คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Friend (?) Chapter 2 : Do (?) Hot (?) Eat (?)
Chapter 2
ปัง!
“กูมาแว้ววววววว!” เสียงทุ้มของคนหล่อดังขึ้นหลังจากที่ตั้งใจจะเดินไปเรียนพร้อมเพื่อนหน้าสวย แต่แล้วดูเหมือนว่าความตั้งใจแรกต้องหยุดลงเพราะเสียงประกาศตามสายที่แจ้งให้บรรดานักศึกษาชมรมการแสดงมารวมตัวกันที่ห้องชมรม หนุ่มชาวจีนเลยรีบถอยทัพมายังห้องชมรมแทนพร้อมกับอีทึกที่ยังคงพยายามจะทำร้ายร่างกายเค้าไม่เลิก
“เออ มึงมาแล้วก็ดี ทุกคนรอมึงกับอีทึกอยู่” เสียงของประธานชมรมตาตี่ดังขึ้น พร้อมกับกวักมือเรียกให้สองเพื่อนซี้รีบเข้ามาประชุมอย่างเร่งด่วน ถ้าหากฮันคยองและอีทึกเดาไม่ผิดคาดว่าวันนี้คงมีงานเข้าชัวร์ๆ
“เอาล่ะๆ เป็นอันรู้กันว่าปีนี้มหาลัยเรามีการร่วมมือกับมหาลัยคยองฮี ดังนั้นเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของมหาลัยทั้งสองมันเลยซวยที่พวกเราทุกตัว! ที่ต้องมาเสียเวลาทั้งกาย และใจกับละครเทวีที่โดนสั่งมาให้โคตรอลังการ ไม่งั้นหมอก็หมอเถอะ มึงอดเป็นหมอแน่!” เยซองพูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่เจ็งเขม็งไปทั่วทุกสารทิศ และประโยคสุดท้ายก็ปรายตามองไปยังคิบอมที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ เหมือนตั้งใจจะย้ำและซ้ำเติมว่า หมอก็หมอล่ะว่ะงานนี้!
“ห๊ะ! จะบ้าหรอไง” หนุ่มร่างอวบจากตอนแรกที่นั่งเขี้ยวขนมกรุบกรอบอย่างสบายอารมณ์ ถึงกับวางถุงขนมไว้ข้างกายและหันมาโวยวายแทน กูอนาคตนักการตลาดของชาติเลยนะเว้ยเห้ย!
“อะไรว่ะ มาแบบสายฟ้าแลบนี่อะนะ กูไม่ทำ! ” พ่อหนุ่มไฮเปอร์ของชมรมพูดขึ้นอย่างขัดใจพร้อมกับถอดหูฟังเพื่อที่จะได้โวยวายได้ถนัดยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายเมื่อเจอสายตาของคนทั้งชมรมไปจึงต้องเป็นอันเปลี่ยนคำพูด “โหยยยยยย ต่อให้แลบกว่านี้ กูก็ทำได้ TT เชี่ยยย อย่ามองหน้ากูแบบนั้นเด้ ทงเฮยอมแล้วครับ”
“เป็นอันว่าโอเคนะเว้ย - - ละครเวทีที่พวกเราทุกตัวต้องช่วยกันละเลงคือเรื่องโรมิโอกับจูเลียต ส่วนบทนั้นก็ฟังหลังจากนี้เลย รยออุค มาประกาศสิจ๊ะที่รัก” หลังจากจบประโยคสุดท้ายท่านประธานเยซองก็ได้แต่ยิ้มจนตาหยี ส่วนรยออุคนั่นก็หน้าแดงเรียกเสียงโห่แซวจากคนทั้งชมรมการแสดงทั้งหมด ไม่ค่อยเลยนะเมิงงงง!
