คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : CHAPTER 20
Distorted Daytime
“เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วทำไมไม่กลับเข้าไปในงาน ห๊ะ!”
“คุณคริสครับ ฮึก”
ภายในรถบบรรยากาศแตกต่างจากขามาโดยสิ้นเชิง ชานยอลพยายามนั่งให้ห่างคนที่กำลังโกธรที่สุด แต่ก็ไม่สามารถทำได้เมื่อร่างของตนถูกดึงกระชากอย่างรุนแรง
“ตอบมา !”
คริสยังไม่ยอมผ่อนเสียงลง เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมชานยอลถึงได้ไปยืนคุยกับหมอนั้นทั้งๆที่บอกเขาว่าจะไปเข้าห้องน้ำ
“ผมมาเข้าห้องน้ำ แล้ว..แล้วผมก็เดินไปชนเขา เราก็เลยได้คุยกัน”
ชานยอลรีบอธิบายจนลิ้นแทบจะพันกัน ข้อมือยังคงถูกพันธนาการด้วยมือเรียวไม่สามารถดิ้นหลุดได้
“ไม่ได้ไปอ่อยมันใช่มั้ย”
“ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่”
ชานยอลถึงกับสะดุ้งเมื่อเจอคำกล่าวหา จนตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าคุณคริสโกธรเขาเรื่องอะไร เพราะเขาคุยกับคุณหลี่ฟงงั้นหรือ
“ครั้งหน้า อย่าคุยกับมันอีก เข้าใจมั้ย”
“ทำไมเหรอครับ ?”
“เข้าใจมั้ย !”
“ครับๆ ครับ เข้าใจครับ”
คริสยอมปล่อยข้อมือที่มีรอยช้ำจากการถูกบีบรัดนั้นให้เป็นอิสระ ถอยห่างจากร่างที่กำลังสั่นมานั่งอี่กฝั่ง ขมับทั้งสองข้างของเขาเต้นตุบ ความโมโหยั้งไม่จางหาย ชายหนุ่มใช้มือลูบหน้าของตัวเอง พยายามสะกดอารมณ์ให้เข้าที่
“คุณคริสครับ”
“หุบปาก ! ฉันไม่อยากได้ยินเสียงของนาย”
ชานยอลถึงกับผงะ หวาดกลัวปนตกใจ ทำไมถึงต้องพูดกับเขาแบบนี้ เม้มริมฝีปากปิดปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นพร้อมปาดน้ำตาที่กำลังไหล เขาทำผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ
คริสเปิดประตูรถเดินลงไปทันทีที่รถจอดเทียบกับบันไดหน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างสุงเดินผ่านประตูเข้าไปโดยไม่สนใจร่างของหญิงสาวที่ยืนรอทั้งสองอยู่หน้าบ้าน
เพ่ยฟางขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแปลกใจ พี่อู๋ฟ่านเป็นอะไร แล้วความแปลกใจก็ต้องเปลี่ยนเป็นตื่นตะหนก เมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาพร้อมดวงตาแดงช้ำของชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งก้าวลงจากรถ
“คุณชานยอล เป็นอะไรเหรอคะ ร้องไห้ทำไม”
“เพ่ยฟาง ฮึก”
“โธ่ คุณชานยอล อย่าร้องไห้นะคะ”
“ฮึก ฮึก”
ยิ่งได้ยินเสียงปลอบโยนคอยถามไถ่จากหญิงสาวที่มองมาอย่างเป็นห่วง ยิ่งทำให้เขาร้องไห้ออกมาอย่างขวัญเสีย คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงต้องโดนด่าแบบไม่มีเหตุผลร้องไห้สะอื้นออกมาอย่างเสียใจ
“ ทะเลาะกับพี่อู๋ฟ่านเหรอคะ”
หญิงสาวจับแขนที่กำลังสั่นของคนขี้แย ลูบมันช้าๆคล้ายปลอบโยน ปากก็ถามหาเหตุผลที่ทำให้ชายหนุ่มต้องร้องไห้
“”ฉัน ฮึก ฉัน ไม่รู้ว่า….”
