ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic B.A.P] OrcusKiller ผู้ชายอันตราย

    ลำดับตอนที่ #4 : OrcusKiller :CHAPTER 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58






    ..KIM HIMCHUL..



    ..KIM HIMCHAN..
     

    หลังจากที่ใช้เวลาเดินทางกันอยู่นานในที่สุดแฝดทั้งสี่คนก็มาถึงยังจุดหมาย ยงนัมค่อยๆจอดรถด้านหน้าสถานที่ๆนักฆ่าชั้นสูงเรียกมันว่าองค์กร OrcusKiller แต่สำหรับคนภายนอกแล้วจะมองที่นี่เป็นแค่โรงแรมระดับห้าดาวทั่วไปเท่านั้น แต่มันก็ถูกอย่างที่คนภายนอกคิด ที่นี่เป็นโรงแรม โรงแรมสำหรับนักฆ่าที่ใช้พักระหว่างการทำงาน ที่นี่มีทุกอย่างพร้อมสับ จะแตกต่างจากโรงแรมอื่นก็ตรงที่มีกฎเยอะกว่า และกฎเหล่านั้นก็มีบทลงโทษถึงชีวิตหากใครคิดฝ่าฝืน..

    “ ถึงแล้ว” ยงนัมพูดขึ้นก่อนจะมองไปยังกระจกส่องหลังก็พบว่าแฝดร่างบางทั้งสองกำลังหลับสนิทอยู่

    “ ถึงที่หมายแล้ว” ยงนัมละสายตาจากกระจกส่องหลังและหันไปทางเบาะหลังเพื่อเรียกให้บุคคลที่กำลังหลับอยู่ข้างหลังทั้งสองคนรู้สึกตัว

    “ อื้อออ..” ฮิมชอลที่รู้สึกตัวเป็นคนแรกค่อยๆลืมตาตื่นพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ยงนัมที่มองภาพของคนตัวบางที่เพิ่งตื่นก็ถึงกับชะงัก แต่ร่างโปร่งก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร

    ตึกตึก ตึกตึก..

    “ เสียงเชี่ยอะไรวะยงกุก” ยงนัมที่อยู่ๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆหันไปถามน้องชาย

    “ เสียงเชี่ยอะไร กูไม่ได้ยินอะไรเลย” ยงกุกขมวดคิ้วพร้อมกับมองหน้ายงนัม นั่นจึงทำให้ร่างโปร่งคิดว่าตัวเองคงจะหูแว่วไปเองก่อนจะหันไปมองที่ฝาแฝดสองคนด้านหลังอีกครั้ง

    “ หาวว.. ฮิมชานตื่นเร็ว ถึงแล้วนะ” ฮิมชอลปิดปากหาวก่อนจะเขย่าตัวเรียกน้องชายเบาๆ

    ตึกตึก ตึกตึก..

    ยงนัมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง มันเป็นเสียงที่ร่างโปร่งได้ยินอยู่คนเดียว และยงนัมก็สังเกตว่าเสียงนั้นจะดังขึ้นเมื่อเค้ามองไปที่ฮิมชอล ไม่มีอะไรหรอกมั้ง กูคงคิดไปเอง ยงนัมคิดในใจก่อนที่เสียงนั้นจะค่อยๆหายไป..

    “ ฮิมชาน..” ฮิมชอลเขย่าตัวฮิมชานแรงขึ้นเพื่อให้น้องชายรู้สึกตัว

    “ อื้ออ.. ตื่นแล้ว” ฮิมชานพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียก่อนจะค่อยๆลืมตาและบิดขี้เกียจไปมา

    “ คนอะไรตื่นยากชิบหาย..” ยงกุกพูดพึมพำเบาๆ แต่มันก็ดังพอให้ทุกคนในรถได้ยิน

    “ นายว่าอะไรนะ?!” ฮิมชานที่ได้ยินร่างสูงว่าตัวเองก็ถึงกับวีนขึ้นมา

    “ หึ..” ยงกุกส่งเสียงหึในลำคอก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไม่สนใจว่าร่างบางที่นั่งอยู่ในรถจะพูดอะไร

