คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #61 : CHAPTER 58
“กลับดีๆนะแบคฮยอน อย่าขับรถเร็ว”
ชานยอลพูดกับเพื่อนรักที่กำลังเปิดประตูรถของตัวเองหลังจากที่ทานคาลบีด้วยกันเสร็จแถมยังซดโซจูไปหลายขวดเล่นเอาคนจีนคนเดียวในกลุ่มมองเขาตาเขียวปัด เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้เพื่อนที่มีสามีตัวสูงยืนอยู่ข้างกาย
“อื้อ กลับจีนแล้วดูแลตัวเองด้วยนะ เดือนหน้าฉันจะลงไปเยี่ยม”
“จริงนะ อย่าโกหกนะ”
“ฮ่าๆๆ จริงสิ ฉันบาพักร้อนกับพ่อไว้แล้ว เดี๋ยวจะไปหาจนนายเบื่อขี้หน้าเลยล่ะ ขออนุญาตคุณคริสเลยนะครับ”
“ได้เลยครับ”
แบคฮยอนมองดวงตากลมของเพื่อนที่มีแววความสุขส่องประกายอย่างนึกขำ ก่อนจะหันไปขออณุญาตเจ้าของบ้าน คุณคริสก็ยังเป็นคุณคริสเหมือนเดิมถึงจะได้พูดคุยกันแล้วพอสมควรแต่คนพูดน้อยก็ยังตอบคำสองคำยังดีที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้ายืนยันความเป็นมิตรของตน
“บะบาย ไปนะชานยอล โชคดีนะ”
แบคฮยอนกลับไปแล้วชานยอลวางกระเป๋าและของที่ซื้อมาลงบนเบาะรถด้านหลัง จัดของทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะหันกลับมานั่งในท่าปกติ คุณคริสรับหน้าที่เป็นคนขับรถตอนขากลับด้วยเหตุผลว่าเขาดื่มโซจูเข้าไปเลยไม่สามารถขับเองได้ ตากลมหันไปมองใบหน้าคมที่กำลังจ้องมองออกไปข้างหน้าขับรถอย่างตั้งใจ
“คุณคริสครับ”
“มีอะไร”
“พรุ่งนี้เราต้องกลับแล้วเหรอครับ”
“อื้ม ฉันมีงานต้องทำ”
“งั้นเหรอครับ”ชายหนุ่มขานรับเสียงหงอยก่อนจะก้มหน้าลง เขายังไม่อยากกลับบ้านเลย
“มีอะไรหรือเปล่า”
ถามทั้งๆที่ยังไม่ยอมหันหน้ามามอง ชานยอลเงยหน้าขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมา พูดไปก็เปล่าประโยชน์คุณคริสไม่คิดจะฟังมันหรอก
“ไม่อยากกลับเหรอ”
“อ่ะ ครับ ผมอยากอยู่ต่อ ยังไม่หายคิดถึงแม่เลยครับ”
“ไม่อยากกลับก็ต้องกลับ เดี๋ยวจะพามาใหม่ ฉันมีงานต้องทำ”
“ครับ ผมเข้าใจ”
ร่างโปร่งตอบรับเบาๆถึงแม้อยากจะแย้งว่าเขาอยู่คนเดียวก็ได้ให้คุณคริสกลับไปก่อนแต่มันคงไม่เป็นผลดีต่อเขานัก คริสยอมละสายตาจากถนนหันมามองคนที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ข้างๆ เอื้อมมือไปจับหัวทุยไว้โยกเบาๆ ช่วงนี้รู้สึกว่าชอบใช้ไม้นี้กับเขาเหลือเกินนะ ไอ้อาการทำหน้าเศร้าๆให้เขาใจอ่อนเนี้ย คริสบ่นในใจ
“อย่าทำหน้าเศร้าสิ ฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยกลับบ้านไปมีอะไรจะให้ นายต้องชอบมันแน่ๆ”
“อะไรเหรอครับ คุณยังไม่ยอมบอกผมเลย”
“ไม่บอกหรอก เดี๋ยวนายก็รู้”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัยแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรปล่อยให้ชานยอลทำหน้าขัดใจอยู่คนเดียวแล้วรถก็เลี้ยวเข้าสู่ประตูบ้านตระกูลปาร์ค ชานยอลเดินลงมาจากรถโดยมีสาวใช้เปิดประตูด้านหลังเพื่อนำของที่เจ้านายซื้อขึ้นไปเก็บไว้ตามคำสั่ง ร่างโปร่งเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยมีร่างสูงเดินตามเข้าไป แม่กับพี่ชายของเขายังไม่กลับมาจากบริษัท