“ปาร์ค ชานยอล ! ฉันจะอาบน้ำ”
เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากชั้นสองของบ้าน ทำให้คนที่กำลังจะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตนต้องร้องไห้สะดุ้งโหยงมองขึ้นไปบนชั้นสองดวงตากลมมีแววตหนก รีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ
“คุณคริสจะอาบน้ำ ฉันต้องรีบไปเตรียมน้ำให้”
พูดจบก็ถอยห่างออกมาจากหญิงสาวที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตามเขาไปอีกคน แต่แขนข้างขวาของเขาก็ถูกดึงไว้เสียก่อน
“คุณชานยอลคะ”
“ฉันไม่เป็นไร เพ่ยฟาง ขอบใจมากนะ”
พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ใครได้เห็นต้องบอกว่ามันฝืดเต้มที ชานยอลแกะมือนั้นออกพร้อมกับเสียงตวาดดังก้องขึ้นอีกเป็นคำรบสองจากฉันบน
“ชานยอล !!”
“ครับ ผมกำลังจะขึ้นไปครับ”
เพ่ยฟางมองตามแผ่นหลังโปร่งนั้นไปอย่างนึกสงสาร แต่ก็ได้แค่นึกเพราะหล่อนเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรเหมือนกัน
ชานยอลเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างรีบเร่ง กลัวว่าคนที่กำลังดมโหจะต้องรอนานแล้วมันจะเป็นการเพิ่มระดับความโมโหให้ถาโถมขึ้นอีก
ชานยอลมองร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคุณคริสโดยมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ่มร่างกายส่วนร่างไว้ยืนอยุ่กลางห้อง ร่างนั้นหมุนกลับมาทางเขาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูดังขึ้น
“รอสักครู่นะครับ”
ร่างโปร่งถึงกลับสะดุ้งเมื่อเห็นสายตาคมกล้าตวัดมองมา มันทำให้ชานยอลรู้ว่าความโกธรเกรี้ยวที่คุณคริสมีต่อเขายังไม่จางหาย
เมื่อไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากคุณคริส ชานยอลจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำหน้าที่ของตนเขาเปิดน้ำด้วยการเร่งระดับให้เร้วที่สุด กลัวว่าจะไม่ทันใจคนที่รออยู่ข้างนอก ในที่สุดน้ำก็เต็มอ่าง ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำสวนกับร่างสุงที่เดินผ่านเขาเข้าไปในห้องน้ำนั้นพร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลง
ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งกับเตียงนอน ถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก ในสมองก็เฝ้าแต่คิดว่าการที่เขาไปยืนคุยกับคุณหลี่ฟงมันเป้นสิ่งที่ผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมเขาจะพูดคุยกับคุณหลี่ฟงไม่ได้ หรือว่าคุณคริสกับคุณหลี่ฟงเป้นคู่แข่งทางกานค้ากัน หรือว่าจะเป้นเหตุผลอื่น
ชายหนุ่มเฝ้าคิดหาคำตอบให้ตัวเองและวิธีที่จะปรับความเข้าใจกับคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เขาจะทำยังไงให้คุณคริสหายโกธร เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องทำตัวยังไง ต้องทำแบบไหนให้คุณคริสพอใจ และไม่ควรทำยังไงให้คุณคริสต้องโกธร
แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ร่างของคุณคริสเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ ร่างสุงใช้มันเช็ดหัวที่เปียกให้พอหมาด เดินไปหยิบชุดนอนที่เขาเตรียมไว้ให้บนเตียงอีกฝั่งขึ้นมาสวม
“คุณคริสครับ..”
