปากหยักกระตุกยิ้มในวินาทีที่ไม่ทันสังเกตก่อนจะตีสีหน้าเรียบเฉย จนคนฟังใจหดเหลือสองนิ้ว
“รู้ตัวก็ดี”
“งั้นคุณก็หายโมโหเรื่องนี้แล้วใช่มั้ยครับ”
“ไม่หรอกลู่หาน..”รถคันใหญ่เริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ถนนอีกครั้ง เสียงกระหน่ำเต้นของก้อนเนื้อระรัวขึ้นจนน่าใจหาย “อยู่กับฉันยังมีเรื่องให้ต้องคิดมากกว่านี้เยอะ”
คิดมาก
ไม่ผิดแน่ คำๆนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวของลู่หานตั้งแต่อยู่บนรถคันนั้น รถของคุณเซฮุน รถของโฮสท์ประจำตัวที่เขาจะต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคาไปอีกเทอม!
คำพูดก่อนที่บรรยากาศจะกลับมาอึมครึ้มอีกครั้งของคุณเซฮุนมันหมายความว่ายังไง!!
สรุปแล้วมันดีหรือไม่ดีที่ได้คุณเขามาเป็นโฮสท์น่ะ
บ้านของคุณเซฮุนเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นแต่ขนาดของตัวบ้านไม่ได้เล็กอย่างที่คิดเพราะมันทั้งกว้างและดูหรูหรามีสไตล์ ไหนจะมีสวนอยู่ด้านหน้ากับมุมอ่านหนังสือแบบสงบๆที่ลู่หานใฝ่ฝันมานาน แถมในตัวบ้าน (ที่แอบไปสำรวจ) ยังมีห้องหนังสือที่กะจากสายตาก็น่าจะมากกว่าห้าร้อยเล่มแน่ๆ
อย่างน้อยถ้าคุณเขาโกรธอะไรขึ้นมาลู่หานก็จะมาแอบหลบอยู่ในนี้ชั่วคราวล่ะนะ
เอาจริงๆถ้าตัดเรื่องที่เหมือนจะไม่ลงรอยกันระหว่างเขากับโฮสท์ ทุกอย่างมันเหมือนที่เขาฝันเลย
“อืม หวังว่าเขาจะชอบล่ะนะ”ริมฝีปากสีชมพูพึมพำกับตัวเองเมื่อตระเตรียมส่วนผสมของอาหารที่แอบลงมาทำครัวให้เจ้าของบ้านที่ยังไม่ตื่นดีในเช้าของอีกวัน เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นรวมทั้งจัดโต๊ะอาหารเรียบร้อย ถึงได้มาหยุดยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าบานประตูไม้สักขนาดใหญ่
ก๊อก ก๊อก
หากประตูมันตอบกลับมาได้ก็คงจะเป็นไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนในห้อง คนตัวเล็กเคาะเรียกคนด้านในอีกสองสามครั้งก็ปรากฏว่าเงียบ ก่อนจะแนบหูลงกับประตู
เงียบ เงียบ และเงียบ
ร่างบางหลับตาลงเอื้อมมือไปจับกับลูกบิดก่อนจะลองหมุน ตัวล็อกที่คิดว่าจะดังกึกๆกับหมุนได้อย่างอัตโนมัติ ประตูค่อยๆเปิดกว้างพร้อมกับร่างที่ค่อยๆสอดตัวเข้ามาด้านใน
นี่เป็นห้องแรกของวันที่ลู่หานได้เข้ามาเหยียบ อันที่จริงเขาไม่กล้าเข้ามามากกว่า
ดวงตากลมโตกวาดมองไปยังที่เตียงหลังกว้างที่ว่างไร้วี่แววคนนอน เท้าเล็กก้าวไปใกล้เตียงนั้นช้าๆ ผ้าปูที่ดึงเรียบสนิทผ้าห่มที่พับอย่างเรียบร้อยวางอยู่ปลายเตียง
ตอนนี้ลู่หานไม่แปลกใจแล้วที่ได้เขามาเป็นโฮสท์ชั่วคราวน่ะ
เป็นผู้ชายแท้แต่กลับจัดที่นอนซะเนี๊ยบ น้อยคนจริงๆที่จะเป็นแบบคุณเขา
ซ่าาา
ใบหน้าหวานหันไปตามเสียงน้ำไหล ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทพร้อมเสียงซ่าของสายน้ำ ทันทีที่เสียงปลดล็อกจากด้านในดังขึ้น คนแอบเข้าห้องเป็นตาโตด้วยความตกใจ
“เข้ามาห้องฉันทำไม”เสียงทุ้มอันเป็นเอกลักษณ์ดังอยู่ด้านหลังในวินาทีที่ลู่หานกำลังย่องออกจากห้อง
คนทำผิดยกมือปิดปาก ดวงตาทั้งสองหลับลงฉับ
“ฉันถาม!”