“เอ่อ ฟังนะทุกคน คนแรก ฮันคยองเป็นพระเอกก็คือโรมิโอ วิคตอเลียเป็นจูเลียต ...” รยออุคยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ มันก็เป็นเหมือนกับทุกครั้งที่คู่พระนางต้องเป็น ฮันคยองและวิคตอเลีย ส่วนจองซูเองที่นั่งก็ได้แต่ปั้นหน้ายิ้ม เพราะดันเกิดมามีพรสวรรค์ด้านดนตรีและร้องเพลงมากกว่าจึงได้รับบทเป็นนักเปียโนที่ต้องร้องเพลงตามซีนอารมณ์ของตัวละครกับคนในชมรมอีกจำนวนหนึ่ง
“โหหหห! อะไรอ่ะ ไอ้ฮันอีกแล้วหรอมึง ได้คู่กับน้องวิคสุดสวยตลอดอ่ะ เซ็งเลยกู!” เสียงจากคังอินหนึ่งในเพื่อนห้องเดียวกับฮันคยองเอ่ยร้องขึ้นมา ก็แค่อยากแซวไปอย่างนั้นล่ะแต่เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าทำให้ใครบางคนต้องเบ้หน้าไปอีกทาง
“ถุยแหวะ! หมั้นไส้!”
“มึงแหวะอะไรว่ะ หรือว่ามึงท้อง? ฮ่า ๆ” ร่างสูงที่นั่งข้างกับคนสวยหันมาหยอกล้อตามปกติ แต่ก็เป็นไปตามคาดของทุกคนในชมรมแห่งนี้ ฮันคยองโดนอีทึกตบปาก!(กระแทกมากกว่า) แรกๆ ที่ทั้งคู่เข้ามาใหม่ๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกและน่าตกใจ แต่ตอนนี้มันคือเรื่องธรรมดาที่เมื่อฮันคยองแกล้งอีทึกเมื่อไหร่มีอันได้เจ็บตัว คนตาสวยยกยิ้มสะใจพร้อมกับหัวเราะเสียงแหลม
“อีกแล้วนะมึง วันนี้ตบหัวกูไปหลายรอบ ยังจะมาตบปากในชมรมอีก เดี๋ยวก็จับจูบเลย!” ยื่นหน้าเข้าใกล้คนหน้าหวานจนเกือบจะชนกันหากไม่มีเสียงของเยซองที่ขัดไว้ก่อนป่านนี้อีทึกคงโดนไอ้ตี๋จูบเข้าให้แน่
“มึงสองตัวหยุดเล่นแล้วมาเริ่มซ้อมกันได้แล้ว มีเวลาให้แค่ 1 เดือน อย่ามัวเล่นเดี๋ยวก็ตายหมู่หรอก”
“ไอ้เย่ มึงอ่ะแม่ง ขัดกูเลยกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” พ่อพระเอกใหญ่ทำหน้าบอกบุญไม่รับที่เจอมารขัดความสุข เพราะขนาดแค่ก้มลงไปแค่นั้นก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แล้ว แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ? ชักอยากจะให้ฝันเป็นจริงแว้ววว
หลังจากที่นักแสดงแต่ละคนได้รับบทไปแล้วนั้น ต่างคนก็ต่างเริ่มอ่านทำความเข้าใจกับบทของตัวเองอย่างเงียบๆ แต่คงไม่ใช่สำหรับฮันคยองที่การซ้อมบทละครทุกครั้งจำเป็นต้องมีร่างบอบบางของอีทึกนั่งอธิบายให้อย่างละเอียด
ดวงตาคมจ้องมองไปยังหน้าหวานๆ ของอีกคนอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตนัก โครงหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตคู่สวย จมูกที่โด่งรั้นพอๆ กับนิสัยของร่างบาง ริมฝีปากบางอิ่มได้รูปสีชมพูระเรื่อ จะว่าไปแล้วเค้าเองก็แปลกที่มองข้ามของดีๆ อย่างอีทึกมาได้เป็นเวลา 3 ปี คงเป็นเพราะความสนิทที่มีมานานทำให้เค้ามองข้ามอะไรดีๆ ไปเยอะเลยทีเดียว
“นี่! มึงเข้าใจที่กูอธิบายไปรึเปล่า?” ดวงหน้าสวยเงยขึ้นมองเพื่อนสนิทที่นั่งตรงข้ามกัน หลังจากที่อธิบายรายละเอียดมาได้พักใหญ่ แต่กลับไม่มีเสียงขานรับเลยสักนิดเดียว
“เข้าใจ ... มั้ง”
พลั่ว!