ชานยอลเรียกชื่อคนที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่เจ้าของชื่อก็เพียงปลายตามองหน้าเขาเท่านั้น แล้วก็เดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงกับที่นอน รู้สึกเหนื่อยล้ากับความผิดที่ตัวเองก่อโดยที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไร เขาแค่ไม่รู้ ไม่รู้ว่าคุณคริสจะไม่พอใจถ้าเห็นเขายืนคุยกับคุณหลี่ฟง ถ้าเขารู้เขาคงไม่ทำ
ความรู้สึกร้อนผ่าวที่ไหลกระทบแก้มทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว เขายังไม่ได้อาบน้ำ เขาควรจะจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย รอเวลาที่คุณคริสจะทำงาน
คิดได้อย่างนั้นแล้วชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกไปจากแก้ม เดินตรงไปยังห้องน้ำ ก่อนจะออกมาเพื่อพบว่าภายในห้องยังคงว่างเปล่าไม่เห็นร่างของคนเจ้าอารมณ์อย่างที่เขาหวัง
ร่างโปร่งนั่งลงบนเตียง ตากลมมองไปยังประตูห้องทำงานอย่างมีความหวัง แต่จนเข็มนาฬิกาชี้เวลาบอกว่าล่วงเลยเข้าสู่อีกวัน เขาก็ยังไม่เห็นร่างคุณคริสออกมาจากห้องนั้น ชานยอลค่อยๆทิ้งตัวลงกับเตียง ในหัวเขาปวดตุบเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาอยากจะนอนพัก สุดท้ายร่างกายก็ฝืนทนต่อไปไม่ไหวเปลือตาบางค่อยๆปิดลงช้าๆ ความคิดมากมายเลือนหายไปจากสมอง เข้าสู่ห่วงนิทรา
แสงแดดยามเช้าทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงต้องลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย ปากบางยู่เข้าหากันพร้อมใช้หลังมือขยี้เปลือกตาไล่ความง่วงที่ยังมีอยู่ ก่อนที่ตากลมจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อมองเห้นนาฬิกาบนหัวเตียง
‘คุณคริสล่ะ’
คิดพร้อมกับหันไปข้างหลังเพื่อจะพบกับความว่างเปล่า ผ้าปูที่นอนยังเรียบตึงอย่างเดิม แล้วคุณคริสนอนที่ไหน ?หรือว่าที่ห้องทำงาน ชานยอลถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก คุณคริสโกธรเขาขนาดนั้นเลยเหรอ
ตากลมมองไปที่ประตูฝั่งตรงข้ามอยากจะเดินผ่านประตูบานนั้นเข้าไปใจจะขาด แต่เขาก็ไม่กล้าแม้แต่น้อย กลัวว่าเจ้าของห้องจะโกธรเขาไปมากกว่านี้ ได้แต่เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะทำธุระส่วนตัว
“อ้าว คุณชานยอลลงมาแล้วเหรอคะ มาค่ะ ทานข้าวกัน”
เพ่ยฟางเอ่ยทักเสียงใส เมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาในห้องอาหาร พร้อมส่งยิ้มไปให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน
“อื้ออ”
คนมาใหม่ได้แต่ส่งยิ้มฝืนไปให้ ร่างของคุณคริสที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะทำให้เขาทำตัวไม่ถูก วันนี้ไม่ใช่วันหยุด เขาไม่รู้ว่าคุณคริสยังไม่ไปทำงาน ถ้าเขารู้ เขาคงไม่ลงมาสายขนาดนี้
ได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ ไม่รู้ว่าคนในบ้านจะพูดอย่างไรบ้างถ้ารู้ว่าเขาลงมาทีหลังคุณคริสแบบนี้ ร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ มองข้าวต้มตรงหน้าใช้ช้อนคนไปมา บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบสนิท จนหญิงสาวคนเดียวในโต๊ะต้องเอ่ยปาก
“วันนี้เพ่ยฟางทำข้าวต้มกุ้ง คุณชานยอลชอบทานมั้ยคะ?”
“ก็ชอบ ฉันทานได้หมดแหละ”
ชานยอลตักข้าวต้มขึ้นทานแม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกหิวสักนิด ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามา คุณคริสยังไม่พูดอะไรสักคำ มีเพียงสายตาคมบาดลึกที่มองมายังเขา มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้
“วันนี้คุณคริสไม่ไปทำงานเหรอครับ?”
“นายจะไม่ให้ฉันพักเลยหรือไง”
“…….”