    “ ไอ้ขี้เก๊ก” ฮิมชานด่าไล่หลังยงกุกอย่างไม่พอใจ

    “ ฮิมชานพอเถอะ ลงกันได้แล้ว” ฮิมชอลดันหลังฮิมชานให้ลงจากรถก่อนที่เค้าทั้งสองคนจะโดนทิ้งไว้นี่

    “ อื้อๆ” ฮิมชานดันเบาะให้พับไปด้านหน้าก่อนจะลงมาจากรถตามด้วยฮิมชอล เมื่อทั้งสี่คนลงมาจากรถกันครบแล้ว ยงนัมก็ส่งกุญแจรถให้กับพนักงานก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไปในโรงแรม และตรงไปยังล็อบบี้

    “ สวัสดีครับคุณยงนัม คุณยงกุก” เสียงของพนักงานต้อนรับประจำล็อบบี้เอ่ยต้อนรับยงกุกและยงนัมอย่างสุภาพ

    “ ผมขอจองห้องพักอีกคืน แล้วก็จองโต๊ะดินเนอร์ตอนเที่ยงคืน” ยงนัมพูดกับพนักงานต้อนรับพร้อมกับหยิบเหรียญทองสองเหรียญส่งให้เป็นค่าห้องพักและค่าโต๊ะดินเนอร์

    “ ได้ครับ ผมจะจัดการให้” พนักงานต้อนรับยื่นมือไปรับเหรียญจากยงนัมและยิ้มให้อย่างมีมารยาท เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วยงนัมก็พาทุกคนเดินไปขึ้นลิฟท์เพื่อกลับไปพักที่ห้อง

    “ พอถึงห้องแล้วพวกนายก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยล่ะ ตัวพวกนายมีแต่คราบเลือด ใช้เสื้อผ้าฉันกับยงกุกไปก่อนก็ได้” ยงนัมหันไปพูดกับแฝดร่างบางที่เดินอยู่ด้านหลัง ทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับ ใช้เวลาไม่นานทั้งสี่คนก็มาถึงห้องพัก ยงนัมใช้คีย์การ์ดแตะที่ประตูก่อนจะเดินนำเข้าไป ตามด้วยยงกุก และแฝดร่างบางทั้งสองคน

    “ ห้องน้ำมีสองห้อง ห้องฉันห้องนึง ห้องยงกุกอีกห้องนึง นายสองคนเลือกกันเองแล้วกันว่าจะอาบห้องไหน” ยงนัมหันมาพูดกับแฝดร่างบางทั้งสองคน ฮิมชอลกับฮิมชานหันมองหน้ากัน

    “ นายจะอาบห้องไหน” ฮิมชานถามพี่ชาย

    “ ฉันอาบห้องคนนั้นก็ได้” ฮิมชอลพูดพร้อมกับชี้ไปที่ยงนัม

    “ ฉันชื่อยงนัม ไม่ได้ชื่อคนนั้น” ยงนัมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “ ขอโทษที.. ยงนัม” ฮิมชอลเอ่ยขอโทษ

    “ งั้นฉันอาบห้องไอ้ขี้เก๊กก็ได้” ฮิมชานพูดขึ้นเสียงดังก่อนจะมองไปที่ยงกุก

    “ งั้นก็เชิญที่อื่น ที่นี่ไม่มีคนชื่อนั้น” พูดจบยงกุกก็เดินเข้าห้องไปไม่สนใจร่างบางที่ยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่

    “ ไอ้ขี้เก๊กกกกกกก!!” ฮิมชานตะโกนไล่หลังยงกุกอย่างหงุดหงิด คนบ้าอะไรโคตรขี้เก๊ก แถมยังเย็นชาอีก ฮิมชานคิดในใจ

    “ งั้นก็ตามนี้แล้วกัน อาบน้ำเสร็จพวกนายก็พักกันไปก่อน เที่ยงคืนแล้วฉันจะพาพวกนายไปหามาสเตอร์” ยงนัมบอกกับร่างบางทั้งสองคนเกี่ยวกับดินเนอร์ตอนเที่ยงคืน ทั้งสองคนพยักหน้าตอบรับ