“ขึ้นห้องกัน”
คริสพูดขึ้นพร้อมเอื้อมมือไปจับแขนเรียวไว้เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน ชานยอลหันไปมองหน้าคนที่เอาแต่ชวนเขาขึ้นห้องตั้งแต่รถยังไม่จอดสนิทด้วยสายตาตำหนิ เอะอะก็จะพาเขาขึ้นแต่ห้อง คุณคริสไม่เบื่อเรื่องแบบนั้นบ้างหรือไง
“ไม่เอาครับ เดี๋ยวค่อยขึ้น ผมขอไปหานมเยจินก่อน”
“ไปทำไม ไปเดินมาเหนื่อยๆขึ้นไปพักเถอะ”
“แต่ว่า..”
“นะชานยอล ขึ้นห้องเถอะ ฉันเหนื่อย อยากพัก”
“ขึ้นไปพักจริงๆนะครับ ไม่ทำอย่างอื่นนะ”
“ทำอะไรล่ะ ที่นายหมายถึง”
คริสถามด้วยสายตากรุ่มกริ่มใบหน้าที่เขร่งขึมมีแววทะเล้นฉายอยู่ ชานยอลค้อนควับเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนแกล้งเข้าให้
“คุณน่ะ ชอบแกล้งผมอยู่เรื่อย”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย นะขึ้นห้องกัน”
แล้วเขาจะขัดได้หรือ เมื่อคุณคริสพูดจบก็จับแขนเขากึ่งลากกึ่งจูงเดินขึ้นบันไดบ้านตรงไปยังห้องนอนส่วนตัว ไม่ได้สนใจเสียงร้องท้วงของเจ้าของแขนหรือเสียงร้องทักของนมเยจินแม้แต่น้อย
“โอ้ยย คุณคริสอย่าครับ ฮ่าๆๆ”
ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลงร่างของเขาก็ถูกผลักลงบนเตียงชายหนุ่มร้องห้ามเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทับร่างเขาไว้แต่เสียงร้องหายก็กลายเป็นเสียงหัวเราะเมื่อเอวทั้งสองข้างถูกมือหน้าลูบไล้แผ่วชวนจั๊กจี๋ สองร่างกอดรัดเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงนอนหลังใหญ่ ก่อนที่ชานยอลจะเป็นฝ่ายดันแผ่นอกกว้างให้ถอยออกห่างเพราะเขากำลังต้องการอากาศหายใจเพราะการหัวเราะไม่หยุดของตัวเอง
“ฮ่าๆๆ อย่าครับ ฮ่าๆๆ คุณคริสอ่า~”
“ชานยอล”
คริสมองร่างในอ้อมแขนตาเยิ้มมีความต้องการเต็มเปี่ยมจนคนถูกมองต้องหยุดชะงักเปลือกตาสีน้ำนมปิดลงช้าๆ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงเก็บเกี่ยวความหวานในโพรงปากโดยที่เจ้าของเรียวปากอิ่มยอมเปิดทางให้แต่โดยดี
“อื้มม”
เสียงครางหวานหูของทั้งคู่ดังออกมาเป็นระยะ เสื้อเชิ้ตราคาแพงถูกกระชากออกจากร่างโยนทิ้งไว้ข้างเตียงเหมือนเป็นของไร้ราคา ชานยอลครางอือเมื่อแผ่นอกถูกสัมผัสอย่างเร่งเร้ามือหนาบีบเค้นไม่ออมแรง เรียวลิ้นเล็กขยับหนีลิ้นหนาที่พยายามรุกไล่เขายังรู้สึกหวาดกลัวกับบทรักร้อนแรงของอีกฝ่ายไม่จางหาย
“แฮ่กๆ คุณคริสครับ ไหนบอกว่าจะไม่ทำไง”
ร่างโปร่งหอบหายใจพูดออกมาเสียงกระเส่าเมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ มองใบหน้าเรียวที่อยู่ห่างจากใบหน้าของตนไม่ถึงคืบตาปรือปรอยโดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของตนกระตุ้นต่อมหื่นของอีกฝ่ายได้ดีแค่ไหน
“ฉันบอกนายตอนไหน”
“คุณคริสอ่า~~”
“จะมาเปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันแล้วนะชานยอล วันนี้ฉันตามใจนายทุกอย่างเลยนะ ฉันต้องได้รางวัลบ้างสิ”
พูดออกมาทั้งๆที่ฝ่ามือก็ยังไม่ยอมละออกจากผิวนุ่มลูบแผ่นอกเนียนเปลือยเปล่าต่ำลงถึงสะดือ สะกิดปลายนิ้วลงในสะดือสวยเรียกเสียงหัวเราะจากคนน่ารักได้เป็นอย่างดี นอนด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วนทำไมเขาจะไม่รู้ว่าจุดอ่อนของชานยอลอยู่ตรงไหน
“ทำไมคุณต้องหวังผลตอบแทนอยู่เรื่อย”
“ฉันทำดีก็ต้องได้รางวัลสิ”
คริสพูดอย่างเอาแต่ใจ เพราะถึงบอกว่าไม่ให้เขาก็จะเอาอยู่ดี ชานยอลส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจเหมือนเด็กของคนตัวโตแต่กระนั้นใบหน้าหวานก็ยังเปื้อนยิ้มอยู่ดี ยอมขยับตัวปรับองศาร่างกายของตัวเองให้พอเหมาะกับร่างสูงอย่างง่ายดาย
ทุกอย่างกำลังดำเนินอย่างที่ควรจะเป็นแต่ทุกอย่างก็หยุดลงเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มือเรียวผลักร่างสูงออกห่างเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุดการกระทำทั้งที่เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่อง
“โทรศัพท์ครับ ของคุณ”
ตากลมมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของอีกฝ่าย คริสจิ๊ปากขัดจัดก่อนจะยอมยืดตัวขึ้นล้วงโทรศัพท์ขั้นมาถือไว้ในมือมองดูรายชื่อของคนที่โทรเข้ามาแล้วเขาก็ต้องชะงักถอนตัวลุกขึ้นจากร่างโปร่งที่มองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอมปล่อยตัวเองไปง่ายๆแบบนั้น แล้วความสงสัยของเขาก็ถูกเฉลยเมื่อรู้ว่าใครโทรมา
“ว่าไงครับ เพ่ยฟาง”
“เปล่า พี่ไม่ได้ทำอะไร เธอล่ะ ”
“อื้ออ อย่าหักโหมนะ ดูแลตัวเองด้วยเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้ว อยู่นี้แหละ โอเค สวัสดีครับ”
ชานยอลดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนหยิบเสื้อที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม ดวงตากลมแข็งกระด้าง เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ชื่อที่หลุดออกจากปากของคุณคริสและบทสนทนาแสนหวานดึงเขาตื่นขึ้นจากความฝันเข้าสู่ความจริงที่ว่าคุณคริสมีลูกและเมียอีกคนที่ร่างสูงรักนักหนารออยู่ที่บ้าน
“ชานยอลจะไปไหน”
คริสวางโทรศัพท์ในมือลงบนเตียงเมื่อปลายสายวางไปแล้ว ยึดร่างโปร่งที่กำลังลุกขึ้นยืนไว้กับตัว ชานยอลเอียงหน้าหนีเมื่อใบหน้าของคุณคริสซุกลงบนซอกคอ ใบหน้าเนียนบึ้งตึงไร้รอยยิ้มก่อนจะตอบคำถามเสียงห้วน
“ข้างล่างครับ”
“ไม่ให้ไปหรอก จะลงไปทำไม”
“ผมถามคุณหน่อยเถอะคุณคริส คุณจะเอายังไงกับผมกันแน่”
ร่างโปร่งถามขึ้นอย่างเหลืออด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่คิดที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในเมื่อหย่าไม่ได้เขาก็ขอแยกกันอยู่แต่คุณคริสกลับไม่ยอม นี้จะให้เขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกนานแค่ไหน
“เอาอะไร?”