คำตอบที่ได้รับทำให้ช้อนที่อยู่ในมือแทบร่วง กำลังจะปฎิเสธออกไปแต่ชานยอลก็ได้แต่อ้าปากค้างเมื่อร่างของคริสลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินออกไปจากห้องอาหารทันที ไม่สนใจแม้แต่เสียงเรียกจากน้องสาวคนสนิท
“เพ่ยฟาง ฉะ..ฉันทำอะไรผิดเหรอ ฉันถามอะไรที่ไม่ควรถามงั้นเหรอ เพ่ยฟาง”
ปากอิ่มระล่ำระลักออกมาอย่างขวัญเสีย น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากขอบตา จนคนที่นั่งตรงข้ามตรงเดินมาหาเพื่อปลอบขวัญ
“ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณชานยอล พี่อู๋ฟ่านแค่อารมณ์ไม่ดี อย่าคิดมากนะคะ”
“แต่ว่าคุณคริสโกธรฉัน ไม่ยอมพูดกับฉันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ฉันทำผิดขนาดนั้นเลยเหรอ ฮึก”
“ทะเลาะกันเหรอคะ?”
“ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะเพ่ยฟาง แค่ แค่....”
“แค่อะไรคะ? พูดให้เพ่ยฟางฟังได้มั้ย?”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา ถูกถ่ายทอดให้คนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในประเทศจีนฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกิน เขาไม่อยากร้องไห้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาไม่คิดว่าจะต้องเจอ มันเลยทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
“คุณชานยอลคะ เพ่ยฟางขอเหมือนกันนะคะ คุณชานยอลอย่าเจอกับพี่..เอ่อ คุณหลี่ฟงอีกเลย”
เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วหญิงสาวก้ต้องถอนหายใจออกมา มิน่าล่ะ พี่อู๋ฟ่านถึงโกธรเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ แต่คุณชานยอลก็ไม่รู้เรื่องไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้จริงๆ
“ทำไมเหรอ คุณหลี่ฟงเป็นใครเหรอเพ่ยฟาง”
ชานยอลเอ่ยถามอย่างสงสัย แต่ก็ได้รับคำตอบเป็นเสียงถอนหายใจจากคนถูกถาม
“คุณชานยอลอย่ารู้เลยค่ะ รู้เพียงแค่ว่าถ้าเจอ คุณหลี่ฟงก็ให้ถอยออกมาไกลๆ ไม่งั้นก็จะโดนพี่อู๋ฟ่านโกธรแบบนี้แหละ”
“แต่ว่า..”
“นะคะ มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงให้พี่อู๋ฟ่านหายโกธร?”
“อื้ออ ฉันต้องทำยังไงเหรอเพ่ยฟาง ฉันควรทำยังไงดี”
“ก็แค่ คุณชานยอลต้องเอาใจพี่อู๋ฟ่านให้มากๆ ทำตัวน่ารักๆเข้าไว้”
“เอ๋..?”
เกิดมาเขายังไม่เคยต้องเอาใจใคร มีแต่คุณแม่กับพี่ซูโฮเท่านั้นที่เขาเคยทำตัวออดอ้อน หรือทำตัวน่ารักเหมือนเด็กเวลาด้วยอยู่ด้วยกันหรือต้องการอะไร ยิ่งกับผู้ชายแล้วด้วยเขาไม่เคยแม้แต่จะคิด แต่กับคุณคริสเขาคงต้องทำ เขาไม่กล้าหรอก เขาควรจะเริ่มมันยังไง
“ฉันกลัวจังเลยเพ่ยฟาง”
“ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณชานยอลแต่งงานกับพี่อู๋ฟ่านแล้ว ยังต้องกลัวอะไรคะ”
“แต่ว่า”
“หรือว่าคุณชานยอลอยากให้พี่อู๋ฟ่านโกธรแบบนี้ต่อไป”
“ไม่ ฉันไม่อยากให้คุณคริสโกธร เวลาโกธรแล้ว แล้วคุณคริสน่ากลัว”
“นั้นน่ะสิคะ คุณชานยอลก็ต้องทำอย่างที่เพ่ยฟางบอก นะคะ”
“อื้ออ”
สุดท้ายแล้วเขาก้ต้องยอมแพ้ยอมทำตามที่อีกฝ่ายแนะนำ แผนการต่างๆที่เขาได้ฟังแล้วยังอดเขินไม่ได้ พอถึงเวลาจริงเขาจะทำมันได้มั้ยนะ
“คุณคริสชอบทานกาแฟแบบไหนเหรอ?”