ทันทีที่ไอ้คนหล่อเอ่ยจบ จากตอนแรกที่ดูเหมือนจะตอบคำถามได้ถูกใจคนตาสวย แต่เปล่าเลยท้ายประโยคดันมีคำที่ฟังแล้วก็รู้ว่าไอ้เจ๊กหน้าหื่นมันไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตนเองพล่ามออกไปเลยสักนิด เห็นแล้วคนสวยก็อดไม่ได้ที่จะเอาสันปกของบทละครฟาดลงบนอกแกร่งของฮันคยองไปเต็มๆ
“ไอ้เวร! กูอุตส่าห์นั่งพล่ามไปตั้งนาน แต่มึงเสือกกล้าบอกว่าไม่รู้เรื่องงั้นหรอออ!” คนตาสวยที่คาดว่าทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายยังไม่สะใจพอ มือบางคว้าหมับเข้าที่ผมสีดำสนิทของฮันคยองออกแรงเขย่าไปมาจนอีกฝ่ายร้องโอดครวญเสียงดังลั่น โดยมีสายตาของเพื่อนทั้งชมรมมองมาอย่างหน่ายๆ และก็เป็นท่าประธานใหญ่อีกนั่นล่ะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเพื่อนที่ตัวโตเป็นควายแต่ยังเล่นอะไรเป็นเด็กๆ อยู่ได้
“พวกมึงสองตัวอ่ะ จะเล่นกันอีกมั้ยสาดดดด! เอฟ เอฟ เอฟ มึงเข้าใจมั้ยย!”
___________ Friend (?) ___________
“หึ หึ สมน้ำหน้า หมดหล่อเลยนะมึง” เสียงหัวเราะหึหึในลำคอดังขึ้นพร้อมกับประโยคเย้ยพ่อคนหล่อที่ตอนนี้นั่งลูบหน้าลูบผมให้วุ่น พลางส่ายหน้าไปมา หัวก็ยุ่งเหยิง หน้าก็มีรอยข่วนหน่อยๆ ดูแล้วไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสะใจดี
“หุบปากไปเหอะ แค่นี้อ่ะจิ๊บๆ”
“ถุยยยยย! จิ๊บพ่อมึงสิ! ผมขาดกระจุยเต็มมืออีทึกเนี่ยอ่ะนะ จิ๊บมึง - -“ คยูฮยอนที่นั่งอยู่นานเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองสภาพของฮันคยองที่เหมือนคนพึ่งไปฟัดกับหมามา
“เออ -______________________-“
“มึงไม่โกรธหรอว่ะ? ไม่เคือง ไม่ทำกลับเลย?” ถามเพื่อนสนิทอีกครั้งด้วยความสงสัย โดนอีทึกซ้อมทุกวันขนาดนี้มันยังยิ้มสู้ได้ ควายเอ้ย!
“ไม่รู้ว่ะ ส่วนเรื่องทำกลับอีกไม่นานหรอก เพราะกูชักอยากทำขึ้นมาแล้ว”
“แหมมมมมมม ปากเก่งจริงนะมึง! ทำได้อย่างที่พูดแล้วกัน แล้วกูจะคอยดู!”
มือหนายกขึ้นดูเวลาก่อนที่จะเอ่ยบอกลาคิบอมและคยูฮยอน “เอออออ! อย่าย้ำสัส! กูไปก่อนล่ะ นัดกับแม่ไว้ว่าจะไปซื้อของด้วยกัน”
“แม่มึงอยู่จีนไม่ใช่?”
“แม่ทูนหัวอ่ะครับไอ้โง่! ไปล่ะเว้ย” ฮันคอยงพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปทิ้งให้ไอ้หน้าหล่ออีกสองหน่อนั่งทำหน้างงใส่กัน ใครว่ะแม่ทูนหัวมัน?