“คุณจะให้ผมอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ผมเป็นอะไรสำหรับคุณกันแน่ คู่นอนของคุณเหรอ?”
“นายก็เป็นคนที่ฉันแต่งงานด้วย”
“แล้วเพ่ยฟางล่ะ”
“เขาเป็นเมียฉัน”
“อ้อ คุณเลยจะเอาทั้งสองคนเลยใช่มั้ย ฮึ จะอยู่แบบสามคนผัวเมียว่างั้นเถอะ”
ชานยอลพูดออกมาบังคับเสียงตัวเองไว้ไม่ให้สั่นแต่มันก็ทำไม่ได้ดั่งใจ คุณคริสยอมปล่อยร่างเขาให้เป็นอิสระแต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะหัวเสียไม่น้อยกับคำถามที่เขาถามออกไป
“ฉันจะไม่พูดกับนายเรื่องนี้”
“แต่คุณต้องพูด ถ้าคุณไม่เลิกกับเขาก็ต้องเลิกกับผม!”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน! มีสิทธิพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับฉันอีกนะ จะไปไหนก็ไปเลยไปหาเรื่องทะเลาะอยู่ได้”
ไม่ต้องให้อีกฝ่ายพูดซ้ำเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที ตากลมมองใบหน้าหล่อเหลาเขม็งสายตาโกรธเคืองปิดไว้ไม่มิด กัดริมฝีปากไว้แน่นแล้วเดินออกไปจากห้อง คริสหายใจฟืดฟาดอย่างอามรณ์เสีย ทั้งที่คิดว่าจะไม่มีเรื่องให้ทะเลาะกันแล้วแท้ๆเพราะวันนี้เขายอมตามใจทุกอย่างแต่ชานยอลก็หาเรื่องมาชวนทะเลาะจนได้ ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงบนเตียงปิดเปลือกตาสนิทไม่นานเข้าสู่ห้วงนิทรา
ชานยอลเดินกระทืบเท้าปึงปังลงมายังชั้นล่างของบ้าน ใบหน้าหวานบูดบึ้งน้ำตาคงคลอที่หน่วยตางาม ขาเรียวเดินออกไปยังสวนหน้าบ้านเปลี่ยนจากความตั้งใจแรกที่คิดจะเดินเข้าไปหานมเยจินในครัว ถ้าเขาเข้าไปในสภาพนี้นมต้องถามแน่ และเขาก็ไม่อยากตอบคำถามนั้น
สายลมเย็นพัดผ่านทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดรู้สึกผ่อนคลายขึ้นไม่น้อย ร่างโปร่งนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สีขาวตัวที่เขาชอบนั่งประจำเวลาออกมาสูดอากาศนอกบ้าน ฟังเสียงไม้เสียดสีกันของเก้าอี้โยกบวกกับอากาศเย็นสบายปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปไกล
เรื่องที่เขาคิดคงไม่พ้นเรื่องชีวิตแต่งงานของตัวเอง เขายื่นคำขาดให้คุณคริสเลือกทั้งๆที่รุ้ดีอยู่แล้วว่ายังไงคุณคริสก็ต้องเลือกคนที่ตัวเองรัก ทั้งๆที่รู้เขาก็ยังถามมันออกไปและก็ได้รับคำตอบที่เจ็บเป็นสองเท่าเมื่ออีกฝ่ายยังยืนยันว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเช่นกันบังคับเขาต้องทนมันต่อไป คุณคริสไม่รู้เลยหรือไงว่าเขาเจ็บมากแค่ไหน
“คุณชานยอลมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ”
“เปล่าครับนม ชานยอลแค่ออกมานั่งเล่น”