“ผะ ผม..ผมแค่จะมาเรียกคุณไปทานข้าวน่ะครับ”เอ่ยบอกทั้งเสียงสั่นๆ ไหล่บางตกลู่ลงข้างลำตัว
“งั้นเหรอ..”ขนอ่อนพลันลุกชันเมื่อน้ำเสียงแหบทุ้มดังติดชิดใบหู คนขี้ตกใจหันกลับไปเผชิญหน้าอย่างรวดเร็วจนปลายจมูกรั้นชนเข้ากับแผงอกล่ำ..
..ที่ไร้เสื้อผ้าปกปิด
“อี๊ คุณทุเรศ!”ลู่หานกระโดดถอยหลังทั้งยกมือขึ้นปิดตาเร็วๆ โดยหารู้ไม่ว่าอันตรายกำลังเข้ามาเยือน
แผ่นหลังบางแนบสนิมกับกำแพงเย็นเฉียบ คนถูกต้อนยืนตัวแข็งทื่อเมื่อกายแกร่งดันเข้ามาใกล้ กลิ่นสบู่เย็นๆจากร่างกายอีกคนโชยเข้าจมูกอย่างจัง หลังมือที่ยังปิดหน้าปิดตาแนบลงกับอกกว้างเมื่อร่างกายถูกแนบชิดจากทุกส่วน
“ใครทุเรศ นี่มันห้องฉัน”คนบุกรุกทำตาลอกแลกใต้ฝ่ามือทั้งสองข้างที่ยังปิดอยู่ที่เดิม
“ฮื้อ ก็คุณ ฮืออย่าดันนะครับ”ส่งเสียงครางฮือ ร่างถูกเบียดจนติดกำแพงอีกครั้ง หัวเล็กส่ายหวือเหนืออกเป็นมัดๆที่อยู่ตรงหน้า เซฮุนอมยิ้มกับกิริยาต่อต้านที่ดูน่ารักของเด็กที่ตนเนียนกอดพร้อมกับเบียดจนแก้มนิ่มเฉียดกับเนื้อเน้นๆหลายต่อหลายที
ในดวงตาคมลู่หานไม่ต่างจากลูกแกะตัวน้อยๆที่อยู่ภายใต้กรงเล็บราชสีห์
“ไปกินข้าว..นะครับ”ทันทีเมื่อเห็นท่าว่าจะไม่รอดจากการกลั่นแกล้งของโฮสท์ตัวใหญ่ เจ้าของดวงตากลมถึงได้ตัดสินใจเงยขึ้นสบนัยน์ตามีเสน่ห์ด้วยแววอ้อนวอน..ทว่า
“กินอย่างอื่นได้มั้ยล่ะครับ”
“คะ คุณพูดบ้าอะไร!”