    “ งั้นก็ไปอาบน้ำกันได้แล้ว นายตามฉันมา ส่วนนายก็เข้าไปห้องยงกุก” ยงนัมพูดก่อนจะเดินนำฮิมชอลเข้าไปในห้องของตัวเอง คนตัวบางหันไปมองน้องชายอย่างให้กำลังใจแล้วเดินตามร่างโปร่งเข้าห้องไป

    “ เฮ้อออ” ฮิมชานถอนหายใจและยืนทำใจอยู่สักพักก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องของยงกุกแล้วเดินเข้าไป

    “ เข้าผิดห้องรึป่าว” ยงกุกที่เห็นร่างบางเดินเข้ามาในห้องตัวเองก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “ ไม่ผิด” ฮิมชานตอบกลับอย่างไม่ต้องคิด

    “ เมื่อกี้ตอนอยู่หน้าห้องนายไม่ได้บอกนี่ว่าจะเข้ามาห้องฉัน” ยงกุกยังคงพูดจาเย็นชาไม่เปลี่ยน แต่ในน้ำเสียงที่เย็นชานั้นก็แฝงไปด้วยความกวนอารมณ์ที่ทำให้ร่างบางเริ่มรู้สึกหงุดหงิดอีกครั้ง

    “ นี่นายกำลังกวนประสาทฉันใช่ไหม” ฮิมชานทำหน้าไม่พอใจส่งไปให้ร่างสูง

    “ ใครกวนประสาทนาย จะอาบน้ำก็รีบไปอาบสิ มายืนแหกปากอยู่ได้ หนวกหูชิบ” ยงกุกพูดจบก็เดินออกไปที่ระเบียงพร้อมกับซองบุหรี่ ไม่สนใจว่าร่างบางในห้องจะรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่ตัวเองพูดแค่ไหน

    “ ไอ้บ้า ไอ้คนเย็นชา ไอ้ขี้เก๊ก” ฮิมชานยืนด่าร่างสูงอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระล้างร่างกายให้สะอาด

    ยงกุกที่เดินออกมานอกระเบียงก็หยิบบุหรี่มวนนึงขึ้นมาจุดแล้วอัดควันเข้าเต็มปอดก่อนจะค่อยๆปล่อยออกมา ตอนนี้ในหัวของร่างสูงมีหลายเรื่องตีวนเวียนกันจนวุ่นวายไปหมด ทั้งเรื่องที่เค้าเจอกับแฝดสองคนนั้น แล้วไหนจะเรื่องที่พ่อแม่ของเค้ากับแฝดนั่นตายวันเดียวกันอีก นี่มันเป็นเรื่องที่บ้ามากในความคิดของยงกุก แต่ก่อนที่ร่างสูงจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นก็มีเสียงหนึ่งหยุดความคิดของเค้าซะก่อน

    “ นี่.. เอ่อ.. เสื้อผ้าที่จะให้ฉันใส่น่ะ” ฮิมชานที่เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียว เอ่ยถามหาเสื้อผ้าที่ตัวเองจะใส่ ตอนนี้ใบหน้าของร่างบางขึ้นสีระเรื่ออย่างหน้าอายเมื่ออยู่ต่อหน้าร่างสูง

    “ อยู่ในกระเป๋าหน้าทีวี..” ยงกุกหันไปตอบร่างบางด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาของร่างสูงมองภาพของร่างบางตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ผิวขาวๆ แก้มแดงๆ หุ่นบางๆ ทุกอย่างมันดูดึงดูดสายตาของยงกุกไปซะหมด แต่ร่างสูงก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหรือท่าทางที่ผิดปกติอะไร

    “ ขะ.. ขอบคุณ” ร่างบางที่รู้สึกเขินอายเมื่อต้องมายืนอยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองเพิ่งด่าไปด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวเอ่ยขอบคุณอย่างตะกุกตะกักก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าตามที่ร่างสูงบอกแล้วเดินกลับเข้าห้องน้ำไปเพื่อใส่เสื้อผ้า

    “ คิดได้ไงวะเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสภาพแบบนั้น..” ยงกุกพูดพึมพำพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับบรรยากาศโดยรอบ

    “ หน้าอายชะมัดฮิมชานเอ้ย” ฮิมชานที่แต่งตัวเสร็จเดินออกจากห้องน้ำ ร่างบางมองไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ที่ระเบียงแล้วต่อว่าตัวเอง

    “ เฮ้ออ นอนดีกว่า” ร่างบางเลิกสนใจเรื่องหน้าอายเมื่อกี้ ตัดสินใจเดินตรงไปยังเตียงและล้มตัวลงนอนทันทีด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง

    ด้านยงนัมกับฮิมชอล..