ชานยอลถึงกับสะดุ้งเมื่อมือเย็นๆของนมวางลงบนไหล่ ชายหนุ่มปรับสีหน้าให้เป็นปกติส่งยิ้มหวานไปให้คนที่เลี้ยงดูตัวเองมาแต่เด็กปกปิดความเศร้าหมองไว้ภายใต้รอยยิ้ม แต่ก็ไม่สามารถหลอกคนที่เห็นตนมาแต่เล็กได้
“ทะเลาะกับคุณคริสเหรอคะ”
“…..นิดหน่อยครับ”
“เฮ้ออ สามีภรรยาก็เหมือนลิ้นกับฟันกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ คุณหนูอย่าคิดมากเลยนะคะ นมไม่ชอบให้คุณร้องไห้เลย”
“ครับนม ผมไม่เป็นอะไรหรอก”
ร่างโปร่งส่งยิ้มบางไปให้หวังให้คนมองสบายใจ นมเยจินมองคนที่หล่อนเลี้ยงมาแต่เด็กด้วยสายตาอาธร ไม่รู้ว่าแต่งงานแล้วไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองชีวิตความเป้นอยู่เป้นยังไงบ้าง หล่อนอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าด้วยเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย ได้แต่เป้นห่วงอยู่เงียบๆ
“นมทำกับข้าวเสร็จแล้วเหรอครับถึงออกมาได้ ผมว่าจะเข้าไปช่วยอยู่พอดี”
“เสร็จแล้วค่ะ ใกล้ถึงเวลาที่คุณผู้หญิงจะกลับมาแล้ว...”
“ชานยอล นม มาทำอะไรตรงนี้กันคะ”
พูดยังไม่ทันจบประโยคร่างของคุณผู้หญิงของบ้านก็เดินมาพร้อมกับลูกชายคนโต ซอนยอลอ้าแขนรับร่างของลูกชายคนเล็กตัวโตที่พุ่งเข้ามาหาหล่อนไว้ในอ้อมอก หัวเราะเสียงแผ่วตอบคำถามสองสามประโยคที่ชานยอลถามก่อนจะกวาดตาหาร่างของคนที่มีศักดิ์เป็นลูกเขย
“แล้วคุณคริสไปไหนละชานยอล”
“อยู่บนห้องครับ สงสัยจะหลับ”
“เหรอจ๊ะ”
หญิงสาวมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของลุกชายคนเล็กอย่างแปลกใจรอย่างคุณคริสน่ะเหรอที่จะยอมปล่อยให้ชานยอลลงมานั่งเล่นคนเดียวถึงจะเป็นในบริเวณบ้านของตัวเองก็เถอะ เห็นทำตัวเป็นเงาคอยเกาะติดลูกชายหล่อนตลอด สงสัยคงทะเลาะกันอีกแน่ๆ
“คุณผู้หญิงจะให้ตั้งโต๊ะเลยหรือเปล่าคะ”
“ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็จัดการเลย เดี๋ยวฉันขึ้นเอาของไปเก็บก่อน”
หญิงสาวหันไปพูดกับคนใช้เก่าแก่ของบ้านก่อนจะหันมามองลูกชายของตัวเอง อยากจะถามถึงปัญหาที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันแต่ก็ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องครอบครัวเลยได้แต่บอกให้ชานยอลไปตามคุณคริสลงมาทานข้าวเพราะได้เวลาอาหารแล้ว
“ไปตามคุณคริสลงมาทานข้าวนะลูก เดี๋ยวแม่กับพี่ซูโฮจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ไม่ต้องไปตามหรอกครับ เดี๋ยวเขาหิวก็ลงมาเองนั้นแหละ ผมไปช่วยนมเตรียมอาหารดีกว่า”
พูดจบก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไปยังห้องครัวแต่แขนเรียวก็ถูกดึงไว้เสียก่อน ใบหน้าหวานบูดบึ้งปากข้างล่างยื่นออกมาอย่างที่ชอบทำเมื่อถูกขัดใจ
“คนในห้องครัวมีเยอะแล้วไม่ต้องไป ลูกไปตามคุณคริสซะ หนูโตแล้วอย่าทำตัวเหมือนเด็ก เข้าใจไหมจ๊ะ?”