เสียงเล็กเหวลั่น ใช้มือทั้งสองผลักดันเจ้าของร่างใหญ่ออกห่างจากตัวแทบจะทันที เรี่ยวแรงที่หดหายเมื่อสักครู่อยู่ๆก็มาจุกอยู่ที่มือซะอย่างนั้น
“แล้วกะ ก็ลงไปกินข้าวด้วยนะครับ”ใบหน้าหวานงองุ้ม ปากเล็กเม้มเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
แม้เสียงที่เอ่ยสั่งโฮสท์ตัวโตออกจะสั่นมากแค่ไหนก็ตาม ดวงตาคมแน่นิ่งหากแต่มุมปากหยักกระตุกยิ้มมองตามแผ่นหลังเล็กที่รีบแจ้นออกไปโดยไม่หันกลับมาอีก
“ฮึ่ย จะบ้าตาย!คุณเขาอันตรายเกินไปแล้ว”ลู่หานบ่นกับตัวเองหลังจากหนีออกมาจากห้องของคุณเซฮุนได้สำเร็จ ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะสีขาวสะอาดที่ตั้งอยู่บริเวณสวนหลังบ้าน เขาไม่อยากอยู่ตรงนั้น
ที่ที่มีโฮสท์ท่าทางไม่น่าไว้ใจนั่น!
ดวงตากลมใสดุจลูกกวางน่ารักกวาดมองไปทั่วทั้งสวนหย่อม ทันทีที่อากาศกับลมเย็นๆปะทะเข้ากับใบหน้าดวงตาทั้งสองก็ค่อยๆปิดลงช้าๆ พยายามทำใจให้นิ่งไม่นึกถึง’อะไร’บางอย่างที่กำลังรบกวนจิตใจมาตั้งแต่ไม่กี่นาทีก่อน
มันเป็นความจำเป็น เพราะลู่หานจะต้องพึ่งพาคุณเขาไปอีกหลายเดือน เขาไม่อยากให้เพื่อนๆหรืออาจารย์ผิดหวัง เขาจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปและตั้งใจเรียกหนังสือ และเป็นเกียรติให้กับโรงเรียนของเขาเองด้วย
“มาอยู่นี่เอง”ดวงตาทั้งสองเปิดขึ้นทันควัน เสียงทุ้มมีเสน่ห์ดังอยู่ด้านข้าง คุณเซฮุนทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม พร้อมจานอาหารที่วางลง คุณเซฮุนใส่เสื้อผ้าแล้ว อ่า..
แก้มทั้งสองข้างของเขาต้องแดงๆแน่ๆเลย
ปากก็บอกว่าต้องห่างจากเขา แต่ทำไมพอเห็นใบหน้าดูดีนั่นสมองกลับนึกไปถึงเรือนกายที่พราวไปด้วยหยดน้ำ แถมแผ่นอกกว้างที่น่าสัมผัส
อ๊ากก ไม่ๆลู่หานนายจะคิดมากไปแล้วนะ!
“แล้วเป็นอะไร ส่ายขนาดนั้นเดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก”
อ่ะ
ลู่หานไม่ได้ตอบกลับไป ร่างเล็กมองไปยังจานทั้งสองที่ยังคงอาหารตามเดิมที่เขาทำเอาไว้แล้วเงยขึ้นมองหน้าคนถือมาเชิงถาม
“กินซะ เธอก็ยังไม่น่าจะได้กินอะไร”
ลู่หานมองภาพเบื้องหน้าด้วยอารมณ์ที่ยังกึ่งๆ จะว่ายังไงดีล่ะ ก็คุณเซฮุนตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกันเลย
ภาพคุณชายจอมหยิ่งกับคาสโนว่ามันลบกันไม่ขาดหรอกนะ
“คะ ครับ”
บรรยากาศรอบข้างกลับมาเงียบอีกครั้ง เสียงช้อนกระทบจานดังเป็นระยะพร้อมๆบอาหารที่ค่อยๆพร่องลงมากกว่าเดิม ลู่หานที่คลายความตึงเครียดมากกว่าแรกๆรวบช้อนเข้าหากันแล้วมองร่างตรงหน้าที่ไม่ได้สนใจเขาอีกเลยนอกจากอาหารที่ตักเข้าปากอย่างต่อเนื่อง
อย่างน้อย..อาหารก็น่าจะถูกปากคุณเซฮุนล่ะนะ
“มีอะไรที่ยังต้องการอีกมั้ย”ร่างโปร่งหันมาถามคนด้านหลัง หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยเขาและคุณเซฮุนก็นั่งคุยกันนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องเรียนของเขา เห็นคุณเขาบอกว่าจะพาไปซื้อชุดนักเรียนและของใช้อื่นๆที่จำเป็น อันที่จริงลู่หานก็ค้านไปแล้วนะว่าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
แต่ก็..