หลังจากที่ฮันคยองเดินแยกออกมา ขายาวก็เร่งเดินไปยังโรงรถที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 5 นาทีอย่างเร่งด่วน ยิ่งมีไอ้เครื่องที่กำลังสั่นๆ บริเวณขาสั่นแรงขึ้นๆ ก็ยิ่งอยากจะวิ่งไปซะตอนนี้แทบตายเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้กำลังมีสาวน้อยสาวใหญ่หันมามองเค้าเป็นแถวล่ะนะ
“ห่าเอ้ย! รู้แล้วๆ อย่าสั่นสิ อย่าสั่น อย่าสั่น” ปากก็บ่นพึมพำไปตลอดทางจนถึงเป้าหมายที่มีใครอีกคนยืนท้าวกับรถรออยู่ด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
“เหี้ยฮัน! มึงแม่งช้าจริงๆ กูโทรจิกก็ไม่รับ สาดดดด! มีโทรศัพท์ไว้ทำด๋อยอะไรของมึง กดรับเป็นมั้ยห๊ะ! ถ้าไม่เป็นกูจะช่วยสอนให้ เข้าใจมั้ยว่า กู ร้อน” ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากบอกข้ออ้าง ก็เจอคนสวยพ่นไฟซะตั้งแต่ที่โผล่หน้าหล่อๆ เข้ามา แหมมม ไม่เว้นช่องให้กูพูดจริงๆ - -
“โหยยยย นี่กูจะรีบเดินสุดๆ แล้วนะ” ในเมื่ออีทึกวีนไส่เค้าได้ เค้าก็ทำได้เหมือนกัน!
“หรออออ ก็กูบอกมึงไว้ว่าไงห๊ะ” อีทึกยักคิ้วน้อยๆ ถามฮันคยอง ดวงตาคู่สวยแวววาวไปด้วยความโมโหจนแทบอยากจะงับหัวไอ้กระเหรี่ยงที่ยืนทำหน้าหล่อใส่
“มึงร้อน”
“เอ๊ะ! - - มึงกวนตีนกูใช่มั้ยสัส!”
“ก็มึงบอกกูว่ามึงร้อน”
“ไอ้เหี้ยยยยย~ มึงจะตอบคำถามกูดีๆ มั้ย”
“แล้วมึงคิดว่ามึงยืนหาเรื่องกูแบบนี้มึงจะหายร้อนมั้ย”
“..............” เงียบ เงียบ เงียบ ฮันคยองที่เห็นอีทึกเม้มปากพยายามสะกดกั้นอารมณ์โกรธก็ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ มือหนาล้วงกุญแจรถขึ้นมาก่อนจะกดปลดล็อค พร้อมบุ้ยปากเป็นเชิงให้อีกคนเข้าไป แต่ผลที่ตอบรับก็คือ นิ่ง อีทึกยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าหวานงอง้ำแต่สายตาก็ยังคงซึ่งความอาฆาตไว้
“มึงจะขึ้นมั้ย -_______________-”
“ขึ้นก็ขึ้นสิ ไอ้เวร แม่งงง! ทำไมวันนี้มึงเถียงชนะกูว่ะ” อ๊าววว - - กูผิดอีกแล้วสินะ ฮันคยองได้แต่คิดในใจ
“อยากกินอะไรมั้ย กูเลี้ยง” เบี่ยงประเด็นซะ! นี่คือความคิดที่ดีในตอนนี้ แต่ผลกลับผิดคาดที่คิดไว้ “แดกค วยมึงก่อนแล้วกัน!” - - อื้อหือออ แรงงงง!
“แล้วอยากแดกมั้ยล่ะ ค วย กูอ่ะ” ฮันคยองหันมามองคนปากเก่งที่กำลังอ้าปากพะงาบๆ อย่างเถียงไม่ได้ “หรือจะให้กูแดกของมึงดีล่ะ?” น่านนน ยังคงวอนไม่เลิก - -
“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย! ตายซะเถอะมึง!!!”
___________ Friend (?) ___________
Talk : ก่อนอื่นต้อง Happy Birth Day PARK JUNGSOO ก่อน เมียสุดที่รักของปอ - -* และ สุดที่รักของที่รักเกิง! ตอนนี้มันสั้นๆ เนอะว่ามั้ย? พอดีโมโหคนในวันมงคลตื่นมาเปิดคอม ป๊าดดดด! เจอคน! ที่ทำให้อารมณ์เสียตั้งแต่ตี 5 โมโหเว้ยย! สุดท้ายไม่รู้จะพูดไร เพราะทุกอย่างได้ส่งให้จองซูแล้ว อร๊ากกกก ! เกิงมันจะคิดถึงทึกมั้ยว่ะ - - โทรมาแฮปปี้ (แฮป + ปี้ -,.- ) เมียมันด้วยนะเฟร้ย!
สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน เม้น และแอดค่ะ ^___________________________^
ความคิดเห็น