“ครับแม่”
ชานยอลพยักหน้าแกนๆถึงแม้ในใจจะค้านก็ตาม ตากลมมองตามแผ่นหลังของมารดาและพี่ชายตาละห้อย นึกถึงตอนที่ทะเลาะกับขึ้นบนห้องแล้วชายหนุ่มจึงตัดสินใจขัดคำสั่งของแม่ ถึงขึ้นไปก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆสู้เอาเวลาไปช่วยนมในห้องครัวตามที่เคยพูดไว้ยังจะดีกว่า
เมื่อถึงเวลาอาหารของบ้านครอบครัวปาร์คก็นั่งลงประจำตำแหน่งชานยอลมองอาหารบนโต๊ะตาโต วันนี้มีอาหารที่เขาชอบหลายอย่างนมเยจินรู้ใจเขาเสียจริง ชายหนุ่มยิ้มหน้าบานกำลังจะตักอาการเข้าปากแต่เสียงของแม่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ชานยอลลูกไปตามคุณคริสแล้วใช่มั้ย?”
“เอ่อ…ยังครับ”
“ชานยอล! ทำไม…อ้าว คุณคริสแม่กำลังจะให้ชานยอลไปตามอยู่พอดี”
กำลังจะเอ็ดลูกชายที่ไม่ยอทำตามที่สั่งแต่ร่างสุงของคริสก็เดินลงบันไดบ้านมาด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนักยิ่งทำให้หล่อนลูกสึกเคืองลูกชายตัวเองมากขึ้น
“ครับ”
คริสยิ้มฝืดให้คุณผู้หญิงของบ้านก่อนจะหันไปทำตาขวางใส่เด็กตัวโตที่ยังไม่ยอมหันมามองหน้าเขาเลยสักนิด ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะว่างของชานยอลแล้วการทานข้าวก็เริ่มต้นขึ้น
“วันนี้ได้ไปไหนกันมาบ้างล่ะลูก”
“……….”
“ไปมยองดงครับแม่”
เงียบอยู่สักพักชานยอลก็เป็นฝ่ายตอบขึ้นเมื่อเห็นว่าคุณคริสไม่พูดอะไร แล้วก็ก้มหน้าทานข้าวในถ้วยต่อไปซอลยอลมองลูกชายกับลูกเขยสลับกันไปมาก่อนจะส่ายหน้าด้วยความระอาแต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะเคลียร์กันได้หล่อนจึงปล่อยผ่านไป
เช้าวันนี้ที่เกาหลีอากาศเย็นสบายพลอยทำให้ใครหลายคนรู้สึกสดชื่น แต่ไม่ใช่เขาแน่ชานยอลพ่นลมหายใจออกมาทางจมูก แก้มอิ่มพองขึ้นเพราะลมที่อมไว้ ความไม่พอใจยังคลั่งข้างสะสมจากเมื่อคืน
เขากับคุณคริสทะเลาะกันทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง ด้วยเพราะร่างสูงไม่พอใจที่เขาไม่ยอมขึ้นไปตามลงมาทานข้าวและไม่ยอมพูดด้วยเลยตลอดเวลาที่อยู่บนโต๊ะอาหาร สุดท้ายเขาต้องตัดบทด้วยการเดินหนีออกจากห้องโดยมีเสียงของคุณคริสโวยวายตามหลัง
เขาต้องอ้อนแม่อยู่นานกว่าจะยอมใจอ่อนให้เขานอนด้วย พอเช้ามาก็ถูกคนใช้ปลุกให้ลุกขึ้นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นด้วยเหตุผลว่าคุณคริสเลื่อนไฟท์การบินกลับจีนให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดแทนที่จะเป็นเวลาบ่ายอย่างเดิม เพราะเรื่องนี้ทำให้ความไม่พอใจที่เขามีต่อคุณคริสเพิ่มมากขึ้น คุณคริสเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันถึงได้เลื่อนเวลากลับเข้ามาเร็วแบบนี้
“โชคดี เดินทางปลอดภัยนะลูก แล้วเดี๋ยวพักร้อนเดือนหน้าแม่จะไปเยี่ยม”
“จริงนะครับแม่ แม่อย่าหลอกชานยอลนะ”