“ไม่แล้วละ..”
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันจะพาไปข้างนอก”
เห็นมั้ยล่ะ คุณเซฮุนเอาแต่ใจตัวเองจะตาย!
ห้าง M
“อืม อันนี้ก็ด้วย อันนี้ก็ดี งั้นเอาทั้งหมดเลยครับ”ลู่หานอ้าปากค้างมองตามมือขาวๆที่ยื่นชุดนักเรียนประมาณสามชุดให้กับพนักงานพร้อมกับชุดลำลองที่โดนคนเอาแต่ใจจับทาบๆแล้วก็ส่งต่อให้พนักงานจัดการอีกสามถึงห้าชุด
ให้ตายสิ มันก็ใช่ว่าจะถูกๆเสียหน่อยทำไมคุณเซฮุนถึงได้หยิบมันด้วยหน้านิ่งขนาดนั้น
“คะ คุณเซฮุนครับ เอ่อมันเยอะไปมั้ยครับ”
“เงินใคร”
“งะ เงินคุณเซฮุน”
“ก็เงินฉันไม่ใช่เงินเธอ”พูดจบก็เดินไปทิ้งตัวลงที่โต๊ะรับรองเพื่อรอของทั้งหมด ลู่หานเดินตัวลีบเข้าไปนั่งข้างๆ ไม่รู้ว่าเผลอกลั้นหายใจตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อกลิ่นน้ำหอมสไตล์ผู้ชายแมนๆได้ลอยมาเตะจมูกเข้าจังๆแบบนี้ ดวงตากลมล่อกแล่กซ้ายขวาเมื่อบรรยากาศรอบตัวเงียบเกินทน
ลู่หานไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
“เป็นอะไร อยากเข้าห้องน้ำ?”คนที่นั่งเงียบอยู่ๆก็พูดขึ้นเล่นเอาลู่หานสะดุ้งไปกับเสียงนั้น เจ้าของชื่อเหลือบหางตามองใบหน้าดูดีก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธ
“ป่าวครับ”
พรึ่บ!
“ก็ดีแล้ว อย่าทำให้เป็นห่วง”
O_o
หัวใจบ้า! แกจะมาเต้นแรงเพราะคำพูดแค่กี่คำไม่ได้นะเว้ย!!
“อีกสองวันเปิดเรียน”เสียงทุ้มมีเสน่ห์เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างคนสองคนในห้องนั่งเล่น คนตัวเล็กที่ตั้งใจจดจ้องกับภาพยนตร์ในจอมากกว่าผู้ชายร่างใหญ่ด้านข้างแอบใจเต้นรัวเพียงเพราะไม่กี่ประโยค พลันหัวคิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่แน่ใจในเนื้อความของประโยคว่าพูดกับตัวเองหรือถามเขากันแน่
“ฉันถามก็ตอบสิ”
“คะ ครับ!อีกสองวันครับ”กลีบปากบางเม้มเข้าหากันอย่างเป็นนิสัย ภาพในจอทีวีขนาดยักษ์เริ่มไม่เข้าสมองน้อยๆของลู่หานเมื่อความสนใจทั้งหมดดันไปตกอยู่กับผู้ปกครองแสนเย็นชา
“ของครบแล้วใช่มั้ย”
ลู่หานแอบเบ้ปากไม่ให้คนถามรู้ตัว ก็คุณเซฮุนเล่นถามคำถามนี้ทุกวันหลังอาหาร คำตอบที่ได้จากเขามันก็เดิมๆซ้ำๆไม่รู้ว่าคุณเขาจำไม่ได้หรือแค่อยากกวนประสาทเขากัน
“ครับ ครบทุกอย่างมีทุกอย่างแล้วครับบ”สิ้นประโยคก็ลากเสียงคำสุดท้ายอย่างล้อเลียน ก่อนจะโดนมือหนายื่นมาผลักหัวจนโคลงเพราะหมั่นไส้
มันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่การกระทำคำพูดแปลกๆของโฮสท์ ยอมรับว่าตอนแรกก็ยังเกร็งๆแต่ตอนนี้ก็เกร็งแต่ไม่เท่าตอนแรกเท่าไหร่ เหมือนเป็นความเคยชินที่โดนเล่นหัวแบบนี้ประจำ และลู่หานก็ยอมรับอีกแหละว่ามันสบายกว่าที่คิด