ร่างโปร่งเอ่ยถามขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่ในห้องครัวของบ้าน ตากลมมองดูมือบางที่คอยตักส่วนผสมของกาแฟลงในแก้วใบสวย กาแฟแบบไหนกันนะที่คุณคริสชอบ
“เพ่ยฟางเคยบอกไปแล้วนะคะ คุณชานยอลจำไม่ได้เหรอ กาแฟสาม น้ำตาลหนึ่งค่ะ”
“ง่ะ ฉันลืม ขอโทษนะ”
พูดพร้อมทำหน้ายู่ หญิงสาวอดจะขำใบหน้าหวานๆนั้นไม่ได้ คุณชานยอลน่ารักขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพี่อู๋ฟ่านทำไมถึงใจแข็งโกธรอยู่ได้ คิดแล้วก็รีบชงกาแฟให้เสร็จเพื่อให้คนถูกโกธรยกมันขึ้นไปบนห้องทำงานของคนขี้โมโห
“นี่ค่ะ เสร็จแล้ว จำไว้นะคะ กาแฟ3 น้ำตาล1”
“อื้ออ ฉันจะจำไว้ ขอบคุณมากเลยนะเพ่ยฟาง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ รีบขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวกาแฟจะเย็นเสียก่อน”
พูดพร้อมส่งยิ้มให้ก่อนจะใช้มือดันแผ่นหลังคนที่ทำหน้ากล้าๆกลัวๆให้เดินออกไปจากห้องครัว หญิงสาวมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกไปยังบันไดบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หล่อนอยากให้คุณชานยอลมีความสุข
ร่างโปรงยืนมองดูประตูห้องทำงานอย่างกล้าๆกลัวๆ มือที่ถือถ้วยกาแฟกำลังสั่น ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูไม้บานนั้น
“คุณคริสครับ”
“มีอะไร”
รอสักพักคนที่อยุ่ในห้องก็ส่งเสียงตอบกลับ ถึงจะเป็นเสียงสั้นห้วนแต่มันก็ทำให้เขาใจชื้นไม่น้อย
“ผมเอากาแฟมาให้ครับ”
“…..”
“ผมขอเข้าไปนะครับ”
รออยู่สักพักแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ชานยอลจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ร่างของคุณคริสนั่งอยู่บนเก้าอี้โต๊ะทำงาน บนตะมีเอกสารมากมายวางอยู่ ขายาวก้าวเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เอาวางไว้ตรงนั้น”
คริสเอ่ยเสียงเรียบไม่แสดงอารมณ์ เล่นเอาคนที่ถูกโกธรทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ชานยอลถอยออกมาจากโต๊ะสองสามก้าว ยืนมองคนที่นั่งทำงานอยู่เงียบๆ
“มีอะไรอีกมั้ย?”
“คือ….”
“ถ้าไม่อะไรแล้วก็ออกไป ฉันจะทำงาน”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ในมือถือหนังสือเล่มหนามุ่งหน้าไปยังชั้นหนังสือที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่แขนข้างซ้ายของเขาก็ถูกรั้งไว้ด้วยมือเรียวของผู้มายืน คริสถอนหายใจพรืด
“คุณคริสครับ คุณคริส ฮึก”
“มีอะไร”
“คุณ คุณโกธรผมหรือครับ อย่าโกธรผมเลยนะครับ”
“…..”
“นะครับ อย่าโกธรผมเลย ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณโมโห ฮึก”
TBC~~
ถ้าไม่อ่อนแอ ก็จะไม่มีวันเข้มแข็ง ไม่ใช่ล่ะ ฮ่าๆๆๆ
หลายคนถามทำไมน้องอ่อนแอจัง มันเป้นกับการเลี้ยงดุมั้ย
เราคิดว่าผุ้ชายที่โตมากับแม้ไม่มีพ่อจะดูอ่อนแอกว่าคนที่เกิดมามีทั้งแม่และพ่อ
เหมือนพี่ซูโฮ เราก็แต่งให้พี่เขาดูอ่อนแอเป้นเสาหลักให้ครอบครัวไม่ได้
น่าสงสารชานยอลนะ คิดดูมาอยู่บ้านอื่นประเทศอื่นตัวคนเดียว สามีก็ไม่ค่อยจะสนใจ
ถ้าเกิดพี่คริสโกธรไปจะอยู่ยังไงเนี้ย อัพเร็วไปมั้ย 555
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น