    หลังจากที่เดินเข้าห้องมายงนัมก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่ดูแล้วคนตัวบางหน้าจะพอใส่ได้ส่งให้กับฮิมชอล

    “ อ่ะ น่าจะพอใส่ได้อยู่” ยงนัมพูดพร้อมกับยืนเสื้อผ้าและผ้าขนหนูให้กับคนตัวบาง

    “ ขอบคุณ” ฮิมชอลเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้ร่างโปร่ง

    “ อื้อ” ยงนัมพยักหน้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องพร้อมกับหยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์ดู คนตัวบางที่ได้รับเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูมาแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงฮิมชอลก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดที่ยงนัมเลือกให้

    “ อาบเสร็จก็นอนพักไปก่อนเลย ถึงเวลาแล้วฉันจะเรียกเอง” ยงนัมที่เห็นฮิมชอลเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็บอกให้คนตัวบางไปพักผ่อน

    “ อื้อ.. ฝันดียงนัม” พูดจบฮิมชอลก็เดินไปที่เตียงและล้มตัวลงนอน เวลาผ่านไปไม่นานในที่สุดคนตัวบางก็ค่อยๆหลับลง

    “ หึ.. ฝันดีงั้นหรอ” ยงนัมพูดพร้อมกับค่อยๆเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงการบอกฝันดีของคนตัวบางที่ตอนนี้คงจะเข้าสู่ความฝันไปแล้ว..

    .

    .

    คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม.. ถ้าคุณไม่เชื่อและคิดว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญคุณก็คิดผิดแล้วล่ะ

    เพราะในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญ จะมีก็แต่.. พรหมลิขิต

    ---------------------------------------------------------------------

    อัพแล้วนะคะ บอกตรงๆว่าตอนนี้หัวสมองของไรท์เริ่มจะตื่อแล้ว คิดฟิคไม่ค่อยจะออก ใช้เวลาในการเรียบเรียงตอนนี้อยู่นานมากในที่สุดก็เสร็จสักที เย่! หวังว่ารีดเดอร์คงจะชอบกันนะคะ แล้วก็ไรท์อยากถามรีดเดอร์ที่ติดตามหรืออาจจะหลงเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้ว่า ไรท์จะติดแท็กฟิคเรื่องนี้ดีไหม หรือว่าไม่ต้องติดดี ไรท์คิดหนักอยู่เหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องแท็ก เพราะไรท์คิดว่าฟิคเรื่องนี้ก็ยังไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ก็เลยไม่รู้ว่าจะติดแท็กดีไหม รีดเดอร์มีความเห็นยังไงกันก็ช่วยแนะนำไรท์ทีนะคะ ถ้าเรื่องนี้เริ่มมีคนสนใจเยอะ ไรท์จะทิ้งทวิตไว้เพื่อให้รีดเดอร์ไปตามทวงฟิคกันนะคะ ฮ่าๆๆๆๆ ถึงสมองไรท์จะน้อยนิดแต่ก็จะพยายามแต่งให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ

    -----------------------------------------------

    หมายเหตุ: ไรท์จะมาบอกเกี่ยวกับชื่อขององค์กรนะคะ Orcus อ่านว่า ออร์คัสนะคะเป็นคำภาษาลาตินแปลว่า ความตาย ส่วน Killer ทุกคนก็คงจะรู้ความหมายกันดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเหรียญทองที่ยงนัมให้กับพนักงานตอนรับนั้นเป็นเหรียญทองที่ใช้แทนเงินในองค์กรค่ะ ถ้าใครมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมก็ถามได้นะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×