ซอลยอลพูดกับลูกชายที่ทำตาโตทันทีที่หล่อนพูดคำนั้นจบชานยอลเขย่ามือมารดาเค้นเอาคำสัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง แม่ยังไม่เคยไปหาเขาที่จีนเลยตั้งแต่แต่งงาน เขาคิดถึงแม่อยากให้แม่ไปหาบ้างทางเขาจะมาหาเองก็ต้องใช้อะไรแลกมากมายช่างยากเหลือเกิน
“จริงสิคะ แม่ไม่โกหกลูกหรอก รีบเดินทางดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ทัน”
“ครับ ชานยอลจะรอนะแม่ รักแม่นะ”
“จ๊ะ แม่ก็รักลูกมากเหมือนกัน”
กอดกับแม่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วร่างโปร่งก็ก้าวขึ้นรถโดยมีร่างของคุณคริสเดินตามมาหลังจากที่กล่าวลาเสร็จ รถเคลื่อนออกไปโดยมีคนขับรถตระกูลปาร์ครับหน้าที่เป็นคนขับตรงไปยังสนามบินตลอดการเดินทางผู้โดยสารสองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังต่างนั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดจนรถจอดแม้แต่ตอนเดินไปยังประตูขาออกทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดกันสักคำ
“นายไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันหน่อยเลยเหรอ”
“ไม่ครับ”
คริสถามขึ้นเมื่อพวกเขานั่งลงบนเบาะผู้โดยสารของเครื่องบินลำใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังประเทศจีน ชานยอลปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาของคนถามก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“อ๋อ เพราะจะกลับจีนแล้วฉันก็หมดประโยค นายคงไม่ต้องฝืนทำดีด้วยใช่มั้ยล่ะ ก็ทำเพื่อหวังผลนี้นะ หึ”
“ก็เหมือนคุณนั้นแหละ ไม่ต่างกันหรอก”
“นี้จะชวนทะเลาะให้ได้ใช่มั้ย!”
คริสพูดน้ำเสียงเริ่มดังอย่างหัวเสีย ทำไมถึงต้องทำให้เขาโมโหอยู่เรื่อยจะคุยกันดีๆบ้างไม่ได้หรือไงทั้งที่เขายอมทำให้ทุกอย่างแล้วแต่เด็กคนนี้กลับทำเหมือนสิ่งที่เขาทำมันไม่มีค่าจะทำดีกับเขาเมื่อได้ผลประโยชน์แค่นั้นใช่มั้ย
“ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน พอแล้ว ผมไม่อยากพูด”
“ชริ!”
ชานยอลหันมาตวาดคนชอบหาเรื่องด้วยความโมโหทำไมคุณคริสต้องโยนความผิดให้เขาอยู่เรื่อยทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนแท้ๆ ชายหนุ่มหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างหลับตาลงช้าๆทุกอย่างมืดสนิทไร้ซึ่งแสงสว่างเช่นเดียวกันกับชีวิตของเขาที่หาทางออกไม่ได้
สวัสดีค่ะมาอัพอีกแล้วค้าา แต่ช้ามากมาย ไม่ว่ากันนะคะ แหะๆ
เราตรวจคำผิดทุกตอนก่อนลงแต่ก็ยังมีคำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าขอโทษทุกคนด้วยนะคะ บางทีผิดมากเราก็นอยส์ตัวเอง ฮ่าๆๆ คงต้องไปเรียนภาษาใหม่ จะพยายามปรับปรุงคำผิดและภาษาให้ดีขึ้นกว่านี้นะคะ
มาสู่เนื้อเรื่องฟิค #DDT นี้มันฟิคสามีตีกันชัดๆ ฮ่าๆ คือมีบททะเลาะบ้างเราอยากให้ทุกคนได้สัมพัสถึงการเปลี่ยนแปลงของพี่คริสแบบค่อยเป็นค่อยไป เลยอาจจะช้านิดหน่อย ขอโทษนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ร่วมสกรีมในทวิตรบกวนติด #DDT ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น