เขายังไม่แน่ใจว่าถ้าเขาและโฮสท์อยู่ด้วยกันนานกว่านี้จะเป็นยังไง
แต่มันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่เขาไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
วันเปิดภาคเรียน
“เรียนเสร็จก็โทรหาฉันแล้วกัน”วันนี้เปิดเทอมวันแรกและเป็นวันแรกของการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนที่มีแต่คนเกาหลี ลู่หานพยักหน้าให้ผู้ปกครองที่ยังพูดไม่หยุดตั้งแต่ออกมาจากบ้านทว่าดวงตากลมกลับสอดส่ายไปนอกตัวรถคันหรูแทน เด็กหลายคนที่เดินผ่านรถที่ลู่หานนั่งเดินมากันเป็นกลุ่ม บางคนก็มีผู้ปกครองมาส่ง บ้างก็มาคนเดียว
“ฉันพูดนี่ไม่ฟังอีกแล้วนะ”ลู่หานหันใบหน้ามองเจ้าของเสียงทุ้มที่เริ่มเอ่ยด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนจะส่งยิ้มเจื้อนๆให้สารถีจำเป็น
“ขอโทษครับ ผมตื่นเต้นไปหน่อย แหะๆ”
“ลงไปได้แล้ว ฉันจะเอารถไปจอด”ใบหน้าหวานยุ่งขึ้นเมื่อร่างโปร่งโบกมือไล่ตนลงจากรถ
อะไรกัน..เมื่อกี้ยังทำท่าโมโหใส่เขาอยู่เลย
ให้ตายสิ
แต่ว่า..
“อ้าวคุณจะจอดทำไมครับ”
ภายในดวงตาใสฉายแววฉงนจนคนมองแอบยิ้มขำในใจ หากแต่ภายนอกที่แสดงออกกลับเป็นใบหน้าเฉยชากับดวงตานิ่งๆ
“ลง ไป”คนตัวเล็กหน้าตึงทันทีเมื่อจบประโยคนั้น ก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอกระชากกระเป๋าสะพายจากเบาะหลังลงจากรถด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดทิ้งท้ายด้วยปิดประตูเสียงดัง
ปัง!
“หึ”ดวงตาคมปราบยังคงจ้องไปที่ร่างเล็กๆของเด็กในปกครองที่ตอนนี้เดินหน้าตรงไปยังใต้อาคารสำหรับตรวจรายชื่อเด็กแลกเปลี่ยน มุมปากหยักกระตุกยิ้มด้วยความพอใจ ก่อนหันกลับมาสนใจกับการเข้าเกียร์เคลื่อนรถไปยังหลังตึกหรูที่อยู่ถัดไปสองตึก ป้ายหน้าตึกประกอบด้วยแผ่นไม้สักสีเหลืองขนาดใหญ่บ่งบอกถึงความสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกันภายในโรงเรียน
ตึกผู้บริหาร..
OS เรื่องใหม่มาแนวโฮสท์แฟมิลี่ ฮี่ฮี่
น้องลู่หานกับโฮสท์เซ งิ.
----------------
โฮทส์เขาเปย์เด็กข่าาาาา
แงงง ตอนแรกว่าจะเป็นแค่ช็อตสั้น ไหงเป็นตอนแย้วว
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะงับ
อ้าวว ยังไงยังไงคะคุณโฮสท์เซ ตกลงคุณเป็นใครร
ฮื้ออออออ
ฝากด้วยฮับ.ชุ้บ
อ่าน เม้นต์ โหวต ให้กำลังเค้าหน่อยน้าตะเอง
>///< #ficmlum >///<
------------
แอบฝากฟิคน้องเหมียว ไปอ่านกันได้นาจา
แนวอะไรต้องอ่านงับ. เลิ้บ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เปย์เด็กไหวอยู่ละ คิคิ